หลวงเดชาติวงศ์วราวัฒน์ (หม่อมหลวงกรี เดชาติวงศ์)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หม่อมหลวงกรี เดชาติวงศ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ดำรงตำแหน่ง
24 มีนาคม – 23 สิงหาคม พ.ศ. 2489
นายกรัฐมนตรีปรีดี พนมยงค์
ก่อนหน้ามุนี มหาสันทนะ เวชยันต์รังสฤษฎ์
ถัดไปวิลาศ โอสถานนท์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ดำรงตำแหน่ง
23 สิงหาคม พ.ศ. 2489 – 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490
นายกรัฐมนตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ก่อนหน้าสพรั่ง เทพหัสดิน ณ อยุธยา
ถัดไปทองอินทร์ ภูริพัฒน์
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
ดำรงตำแหน่ง
1 กันยายน พ.ศ. 2486 – 27 มีนาคม พ.ศ. 2487
นายกรัฐมนตรีแปลก พิบูลสงคราม
ก่อนหน้าสถาปนาตำแหน่ง
ถัดไปหม่อมหลวงอุดม สนิทวงศ์
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด30 สิงหาคม พ.ศ. 2445
มณฑลกรุงเทพ ประเทศสยาม
เสียชีวิต1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 (44 ปี)
จังหวัดกาญจนบุรี ประเทศไทย
พรรคการเมืองคณะราษฎร
คู่สมรสเจ้าหวลกลิ่น เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา
บุตร3 คน
อาชีพทหารบก

อำมาตย์ตรี นายพันตรี หลวงเดชาติวงศ์วราวัฒน์ อดีตนักการเมือง และรัฐมนตรีหลายกระทรวง หลวงเดชาติวงศ์วราวัฒน์ มีชื่อจริงว่า หม่อมหลวงกรี เดชาติวงศ์ เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2445 ณ ถนนตรีเพชร อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร โดยเป็นบุตรคนที่ 2 ของ หม่อมราชวงศ์เล็ก และหม่อมหลวงปุ้ย เดชาติวงศ์

ประวัติ[แก้]

หลวงเดชาติวงศ์วราวัฒน์ จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ จากนั้นได้ทุนของกรมรถไฟหลวงไปศึกษาวิชาวิศวกรรมโยธา ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2463 จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม จากนั้นกลับมารับราชการที่กรมรถไฟหลวงเมื่อปี พ.ศ. 2469 ตามคำสั่งกรมรถไฟหลวง ที่ ก.45/3536 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2469 ตำแหน่งรั้งนายช่างผู้ช่วย กองแบบแผน รับพระราชทานเงินเดือนๆละ 250 บาท รับราชการในกองแบบแผนอยู่ 3 เดือน ก็ย้ายไปประประจำ แผนกบำรุงทางและสถานที่ และในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2470 เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ช่วยนายช่างภาค แผนกสำรวจแนวทาง เริ่มทำการสำรวจทางรถไฟจากโคราชไปขอนแก่น ในปี พ.ศ. 2472 ย้ายกลับไปประจำกองแบบแผน กรมรถไฟหลวงตามเดิม เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2475 ได้รับตำแหน่งเป็นนายช่างกำกับการโรงงานมักกะสัน กรมรถไฟหลวง วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2476 ย้ายไปเป็นนายช่างกำกับการก่อสร้าง เพื่อควบคุมการสร้างทางรถไฟจากจังหวัดขอนแก่น ไปยังอำเภอกุมภวาปีจนกระทั่ง พ.ศ. 2477 มีความผันผวนทางกรมรถไฟหลวง หม่อมหลวงกรีฯ จำต้องย้ายมารับราชการในกอง กรมโยธาเทศบาล ม.ล.กรีฯ ได้จากกรมรถไฟหลวงมาด้วยความอาลัยเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ เพราะวิชาการรถไฟเป็นวิชาการที่ม.ล.กรีฯ ได้เรียนมาโดยตรง ม.ล.กรีฯ ย้ายเข้ารับราชการในตำแหน่งนายช่างชั้น 2 กองทาง กรมโยธาเทศบาล และได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้ากองทาง นายช่างใหญ่ กรมโยธาเทศบาล และดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทางหลวง เมื่อปี พ.ศ. 2484 โดยระหว่างรับราชการในกองทางและกรมทางหลวง โดยมีผลงานอำนวยการสร้างทางหลวงหลายสาย เช่น ทางสายตาก-แม่สอด, สายแม่สาย-เชียงตุง เป็นต้น ต่อมาขึ้นเป็นปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เมื่อปี พ.ศ. 2486

บทบาททางการเมือง[แก้]

หลวงเดชาติวงศ์วราวัฒน์ ได้เข้าร่วมกับคณะราษฎรฝ่ายพลเรือน ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อปี พ.ศ. 2475 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการชั่วคราว[1]และเป็นรัฐมนตรีที่ไม่ได้ประจำกระทรวง (ร.ม.ต.ลอย) อีกทั้งในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา ก็ได้เข้าร่วมกับขบวนการเสรีไทย

และเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 2 สมัย ในรัฐบาลที่มี จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี, เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลที่มี นายปรีดี พนมยงค์ เป็นนายกรัฐมนตรี[2] และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในรัฐบาล พลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ชีวิตครอบครัว[แก้]

หลวงเดชาติวงศ์วราวัฒน์ สมรสกับเจ้าหวลกลิ่น เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา (นามสกุลเดิม: ศรุตานนท์) ธิดาพระยาราชเดชดำรง (ผล ศรุตานนท์) กับคุณหญิงเจ้าหอมนวล ศรุตานนท์ (ราชธิดาในเจ้าพิริยเทพวงษ์ เจ้าผู้ครองนครแพร่องค์สุดท้าย) มีบุตร-ธิดารวม 3 คน ได้แก่

  • นางกุศลิน ศรียาภัย สมรสกับ นายนิตย์ ศรียาภัย
  • นายสุธี เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา สมรสกับ แพทย์หญิงขวัญฤดี เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา
  • นางสาวกีรติ เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา

ถึงแก่อนิจกรรม[แก้]

หลวงเดชาติวงศ์วราวัฒน์ ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 สิริอายุได้ 45 ปี ด้วยอุบัติเหตุขณะนั่งรถยนต์รางเดินทางไปตรวจสภาพทางรถไฟสายกาญจนบุรี-พม่า (ทางรถไฟสายมรณะ) ซึ่งฝ่ายสัมพันธมิตรยึดมาจากญี่ปุ่น เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ที่จะใช้ประโยชน์ทางรถไฟสายนี้ในเชิงพาณิชย์ ขบวนรถยนต์รางดังกล่าวได้ตกเหวลึก 8 เมตร ที่สะพานข้ามห้วยคอยทา หลักกิโลเมตรที่ 262 ระหว่างสถานีรถไฟปรังกาสีกับนิเถะ เนื่องจากรางรถไฟเกิดการทรุดตัว โดยหลวงเดชาติวงศ์วราวัฒน์ถึงแก่อนิจกรรมหลังประสบอุบัติเหตุเพียง 1 ชั่วโมง[3]

หลังจากถึงแก่อนิจกรรมไปแล้ว ทางรัฐบาลได้ทำการตั้งชื่อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาบนถนนพหลโยธินในเขตตัวอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ว่า "สะพานเดชาติวงศ์" เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงด้วย[4][5]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 49 หน้า 1338 วันที่ 17 กรกฎาคม 2475
  2. พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๑๖ ราย)
  3. โรม บุนนาค (11 สิงหาคม 2560). "กรมรถไฟไทยขอเวลาสร้างทางรถไฟสายมรณะ ๘ ปี แต่ญี่ปุ่นใช้เทคโนโลยีแบบอียิปต์สร้างพีรามิด เสร็จใน ๑๐ เดือน ๑๐ วัน!!!". เรื่องเก่า เล่าสนุก. ผู้จัดการออนไลน์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-13. สืบค้นเมื่อ 11 สิงหาคม 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. หม่อมหลวงกรี เดชาติวงศ์
  5. สะพานเดชาติวงศ์ จังหวัดนครสวรรค์[ลิงก์เสีย]
  6. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๖๐ ตอนที่ ๔๙ ง หน้า ๒๙๒๐, ๑๘ กันยายน ๒๔๘๖
  7. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2012-05-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๕๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๒๐๒, ๑๘ กันยายน ๒๔๘๔
  8. ราชกิจจานุเบกษา, บัญชีรายนาม ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ, เล่ม ๕๒ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๖๓๙, ๑๘ สิงหาคม ๒๔๗๘
  9. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญช่วยราชการเขตภายใน, เล่ม ๕๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๑๙๕๑, ๒๓ มิถุนายน ๒๔๘๔