สมชาย เพศประเสริฐ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมชาย เพศประเสริฐ
ม.ป.ช., ม.ว.ม.
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ดำรงตำแหน่ง
15 กันยายน พ.ศ. 2553 – เมษายน พ.ศ. 2554
รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ
ดำรงตำแหน่ง
23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 – 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด 9 ธันวาคม พ.ศ. 2492 (73 ปี)
อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
พรรค ความหวังใหม่ (2535)
ชาติพัฒนา (2535-2538)
นำไทย (2538-2539
ประชาธิปัตย์ (2539-2543),(2565-2566),(2566-ปัจจุบัน)
ไทยรักไทย (2543-2550)
พลังประชาชน (2550-2551)
เพื่อไทย (2551-2554)
มาตุภูมิ (2554-2561)
พลังประชารัฐ (2561)
เพื่อชาติ (2561-2562)
รวมไทยสร้างชาติ ​(2566)​
ศาสนา พุทธ

พันตำรวจโท สมชาย เพศประเสริฐ อดีตตำรวจชาวไทยและอดีตนักการเมืองชาวไทย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ[1][2][3] อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม อดีตโฆษกกระทรวงมหาดไทย และ อดีตสมาชิกพรรคมาตุภูมิ

ประวัติ[แก้]

พ.ต.ท.สมชาย เกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2492 (73 ปี) ที่อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา จบการศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยกานปู้ร์ ประเทศอินเดีย

การทำงาน[แก้]

พ.ต.ท.สมชาย เคยรับราชการตำรวจ และได้ลาออกจากราชการในขณะที่มียศเป็นพันตำรวจโท จากนั้นจึงได้เข้าทำงานการเมือง ในปี พ.ศ. 2535 และดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประธานกรรมาธิการการทหาร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี[4] เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม และโฆษกกระทรวงมหาดไทย

พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ เคยเป็นกรรมการบริหารพรรคนำไทย ซึ่งนำโดย ดร.อำนวย วีรวรรณ เมื่อปี พ.ศ. 2538[5] และเขาเป็นสมาชิกกลุ่ม 16[6] ต่อมาจึงได้ย้ายมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังได้เข้าร่วมกับพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยตามลำดับ นอกจากนั้นยังได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553[7] ต่อมาในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2554 ได้ลาออกจากพรรคเพื่อไทย และไปร่วมงานกับพรรคมาตุภูมิ ของพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน[8] พ.ศ. 2561 เป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ[9] และ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เขาได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติ โดยระบุเหตุผลในหนังสือลาออกว่า เนื่องจากอุดมการณ์ แนวคิดและวิธีการบริหารพรรคการเมืองที่แตกต่างกัน[10] แต่ในปี 2562 เขาลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ[11] แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

พ.ต.ท.สมชาย เคยเป็นสมาชิกกลุ่มพลังโคราช สังกัดพรรคพลังประชารัฐ[12] ต่อมาได้เข้าร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์[13] และพรรครวมไทยสร้างชาติตามลำดับ[14] แต่ในปี 2566 เขาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. https://www.thaipost.net/main/detail/22569
  2. https://www.thairath.co.th/content/1428493
  3. https://www.naewna.com/politic/396812
  4. คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 138/2539 เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (พันตำรวจโท สมชาย เพศประเสริฐ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี)
  5. ประกาศสำนักงานนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง พรรคนำไทยเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคราชกิจจานุเบกษา เล่ม 112 ตอนที่ 56ง วันที่ 13 กรกฎาคม 2538
  6. แหยงกลุ่ม 16 ไม่กล้าแตะ ‘ราเกซ’[ลิงก์เสีย]
  7. "คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-09-27. สืบค้นเมื่อ 2010-11-09.
  8. "พล.อ.สนธิ" ยืนยัน "พ.ต.ท.สมชาย" ร่วมงานกับพรรคมาตุภูมิแล้ว[ลิงก์เสีย]
  9. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคเพื่อชาติ
  10. "สมชาย เพศประเสริฐ "ลาออก กก.บห.พรรคเพื่อชาติ
  11. 150ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติ เด็กจตุพร-ยงยุทธเพียบ
  12. พลังโคราชในปีกสามมิตร กองหนุน บิ๊กตู่-พลังประชารัฐ
  13. ประชาธิปัตย์ เปิดตัว 9 ผู้ท้าชิงเลือกตั้ง ส.ส. นครราชสีมา มั่นใจได้ที่นั่ง
  14. "ลูกย่าโมออกศึก "ประยุทธ์" ท้ารบ"อุ๊งอิ๊ง" ชิงปาดป้อม". คมชัดลึกออนไลน์. 2023-02-02.
  15. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2007-01-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๓, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
  16. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย, เล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๒๒ ข หน้า ๗, ๔ ธันวาคม ๒๕๔๔
  17. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๑๐๒ ตอนที่ ๑๗๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๖๐, ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๒๘

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]