ถนอม กิตติขจร
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง คุณสามารถพัฒนาบทความนี้ได้โดยเพิ่มแหล่งอ้างอิงตามสมควร เนื้อหาที่ขาดแหล่งอ้างอิงอาจถูกลบออก |
จอมพล ถนอม กิตติขจร ป.จ., ส.ร., ม.ป.ช., ม.ว.ม. | |
---|---|
![]() | |
พลโท ถนอม กิตติขจร (ยศในขณะนั้น) ในปี พ.ศ. 2503 | |
นายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 10 | |
ดำรงตำแหน่ง 9 ธันวาคม 2506 – 14 ตุลาคม 2516 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
รอง | |
ก่อนหน้า | สฤษดิ์ ธนะรัชต์ |
ถัดไป | สัญญา ธรรมศักดิ์ |
ดำรงตำแหน่ง 1 มกราคม 2501 – 20 ตุลาคม 2501 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
รอง | |
ก่อนหน้า | พจน์ สารสิน |
ถัดไป | สฤษดิ์ ธนะรัชต์ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง 23 กันยายน 2500 – 14 ตุลาคม 2516 | |
นายกรัฐมนตรี | |
ก่อนหน้า | แปลก พิบูลสงคราม |
ถัดไป | ทวี จุลละทรัพย์ |
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด | |
ดำรงตำแหน่ง 11 ธันวาคม 2506 – 30 กันยายน 2516 | |
ก่อนหน้า | สฤษดิ์ ธนะรัชต์ |
ถัดไป | ทวี จุลละทรัพย์ |
ผู้บัญชาการทหารบก | |
ดำรงตำแหน่ง 11 ธันวาคม 2506 – 1 ตุลาคม 2507 | |
ก่อนหน้า | สฤษดิ์ ธนะรัชต์ |
ถัดไป | ประภาส จารุเสถียร |
รองนายกรัฐมนตรีไทย | |
ดำรงตำแหน่ง 9 กุมภาพันธ์ 2502 – 8 ธันวาคม 2506 ดำรงตำแหน่งร่วมกับพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ | |
นายกรัฐมนตรี | สฤษดิ์ ธนะรัชต์ |
ก่อนหน้า | สุกิจ นิมมานเหมินทร์ |
ถัดไป | ประภาส จารุเสถียร |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ | |
ดำรงตำแหน่ง 19 ธันวาคม 2515 – 14 ตุลาคม 2516 | |
นายกรัฐมนตรี | เขาเอง |
ก่อนหน้า | จรูญพันธ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา |
ถัดไป | จรูญพันธ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา |
นายกสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ | |
ดำรงตำแหน่ง 21 กุมภาพันธ์ 2507 – 20 กุมภาพันธ์ 2515 | |
นายกรัฐมนตรี | เขาเอง |
ก่อนหน้า | ก่อตั้งมหาวิทยาลัย |
ถัดไป | สุกิจ นิมมานเหมินท์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 11 สิงหาคม พ.ศ. 2454 เมืองตาก ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 16 มิถุนายน พ.ศ. 2547 (92 ปี) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
สัญชาติ | ไทย |
พรรคการเมือง | พรรคชาติสังคม (พ.ศ. 2500) พรรคสหประชาไทย (พ.ศ. 2511) |
คู่สมรส | จงกล ถนัดรบ |
บุตร | 6 รวมทั้งณรงค์ |
ศาสนา | พุทธ |
ลายมือชื่อ | ![]() |
การเข้าเป็นทหาร | |
รับใช้ | ![]() |
สังกัด | ![]() |
ประจำการ | พ.ศ. 2472–2516 |
ยศ | ![]() ![]() ![]() |
บังคับบัญชา | ผู้บัญชาการทหารสูงสุด |
การยุทธ์ |
จอมพล ถนอม กิตติขจร (11 สิงหาคม พ.ศ. 2454 – 16 มิถุนายน พ.ศ. 2547) เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 10 เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชื่อว่าหนึ่งใน " สามทรราช " เป็นหัวหน้าคณะรัฐบาลในเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 ซึ่งเป็นเหตุการณ์การประท้วงของ นิสิต นักศึกษา และประชาชน โดยในเหตุการณ์ ทหารได้ใช้อาวุธสงครามเข้าปราบปรามนักศึกษาประชาชนที่ชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เป็นผลให้จอมพล ถนอม กิตติขจร ต้องประกาศลาออกจากตำแหน่ง และเดินทางออกจากประเทศ พร้อมกับ จอมพล ประภาส จารุเสถียร และ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ภายหลังเหตุการณ์ จอมพล ถนอม กิตติขจร ก็ได้เดินทางกลับ แล้วบวชเป็นพระสามเณร เป็นชนวนไปสู่การขับไล่ ของนักศึกษาธรรมศาสตร์ จนโยงไปสู่เหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ. 2519 ทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และสูญหายจำนวนมาก[1]
จอมพล ถนอม กิตติขจร เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 4 สมัย เป็นระยะเวลาถึง 10 ปี 6 เดือนเศษ ได้ชื่อว่าเป็น " จอมพลคนสุดท้าย "[2] ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2547 รวมอายุได้ 92 ปี 309 วัน มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
ประวัติ[แก้]
จอมพล ถนอม กิตติขจร เกิดเมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2454 ณ บ้านหนองหลวง อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก เป็นบุตรของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร) กับนางโสภิตบรรณลักษณ์ (ลิ้นจี่) มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 7 คน ได้แก่
- นาง รำพึง พันธุมเสน (ถึงแก่กรรม)
- เด็กหญิง ลำพูน กิตติขจร (ถึงแก่กรรม)
- จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ ถนอม กิตติขจร (ปัจจุบันถึงแก่กรรม)
- นาง สุรภี ชูพินิจ (ถึงแก่กรรม)
- นาย สนิท กิตติขจร (ถึงแก่กรรม)
- นาง สายสนม กิตติขจร อดีตนายกสมาคมเภสัชและอายุรเวชโบราณแห่งประเทศไทย (ถึงแก่กรรม)
- พล.ต.ต.สง่า กิตติขจร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ถึงแก่อนิจกรรม)
- นาง ปราณีต สุคันธวณิช อดีตนายกสมาคมส่งเสริมการศึกษาในถิ่นกันดาร ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (ถึงแก่กรรม)
จอมพล ถนอม กิตติขจร มีแซ่ในภาษาจีนว่า ฝู (จีน: 符; พินอิน: fú) เริ่มการศึกษาชั้นต้นที่โรงเรียนประชาบาลวัดโคกพลู จังหวัดตากหลังจากนั้นได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยทหารบก และในระหว่างรับราชการทหารได้ศึกษาต่อที่ โรงเรียนแผนที่ทหาร กองทัพบก โรงเรียนทหารราบ กองทัพบก และวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (รุ่นที่ 1) ตามลำดับ
จอมพล ถนอม ได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อ พ.ศ. 2504[3] จอมพล ถนอมดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่าง วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2503 [4] - 18 ธันวาคม พ.ศ. 2506 [5]
ครอบครัว[แก้]
จอมพล ถนอม กิตติขจร สมรสกับท่านผู้หญิงจงกล กิตติขจร (สกุลเดิม ถนัดรบ บุตรีของ พันตรีหลวงจบกระบวนยุทธ์ (แช่ม ถนัดรบ) และคุณหญิงเครือวัลย์ จบกระบวนยุทธ์) ท่านผู้หญิงเป็นอดีตประธานกรรมการมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และอดีตประธานกรรมการมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี มีบุตรธิดาทั้งสิ้น 6 คน ได้แก่
- นางนงนาถ เพ็ญชาติ (พ.ศ. 2474 – ปัจจุบัน) สมรสกับ นายชำนาญ เพ็ญชาติ มีบุตรธิดา 3 คน
- พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร (พ.ศ. 2476 – ปัจจุบัน) สมรสกับ นางสุภาพร (จารุเสถียร) กิตติขจร มีบุตรธิดา 4 คน
- คุณหญิง นงนุช จิรพงศ์ (พ.ศ. 2480 – ปัจจุบัน) สมรสกับ พล.อ.เอื้อม จิรพงศ์ มีบุตรธิดา 4 คน
- พล.อ.อ.ยุทธพงศ์ กิตติขจร (พ.ศ. 2482 – ปัจจุบัน) สมรสกับ นางทิพยา (ภมรมนตรี) กิตติขจร มีบุตรธิดา 3 คน
- คุณหญิง ทรงสุดา ยอดมณี (พ.ศ. 2486 – ปัจจุบัน) อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมรสกับ ร้อยโท ดร.สุวิทย์ ยอดมณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีบุตร 3 คน คนที่ 2 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย
- คุณหญิง ทรงสมร คชเสนี (พ.ศ. 2489 – ปัจจุบัน) สมรสกับ พล.ร.อ.สุภา คชเสนี มีบุตรธิดา 5 คน
นอกจากนี้ยังรับหลานอีก 2 คน ซึ่งเป็นบุตรของน้องสาวของท่านผู้หญิงจงกลมาเลี้ยงดูดุจลูกแท้ๆ ของท่านเอง คือ
- พล.ต.ต.นเรศ คุณวัฒน์ สมรสกับ นางอรสา (วิจิตรานุช) คุณวัฒน์ มีบุตร 2 คน
- น.ส. นรา คุณวัฒน์
การรับราชการ[แก้]
เขารับราชการครั้งแรกในตำแหน่งผบ.หมวด ในกรมทหารราบที่ 8 กองพันทหารราบที่ 1 (ร.8 พัน.1) จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาได้ร่วมก่อรัฐประหารซึ่งผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยไม่โดนลงโทษแต่อย่างใดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ในขณะที่มียศเป็น"พันโท" และดำรงตำแหน่งผู้บังคับการกรมทหารบกที่ 11 ต่อมาได้เป็น รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 (พล.ร.1) รองแม่ทัพภาคที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 1 (ทภ.1) ผู้ช่วยผบ.ทบ. รองผบ.ทบ.และเป็น รองผบ.สส. มาโดยลำดับจนกระทั่งวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2506 พล.อ.ถนอมได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารบก และ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด [6] สืบต่อจาก จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ถึงแก่อสัญกรรม
ต่อมาในวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2507 พล.อ.ถนอม ได้รับพระราชทานยศ จอมพล จอมพลเรือและจอมพลอากาศ [7]
และในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2507 จอมพล ถนอมได้สละตำแหน่งผบ.ทบ.ให้กับพล.อ.ประภาส จารุเสถียร รองผบ.สส. และรักษาราชการรองผบ.ทบโดยเหลือตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดเพียงตำแหน่งเดียว [8]
จอมพล ถนอม กิตติขจร ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลของจอมพล แปลก พิบูลสงคราม และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลของนายพจน์ สารสิน สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติให้จอมพล ถนอมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2501 แต่บริหารประเทศแค่ 9 เดือนเศษก็ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อจอมพล สฤษดิ์เสียชีวิต จอมพล ถนอมได้ด้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ในช่วงระยะเวลาที่จอมพลเผด็จการทหารคนนี้เป็นนายกรัฐมนตรี มีการสร้างทางหลวงสายต่างๆ ทั่วประเทศหลายสาย โดยได้รับทุนสนับสนุนส่วนหนึ่งจากอเมริกาในช่วงสงครามเย็นเพื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ และสร้างเขื่อน เช่น เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนอุบลรัตน์ และในปี พ.ศ. 2508 ได้ส่งทหารไปร่วมรบในสงครามเวียดนามด้วยในฐานะพันธมิตรอเมริกาหรือฝ่ายโลกเสรีประชาธิปไตย โดยหลักๆมี สหรัฐอเมริกา,เกาหลีใต้,ไทย,ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์และฟิลิปปินส์ เพื่อไปสนันสนุนเวียดนามใต้ให้เป็นประชาธิปไตย
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542 ในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย จอมพล ถนอมได้รับการแต่งตั้งเป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) สร้างความไม่พอใจและกระแสต่อต้านในสังคมระยะหนึ่ง ถึงกับมีการอภิปรายในสภาและกังวลกันว่าอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดเหตุร้ายซ้ำอีก[9] ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม จอมพลถนอมจึงลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว[10]
บทบาททางการเมือง[แก้]
หลังจากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในปีพ.ศ. 2511 มีการเลือกตั้งทั่วไปและมีรัฐสภา ในปี พ.ศ. 2514 ถนอม กิตติขจรได้ทำรัฐประหารรัฐบาลของตนเอง และได้จัดตั้งสภาบริหารคณะปฏิวัติขึ้น ทั้งหมดนี้เพื่อตอบสนองผลประโยชน์และความทะเยอทะยานของตนเอง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง หนึ่งในผู้ที่ยืนหยัดวิจารณ์อย่างไม่เกรงกลัวอำนาจเถื่อน ได้แก่ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ที่เขียนจดหมายในนามนายเข้ม เย็นยิ่ง ถึง ผู้ใหญ่ ทำนุ เกียรติก้อง (หมายถึงจอมพล ถนอมนั่นเอง)
จนกระทั่งมีการประกาศใช้ธรรมนูญการปกครองแห่งราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2515 และสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามธรรรมนูญการปกครองดังกล่าวได้มีมติให้จอมพล ถนอม กิตติขจร เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายต่อความทะเยอทะยานที่ปราศจากความชอบธรรมในหลักการประชาธิปไตย
จอมพล ถนอม พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ. 2516 รัฐบาลได้ใช้อาวุธสงครามเข้าปราบปรามนักศึกษาประชาชนที่ชุมนุมเรียกร้องรัฐธรรมนูญ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จากเหตุการณ์นี้ทำให้พลังทางการเมืองหลายฝ่ายกดดันให้จอมพล ถนอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยการยึดอำนาจและรัฐประหารทั้งสิ้น 10 ปี 6 เดือนเศษ หลังจากนั้น ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของจอมพล ถนอม จนนำไปสู่การยึดทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่สุจริตต้องเป็นจำนวนมาก
จอมพล ถนอม กิตติขจร เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง 4 สมัย (รวมในสมัยเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติตัวเองด้วยเป็นสมัยที่ 3) สมัยแรกเป็นนายกรัฐมนตรีในระยะเวลาสั้นๆ หลังการรัฐประหารของจอมพล สฤษดิ์ ในพ.ศ. 2501 สมัยที่2 ถึง 4หลังจากจอมพล สฤษดิ์ถึงแก่อสัญกรรม ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจอมพล ถนอมจึงถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของเผด็จการทหาร ถึงแม้ว่า ได้รับพระราชทานปฐมจุลจอมเกล้า และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันมีศักดิ์รามาธิบดีชั้นที่ 1 เสนางคบดี ซึ่งเปรียบเสมือนสายสะพายแห่งความกล้าหาญ พร้อมกันนี้ยังได้เครื่องราชอิสริยาภรณ์ทั้งไทยและต่างประเทศอีกมากกว่า 30 รายการ ซึ่งถือว่าเป็นการจบชีวิตของนายทหารยศจอมพลคนสุดท้ายของกองทัพไทย
บทบาทหลังออกนอกประเทศ[แก้]
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2519 จอมพล ถนอมเดินทางกลับประเทศในฐานะสามเณร เนื่องจากสมัคร สุนทรเวชแจ้งว่าราชสำนักอนุญาต[11]:234 และได้บวชเป็นพระภิกษุที่วัดบวรนิเวศวิหารโดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าอาวาสวัดซึ่งเป็นพระพี่เลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นผู้อุปสมบทให้:248 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินีนาถเสด็จฯ เยี่ยมพระถนอมที่วัดด้วย[12]:151
ยศทหาร[แก้]
- นายร้อยตรี[13]
- นายร้อยโท[14]
- นายร้อยเอก[15]
- พันตรี[16]
- พันโท[17]
- พันเอก[18]
- พลตรี[19]
- พลโท[20]
- พลเอก[21]
- จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ[22] นายกองใหญ่ [23]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย[แก้]
จอมพล ถนอม กิตติขจร ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุด ดังนี้
- พ.ศ. 2504 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)[24]
- พ.ศ. 2508 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดี ชั้นที่ 1 เสนางคะบดี (ส.ร.)[25]
- พ.ศ. 2499 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[26]
- พ.ศ. 2498 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[27]
- พ.ศ. 2531 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ[28]
- พ.ศ. 2515 –
เหรียญกล้าหาญ (ร.ก.) (ประดับช่อชัยพฤกษ์)[29]
- พ.ศ. 2505 –
เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ส.)[30]
- พ.ศ. 2498 –
เหรียญชัยสมรภูมิ การร่วมรบกับสหประชาชาติ ณ ประเทศเกาหลี (ช.ส.) (ประดับเปลวระเบิด)[31]
- พ.ศ. 2515 –
เหรียญชัยสมรภูมิ การรบ ณ สาธารณรัฐเวียดนาม (ช.ส.) (ประดับเปลวระเบิด)[32]
- พ.ศ. 2512 –
เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 1 (ส.ช.)[33]
- พ.ศ. 2477 –
เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ (พ.ร.ธ.)[34]
- พ.ศ. 2486 –
เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ร.)[35]
- พ.ศ. 2505 –
เหรียญราชการชายแดน (ช.ด.)[36]
- พ.ศ. 2487 –
เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)[37]
- พ.ศ. 2493 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 8 ชั้นที่ 3 (อ.ป.ร.3)[38]
- พ.ศ. 2507 –
เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 1 (ภ.ป.ร.1)[39]
- พ.ศ. 2515 –
เหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 (เหรียญทอง)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ[แก้]
สหประชาชาติ : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เหรียญสหประชาชาติเกาหลี
สหรัฐ : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
ลีเจียนออฟเมอริต ชั้นผู้บังคับบัญชา
เดนมาร์ก : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เดอะเดนเนบอร์ก ชั้นประถมาภรณ์
โปรตุเกส : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องเสนาอิสริยาภรณ์แห่งพระคริสต์ ชั้นประถมาภรณ์
เยอรมนีตะวันตก : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องอิสริยาภรณ์กิตติคุณแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ชั้นประถมาภรณ์
สเปน : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์กิตติคุณฝ่ายพลเรือน ชั้นมหากางเขน
ลักเซมเบิร์ก : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎโอ๊ค ชั้นมหากางเขน
สวีเดน : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดาบ
นครรัฐวาติกัน : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องอิสริยาภรณ์เซนต์ซิลเวสเตอร์
อิตาลี : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องอิสริยาภรณ์กิตติคุณแห่งสาธารณรัฐอิตาลี ชั้นอัศวิน
เนเธอร์แลนด์ : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ออเรนจ์-นัสเซา ชั้นอัศวินมหากางเขน
เบลเยียม : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์เลโอโปลด์ (เบลเยียม) ชั้นประถมาภรณ์
อินโดนีเซีย : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องอิสริยาภรณ์ดาราแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ชั้นบินตัง เรปูบลิค อินโดเนเซีย อธิปุรณา
อาร์เจนตินา : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องอิสริยาภรณ์นายพลซาน มาร์ติน ผู้ปลดปล่อย ชั้นมหากางเขน
ไต้หวัน : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ยุนฮุย
มาเลเซีย : พ.ศ. ไม่ปรากฏ -
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของมาเลเซีย
ลำดับสาแหรก[แก้]
ลำดับสาแหรกของถนอม กิตติขจร | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง[แก้]
- ↑ เงื่อนงำการกลับมาของจอมพลก่อนการสังหารหมู่ โพสต์ทูเดย์ สืบค้นเมื่อ 6 ตุลาคม 2563
- ↑ จอมพลคนสุดท้ายในแผ่นดินไทย Oknation ฉบับตุลาคม 2553
- ↑ ถนอมได้รับปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 80 ตอน 119 ง พิเศษ หน้า 1 12 ธันวาคม พ.ศ. 2506
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 81 ตอน 3 ง หน้า 1 11 มกราคม พ.ศ. 2507
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้นายทหารรับราชการ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 81 ตอน 87 ง พิเศษ หน้า 2 11 กันยายน พ.ศ. 2507
- ↑ การเสนอแต่งตั้ง จอมพล ถนอม กิตติขจร และ พลตรี มนูกฤต รูปขจร เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ชิงชัย มงคลธรรม; จาตุรนต์ ฉายแสง; อดิศร เพียงเกษ; เปรมศักดิ์ เพียยุระ; ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง; สุรพร ดนัยตั้งตระกูล; นิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ; ถาวร เสนเนียม; ไพจิต ศรีวรขาน; สนั่น ขจรประศาสน์; ชวน หลีกภัย; กุศล หมีเทศ; ขจิตร ชัยนิคม
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้พ้นจากตำแหน่งนายทหารพิเศษ
- ↑ Handley, Paul M. The King Never Smiles: A Biography of Thailand's Bhumibol Adulyadej. Yale University Press. ISBN 0-300-10682-3.
- ↑ อึ๊งภากรณ์, ใจ; ยิ้มประเสริฐ, สุธาชัย; และคณะ (2544). อาชญากรรมรัฐในวิกฤตการเปลี่ยนแปลง (PDF). คณะกรรมการรับข้อมูลและสืบพยานเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519. ISBN 9748858626. Check date values in:
|date=
(help) - ↑ ประกาศพระราชทานยศทหารบก
- ↑ ประกาศพระราชทานยศทหารบก
- ↑ ประกาศกระทรวงกลาโหมเรื่องพระราชทานยศทหาร
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร
- ↑ เรื่อง พระราชทานยศทหาร
- ↑ เรื่อง พระราชทานยศทหาร
- ↑ เรื่อง พระราชทานยศทหาร
- ↑ ประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร
- ↑ ประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหาร ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 81 ตอน 3 ง พิเศษ หน้า 1 11 มกราคม พ.ศ. 2507
- ↑ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศกองอาสารักษาดินแดน
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๗๘ ตอนที่ ๔๐ ง หน้า ๑๒๗๙, ๙ พฤษภาคม ๒๕๐๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ รามาธิบดี, เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๔๑ ง หน้า ๑๔๔๕, ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๐๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๗๓ ตอนที่ ๕๙ ง หน้า ๒๑๒๙, ๓๑ กรกฎาคม ๒๔๙๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๗๒ ตอนที่ ๙๕ ง หน้า ๓๐๔๐, ๑๓ ธันวาคม ๒๔๙๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นสิริยิ่งรามกีรติ ลูกเสือสดุดีชั้นพิเศษ, เล่ม ๑๐๕ ตอนที่ ๙๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒, ๑๕ มิถุนายน ๒๕๓๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญกล้าหาญ, เล่ม ๘๙ ตอนที่ ๙๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๒๕, ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๗๙ ตอนที่ ๘๓ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑, ๘ กันยายน ๒๕๐๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องหมายเปลวระเบิดสำหรับประดับแพรแถบเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๗๒ ตอนที่ ๓๘ ง หน้า ๑๑๘๕, ๒๔ พฤษภาคม ๒๔๙๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญชัยสมรภูมิ, เล่ม ๘๙ ตอนที่ ๙๙ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑, ๓๐ มิถุนายน ๒๕๑๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญพิทักษ์เสรีชน, เล่ม ๘๖ ตอนที่ ๘๗ ง หน้า ๓๐๒๙, ๗ ตุลาคม ๒๕๑๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความ พระราชทานเหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ, เล่ม ๕๑ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๒๐๘๙, ๓๐ กันยายน ๒๔๗๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญช่วยราชการเขตภายใน, เล่ม ๖๐ ตอนที่ ๔๔ ง หน้า ๒๗๐๓, ๒๔ สิงหาคม ๒๔๘๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญราชการชายแดน, เล่ม ๗๙ ตอนที่ ๔๕ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๙, ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๐๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา, เล่ม ๖๑ ตอนที่ ๖๐ ง หน้า ๑๘๕๓, ๒๖ กันยายน ๒๔๘๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์รัชกาลที่ ๘, เล่ม ๖๗ ตอนที่ ๓๙ ง หน้า ๓๐๔๐, ๑๘ กรกฎาคม ๒๔๙๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์, เล่ม ๘๑ ตอนที่ ๑๒๒ ง หน้า ๓๑๔๗, ๒๙ ธันวาคม ๒๕๐๗
- กองทัพไทย. อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ จอมพล ถนอม กิตติขจร. กรุงเทพฯ : บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งพับลิชชิ่งจำกัด (มหาชน), 2547. 435 หน้า. หน้า 39.
- ประกาศแต่งตั้งนายทหารรับราชการกลางปี 2562 พลเอก เกริกเกียรติ กิตติขจร หลานจอมพลถนอม Archived 2019-10-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: ถนอม กิตติขจร |
ก่อนหน้า | ถนอม กิตติขจร | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พจน์ สารสิน | ![]() |
![]() นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย สมัยที่ 1 (1 มกราคม พ.ศ. 2501 — 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501) |
![]() |
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ |
จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ | ![]() |
![]() นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย สมัยที่ 2 (9 ธันวาคม พ.ศ. 2506 — 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516) |
![]() |
สัญญา ธรรมศักดิ์ |
ศาสตราจารย์ หลวงจำรูญเนติศาสตร์ (จำรูญ โปษยานนท์) | ![]() |
อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (8 มกราคม พ.ศ. 2503 — 18 ธันวาคม พ.ศ. 2506) |
![]() |
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ |
จอมพล ป. พิบูลสงคราม | ![]() |
นายกคณะกรรมการมหาวิทยาลัยศิลปากร คนที่ 2 สมัยที่ 1 (พ.ศ. 2501 – พ.ศ. 2503) |
![]() |
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ |
จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ | ![]() |
นายกคณะกรรมการมหาวิทยาลัยศิลปากร คนที่ 2 สมัยที่ 2 (พ.ศ. 2507 – พ.ศ. 2512) |
![]() |
สมัยที่ 3 |
สมัยที่ 2 | ![]() |
นายกสภามหาวิทยาลัยศิลปากร คนที่ 2 สมัยที่ 3 (พ.ศ. 2512 – พ.ศ. 2514) |
![]() |
พลเอกบุญเรือน บัวจรูญ (สมัยที่ 1) |
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2454
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2547
- ถนอม กิตติขจร
- บุคคลจากอำเภอเมืองตาก
- สกุลกิตติขจร
- ทหารบกชาวไทย
- ผู้บัญชาการทหารสูงสุดไทย
- ผู้บัญชาการทหารบกของกองทัพไทย
- จอมพลชาวไทย
- จอมพลเรือชาวไทย
- จอมพลอากาศชาวไทย
- นายกรัฐมนตรีไทย
- รองนายกรัฐมนตรีไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย
- ผู้นำในสงครามเย็น
- ผู้นำที่ได้อำนาจจากรัฐประหาร
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 14 ตุลา
- บุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 6 ตุลา
- พรรคชาติสังคม
- พรรคสหประชาไทย
- บุคคลจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
- บุคคลจากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
- นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
- อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายหน้า)
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ส.ร.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- ผู้ได้รับเหรียญจักรมาลา
- ผู้ได้รับเหรียญรัตนาภรณ์ อ.ป.ร.3
- ผู้ได้รับเหรียญรัตนาภรณ์ ภ.ป.ร.1
- เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมอง