ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชวลิต ยงใจยุทธ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Suwarode (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 80: บรรทัด 80:
ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553 พลเอกชวลิต และ นาย [[สมชาย วงศ์สวัสดิ์]] ได้ออกแถลงการณ์ขอร้องให้<ref>https://www.sanook.com/news/923131/</ref> [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] ทรงหยุดวิกฤตการเมือง
ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553 พลเอกชวลิต และ นาย [[สมชาย วงศ์สวัสดิ์]] ได้ออกแถลงการณ์ขอร้องให้<ref>https://www.sanook.com/news/923131/</ref> [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] ทรงหยุดวิกฤตการเมือง


ต่อมาในวันที่ [[18 เมษายน]] [[พ.ศ. 2554]] ท่ามกลาง[[ข่าวลือ]]ที่มีมาช่วงระยะหนึ่ง พล.อ.ชวลิตก็ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ คนใกล้ชิดของ พล.อ.ชวลิตอ้างว่า พล.อ.ชวลิตไม่พอใจที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนที่เข้าทำกิจกรรมร่วมกับทาง[[แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ]] (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง และมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อนหน้านั้นไม่นาน<ref>[http://www.prachatouch.co.th/web/news_detail.asp?id=30861 อึดอัดแดงจาบจ้วง!'จิ๋ว'ชี้เหตุทิ้งเพื่อไทยเตรียมแจงใหญ่2วันนี้ จาก[[ประชาทรรศน์]]]</ref>
ต่อมาในวันที่ [[18 เมษายน]] [[พ.ศ. 2554]] ท่ามกลาง[[ข่าวลือ]]ที่มีมาช่วงระยะหนึ่ง พล.อ.ชวลิตก็ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ คนใกล้ชิดของ พล.อ.ชวลิตอ้างว่า พล.อ.ชวลิตไม่พอใจที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนที่เข้าทำกิจกรรมร่วมกับทาง[[แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ]] (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง และมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อนหน้านั้นไม่นาน

ภายหลัง[[รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557]] วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เขากล่าวให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระวังเกิดปฏิวัติซ้ำ <ref>http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9570000143032</ref> ต่อมาในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เขากล่าวตอนนึงว่า การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ทำให้เศรษฐกิจดีหรือไม่นั้นต้องไปถามประชาชนว่ากินอิ่ม นอนหลับหรือไม่ ถ้าหากประชาชนยังไม่มีกินก็ต้องไปแก้ปัญหาตรงนี้ <ref>http://www.komchadluek.net/detail/20160513/227578.html</ref> ซึ่งนับเป็นปัญหาของทุกรัฐบาล ในขณะที่ คุณหญิง [[พันธุ์เครือ ยงใจยุทธ]] แสดงความเห็นว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความเคารพ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ต่อมาวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561 พลเอก ชวลิต เสนอตัวติดโรคเอดส์เพื่อประเทศชาติล่าสุดพล.อ.ชวลิต ทำให้ พล.อ.[[เปรม ติณสูลานนท์]]อดีตนายรัฐมนตรีต้องจบชีวิตโดยปริยาย<ref>https://prachatai.com/journal/2018/09/78900</ref>


=== งานการศาสนา ===
=== งานการศาสนา ===

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:17, 9 ตุลาคม 2562

ชวลิต ยงใจยุทธ
ไฟล์:Chavalit.jpg
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 22
ดำรงตำแหน่ง
25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540
(0 ปี 349 วัน)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
รองนายกรัฐมนตรีสุขวิช รังสิตพล
อำนวย วีรวรรณ
กร ทัพพะรังสี
มนตรี พงษ์พานิช
สมัคร สุนทรเวช
ทักษิณ ชินวัตร
วีรพงษ์ รามางกูร
สุวิทย์ คุณกิตติ
ก่อนหน้าบรรหาร ศิลปอาชา
ถัดไปชวน หลีกภัย
ผู้บัญชาการทหารบก
ดำรงตำแหน่ง
27 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2533
(3 ปี 308 วัน)
ก่อนหน้าอาทิตย์ กำลังเอก
ถัดไปสุจินดา คราประยูร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ดำรงตำแหน่ง
23 กันยายน พ.ศ. 2536 – 7 มกราคม พ.ศ. 2537
นายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัย
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รักษาราชการ)
ดำรงตำแหน่ง
1 ตุลาคม พ.ศ. 2530 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2533
(2 ปี 181 วัน)
ก่อนหน้าสุภา คชเสนี
ถัดไปสุนทร คงสมพงษ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ดำรงตำแหน่ง
30 มีนาคม พ.ศ. 2533 – 10 มิถุนายน พ.ศ. 2533
ดำรงตำแหน่ง
13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539
ดำรงตำแหน่ง
29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540
ดำรงตำแหน่ง
17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 (91 ปี)
จังหวัดนนทบุรี ประเทศสยาม
พรรคการเมืองเพื่อไทย (2552-2554)
ไทยรักไทย (2545-2548)
ความหวังใหม่ (2533 - 2545)
คู่สมรสวิภา (หย่า)
พิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (หย่า)
พันธุ์เครือ ลิมปภมร(หย่า)
อรทัย ยงใจยุทธ
ลายมือชื่อไฟล์:ลายเซ็น ชวลิต ยงใจยุทธ.png
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
สังกัดกองทัพไทย
ประจำการพ.ศ. 2503–2533
ยศ พลเอก[1]
พลเรือเอก
พลอากาศเอก[2]
บังคับบัญชากองบัญชาการกองทัพไทย

พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ (เกิด 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475) นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คนที่ 22 อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม อดีตผู้บัญชาการทหารบก และอดีตรักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุด

เป็นเจ้าของสมญา "ขงเบ้งแห่งกองทัพบก"[ต้องการอ้างอิง] เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา ขณะดำรงตำแหน่งทางทหาร เป็นผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคความหวังใหม่คนแรก และเป็นอดีต ส.ส.หลายสมัย มีคะแนนเสียงหนาแน่นในจังหวัดนครพนม

ประวัติ

พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ (ชื่อเล่น: ตึ๋ง)[3] เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 ที่จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตรของร้อยเอก ชั้น ยงใจยุทธ และนางสุรีย์ศรี (นามเดิม: ละมุน) ยงใจยุทธ มีพี่สาวต่างบิดาชื่อ สุมน สมสาร และน้องชายต่างมารดาชื่อธรรมนูญ ยงใจยุทธ[3] สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากนั้น จึงไปสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เมื่อ พ.ศ. 2496 และ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2507

ชวลิตสมรสครั้งแรกกับวิภา[3] ครั้งที่สองกับพิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (นามเดิม: ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์)[4][5][6] และสมรสครั้งที่สามกับคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ (ลิมปภมร) ชวลิตมีบุตร 3 คนกับภรรยาคนแรก คือ นายคฤกพล ยงใจยุทธ นางอรพิณ นพวงศ์ (ถึงแก่กรรม) และพันตำรวจตรีหญิง ศรีสุภางค์ โสมกุล

ชวลิตเป็นพระภาดา(ลูกพี่ลูกน้อง)ในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดชทางพระมารดา โดยหม่อมเล็ก ภาณุพันธ์ ณ อยุธยา มีศักดิ์เป็นป้าแท้ๆ ของเขา

การทำงาน

ราชการทหารช่วงสงครามเย็น

ภายหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงในพ.ศ. 2518 ด้วยชัยชนะของฝ่ายเวียดนามเหนือ และกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ถอนกำลังออกจากภูมิภาคอินโดจีน ทำให้กองทัพเวียดนามเริ่มรุกรานประเทศกัมพูชา จนเกิดเป็นสงครามกัมพูชา–เวียดนามขึ้นและทำให้รัฐบาลเขมรแดงซึ่งมีจีนคอมมิวนิสต์หนุนหลังอยู่หมดอำนาจลง แต่กองกำลังของเขมรแดงนี้ได้ถอยร่นมาอยู่บริเวณภาคตะวันตกของกัมพูชา นอกจากนี้กองทัพเวียดนามยังมีการประกาศว่ามีศักยภาพที่จะยึดกรุงเทพได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทำให้ไทยต้องตรึงกำลังทหารตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2528 กองทัพเวียดนามส่งทหารเข้าโจมตีกองกำลังเขมรแดงจนลึกเข้ามาถึงในอาณาเขตของไทย ทำให้เกิดการปะทะกับทหารไทยเป็นระยะๆ ประกอบกับกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ถอนกำลังจากประเทศไทยไปแล้ว ทำให้รัฐบาลไทยมีความวิตกกังวลในเรื่องการรับมือเวียดนามเป็นอันมาก

ในระหว่างนั้นรัฐบาลไทยได้ส่งคณะนายทหารจำนวนสามนายปฏิบัติราชการลับ ซึ่งประกอบด้วย พลโทผิน เกสร, พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ และ พันเอกพัฒน์ อัคนิบุตร เดินทางไปเจรจาความกับ เติ้ง เสี่ยวผิง ที่ประเทศจีน โดยจีนได้ตกลงที่จะเลิกให้ที่พักพิงกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และยังได้สนันสนุนยุทโธปกรณ์จำนวนหนึ่งให้แก่กองทัพไทยและตัดสินใจก่อสงครามกับเวียดนาม โดยพันเอกชวลิต ยงใจยุทธได้รับเกียรติจากกองทัพจีนให้ยิงปืนใหญ่นัดแรกจากกว่างซีเข้าสู่ดินแดนเวียดนาม ทำให้เวียดนามต้องถอนกำลังจากกัมพูชาเพื่อไปต้านการรุกรานจากจีน

งานการเมือง

พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้วเข้าสู่การเมือง ก่อตั้งพรรคความหวังใหม่ ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี พ.ศ. 2535 พล.อ.ชวลิต เป็นหนึ่งในผู้ที่ปราศรัยขับไล่ พลเอกสุจินดา คราประยูร ที่สนามหลวง เป็นคนแรกด้วย การเมืองหลังจากนั้น พรรคความหวังใหม่กลายเป็นพรรคที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดในภาคอีสาน

ต่อมาเมื่อพรรคความหวังใหม่ชนะในการเลือกตั้งเมื่อปลายปี พ.ศ. 2539 พล.อ.ชวลิต ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคจึงขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี[7] แต่ต่อมาได้ลาออกเนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 ก่อนที่จะย้ายพรรคมาสังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2544 และ พลเอก ดร.ชวลิต ก็รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตรสมัยแรกด้วย

หลังเหตุการณ์รัฐประหารในปี พ.ศ. 2549 พล.อ.ชวลิต พยายามจะเป็นผู้เสนอตัวไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจระหว่างกลุ่มผู้ที่ขับไล่ทักษิณ และกลุ่มผู้ที่สนับสนุนทักษิณ ให้ "สมานฉันท์" กัน โดยเรียกบทบาทตัวเองว่า "โซ่ข้อกลาง" รวมทั้งมีการข่าวว่าอาจจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่แล้วตำแหน่งนี้ในที่สุดก็ตกเป็นของสมัคร สุนทรเวช

ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.ชวลิตได้เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่เจรจากับฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยเฉพาะ แต่หลังจากรับตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่หน้าอาคารรัฐสภา พล.อ.ชวลิตก็ขอลาออกทันที

ในกลางปี พ.ศ. 2552 หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในกรณีเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แล้วนั้น พลเอกชวลิตก็ได้สมัครเข้าสู่พรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่าต้องการเข้ามาเพื่อสมานฉันท์ โดยไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร[8] และหลังจากนั้นทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีมติให้เขาดำรงตำแหน่งประธานพรรค

ในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553 พลเอกชวลิต ขึ้นเวทีของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ[9] โดยประกาศตอนหนึ่งว่า ว่า นายวีระ นายแน่มาก และไม่เคยเห็นมหาชนที่ประกอบภารกิจที่ศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดิน และทำสำเร็จแล้ววันนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะทำอะไรอย่าไปสนใจ

ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553 พลเอกชวลิต และ นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ออกแถลงการณ์ขอร้องให้[10] พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงหยุดวิกฤตการเมือง

ต่อมาในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554 ท่ามกลางข่าวลือที่มีมาช่วงระยะหนึ่ง พล.อ.ชวลิตก็ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ คนใกล้ชิดของ พล.อ.ชวลิตอ้างว่า พล.อ.ชวลิตไม่พอใจที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนที่เข้าทำกิจกรรมร่วมกับทางแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง และมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อนหน้านั้นไม่นาน

งานการศาสนา

สนับสนุนให้มีการผลักดันพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขึ้นเป็นการเฉพาะ การศึกษาของคณะสงฆ์ไทยที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนา ในปี พ.ศ. 2540นายสุขวิช รังสิตพลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอให้รัฐสภาตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 ของคณะสงฆ์ไทย ฝ่าย(ธรรมยุตินิกาย) และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 ของคณะสงฆ์ไทย ฝ่าย(มหานิกาย) ส่งผลให้มหาวิทยาลัยของคณะสงฆ์ไทยทั้งสองแห่ง มีพระราชบัญญัติรับรองสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ และเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ เน้นจัดการศึกษาวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและศาสตร์แขนงอื่นๆ

วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540

รัฐบาลของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรัฐบาลที่มีส่วนรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน เมื่อปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ที่ทำให้ประเทศไทยล้มละลาย และลุกลามไปทั่วโลกและส่งผลต่อสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2540 เนื่องจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลงถึง 554.26 จุด ไปปิดที่ 7161.15. จุด คิดเป็นร้อยละ 7.18% ด้วยการทำเงินคงคลังทั้งหมดของประเทศเข้าไปอุ้มค่าเงินบาท ซึ่งถูกปล่อยขายในขณะนั้น ธุรกิจของเหล่าแกนหลักของรัฐบาลชุดนี้ ยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้รับผลกระทบต่อวิกฤตการณ์แต่อย่างใด ในขณะที่ธุรกิจของบุคคลโดยทั่วไปที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง กับคนในรัฐบาลนั้น ได้รับผลกระทบถึงขั้นล้มละลายเป็นจำนวนมาก จนมีการประท้วงโดยประชาชนส่งผลทำให้พลเอกชวลิตต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2540

รางวัลและเกียรติยศ

พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้รับพระราชทานยศนายกองใหญ่แห่งกองอาสารักษาดินแดนเป็น พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก นายกองใหญ่ ชวลิต ยงใจยุทธ[11]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

อ้างอิง

  1. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2528/D/161/1.PDF
  2. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2531/D/010/11.PDF
  3. 3.0 3.1 3.2 "ชวลิต ยงใจยุทธ". ไทยรัฐ. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2557. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. แฟ้มบุคคลในทำเนียบ สมาคมดนตรีไทย. คุณ พิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์) [กรรมการ-ฝ่ายต่างประเทศและดนตรีนานาชาติ]. เรียกดูเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556
  5. "มูลนิธิมิราเคิลฯ รับดูแลเมียเก่า "บิ๊กจิ๋ว"" (Press release). เดลินิวส์. 12 กุมภาพันธ์ 2556. สืบค้นเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556. {{cite press release}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  6. "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงรับอดีตภรรยาบิ๊กจิ๋วเป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์" (Press release). ASTVผู้จัดการออนไลน์. 12 กุมภาพันธ์ 2556. สืบค้นเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556. {{cite press release}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ)
  8. 'บิ๊กจิ๋ว'มาแล้ว ปธ.เพื่อไทย ปัด'ทักษิณ'ทาบ
  9. http://www.komchadluek.net/news/detail/52894
  10. https://www.sanook.com/news/923131/
  11. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2536/D/020/1.PDF
  12. แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย) เล่ม ๑๐๐ ตอน ๒๐๗ ฉบับพิเศษ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖
  13. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๓, ตอน ๒๒ ข เล่ม ๐๐๓, ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙, หน้า ๒ ลำดับที่ ๒
  14. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้า เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีฉัตรมงคล วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๓๐), เล่ม ๑๐๔ ตอน ๘๖ ง ฉบับพิเศษ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๐
  15. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เล่ม ๑๐๗ ตอน ๕๕ ง ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๓ หน้า ๒๖๕๙
  16. ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ เล่ม ๑๐๗ ตอน ๒๐๐ ง ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ หน้า ๘๑๕๓

แหล่งข้อมูลอื่น

ก่อนหน้า ชวลิต ยงใจยุทธ ถัดไป
บรรหาร ศิลปอาชา ไฟล์:Seal Prime Minister of Thailand.png
นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (ครม.52)
(25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540)
ชวน หลีกภัย
ประมาณ อดิเรกสาร ไฟล์:Seal of the National Assembly of Thailand.png
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย
(15 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 - 16 มิถุนายน พ.ศ. 2535)
ประมาณ อดิเรกสาร
ชวน หลีกภัย ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย
(26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2541)
(2 กันยายน พ.ศ. 2541 - 27 เมษายน พ.ศ. 2542)
(12 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 - 30 เมษายน พ.ศ. 2543))
ชวน หลีกภัย
พลเรือเอก สุภา คชเสนี
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
(รักษาราชการ)

(1 ตุลาคม พ.ศ. 2530 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2533)
พลเอก สุนทร คงสมพงษ์
พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก
ผู้บัญชาการทหารบก
(27 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2533)
พลเอก สุจินดา คราประยูร