สากลวิทยาลัยภูมินท์นีติศาสตร์และวิทยาศาสตร์เศรษฐกิจ
សាកលវិទ្យាល័យភូមិន្ទនីតិសាស្ត្រនិងវិទ្យាសាស្ត្រសេដ្ឋកិច្ច | |
ประเภท | มหาวิทยาลัยแห่งชาติ [1] |
---|---|
สถาปนา | ค.ศ. 1949 [1] |
อธิการบดี | H.E. Luy Channa [2] |
อาจารย์ | 493 คน [1] |
ผู้ศึกษา | 17,992 คน [1] |
ปริญญาตรี | 16,239 คน [1] |
บัณฑิตศึกษา | 1,753 คน [1] |
ที่ตั้ง | , |
เว็บไซต์ | www |
สากลวิทยาลัยภูมินท์นีติศาสตร์และวิทยาศาสตร์เศรษฐกิจ (เขมร: សាកលវិទ្យាល័យភូមិន្ទនីតិសាស្ត្រនិងវិទ្យាសាស្ត្រសេដ្ឋកិច្ច สากลวิทฺยาลัยภูมินฺทนีติสาสฺตฺรนิงวิทฺยาสาสฺตฺรเสฎฺฐกิจฺจ; อักษรย่อ : ស.ភ.ន.វ.ស. (ส.ภ.น.ว.ส.), อังกฤษ: Royal University of Law and Economics: RULE) เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของกัมพูชา ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1949 โดยใช้ชื่อว่า วิทยาสถานชาตินีติศาสตร์ นโยบาย และเศรษฐกิจ (เขมร: វិទ្យាស្ថានជាតិនីតិសាស្ត្រ នយោបាយ និង សេដ្ឋកិច្ច วิทฺยาสฺถานชาตินีติสาสฺตฺร นโยบาย นิง เสฎฺฐกิจฺจ) ในปี ค.ศ. 1957 ได้มีพระราชกฤษฎีกา[3] ประกาศให้วิทยาสถานมีฐานะกลายเป็นเป็นคณะ แต่ในภายหลังได้ยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยในปี ค.ศ. 2003 ภายใต้ชื่อปัจจุบัน[4] เพื่อเป็นเครื่องบ่งชี้ว่ามหาวิทยาลัยมุ่งเน้นการเรียนการสอนที่ไปที่นิติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์เป็นหลัก แต่อย่างไรก็ดี ภายหลังมหาวิทยาลัยก็ได้เปิดการเรียนการสอนในสาขาอื่นด้วย โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยมี 4 คณะ 2 บัณฑิตวิทยาลัย และหนึ่งศูนย์สำหรับฝึกนักกฎหมาย ปัจจุบันมหาวิทยาลัยได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งที่มีชื่อเสียงด้าน นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และการบริหารธุรกิจ
บุคคลากรและการเรียนการสอน
[แก้]ในปี ค.ศ. 2011 ถึง ค.ศ. 2012 มีนักศึกษา 17,992 คน มีสัดส่วนนักศึกษาหญิง 42.8 % โดยแบ่งเป็นนักศึกษาปริญญาตรี 16,239 คน สัดส่วนนักศึกษาหญิง 44 % ส่วนนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา 1,753 คน มีสัดส่วนนักศึกษาหญิง 25.7 % มีนักศึกษาต่างชาติ 29 คน ทั้งจาก ลาว เวียดนาม เกาหลีใต้ และฝรั่งเศส [1]
นอกจากนี้ นับจากปี ค.ศ. 1993 มหาวิทยาลัยยังได้ส่งนักศึกษาที่มีความสามารถไปศึกษาต่อยังต่างประเทศรวมแล้วกว่า 1,015 คน โดนเฉพาะปี ค.ศ. 2011 ถึง ค.ศ. 2012 มหาวิทยาลัยได้ส่งไปแล้ว 57 คน โดยมีสัดส่วนนักศึกษาหญิง 24 คน และมหาวิทยาลัยยังได้ส่งเสริมนักศึกษาที่มีความสามารถโดดเด่นด้านกฎหมายไปแข่งขันในระดับนานาชาติ ทั้งในสหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ ฮ่องกง ซึ่งก็ได้ผลการตอบรับมาเป็นอย่างดี [1]
ในปี ค.ศ. 2012 มหาวิทยาลัยมีอาจารย์เต็มเวลา 98 คน อาจารย์พิเศษ 395 คน อาจารย์ต่างชาติที่มาแลกเปลี่ยน 69 คน อาจารย์ต่างชาติประจำ 17 คน [5] และเจ้าหน้าที่ 195 คน (หญิง 50 คน) ซึ่งแบ่งเป็นเจ้าหน้าที่ประจำ 115 คน (หญิง 24) และเจ้าหน้าชั่วคราว 80 (หญิง 26) [1]
การเรียนการสอนเป็นระบบสองภาคการศึกษา กำหนดเวลา 4 ปี (8 ภาคการศึกษา) สำหรับระดับปริญญาตรี และ 2 ปี (6 ภาคการศึกษา) สำหรับปริญญาโท โดยมีเงื่อนไขการรับเข้าเรียนดังนี้
ระดับปริญญาตรี
[แก้]ผู้สมัครต้องจบการศึกษามัธยมปลาย หลักสูตรในระดับปริญญาตรีได้แก่ [6][7]
- คณะนิติศาสตร์ (Faculty of Law)
- นิติศาสตร์ (ภาษาเขมร)
- นิติศาสตร์ (ภาษาอังกฤษ)
- นิติศาสตร์ (3 ภาษา : ภาษาอังกฤษ ภาษาเขมร ภาษาฝรั่งเศส)
- รัฐประศาสนศาสตร์ (Faculty of Public Administration)
- รัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต (Bachelor in Public Administration)
- เศรษฐศาสตร์และการบริหาร (Faculty of Economics and Management)
- เศรษฐศาสตร์บัณฑิต (Bachelor in Economics)
- บริหารธุรกิจบัณฑิต (Bachelor in Business Administration)
- บัชญีบัณฑิต (Bachelor in Accounting)
- การเงิน-การธนาคารบัณฑิต (Bachelor in Finance and Banking)
- เศรษฐศาสตร์ (Faculty of Information Economics)
- เศรษฐศาสตร์บัณฑิต (Bachelor in Information Economics)
ระดับบัณฑิตศึกษา
[แก้]ผู้สมัครที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านนิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และสาขาอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือผู้สมัครที่จบปริญญามหาบัณฑิต หรือ ปริญญาเอกสาขาใดก็ได้สามารถเข้าเรียนได้โดยตรง ระดับบัณฑิตศึกษามีหลักสูตรดังนี้คือ[6][8] [7]
ระดับปริญญาโท
[แก้]- คณะนิติศาสตร์
- รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต (Master in Public Administration ; MPA )
- กฎหมายเอกชนมหาบัณฑิต (Master in Private Law ; MPL )
- กฎหมายธุรกิจระหว่างประเทศและการว่าความบริษัทมหาบัณฑิต (Master in International Business Law and Corporate Counsel ; MIB )
- เศรษฐศาสตร์และการบริหาร
- บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (Master of Business Administration ; MBA )
- บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (การเงิน) (Master of Business Administration in Finance ; MBA-Finance )
- บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (การตลาด) (Master of Business Administration in Marketing ; MBA-Marketing )
- บริหารการท่องเที่ยวมหาบัณฑิต (Master in Tourism Management)
- ศูนย์ฝึก
- ศูนย์ฝึกนักกฎหมาย (Lawyer's Training Center)
ระดับปริญญาเอก
[แก้]- มหาวิทยาลัยมีแผนที่จะเปิดหลักสูตรนิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (LL.D) และ เศรษฐศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (PhD) ในอนาคต
ความร่วมมือทางวิชาการ
[แก้]มหาวิทยาลัยมีความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยต่างชาติ 19 แห่ง จาก ลาว ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม สหรัฐอเมริกา และไทย โดยมีการให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเฉลี่ยประมาณปีละ 30 ทุน สถาบันการศึกษาที่ให้ความร่วมมือและมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกสากลวิทยาลัยภูมินท์นีติศาสตร์และวิทยาศาสตร์เศรษฐกิจ ได้แก่ [1][5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 1.05 1.06 1.07 1.08 1.09 1.10 "BRIEF HISTORY". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-26. สืบค้นเมื่อ 2013-04-26.
- ↑ "Organization Chart". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-12-26. สืบค้นเมื่อ 2013-04-26.
- ↑ "พระราชกฤษฎีกา ค.ศ. 1957". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-25. สืบค้นเมื่อ 2013-04-25.
- ↑ "พระราชกฤษฎีกา ค.ศ. 2003". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-18. สืบค้นเมื่อ 2013-04-26.
- ↑ 5.0 5.1 "International Partnership". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-10. สืบค้นเมื่อ 2013-04-26.
- ↑ 6.0 6.1 "หลักสูตร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-03. สืบค้นเมื่อ 2013-04-25.
- ↑ 7.0 7.1 "ACADEMIC DEGREE PROGRAMS". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-06. สืบค้นเมื่อ 2013-04-26.
- ↑ "Master Program". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-31. สืบค้นเมื่อ 2013-04-26.