ทางรถไฟสายชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ทางรถไฟสายชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์
State Railway of Thailand Logo 2019.svg
Padangbesa, Sadao District, Songkhla, Thailand - panoramio (6).jpg
ข้อมูลทั่วไป
เจ้าของการรถไฟแห่งประเทศไทย
การรถไฟมลายา
ที่ตั้งจังหวัดสงขลา ประเทศไทย
รัฐปะลิส ประเทศมาเลเซีย
ปลายทาง
ประวัติ
เปิดเมื่อ1 กรกฎาคม 2461[1]
ข้อมูลทางเทคนิค
ระยะทาง43.502 กม. (27.03 ไมล์)[2]
รางกว้าง1,000 mm (3 ft 3 38 in) มีเตอร์เกจ
แผนที่เส้นทาง

ทางรถไฟสายธนบุรี–สุไหงโก-ลก
928.58
ชุมทางหาดใหญ่
ไปสุไหงโก-ลก
934.68
บ้านพรุ
945.15
ศาลาทุ่งลุง
952.64
คลองแงะ
961.14
คลองรำ
967.79
บ้านท่าข่อย
972.90
ปาดังเบซาร์ (ไทย)
973.32
เขตแดน
973.56
พรมแดนไทย–มาเลเซีย
973.84
ปาดังเบซาร์ (มาเลเซีย)
ทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันตก

ทางรถไฟสายชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ หรือ ทางรถไฟสายกรุงเทพ–ปาดังเบซาร์[3] เป็นทางรถไฟระหว่างประเทศที่เชื่อมระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย มีจุดเริ่มต้นจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ผ่านพรมแดนไทยกับมาเลเซีย จนถึงสถานีปลายทางคือสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส ซึ่งบรรจบกับทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันตกของมาเลเซีย[4]

ประวัติ[แก้]

มีการก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2452 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2464 โดยมีสถานีปลายทางคือสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส[1] ต่อมาได้มีการก่อสร้างเส้นทางเพิ่มเติมจากสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เชื่อมเข้ากับทางรถไฟสายชายฝั่งทะเลตะวันตกของประเทศมาเลเซีย ที่สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส[4] โดยเดินรถระหว่างกันครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2461[1] ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงทำสัญญาการเดินรถระหว่างกันเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2465[5] ทั้งสายปาดังเบซาร์และสายปาซีร์มัซ[6] โดยสถานีร่วมในสายปาดังเบซาร์ตั้งอยู่ในดินแดนคาบเกี่ยวกันของสองประเทศ ส่วนสถานีร่วมในสายปาซีร์มัซคือสถานีรถไฟสุไหงโก-ลกในฝั่งไทย[6] กระทั่งถึงสงครามโลกครั้งที่สอง จึงหยุดการเดินรถระหว่างกัน[1]

หลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง รัฐบาลมาเลเซียเจรจาขอเปิดการเดินรถระหว่างประเทศอีกครั้ง และได้มีการตกลงตามสัญญาเดิมเกี่ยวกับการเดินรถผ่านแดนที่เคยกระทำต่อกันเมื่อปี พ.ศ. 2478 มีการแก้ไขบางข้อ และเดินรถตามข้อตกลงใหม่เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2497[1]

เดิมทางรถไฟสายนี้มีเพียงสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ในฝั่งมาเลเซีย หากผู้โดยสารมีความประสงค์จะลงที่ปาดังเบซาร์ฝั่งไทยต้องมีการทำหนังสือเดินทางเพราะผู้โดยสารต้องลงที่สถานีฝั่งมาเลเซียแล้วนั่งรถยนต์ย้อนกลับเข้าฝั่งไทยอีก กระทั่งวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558 มีการเปิดสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ (ฝั่งไทย) ใหม่เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว[7][8] ต่อมาวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2559 ได้ยกเลิกรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศ กรุงเทพ–บัตเตอร์เวิร์ท เปลี่ยนเป็นกรุงเทพ–ปาดังเบซาร์ หากผู้โดยสารมีความประสงค์จะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ต้องลงไปซื้อตั๋วและต่อรถไฟฟ้าของมาเลเซียเอง[9]

การเดินรถ[แก้]

ปัจจุบันในเส้นทางชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ จะมีรถไฟหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารในสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่, สถานีรถไฟคลองแงะ, สถานีรถไฟปาดังเบซาร์ (ไทย) และสถานีปาดังเบซาร์ (มาเลเซีย) ผู้ที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย สามารถจัดการได้ที่ด่านศุลกากรในสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ฝั่งมาเลเซียแล้วต่อรถไฟได้เลย[10]

ในปี พ.ศ. 2557 รถไฟในฝั่งมาเลเซียเป็นระบบรถไฟทางคู่ ใช้ระบบรถไฟฟ้า ทำความเร็ว 80-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีรถไฟขนส่งสินค้าห้าขบวน ขนตู้สินค้าขนาดเล็กได้ 300 ตู้ต่อวัน ขณะที่รถไฟไทยยังเป็นรถไฟทางเดี่ยว และทำความเร็วเพียง 30-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง[11] ในปี พ.ศ. 2560 รัฐบาลไทยมีแผนที่จะพัฒนาให้ทางรถไฟสายชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์เป็นรถไฟทางคู่[12][13]

10 มกราคม พ.ศ. 2561 หอการค้าสงขลาและการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ออกให้ข้อมูลว่าจะมีการเวนคืนที่ดินในปี พ.ศ. 2561 เพื่อเตรียมสร้างทางรถไฟทางคู่สายสงขลา–ชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ จะเริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2562 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2564[14]

รายชื่อสถานีรถไฟสายปาดังเบซาร์[แก้]

ชุมทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ (หใ.-ปซ.)[แก้]

ลำดับสถานีจาก กท. และธบ. ชื่อสถานี / ที่หยุดรถ ชื่อภาษาอังกฤษ เลขรหัส ระยะทางจาก ธบ. ชั้นสถานี ตัวย่อ อาณัติสัญญาณ ระบบบังคับประแจ ที่ตั้ง แขวงเดินรถ หมายเหตุ
ตำบล อำเภอ จังหวัด
ชุมทางหาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์
178/172 ชุมทางหาดใหญ่ Hat Yai Junction 4347 928.58 กม. 1 หใ. ไฟสีสามท่า ใช้ห่วงทางสะดวก ไฟฟ้า-รีเลย์ หาดใหญ่ หาดใหญ่ สงขลา แขวงเดินรถหาดใหญ่
- บ้านพรุ Ban Phru 4363 934.68 กม. ยกเลิกใช้งาน าพ. - - บ้านพรุ
- ศาลาทุ่งลุ่ง Sala Thung Lung 961 945.15 กม. ยกเลิกใช้งาน ลง. (ปัจจุบันเป็นตัวย่อของสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ในทางรถไฟสายตะวันออก) - - พะตง
179/173 คลองแงะ Khlong Ngae 4368 952.64 กม. 2 คง. ป้ายเขตสถานี ใช้ห่วงทางสะดวก สายลวด พังลา สะเดา
  • ฝ่ายการช่างโยธา
    • นายตรวจทางคลองแงะ (นตท.คง.)
- คลองรำ Khlong Ram 4370 961.14 กม. ยกเลิกใช้งาน รำ. - - ทุ่งหมอ
- บ้านท่าข่อย Ban Tha Khoi 4372 967.79 กม. ยกเลิกใช้งาน าข. - - ปาดังเบซาร์ เดิมเป็นที่หยุดรถ ต่อมายกฐานะเป็นสถานี และยุบเป็นที่หยุดรถอีกครั้งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2528[15]
180/174 ปาดังเบซาร์ (ฝั่งไทย) Pa dang Besar (Thai) - 972.90 กม. 3 ปซ.2 ไฟสีสามท่า - -เป็นสถานีสุดท้ายในฝั่งประเทศไทยก่อนที่จะไปฝั่งมาเลเซีย

-เป็นสถานีรถไฟที่สร้างสำหรับคนที่อยู่อาศัยฝั่งไทยติดชายแดน

ชายแดน ไทย/มาเลเซีย Thailand/Malaysia Border กม.ที่ 973.56
181/175 ปาดังเบซาร์ Padang Besar 4374 973.84 กม. 1 ปซ. ไฟสีสามท่า ไฟฟ้า-คอมพิวเตอร์ ปาดังเบซาร์ ปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส(ประเทศมาเลเซีย) -เป็นสถานีรถไฟเชื่อมต่อชายแดนไทย-มาเลเซีย

-มีขบวนรถด่วนพิเศษ 45/46 กท.-ปซ.-กท. และรถชานเมือง 947/948/949/950 หใ.-ปซ.-หใ. รับส่งผู้โดยสารข้ามชายแดนทุกวัน

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 สุนันทา เจริญปัญญายิ่ง. "ทางรถไฟที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน". สถาบันการขนส่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  2. "ประวัติการรถไฟแห่งประเทศไทย". การรถไฟแห่งประเทศไทย. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-04-29. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  3. "พระราชกฤษฎีกา เปลี่ยนแปลงเขตเทศบาลเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2520" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 94 (31): 323. 12 เมษายน 2520. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  4. 4.0 4.1 "เส้นทางรถไฟ". การรถไฟแห่งประเทศไทย. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-05-13. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  5. "ประกาศกระแสพระบรมราชโองการ ให้ใช้สัญญา ว่าด้วยการเดินรถไฟ ระหว่างพระราชอาณาจักร์สยาม กับ กลันตัน, ไทรบุรี, เปอร์ลิศและสหรัฐมลายู" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 41 (0 ก): 274. 29 ธันวาคม 2467. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  6. 6.0 6.1 "คำแปล สัญญาระหว่างรัฐบาลสหรัฐมลายู กับ รัฐบาลสยาม เพื่อความสดวกในการเดินรถไฟ ระหว่างพระราชอาณาจักร์สยาม กับ กลันตัน, ไทรบุรี, เปอร์ลิศ และสหรัฐมลายู" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 41 (0 ก): 276. 29 ธันวาคม 2467. {{cite journal}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  7. "ผุดสถานีใหม่ 'ปาดังเบซาร์' เชื่อมระบบราง 'ไทย-มาเลย์'". ประชาชาติธุรกิจ. 21 ธันวาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  8. "เปิดตัว 'ปาดังเบซาร์' สถานีรถไฟเชื่อมไทย-มาเลเซีย". คมชัดลึก. 29 ธันวาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  9. "ร.ฟ.ท.ปรับขายตั๋ว "บัตเตอร์เวอร์ธ เหลือแค่กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์"". ผู้จัดการออนไลน์. 26 สิงหาคม 2559. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  10. "เปิดขบวนพิเศษรถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เชื่อมรถไฟความเร็วสูงมาเลเซีย-สิงคโปร์". กิมหยงนิวส์. 19 ธันวาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  11. "ด่านปาดังเบซาร์ ไทยพัฒนาช้ากว่ามาเลเซีย?". วอยซ์ทีวี. 3 ธันวาคม 2557. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  12. "ทางคู่ "หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์" โมเดลนำร่องรถไฟพลังงานไฟฟ้า". ประชาชาติธุรกิจออนไลน์. 7 พฤษภาคม 2558. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  13. "รถไฟทางคู่ หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เปิดประตูศก.สู่แดนใต้เชื่อมมาเลเซีย". ฐานเศรษฐกิจ. 7 ธันวาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  14. "หอการค้าสงขลา-รฟท เคาะข่าวดีรถไฟทางคู่หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์". สงขลาทูเดย์. 10 มกราคม 2561. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-15. สืบค้นเมื่อ 7 พฤษภาคม 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  15. "ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 เนื่องจากหมดความจำเป็นในด้านการเดินรถและการพาณิชย์ ฉะนั้น ให้ยุบสถานีต่าง ๆ เป็นที่หยุดรถ (ณ สมุดเลขรหัส แทนชื่อสถานีและที่หยุดรถ เริ่มใช้วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2522)". ที่ว่าการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย. วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2528