ข้ามไปเนื้อหา

สังข์ทอง ศรีธเรศ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สังข์ทอง ศรีธเรศ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ดำรงตำแหน่ง
23 กันยายน พ.ศ. 2536 – 11 ธันวาคม พ.ศ. 2537
นายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัย
ดำรงตำแหน่ง
29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 15 สิงหาคม พ.ศ. 2540
นายกรัฐมนตรีพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด30 มิถุนายน พ.ศ. 2484
อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
เสียชีวิต1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 (58 ปี)
ศาสนาพุทธ
คู่สมรสบุญรื่น ศรีธเรศ

สังข์ทอง ศรีธเรศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย และรัฐบาลของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาฬสินธุ์ 7 สมัย

ประวัติ

[แก้]

สังข์ทอง ศรีธเรศ เกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2484 เป็นบุตรของนายเคน และนางเทา ศรีธเรศ มีพี่น้อง 7 คน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้านชีวิตครอบครัวได้สมรสกับนางบุญรื่น ศรีธเรศ (สกุลเดิม:มัธยมนันทน์) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีบุตร-ธิดา 3 คน

การทำงาน

[แก้]

สังข์ทอง ศรีธเรศ ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ ครั้งแรกในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2526 สังกัดพรรคกิจสังคม ต่อมาในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2535 จึงได้ย้ายมาสังกัดพรรคความหวังใหม่ และได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลของนายชวน หลีกภัย[1] ในปี พ.ศ. 2535 และในรัฐบาลของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ พ.ศ. 2537[2][3]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๘ ราย)
  2. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๔๙ ราย)
  3. "ทำเนียบรัฐมนตรี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-19. สืบค้นเมื่อ 2011-09-19.
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-12-03 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๑, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๗
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2022-10-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๐ ตอนที่ ๒๐๐ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓, ๓ ธันวาคม ๒๕๓๖
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี เก็บถาวร 2022-10-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๑ ตอนที่ ๑๕ ข หน้า ๙๖, ๑๗ สิงหาคม ๒๕๓๗