ข้ามไปเนื้อหา

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

พิกัด: 13°39′09″N 100°29′38″E / 13.652383°N 100.493872°E / 13.652383; 100.493872
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี
พระจอมเกล้าธนบุรี
ตราพระมหาพิชัยมงกุฏ
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
ชื่อย่อมจธ. / KMUTT
คติพจน์The trained man wins
ทนโต เสฏโฐ มนุสเสสุ
(ในหมู่มนุษย์ ผู้ที่ฝึกตนดีแล้วเป็นผู้ประเสริฐสุด)
ประเภทสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ
สถาปนา4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 (64 ปี)
อธิการบดีรศ. ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย[1]
อธิการบดีรศ. ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย[1]
นายกสภาศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์
ผู้ศึกษา14,933 คน (กันยายน 2566)[2]
ที่ตั้ง
วิทยาเขต3 พื้นที่การศึกษา และ 1 อาคาร
ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยดอกธรรมรักษา
สี
  •   สีแสด
  •   สีเหลือง
เว็บไซต์www.kmutt.ac.th

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (อังกฤษ: King Mongkut's University of Technology Thonburi; อักษรย่อ: มจธ. – KMUTT) หรือนิยมเรียกโดยทั่วไปว่า บางมด (Bangmod) เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยที่มีชื่อเสียงทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสถาปัตยกรรมศาสตร์ และได้รับเลือกจากรัฐบาลให้เป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ (National Research University) รวมทั้งเป็นมหาวิทยาลัยที่ปรับเปลี่ยนสถานะจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐเป็น สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ แห่งแรกของประเทศไทย

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีเปิดสอนใน 8 คณะ, บัณฑิตวิทยาลัย 2 แห่ง สถาบันซึ่งดูแลและจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรเฉพาะทาง 1 แห่ง และวิทยาลัย 1 แห่ง โดยเปิดสอนทั้งหลักสูตรปกติ หลักสูตรสองภาษา และหลักสูตรนานาชาติ ครอบคลุมในระดับปริญญาตรี, โท และเอก จัดการเรียนการสอนใน 3 พื้นที่การศึกษา และ 1 อาคาร คือ มจธ.บางมด, มจธ.บางขุนเทียน, มจธ.ราชบุรี และสำนักเคเอกซ์ (KX - Knowledge Exchange for Innovation)

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ประกอบด้วยพระนาม "พระจอมเกล้า" ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานตามพระบรมนามาภิไธย แห่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และมีพระบรมราชานุญาต ให้อัญเชิญตรา "พระมหามงกุฎ" มาเป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน

มจธ. เป็นมหาวิทยาลัยไทยที่ติดอันดับโลก โดยเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี 5 ปีซ้อน ในปี 2561 ถึง 2565 โดยสถาบันการจัดอันดับมหาวิทยาลัยระดับโลก Times Higher Education[3] และถูกจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยทางเทคโนโลยีอันดับที่ 1 ของประเทศไทย 2 ปีซ้อน ในปี 2562 และ 2563 โดยการจัดอันดับของ U.S. News & World Report[4]

ประวัติ

[แก้]

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เดิมใช้ชื่อว่า "วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี " ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 126 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร 10140

สาเหตุในการก่อตั้งเนื่องมาจากในช่วงปี 2500 ประเทศไทยได้มีการขยายตัวอย่างมาก ประกอบกับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ (เทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปัจจุบัน) ไม่มีที่ศึกษาต่อ เพราะมีมหาวิทยาลัยอยู่เพียง 5 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยศิลปากร ทางกระทรวงศึกษาธิการเห็นถึงความจำเป็นในการจัดตั้งวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงได้จัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ณ ตำบลบางมด อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดธนบุรี เป็นสถาบันที่เปิดสอนระดับอุดมศึกษา (เทียบเท่าปริญาตรี) เป็นลำดับที่ 7 ในประเทศไทย รองจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และวิทยาลัยวิชาการศึกษา ตามลำดับ

บรรยากาศยามเย็นบริเวณสระมรกตและอาคารสำนักอธิการบดี มองจากด้านหลังห้องประชุมจำรัสฯ

ช่วงเวลา

[แก้]

แบ่งได้เป็น 4 ช่วง ดังนี้

วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี (พ.ศ. 2503–2514)

[แก้]

วิทยาลัยเทคนิคธนบุรีได้รับการสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 ในสังกัดกองวิทยาลัยเทคนิค กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งในระยะเริ่มแรก วิทยาลัยรับนักศึกษาโดยสอบตรงจากผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ (เทียบเท่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในปัจจุบัน) เข้าศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) โดยมีหลักสูตร 3 ปี ใน 4 สาขาวิชา คือ

  1. ช่างก่อสร้าง (ปัจจุบันคือ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา)
  2. ช่างไฟฟ้า (ปัจจุบันคือ ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า)
  3. ช่างยนต์ (ปัจจุบันคือ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล)
  4. ช่างโลหะ (ปัจจุบันคือ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ)

วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี เป็นวิทยาลัยเทคนิคแห่งที่ 5 ของประเทศ ก่อตั้งขึ้นหลังจากวิทยาลัยเทคนิค 4 แห่งแรก อันประกอบไปด้วยวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ (พ.ศ. 2495), วิทยาลัยเทคนิคภาคใต้ (พ.ศ. 2497), วิทยาลัยเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (พ.ศ. 2499) และวิทยาลัยเทคนิคภาคพายัพ (พ.ศ. 2500) ซึ่งเป็นวิทยาลัยเทคนิคแห่งแรกและแห่งเดียวที่รับเฉพาะผู้สำเร็จชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ มาเรียนต่อในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง

เมื่อ พ.ศ. 2505 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรีได้รับความช่วยเหลือจากยูเนสโก (UNESCO) และกองทุนพิเศษสหประชาชาติ โครงการมีระยะเวลา 5 ปี ในการจัดหาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ให้มาช่วยดำเนินการสอน รวมทั้งให้ทุนการศึกษาเพิ่มเติมแก่อาจารย์ และจัดซื้ออุปกรณ์การศึกษาให้แก่วิทยาลัย รวมทั้งวิทยาลัย จะรับนักศึกษาโดยได้เข้าร่วมกับ สภาการศึกษาแห่งชาติ ในการใช้ วิธีสอบคัดเลือกรวมเพื่อรับนักศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ (การสอบเอนทรานซ์) (โดยมี สถาบันการศึกษา จำนวน 6 แห่ง คือ มหาวิทยาลัย 5 แห่ง ที่มีอยู่ในขณะนั้น ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และ วิทยาลัย 1 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ได้จัดสอบร่วมกัน)

ทัศนียภาพยามค่ำภายในมหาวิทยาลัยฯ

พ.ศ. 2506 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ได้แบ่งการบริหารเป็น 4 คณะวิชา คือ

  1. คณะวิชาช่างโยธา
  2. คณะวิชาช่างไฟฟ้า
  3. คณะวิชาช่างกล
  4. คณะวิชาสามัญ

พ.ศ. 2507 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ได้ปรับปรุงหลักสูตรที่เปิดสอน คือ

  1. หลักสูตรแผนกวิชาช่างก่อสร้าง (โยธา)
  2. หลักสูตรแผนกวิชาช่างก่อสร้าง (สถาปัตย์)
  3. หลักสูตรแผนกวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง
  4. หลักสูตรแผนกวิชาช่างยนต์
  5. หลักสูตรแผนกวิชาช่างโลหะ

พ.ศ. 2508 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ได้รับความช่วยเหลือจาก ยูเนสโก (UNESCO) และ กองทุนพิเศษ สหประชาชาติ ต่ออีก โครงการมีระยะเวลา 4 ปี ในรูปแบบเดียวกับโครงการแรก คือมี ผู้เชี่ยวชาญ ทุนการศึกษา อบรมแก่อาจารย์ และอุปกรณ์การศึกษา ซึ่งได้ขยายเพิ่มการสอนในหลักสูตร ปทส. ต่อจาก ปวส. เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2508 ในสาขาช่างยนต์,ช่างโลหะ และปี พ.ศ. 2509 ในสาขาช่างโยธา,ช่างไฟฟ้า โดยความเห็นชอบของ กระทรวงศึกษาธิการ และ คณะรัฐมนตรี ให้ทำการเปิดสอนในระดับประกาศนียบัตรเทคนิคชั้นสูง (ปทส.) หลักสูตร 2 ปี ต่อจากประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หลักสูตร 3 ปี รวมมีระยะเวลาศึกษา 5 ปี (เทียบเท่าปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ ใน 4 สาขา (โยธา,ไฟฟ้า,เครื่องกล,อุตสาหการ) ) รวมทั้งจัดตั้ง คณะวิชาฝึกหัดครูเทคนิคชั้นสูง เป็นคณะที่ 5 ของ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี

พ.ศ. 2510 วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี เสนอโครงการ สถาบันเทคโนโลยีธนบุรี (Thonburi Institute of Technology) หรือ ( T I T ) และกระทรวงศึกษาธิการ อนุมัติในหลักการ เมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2510 ให้ขยายหลักสูตรการเรียนการสอนเป็น 5 ปี ต่อจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สายวิทยาศาสตร์ (ม.ศ.5)

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี (พ.ศ. 2514–2529)

[แก้]

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าถูกสถาปนาขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2514 จากการรวมวิทยาลัยเทคนิคธนบุรี วิทยาลัยเทคนิคพระนครเหนือ และวิทยาลัยโทรคมนาคมนนทบุรี โดยวิทยาลัยเทคนิคธนบุรี มีสถานะเป็นวิทยาเขตหนึ่งของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ใช้ชื่อว่า "สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี" และเปลี่ยนจากหลักสูตรประกาศนียบัตรเทคนิคชั้นสูง (ปทส.) มาเป็นหลักสูตรปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตร 5 ปี ใน 4 สาขา (โยธา, ไฟฟ้า, เครื่องกล, อุตสาหการ) และให้เลิกรับนักศึกษาสาขาวิชาสถาปัตยกรรมในสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี ตั้งแต่ปีการศึกษา 2515 และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี ได้แบ่งการบริหารเป็น 7 ภาควิชา คือ

  1. ภาควิชาวิศวกรรมโยธา
  2. ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
  3. ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล
  4. ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหกรรม
  5. ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
  6. ภาควิชาภาษาและสังคมศาสตร์
  7. ภาควิชาครุศาสตร์

พ.ศ. 2515 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า จัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 1 ให้กับผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2510-2514 ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันพุธที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2515 โดย สำนักงาน ก.พ. ได้รับรอง ปริญญาวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (สาขา โยธา, ไฟฟ้ากำลัง, ไฟฟ้าสื่อสาร, เครื่องกล และ อุตสาหการ) ของ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี

พ.ศ. 2517 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ย้ายสังกัดจากกระทรวงศึกษาธิการมาสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย เป็นสถาบันการศึกษาและวิจัยระดับอุดมศึกษา เป็นนิติบุคคล มีฐานะเป็นกรมสังกัด และ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตธนบุรี ได้แบ่งการบริหารเป็น 2 คณะ 8 ภาควิชา คือ

  1. คณะวิศวกรรมศาสตร์
    1. ภาควิชาวิศวกรรมโยธา
    2. ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
    3. ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล
    4. ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ
    5. ภาควิชาวิศวกรรมเคมี
  2. คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์
    1. ภาควิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์
    2. ภาควิชาภาษาและสังคมศาสตร์
    3. ภาควิชาครุศาสตร์อุตสาหกรรม

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (พ.ศ. 2529–2541)

[แก้]

พ.ศ. 2529 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับการสถาปนาขึ้น เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529

พ.ศ. 2532 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ปรับหลักสูตรปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตร 5 ปี มาเป็นหลักสูตร 4 ปี

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (พ.ศ. 2541–ปัจจุบัน)

[แก้]

พ.ศ. 2541 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับการสถาปนาขึ้น เมื่อวันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2541 และได้เปลี่ยนสภาพเป็น สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ

พ.ศ. 2552 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้รับการประกาศรายชื่อจาก กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ให้เป็น 1 ใน 9 แห่ง ของ มหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ

ลำดับการจัดตั้ง

[แก้]
  1. พ.ศ. 2503 จัดตั้ง คณะวิศวกรรมศาสตร์
  2. พ.ศ. 2517 จัดตั้ง คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม
  3. พ.ศ. 2519 จัดตั้ง คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ
  4. พ.ศ. 2533 จัดตั้ง คณะวิทยาศาสตร์
  5. พ.ศ. 2537 จัดตั้ง คณะศิลปศาสตร์
  6. พ.ศ. 2537 จัดตั้ง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ
  7. พ.ศ. 2537 จัดตั้ง คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี
  8. พ.ศ. 2538 จัดตั้ง คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
  9. พ.ศ. 2538 จัดตั้ง สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม
  10. พ.ศ. 2545 จัดตั้ง บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม
  11. พ.ศ. 2559 จัดตั้ง วิทยาลัยสหวิทยาการ

พระราชวงศ์ กับมหาวิทยาลัย

[แก้]

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

การค้นพบสุริยุปราคามืดหมดดวงของพระองค์ท่าน เป็นการแสดงพระอัจฉริยภาพด้านวิทยาศาสตร์ของคนไทยให้ชาวโลกประจักษ์ว่า ทรงมีพระปรีชาสามารถในการคำนวณ ทรงกระทำตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง และการที่พระองค์ทรงคำนวณการเกิดสุริยุปราคาได้เช่นนี้นั้น แสดงว่าประเทศไทยจะต้องมีระบบเวลามาตรฐานและมีวิธีการรักษาเวลามาตรฐานแบบอารยประเทศที่เชื่อถือได้ ถึงขั้นนำมาวัดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของโลกได้ การศึกษาในพระราชสำนัก จากบันทึกของหมอบรัดเลย์ (สยามสามสมัยจากสายตาหมอบรัดเลย์) วันก่อนที่เจ้าฟ้าจะทรงลาผนวช พระองค์โปรดให้มิชชันนารีโปรเตสแตนต์ที่ทรงสนิทสนมมาเป็นปีๆ เข้าเฝ้า ในระหว่างการเข้าเฝ้า พระองค์ตรัสอย่างไม่ถือพระองค์และให้รู้เป็นการภายใน สิ่งที่พระองค์ตรัสทำให้ความหวังที่จะเห็นสยามรุ่งเรืองในอนาคตฟื้นคืนมาอีก พระราชดำรัสที่ทำให้เราหูผึ่งก็คือ พระราชดำรัสที่จะให้มีชั้นเรียนขนาดใหญ่ให้หนุ่มสยามได้ศึกษาภาษาอังกฤษอย่างดี และจะทรงโปรดให้มีโรงเรียนมัธยมขึ้นในบางกอก ที่สอนทั้งภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์จากตะวันตกด้วย

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระราชทานที่ดินแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา กรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ ตำบล ราชบูรณะ เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ร.ศ. ๑๒๓ ตรงกับ พ.ศ. ๒๔๔๗ ที่ดินเลขที่ ๑๐๘ โฉนดเลขที่ ๑๒๘๖ พื้นที่ตามโฉนด ๒๕๖ ไร่ ๑ งาน ๙๖ ตารางวา

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระนาม "พระจอมเกล้า" เป็นชื่อของสถาบัน มีนามภาษาอังกฤษว่า “ King Mongkut's Institute of Technology Thonburi” 24 ตุลาคม 2534 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จฯ พระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการนิทรรศการเทคโนโลยี ครั้งที่ 6

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา กรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ

กรมหลวงสมรรัตนสิริเชษฐ'

ทรงพระเมตตามาก ได้ฉลองพระเดชพระคุณสนิทมากยิ่งกว่าพระองค์อื่น ๆ ด้วยพระปรีชาว่องไว ในราชกิจทั้งปวง และมีอัธยาศัยโอบอ้อมอารีกว้างขวางในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ และทรงพระอุตสาหะดูแล บังคับบัญชาการฝ่ายใน ให้สำเร็จไปตามพระราชประสงค์ และราชประเพณี ทรงพระปรีชาสามารถในราชกิจเก่าใหม่ ตั้งพระราชหฤทัยจงรักภักดีเป็นอันมาก จึงมีพระบรมราชโองการทรงสถาปนา พระเจ้าพี่นางเธอ พระองค์เจ้าโสมาวดี ศรีรัตนราชธิดา เป็นพระองค์เจ้าต่างกรมฝ่ายใน

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ และทรงเททองหล่อพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเปิดงานนิทรรศการเทคโนโลยี ครั้งที่ 4 ทรงเปิดอาคารคณะพลังงานและวัสดุ อาคารภาควิชาเคมี และอาคารห้องสมุด ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดหอบรรณสารสนเทศ ทอดพระเนตรนิทรรศการ มจธ. กับมิติด้านชุมชนแห่งการเรียนรู้และอยู่อาศัย และทรงวางศิลาฤกษ์อาคาร ปฏิบัติการทางวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี แขวงบางมด เขตทุ่งครุ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

เสด็จฯ แทนพระองค์ทรงเปิดอาคารคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม และงานครบรอบ 20 ปี ของสถาบันฯ เสด็จฯ แทนพระองค์ทรงเปิดพระราชานุสาวรีย์ ทรงเปิดงานนิทรรศการเทคโนโลยี ครั้งที่ 5 และทรงเปิดสำนักงานโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป ภายใต้โครงการหลวง และโครงการพระราชดำริในความรับผิดชอบของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

18 สิงหาคม 2541 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เสด็จมาทรงเป็นประธานเปิดแพรคลุมป้าย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (บางมด)

วันสำคัญของมหาวิทยาลัย

[แก้]

วันสถาปนา

[แก้]
ตรงกับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ฯพณฯ ม.ล.ปิ่น มาลากุล ประกาศตั้ง “ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี ” เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 รับผู้จบเตรียมอุดมศึกษา (ม.6 ปัจจุบัน) เฉพาะสาย วิทยาศาสตร์ ศึกษาต่อ 3 ปี ได้วุฒิ ปว.ส. นับเป็นวิทยาลัยเทคนิค แห่งแรก ในประเทศไทย ณ ตำบลบางมด อำเภอราษฎร์บูรณะ จังหวัดธนบุรี

วันพระราชทานนาม

[แก้]
ตรงกับวันที่ 28 พฤษภาคม ของทุกปี

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระนาม “ พระจอมเกล้า ” เป็นชื่อของสถาบัน มีนามภาษาอังกฤษว่า “ King Mongkut's Institute of Technology ” เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2513

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายภาพร่วมกับเจ้าเมืองสิงคโปร์และแขกต่างประเทศ ณ ค่ายหลวงหว้ากอ

วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

[แก้]
ตรงกับวันที่ 18 สิงหาคม ของทุกปี

วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินชลมารคและสถลมารค ทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวงที่ทรงคำนวณพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า 2 ปี ว่าจะเกิดในวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง สัมฤทธิศก จุลศักราช 1230 โดยจะเห็นหมดดวงที่หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตรงเกาะจานขึ้นไปถึงปราณบุรี และลงไปถึง จ.ชุมพร พระองค์ทรงรับเอาศิลปวิทยาการ และความคิดสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการปกครองประเทศ ด้วยเหตุนี้องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) จึงได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก ด้วยพระราชกรณียกิจและพระเกียรติคุณนานัปการ โดยเฉพาะพระราชกรณียกิจด้านดาราศาสตร์ ทั้งนี้ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ มีแนวคิดว่าน่าจะถือเอาวันที่ 18 สิงหาคม เป็นวันวิทยาศาสตร์ไทย ต่อมาวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2525 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็น "พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" พร้อมทั้งกำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคม เป็น "วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ" และต่อมาได้มีการสร้าง "อุทยานวิทยาศาสตร์"

วันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

[แก้]
ตรงกับวันที่ 18 ตุลาคม ของทุกปี

เสด็จพระราชสมภพในวันพฤหัสบดี ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ปีชวด ตรงกับวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2347 ในสมัยรัชกาลที่ 1 ณ นิวาสสถานในพระราชนิเวศน์เดิม ด้านใต้ของวัดอรุณราชวราราม เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 43 และเป็นลำดับที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยและสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี

วันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

[แก้]
ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม ของทุกปี

เสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดี เดือน 11 ขึ้น 15 ค่ำ ปีมะโรง เวลาทุ่มเศษ ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 พิธีวางพวงมาลา เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บวงสรวงพระอริยพรหม และพระบรมราชานุสาวรีย์ ,ถวายบังคม และวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ ,หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์,พระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์

สัญลักษณ์

[แก้]

ตราสัญลักษณ์

[แก้]
พระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 4

ตราประจำมหาวิทยาลัย

[แก้]

ลักษณะของตราเชิญมาจากพระราชลัญจกรประจำพระองค์ (ตราประจำพระองค์) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4

ลักษณะของตรา ประกอบด้วยลายกลางเป็นตราพระมหามงกุฎ ซึ่งนำมาจากพระบรมนามาภิไธยเดิม "มงกุฎ" และเป็นศิราภรณ์สำคัญหนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ของพระมหากษัตริย์ มีฉัตรบริวารขนาบอยู่บริเวณด้านข้างทั้งสอง โดยสัญลักษณ์ทั้งหมดจะอยู่ภายในวงกลม 2 ชั้น มีอักษรทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษซึ่งแสดงนามมหาวิทยาลัย กำกับอยู่ภายในโค้งด้านล่างของวงกลม

ตราสัญลักษณ์วิสัยทัศน์

[แก้]
ตราสัญลักษณ์วิสัยทัศน์

เริ่มใช้ในปี พ.ศ. 2552 ประกอบด้วยสองส่วนคือ สัญลักษณ์วิสัยทัศน์ (Vision Mark) และตัวอักษรสัญลักษณ์ (Wordmark)

สัญลักษณ์วิสัยทัศน์ (Vision Mark) สื่อถึงความชัดเจนในวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัย (Framing Vision) ที่จะก้าวสู่อนาคตอย่างยั่งยืน ด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาว มจธ. โดยรูปแบบของจุด หรือ Pixel ที่เรียงกันสามารถสื่อถึงความเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีได้อย่างร่วมสมัย ในขณะเดียวกันการเรียงกันเป็นเลขสี่ยังสามารถสื่อถึงความภาคภูมิใจในนามพระราชทาน

ตัวอักษรสัญลักษณ์ (Wordmark) เป็นการเรียงตัวกันอย่างสร้างสรรค์ (Creative & Constructive) สื่อถึงการไม่หยุดนิ่งและการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ การใช้ชื่อย่อตัวอักษรภาษาอังกฤษยังสื่อถึงวิสัยทัศน์ที่จะนำมหาวิทยาลัยก้าวไปสู่สากลอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยตราวิสัยทัศน์ เป็นตราที่มีวัตถุประสงค์เพื่อลดทอนรายละเอียดของตราสัญลักษณ์ (LOGO) ให้ง่ายต่อการจดจำ, สร้างเอกลักษณ์ให้กับมหาวิทยาลัย และเป็นตราสัญลักษณ์ที่สามารถใช้ได้ในทุก ๆ ที่ เช่น ขวดน้ำ มจธ., ใบปลิว, แก้วน้ำ, ของที่ระลึก รวมทั้งที่ ๆ ไม่เหมาะสมที่จะใช้ตราพระลัญจกรซึ่งเป็นตราประจำพระองค์พระมหากษัตริย์

เพลงประจำมหาวิทยาลัย

[แก้]
  • เพลงพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัย ประพันธ์ในปี พ.ศ. 2542 โดยนายก่อเกียรติ ชาตะนาวิน บทเพลงมีเนื้อร้องที่ครอบคลุมถึงสัญลักษณ์ต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
  • เพลงมาร์ชห้ามุ่ง เป็นเพลงประพันธ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2553 โดยนายไกวัล กุลวัฒโนทัย บทเพลงที่สามารถถ่ายทอดวิสัยทัศน์ห้ามุ่ง
  • เพลงลูกพระจอม เป็นเพลงประพันธ์ขึ้นในปี พ.ศ. 2551 ขับร้องสู่สาธารณชนครั้งแรกในกิจกรรมถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหาพิชัยมงกุฎ ขับร้องโดยวงประสานเสียงแห่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (KMUTT Chorus)
พระมหามงกุฎและผู้อัญเชิญฯ ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณปี 2567
  • เพลงสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เป็นเพลงประพันธ์ทำนองขึ้นโดยครูเอื้อ สุนทรสนานแห่งวงสุนทราภรณ์ คำร้องโดย ธาตรี เป็นบทเพลงประจำสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า

สีประจำมหาวิทยาลัย

[แก้]

สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีแสดและสีเหลือง

โดยสีแสดเป็นสีประจำพระองค์ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ของไทย พระผู้ทรงริเริ่มแนวคิดสมัยใหม่ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย

ส่วนสีเหลืองเป็นสีประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย พระผู้ทรงพระราชทานนามมหาวิทยาลัย

และเมื่อรวมกันจึงเป็นสีที่แสดงถึงความจงรักภักดี และเป็นสีที่แสดงถึงความเคลื่อนไหว ความไม่หยุดนิ่ง ความแข็งแรง ทั้งเป็นสีที่กระตุ้นให้เกิดความกระตือรือร้นเปรียบเทียบได้กับเครื่องมือเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเครื่องมือเครื่องจักรทั้งหลาย ถือเป็นส่วนสำคัญในการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย

ดอกธรรมรักษา

[แก้]

ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ดอกธรรมรักษา เป็นไม้ดอกที่พบมากในบริเวณที่ตั้ง มหาวิทยาลัยนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งวิทยาลัย และมีสีของดอกที่คล้องกับสีประจำมหาวิทยาลัยฯ นอกจากนี้ยังมีนามที่เป็นมงคลต่อนักศึกษาและบุคลากรในด้านจริยธรรม กล่าวคือ สอดคล้องกับคติธรรมที่ว่า "ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม"

การบริหารงาน

[แก้]

ผู้อำนวยการ หรือ อธิการบดี

[แก้]
ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคธนบุรี
ลำดับ รูป รายนามผู้อำนวยการ วาระการดำรงตำแหน่ง
เริ่มต้น สิ้นสุด ระยะเวลา (วัน)
1 อาจารย์ประภา ประจักษ์ศุภนิติ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 10 กันยายน พ.ศ. 2512 8 ปี 219 วัน
อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
ลำดับ รูป รายนามอธิการบดี วาระการดำรงตำแหน่ง
เริ่มต้น สิ้นสุด ระยะเวลา (วัน)
2 ศาสตราจารย์ ดร.พงศ์ศักดิ์ วรสุนทโรสถ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2514 1 ตุลาคม พ.ศ. 2521 6 ปี 283 วัน
3 ศาสตราจารย์ ดร.บุญญศักดิ์ ใจจงกิจ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 22 สิงหาคม พ.ศ. 2526 4 ปี 292 วัน
อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี)
ลำดับ รูป รายนามอธิการบดี วาระการดำรงตำแหน่ง
เริ่มต้น สิ้นสุด ระยะเวลา (วัน)
4 รองศาสตราจารย์ ดร.ไพบูลย์ หังสพฤกษ์ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 5 ปี 365 วัน
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2535
5 รองศาสตราจารย์ ดร.หริส สูตะบุตร 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 5 ปี 364 วัน
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541
6 อาจารย์ ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 8 ปี 0 วัน
15 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2549
7 รองศาสตราจารย์ ดร.ไกรวุฒิ เกียรติโกมล 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 3 ปี 364 วัน
8 รองศาสตราจารย์ ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 8 ปี 158 วัน
22 ธันวาคม พ.ศ. 2557 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561
9 รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย 25 ธันวาคม พ.ศ. 2561 24 ธันวาคม พ.ศ. 2565 5 ปี 288 วัน
18 มีนาคม พ.ศ. 2566 ปัจจุบัน

นายกสภา

[แก้]
นายกสภา สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
ลำดับ รูป รายนามนายกสภา วาระการดำรงตำแหน่ง
เริ่มต้น สิ้นสุด ระยะเวลา (วัน)
1 นายสุกิจ นิมมานเหมินทร์ 4 กุมภาพันธ์ 2514 16 พฤศจิกายน 2514 0 ปี 285 วัน
2 บุญถิ่น อัตถากร 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2514 18 ธันวาคม พ.ศ. 2515 1 ปี 31 วัน
3 ไฟล์:อภัย จันทวิมล.jpg นายอภัย จันทวิมล 19 ธันวาคม พ.ศ. 2515 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 1 ปี 161 วัน
4 นายเกรียง กีรติกร 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2517 28 มิถุนายน พ.ศ. 2517 0 ปี 29 วัน
5 นายเกษม สุวรรณกุล 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517 25 มกราคม พ.ศ. 2518 0 ปี 210 วัน
6 พลเรือตรี ชลี สินธุโสภณ 26 มกราคม พ.ศ. 2518 13 มกราคม พ.ศ. 2521 2 ปี 352 วัน
7 จำรัส ฉายะพงศ์ 14 มกราคม พ.ศ. 2521 31 มกราคม พ.ศ. 2530 9 ปี 17 วัน
นายกสภา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี)
ลำดับ รูป รายนามนายกสภา วาระการดำรงตำแหน่ง
เริ่มต้น สิ้นสุด ระยะเวลา (วัน)
7 จำรัส ฉายะพงศ์ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 30 มิถุนายน พ.ศ. 2531 1 ปี 150 วัน
8 บุญเยี่ยม มีศุข 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 1 กันยายน พ.ศ. 2541 10 ปี 62 วัน
9 นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา 2 กันยายน พ.ศ. 2541 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 3 ปี 179 วัน
10 ทองฉัตร หงส์ลดารมภ์ 1 มีนาคม พ.ศ. 2545 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 17 ปี 87 วัน
11 นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ปัจจุบัน 5 ปี 133 วัน

หน่วยงานที่เปิดสอน

[แก้]

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเปิดสอนระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก

คณะ

[แก้]

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มี 12 หน่วยงานที่จัดทำการเรียนการสอน แบ่งเป็น 8 คณะ 1 สถาบัน 2 บัณฑิตวิทยาลัยและ 1 วิทยาลัยสหวิทยาการ ดังนี้

คณะวิศวกรรมศาสตร์

[แก้]

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2503 ถือว่าเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่มีสาขาวิชาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็น 1 ใน 8 ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย เรียงลำดับตามการก่อตั้งดังนี้ 1.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 3.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 4.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 5.มหาวิทยาลัยขอนแก่น 6.สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง 7.มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และ 8.มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ถือว่าเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เปิดสอนมีสาขาวิชาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ในระดับปริญญาตรีมากที่สุด 1 ใน 3 ของประเทศไทย และในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกมากที่สุดในประเทศไทย

หลักสูตรทั้งหมดของคณะวิศวกรรมศาสตร์ รวมทั้งสิ้น 57 สาขา สอนทั้งในหลักสูตรปกติ หลักสูตรนานาชาติ และหลักสูตร Residential College ของมหาวิทยาลัย Cambridge และ Oxford จากประเทศอังกฤษ อีกทั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ มจธ. คว้าอันดับ 1 ด้านวิศวกรรมศาสตร์ของไทย จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัย โดย  U.S. News & World Report ประจำปี 2020 อีกด้วย

ประกอบด้วย 11 ภาควิชา

ระดับปริญญา สาขาวิชา[5]
อนุปริญญา

หลักสูตรนานาชาติ

  • วิศวกรรมอัตโนมัติ (Kosen Track)[6]
ปริญญาตรี

หลักสูตรปกติ

ปริญญาโท

หลักสูตรนานาชาติ

  • วิศวกรรมเครื่องกล
  • วิศวกรรมไฟฟ้าและสารสนเทศ
  • วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
  • วิศวกรรมยานยนต์และการขนส่งขั้นสูง
ปริญญาเอก

หลักสูตรนานาชาติ

  • วิศวกรรมเครื่องกล
  • วิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

คณะวิทยาศาสตร์

[แก้]

คณะวิทยาศาสตร์ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เปิดสอนในหลักสูตรปกติ สองภาษาและนานาชาติ ในระดับปริญญาตรี โท และเอก และได้รับการจัดอันดับใหเป็น

ประกอบด้วย 4 ภาควิชา

  1. คณิตศาสตร์
  2. ฟิสิกส์
  3. เคมี
  4. จุลชีววิทยา

หลักสูตร

ระดับปริญญา สาขาวิชา[8]
ปริญญาตรี
ปริญญาโท

หลักสูตรนานาชาติ

  • วท.ม. วิทยาศาสตร์นาโนและเทคโนโลยีนาโน

หลักสูตรภาษาอังกฤษ

  • วท.ม. วิทยาศาสตร์ศึกษา
ปริญญาเอก

หลักสูตรนานาชาติ

  • ปร.ด. วิทยาศาสตร์ชีวภาพ
  • ปร.ด. วิทยาศาสตร์นาโนและเทคโนโลยีนาโน

หลักสูตรภาษาอังกฤษ

  • ปร.ด. คณิตศาสตร์ประยุกต์
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ

[แก้]

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นคณะทางด้านสถาปัตยกรรมศาสตร์เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ที่จัดการเรียนการสอนหลักสูตรนานาชาติทุกสาขาวิชา ในระดับปริญญาตรี โท และเอก ครอบคลุมด้านสถาปัตยกรรมหลัก สถาปัตยกรรมภายใน ภูมิสถาปัตยกรรม ออกแบบอุตสาหกรรม ออกแบบนวัตกรรม รวมถึงออกแบบนิเทศน์ศิลป์

ระดับปริญญา สาขาวิชา[9]
ปริญญาตรี

หลักสูตรนานาชาติ

ปริญญาโท

หลักสูตรนานาชาติ

ปริญญาเอก

หลักสูตรนานาชาติ

  • ปร.ด. การออกแบบและวางแผน
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

[แก้]

คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2517 เดิมมีชื่อว่า คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์

ภาควิชา

  1. ครุศาสตร์เครื่องกล
  2. ครุศาสตร์ไฟฟ้า
  3. ครุศาสตร์โยธา
  4. ครุศาสตร์อุตสาหการ
  5. เทคโนโลยีการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์
  6. เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา
  7. คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ

หลักสูตร

ระดับปริญญา สาขาวิชา[10]
ปริญญาตรี

หลักสูตร 5 ปี

ปริญญาโท

หลักสูตรนานาชาติ

ปริญญาเอก
  • ปร.ด. นวัตกรรมการเรียนรู้และเทคโนโลยี
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ

[แก้]

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2538 ซึ่งปีแห่งเทคโนโลยีสารสนเทศไทยด้วย

SIT KMUTT เป็นคณะเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของประเทศไทย และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งแรกในประเทศไทย ที่เปิดสอนสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศครบถ้วนทั้ง ปริญญาตรี โท และเอก ทั้งหลักสูตรปกติและหลักสูตรนานาชาติ

ระดับปริญญา สาขาวิชา[11]
ปริญญาตรี

หลักสูตรภาษาอังกฤษ

  • วท.บ. วิทยาการคอมพิวเตอร์
ปริญญาโท
ปริญญาเอก

หลักสูตรภาษาอังกฤษ

การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ

[แก้]

คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2519 เดิมมีชื่อว่า คณะพลังงานและวัสดุ นับเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้เปิดหลักสูตรที่มีลักษณะเป็นสหวิทยาการ (Interdisciplinary) ปัจจุบันมีหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก

ระดับปริญญา สาขาวิชา[12]
ปริญญาโท
ปริญญาเอก
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี

[แก้]

คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2537 ปัจจุบันมีหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก

ระดับปริญญา สาขาวิชา[13]
ปริญญาโท
  • วท.ม./ศศ.ม. การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและความยั่งยืน

หลักสูตรนานาชาติ

ปริญญาเอก

หลักสูตรนานาชาติ

การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

คณะศิลปศาสตร์

[แก้]

คณะศิลปศาสตร์ ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2537 ปัจจุบันมีหลักสูตรการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาโทและระดับปริญญาเอก

ระดับปริญญา สาขาวิชา[14]
ปริญญาโท
  • ศศ.ม. สังคมศาสตร์สิ่งแวดล้อม

หลักสูตรนานาชาติ

ปริญญาเอก

หลักสูตรนานาชาติ

  • ปร.ด. ภาษาศาสตร์ประยุกต์
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม

[แก้]

สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (ฟีโบ้) ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2538 ตามแผนพัฒนาการศึกษาฉบับที่ 7 เพื่อวิจัยพัฒนาการศึกษาระดับสูงทางด้านวิชาการหุ่นยนต์ และงานวิจัยทางด้านระบบอัตโนมัติในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงการให้บริการรับปรึกษาด้านอุตสาหกรรมต่างๆภายในประเทศ

ระดับปริญญา สาขาวิชา[15]
ปริญญาตรี
  • วศ.บ. วิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
ปริญญาโท
ปริญญาเอก
  • ปร.ด. วิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม

[แก้]

บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อตั้งเมื่อปี 2546 เปิดสอนหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตและบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ใน 4 สาขาวิชา ดังนี้

ระดับปริญญา สาขาวิชา[16]
ปริญญาโท
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม

[แก้]

เปิดสอนระดับปริญญาโทและเอก

ระดับปริญญา สาขาวิชา[17]
ปริญญาโท

หลักสูตรนานาชาติ

ปริญญาเอก

หลักสูตรนานาชาติ

การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

วิทยาลัยสหวิทยาการ

[แก้]

เปิดสอนระดับปริญญาตรี

ระดับปริญญา สาขาวิชา[18]
ปริญญาตรี

หลักสูตรนานาชาติ

ปริญญาโท
  • วท.ม. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ปริญญาเอก
  • ปร.ด. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การขีดเส้นตัดข้อความ หมายถึง ยุติการรับนักศึกษา

หน่วยงานทั่วไป

[แก้]

หน่วยงานภายใน

[แก้]

สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวท) จัดตั้งขึ้นตามประกาศพระราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 114 ตอนที่ 16 ก. เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกิจจานุเบกษาฉบับนี้ คือ ให้สำนักวิจัยและบริการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ เพื่อเป็นแหล่งดำเนินการวิจัย การพัฒนาและการวิศวกรรม ถ่ายทอดเทคโนโลยีสหวิทยบริการ เพื่อสนองนโยบายด้านการพัฒนาการศึกษาวิทยาศาสตร์และเน้นนโยบายการพึ่งพาตนเอง สร้างขีดความสามารถของภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาวิชาการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ ประกอบด้วยศูนย์ต่างๆ ดังนี้

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ วิทยาเขตบางขุนเทียน

วิทยาเขต

[แก้]
  1. มจธ.บางมด ตั้งอยู่เลขที่ 126 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140 มีพื้นที่มากกว่า 134 ไร่ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 มจธ.บางมด เป็นพื้นที่หลักและศูนย์กลางในการบริหาร และการจัด การเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย
  2. มจธ. (บางขุนเทียน) สวนอุตสาหกรรมแห่งแรกของประเทศไทย อยู่ห่างจาก มจธ. บางมด ประมาณ 20 กิโลเมตร มีพื้นที่รวม 80 ไร่ ประกอบด้วย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี สถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ โรงงานต้นแบบผลิตยาชีววัตถุแห่งชาติ ศูนย์พัฒนามาตรฐานและทดสอบระบบเซลล์แสงอาทิตย์ และอาคารวิจัยและนวัตกรรม กระบวนการชีวภาพ นักศึกษาสามารถเดินทางไปมาระหว่าง มจธ. บางมด และ มจธ.บางขุนเทียน โดยรถโดยสารของมหาวิทยาลัยซึ่งมีให้บริการเดินรถตลอดทั้งวัน
  3. มจธ. (ราชบุรี) เป็นพื้นที่จัดการเรียนการสอนระบบ Residential College แห่งแรกของประเทศไทย มุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ที่สามารถพัฒนาสติปัญญา และการพัฒนาคุณลักษณะการเป็นพลเมืองที่ดี ที่จะนำไปสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในด้านวิชาชีพ มีทักษะชีวิตและสังคม สามารถเชื่อมโยงและประยุกต์ใช้ในโจทย์และวิชาการแขนงต่างๆได้ มจธ. ราชบุรี ก่อตั้งขึ้น ณ ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เนื้อที่ 1,200 ไร่ ในปี พ.ศ. 2538 ตามนโยบายการขยายโอกาสอุดมศึกษาไปสู่ภูมิภาค โดยผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี (หม่อมราชวงศ์กำลูนเทพ เทวกุล) และ ร้อยตำรวจโทเชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ พร้อมด้วยประชาชนใน อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ให้การสนับสนุนการจัดตั้งวิทยาเขต วิทยาเขตราชบุรี เปิดทำการสอนครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 ในคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ หลักสูตร 2 ปี (ต่อเนื่อง) ในปี พ.ศ. 2556 ได้เปิดสอนหลักสูตร Liberal Arts Engineer ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ในสาขาวิศวกรรมเครื่องกล วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมไฟฟ้า (ระบบไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์กำลังและพลังงาน) และวิศวกรรมอุตสาหการ
  4. สำนักเคเอกซ์ หรือ KX - Knowledge Exchange for Innovation ตั้งอยู่ ถ.กรุงธนบุรี เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ โดยมีเป้าหมายคือนำความรู้และนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยไปใช้จริงในภาคอุตสาหกรรมทั้งขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผ่านกลไกการแลกเปลี่ยนทางความรู้เหมือนชื่ออาคาร Knowledge Exchange อาคารด้านในออกแบบโดยใช้แนวคิด Interlocking in Space คือ การเชื่อมพื้นที่แต่ละส่วนเข้าหากัน เพื่อให้ห้องกว้างขึ้น เป็นการใช้สอยพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำนักเคเอ็กซ์มีทั้งหมด 20 ชั้น ประกอบไปด้วย ห้องประชุม ห้องสัมมนา ห้องจัดงาน และ Co-Working Space ทุกส่วนถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานและเรียนรู้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ การเดินทางระหว่าง มจธ. บางมด และสำนักเคเอ็กซ์ สามารถใช้รถโดยสารของมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งมีรอบการใช้บริการตลอดทั้งวัน สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางมายังสำนักเคเอ็กซ์ โดยใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสโดยลงที่สถานีวงเวียนใหญ่

อันดับมหาวิทยาลัย

[แก้]

บุคคลสำคัญ

[แก้]

คณะวิศวกรรมศาสตร์

[แก้]

คณะวิทยาศาสตร์

[แก้]

คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี

[แก้]
  • ผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ (ศิษย์เก่า) อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ

[แก้]

คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ

[แก้]

คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/001/T_0004.PDF
  2. สำนักงานทะเบียนนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (28 September 2023). "จำนวนสถานภาพนักศึกษา ภาคการศึกษาที่ 1/2566" (PDF). สืบค้นเมื่อ 12 February 2024.
  3. LeeSunbin (2 มกราคม 2020). "12 มหาลัยไทย ติดอันดับโลก ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ปี 2020 โดย THE". campus-star.com.
  4. https://www.thaipost.net/main/detail/48859
  5. "คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Faculty of Engineering)". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-05-29. สืบค้นเมื่อ August 19, 2022.
  6. "หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมอัตโนมัติ (หลักสูตรนานาชาติ) หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2566". drive.google.com. สำนักงานพัฒนาการศึกษาและบริการ มจธ. 12 กรกฎาคม 2023. สืบค้นเมื่อ 6 สิงหาคม 2023.
  7. "รู้จัก RESIDENTIAL COLLEGE". ratchaburi.kmutt.ac.th. January 27, 2022. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-08-19. สืบค้นเมื่อ August 19, 2022.
  8. "คณะวิทยาศาสตร์ (Faculty of Science)". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-09-07. สืบค้นเมื่อ September 7, 2022.
  9. "คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.
  10. "คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.
  11. "คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.
  12. "คณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.
  13. "คณะทรัพยากรชีวภาพและเทคโนโลยี". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.
  14. "คณะศิลปศาสตร์". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.
  15. "สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.
  16. "บัณฑิตวิทยาลัยการจัดการและนวัตกรรม". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.
  17. "บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.
  18. "วิทยาลัยสหวิทยาการ". eds.kmutt.ac.th. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-08-05. สืบค้นเมื่อ August 5, 2023.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

13°39′09″N 100°29′38″E / 13.652383°N 100.493872°E / 13.652383; 100.493872