สุวัจน์ ลิปตพัลลภ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
ม.ป.ช., ม.ว.ม., ป.ภ.
สุวัจน์ ลิปตพัลลภในปี 2553
รองนายกรัฐมนตรี
ดำรงตำแหน่ง
2 สิงหาคม พ.ศ. 2548 – 19 กันยายน พ.ศ. 2549
นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร
ดำรงตำแหน่ง
5 มีนาคม พ.ศ. 2545 – 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545
นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ดำรงตำแหน่ง
11 มีนาคม พ.ศ. 2548 – 2 สิงหาคม พ.ศ. 2548
นายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร
ก่อนหน้า พงศ์เทพ เทพกาญจนา
ถัดไป พลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดำรงตำแหน่ง
17 ธันวาคม พ.ศ. 2537 – 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2538
นายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย
ก่อนหน้า พิศาล มูลศาสตรสาทร
ถัดไป ยิ่งพันธ์ มนะสิการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ดำรงตำแหน่ง
25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540
นายกรัฐมนตรี พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
ก่อนหน้า วันมูหะมัดนอร์ มะทา
ถัดไป สุเทพ เทือกสุบรรณ
ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า
อยู่ในวาระ
เริ่มดำรงตำแหน่ง
16 ตุลาคม พ.ศ. 2565
ก่อนหน้า วรรณรัตน์ ชาญนุกูล
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 (68 ปี)
อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
พรรค พรรคชาติพัฒนา
คู่สมรส พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ
ศาสนา พุทธ

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา[1][2] ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย และอดีตรัฐมนตรีว่าการหลายกระทรวง เป็นหนึ่งในแกนนำพรรครวมชาติพัฒนา[3] (ปัจจุบันคือพรรคชาติพัฒนากล้า) แต่ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไป 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เนื่องจากถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี

ประวัติ[แก้]

เครื่องบินของสุวัจน์

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เกิดวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 ที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรของนายวิศว์ และนางจรัสพิมพ์ ลิปตพัลลภ (สกุลเดิม : ศักดิ์สมบูรณ์) นับเป็นบุตรคนที่สามในพี่น้องทั้งหมด 5 รายจากรายนามต่อไปนี้ นายสังวรณ์ ลิปตพัลลภ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน[4]นายเสวี ลิปตพัลลภ, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ, พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[5][6], อดีตที่ปรึกษา สบ.10[7] และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ ประธานสโมสรนครราชสีมา เอฟซี สโมสรฟุตบอลนครราชสีมา

สุวัจน์ ลิปตพัลลภจบการศึกษาระดับประถมจากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี และระดับมัธยมจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโท วิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเพอร์ดู รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา

สมรสกับ พลโทหญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีบุตรด้วยกัน 2 คนคือ นายพสุ ลิปตพัลลภ และ น.ส.พราวพุธ ลิปตพัลลภ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์[8]

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ มีเครื่องบินส่วนตัวหนึ่งลำได้แก่ HS-SPL ย่อมาจาก Mr Suwat Liptapanlop

ตำแหน่งทางการเมือง[แก้]

นายสุวัจน์ เริ่มเข้าสู่การเมืองในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2531 ต่อมาในปี พ.ศ. 2533 ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัน (1)[9] พ.ศ. 2534 เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัน (2)[10]

ภายหลังการยุบสภาในปี พ.ศ. 2535 นายสุวัจน์ ได้เข้าร่วมกับพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นายกร ทัพพะรังสี และสมาชิกอีกจำนวนหนึ่ง จัดตั้งพรรคชาติพัฒนาขึ้น[11]

ในรัฐบาลของพลเอก สุจินดา คราประยูร ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม[12] และในปี พ.ศ. 2538 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย พ.ศ. 2540 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาลของชวลิต ยงใจยุทธ[13] และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย

ในปี พ.ศ. 2545 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย รัฐบาลของทักษิณ ชินวัตร (1)[14] และ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2547 เป็นรองนายกรัฐมนตรี ต่อจากนั้นไม่นานก้ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในรัฐบาลของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร (2)[15]

นายสุวัจน์ เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ต่อจากนายกร ทัพพะรังสี ซึ่งลาออกไปร่วมกับพรรคไทยรักไทย และต่อมาในปี พ.ศ. 2548 นายสุวัจน์ จึงประกาศยุบพรรคชาติพัฒนาเข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทย ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549[16] จึงได้นำสมาชิกในกลุ่มย้ายไปสังกัดพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา

การกีฬา[แก้]

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย วาระปี พ.ศ. 2552 - พ.ศ. 2556 และดำรงตำแหน่งนายกลอนเทนนิสสมาคมอีกด้วยและประธานกิตติมศักดิ์ สโมสรฟุตบอลจังหวัดนครราชสีมา

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
  2. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งนายกสภาประจำสถาบันราชภัฏ (คุณหญิงจรัสศรี ทีปิรัช, นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ, ศาสตราจารย์เกษม จันทร์แก้ว, ศาสตราจารย์ศุภมาศ พนิชศักดิ์พัฒนา, ศาสตราจารย์เสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์)
  3. สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ตัวจริงรวมใจไทยชาติพัฒนา
  4. "ชีวประวัติ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-06. สืบค้นเมื่อ 2012-10-02.
  5. อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
  6. ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[ลิงก์เสีย]
  7. อดีตที่ปรึกษา สบ.10
  8. พราวผุดคอนโดลักชัวรีในหัวหินรับเปิดเมืองจับกลุ่มครอบครัว-รีไทร์เมนท์
  9. พระบรมราชโองการ ประกาศ ให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง และตั้งรัฐมนตรี (ให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ๑๗ ราย และตั้งรัฐมนตรี จำนวน ๒๐ ราย)
  10. พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๕ ราย)
  11. "ได้เข้าร่วมกับพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นายกร ทัพพะรังสี และสมาชิกอีกจำนวนหนึ่ง จัดตั้งพรรคชาติพัฒนาขึ้น". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-20. สืบค้นเมื่อ 2010-01-05.
  12. พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๕๐ ราย)
  13. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๙ ราย)
  14. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี
  15. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี
  16. "เปิดรายชื่อ ทั้ง 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี !!!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-08. สืบค้นเมื่อ 2011-06-02.
  17. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2010-02-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๒ ตอนที่ ๑๗ ข หน้า ๒, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๘
  18. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๐ ตอนที่ ๒๐๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๔, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๖
  19. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือผู้ประสบธรณีพิบัติภัย “สึนามิ”, เล่ม ๑๒๒ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๒, ๓ ธันวาคม ๒๕๔๘

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]