เจตนา นาควัชระ
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ เจตนา นาควัชระ (เกิดวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2480 —) เป็นอดีตคณบดีคณะอักษรศาสตร์ และอดีตรองอธิการบดี แห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร ดร. เจตนา ยังเป็นนักวิจารณ์วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงและโดดเด่นคนหนึ่งในสังคมไทย นอกจากนี้ยังเป็นผู้ประดิษฐ์คำว่า "วัฒนธรรมแห่งการวิจารณ์"[1] "สายกลางแห่งการวิจารณ์"[2] และ "วานรชำราบ"[3] เป็นต้น
ประวัติ[แก้]
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ เจตนา นาควัชระ หรือ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.เจตนา นาควัชระ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2480 ที่กรุงเทพฯ จบมัธยมปลายที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ เมื่อ พ.ศ. 2497 โดยสอบได้เป็นที่ 1 ของประเทศในแผนกอักษรศาสตร์ จากนั้นจึงศึกษาต่อในคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนจบชั้นปีที่ 1 ได้รับทุนรัฐบาลไปศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ จบปริญญาตรีสาขาภาษาปัจจุบันจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ แล้วศึกษาต่อระดับปริญญาเอก สาขาวรรณคดีเปรียบเทียบ ณ มหาวิทยาลัยทือบิงเงน ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ศาสตราจารย์ ดร.เจตนา นาควัชระ กลับมารับราชการในกระทรวงศึกษาธิการ จนถึง พ.ศ. 2511 จากนั้นท่านจึงย้ายไปเป็นอาจารย์รุ่นแรกของมหาวิทยาลัยศิลปากร ณ พระราชวังสนามจันทร์ เมื่อ พ.ศ. 2514 แล้วจึงออกจากราชการไปปฏิบัติราชการในองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Ministers of Education Organization หรือ SEAMEO) ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้รักษาการแทนต่อมาได้กลับเข้ารับราชการในมหาวิทยาลัยศิลปากร ในตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวางแผนพัฒนา จนกระทั่งเกษียณอายุราชการในตำแหน่งศาสตราจารย์ระดับ 11 ใน พ.ศ. 2540
รางวัล[แก้]
- มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
- Goethe Medal และ Bundesverdienstkreuz (First Class) จากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน
- Chevalier dans l’ordre des arts et des lettres จากฝรั่งเศส
- เป็น Fulbright Visiting Professor ที่ U.C. Berkeley สหรัฐอเมริกา
- ได้รับ Research Prize in the Humanities จากมูลนิธิ Alexander von Humboldt เยอรมนี
- ได้รับเชิญให้เป็นปาฐถก ในการแสดงปาฐกถาปฐมฤกษ์ของสถาบันปรีดี พนมยงค์
- ได้รับเชิญให้เป็นปาฐก การศึกษาเพื่อความเป็นไทสนทนาครั้งปฐมฤกษ์ ซึ่งจัดโดยกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท
แนวคิด[แก้]
คนจนนั้นใช่ว่าจะถูกกำหนดด้วยสิ่งแวดล้อมจนเป็นทาสของวัตถุไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนจนยังมีความเป็นมนุษย์ คนจนยังมีทางเลือกที่จะเป็นอิสระ เป็นไทแก่ตัวเอง นั้นก็คือการเปลี่ยนสภาพ เปลี่ยนถิ่นฐาน จากความจนชนิดหนึ่งไปสู่ความจนอีกแบบหนึ่งนั่นเอง[4]— เจตนา นาควัชระ
หนังสือที่เขียนขึ้น[แก้]
- กวีนิพนธ์เยอรมัน : บทวิเคราะห์และสรรนิพนธ์ : รายงานการวิจัย 2541
- จากตะวันออก-ตะวันตก สู่โลกาภิวัฒน์ทางปัญญา 2546
- เก่ากับใหม่อะไรดี : มนุษยศาสตร์ไทยในกระแสของความเปลี่ยนแปลง 2548
- ครุ่นคิดพินิจนึก 2544
- ความอยู่รอดของมนุษยศาสตร์ไทย 2552
- คู่มือ Leben des Galilei ของ Bertolt Brecht 2522
- จากแผ่นดินแม่สู่แผ่นดินอื่น : รวมบทความวิชาการและบทวิจารณ์ 2548
- ทฤษฎีเบื้องต้นแห่งวรรณคดี 2521
อ้างอิง[แก้]
- ↑ เจตนา นาควัชระ.(2552) พลังปัญญาทางมนุษยศาสตร์(พิมพ์ครั้งที่1). กรุงเทพฯ โครงการวิถีทรรศน์ (หน้า 59)
- ↑ เจตนา นาควัชระ.(2555) ทางสายกลางแห่งวิจารณ์(พิมพ์ครั้งที่1). กรุงเทพฯ Openbooks (หน้า 9)
- ↑ เจตนา นาควัชระ.(2542) ลบเส้นพรมแดนแห่งศิลปะ(พิมพ์ครั้งที่1). กรุงเทพฯ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร (หน้า 12)
- ↑ เจตนา นาควัชระ (2530). ทางอันไม่รู้จบของวัฒนธรรมแห่งการวิจารณ์ (พิมพ์ครั้งที่1). กรุงเทพฯ: เทียนวรรณ