สามารถ แก้วมีชัย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สามารถ แก้วมีชัย
รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1
ดำรงตำแหน่ง
13 สิงหาคม พ.ศ. 2551 – 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ก่อนหน้า สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์
ถัดไป เจริญ จรรย์โกมล
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 (72 ปี)
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
พรรค พรรคไทยรักไทย (2544-2549)
พรรคพลังประชาชน (2550-2551)
พรรคเพื่อไทย (2551-2563, 2564-2565)
พรรคไทยสร้างไทย (2564)
พรรคภูมิใจไทย (2565-)
คู่สมรส รัตนพร แก้วมีชัย
ศาสนา พุทธ

สามารถ แก้วมีชัย (9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 -) เป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร (ชุดที่ 23) และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย สังกัดพรรคเพื่อไทย

ประวัติ[แก้]

สามารถ แก้วมีชัย เกิดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2494 จบการศึกษาชั้นมัธยมต้นจากโรงเรียนเชียงรายวิทยาคม ชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และปริญญาตรีรัฐศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมดี) สาขาวิชาการปกครอง จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (รุ่นที่ 22) เมื่อปี พ.ศ. 2517

การทำงาน[แก้]

สามารถ แก้วมีชัย เคยทำงานที่การเคหะแห่งชาติ ก่อนจะลาออกไปเป็นนักธุรกิจก่อนจะเข้ามาทำงานการเมืองท้องถิ่น เป็นสมาชิกสภาเทศบาลเมืองเชียงราย และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 ต่อมาจึงได้เข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักไทยและได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงราย ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 และการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 สังกัดพรรคพลังประชาชน ต่อมาก็ได้ย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อไทยพร้อมกันกับสมาชิกจากพรรคพลังประชาชนเดิม

สามารถ แก้วมีชัย เคยได้รับตำแหน่งทางการเมืองหลายตำแหน่ง อาทิ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม[1] กรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล โฆษกคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ประธานคณะกรรมการประสายงานพรรคร่วมรัฐบาล ต่อมาในปี 2551 จึงได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แทนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์[2]

ใน การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 นายสามารถยังได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกสมัย ส่วน การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 ถูกประกาศให้เป็นโมฆะ แต่ใน การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2562 นายสามารถสูญเสียตำแหน่งให้กับนาย เอกภพ เพียรพิเศษ จาก พรรคอนาคตใหม่ ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นครั้งแรก ต่อมาในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 นายสามารถได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย [3]

กระทั่งวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2562 นายสามารถได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย [4] ต่อมาในวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563 นายสามารถได้โพสต์ภาพหนังสือการลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยจำนวน 3 ฉบับแก่นาย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคและ พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ คณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองและให้มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไปโดยให้เหตุผลว่าต้องการเป็นอิสระและปลอดสังกัดพรรคการเมือง [5]

ในปี 2564 เขาได้เข้าร่วมงานกับพรรคไทยสร้างไทย ซึ่งนำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์[6] แต่อีกหลายเดือนให้หลังก็ย้ายกลับเข้าพรรคเพื่อไทยในวันที่ 14 ธันวาคม[7] แต่ในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เขาได้ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. "สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 23". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ 2011-03-17.
  2. พระบรมราชโองการ ประกาศแต่งตั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรราชกิจจานุเบกษา เล่ม 125 ตอนพิเศษ 195ง
  3. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย
  4. ทิ้ง'เพื่อไทย'!! 'สามารถ แก้วมีชัย'ยื่นหนังสือลาออกพ้น'กก.บห.-รองหัวหน้าพรรค'
  5. สามารถ ลาออกเพื่อไทย ให้เหตุผล ต้องการอิสระ
  6. ส่อง 4 ภาค ขุนพล 'ไทยสร้างไทย'
  7. ‘สามารถ แก้วมีชัย’ ทิ้งไทยสร้างไทย กลับ ‘เพื่อไทย’ ลั่นไม่หนีไปไหนอีก ขอผนึกกำลังต่อสู้เผด็จการ
  8. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๒, เล่ม ๑๒๖ ตอนที่ ๑๖ ข หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒
  9. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๒๕ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๙, ๑๘ ธันวาคม ๒๕๕๑
  10. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๔ ตอนที่ ๒๙ ข หน้า ๕, ๑๖ ธันวาคม ๒๕๔๐