ควง อภัยวงศ์
พันตรี ควง อภัยวงศ์ ป.จ., ม.ป.ช., ป.ม., อ.ป.ร.๑, ภ.ป.ร.๑ | |
---|---|
![]() | |
ควง ในปี พ.ศ. 2475 | |
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 4 | |
ดำรงตำแหน่ง 1 สิงหาคม พ.ศ. 2487 – 31 สิงหาคม พ.ศ. 2488 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร |
ก่อนหน้า | แปลก พิบูลสงคราม |
ถัดไป | ทวี บุณยเกตุ |
ดำรงตำแหน่ง 31 มกราคม พ.ศ. 2489 – 18 มีนาคม พ.ศ. 2489 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร |
ก่อนหน้า | หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช |
ถัดไป | ปรีดี พนมยงค์ |
ดำรงตำแหน่ง 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 – 8 เมษายน พ.ศ. 2491 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
ก่อนหน้า | ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ |
ถัดไป | แปลก พิบูลสงคราม |
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2489 – พ.ศ. 2511 | |
ก่อนหน้า | ก่อตั้งพรรค |
ถัดไป | หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2445 เมืองพระตะบอง ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 15 มีนาคม พ.ศ. 2511 (65 ปี) จังหวัดพระนคร ประเทศไทย |
พรรค | ประชาธิปัตย์ (พ.ศ.2489-2501,2511) |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น |
คณะราษฎร |
บิดา | เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) |
มารดา | รอด อภัยวงศ์ |
คู่สมรส | คุณหญิงเลขา อภัยวงศ์ |
บุตร | 3 คน |
อาชีพ | ทหารบก, ข้าราชการ, นักการเมือง |
บรรดาศักดิ์ | หลวงโกวิทอภัยวงศ์ |
ยศเดิม | รองอำมาตย์เอก |
พระราชทานเพลิง | 13 มิถุนายน พ.ศ. 2511 เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส จังหวัดพระนคร ประเทศไทย[1] |
ลายมือชื่อ | ![]() |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ![]() |
สังกัด | ![]() |
ประจำการ | พ.ศ. 2483 - 2484 |
ยศ | ![]() |
การยุทธ์ | สงครามอินโดจีน |
พันตรี ควง อภัยวงศ์ หรือ รองอำมาตย์เอก หลวงโกวิทอภัยวงศ์ (17 พฤษภาคม พ.ศ. 2445 – 15 มีนาคม พ.ศ. 2511) เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 4 ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนแรก
ควง อภัยวงศ์เป็นสมาชิกคณะราษฎรสายพลเรือนซึ่งร่วมการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 เคยมีบรรดาศักดิ์เป็น รองอำมาตย์เอก หลวงโกวิทอภัยวงศ์
พันตรีควง ถือเป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งกระทรวงคมนาคมยุคใหม่ เนื่องจากดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการคนแรก ด้วยประสบการณ์ที่เคยรับราชการจนมีตำแหน่ง เป็นถึงอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข[2] นอกจากนี้ยังเคย ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, กระทรวงการคลัง, กระทรวงเกษตราธิการ และกระทรวงมหาดไทยด้วย
ประวัติ[แก้]
ควง อภัยวงศ์เกิดเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2445 ณ จังหวัดพระตะบอง ซึ่งขณะนั้นอยู่ในมณฑลบูรพา ราชอาณาจักรสยาม (ปัจจุบันอยู่ในประเทศกัมพูชา) เป็นบุตรของเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์) ผู้สำเร็จราชการจังหวัดพระตะบอง กับนางรอด เขาสมรสกับคุณหญิงเลขา อภัยวงศ์ และเป็นพระปิตุลา (อา) ในพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6 และพระประยูรญาติของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
เริ่มศึกษาหนังสือกับขุนอุทัยราชภักดี ผู้เป็นลุงข้างมารดา จากนั้นเข้าศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์และโรงเรียนอัสสัมชัญ จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาวิชาวิศวกรรมโยธา ที่เอกอล ซังตรัล เดอ ลียอง ประเทศฝรั่งเศส
เคยรับราชการเป็นนายช่างผู้ช่วยโท แผนกกองช่างโทรเลข กรมไปรษณีย์โทรเลข จนได้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข
และได้รับพระราชทานยศพันตรีปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์พิเศษ เมื่อคราวร่วมสงครามอินโดจีนในปี 2484 และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงโกวิทอภัยวงศ์ แต่ต่อมาลาออกจาก บรรดาศักดิ์ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2484
ซึ่งในสงครามครั้งนี้ ได้ทำหน้าที่เป็นนายทหารช่างผู้คุมงานก่อสร้างถนนไปเชียงตุง และต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานการรับมอบดินแดนมณฑลบูรพาจากอินโดจีนฝรั่งเศสด้วย[2]
งานการเมือง[แก้]
บทบาททางการเมืองในช่วงแรก[แก้]

ควง อภัยวงศ์เป็นหนึ่งในสมาชิกคณะราษฎรสายพลเรือนที่ร่วมการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 เป็นนักเรียนไทยในฝรั่งเศสรุ่นเดียวกับ นายปรีดี พนมยงค์ และจอมพล แปลก พิบูลสงคราม
ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ต.ควงมิได้รับรู้แผนการเชิงลึกเหมือนแกนนำคนอื่น ๆ เพราะเป็นสมาชิกที่เข้าถูกชวนให้ร่วมในภายหลัง แม้ว่าเขาจะเป็นนักเรียนไทยในประเทศฝรั่งเศสรุ่นเดียวกัน และรู้จักสนิทสนมกับบรรดาสมาชิกคณะราษฎรยุคก่อตั้ง 7 คนอย่างมาก ทั้งนายปรีดี พนมยงค์ และจอมพล ป. พิบูลสงคราม รวมถึงนายทวี บุณยเกตุ[2] แต่ถูกชวนให้เข้าร่วมคณะราษฎร เนื่องจากเป็นผู้รับราชการในกรมไปรษณีย์โทรเลข ซึ่งตามแผนต้องมีการตัดสัญญาณการสื่อสารเหล่านี้เป็นประการแรก[3] ซึ่งในระหว่างการประชุมวางแผน ที่ประชุมกำหนดให้ พ.ต.ควงเป็นผู้ดูต้นทางหรือลาดเลาให้ ในเช้าตรู่ของวันก่อการ พ.ต.ควงได้รับให้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถนัด คือ การตัดสายโทรศัพท์และโทรเลขร่วมกับวิลาศ โอสถานนท์, ประยูร ภมรมนตรี และทหารเรืออีกจำนวนหนึ่ง ที่นำโดย หลวงนิเทศกลกิจ (กลาง โรจนเสนา) [4] ควงกล่าวถึงเหตุการณ์ตอนนี้ว่า
เราถอนหายใจยาวพร้อมกัน 4 น. ครึ่งผ่านไปแล้ว ข้าพเจ้ายกมือขึ้นเป็นสัญญาณ อันเป็นฤกษ์งามยามดีของเรา แล้วสัญญาณแห่งการปฏิวัติก็อุบัติขึ้น สายโทรศัพท์ทางด้านนอกได้ถูกตัดลงแล้ว แล้วพวกเราก็กรูกันเข้าไปในที่ทำการชุมสายวัดเลียบ เพื่อตัดสายจากหม้อแบตเตอรี่ อันเป็นการตัดอย่างเด็ดขาดและสิ้นเชิง....
ทำการเสร็จแล้วไปถึงที่นัดหมายที่ลานพระบรมรูปทรงม้า แต่ไม่พบกับกลุ่มที่นัดหมาย จนนึกว่าทำการไม่สำเร็จ จึงกลับไปบ้าน แต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองก็สำเร็จจนได้ [5]
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ขณะยังมีบรรดาศักดิ์เป็น หลวงโกวิทอภัยวงศ์ ได้เดินทางไปประชุมสากลไปรษณีย์ ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา พร้อมด้วยขุนชำนาญ (หลุย อินทุโสภณ) เลขานุการ และเมื่อเดินทางกลับจากประเทศอาร์เจนตินา ได้ไปดูงานโทรศัพท์อัตโนมัติที่ประเทศอังกฤษ และมีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เครนไลน์ โดยพระเจ้าอยู่หัวทรงเลี้ยงอาหารค่ำ และได้ตรัสเรื่องต่าง ๆ ให้ควงได้รับรู้ และนับแต่นั้น ความคิดความเห็นของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นอันมาก มักบ่นกับคนที่ชอบพอ และญาติใกล้ชิดว่า "เรามันผิดไปเสียแล้ว ควรที่จะถวายพระราชอำนาจคืน" ซึ่งข้อความนี้หนังสือพิมพ์บางฉบับได้นำไปโจมตีว่า ควงมีหัวนิยมเจ้า และบางฉบับกล่าวหาว่า ควงมีหัวโน้มเอียงไปทางคอมมิวนิสต์[2]
ก่อนหน้าการดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี นายควง อภัยวงศ์เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนา และ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
พันตรี ควง อภัยวงศ์ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนาสองสมัย คือ วันที่ 22 กันยายน 2477 – 9 สิงหาคม 2480 และ 21 ธันวาคม 2480 – 16 ธันวาคม 2481
หลังจากนั้นพันตรีควงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงธรรมการ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2481 และไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมคนแรก เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2484 ในรัฐบาล พันเอก หลวงพิบูลสงครามระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2481 – 7 มีนาคม 2485 และตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2485 จนย้ายไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2485 ในรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม (7 มีนาคม 2485 – 1 สิงหาคม 2487) ต่อมาพันตรีควง ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2486
ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี[แก้]

- การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก (คณะรัฐมนตรีคณะที่ 11 ของไทย , 1 สิงหาคม พ.ศ. 2487 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2488)
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2487 พร้อมกับการจัดตั้ง คณะรัฐมนตรีคณะที่ 11 ของไทย ภายหลัง จอมพล ป. พิบูลสงคราม ลาออกจากตำแหน่ง การขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นไปโดยสถานการณ์บังคับ จากการได้รับเลือกโดยสภาฯ ในขณะที่ไม่มีผู้อื่นยินดีรับตำแหน่ง เนื่องจากเกรงจะถูกรัฐประหารโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ในครั้งนั้นได้ปรึกษากับอธิบดีกรมตำรวจ และตัดสินใจเดินทางไปอธิบายกับ จอมพล ป. ถึงค่ายทหารที่จังหวัดลพบุรีจนเป็นที่เข้าใจและยอมรับของจอมพล ป. ที่จะสนับสนุนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ พร้อมกับการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ กระทรวงคมนาคม อีกด้วย
รัฐบาลของ พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ได้ประกาศสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร ในวันที่ 16 สิงหาคม 2488 หลังจาก ประเทศญี่ปุ่น ประกาศยอมแพ้สงครามแล้ว 2 วัน โดยมี นายปรีดี พนมยงค์ ลงนามในฐานะ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ระบุให้ การประกาศสงครามต่อ สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ของจอมพล ป. เป็นโมฆะ พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ในวันรุ่งขึ้น ด้วยเหตุผล เพื่อให้เป็นไปตามประเพณีนิยมแห่งวิถีการเมือง และเปิดโอกาสให้ผู้มีความเหมาะสม ในอันที่จะยังมิตรภาพ และดำเนินการเจรจา ทำความเข้าใจอันดีกับฝ่ายพันธมิตร ได้เข้าบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อความวัฒนาถาวรของชาติสืบไป
หลังการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซึ่งมี นายทวี บุณยเกตุ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีประมาณ 17 วัน และผู้มารับช่วงต่อคือ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน หัวหน้าเสรีไทย สายสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เดินทางกลับมารับช่วงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2488 และดำเนินการเจรจา กับประเทศอังกฤษ ในขณะที่ นายปรีดี พนมยงค์ ประสานขอความสนับสนุน จากประเทศจีน ให้ช่วยรับรอง จนประเทศไทย สามารถพ้นจากสถานะ ประเทศผู้แพ้สงครามในที่สุด
ในระหว่างที่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ได้รับมอบหมายจาก ม.ร.ว.เสนีย์ ให้เป็นผู้ดำเนินการจัดส่งข้าวให้อังกฤษ ซึ่งได้ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ไม่มีการคอร์รัปชั่น จนทางอังกฤษเอ่ยชมเชย
- การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 (คณะรัฐมนตรีคณะที่ 14 ของไทย, 31 มกราคม พ.ศ. 2489 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2489)
หลังจากเจรจากับอังกฤษจนสำเร็จ และประเทศไทยพ้นสถานะประเทศผู้แพ้สงครามแล้ว ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้ยุบสภาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2488 เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะสมาชิกสภาชุดที่ถูกยุบนั้นได้รับเลือกตั้งมา ตั้งแต่ วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 แต่เมื่อหมดวาระ 4 ปียังไม่ได้เลือกตั้งใหม่ เพราะติดช่วงสงครามโลก
วันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2488 รัฐบาลไทยได้ประกาศยกเลิกคำว่า "ประเทศไทย" (ไทยแลนด์) ให้ใช้คำว่า "สยาม" เหมือนเดิม โดยใช้ "ไทย" เป็นชื่อเชื้อชาติ ส่วนคำว่า"สยาม" เป็นชื่อประเทศ[6] นายควง อภัยวงศ์ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ในปลายเดือนมกราคม พ.ศ. 2489 ได้ออกนโยบายฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีไทยในด้านๆต่างๆดังนี้
- การฟื้นฟูวันสงกรานต์เป็นวันปีใหม่ตามประเพณีไทย ควบคู่กับวันขึ้นปีใหม่แบบสากล
- การยกเลิกการใช้ภาษาวิบัติที่ใช้กันมาตั้งแต่ยุคจอมพล ป. โดยรณรงค์ส่งเสริมให้ใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง
- การนำบรรดาศักดิ์ไทยกลับมาใช้และได้มีการคืนบรรดาศักดิ์ให้แก่ผู้ที่ถูกยกเลิก โดยได้มีพระราชบัญญัติคืนยศ บรรดาศักดิ์ เครื่องราชอิสสริยาภรณ็ และสิทธิในการรับเบี้ยหวัดบำเหน็จและบำนาญ พุทธศักราช 2489 เพื่อนิรโทษกรรมแก่ผู้ต้องโทษทางการเมือง[7]
- ฟื้นฟูกีฬาพื้นบ้าน เช่น กีฬาไก่ชน[8]
การเลือกตั้งมีขึ้นวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2489 พ.ต.ควงได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับการจัดตั้ง คณะรัฐมนตรีคณะที่ 14 ของไทย มี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่หลังจากตั้งรัฐบาลได้เพียง 2 เดือน สภาฯ ได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติ คุ้มครองค่าใช้จ่ายของประชาชนในภาวะคับขัน (พ.ร.บ.ปักป้ายราคาสินค้าอุปโภคบริโภค หรือ "พ.ร.บ.ปักป้ายข้าวเหนียว") ที่เสนอโดย นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ ส.ส.อุบลราชธานี (ผู้ใกล้ชิด นายปรีดี พนมยงค์ ในฐานะ หัวหน้าขบวนการเสรีไทย เขตอุบลราชธานี) ซึ่งเป็นกฎหมายที่รัฐบาล พ.ต.ควง ไม่เห็นด้วยในหลักการ เนื่องจากไม่มีมาตรการ ในการควบคุมราคา คณะรัฐมนตรีได้แถลงให้สภาทราบแล้วว่า คณะรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติตาม ร่างพระราชบัญญัตินั้นได้ และเกรงจะเป็นการเดือดร้อน แก่ประชาชนทั่วไป แต่สภาฯ ได้ลงมติรับหลักการ ด้วยคะแนน 65 ต่อ 63 เสียง รัฐมนตรีทั้งคณะจึงได้กราบถวายบังคม ลาออกจากตำแหน่ง ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2489 โดยมีนายปรีดี พนมยงค์ ได้รับการสนับสนุนจากสภา ให้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี และต่อมาได้ควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
การประกาศสันติภาพ เมื่อเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อจาก จอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่ก่อนหน้านั้นมีความจำเป็นต้องประกาศสงคราม กับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ครั้นเมื่อดำรงตำแหน่งก็ได้ประกาศให้การประกาศสงครามดังกล่าวเป็นโมฆะ ไม่ผูกพันประชาชนชาวไทย ทำให้สัมพันธภาพของประเทศไทย กับกลุ่มประเทศสัมพันธมิตรดีขึ้น และในที่สุดส่งผลให้ประเทศไทยพ้นจากสภาพประเทศผู้แพ้สงคราม
- การก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ (6 เมษายน พ.ศ. 2489)
หลังจากพ้นวาระในสมัยนี้แล้ว พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ได้ร่วมกับ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช รวมทั้งนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง เช่น นายใหญ่ ศวิตชาต, นายเลียง ไชยกาล, ดร.โชติ คุ้มพันธ์, พระยาศราภัยพิพัฒ, นายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์ และ นายฟอง สิทธิธรรม ก่อตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ขึ้นเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2489 โดย พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคคนแรก มี ม.ร.ว.เสนีย์ เป็นรองหัวหน้าพรรค ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เป็นเลขาธิการพรรค และมี นายชวลิต อภัยวงศ์ ผู้มีศักดิ์เป็นน้องชาย เป็น รองเลขาธิการพรรค มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นพรรคฝ่ายค้านคานอำนาจรัฐบาลของนายปรีดี ที่ขณะนั้นมีอำนาจอย่างสูง ที่เข้ามาแทนที่รัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม
- การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3[9] (คณะรัฐมนตรีคณะที่ 19 ของไทย, 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 - 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491)
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ รับดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 3 พร้อมทั้งรับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตราธิการ หลังการรัฐประหาร เพื่อจัดการเลือกตั้ง วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2491 นับเป็น คณะรัฐมนตรีคณะที่ 19 มี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็น รัฐมนตรี หลังจัดการเลือกตั้งแล้วจึงพ้นวาระไป
- การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 4 (คณะรัฐมนตรีคณะที่ 20 ของไทย, 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 - 8 เมษายน พ.ศ. 2491)
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ กลับเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อเป็นสมัยที่ 4 เนื่องจากผลการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสียงข้างมาก พ.ต.ควง ในฐานะหัวหน้าพรรค จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องอีกสมัย พร้อมทั้งดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นับเป็น คณะรัฐมนตรีคณะที่ 20 มี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และ นายชวลิต อภัยวงศ์ เป็น รัฐมนตรี แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2491 กลุ่มนายทหารชุดเดียวกับคณะรัฐประหาร พ.ศ. 2490 ก็บีบบังคับให้ลาออก และ สภาฯ มีมติให้ท่าน พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2491 เรียกการปฏิวัติครั้งนี้ว่า "ปฏิวัติเงียบ" หลังการรัฐประหาร จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้กลับเข้า ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง
- ชีวิตหลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี (8 เมษายน พ.ศ. 2491 - 15 มีนาคม พ.ศ. 2511)
หลังจากนั้น พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ยังคงอยู่ในแวดวงการเมือง ด้วยการนำพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาฯ อย่างแข็งขัน ในรัฐบาลหลายชุด ทั้ง รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม สมัยสุดท้าย, รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ และ รัฐบาลจอมพลถนอม กิตติขจร
จนกระทั่งเมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 ซึ่งได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2495 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ขณะนั้น และใช้ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2502 แทน ซึ่งมีบทบัญญัติให้ยกเลิกสถาบันทางการเมืองต่าง ๆ เช่น พรรคการเมือง เป็นต้น ทำให้บทบาททางการเมืองของ พ.ต.ควงต้องยุติไปโดยปริยาย ซึ่งเขาได้รอคอยการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เสร็จสิ้น และตั้งความหวังไว้ว่าจะลงเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง แต่ได้อสัญกรรมลงเสียก่อน
อสัญกรรม[แก้]
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคระบบทางเดินหายใจขัดข้อง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2511 ขณะอายุได้ 65 ปี โดยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต
หลังการถึงแก่อสัญกรรม พรรคประชาธิปัตย์ได้ก่อตั้ง มูลนิธิควง อภัยวงศ์ ขึ้น ตามเจตนารมณ์ และให้ชื่ออาคารที่ทำการของพรรคหลังแรกว่า "อาคารควง อภัยวงศ์" เพื่อรำลึกถึงด้วย
ภาพลักษณ์[แก้]
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ได้ชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่มีไหวพริบปฏิภาณในการพูด การปราศรัยดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีมุขตลกสนุกสนานเป็นที่รู้จักกันอย่างดี จนได้ฉายามากมาย เช่น "นายกฯ ผู้ร่ำรวยอารมณ์ขัน" หรือ "จอมตลก" หรือ "ตลกหลวง"[10]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2510 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)[11]
- พ.ศ. 2488 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[12]
- พ.ศ. 2484 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[13]
- พ.ศ. 2484 –
เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามอินโดจีน (ช.ส.)[14]
- พ.ศ. 2508 –
เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ส.)[15]
- พ.ศ. 2478 –
เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ (พ.ร.ธ.)[16]
- พ.ศ. 2484 –
เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามอินโดจีน (ช.ร.)[17]
- พ.ศ. 2489 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 1 (อ.ป.ร.1)[18]
- พ.ศ. 2511 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.1)[19]
ลำดับสาแหรก[แก้]
ลำดับสาแหรกของควง อภัยวงศ์ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
ดูเพิ่ม[แก้]
- พรรคประชาธิปัตย์
- สงครามโลกครั้งที่สองในประเทศไทย
- รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2490
- รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2491
อ้างอิง[แก้]
- ↑
"ข่าวในพระราชสำนัก [วันอังคาร ที่ 11 มิถุนายน , วันพุธ ที่ 12 มิถุนายน และ วันพฤหัสบดี ที่ 13 มิถุนายน 2511]" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 85 (56ง ฉบับพิเศษ): 8. 20 มิถุนายน 2511. สืบค้นเมื่อ 7 มีนาคม 2564.
{{cite journal}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
และ|date=
(help) - ↑ 2.0 2.1 2.2 2.3 จรี เปรมศรีรัตน์. กำเนิดพรรคประชาธิปัตย์ 6 เมษายน พ.ศ. 2489 : 61 ปีประชาธิปัตย์ยังอยู่ยั้งยืนยง. นนทบุรี : ใจกาย, 2552. 323 หน้า. ISBN 9789747046724
- ↑ สองฝั่งประชาธิปไตย, "2475" .สารคดีทางไทยพีบีเอส: 26 กรกฎาคม 2556
- ↑ นายหนหวย. ทหารเรือปฏิวัติ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน, พฤศจิกายน 2555 (พิมพ์ครั้งที่ 3). 124 หน้า. ISBN 9789740210252
- ↑ ควง อภัยวงศ์ ในวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง, นรนิติ เศรษฐบุตร ศ.ดร. คอลัมน์ ส่วนร่วมสังคมไทย: ศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555 เดลินิวส์ฉบับที่ 22,632
- ↑ เมืองไทยในอดีต รัชกาลที่ 8 ตอนที่ 3[ลิงก์เสีย]
- ↑ โดยได้มีพระราชบัญญัติคืนยศ บรรดาศักดิ์
- ↑ ฟื้นฟูกีฬาพื้นบ้าน[ลิงก์เสีย]
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (นายควง อภัยวงศ์ สมัยที่ ๓)
- ↑ "คารมเชือดคอของนายควง อภัยวงศ์". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-28. สืบค้นเมื่อ 2006-08-05.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๔ ตอนที่ ๔๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๑, ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๑๐
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๖๒ ตอนที่ ๔๕ ง หน้า ๑๒๕๖, ๒๑ สิงหาคม ๒๔๘๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๕๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๙๔๖, ๑๙ มิถุนายน ๒๔๘๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๕๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๒๐๖, ๑๕ กรกฎาคม ๒๔๘๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๙๗ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๕, ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, บัญชีรายนามผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ, เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๕๐๒, ๒๖ พฤษภาคม ๒๔๗๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญช่วยราชการภายใน, เล่ม ๕๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๙๔๘, ๒๓ มิถุนายน ๒๔๘๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๖๓ ตอนที่ ๑๗ ง หน้า ๔๒๖, ๒๖ มีนาคม ๒๔๘๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๘๕ ตอนที่ ๒๓ ง หน้า ๗๖๕, ๕ มีนาคม ๒๕๑๑
![]() |
วิกิคำคมมีคำคมเกี่ยวกับ ควง อภัยวงศ์ |
![]() |
วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ: |
![]() |
วิกิซอร์ซ มีงานต้นฉบับเกี่ยวกับ: |
- เรื่องนายควง อภัยวงศ์ เก็บถาวร 2009-02-22 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- หนังสือนายควง อภัยวงศ์ กับพรรคประชาธิปัตย์ โดย ณัฐวุฒิ สุทธิสงคราม 2511
- หนังสือ 100 ปี ควง อภัยวงศ์ โดย ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช 2545
- หนังสือชีวลิต โดย หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช 2548
- หนังสือตรัง โดย ยืนหยัด ใจสมุทร 2539
- หนังสือ 2484 ญี่ปุ่นบุกไทย โดย ส.คลองหลวง 2543
- คารมเชือดคอของนายควง อภัยวงศ์ เก็บถาวร 2007-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- ประวัติที่เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล เก็บถาวร 2007-05-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ประวัติที่เว็บไซต์สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เก็บถาวร 2007-09-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ประวัติที่เว็บไซต์รัฐสภาสำหรับเยาวชน-ยุวชนรัฐสภา เก็บถาวร 2006-12-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ประวัติที่เว็บไซต์สถานทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา เก็บถาวร 2005-11-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ควง อภัยวงศ์ |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2445
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2511
- บุคคลจากจังหวัดพระตะบอง
- ควง อภัยวงศ์
- นายกรัฐมนตรีไทย
- ผู้นำที่พ้นตำแหน่งจากรัฐประหาร
- นักการเมืองไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยแบบแต่งตั้ง
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนคร
- รัฐมนตรีไทยที่ไม่ได้ประจำกระทรวง
- รองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทย
- ทหารบกชาวไทย
- สมาชิกคณะราษฎร
- พรรคประชาธิปัตย์
- บรรดาศักดิ์ชั้นหลวง
- สกุลอภัยวงศ์
- ชาวไทยเชื้อสายเขมร
- บุคคลจากโรงเรียนเทพศิรินทร์
- บุคคลจากโรงเรียนอัสสัมชัญ
- นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- เสียชีวิตจากมะเร็งปอด
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายหน้า)
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ม.
- ผู้ได้รับเหรียญจักรมาลา
- ผู้ได้รับเหรียญรัตนาภรณ์ อ.ป.ร.1
- ผู้ได้รับเหรียญรัตนาภรณ์ ภ.ป.ร.1
- บุคคลในประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์