เครื่องอิสริยาภรณ์ดาราอันสุกสกาว

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เครื่องอิสริยาภรณ์ดาราอันสุกสกาว
ประเภทเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝ่ายพลเรือนเก้าชั้น
วันสถาปนาค.ศ. 1941
ประเทศสาธารณรัฐจีน สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)
จำนวนสำรับไม่จำกัดจำนวน
ผู้สมควรได้รับชาวไต้หวันและชาวต่างชาติที่กระทำคุณประโยชน์ต่อสาธารณรัฐจีน
สถานะยังมีการมอบ
ผู้สถาปนาเจียง ไคเช็ก
ประธานประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีน
ลำดับเกียรติ
สูงกว่าเครื่องอิสริยาภรณ์เมฆมงคล

เครื่องอิสริยาภรณ์ดาราอันสุกสกาว (อังกฤษ: Order of Brilliant Star, จีนตัวเต็ม: 景星勳章; จีนตัวย่อ: 景星勋章; พินอิน: Jǐng xīng xūnzhāng) เป็นเครื่องอิสริยาภรณ์ของประเทศไต้หวัน มอบให้กับชาวไต้หวันที่กระทำคุณประโยชน์อย่างยิ่ง และยังมอบให้กับผู้มีเกียรติจากต่างประเทศอีกด้วย[1] โดยเครื่องอิสริยาภรณ์นี้มีศักดิ์รองจากเครื่องอิสริยาภรณ์เมฆมงคล เครื่องอิสริยาภรณ์นี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1941

ลักษณะของดารา ดวงตรา และที่มาของชื่อเครื่องอิสริยาภรณ์[แก้]

ในดวงตราและดาราจะมีดวงดาวกระจายอยู่ 5 ดวง[1] โดยชื่อเครื่องอิสริยาภรณ์นี้มีที่มาจากบันทึกประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ซึ่งกล่าวไว้ว่า "ดวงดางอันสุกสกาวซึ่งจะเฉิดฉายไปยังผู้มีคุณประโยชน์ต่อชาติ" (อังกฤษ: Brilliant star, which differs in appearance from time to time, shine upon the nations of the righteous)

ลำดับชั้น[แก้]

เครื่องอิสริยาภรณ์นี้มีทั้งสิ้น 9 ชั้น[2]

ระดับชั้น แพรแถบ
ชั้นที่ 1 (ชั้นสายสะพายชั้นพิเศษ)
ชั้นที่ 2 (ชั้นสายสะพาย)
ชั้นที่ 3 (ชั้นสายสะพายม่วง)
ชั้นที่ 4 (ชั้นคล้องคอพิเศษ)
ชั้นที่ 5 (ชั้นคล้องคอ)
ชั้นที่ 6 (ชั้นดอกไม้จีบพิเศษ)
ชั้นที่ 7 (ชั้นดอกไม้จีบ)
ชั้นที่ 8 (ชั้นเหรียญแพรแถบพิเศษ)
ชั้นที่ 9 (ชั้นเหรียญแพรแถบ)

สมาชิกอิสริยาภรณ์ที่มีชื่อเสียง[แก้]

  1. หลี่ อัน ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวไต้หวัน[3]
  1. จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์
  2. จอมพล ถนอม กิตติขจร
  3. พันเอก (พิเศษ) ถนัด คอมันตร์
  4. ศาสตราจารย์ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล
  5. พลเอก พระประจนปัจจนึก (พุก มหาดิลก)

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "Civilian orders". english.president.gov.tw. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 15 April 2017. สืบค้นเมื่อ April 28, 2013.
  2. Article of Decorations. Taipei, Taiwan: Ministry of Justice. 1981.
  3. AFP (10 May 2013). "Oscar-winning Ang Lee receives Taiwan medal". The Bangkok Post.