ข้ามไปเนื้อหา

มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ตราพระราชลัญจกร
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
ชื่อย่อมรม. / RMU
คติพจน์วิชาการเป็นเลิศ ประเสริฐคุณธรรม นำชุมชนพัฒนา
ประเภทสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ
สถาปนา15 มิถุนายน พ.ศ. 2547 (20 ปี)
นายกสภาฯรองศาสตราจารย์ ดร.สมเจตน์ ภูศรี
อธิการบดีอยู่ในระหว่างสรรหา
ผู้ศึกษา12,149 [1]
ที่ตั้ง
ที่ตั้งหลัก
80 ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม 44000
ศูนย์หนองคาย
โรงเรียนกวนวันวิทยา ตำบลกวนวัน อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย 43000
สี██ สีเขียว
██ สีแดง
เว็บไซต์www.rmu.ac.th

มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (อังกฤษ: Rajabhat Maha Sarakham University, อักษรย่อ: มรม. – RMU) เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐในจังหวัดมหาสารคาม พัฒนามาจากวิทยาลัยครูมหาสารคามที่ได้รับการสถาปนาในปี พ.ศ. 2505 และสถาบันราชภัฏมหาสารคามในปีพ.ศ. 2535 ตัวมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในตัวเมืองมหาสารคาม ใกล้กับมหาวิทยาลัยมหาสารคาม พื้นที่ในเมืองและมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตมหาสารคาม[2]

ประวัติ

[แก้]

มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มีพื้นที่ 454 ไร่ มีอาคาร 57 หลัง และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามศูนย์หนองโน ตั้งอยู่ที่บ้านหนองโน หมู่ 1 , หมู่ 5 และบ้านกุดแคน หมู่ 6 ตำบลหนองโน (โคกก่อ) อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม มีพื้นที่ 1,050 ไร่ 3 งาน 32 ตารางวา เป็นที่ตั้งของคณะเทคโนโลยีการเกษตร และโครงการเกษตรทฤษฏีใหม่ตามแนวพระราชดำริ

  • พ.ศ. 2468 ตั้งเป็น “โรงเรียนประถมกสิกรรม” ขึ้นที่บริเวณวิทยาลัยเทคนิคมหาสารคามในปัจจุบัน
  • พ.ศ. 2470 ได้ย้ายไปตั้งที่โคกอีด่อย อยู่ห่างจากตัวเมืองมหาสารคามไปทางทิศตะวันตกประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามในปัจจุบัน
  • พ.ศ. 2473 เปลี่ยนฐานะเป็นโรงเรียนประถมวิสามัญและฝึกหัดครูกสิกรรมชั้นต่ำ
  • พ.ศ. 2474 ได้ยุบเลิกแผนแผนกฝึกหัดครูกสิกรรมชั้นต่ำเหลืออยู่เฉพาะโรงเรียนประถมวิสามัญ
  • พ.ศ. 2481 ยกฐานะเป็นโรงเรียนประกาศนียบัตรจังหวัด
  • พ.ศ. 2498 เปลี่ยนฐานะเป็นโรงเรียนฝึกหัดครู
  • พ.ศ. 2505 (1 พฤษภาคม) ได้ยกฐานะเป็นวิทยาลัยครูมหาสารคาม
  • พ.ศ. 2519 จัดระบบงานใหม่ตามพระราชบัญญัติวิทยาลัยครู และ พ.ศ. 2518 มีผลให้วิทยาลัยครูมหาสารคามเป็นสถาบันอุดมศึกษา
  • ต่อมาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 วิทยาลัยครูทุกแห่งได้รับพระราชทานนามว่า “สถาบันราชภัฏ” แปลว่า “คนของพระราชา” ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “ Rajabhat Institute” และต่อท้ายด้วยชื่อเดิมหรือชื่อจังหวัด ทำให้ในวันที่ 25 มกราคม 2538 จึงได้มีการยกฐานะเป็นสถาบันราชภัฏมหาสารคาม และดำเนินงานตามพระราชบัญญติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. 2538[3] และวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบันราชภัฏจึงเกิดเป็น “สถาบันราชภัฏมหาสารคาม” และวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบันราชภัฏ
  • ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547[4] ซึ่งส่งผลให้สถาบันราชภัฏมหาสารคามเปลี่ยน สถานะเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม” [5]
  • พ.ศ. 2561 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง รองศาสตราจารย์ ดร.นิรุต ถึงนาค เป็นอธิการบดี ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2561[6]

คณะ

[แก้]

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เปิดสอนในระดับอนุบาล อนุปริญญา ปริญญาตรี ประกาศนียบัตรบัณฑิต ปริญญาโท และปริญญาเอก มีทั้งหลักสูตรทั่วไปและหลักสูตรภาคสมทบ ประกอบด้วยคณะทั้งหมด 9 คณะ 1 บัณฑิตวิทยาลัย และ 1 โรงเรียน ได้แก่

  • 1.คณะครุศาสตร์
  • 2.คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • 3.คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
  • 4.คณะวิทยาการจัดการ
  • 5.คณะเทคโนโลยีการเกษตร
  • 6.คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • 7.คณะนิติศาสตร์
  • 8.คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์
  • 9.คณะวิศวกรรมศาสตร์)

โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่มวิชาดังนี้

วันราชภัฏ

[แก้]

ทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ [7]ของทุกปี เป็น “วันราชภัฏ” สืบเนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม สถาบันราชภัฏแก่วิทยาลัยครูมหาสารคาม และวิทยาลัยครูทั่วประเทศ และได้มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญตราพระราชลัญจกรส่วนพระองค์ เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามและมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ เป็นสิ่งที่นำความภาคภูมิใจสูงสุดมาสู่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามในฐานะสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น สมควรจะเทิดพระมหากรุณาธิคุณนี้ไว้เหนือเกล้าและจงรักภักดีด้วยการตั้งปณิธานที่จะประพฤติ และปฏิบัติหน้าที่เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในการพัฒนาประเทศและบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พี่น้อง ประชาชนชาวไทย ดังนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถือว่าเป็นวันราชภัฏ ซึ่งชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคามจึงถือเป็นการสถาปนามหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน[8]

คำว่า “ราชภัฏ” ให้ความหมายว่า “คนของพระราชา…ข้าของแผ่นดิน” หากตีความตามความรู้สึกยิ่งกินใจและตีความได้กว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ “การถวายงานประดุจข้าราชบริพารที่รับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทที่ต้องถวายงานอย่างสุดความสามารถ สุดชีวิต และสุดจิตสุดใจ” ซึ่งการเป็นคนของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทย่อมเป็นข้าของแผ่นดินอีกด้วย เนื่องจากว่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทผู้เป็นมิ่งขวัญของพวกเราชาวราชภัฏ ทรงเป็นแบบอย่างการทรงงานเพื่อบ้านเมือง และแผ่นดินอย่างที่มิเคยทรงหยุดพักแม้เพียงนิด แม้ยามที่ทรงประชวรก็ไม่เคยหยุดทรงงาน เพื่อความสุขของปวงชนชาวสยามของพระองค์นั้นเองด้วยเหตุผลเหล่าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจึงได้พระราชทานพระราชลัญจกร อันเป็นเครื่องประกอบพระราชอิศริยยศ พระราชอิศริยศักดิ์ ลงมาเป็นตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ ประหนึ่งเครื่องเตือนความทรงจำว่าพวกเราชาวราชภัฏคือ “คนของพระราชา และข้าของแผ่นดิน”

เนื่องในวันราชภัฎ[9] ในทุกๆ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ จึงได้จัดกรรมต่างๆ ขึ้นอาทิ การทำบุญตักบาตร การจัดนิทรรศการ การเสวนาทางวิชาการ และการมอบรางวัลต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดีต่อการสนับสนุนอุดมการณ์ของ “ชาวราชภัฎ” หนึ่งในรอบปีมีวาระสำคัญอย่างยิ่งที่พวกเราเลือดราชภัฎจะถือโอกาสในการทำงานเพื่อสนองแนวทางพระราชดำริสืบต่อพระราชปณิธานและสืบสานพระราชประสงค์ เหมาะสมกับการเป็น “ข้ารองพระยุคลบาทยิ่ง” และอย่างให้ชาวราชภัฏทุกท่านสำนึกอยู่เสมอว่า “มีหน้าที่อุทิศตนทำงานทุกอย่าง เพื่อเป็นบทพิสูจน์ความจงรักภักดิ์ดี และเทิดทูนใต้ฝ่าละอองธุรีพระบาท และล้นเกล้าล้นกระหม่อมทุกๆ พระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ สำคัญนักเรียน นักศึกษา ครู คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ พวกเราชาวราชภัฏต้องเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเกศี ด้วยการปฏิบัติทึกภาระกิจที่ได้รับมอบหมายประหนึ่งทำถวายใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทในทุกกรณี เพราะพวกเราชาวราชภัฎคือ “คนของพระราชา ข้าของแผ่นดิน”

 พิธีพระราชทานปริญญาบัตร

[แก้]
  • ปี พ.ศ. 2527-2537 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาแก่ผู้สำเร็จจากวิทยาลัยครูมหาสารคาม - วิทยาลัยครูทั่วประเทศ ณ อาคารใหม่สวนอัมพร พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร
    หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร สถานที่พระราชทานปริญญาบัตรบัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ปี พ.ศ. 2538 - ปัจจุบัน
  • ปี พ.ศ. 2548 [10]พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม[11]-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมไพรพยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
  • ปี พ.ศ. 2547-2559 [12]พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 (เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร) เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม[13]-มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
  • ปี พ.ศ. 2560 - 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระองค์เองในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
  • ปี พ.ศ. 2565 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
  • ปี พ.ศ. 2566 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องค์มนตรี เป็นตัวแทนพระองค์ ไปในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
พิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
ประจำปี ผู้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ สถานที่ หมายเหตุ
รัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
พ.ศ. 2526

(17-20,22-25,27 พฤษภาคม พ.ศ. 2526)

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อาคารใหม่สวนอัมพร พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาแก่ผู้สำเร็จจากวิทยาลัยครูมหาสารคาม - วิทยาลัยครูทั่วประเทศ
พ.ศ. 2527 - พ.ศ. 2537 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาแก่ผู้สำเร็จจากวิทยาลัยครูมหาสารคาม - วิทยาลัยครูทั่วประเทศ
พ.ศ. 2538 - พ.ศ. 2546 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร หอประชุมมหาวชิราลงกรณ สถาบันราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันราชภัฏมหาสารคาม - สถาบันราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พ.ศ. 2548[14] สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร หอประชุมไพรพยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี[15] เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พ.ศ. 2547 - พ.ศ. 2559[16] สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร[17] เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประจำปี ผู้เสด็จพระราชดำเนินฯ สถานที่ หมายเหตุ
รัชสมัยปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
พ.ศ. 2560 - 2563 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระองค์เองในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประจำปี ผู้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ สถานที่ หมายเหตุ
รัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
พ.ศ. 2565 [18] สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร[19] เสด็จพระราชดำเนินมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ประจำปี ผู้แทนพระองค์ สถานที่ หมายเหตุ
รัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10
พ.ศ. 2566 [20] นายพลากร สุวรรณรัฐ (องคมนตรี) หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร[21] เป็นผู้แทนพระองค์ ไปในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - มหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ครุยวิทยฐานะ

[แก้]

ครุยวิทยฐานะของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นชุดครุยสากล แบ่งสีฮุดตามปริญญาที่สำเร็จการศึกษา

สีฮุดประจำปริญญา

1.ครุศาสตรบัณฑิต =   สีฟ้า

  • คณะครุศาสตร์

2.วิทยาศาสตรบัณฑิต =   สีเหลือง

  • คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ทุกสาขาวิชา)
  • คณะเทคโนโลยีการเกษตร (ทุกสาขาวิชา)
  • คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ (ทุกสาขาวิชา)
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์ (เฉพาะ เทคโนโลยีบัณฑิต)
  • คณะครุศาสตร์ (เฉพาะ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา)

3.ศิลปศาสตรบัณฑิต =   สีแสด

  • คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
  • คณะครุศาสตร์ (เฉพาะ สาขาวิชาการจัดการกีฬา)
  • คณะวิทยาการจัดการ (เฉพาะ สาขานิเทศศาสตร์)

4.ศิลปบัณฑิต =   สีแดง

  • คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (เฉพาะสาขาวิจิตศิลป์, สาขาทัศนศิลป์)

5.บริหารธุรกิจบัณฑิต =   สีชมพู

  • คณะวิทยาการจัดการ

6.บัญชีบัณฑิต = ██ สีฟ้าอ่อน

  • คณะวิทยาการจัดการ (เฉพาะ สาขาการบัญชี)

7.นิติศาสตรบัณฑิต = ██ สีขาว

  • คณะนิติศาสตร์

8.รัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต =   สีเขียวหัวเป็ด

  • คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ (เฉพาะ สาขารัฐประศาสนศาสตร์, สาขาการบริหารจัดการและการบริหารการพัฒนา)

9.รัฐศาสตรบัณฑิต = ██ สีเขียวอ่อน

  • คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ (เฉพาะ สาขารัฐศาสตร์)

10.วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต = ██ สีแดงเลือดนก

  • คณะวิศวกรรมศาสตร์

นายกองค์การบริหารนักศึกษา/ประธานสภานักศึกษา

[แก้]
ปีการศึกษา นายกองค์การบริหารนักศึกษา ประธานสภานักศึกษา
ผู้ดำรงตำแหน่ง คณะ/ชั้นปี สังกัด ผู้ดำรงตำแหน่ง คณะ/ชั้นปี สังกัด
2567 นายชลันธร แก้วโกฏ ครุศาสตร์/3 พรรคดอกจาน นายเทวฤทธิ์ กล่ำดิษฐ วิทยาการจัดการ/4 พรรคพลังนักศึกษา
2566 นายรัตนพล คิดไร ครุศาสตร์/4 พรรคดอกจาน นายนนธกร หันสา มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์/4 พรรคพลังนักศึกษา
2565 นายศราวุธ ถวิลคำ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์/4 พรรคพลังนักศึกษา นายณัฐพงษ์ ภักดีรัก รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4 พรรคพลังนักศึกษา
2564 นางสาวสิริลักษณ์ ยาผาง มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์/4 พรรคพลังนักศึกษา นางสาวยุวดี ศิริบุตรวงศ์ รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4 พรรคพลังนักศึกษา
2563 นายอภิชาติ นันทะแสง นิติศาสตร์/4 พรรคลูกพระวรุณ นายอธิพงษ์ จันทร์เสน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี/4 พรรคพลังนักศึกษา
2562 นายคมสันต์ แสงงาม ครุศาสตร์/4 พรรคดอกจาน นายธนพงษ์ จุติรักษ์ รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4 พรรคเก้าประสาน
2561 นายเกริกเกียรติ ภูจิระ ครุศาสตร์/4 พรรคดอกจาน นายเอกราช โพธิเลกุ รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4 พรรคเก้าประสาน
2560 นายสิทธิโชค จันนามอม ครุศาสตร์/4 พรรคดอกจาน นายชุติพงศ์ แหไธสงค์ ครุศาสตร์/4 พรรคดอกจาน
2559 นายศุภชัย แสนกระจาย วิทยาการจัดการ/4 พรรคราชภัฏ นางสาวเครือมาศ ถาวิชัย รัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์/4 พรรคเก้าประสาน
2558 นายวิฑูรย์ แข็งฤทธิ์ นิติศาสตร์/4 พรรคลูกพระวรุณ นายมนตรี อริเดช ครุศาสตร์/4 พรรคดอกจาน
2557 นายศุภนนท์ ตาบผาด ครุศาสตร์/4 พรรคดอกจาน ครุศาสตร์/4 พรรคดอกจาน

ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง

[แก้]

นักการเมือง

[แก้]

นักเขียน

[แก้]
  • ชัชวาลย์ โคตรสงคราม นักเขียนเรื่องสั้นและนวนิยาย ได้รับรางวัลช่อการะเกดประจำปี 2535 จากเรื่องสั้นชื่อ "เจ้านกกระจิบ" รวมพิมพ์ในเล่ม "รากเหง้าเผด็จการ" โดยสุชาติ สวัสดิ์ศรี บรรณาธิการ นวนิยายสัจนิยมมหัศจรรย์ระดับพื้นผิว เรื่อง "ทะเลน้ำนม" เข้ารอบ 7 เล่ม สุดท้ายรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปีพุทธศักราช 2552

นักร้อง/นักแสดง

[แก้]
  • ครูเต้ย อภิวัฒน์ บุญเอนก ศิลปินนักร้อง ค่ายคืนถิ่นสตูดิโอ และอดีตข้าราชการครู โรงเรียนบ้านโนนธาตุ จังหวัดขอนแก่น จบจากคณะครุศาสตร์ สาขาดนตรีศึกษา
  • สายแนน โพธิ์งาม ศิลปินนักร้อง ค่ายสิงห์มิวสิค จบจากคณะมนุษย์และสังคมศาสตร์

นักกีฬา

[แก้]

บุคคลทั่วไป

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. [ไฟล์:///C:/Users/ACER/Downloads/Documents/FTES-2562.pdf จำนวนนักศึกษา]
  2. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. "มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - Rajabhat Maha Sarakham University". rmu.ac.th.
  3. พระราชบัญญติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. 2538
  4. พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. 2547
  5. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม. "มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม - Rajabhat Maha Sarakham University". rmu.ac.th.
  6. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/E/196/T5.PDF
  7. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  8. https://th.wikipedia.org/w/index.php?title=%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%8F&action=edit&section=3
  9. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  10. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  11. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  12. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  13. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  14. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  15. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  16. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  17. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  18. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  19. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  20. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.
  21. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-13. สืบค้นเมื่อ 2021-11-13.