ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
พลเอก ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ (พ.ศ. 2478 – 6 ธันวาคม พ.ศ. 2562) เป็นนายทหารชาวไทย อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก
ประวัติ
[แก้]ชีวิตส่วนตัว
[แก้]พล.อ. ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2478 ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ในครอบครัวชาวนาที่ค่อนข้างยากจน โดยบิดาเป็นนายตำรวจยศพันตำรวจโท มารดาเป็นแม่บ้าน เป็นลูกชายเพียงคนเดียวในบรรดาลูกทั้งหมด 5 คน
พล.อ. ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ สมรสกับนางจุฑามณี เอี่ยมสุพรรณ ซึ่งเป็นอดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีบุตรด้วยกันทั้งหมด 8 คน[1]
การศึกษา
[แก้]พล.อ. ปรีชา จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนวัดทรงธรรม จังหวัดสมุทรปราการ[1] และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 7
การทำงาน
[แก้]ราชการทหาร
[แก้]พล.อ.ปรีชา เมื่อรับราชการ ได้ชื่อว่าเป็นนายทหารนักรบ ผ่านสมรภูมิต่าง ๆ เช่น การปราบปรามคอมมิวนิสต์, สงครามเวียดนาม และสงครามกลางเมืองลาว จนได้เงินเพิ่มสู้รบมากถึง 16 ขั้น ซึ่งนับว่ามากที่สุดในกองทัพไทย
เคยเป็นรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก และเป็นที่ปรึกษาของ พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ ในฐานะหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการในขณะที่ พล.อ. ชาติชาย ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในปี พ.ศ. 2534
ตำแหน่งทหาร
[แก้]- พ.ศ. 2503 : ประจำศูนย์การทหารปืนใหญ่
- พ.ศ. 2503 : ผู้บังคับหมวด กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1
- พ.ศ. 2504 : ผู้ช่วยนายทหารฝ่ายยุทธการ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1
- พ.ศ. 2506 : รองผู้บังคับกองร้อย กองร้อยปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1
- พ.ศ. 2509 : ผู้บังคับกองร้อย กองร้อยปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1
- พ.ศ. 2509 : นายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึก กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 1 รักษาพระองค์ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 2
- พ.ศ. 2513 : หัวหน้าฝ่ายกำลังพล กองพลทหารราบที่ 3
- พ.ศ. 2515 : หัวหน้าแผนก กรมกำลังพลทหารบก
- พ.ศ. 2516 : นายทหารฝ่ายเสนาธิการ กรมกำลังพลทหารบก
- พ.ศ. 2516 : หัวหน้าฝ่ายข่าวกรอง กองพลทหารราบที่ 9
- พ.ศ. 2520 : รองเสนาธิการ กองพลทหารราบที่ 9
- พ.ศ. 2524 : เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 9
- พ.ศ. 2527 : รองเสนาธิการ กรมยุทธศึกษาทหารบก
- พ.ศ. 2528 : เสนาธิการ กรมยุทธศึกษาทหารบก
- พ.ศ. 2532 : รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก
- พ.ศ. 2534 : หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- พ.ศ. 2538 : ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก
ราชการพิเศษ
[แก้]- พ.ศ. 2508 : ปฏิบัติราชการพิเศษในการยับยั้งการรุกรานของฝ่ายคอมมิวนิสต์
- พ.ศ. 2512 : ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายยุทธกาทางรอากาศ กองพลทหารอาสาสมัคร
- พ.ศ. 2514 : ปฏิบัติราชการพิเศษในพระราชอาณาจักรลาว
- พ.ศ. 2519 : ปฏิบัติราชการปรามปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์
- พ.ศ. 2524 : ปฏิบัติราชการตามแผนป้องกันประเทศของกองทัพบก
- พ.ศ. 2529 : นายทหารราชองครักษ์[2]
- พ.ศ. 2532 : ราชองครักษ์เวร[3]
- พ.ศ. 2535 : ราชองครักษ์เวร[4]
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ : ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
งานพิเศษ
[แก้]เมื่อเกษียณอายุราชการแล้ว ได้ผันตัวเองเข้าทำงานด้านส่งเสริมคุณธรรมและเผยแผ่พุทธศาสนา โดยเป็นที่ปรึกษาและรองประธานศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม หรือที่นิยมเรียกว่า "ศูนย์คุณธรรม" ซึ่งตั้งขึ้นโดย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ในปี พ.ศ. 2547 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมี พล.ต. จำลอง ศรีเมือง อดีตนายทหารเพื่อนร่วมรุ่นเป็นประธาน นอกจากนี้ ยังเป็นกรรมการและที่ปรึกษาการจัดงานวันวิสาขบูชาโลกในปี พ.ศ. 2550
หลังการรัฐประหาร 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ได้มีชื่อรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในแบบสรรหาด้วย ในฐานะข้าราชการบำนาญของกระทรวงกลาโหม แต่ไม่ได้รับการรับเลือก[5]
เข้าร่วมกับการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในการชุมนุมเมื่อปี พ.ศ. 2551 โดยได้ขึ้นเวทีปราศรัยอย่างโดดเด่น เพราะมักปราศรัยด้วยวาทะและท่าทีที่ดุเดือด
เสียชีวิต 6 ธันวาคม 2562
วิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557
[แก้]ในวิกฤตการณ์การเมืองไทย พ.ศ. 2556–2557 พล.อ. ปรีชาได้ร่วมกับนายทหารระดับนายพลเกษียณอายุราชการหลายคน ที่เคยเข้าร่วมกับองค์การพิทักษ์สยาม มาก่อน ก่อตั้งกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณขึ้นมา โดยมุ่งหมายล้มรัฐบาลที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเริ่มต้นชุมนุมขึ้นที่สวนลุมพินี ร่วมกับคณะสันติอโศกตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ต่อมาในวันที่ 7 ตุลาคม ปีเดียวกัน ทางแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณได้ตัดสินใจยกระดับการชุมนุมเข้าปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลมิให้ทางรัฐบาลเข้าไปทำงานด้านในได้ ซึ่งทางรัฐบาลก็ได้ประกาศพระราชบัญญัติความมั่นคงในสถานการณ์ฉุกเฉิน ขึ้นมาบังคับใช้ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้รุกคืบเข้ามาขอคืนพื้นที่ชุมนุม จนในวันที่ 10 ตุลาคม ทางแกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ โดย พล.อ. ปรีชา ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีมติที่จะกลับไปชุมนุมยังสถานที่เดิม คือ สวนลุมพินี ยังความไม่พอใจแก่ผู้ชุมนุมบางส่วนที่สมทบกันเข้ามา จึงแยกตัวออกไปชุมนุมต่างหากในชื่อเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย[6]
ต่อมาเมื่อมีการก่อตั้งกปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) ขึ้นมาที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ทางแกนนำกปท.ก็มีชื่อเป็นคณะกรรมการด้วย และได้ชุมนุมคู่ขนานกันไป โดยในวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557 ที่ทางกปปส.ได้จัดชุมนุมใหญ่แบบปิดทางแยกสำคัญ ๆ หลายแยกในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กปท.ก็ได้ชุมนุมคู่ขนานโดยทำการปิดสะพานพระราม 8 จนถึงแยกวิสุทธิ์กษัตริย์ด้วย[7]
ในวันที่ 14 พฤษภาคม ปีเดียวกัน จากการชุมนุมในครั้งนี้ ศาลอาญาอนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส. รวม 43 คน ผู้ต้องหาคดีกบฏ และความผิดอื่น รวม 8 ข้อหา เพื่อติดตามตัวมาดำเนินกระบวนการตามกฎหมาย พล.อ. ปรีชา มีชื่อเป็นผู้ต้องหาหมายเลขที่ 1[8][9]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]ไทย
[แก้]- พ.ศ. 2535 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[10]
- พ.ศ. 2532 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[11]
- พ.ศ. 2516 – เหรียญชัยสมรภูมิ การรบ ณ สาธารณรัฐเวียดนาม (ช.ส.) (ประดับเปลวระเบิด)[12]
- พ.ศ. 2519 – เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 2 (ส.ช.)[13]
- พ.ศ. 2511 – เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)[14]
- พ.ศ. 2513 – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)[15]
ต่างประเทศ
[แก้]- สหรัฐ :
- เวียดนามใต้ :
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณจากเว็บไซต์สันติอโศก
- ↑ ราชการพิเศษหรือตำแหน่งพิเศษ
- ↑ ราชการพิเศษหรือตำแหน่งพิเศษ
- ↑ ราชการพิเศษหรือตำแหน่งพิเศษ
- ↑ "พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ" ประธาน "พันธมิตร" สาขา2จากเว็บไซต์มติชน
- ↑ "'นิติธร ล้ำเหลือ'"ไม่มีนักการเมืองคนไหนมาสั่งผมได้"". ผู้จัดการออนไลน์. 19 October 2013. สืบค้นเมื่อ 26 April 2015.[ลิงก์เสีย]
- ↑ กองบรรณาธิการคมชัดลึก. บันทึกมวลมหาประชาชน. กรุงเทพฯ : คมชัดลึกมีเดีย, 2557. 204 หน้า. ISBN 978-616-737-713-1
- ↑ "ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 30 แกนนำ กปปส. ที่เหลือยกคำร้อง". Thairath.co.th. 14 พฤษภาคม 2557. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2557.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ศาลอนุมัติออกหมายจับแกนนำ กปปส. 30 ราย-ยกคำร้อง 13". Posttoday.com. 14 พฤษภาคม 2557. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-06-15. สืบค้นเมื่อ 17 พฤษภาคม 2557.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help); ระบุ|archivedate=
และ|archive-date=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ระบุ|archiveurl=
และ|archive-url=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help) - ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2015-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๐๙ ตอนที่ ๑๕๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๕, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๐๖ ตอนที่ ๒๑๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๓, ๔ ธันวาคม ๒๕๓๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องหมายเปลวระเบิดสำหรับประดับแพรแถบเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๙๐ ตอนที่ ๑๘๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒๙, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๙๓ ตอนที่ ๑๑๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๗, ๑๕ กันยายน ๒๕๑๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม ๘๕ ตอนที่ ๘๙ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗, ๓ ตุลาคม ๒๕๑๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๘๗ ตอนที่ ๑๒๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗๙๕, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๓
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]