กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
Student Loan Fund | |
ตราสัญลักษณ์ของกองทุน | |
ภาพรวมกองทุน | |
---|---|
ก่อตั้ง | 15 มีนาคม พ.ศ. 2541 |
ประเภท | หน่วยงานของรัฐที่เป็นนิติบุคคล |
สำนักงานใหญ่ | 89 อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ ชั้น 5-6 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400 |
งบประมาณต่อปี | 4,572,982,900 บาท (พ.ศ. 2568)[1] |
ฝ่ายบริหารกองทุน |
|
ต้นสังกัดกองทุน | กระทรวงการคลัง |
เว็บไซต์ | เว็บไซต์ของกองทุน |
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ตัวย่อ: กยศ.) เป็นหน่วยงานของรัฐอยู่ในกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาด้วยการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา ในลักษณะต่าง ๆ ตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
ประวัติ
[แก้]กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2538 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2539 ให้เริ่มดำเนินการกองทุนในลักษณะเงินทุนหมุนเวียน ตามนัยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 ต่อมารัฐบาลได้พิจารณาเห็นความสำคัญของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามากขึ้น จึงได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541 มีผลให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษามีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยอยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีวัตถุประสงค์ให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างศึกษา
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560
[แก้]ปัจจุบัน พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2560 มีผลให้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาอยู่ในการกำกับดูแลของรัฐมนตรี และมีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณและกฎหมายอื่น เนื่องจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2541 และกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคตตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการบริหารกองทุนเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2549 ที่ออกตามพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 มีการบริหารจัดการและการดำเนินการที่มีข้อจำกัด และไม่สอดคล้องกับนโยบายการผลิตกำลังคนและการพัฒนาประเทศสมควรบูรณาการการบริหารจัดการและการดำเนินการของกองทุน กยศ. และกองทุน กรอ. ให้เป็นเอกภาพอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน และเพิ่มมาตรการในการบริหารจัดการกองทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ลูกหนี้
[แก้]ณ เดือนมิถุนายน 2564 กยศ. มีลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างชำระหนี้ 3.5 ล้านคน ในปีงบประมาณ 2564 ได้ปล่อยกู้ไปแล้ว 38,000 ล้านบาท ได้รับชำระคืน 19,500 ล้านบาท[2]
จากการเปรียบเทียบระบบการใช้หนี้ กยศ. ของไทยกับออสเตรเลียพบว่าระบบการชำระหนี้ของไทยถูกจำกัดด้วยเวลา ส่วนระบบของออสเตรเลียถูกจำกัดด้วยสัดส่วนรายได้ ผลทำให้ลูกหนี้ กยศ. ไทยผิดนัดชำระหนี้ต่างจากลูกหนี้ออสเตรเลีย[3]
การรณรงค์ยกหนี้
[แก้]ในปี 2565 เกิดกระแส #ล้างหนี้ กยศ. ในสื่อสังคมหลังมีความพยายามรวบรวมรายชื่อเพื่อแก้ไขกฎหมาย กยศ. เพื่อยกเลิกหนี้คงค้างให้กับคนที่เรียนจบแล้ว 2 ปีและให้เรียกเก็บเงินจากรัฐบาลแทน ซึ่งผู้สนับสนุนมองว่าการศึกษาแบบให้เปล่าควรเป็นสวัสดิการของรัฐ ดังนั้นการยกเลิกหนี้การศึกษาจึงเป็นประโยชน์ต่อทุกคน ทว่าฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่าจะทำให้ผู้ที่ไม่ชดใช้เงินขาดวินัยทางการเงิน ความรับผิดชอบตลอดจนไม่ซื่อสัตย์สุจริต[4]
ในปี 2565 กยศ. ชี้แจงว่ายังเหลือหนี้คงค้างอีกกว่า 330,000 ล้านบาท หากไม่ใช้หนี้จะทำให้คนรุ่นต่อไปไม่มีโอกาสทางการศึกษา[5] อย่างไรก็ตาม มีข่าวว่า กยศ. ยึดบ้านจากลูกหนี้[6]
รองศาสตราจารย์ ดร. ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ของสภาผู้แทนราษฎร อาจารย์ประจำวิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่าการสร้างสวัสดิการด้านการศึกษาสามารถทำได้ในประเทศไทย รวมทั้งการยกเลิกหนี้ กยศ. และการจัดการหนี้ กยศ. ก็สามารถจัดการได้ เพราะทุกวันนี้ก็มีหนี้เสียแล้วร้อยละ 60 เขามองว่าเหตุผลที่คนไทยไม่น้อยคัดค้านข้อเสนอดังกล่าวเป็นเพราะมองว่าการศึกษาเป็นการลงทุนหรือความรับผิดชอบส่วนบุคคล ไม่ใช่รัฐลงทุนให้ "ในประเทศที่ไม่ได้มองการศึกษาเป็นสิทธิ ถ้าพูดเรื่องนี้ (ล้างหนี้) ก็จะถูกมองว่าเป็นคนเลว เป็นคนไม่รับผิดชอบ เพราะนั้น คนก็อาจจะเงียบ ๆ ภายใต้เงื่อนไขแบบนี้"[7]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘, เล่ม ๑๔๑ ตอนที่ ๕๙ ก หน้า ๕๗๒, ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗
- ↑ "กยศ.พร้อมดูแลลูกหนี้ 3.5 ล้านคน เล็งปรับโครงสร้างหนี้-ลดเงินงวด". ประชาชาติธุรกิจ. 17 June 2021. สืบค้นเมื่อ 5 November 2021.
- ↑ "'ล้างหนี้กยศ' ชวนส่องกยศ.ไทย VS นอก ทำไมบางที่คืนได้ไว ไม่ต้องขอยกหนี้". อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 - AMARIN TV HD. 19 August 2022. สืบค้นเมื่อ 28 August 2022.
- ↑ ""ล้างหนี้ กยศ." มองสองมุม นำไปสู่ "ความเท่าเทียม" หรือ "ปัญหา" ?". กรุงเทพธุรกิจ. 19 August 2022. สืบค้นเมื่อ 28 August 2022.
- ↑ "ยกเลิกหนี้ กยศ. ไม่ใช่การแก้ปัญหา กฤษฎีกาย้ำเป็นหนี้ต้องใช้หนี้ ". workpointTODAY. สืบค้นเมื่อ 28 August 2022.
- ↑ "ลูกหนี้ กยศ. ร้องศาลแพ่ง เป็นหนี้ 1.6 แสน ถูกยึดบ้านหลักล้าน". TNNThailand. 22 January 2021. สืบค้นเมื่อ 28 August 2022.
- ↑ ""วังวนชีวิต 20 ปีที่ติดหนี้ กยศ." เรียนฟรีควรเป็นสิทธิ หรือภาระส่วนบุคคล". BBC News ไทย. 27 August 2022. สืบค้นเมื่อ 28 August 2022.