ข้ามไปเนื้อหา

วิจิตร ลุลิตานนท์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วิจิตร ลุลิตานนท์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ดำรงตำแหน่ง
24 สิงหาคม 2489 – 11 พฤศจิกายน 2490
นายกรัฐมนตรีพลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์
ก่อนหน้าปรีดี พนมยงค์
ถัดไปหม่อมเจ้าวิวัฒนไชย ไชยันต์
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด30 มิถุนายน พ.ศ. 2449
บ้านลุลิตานนท์ ถนนสีลม
เสียชีวิต9 ธันวาคม พ.ศ. 2530 (81 ปี)
บ้านขวัญจิตร ย่านบางเขน
ศาสนาคริสต์
คู่สมรสทิพยวดี ลุลิตานนท์
ลายมือชื่อ

ศาสตราจารย์วิจิตร ลุลิตานนท์ (30 มิถุนายน พ.ศ. 2449 - 9 ธันวาคม พ.ศ. 2530) เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลพลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลนายปรีดี พนมยงค์ และอดีตรัฐมนตรีไม่ได้ประจำกระทรวง

ประวัติ

[แก้]

ชีวิตครอบครัวและการศึกษา

[แก้]

ศาสตราจารย์วิจิตร ลุลิตานนท์ เกิดเมื่อ พ.ศ. 2449 ณ บ้านลุลิตานนท์ ถนนสีลม เป็นบุตรของหลวงวิจารณ์ศุขเกษม (ติ๊ด ลุลิตานนท์)[1] เคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กับมารดาชื่อทรัพย์

ในด้านการศึกษา วิจิตร ลุลิตานนท์ ได้เข้าศึกษาเบื้องต้นจากโรงเรียนประถมศึกษาเล็ก ๆ ในตรอกโรงภาษีชื่อว่า โรงเรียนครูสี ก่อนจะเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนผดุงดรุณี แล้วจึงย้ายมาเรียนชั้นประถมและมัธยมศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญ จนจบการศึกษาในระดับมัธยมในปี พ.ศ. 2467[1]

ภายหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา วิจิตรได้เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม จนสำเร็จการศึกษาเป็นเนติบัณฑิตไทยในปี พ.ศ. 2470[1]

การเข้ารับราชการในกระทรวงยุติธรรม

[แก้]

ภายหลังจากสำเร็จการศึกษาเป็นเนติบัณฑิตไทย ในปี พ.ศ. 2470 วิจิตร ได้เข้าทำงานในกรมร่างกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม (ปัจจุบันโอนภารกิจมาเป็นสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา) ในตำแหน่งเสมียนฝึกหัด[1]

ภายหลังจากทำงานเป็นเสมียฝึกหัดได้ 2 ปี (พ.ศ. 2472) โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม ได้ขาดแคลนล่ามภาษาฝรั่งเศสที่ทำงานร่วมกับที่ปรึกษากฎหมายชาวต่างชาติ (นายหลุยส์ ดูปลาตร์ นายอังรี เอกูต์ และนายเอมิล ริโวด์) วิจิตรจึงได้เข้าทำงานที่โรงเรียนกฎหมายอีกตำแหน่งหนึ่ง ในฐานะล่ามช่วยแปลภาษาฝรั่งเศส[1]

ต่อมาในปี พ.ศ. 2474 วิจิตรได้สอบเข้ารับราชการเป็นผู้พิพากษาฝึกหัด กระทรวงยุติธรรม และได้รับราชการเรื่อยมาจนเป็นผู้พิพากษาในกระทรวงยุติธรรมในปี พ.ศ. 2475 และผู้ช่วยเลขานุการ กรมร่างกฎหมาย ในปี พ.ศ. 2476 ซึ่งในเวลาต่อมาในปี พ.ศ. 2477 ได้มีการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาขึ้นมาโดยมีรูปแบบคล้ายกับสภาแห่งรัฐ (Conseil d'État) ของประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยขึ้นกับคณะรัฐมตรี จึงได้มีการโอนภารกิจของกรมร่างกฎหมายไปอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎี[2] ส่งผลให้วิจิตรต้องโอนย้ายตามไปดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกในกองกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในปี พ.ศ. 2477[1]

มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง

[แก้]

นอกจากการทำงานในกระทรวงยุติธรรมแล้ว ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง วิจิตรยังได้เข้าทำงานที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองในตำแหน่งผู้ช่วยจัดทำตำราของมหาวิทยาลัย มีหน้าที่จดบันทึกคำบรรยายเพื่อเอามาเรียบเรียงเป็นตำราและคำสอนสำหรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัย โดยวิจิตรเริ่มต้นทำหน้าที่ตั้งแต่ในปี พ.ศ. 2477

ผลงานการจัดทำตำราและคำสอนของวิจิตร เช่น ตำรากฎหมายลักษณะพยานและจิตตวิทยา ชั้นปริญญาตรี เป็นต้น ซึ่งเป็นการสรุปคำบรรยายของหลุยส์ ดูปลาตร์ (L. DUPLATRE)[3] ผู้บรรยายชาวฝรั่งเศส ซึ่งเคยบรรยายกฎหมายที่โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม โดยตำราของวิจิตร และดูปลาตร์นี้เป็นตำรากฎหมายพยานหลักฐานที่มีความทันสมัยและสอดคล้องกับหลักการกฎหมายพยานในเวลานั้นมากที่สุด[1]

วิจิตรได้ทำงานในมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองเป็นระยะเวลานานหลายปี จนกระทั่งได้ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย ผู้ช่วยเลขาธิการมหาวิทยาลัย (เทียบเท่าผู้ช่วยอธิการบดี) และเลขาธิการมหาวิทยาลัย (เทียบเท่ารองอธิการบดี) ซึ่งเป็นตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัย[1]

ณ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองนี้ วิจิตรได้มีบทบาทสำคัญอีกประการหนึ่ง เมื่อสงครามมหาเอเชียบูรพาเริ่มต้นขึ้น มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองได้กลายเป็นฐานที่มั่นสำคัญของขบวนการเสรีไทย[4] วิจิตรได้ร่วมกับสมาชิกเสรีไทย ภายใต้การนำของนายปรีดี พนมยงค์ ผู้นำขบวนการเสรีไทย ภายใต้รหัสลับว่า รู๊ท ร่วมกันกับคณะทำงานชุดแรก คือ นายเดือน บุนนาค นายเสริม วินิจฉัยกุล และนายทวี ตะเวทิกุล[1] โดยวิจิตรมีฐานะสำคัญในฐานะเลขาธิการเสรีไทย คอยประสานงานระหว่างเสรีไทยในประเทศ[5]

บทบาททางการเมือง

[แก้]

วิจิตร ลุลิตานนท์ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ได้ประจำกระทรวงครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2488 ในรัฐบาลนายทวี บุณยเกตุ[6][7] และได้ดำรงตำแหน่งต่อมาในรัฐบาลหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช[8][9] ต่อมาเมื่อพ.ศ. 2489 ในรัฐบาลนายปรีดี พนมยงค์ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง[10][11][12][13] ในรัฐบาลพลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง[14] และพ้นจากตำแหน่งไปเพราะมีการรัฐประหารขึ้นโดยคณะทหาร เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490[15][16] นอกจากนี้ยังเคยได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาในวุฒิสภาไทย ชุดที่ 1[17]

ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผลงานสำคัญของวิจิตรในขณะนั้นคือ การเสนอจัดตั้งบริษัทเทวเวศประกันภัย จำกัดขึ้นมาในปี พ.ศ. 2489 โดยการจัดตั้งบริษัทนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทประกันของรัฐบาล[18]

ภายหลังจากพ้นจากตำแหน่งการเมือง วิจิตรได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสอนหนังสือให้กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จนเกษียณอายุราชการ และเป็นศาสตราจารย์พิเศษต่อมา[1]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 1.05 1.06 1.07 1.08 1.09 ทฤษฎิคุณ, เขมภัทร. "วิจิตร ลุลิตานนท์: ผู้บุกเบิกวิทยาการคลัง และเลขาธิการเสรีไทย". สถาบันปรีดี พนมยงค์ PRIDI BANOMYONG INSTITUTE : Pridi.or.th.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  2. พระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกา พุทธศักราช 2476
  3. ดูปลาตร์, แอล และวิจิตร ลุลิตานนท์. (2477). กฎหมายลักษณะพะยานและจิตตวิทยา. มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง. https://digital.library.tu.ac.th/tu_dc/frontend/Info/item/dc:48038
  4. "ขบวนการเสรีไทย ภายใต้โดม (เตรียมธรรมศาสตร์-จุฬาอาสาศึก ปี ๒๔๘๘)". สถาบันปรีดี พนมยงค์ PRIDI BANOMYONG INSTITUTE : Pridi.or.th.
  5. นรนิติ เศรษฐบุตร. (มปป.). วิจิตร ลุลิตานนท์ : เลขาธิการเสรีไทย. http://wiki.kpi.ac.th/index.php?title=วิจิตร_ลุลิตานนท์.
  6. พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๒๙ ราย)
  7. "คณะรัฐมนตรีคณะที่ 12 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-03. สืบค้นเมื่อ 2015-05-15.
  8. พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๒๒ ราย)
  9. "คณะรัฐมนตรีคณะที่ 13 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-04. สืบค้นเมื่อ 2015-05-15.
  10. พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๑๖ ราย)
  11. "คณะรัฐมนตรีคณะที่ 15 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-11-03. สืบค้นเมื่อ 2015-05-15.
  12. พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๑๖ ราย)
  13. "คณะรัฐมนตรีคณะที่ 16 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-03. สืบค้นเมื่อ 2015-05-15.
  14. "คณะรัฐมนตรีคณะที่ 17 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-11-03. สืบค้นเมื่อ 2015-05-15.
  15. "คณะรัฐมนตรีคณะที่ 18 จากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-02-02. สืบค้นเมื่อ 2015-05-15.
  16. พระบรมราชโองการ ประกาศ ตั้งและแต่งตั้งรัฐมนตรี (จำนวน ๒๒ ราย)
  17. วุฒิสภา ชุดที่ ๑ (สมาชิกพฤฒสภา พ.ศ. ๒๔๘๙)[ลิงก์เสีย]
  18. รายงานการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาจัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ครั้งที่ 9/2489 ลงวันที่ 16 กันยายน 2489
  19. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๕ ตอนที่ ๑๒๒ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๑, ๓๑ ธันวาคม ๒๕๑๑
  20. ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๑ ตอนที่ ๑๑๘ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๕๓๒, ๑๗ ธันวาคม ๒๕๐๗