ข้ามไปเนื้อหา

ทางหลวงพิเศษหมายเลข 5

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ทางหลวงพิเศษหมายเลข 5
มอเตอร์เวย์สายเหนือ
ข้อมูลของเส้นทาง
ส่วนหนึ่งของ
ความยาว941 กิโลเมตร (585 ไมล์)
ทางแยกที่สำคัญ
จาก ทางยกระดับอุตราภิมุข ใน อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี[1]
 
ถึงด่านพรมแดนเชียงของ ใน อ.เชียงของ จ.เชียงราย
ตำแหน่งที่ตั้ง
ประเทศไทย
ระบบทางหลวง

ทางหลวงพิเศษหมายเลข 5 หรือ มอเตอร์เวย์สายเหนือ เป็นโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีแนวเส้นทางเริ่มต้นจากทางยกระดับอุตราภิมุขที่ทางแยกต่างระดับอนุสรณ์สถาน จังหวัดปทุมธานี ขึ้นสู่ภาคเหนือ และไปสิ้นสุดที่จังหวัดเชียงราย เป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายเส้นทางในแผนแม่บทระบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีไทย คณะที่ 52 เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2540

รายละเอียดของเส้นทาง

[แก้]

ทางหลวงพิเศษหมายเลข 5 ประกอบด้วยโครงการก่อสร้างเส้นทาง 6 สายต่อเนื่องกัน (ระยะทางตามมติคณะรัฐมนตรี พ.ศ. 2540) ได้แก่

  • สายบางปะอิน-นครสวรรค์ ระยะทาง 175 กิโลเมตร (ปัจจุบันเริ่มดำเนินการเป็นเส้นทางที่ 2)[2]
  • สายนครสวรรค์-พิษณุโลก ระยะทาง 142 กิโลเมตร
  • สายพิษณุโลก-ลำปาง ระยะทาง 182 กิโลเมตร
  • สายลำปาง-ลำพูน ระยะทาง 60 กิโลเมตร
  • สายลำพูน-เชียงใหม่ ระยะทาง 39 กิโลเมตร
  • สายเชียงใหม่-เชียงของ ระยะทาง 292 กิโลเมตร

รวมระยะทางตามแผนแม่บท พ.ศ. 2540 ทั้งหมด 890 กิโลเมตร

ต่อมาได้มีการรวมส่วนของทางยกระดับอุตราภิมุข เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงพิเศษหมายเลข 5 ด้วยอีก 3 สาย รวมเป็น 9 สาย ดังนี้

  • ช่วงรังสิต−บางปะอิน ระยะทาง 22 กิโลเมตร[3] ทำให้มีระยะทางเพิ่มขึ้นเป็น 912 กิโลเมตร
  • ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ−รังสิต ระยะทาง 8 กิโลเมตร โดยกระทรวงคมนาคมได้เปลี่ยนประเภททางหลวงส่วนนี้จากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 38 เดิมเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567[1] ทำให้มีระยะทางเพิ่มขึ้นเป็น 921 กิโลเมตร
  • ช่วงดินแดง−อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ระยะทาง 20 กิโลเมตร โดยกรมทางหลวงจะผนวกเข้าเมื่อสัมปทานโทลล์เวย์หมดลงในปี พ.ศ. 2577[4] ทำให้มีระยะทางเพิ่มขึ้นเป็น 941 กิโลเมตร

สายอนุสรณ์สถานแห่งชาติ−รังสิต

[แก้]

สายรังสิต−บางปะอิน

[แก้]

ทางหลวงพิเศษหมายเลข 5 สายรังสิต−บางปะอิน เป็นโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 5 ที่เริ่มดำเนินการเป็นโครงการแรก และเป็นส่วนต่อขยายส่วนสุดท้ายของทางยกระดับอุตราภิมุข โดยแนวเส้นทางเริ่มต้นที่จุดสิ้นสุดของทางยกระดับอุตราภิมุขในปัจจุบันบนถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ 33+924 บริเวณหน้าสำนักกษาปณ์ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือเป็นทางยกระดับซ้อนทับบนถนนพหลโยธินตลอดเส้นทาง ไปสิ้นสุดโครงการที่จุดบรรจบทางแยกต่างระดับบางปะอิน 1 ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นทางหลวงพิเศษขนาด 6 ช่องจราจร ระยะทาง 22 กิโลเมตร ดำเนินโครงการโดยการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐและเอกชนในรูปแบบ PPP Gross Cost มีมูลค่าการก่อสร้างทั้งหมด 79,916.78 ล้านบาท โดยคณะรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร อนุมัติให้ก่อสร้างโครงการนี้เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2567[5]

สายบางปะอิน−นครสวรรค์

[แก้]

ทางหลวงพิเศษหมายเลข 5 สายบางปะอิน−นครสวรรค์ เป็นโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 5 ที่เริ่มดำเนินการเป็นโครงการที่ 2 ต่อจากสายรังสิต−บางปะอิน แนวเส้นทางส่วนใหญ่อยู่ในเขตทางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 โดยมีแนวเส้นทางตัดใหม่ช่วงต้นและช่วงปลายของเส้นทาง รวมระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร

เส้นทางในช่วงต้นจะไปเริ่มต้นที่บริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอิน 1 อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เบี่ยงออกจากทางยกระดับอุตราภิมุขไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตามแนวทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 (สายบางปะอิน-นครราชสีมา) ไปจนถึงทางแยกต่างระดับบางปะอิน 2 บริเวณบ้านคลองสอง อำเภอวังน้อย จากนั้นจะเป็นแนวเส้นทางตัดใหม่ โดยเบี่ยงกลับไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และไปบรรจบกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ที่อำเภอบางปะอิน เป็นทางหลวงพิเศษขนาด 8 ช่องจราจร ระยะทาง 10.1 กิโลเมตร

จากนั้นเส้นทางจะอยู่ในเขตทางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ผ่านจังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี ไปจนถึงบ้านดอนเดื่อ ตำบลศิลาดาน อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ระยะทาง 135.5 กิโลเมตร โดยเส้นทางช่วงนี้ออกแบบเป็นทางหลวงพิเศษขนาด 6 และ 8 ช่องจราจร โดยมีทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 ทดแทนขนานและจัดการจราจรทิศเดียวกันกับทางหลวงพิเศษทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมจุดกลับรถ สำหรับการจราจรท้องถิ่นและผู้ที่ไม่ต้องการใช้ทางหลวงพิเศษ

เส้นทางในช่วงปลายซึ่งเป็นแนวตัดใหม่เหมือนกับช่วงต้น โดยเริ่มจากแนวทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 เบี่ยงออกไปทางด้านทิศตะวันตก ตัดกับถนนพหลโยธิน ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่จังหวัดนครสวรรค์ อ้อมผ่านอำเภอพยุหะคีรีด้านทิศตะวันตก อำเภอโกรกพระ และตัวเมืองนครสวรรค์ด้านทิศตะวันตก ตัดถนนพหลโยธินอีกครั้ง ข้ามแม่น้ำปิง ไปสิ้นสุดโครงการที่จุดบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 บริเวณบ้านบึงน้ำใส อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นทางหลวงพิเศษขนาด 4 ช่องจราจร ระยะทาง 60.5 กิโลเมตร

ศูนย์บริการทางหลวงและสถานีบริการทางหลวง

[แก้]

มีศูนย์บริการทางหลวง 2 แห่ง คือบริเวณทางแยกต่างระดับสิงห์บุรี-1 แยกเข้าจังหวัดลพบุรี (กม.68 ขาล่องเข้ากรุงเทพฯ และ กม.72 ขาขึ้นไปนครสวรรค์) และบริเวณถัดจากทางแยกต่างระดับอุทัยธานี (กม. 169) นอกจากนี้ยังมีสถานีบริการทางหลวง ที่มีขนาดเล็กกว่าศูนย์บริการทางหลวง โดยใช้พื้นที่สถานีบริการทางหลวงเดิมในปัจจุบันที่อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท

รายชื่อทางแยก

[แก้]
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จังหวัดอ่างทอง
จังหวัดสิงห์บุรี
จังหวัดชัยนาท
จังหวัดนครสวรรค์

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 "ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง เปลี่ยนประเภทและกำหนดให้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๘ สายทางยกระดับอนุสรณ์สถาน - รังสิต กม. ๐+๐๐๐ - กม. ๗+๓๒๗ เป็นทางหลวงพิเศษหมายเลข ๕ สายทางยกระดับอุตราภิมุข (ช่วงอนุสรณ์สถาน - รังสิต) กม. ๒๐+๘๙๗ - กม. ๒๘+๒๒๔" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 141 (พิเศษ 315 ง): 23. 18 พฤศจิกายน 2024. สืบค้นเมื่อ 4 ธันวาคม 2024.
  2. "โครงการพัฒนา 5 สายทางสู่ภูมิภาค". กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 สิงหาคม 2013. สืบค้นเมื่อ 24 เมษายน 2015.
  3. "'กรมทางหลวง' ยืนยันโครงการขยายดอนเมืองโทลล์เวย์ถึงบางปะอิน จะไม่มี 'ค่าโง่'". The Bangkok Insight. 26 สิงหาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2019.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  4. ส่วนต่อขยาย M5 รังสิต-บางปะอิน เริ่มสร้างปี 65 เชื่อมต่อ มอเตอร์เวย์ M6 บางปะอิน-โคราช จากเฟซบุ๊กเพจ โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure สืบค้นเมื่อ 27-04-2021
  5. "ครม.อนุมัติ 7.9 หมื่นล้าน สร้างทางพิเศษ M5 เชื่อมรังสิต-บางปะอิน". ประชาชาติธุรกิจ. 24 ธันวาคม 2024. สืบค้นเมื่อ 25 ธันวาคม 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]