ข้ามไปเนื้อหา

ชวน หลีกภัย

หน้าถูกกึ่งป้องกัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ชวน หลีกภัย
ชวน ใน พ.ศ. 2553
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 20
ดำรงตำแหน่ง
23 กันยายน พ.ศ. 2535 – 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538
(2 ปี 293 วัน)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
รอง
ก่อนหน้าอานันท์ ปันยารชุน
ถัดไปบรรหาร ศิลปอาชา
ดำรงตำแหน่ง
9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 – 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544
(3 ปี 92 วัน)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
รอง
ก่อนหน้าชวลิต ยงใจยุทธ
ถัดไปทักษิณ ชินวัตร
ประธานรัฐสภาไทย และ
ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ดำรงตำแหน่ง
28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – 20 มีนาคม พ.ศ. 2566
(3 ปี 296 วัน)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา
รองพรเพชร วิชิตชลชัย
(รองประธานรัฐสภา)
สุชาติ ตันเจริญ
(รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1)
ศุภชัย โพธิ์สุ
(รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2)
ก่อนหน้าพรเพชร วิชิตชลชัย
(ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ)
ถัดไปวันมูหะมัดนอร์ มะทา
รองประธานรัฐสภาไทย และ
ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ดำรงตำแหน่ง
4 สิงหาคม พ.ศ. 2529 – 29 เมษายน พ.ศ. 2531
(1 ปี 268 วัน)
นายกรัฐมนตรีเปรม ติณสูลานนท์
ก่อนหน้าอุทัย พิมพ์ใจชน
ถัดไปปัญจะ เกสรทอง
รองนายกรัฐมนตรี
ดำรงตำแหน่ง
29 ธันวาคม พ.ศ. 2532 – 26 สิงหาคม พ.ศ. 2533
(0 ปี 240 วัน)
นายกรัฐมนตรีชาติชาย ชุณหะวัณ
ก่อนหน้าพิชัย รัตตกุล
ชาติชาย ชุณหะวัณ
พงส์ สารสิน
สนธิ บุณยะชัย
เทียนชัย ศิริสัมพันธ์
ถัดไปประมวล สภาวสุ
สนั่น ขจรประศาสน์
มานะ รัตนโกเศศ
ทองหยด จิตตวีระ
อาทิตย์ กำลังเอก
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ดำรงตำแหน่ง
17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 – 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544
(3 ปี 92 วัน)
นายกรัฐมนตรีตนเอง
ก่อนหน้าชวลิต ยงใจยุทธ
ถัดไปชวลิต ยงใจยุทธ
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ดำรงตำแหน่ง
4 สิงหาคม พ.ศ. 2538 – 27 กันยายน พ.ศ. 2539
(1 ปี 54 วัน)
นายกรัฐมนตรีบรรหาร ศิลปอาชา
ก่อนหน้าบรรหาร ศิลปอาชา
ดำรงตำแหน่ง
21 ธันวาคม พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540
(0 ปี 323 วัน)
นายกรัฐมนตรีชวลิต ยงใจยุทธ
ถัดไปชวลิต ยงใจยุทธ
ดำรงตำแหน่ง
11 มีนาคม พ.ศ. 2544 – 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2546
(2 ปี 53 วัน)
นายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
ก่อนหน้าชวลิต ยงใจยุทธ
ถัดไปบัญญัติ บรรทัดฐาน
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
แบบบัญชีรายชื่อ
เริ่มดำรงตำแหน่ง
6 มกราคม พ.ศ. 2544
(23 ปี 278 วัน)
แบบสัดส่วน
23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 - 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
(3 ปี 138 วัน)
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง เขต 1
ดำรงตำแหน่ง
10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 – 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543
(31 ปี 273 วัน)
ก่อนหน้าก่อเกียรติ ษัฎเสน
ถัดไปสุวรรณ กู้สุจริต
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ดำรงตำแหน่ง
26 มกราคม พ.ศ. 2534 – 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2546
(12 ปี 98 วัน)
ก่อนหน้าพิชัย รัตตกุล
ถัดไปบัญญัติ บรรทัดฐาน
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด28 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 (86 ปี)
อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง ประเทศสยาม
พรรคการเมืองประชาธิปัตย์ (2511–ปัจจุบัน)
คู่อาศัยภักดิพร สุจริตกุล
บุตรสุรบถ หลีกภัย
บุพการี
ลายมือชื่อ

ชวน หลีกภัย ม.ป.ช. ม.ว.ม. ท.จ.ว. (เกิด 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2481) เป็นนักการเมืองชาวไทย เคยดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ประธานรัฐสภาไทยและประธานสภาผู้แทนราษฎร รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีหลายกระทรวง ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง 11 สมัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ 6 สมัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยตั้งแต่สภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 10 ถึง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 26 ระยะเวลานับถึงวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567 รวม 39 ปี 2 เดือน และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์

ประวัติและครอบครัว

ชวน เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ที่ตำบลท้ายพรุ (ปัจจุบันอยู่ในเขตตำบลทับเที่ยง) อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 9 คน ของนายนิยม กับนางถ้วน หลีกภัย เมื่อยังเด็ก ชวนมีชื่อเรียกในครอบครัวว่า "เอียด" หมายถึง เล็ก เนื่องจากเป็นคนรูปร่างเล็ก

สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมวัดควนวิเศษมูลนิธิ และโรงเรียนศิลปศึกษาเตรียมมหาวิทยาลัยศิลปากร และนิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2505

มีบุตรชายกับภักดิพร สุจริตกุล หนึ่งคน คือ สุรบถ หลีกภัย[1]

การทำงาน

ชวนเริ่มทำงานเป็นทนายความ ต่อมาได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรังสังกัดพรรคประชาธิปัตย์สมัยแรกในปี 2512 และได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในหลายรัฐบาล ชวนขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2534

ในเหตุการณ์ 6 ตุลา ถูกกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์พร้อมกับรัฐมนตรีในพรรคประชาธิปัตย์อีก 2 คน คือ ดำรง ลัทธพิพัฒน์ และสุรินทร์ มาศดิตถ์

ชวนได้รับตำแหน่งทางการเมืองครั้งแรกในสมัยรัฐบาลหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่มีอันต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากไม่ได้รับความไว้วางใจในสภาระหว่างการแถลงนโยบาย ต่อมาได้รับตำแหน่งเดิมอีกครั้งหนึ่งในรัฐบาลชุดที่ 37 และได้เลื่อนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แต่ต้องสิ้นสุดลงเนื่องจากคณะปฏิวัติเข้ายืดอำนาจ

และต่อมากลับเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอีกครั้งในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และถูกปรับไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณตามลำดับ ภายหลังได้ถูกปรับมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จนท้ายสุดก็ต้องถอนตัวออกจากรัฐบาลในเวลาถัดมา

นายกรัฐมนตรีสมัยแรก

การเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายน 2535 หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ พรรคประชาธิปัตย์ชนะได้ที่นั่งมากที่สุดในสภา โดยได้ ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร 79 ที่นั่ง ชนะพรรคชาติไทยที่ได้ 77 ที่นั่ง ชวนตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคความหวังใหม่, พรรคเอกภาพ, พรรคพลังธรรมและพรรคกิจสังคมโดยพรรคชาติพัฒนาเข้าร่วมคณะรัฐมนตรีหลังพรรคความหวังใหม่ออกจากรัฐบาลในช่วงปลายปี 2537

ในระหว่างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก (23 กันยายน พ.ศ. 2535 - 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538) รัฐบาลชวน 1 มีนโยบายที่โดดเด่น อาทิ การเร่งรัดการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม การขยายช่องทางจราจรหลักเป็น 4 ช่องจราจรทั่วทั้งประเทศ สร้างรางรถไฟรางคู่ในพื้นที่ที่มีความพร้อม เริ่มศึกษาการใช้รถไฟฟ้าในประเทศไทย โครงการนมโรงเรียน ริเริ่มกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ส่งเสริมการกระจายอำนาจโดยผลักดันพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล จัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลขึ้นทั่วประเทศ และจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเป็นครั้งแรก

รัฐบาลชวนสมัยแรกได้มาถึงจุดสิ้นสุด เมื่อสมาชิกคณะรัฐมนตรีไปมีส่วนในเอกสารโครงการปฏิรูปที่ดิน สปก. 4-01 ซึ่งมีการจำหน่ายในจังหวัดภูเก็ต เกิดการวิจารณ์จากสาธารณะและสื่ออย่างหนัก[2] จึงเป็นประเด็นที่ฝ่ายค้านนำโดย นายบรรหาร ศิลปอาชา ผู้นำฝ่ายค้าน หยิบเป็นประเด็นหลักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและได้กำหนดวันลงมติคือวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2538 ปรากฏว่าพรรคพลังธรรมซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่ารัฐบาลตอบคำถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคลุมเครือไม่ชัดเจน ทางพรรคจึงได้มีมติงดออกเสียงให้รัฐบาล ทำให้ผลการประชุมของพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่จึงเห็นตรงกันให้มีการยุบสภา นายชวนในฐานะนายกรัฐมนตรีจึงประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และจัดการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2538

นายกรัฐมนตรีสมัยที่สอง

ดำรงตำแหน่งระหว่าง วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540[3] - 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2543 ชวน หลีกภัย ได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในสมัยที่สอง โดยรับช่วงต่อหลังจากพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากเกิดปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักจนต้องลอยตัวค่าเงินบาท ชวนได้แต่งตั้งคณะทำงานด้านเศรษฐกิจที่น่าเชื่อถือจนได้รับความเชื่อถือและเห็นชอบจากสถาบันการเงินนานาชาติและสหรัฐอเมริกา มุ่งไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อีกทั้งรัฐบาลผสมก็เอาชนะความพยายามของฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้ชวนจะไม่ใช่นักการเมืองที่น่าดึงดูดใจ แต่ก็ได้รับการสนับสนุนและไว้วางใจ เพราะถูกมองว่าซื่อสัตย์ มุ่งปฏิรูประบอบประชาธิปไตยและขจัดการฉ้อราษฎร์บังหลวง[4]

การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยที่สอง ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย[5] เนื่องจากรัฐบาลจัดตั้งขึ้น โดยกลุ่มของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเดิมสนับสนุนให้พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ดำรงตำแหน่งแทน โดยการสนับสนุนของพรรคความหวังใหม่ (125 คน) พรรคชาติพัฒนา (52 คน) พรรคประชากรไทย (18 คน) และ พรรคมวลชน (2 คน) รวม 197 เสียง ส่วนฝ่ายค้านเดิมนำโดยพรรคประชาธิปัตย์ (123 คน) ร่วมกับพรรคชาติไทย (39 คน) พรรคเอกภาพ (8 คน) พรรคพลังธรรม (1 คน) พรรคไท (1 คน) และพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ได้แก่ พรรคกิจสังคม (20 คน) และพรรคเสรีธรรม (4 คน) สนับสนุนชวน หลีกภัย ด้วยเสียงทั้งสิ้นรวม 196 เสียง ซึ่งน้อยกว่าฝ่ายรัฐบาล 1 เสียง[6]

ชวน หลีกภัย กับบิล คลินตัน เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2541

การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของชวน หลีกภัย ก่อให้เกิดกลุ่มการเมืองชื่อ กลุ่มงูเห่า หมายถึง สมาชิกพรรคประชากรไทย 12 คนที่สนับสนุนรัฐบาลโดยคำชวนของพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ จนถูกพรรคประชากรไทยขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และส่งผลให้สิ้นสุดสถานภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย กลุ่มงูเห่าทั้ง 12 คน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ามติดังกล่าวเป็นมติที่ไม่ชอบ ขัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 12 คน ยังคงสถานภาพ และหาพรรคใหม่สังกัด[7]

นอกจากกรณีกลุ่มงูเห่าแล้ว ยังมีกรณีรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลที่ได้รับการตัดสินว่ามีความผิดทางการเมืองอีก 2 ท่าน ได้แก่ นายรักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและ พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยนายรักเกียรติ สุขธนะ (พรรคชาติไทย) ได้รับคำพิพากษาตัดสินจาก ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้จำคุกเป็นเวลา 5 ปี ฐานเรียกรับสินบนบริษัทยา ทีเอ็น พี เฮลท์ แคร์ จำกัด ซึ่งนับว่าเป็นรัฐบาลชุดแรกที่รัฐมนตรีร่วมรัฐบาล ได้รับโทษถึงที่สุดให้จำคุกจากการทุจริตในระหว่างการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล

นอกจากนี้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ของรัฐบาลนายชวน หลีกภัยและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้รับคำพิพากษาจากศาลรัฐธรรมนูญ ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากการรายงานบัญชีทรัพย์สินตกหล่น

แม้ว่าชวนจะได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่มือสะอาด จนได้รับฉายา Mr. Clean (นายสะอาด) [8] แต่รัฐบาลเขาเต็มไปด้วยกรณีอื้อฉาวและข่าวลือการฉ้อราษฎร์บังหลวง โดยรักเกียรติ สุขธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถูกตั้งข้อหาว่ารับสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยาแห่งหนึ่งและบังคับให้โรงพยาบาลของรัฐซื้อยาราคาสูงเกินจริง, สุเทพ เทือกสุบรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร ซึ่งถูกเชื่อมโยงกับการละเมิดกองทุนตั้งสหกรณ์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี[9], กรณีอื้อฉาวเมล็ดพันธุ์ "รั้วกินได้" ซึ่งมีการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์เกินราคามหาศาลแก่พื้นที่ชนบท จนทำให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรต้องลาออก[10], กรณีอื้อฉาวการตัดไม้สาละวิน ซึ่งไม้บางส่วนไปปรากฏในสำนักงานพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดพิจิตร[10] และสนั่น ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะรัฐมนตรีอื่นอีกแปดคนถูกพบว่าปกปิดการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน

นอกจากนี้ การอนุมัติแต่งตั้ง จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ เมื่อปี พ.ศ. 2542 ท่ามกลางกระแสไม่พอใจของสังคม สื่อมวลชน และโดยเฉพาะญาติของผู้เสียชีวิต/สูญหายในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 และ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519[11]

หลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ชวน หลีกภัยกลับมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านอีกครั้งหลังการเลือกตั้งในปี 2544 เขาก้าวลงจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2546 ผู้มารับช่วงต่อจากเขาคือบัญญัติ บรรทัดฐาน อย่างไรก็ตาม เมื่อพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้การเลือกตั้งในปี 2548 นายบัญญัติจึงลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯ นายชวนจึงผลักดันให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแทน นายชวนเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการนำพรรคประชาธิปัตย์ร่วมบอยคอยการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2549

ชวน หลีกภัย และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใน พ.ศ. 2554

ภายหลังการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2562 ชวน หลีกภัยได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร[12]

ประวัติการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2512 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2518 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  3. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2519 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  4. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2522 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  5. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2526 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  6. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2529 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  7. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2531 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  8. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มีนาคม พ.ศ. 2535 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  9. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป กันยายน พ.ศ. 2535 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  10. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2538 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  11. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2539 จังหวัดตรัง สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  12. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  13. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  14. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  15. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  16. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัด พรรคประชาธิปัตย์
  17. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 แบบบัญชีรายชื่อ สังกัด พรรคประชาธิปัตย์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

ชวน หลีกภัย ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในประเทศและเครื่องอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ[13] ดังนี้

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ

ลำดับสาแหรก

เชิงอรรถ

อ้างอิง

  1. หนังสือกินอยู่เรียบง่าย สบายแบบชาวบ้าน ชวน หลีกภัย ลูกแม่ค้าขายพุงปลา โดย เริงศักดิ์ กำธร (พ.ศ. 2545) ISBN 974-85645-2-5
  2. Media and democratic transitions in Southeast Asia เก็บถาวร 29 กันยายน 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน by Duncan McCargo
  3. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (นายชวน หลีกภัย)
  4. ไมเคิล ลีเฟอร์, จุฬาพร เอื้อรักสกุล (แปล-เรียบเรียง). พจนานุกรมการเมืองสมัยใหม่ในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์, 2548. 726 หน้า. ISBN 974-571-921-8
  5. ชวน : ยุครัฐธรรมนูญครึ่งใบ พรรคเราเป็นหนี้บุญคุณประชาธิปไตย ประชาชาติธุรกิจ สืบค้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2562
  6. "การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยที่สอง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-12-14. สืบค้นเมื่อ 2006-03-06.
  7. ย้อนตำนานงูเห่าการเมืองไทย ก่อนเกิดซ้ำครั้งที่ 3? workpointTODAY สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2562
  8. Asiaweek Power 50, 2000 เก็บถาวร 2008-04-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เรียกดูเมื่อ 28 มิถุนายน 2551
  9. "atimes.com". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2001-02-21. สืบค้นเมื่อ 2019-07-25.
  10. 10.0 10.1 Corruption: Is there any hope at all? เก็บถาวร 25 พฤศจิกายน 2007 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน by
  11. เนชั่นสุดสัปดาห์ 1 เม.ย. 2542, 'ถนอม' ลาออก 'ชวน' ไม่ขอโทษ ปชป.เปรียบถนอม เทียบรัฐบุรุษปรีดี
  12. "ชวน นั่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ". บีบีซีไทย. 2019-05-25. สืบค้นเมื่อ 2019-05-25.
  13. "นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๐ นายชวน หลีกภัย". thaigov. สืบค้นเมื่อ 2021-03-20.
  14. ราชกิจจานุเบกษาแจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฉบับพิเศษ หน้า ๓๘ เล่ม ๙๙ ตอนที่ ๑๘๔, ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๕
  15. ราชกิจจานุเบกษาแจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์  ฉบับพิเศษ หน้า ๔๑ เล่ม ๙๘ ตอนที่ ๒๐๖ , ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๔
  16. ประกาศ  เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์  หน้า ๑ เล่ม ๑๑๕ ตอนที่ ๘ ข ,๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๑
  17. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ ฉบับพิเศษ หน้า ๒ เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๑๑๘, ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๒
  18. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ เก็บถาวร 2022-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๒ ข หน้า ๒, ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๔
  19. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๑๕, ๑๖ ตุลาคม ๒๕๔๓
  20. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ เก็บถาวร 2022-11-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๑๘ ข หน้า ๑, ๑๑ กันยายน ๒๕๔๓
  21. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ เก็บถาวร 2022-11-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๗ ตอนที่ ๕ ข หน้า ๑, ๑ มีนาคม ๒๕๔๓
  22. เครื่องอิสริยาภรณ์พระอาทิตย์แห่งเปรู
  23. "The Order of Sikatuna". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-25. สืบค้นเมื่อ 2023-11-22.

แหล่งข้อมูลอื่น

ก่อนหน้า ชวน หลีกภัย ถัดไป
อานันท์ ปันยารชุน
นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (สมัยที่ 1 : ครม. 50)
(23 กันยายน พ.ศ. 253513 กรกฎาคม พ.ศ. 2538)
บรรหาร ศิลปอาชา
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (สมัยที่ 2 : ครม. 53)
(9 พฤศจิกายน พ.ศ. 25409 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544)
พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร
พรเพชร วิชิตชลชัย
(ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ)

ประธานรัฐสภา
(ประธานสภาผู้แทนราษฎร)

(28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 – 20 มีนาคม พ.ศ. 2566)
วันมูหะมัดนอร์ มะทา
อุทัย พิมพ์ใจชน
รองประธานรัฐสภา
(ประธานสภาผู้แทนราษฎร)

(4 สิงหาคม พ.ศ. 2529 – 29 เมษายน พ.ศ. 2531)
ปัญจะ เกสรทอง
พิชัย รัตตกุล
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ
พงส์ สารสิน
พลเรือเอก สนธิ บุณยะชัย
พลเอก เทียนชัย สิริสัมพันธ์

รองนายกรัฐมนตรี (ครม. 45)
(29 ธันวาคม พ.ศ. 253226 สิงหาคม พ.ศ. 2533)
บุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ
เฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์
โกศล ไกรฤกษ์
พลเอก มานะ รัตนโกเศศ
พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก
ปุณมี ปุณศรี
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
(11 มีนาคม 2524 – 19 ธันวาคม 2524)
ปุณมี ปุณศรี
พิชัย รัตตกุล
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
(พ.ศ. 2534พ.ศ. 2546)
บัญญัติ บรรทัดฐาน