รถจักรดีเซลในประเทศไทย
รถจักรดีเซลที่ใช้งานโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน มีทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่ รถจักรดีเซลไฟฟ้า ซึ่งเป็นกำลังหลักในการลากจูงรถโดยสารและรถสินค้า และรถจักรดีเซลไฮดรอลิก เป็นรถจักรพิเศษ ที่ใช้งานแค่บางกรณี
รถจักรดีเซลไฟฟ้า[แก้]
รถจักรดีเซลไฟฟ้า เป็นรถจักรที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเป็นต้นกำลัง โดยใช้กำลังจากเครื่องดีเซลไปหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประธาน แล้วนำกระแสไฟฟ้าที่ได้มาไปหมุนมอเตอร์ขับเคลื่อนรถจักรต่อไป ปัจจุบันการรถไฟไทยมีรถจักรดีเซลไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ 10 รุ่น
รถจักรดีเซลไฟฟ้า คือรถจักรที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีต้นกำลังจากเครื่องยนต์ดีเซล โดยที่เครื่องยนต์ดีเซลจะหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าไปจ่ายให้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อทำขับเคลื่อนเพลาให้รถเคลื่อนที่ต่อไป ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่นำรถจักรดีเซลไฟฟ้ามาใช้ในปี พ.ศ. 2471 (ค.ศ. 1928)
รุ่น | ผู้ผลิต | รุ่นเลขที่ | ประจำการ | จำนวนคัน | (แรงม้า) | ความเร็วสูงสุด (กม./ ชม.) | ภาพ | คำอธิบาย / หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Davenport (DA500) | Davenport Locomotive Works, สหรัฐอเมริกา | 511-540 | พ.ศ. 2495 (511-530) พ.ศ. 2500 (531-540) |
30 | 500 (1 × 500) |
82 | ![]() |
• ส่วนใหญ่ตัดบัญชีและนำตัวรถไปประมูลขายเรียบร้อยแล้ว • บางส่วนรอซ่อมที่มักกะสัน • ที่ใช้งานได้ในขณะนี้ มีจำนวน 4 คัน ได้แก่ หมายเลข 527, 530, 520, 540 (โดยทั้ง 4 คันนี้อยู่ที่ สถานีรถไฟพิษณุโลก สถานีรถไฟอุตรดิตถ์ สถานีรถไฟนครราชสีมา และสถานีรถไฟนครลำปาง ตามลำดับ) |
UM12C (GE) | General Electric Transportation, สหรัฐอเมริกา | 4001-4050 | พ.ศ. 2507 (4001-4040) พ.ศ. 2509 (4041-4050) |
50 | 1,320 (2 × 660) |
100 | ![]() |
• ได้รับการทาสีใหม่เมื่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยคันแรกที่ทาสีคือหมายเลข 4045 • ตัดบัญชี 5 คัน • ระบบห้ามล้อแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ลมดูด ลมอัด ลมดูด/ลมอัด • นำเข้าทั้งหมด 2 ชุด โดยชุดแรก (4001-4040) นำเข้ามาก่อน ส่วนชุดที่ 2 (4041-4050) นำเข้ามาเพื่อทดแทนรถจักรพลีมัทที่ได้มอบมาก่อนหน้านี้ |
AD24C (ALS) | ALSTHOM, ประเทศฝรั่งเศส | 4101-4154 | พ.ศ. 2517 – พ.ศ. 2518 | 54 | 2,400 | 100 | ![]() |
• ชุดแรกของรถจักร AD24C • ได้รับการทาสีใหม่เมื่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยคันแรกที่ทาสีคือหมายเลข 4123 • ได้ดัดแปลงติดตั้งเครื่องยนต์ MTU หรือ Caterpillar เป็นบางคัน โดยคันแรกที่ติดตั้งคือหมายเลข 4140[1] • ตัดบัญชี 8 คัน |
AD24C (AHK) | Henschel, Krupp, ประเทศเยอรมนี | 4201-4230 | พ.ศ. 2523 – พ.ศ. 2524 | 30 | 2,400 | 100 | • ชุดที่ 2 ของรถจักร AD24C •ผลิตร่วมกับบริษัท กรุปป์ และ เฮนเชล โดยทั้ง2บริษัทได้รับลิขสิทธิ์โครงประธานจากอัลสธอม • ได้รับการทาสีใหม่เมื่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยคันแรกที่ทาสีคือหมายเลข 4205 • ได้ดัดแปลงติดตั้งเครื่องยนต์ MTU หรือ Caterpillar เป็นบางคัน โดยคันแรกที่ติดตั้งคือหมายเลข 4224 • ตัดบัญชี 3 คัน | |
AD24C (ALD) | อัลสตอม, ประเทศฝรั่งเศส | 4301-4309 | พ.ศ. 2526 | 9 | 2,400 | 100 | • ชุดที่ 3 ของ AD24C • ได้รับการทาสีใหม่เมื่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยคันแรกที่ทาสีคือหมายเลข 4305 • ได้ดัดแปลงติดตั้งเครื่องยนต์ Caterpillar เป็นบางคัน โดยคันแรกที่ติดตั้งคือหมายเลข 4306 • ตัดบัญชี 2 คัน | |
AD24C (ADD) | อัลสตอม, ประเทศฝรั่งเศส | 4401-4420 | พ.ศ. 2528 | 20 | 2,400 | 100 | ![]() |
• ชุดสุดท้ายของ AD24C • ได้รับการทาสีใหม่เมื่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยคันแรกที่ทาสีคือหมายเลข 4419 • ได้ดัดแปลงติดตั้งเครื่องยนต์ MTU หรือ Caterpillar เป็นบางคัน โดยคันแรกที่ติดตั้งคือหมายเลข 4404 • ตัดบัญชี 3 คัน |
8FA-36C (HID) | ฮิตาชิ, ประเทศญี่ปุ่น | 4501-4522 | พ.ศ. 2536 | 22 | 2,860 (2×1,430) =ก่อนลดสเตจเทอร์โบ 2,500 (2×1,250) =หลังลด |
100 | ![]() |
• ใช้เครื่องยนต์ KTTA-50L ปัจจุบันได้ลดสเตจเทอร์โบลง ทำให้รหัสเครื่องยนต์เป็น KTA-50L เหมือนจีอีเอ • ตัดบัญชี 1 คัน |
CM22-7i (GEA) | General Electric Transportation, สหรัฐอเมริกา | 4523-4560 | พ.ศ. 2538 – พ.ศ. 2539 | 38 | 2,500 (2 × 1250) |
100 | ![]() |
• ใช้เครื่องยนต์ KTA-50L • ได้รับการทำสีลายใหม่เมื่อตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 โดยคันแรกที่ทำสีลายใหม่คือหมายเลข 4536 • ตัดบัญชี 2 คัน |
SDA3 (CSR) | CSR Qishuyan co.,ltd. , ประเทศจีน | 5101 - 5120 | พ.ศ. 2557 - พ.ศ. 2558 | 20 | 3,800 | 100 | ![]() |
• ส่งมอบครบแล้ว20คัน คือหมายเลข 5101-5120
เพื่อใช้ในการทำขบวนรถสินค้าโดยเฉพาะ |
CDA5B1 (QSY) | CRRC Qishuyan co.,ltd. , ประเทศจีน | 5201 - 5250 | พ.ศ. 2565 - พ.ศ. 2566 | 50 | 3,200 | 120 | ![]() |
• ส่งมอบล็อตแรกแล้ว 20 คัน เมื่อปลายเดือนมกรามคม พ.ศ. 2565 หมายเลข 5201-5220 เหลือรอการส่งมอบอีก 30 คัน หมายเลข 5221-5250 ภายในปี พ.ศ. 2566
|
รถจักรดีเซลไฮดรอลิก[แก้]
รถจักรดีเซลไฮดรอลิกในประเทศไทย มีบทบาทสำคัญในอดีต และปัจจุบันยังคงพบเห็นได้ใน ช่วงที่เกิดน้ำท่วมทางรถไฟ รถจักรดีเซลไฮดรอลิกจะลุยน้ำได้ เนื่องจากใช้ระบบฟันเฟืองเพิ่มกำลังไม่ได้ใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า เหมือนกับรถจักรดีเซลไฟฟ้า ปัจจุบัน การรถไฟแห่งประเทศไทย เหลือรถจักรดีเซลไฮดรอลิกที่ใช้งานได้จริง เพียงคันเดียว คือ รถจักร ดีเซลไฮดรอลิก Krupp หมายเลข 3118
รุ่น | ผู้ผลิต | เลขที่ | ผลิตเมื่อ | จำนวนคัน | (แรงม้า) | ความเร็วสูงสุด (กม./ ชม.) | ภาพ | คำอธิบาย / หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
DH1200BB (HE) | Henschel, ประเทศเยอรมนี | 3001-3027 | พ.ศ. 2507 | 27 | 1200 | 90 | ![]() |
• ส่วนใหญ่จอดปลดระวางที่โรงรถจักรบางซื่อ •ใช้ในงานวางรางโดยบริษัท อิตาเลียนไทย จำกัด • ใช้งานได้คือหมายเลข 3009, 3018, 3023, 3027 ทั้งหมด 4 คัน |
M1500BB (KP) | Krupp, ประเทศเยอรมนี | 3101-3130 | พ.ศ. 2512 | 30 | 1500 | 90 | • ส่วนใหญ่จอดปลดระวางที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ และโรงรถจักรบางซื่อ • หมายเลข 3121 ได้รับการทำสีใหม่ในปี พ.ศ. 2555 แต่ใช้ลายเดิม ต่อมา พ.ศ. 2559 ประเทศมาเลเซียได้ประมูลรถจักรรุ่นนี้ 4 คันเพื่อนำไปใช้เป็นรถบำรุงทาง • ที่ใช้งานได้คือ หมายเลข 3118 อยู่ที่โรงรถจักรธนบุรี
|
ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
- ข้อมูลรถจักรดีเซลไฟฟ้า จากการรถไฟแห่งประเทศไทย เก็บถาวร 2012-06-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน