ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชวลิต ยงใจยุทธ"
ล ย้อนการทำหน้าว่างไปรุ่นก่อนหน้านี้โดยบอต |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 57: | บรรทัด 57: | ||
ชวลิตสมรสครั้งแรกกับวิภา<ref name="ไทยรัฐ"/> ครั้งที่สองกับ[[พิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์]] (นามเดิม: ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์)<ref>แฟ้มบุคคลในทำเนียบ สมาคมดนตรีไทย. ''[http://www.music-associate.com/home/keyman/history/12-pimnipar.html คุณ พิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์) [กรรมการ-ฝ่ายต่างประเทศและดนตรีนานาชาติ]]''. เรียกดูเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556</ref><ref>{{cite press release |title=มูลนิธิมิราเคิลฯ รับดูแลเมียเก่า “บิ๊กจิ๋ว”|url=http://www.dailynews.co.th/entertainment/184302|publisher=เดลินิวส์|language=ไทย|date=12 กุมภาพันธ์ 2556|accessdate=17 กุมภาพันธ์ 2556}}</ref><ref>{{cite press release |title=ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงรับอดีตภรรยาบิ๊กจิ๋วเป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์|url=http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000018206|publisher=ASTVผู้จัดการออนไลน์|language=ไทย|date=12 กุมภาพันธ์ 2556|accessdate=17 กุมภาพันธ์ 2556}}</ref> และสมรสครั้งที่สามกับ[[พันธุ์เครือ ยงใจยุทธ|คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ]] (ลิมปภมร) ชวลิตมีบุตร 3 คนกับภรรยาคนแรก คือ นายคฤกพล ยงใจยุทธ นางอรพิณ นพวงศ์ (ถึงแก่กรรม) และพันตำรวจตรีหญิง ศรีสุภางค์ โสมกุล |
ชวลิตสมรสครั้งแรกกับวิภา<ref name="ไทยรัฐ"/> ครั้งที่สองกับ[[พิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์]] (นามเดิม: ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์)<ref>แฟ้มบุคคลในทำเนียบ สมาคมดนตรีไทย. ''[http://www.music-associate.com/home/keyman/history/12-pimnipar.html คุณ พิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์) [กรรมการ-ฝ่ายต่างประเทศและดนตรีนานาชาติ]]''. เรียกดูเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556</ref><ref>{{cite press release |title=มูลนิธิมิราเคิลฯ รับดูแลเมียเก่า “บิ๊กจิ๋ว”|url=http://www.dailynews.co.th/entertainment/184302|publisher=เดลินิวส์|language=ไทย|date=12 กุมภาพันธ์ 2556|accessdate=17 กุมภาพันธ์ 2556}}</ref><ref>{{cite press release |title=ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงรับอดีตภรรยาบิ๊กจิ๋วเป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์|url=http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000018206|publisher=ASTVผู้จัดการออนไลน์|language=ไทย|date=12 กุมภาพันธ์ 2556|accessdate=17 กุมภาพันธ์ 2556}}</ref> และสมรสครั้งที่สามกับ[[พันธุ์เครือ ยงใจยุทธ|คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ]] (ลิมปภมร) ชวลิตมีบุตร 3 คนกับภรรยาคนแรก คือ นายคฤกพล ยงใจยุทธ นางอรพิณ นพวงศ์ (ถึงแก่กรรม) และพันตำรวจตรีหญิง ศรีสุภางค์ โสมกุล |
||
กระทั่งในปี พ.ศ. 2561 ชวลิตได้ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สืบเนื่องจากสาเหตุละเลยไม้ฝั่งเพราะชวลิตติดเชื้อ[[เอชไอวี]]<ref>{{cite web |url= https://voicetv.co.th/read/HyYAllGX7 |title= 'ชวลิต' ติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์|author=|date= 10 กรกฎาคม 2561 |work= วอยซ์ทีวี |publisher= |accessdate= 21 กรกฎาคม 2561}}</ref> พล.อ.[[เปรม ติณสูลานนท์]] ไม่พูดถึง ชวลิต ขอเข้าพบเหมือนไม่รู้จักไร้ร่วมโลกใบเดียวกัน<ref>{{cite web |url= http://praew.com/people/184203.html |title= รู้จักโรคโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของ บิ๊กจิ๋ว โดนป๋าแจกของลับให้ กับเส้นทางรักมัดใจ |author=|date= 10 กรกฎาคม 2561 |work= แพรว |publisher= |accessdate= 21 กรกฎาคม 2561}}</ref> เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 พร้อมโดนจัดหนัก<ref>{{cite web |url= https://www.thairath.co.th/content/1331558 |title= บิ๊กจิ๋ว รับติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ |author=|date= 10 กรกฎาคม 2561 |work= ไทยรัฐออนไลน์ |publisher= |accessdate= 21 กรกฎาคม 2561}}</ref><ref>{{cite web |url= https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_1323993 |title= “บิ๊กจิ๋ว” เปิดใจแล้ว-รับติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์” |author=|date= 10 กรกฎาคม 2561 |work= ข่าวสด |publisher= |accessdate= 21 กรกฎาคม 2561}}</ref> |
|||
== การทำงาน == |
== การทำงาน == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:27, 10 เมษายน 2562
ชวลิต ยงใจยุทธ | |
---|---|
ไฟล์:Chavalit.jpg | |
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 22 | |
ดำรงตำแหน่ง 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 (0 ปี 349 วัน) | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช |
รองนายกรัฐมนตรี | สุขวิช รังสิตพล อำนวย วีรวรรณ กร ทัพพะรังสี มนตรี พงษ์พานิช สมัคร สุนทรเวช ทักษิณ ชินวัตร วีรพงษ์ รามางกูร สุวิทย์ คุณกิตติ |
ก่อนหน้า | บรรหาร ศิลปอาชา |
ถัดไป | ชวน หลีกภัย |
ผู้บัญชาการทหารบก | |
ดำรงตำแหน่ง 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2533 (3 ปี 308 วัน) | |
ก่อนหน้า | อาทิตย์ กำลังเอก |
ถัดไป | สุจินดา คราประยูร |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน | |
ดำรงตำแหน่ง 23 กันยายน พ.ศ. 2536 – 7 มกราคม พ.ศ. 2537 | |
นายกรัฐมนตรี | ชวน หลีกภัย |
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รักษาราชการ) | |
ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ.ศ. 2530 – 31 มีนาคม พ.ศ. 2533 (2 ปี 181 วัน) | |
ก่อนหน้า | สุภา คชเสนี |
ถัดไป | สุนทร คงสมพงษ์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง 30 มีนาคม พ.ศ. 2533 – 10 มิถุนายน พ.ศ. 2533 | |
ดำรงตำแหน่ง 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 – 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 | |
ดำรงตำแหน่ง 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 | |
ดำรงตำแหน่ง 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 – 3 ตุลาคม พ.ศ. 2545 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 (92 ปี 72 วัน) จังหวัดนนทบุรี ประเทศไทย |
ศาสนา | พุทธ |
พรรคการเมือง | เพื่อไทย (2552-2554) ไทยรักไทย (2545-2548) ความหวังใหม่ (2533 - 2545) |
คู่สมรส | วิภา (หย่า) พิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (หย่า) คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ |
ลายมือชื่อ | ไฟล์:ลายเซ็น ชวลิต ยงใจยุทธ.png |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
สังกัด | กองทัพไทย |
ประจำการ | พ.ศ. 2503 - พ.ศ. 2533 |
ยศ | ![]() ![]() ![]() |
บังคับบัญชา | กองบัญชาการกองทัพไทย |
พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชวลิต ยงใจยุทธ (15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 — ) เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย คนที่ 22 อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม อดีตผู้บัญชาการทหารบกและอดีตรักษาการผู้บัญชาการทหารสูงสุด
เป็นเจ้าของสมญา "ขงเบ้งแห่งกองทัพบกหลังจากนั้นได้คว้าฉายา จิ๋วเอชไอวี จากการมีบุคลิกติดเชื้อโรคเอชไอวี"[ต้องการอ้างอิง] เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็น สมาชิกวุฒิสภา ขณะดำรงตำแหน่งทางทหาร เป็นผู้ก่อตั้ง และหัวหน้า พรรคความหวังใหม่ คนแรก และเป็นอดีต ส.ส.หลายสมัย มีคะแนนเสียงหนาแน่นในจังหวัดนครพนม
ประวัติ
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ (ชื่อเล่น: ตึ๋ง)[3] เกิดวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2475 ที่จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตรของร้อยเอก ชั้น ยงใจยุทธ และนางสุรีย์ศรี (นามเดิม: ละมุน) ยงใจยุทธ มีพี่สาวต่างบิดาชื่อ สุมน สมสาร และน้องชายต่างมารดาชื่อธรรมนูญ ยงใจยุทธ[3] สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จากนั้น จึงไปสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เมื่อ พ.ศ. 2496 และ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2507
ชวลิตสมรสครั้งแรกกับวิภา[3] ครั้งที่สองกับพิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (นามเดิม: ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์)[4][5][6] และสมรสครั้งที่สามกับคุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ (ลิมปภมร) ชวลิตมีบุตร 3 คนกับภรรยาคนแรก คือ นายคฤกพล ยงใจยุทธ นางอรพิณ นพวงศ์ (ถึงแก่กรรม) และพันตำรวจตรีหญิง ศรีสุภางค์ โสมกุล
การทำงาน
ราชการทหารช่วงสงครามเย็น
ภายหลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลงในพ.ศ. 2518 ด้วยชัยชนะของฝ่ายเวียดนามเหนือ และกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ถอนกำลังออกจากภูมิภาคอินโดจีน ทำให้กองทัพเวียดนามเริ่มรุกรานประเทศกัมพูชา จนเกิดเป็นสงครามกัมพูชา–เวียดนามขึ้นและทำให้รัฐบาลเขมรแดงซึ่งมีจีนคอมมิวนิสต์หนุนหลังอยู่หมดอำนาจลง แต่กองกำลังของเขมรแดงนี้ได้ถอยร่นมาอยู่บริเวณภาคตะวันตกของกัมพูชา นอกจากนี้กองทัพเวียดนามยังมีการประกาศว่ามีศักยภาพที่จะยึดกรุงเทพได้ภายใน 2 ชั่วโมง ทำให้ไทยต้องตรึงกำลังทหารตลอดชายแดนไทย-กัมพูชา จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2528 กองทัพเวียดนามส่งทหารเข้าโจมตีกองกำลังเขมรแดงจนลึกเข้ามาถึงในอาณาเขตของไทย ทำให้เกิดการปะทะกับทหารไทยเป็นระยะๆ ประกอบกับกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ถอนกำลังจากประเทศไทยไปแล้ว ทำให้รัฐบาลไทยมีความวิตกกังวลในเรื่องการรับมือเวียดนามเป็นอันมาก
ในระหว่างนั้นรัฐบาลไทยได้ส่งคณะนายทหารจำนวนสามนายปฏิบัติราชการลับ ซึ่งประกอบด้วย พลโทผิน เกสร, พันเอกชวลิต ยงใจยุทธ และ พันเอกพัฒน์ อัคนิบุตร เดินทางไปเจรจาความกับ เติ้ง เสี่ยวผิง ที่ประเทศจีน โดยจีนได้ตกลงที่จะเลิกให้ที่พักพิงกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และยังได้สนันสนุนยุทโธปกรณ์จำนวนหนึ่งให้แก่กองทัพไทยและตัดสินใจก่อสงครามกับเวียดนาม โดยพันเอกชวลิต ยงใจยุทธได้รับเกียรติจากกองทัพจีนให้ยิงปืนใหญ่นัดแรกจากกว่างซีเข้าสู่ดินแดนเวียดนาม ทำให้เวียดนามต้องถอนกำลังจากกัมพูชาเพื่อไปต้านการรุกรานจากจีน
งานการเมือง
พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและผู้บัญชาการทหารสูงสุด แล้วเข้าสู่การเมือง ก่อตั้งพรรคความหวังใหม่ ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี พ.ศ. 2535 พล.อ.ชวลิต เป็นหนึ่งในผู้ที่ปราศรัยขับไล่ พลเอกสุจินดา คราประยูร ที่สนามหลวง เป็นคนแรกด้วย การเมืองหลังจากนั้น พรรคความหวังใหม่กลายเป็นพรรคที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดในภาคอีสาน
ต่อมาเมื่อพรรคความหวังใหม่ชนะในการเลือกตั้งเมื่อปลายปี พ.ศ. 2539 พล.อ.ชวลิต ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคจึงขึ้นดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี[7] แต่ต่อมาได้ลาออกเนื่องจากเกิดวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในปี พ.ศ. 2540 ก่อนที่จะย้ายพรรคมาสังกัดพรรคไทยรักไทย ในปี พ.ศ. 2544 และ พลเอก ดร.ชวลิต ก็รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตรสมัยแรกด้วย
หลังเหตุการณ์รัฐประหารในปี พ.ศ. 2549 พล.อ.ชวลิต พยายามจะเป็นผู้เสนอตัวไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจระหว่างกลุ่มผู้ที่ขับไล่ทักษิณ และกลุ่มผู้ที่สนับสนุนทักษิณ ให้ "สมานฉันท์" กัน โดยเรียกบทบาทตัวเองว่า "โซ่ข้อกลาง" รวมทั้งมีการข่าวว่าอาจจะเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน แต่แล้วตำแหน่งนี้ในที่สุดก็ตกเป็นของสมัคร สุนทรเวช
ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.ชวลิตได้เข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่เจรจากับฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดยเฉพาะ แต่หลังจากรับตำแหน่งเพียงไม่กี่วัน ก็เกิดเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่หน้าอาคารรัฐสภา พล.อ.ชวลิตก็ขอลาออกทันที
ในกลางปี พ.ศ. 2552 หลังจากถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในกรณีเหตุการณ์นองเลือดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม แล้วนั้น พลเอกชวลิตก็ได้สมัครเข้าสู่พรรคเพื่อไทย โดยให้เหตุผลว่าต้องการเข้ามาเพื่อสมานฉันท์ โดยไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร[8] และหลังจากนั้นทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีมติให้เขาดำรงตำแหน่งประธานพรรค
ในวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553 พลเอกชวลิต ขึ้นเวทีของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ[9] โดยประกาศตอนหนึ่งว่า ว่า นายวีระ นายแน่มาก และไม่เคยเห็นมหาชนที่ประกอบภารกิจที่ศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดิน และทำสำเร็จแล้ววันนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะทำอะไรอย่าไปสนใจ
ในวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2553 พลเอกชวลิต และ นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้ออกแถลงการณ์ขอร้องให้[10] พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงหยุดวิกฤตการเมือง
ต่อมาในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2554 ท่ามกลางข่าวลือที่มีมาช่วงระยะหนึ่ง พล.อ.ชวลิตก็ได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ คนใกล้ชิดของ พล.อ.ชวลิตอ้างว่า พล.อ.ชวลิตไม่พอใจที่มีสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคนที่เข้าทำกิจกรรมร่วมกับทางแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือ กลุ่มคนเสื้อแดง และมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ก่อนหน้านั้นไม่นาน[11]
ภายหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 วันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557 เขากล่าวให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระวังเกิดปฏิวัติซ้ำ [12] ต่อมาในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 เขากล่าวตอนนึงว่า การบริหารงานของรัฐบาลชุดนี้ทำให้เศรษฐกิจดีหรือไม่นั้นต้องไปถามประชาชนว่ากินอิ่ม นอนหลับหรือไม่ ถ้าหากประชาชนยังไม่มีกินก็ต้องไปแก้ปัญหาตรงนี้ [13] ซึ่งนับเป็นปัญหาของทุกรัฐบาล ในขณะที่ คุณหญิง พันธุ์เครือ ยงใจยุทธ แสดงความเห็นว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความเคารพ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ต่อมาวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2561 พลเอก ชวลิต เสนอตัวติดโรคเอดส์เพื่อประเทศชาติ[14]
งานการศาสนา
สนับสนุนให้มีการผลักดันพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขึ้นเป็นการเฉพาะ การศึกษาของคณะสงฆ์ไทยที่จัดการศึกษาในรูปแบบมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนา เป็นสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนา ในปี พ.ศ. 2540นายสุขวิช รังสิตพลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้เสนอให้รัฐสภาตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 ของคณะสงฆ์ไทย ฝ่าย(ธรรมยุตินิกาย) และพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ. 2540 ของคณะสงฆ์ไทย ฝ่าย(มหานิกาย) ส่งผลให้มหาวิทยาลัยของคณะสงฆ์ไทยทั้งสองแห่ง มีพระราชบัญญัติรับรองสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ และเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการและไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ เน้นจัดการศึกษาวิชาการด้านพระพุทธศาสนาและศาสตร์แขนงอื่นๆ
รัฐบาลของพลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นรัฐบาลที่มีส่วนรับผิดชอบต่อวิกฤตการณ์ทางการเงิน เมื่อปี พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) ที่ทำให้ประเทศไทยล้มละลาย และลุกลามไปทั่วโลกและส่งผลต่อสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2540 เนื่องจากดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวลดลงถึง 554.26 จุด ไปปิดที่ 7161.15. จุด คิดเป็นร้อยละ 7.18% ด้วยการทำเงินคงคลังทั้งหมดของประเทศเข้าไปอุ้มค่าเงินบาท ซึ่งถูกปล่อยขายในขณะนั้น ธุรกิจของเหล่าแกนหลักของรัฐบาลชุดนี้ ยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ได้รับผลกระทบต่อวิกฤตการณ์แต่อย่างใด ในขณะที่ธุรกิจของบุคคลโดยทั่วไปที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง กับคนในรัฐบาลนั้น ได้รับผลกระทบถึงขั้นล้มละลายเป็นจำนวนมาก จนมีการประท้วงโดยประชาชนส่งผลทำให้พลเอกชวลิตต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2540
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/f/fa/Wikiquote-logo.svg/34px-Wikiquote-logo.svg.png)
รางวัลและเกียรติยศ
พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ได้รับพระราชทานยศนายกองใหญ่แห่งกองอาสารักษาดินแดนเป็น พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก นายกองใหญ่ ชวลิต ยงใจยุทธ[15]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2527 -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้น มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก
- พ.ศ. 2526 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[16]
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก (ท.ช.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 2 ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก (ต.ช.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 3 ตริตาภรณ์มงกุฎไทย (ต.ม.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก (จ.ช.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 4 จัตุรถาภรณ์มงกุฎไทย (จ.ม.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฏ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์ช้างเผือก (บ.ช.)
- พ.ศ. ไม่ปรากฎ –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 5 เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย (บ.ม.)
- พ.ศ. 2539 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 1 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.)[17]
- พ.ศ. 2530 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.)[18]
- พ.ศ. 2533 -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้นที่ 2 มหาโยธิน [19](ม.ร.)
- พ.ศ. 2533 -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ[20]
- พ.ศ. 2511 -
เหรียญชัยสมรภูมิเวียดนาม (ร.ช.ส.) ประดับเครื่องหมายเปลวระเบิด
- พ.ศ. 2529 –
เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 (ส.ช.)
- พ.ศ. 2510 –
เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)
- พ.ศ. 2509 -
เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)
- พ.ศ. 2513 -
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 4 (ภ.ป.ร.4)
อ้างอิง
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2528/D/161/1.PDF
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2531/D/010/11.PDF
- ↑ 3.0 3.1 3.2 "ชวลิต ยงใจยุทธ". ไทยรัฐ. สืบค้นเมื่อ 31 สิงหาคม 2557.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ แฟ้มบุคคลในทำเนียบ สมาคมดนตรีไทย. คุณ พิมพ์นิภา มนตรีอาภรณ์ (ประเสริฐศรี จันทน์อาภรณ์) [กรรมการ-ฝ่ายต่างประเทศและดนตรีนานาชาติ]. เรียกดูเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556
- ↑ "มูลนิธิมิราเคิลฯ รับดูแลเมียเก่า "บิ๊กจิ๋ว"" (Press release). เดลินิวส์. 12 กุมภาพันธ์ 2556. สืบค้นเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556.
{{cite press release}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ "ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ทรงรับอดีตภรรยาบิ๊กจิ๋วเป็นคนไข้ในพระอนุเคราะห์" (Press release). ASTVผู้จัดการออนไลน์. 12 กุมภาพันธ์ 2556. สืบค้นเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2556.
{{cite press release}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ)
- ↑ 'บิ๊กจิ๋ว'มาแล้ว ปธ.เพื่อไทย ปัด'ทักษิณ'ทาบ
- ↑ http://www.komchadluek.net/news/detail/52894
- ↑ https://www.sanook.com/news/923131/
- ↑ อึดอัดแดงจาบจ้วง!'จิ๋ว'ชี้เหตุทิ้งเพื่อไทยเตรียมแจงใหญ่2วันนี้ จากประชาทรรศน์
- ↑ http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9570000143032
- ↑ http://www.komchadluek.net/detail/20160513/227578.html
- ↑ https://prachatai.com/journal/2018/09/78900
- ↑ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2536/D/020/1.PDF
- ↑ แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย) เล่ม ๑๐๐ ตอน ๒๐๗ ฉบับพิเศษ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๑๑๓, ตอน ๒๒ ข เล่ม ๐๐๓, ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๙, หน้า ๒ ลำดับที่ ๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ จุลจอมเกล้า เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีฉัตรมงคล วันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๓๐), เล่ม ๑๐๔ ตอน ๘๖ ง ฉบับพิเศษ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๐
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี เล่ม ๑๐๗ ตอน ๕๕ ง ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๓ หน้า ๒๖๕๙
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ เล่ม ๑๐๗ ตอน ๒๐๐ ง ๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ หน้า ๘๑๕๓
แหล่งข้อมูลอื่น
ก่อนหน้า | ชวลิต ยงใจยุทธ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
บรรหาร ศิลปอาชา | ![]() |
ไฟล์:Seal Prime Minister of Thailand.png นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย (ครม.52) (25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 – 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540) |
![]() |
ชวน หลีกภัย |
ประมาณ อดิเรกสาร | ![]() |
ไฟล์:Seal of the National Assembly of Thailand.png ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย (15 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 - 16 มิถุนายน พ.ศ. 2535) |
![]() |
ประมาณ อดิเรกสาร |
ชวน หลีกภัย | ![]() |
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย (26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2541) (2 กันยายน พ.ศ. 2541 - 27 เมษายน พ.ศ. 2542) (12 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 - 30 เมษายน พ.ศ. 2543)) |
![]() |
ชวน หลีกภัย |
พลเรือเอก สุภา คชเสนี | ![]() |
![]() ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (รักษาราชการ) (1 ตุลาคม พ.ศ. 2530 - 31 มีนาคม พ.ศ. 2533) |
![]() |
พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ |
พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก | ![]() |
![]() ผู้บัญชาการทหารบก (27 พฤษภาคม พ.ศ. 2529 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2533) |
![]() |
พลเอก สุจินดา คราประยูร |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2475
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- บุคคลจากจังหวัดนนทบุรี
- ชาวไทยเชื้อสายลาว
- นักการเมืองไทย
- นายกรัฐมนตรีไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนนทบุรี
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครพนม
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยแบบบัญชีรายชื่อ
- สมาชิกวุฒิสภาไทยแบบแต่งตั้ง
- ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรไทย
- พรรคความหวังใหม่
- พรรคไทยรักไทย
- พรรคเพื่อไทย
- พรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย
- ทหารบกชาวไทย
- ผู้บัญชาการทหารสูงสุดไทย
- ผู้บัญชาการทหารบกของกองทัพไทย
- ทหารเรือชาวไทย
- ทหารอากาศชาวไทย
- ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน
- บุคคลจากโรงเรียนอำนวยศิลป์
- บุคคลจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
- บุคคลจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยนครพนม
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ภ.
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ท.จ.ว. (ฝ่ายหน้า)
- สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ร.
- สมาชิกเหรียญจักรมาลา
- สมาชิกเหรียญรัตนาภรณ์ ภ.ป.ร.4
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง