ใหญ่ ศวิตชาติ
ใหญ่ ศวิตชาติ | |
---|---|
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม | |
ดำรงตำแหน่ง 14 มีนาคม พ.ศ. 2518 – 8 มกราคม พ.ศ. 2519 | |
นายกรัฐมนตรี | หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช |
ก่อนหน้า | เทียม ไชยนันทน์ |
ถัดไป | บุญเท่ง ทองสวัสดิ์ |
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ | |
ดำรงตำแหน่ง 30 กันยายน พ.ศ. 2498 – 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2511 – 26 กันยายน พ.ศ. 2513 | |
ก่อนหน้า | ชวลิต อภัยวงศ์ |
ถัดไป | ธรรมนูญ เทียนเงิน |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 7 ตุลาคม พ.ศ. 2450 อำเภออุไทยเก่า จังหวัดอุทัยธานี |
เสียชีวิต | 12 มกราคม พ.ศ. 2525 (74 ปี) |
คู่สมรส | เจริญใจ ศวิตชาติ |
ใหญ่ ศวิตชาติ (7 ตุลาคม พ.ศ. 2450 – 12 มกราคม พ.ศ. 2525) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ 8 สมัย
ประวัติ
[แก้]นายใหญ่ ศวิตชาติ เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2450 ที่หมู่ 2 ตำบลหนองนางนวล อำเภออุไทยเก่า (ปัจจุบันคือ อำเภอหนองฉาง) จังหวัดอุทัยธานี เป็นบุตรชายของนายขาว และนางเปี่ยม ขามเทศ ต่อมาจึงได้เปลี่ยนนามสกุลมาเป็น "ศวิตชาติ" สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนวัดหนองกระทุ่ม อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี และสำเร็จการศึกษาวิชาครูมูล จากโรงเรียนฝึกหัดครูจังหวัดนครสวรรค์ และ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง จนสำเร็จการศึกษาธรรมศาสตร์บัณฑิตเมื่อปี พ.ศ. 2481 ชีวิตครอบครัว สมรสกับนางเจริญใจ ศวิตชาติ
การทำงาน
[แก้]นายใหญ่เริ่มเข้ารับราชการเป็นครูที่โรงเรียนประจำอำเภอหนองฉาง และต่อมาได้สอบได้เป็นปลัดอำเภอ ประจำอยู่ที่อำเภอลาดยาว และอำเภอเมืองนครสวรรค์ จากนั้นได้เข้ารับราชการเป็นตำรวจ ในยศร้อยตำรวจตรี (ร.ต.ต.) ต่อมาได้ย้ายกลับมาเป็นนายอำเภอลาดยาวอีกครั้ง แล้วจึงย้ายไปเป็นนายอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ก่อนที่จะย้ายไปเป็นนายอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม
งานการเมือง
[แก้]นายใหญ่ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์ครั้งแรก ในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2487 ซึ่งตรงกับสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยการแทนที่ขุนอนุกูลประชากร ผู้แทนราษฎรคนเก่าที่เสียชีวิตอย่างกระทันหันด้วยเหตุระเบิดที่หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง และได้รับเลือกเรื่อยมา จนถึง พ.ศ. 2519 รวม 8 สมัย
นายใหญ่ ถือเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรฝีปากกล้า เพียงรับตำแหน่งเพียงสมัยเดียวก็อภิปรายรัฐบาลในรัฐสภาจนเป็นที่ประจักษ์ ในที่สุดเมื่อจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีต้องลาออกจากตำแหน่ง และเป็นนายควง อภัยวงศ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีต่อมา นายใหญ่จึงได้รับตำแหน่งทางการเมืองเพิ่มเติมด้วยการเป็นเลขานุการรัฐมนตรี และได้เข้าร่วมรัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ ในสมัยต่อมาด้วยการเป็นรัฐมนตรีสั่งการกระทรวงคมนาคม เมื่อรัฐบาลนายควงสิ้นสุดลง นายใหญ่จึงรวมกับนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง เช่น นายเลียง ไชยกาล, นายฟอง สิทธิธรรม, นายสมบุญ ศิริธร ร่วมกันก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมา ในปี พ.ศ. 2489 โดยมีนายควง อภัยวงศ์ เป็นหัวหน้าพรรค และม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นรองหัวหน้าพรรค โดยนายใหญ่เป็นกรรมการบริหารพรรคด้วย ในปี พ.ศ. 2489 เขาได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ในรัฐบาลองนายควง อภัยวงศ์[1]
ต่อมาหลังการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2490 นายใหญ่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์อยู่เป็นระยะเวลาสั้น ๆ ต่อมาเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เมื่อได้มีกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาอย่างเป็นทางการ นายใหญ่จึงได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โดยบทบาทของผู้เป็นเลขาธิการพรรคในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 ที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องต่อสู้กับพรรคเสรีมนังคศิลา ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม อย่างเข้มข้น ในฐานะเลขาธิการพรรค นายใหญ่ได้เดินทางไปช่วยผู้สมัครของพรรคหาเสียงตามจังหวัดต่าง ๆ ตลอดจนคัดเลือกผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ทำให้เป็นที่รู้จักของผู้คนมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางการทุจริตการเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง อันเป็นเหตุที่ทำให้มีการรัฐประหารในปีเดียวกัน ซึ่งทำให้ไม่มีพรรคการเมืองและสภาผู้แทนราษฎรไปนานถึง 11 ปี
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2512 เมื่อนายควง อภัยวงศ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนแรกถึงแก่กรรม ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรคให้เป็นหัวหน้าพรรคต่อ นายใหญ่ก็ได้รับตำแหน่งเลขาธิการพรรคต่อมาอีกด้วย[2]
หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 นายใหญ่ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติในปีเดียวกัน[3] และต่อมาในปี พ.ศ. 2517 ก็ได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมกับม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์คนแรก ก่อตั้งพรรคกิจสังคมขึ้นมา และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในรัฐบาลม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เมื่อปี พ.ศ. 2518[4]
นายใหญ่ ศวิตชาติ ยุติบทบาททางการเมืองลงอย่างสิ้นเชิงหลังแพ้การเลือกตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2522[2]
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
[แก้]นายใหญ่ ศวิตชาติ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสิ้น 8 สมัย คือ
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2481 (เลือกตั้งซ่อม) จังหวัดนครสวรรค์
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป มกราคม พ.ศ. 2489 จังหวัดนครสวรรค์
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2491 จังหวัดนครสวรรค์
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์[5]
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป ธันวาคม พ.ศ. 2500 จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์[6]
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2512 จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2518 จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดพรรคกิจสังคม
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2519 จังหวัดนครสวรรค์ สังกัดพรรคกิจสังคม
ถึงแก่อนิจกรรม
[แก้]ใหญ่ ศวิตชาติ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2525[2]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2518 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[7]
- พ.ศ. 2513 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)[8]
- พ.ศ. 2487 – เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ร.)[9]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๒๑ ราย)
- ↑ 2.0 2.1 2.2 หน้า 10 บทความ–การ์ตูน, ใหญ่ ศวิตชาติ : อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์. "ส่วนร่วมสังคมไทย" โดย นรนิติ เศรษฐบุตร. เดลินิวส์ฉบับที่ 24,368: วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 แรม 12 ค่ำ เดือน 7 ปีวอก
- ↑ "พระบรมราชโองการ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-27. สืบค้นเมื่อ 2014-07-08.
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๒๖ ราย)
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไป
- ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั่วไป พ.ศ. ๒๕๐๐ ครั้งที่ ๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๙๒ ตอนที่ ๒๗๓ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๔๘, ๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๗ ตอนที่ ๑๒๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗๖๕, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญช่วยราชการเขตภายใน, เล่ม ๖๑ ตอนที่ ๓๓ ง หน้า ๙๕๑, ๓๐ พฤษภาคม ๒๔๘๗
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2450
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2525
- บุคคลจากอำเภอหนองฉาง
- ครูชาวไทย
- ตำรวจชาวไทย
- ข้าราชการพลเรือนชาวไทย
- นักการเมืองจากจังหวัดอุทัยธานี
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไทย
- รัฐมนตรีไทยที่ไม่ได้ประจำกระทรวง
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครสวรรค์
- สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์
- นักการเมืองพรรคกิจสังคม
- บุคคลจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ต.ม.