ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 56: | บรรทัด 56: | ||
24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 มีพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ให้ได้วิทยฐานะวิทยาศาสตรบัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า วทบ. (ทบ.) |
24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 มีพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ให้ได้วิทยฐานะวิทยาศาสตรบัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า วทบ. (ทบ.) |
||
ต่อมาโรงเรียนนายร้อย พระจุลจอมเกล้า ณ ถนนราชดำเนินนอกอยู่ในสภาพแออัด ด้วยมีจำนวนนักเรียนนายร้อยเพิ่มขึ้น สถานที่ฝึกศึกษา เล่นกีฬา และสถานที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดสภาพ[[สิ่งแวดล้อม]]สำหรับการเป็นโรงเรียนนายร้อยหลักของประเทศ ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีพระราชดำริให้โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มีสถานที่ตั้งแห่งใหม่ ณ บริเวณเขาชะโงก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โรงเรียนนายร้อยแห่งนี้ได้กระทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ 5 สิงหาคม 2524 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพลเอกหญิง[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] (ขณะดำรงพระยศ[[พันเอก]]) ได้เสด็จฯ มากระทำพิธี |
ต่อมาโรงเรียนนายร้อย พระจุลจอมเกล้า ณ ถนนราชดำเนินนอกอยู่ในสภาพแออัด ด้วยมีจำนวนนักเรียนนายร้อยเพิ่มขึ้น สถานที่ฝึกศึกษา เล่นกีฬา และสถานที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดสภาพ[[สิ่งแวดล้อม]]สำหรับการเป็นโรงเรียนนายร้อยหลักของประเทศ ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จึงมีพระราชดำริให้โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มีสถานที่ตั้งแห่งใหม่ ณ บริเวณเขาชะโงก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โรงเรียนนายร้อยแห่งนี้ได้กระทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ 5 สิงหาคม 2524 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และพลเอกหญิง[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] (ขณะดำรงพระยศ[[พันเอก]]) ได้เสด็จฯ มากระทำพิธี |
||
30 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 ข้าราชการ ลูกจ้าง นักเรียนนายร้อย พร้อมด้วยศิษย์เก่า ได้พร้อมใจกัน[[เดินเท้า]]ออกจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าสถานที่ตั้งเดิมเข้าสู่สถานที่ตั้งแห่งใหม่ โดยมี[[พลเอกหญิง]]สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานในการนำกำลังพลเข้าสู่สถานที่ตั้งแห่งใหม่ด้วยความเรียบร้อยพร้อมเพรียงกัน |
30 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 ข้าราชการ ลูกจ้าง นักเรียนนายร้อย พร้อมด้วยศิษย์เก่า ได้พร้อมใจกัน[[เดินเท้า]]ออกจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าสถานที่ตั้งเดิมเข้าสู่สถานที่ตั้งแห่งใหม่ โดยมี[[พลเอกหญิง]]สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานในการนำกำลังพลเข้าสู่สถานที่ตั้งแห่งใหม่ด้วยความเรียบร้อยพร้อมเพรียงกัน |
||
5 สิงหาคม พ.ศ. 2529 พระบาทสมเด็จ |
5 สิงหาคม พ.ศ. 2529 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก ถือเป็นการเปิดโรงเรียนนายร้อยแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ และได้ดำเนินการสอนมาจนถึงปัจจุบัน<ref>http://www.crma.ac.th/th/history</ref><ref>http://web.archive.org/20080322084104/www.geocities.com/cadethome/crma/history1.html</ref> |
||
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นแหล่งผลิตนายทหารหลักของกองทัพบก ออกมารับใช้ประเทศชาติ เป็นระยะเวลาอันยาวนานถึง 100 กว่าปี คนแล้วคนเล่า ที่หล่อหลอมออกมาจากเป้าเดียวกัน ต่างประสบความสำเร็จในชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้สุดแท้แต่วิถีชีวิตของแต่ละบุคคล |
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นแหล่งผลิตนายทหารหลักของกองทัพบก ออกมารับใช้ประเทศชาติ เป็นระยะเวลาอันยาวนานถึง 100 กว่าปี คนแล้วคนเล่า ที่หล่อหลอมออกมาจากเป้าเดียวกัน ต่างประสบความสำเร็จในชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้สุดแท้แต่วิถีชีวิตของแต่ละบุคคล |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:12, 28 สิงหาคม 2560
ชื่อย่อ | รร.จปร. / CRMA |
---|---|
ประเภท | โรงเรียนทหาร-ตำรวจ |
สถาปนา | 5 สิงหาคม พ.ศ. 2430 |
ที่ตั้ง | |
เว็บไซต์ | http://www.crma.ac.th/ |
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (ชื่อย่อ: รร.จปร.) เป็นสถาบันการศึกษาทางทหาร ในระดับอุดมศึกษาในสังกัดกองทัพบก ตั้งอยู่ที่ อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ผู้ที่ศึกษาในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เรียกว่า นักเรียนนายร้อย (นนร.) ต้นไม้สัญลักษณ์ประจำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า คือ จำปีสิรินธร
ประวัติ
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กำเนิดขึ้นพร้อมๆ กับ(กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์) โดยเริ่มจากการจัดตั้งทหารมหาดเล็กเด็กที่เรียกวว่า "ทหารมหาดเล็กไล่กา" จำนวน 12 คน ในช่วงต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมาได้ขยายกำลังขึ้นโดยฝึกข้าหลวงเดิมให้เป็นทหารมหาดเล็กสมทบกับพวกมหาดเล็กไล่การวม 24 คน จึงเรียกทหารในชุดนี้ว่า "ทหาร 2 โหล" และต่อมาได้เพิ่มจำนวนทหารมหาดเล็กเป็น 72 คน แต่งตั้งเป็นกองทหารมหาดเล็กสำหรับรักษาพระองค์อย่างใกล้ชิด
พ.ศ. 2414 โปรดเกล้าฯ ให้ขยายกองทหารมหาดเล็กออกเป็นกองร้อย เรียกว่า "กอมปานี" (Company) ถึง 6 กองร้อย จัดตั้งเป็น "กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์"
พ.ศ. 2415 โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งสถานที่สอนวิชาการและระเบียบการขึ้นในกรมทหารมหาดเล็ก รวมทั้งให้มีการสอนวิชาภาษาอังกฤษและภาษาไทยด้วย เรียกสถานศึกษาว่า "คะเด็ตทหารมหาดเล็ก" ส่วนนักเรียนเรียกว่า "คะเด็ต" (Cadet)
พ.ศ. 2423 โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกรมทหารหน้าขึ้น (ซึ่งต่อมาได้วิวัฒนาการเป็นกรมยุทธนาธิการ) จึงกำเนิด "คะเด็ตทหารหน้า" ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ได้เร่งปรับปรุงกิจการทหารโดยลำดับ เมื่อเจริญกว้างขวางและเป็นแบบแผนขึ้นบ้างแล้ว จึงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช จัดตั้งโรงเรียนสอนวิชาทหารสำหรับทหารบกทั่วไปขึ้น โดยให้ใช้พื้นที่บริเวณหลังพระราชวังสราญรมย์เป็นสถานที่ตั้ง (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกรมแผนที่ทหาร) โดยรวมคะเด็ตทหารมหาดเล็ก คะเด็ตทหารหน้า นักเรียนแผนที่ และส่วนที่เป็นทหารสก๊อตเข้าด้วยกัน ใช้ชื่อรวมว่า "คะเด็ตสกูล" สำหรับนักเรียนเรียกว่า "คะเด็ต" มีนายพันเอกนิคาล วอลเกอร์ (Nical Walger) เป็นผู้บังคับการคนแรก
5 สิงหาคม 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จมาทรงกระทำพิธีเปิดโรงเรียนคะเด็ตสกูล
14 มกราคม 2431 ได้ตราข้อบังคับขนานนามโรงเรียนคะเด็ตสกูลเสียใหม่ว่า "โรงเรียนทหารสราญรมย์"
6 ตุลาคม 2440 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กองโรงเรียนนายสิบมาสมทบด้วย เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น "โรงเรียนสอนวิชาทหารบก"
25 พฤศจิกายน 2441 ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น "โรงเรียนทหารบก" เปิดโอกาสให้รับบุคคลสามัญที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดเข้าเป็นนักเรียนนายร้อยได้ต่อมามีผู้สนใจเข้ารับการศึกษาเพิ่มมากขึ้น จึงโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายนักเรียนนายสิบไปสังกัดกองพลทหารบกตามเดิม และ เมื่อ 26พฤษภาคม 2446 ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น "โรงเรียนนายร้อยทหารบก" เปิดการสอนใน 2 แผนก คือ โรงเรียนนายร้อยชั้นปฐม และโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม
5 ปีถัดมา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าสถานที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกคับแคบไปแล้วไม่เพียงพอแก่การที่จะผลิตนักเรียนเพิ่มขึ้นทันกับความต้องการของสถานการณ์ในเวลานั้น ซึ่งขาดแคลนนายทหาร จึงโปรดเกล้าฯ ให้ซื้อที่ดินติดถนนราชดำเนินนอก เป็นเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่เศษ ดำเนินการก่อสร้างโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม (ส่วนโรงเรียนนายร้อยชั้นปฐมยังคงอยู่ ณ โรงเรียนทหารสราญรมย์เดิม) เสร็จแล้วพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงกระทำพิธีเปิดโรงเรียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2452
โรงเรียนนายร้อยชั้นปฐม และโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยมได้ดำเนินการมาด้วยดี ต่อมาเศรษฐกิจของชาติตกต่ำ กระทรวงกลาโหมจึงให้รวมโรงเรียนนายร้อยทั้งสองนี้เข้าด้วยกันเรียกชื่อว่า "โรงเรียนนายร้อยทหารบก " อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมยุทธศึกษาทหารบก
26 มีนาคม 2471 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จมาพระราชทานกระบี่แก่นักเรียนนายร้อยทหารบกที่จบการศึกษาชั้นสูงสุดเป็นครั้งแรก และจากนั้นเป็นต้นมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานกระบี่แก่นักเรียนนายร้อยที่จบการศึกษาขั้นสูงสุดทุกปี
พ.ศ. 2477 ได้มีการจัดตั้งโรงเรียนเทฆนิคทหารบกขึ้นในกรมยุทธศึกษาทหารบก เพื่อผลิตนายทหารบางเหล่าที่เป็นเหล่าสายเทคนิค
2 ธันวาคม 2485 - 14 มกราคม 2487 ได้มีการผลิตนักเรียนนายร้อยหญิงขึ้น 1 รุ่นจำนวน 28 คนและมีรุ่นเดียว
14 เมษายน 2485 - พ.ศ. 2487 ได้มีการผลิตนักเรียนนายร้อยสำรองขึ้น 3 รุ่น และได้เปิดหลักสูตรอีกครั้งหนึ่งตั้งแต่ 30 เมษายน 2499 อีก 6 รุ่น รวม 9 รุ่น
ในห้วงสงครามมหาเอเซียบูรพา ประเทศไทยได้ทำสัญญาเป็นพันธมิตรไมตรีกับฝ่ายญี่ปุ่น เมื่อ 21 ธันวาคม 2484 ในปี พ.ศ. 2486 ฝ่ายพันธมิตรได้ทำการโจมตีทางอากาศต่อที่หมายในกรุงเทพมหานครอย่างหนัก ทางราชการจึงคิดแผนการย้ายเมืองหลวงไปอยู่ ณ สถานที่แห่งใหม่ในเขต จ.เพชรบูรณ์ ในวันที่ 10 มกราคม 2487 นักเรียนนายร้อยทุกหลักสูตรและทุกคน จึงได้ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครไปขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟสามเสน ไปลงที่สถานีรถไฟตะพานหิน จ.พิจิตร จากนั้นเดินเท้าต่อไปอีก 112 ก.ม. เข้าสู่หมู่บ้านป่าแดง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ เปิดทำการสอนนักเรียนนายร้อยอยู่ไม่นาน พอต้นปี พ.ศ. 2488 ได้เคลื่อนย้ายมาอยู่ใน จ.พระนครศรีอยุธยา จนกระทั่งสงครามสงบในเดือน กันยายน 2488 โรงเรียนนายร้อยจึงได้กลับมาอยู่ ณ สถานที่ตั้งเดิม
พ.ศ. 2489 กระทรวงกลาโหมได้ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรของโรงเรียนนายร้อย เป็นหลักสูตรการศึกษา 5 ปีตามแบบอย่างโรงเรียนนายร้อยทหารบกของสหรัฐอเมริกา
1 มกราคม พ.ศ. 2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามโรงเรียนนายร้อยแทนชื่อเดิมว่า "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า"
24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2491 มีพระราชบัญญัติกำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ให้ได้วิทยฐานะวิทยาศาสตรบัณฑิต ใช้อักษรย่อว่า วทบ. (ทบ.)
ต่อมาโรงเรียนนายร้อย พระจุลจอมเกล้า ณ ถนนราชดำเนินนอกอยู่ในสภาพแออัด ด้วยมีจำนวนนักเรียนนายร้อยเพิ่มขึ้น สถานที่ฝึกศึกษา เล่นกีฬา และสถานที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดสภาพสิ่งแวดล้อมสำหรับการเป็นโรงเรียนนายร้อยหลักของประเทศ ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จึงมีพระราชดำริให้โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า มีสถานที่ตั้งแห่งใหม่ ณ บริเวณเขาชะโงก อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก โรงเรียนนายร้อยแห่งนี้ได้กระทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ 5 สิงหาคม 2524 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และพลเอกหญิงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ขณะดำรงพระยศพันเอก) ได้เสด็จฯ มากระทำพิธี 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2529 ข้าราชการ ลูกจ้าง นักเรียนนายร้อย พร้อมด้วยศิษย์เก่า ได้พร้อมใจกันเดินเท้าออกจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าสถานที่ตั้งเดิมเข้าสู่สถานที่ตั้งแห่งใหม่ โดยมีพลเอกหญิงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานในการนำกำลังพลเข้าสู่สถานที่ตั้งแห่งใหม่ด้วยความเรียบร้อยพร้อมเพรียงกัน
5 สิงหาคม พ.ศ. 2529 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จังหวัดนครนายก ถือเป็นการเปิดโรงเรียนนายร้อยแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ และได้ดำเนินการสอนมาจนถึงปัจจุบัน[1][2]
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็นแหล่งผลิตนายทหารหลักของกองทัพบก ออกมารับใช้ประเทศชาติ เป็นระยะเวลาอันยาวนานถึง 100 กว่าปี คนแล้วคนเล่า ที่หล่อหลอมออกมาจากเป้าเดียวกัน ต่างประสบความสำเร็จในชีวิตที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้สุดแท้แต่วิถีชีวิตของแต่ละบุคคล
หลักสูตรการศึกษา
- วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
- วิศวกรรมเครื่องกล
- วิศวกรรมไฟฟ้าสื่อสาร
- วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
- วิศวกรรมโยธา
- วิศวกรรมสำรวจ
- วิศวกรรมอุตสาหการ
- วิศวกรรมสรรพาวุธ
- วิศวกรรมไฟฟ้ากำลัง
- วิศวกรรมอากาศยาน
- วิทยาศาสตรบัณฑิต
- วิทยาการคอมพิวเตอร์
- วิทยาศาสตร์ทั่วไป
- วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
- เทคโนโลยีสารสนเทศ
- เคมีประยุกต์ทางทหาร
- ศิลปศาสตรบัณฑิต
- สังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา
- บริหารรัฐกิจ
- บริหารทั่วไป
ทำเนียบผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
ทำเนียบผู้บัญชาการ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า | ||
---|---|---|
รายพระนาม/รายนามผู้บัญชาการ | วาระการดำรงตำแหน่ง | |
1. พันเอก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมขุนพิษณุโลกประชานาถ | พ.ศ. 2449 - 2452 | |
2. พันเอก พระยาศักดาภิเดชวรฤทธิ์ (ทองดี ภีมะโยธิน) | พ.ศ. 2456 - 2458 | |
3. พันเอก พระยาอุปเทศทวยหาญ (เชื่อม ประพันธโยธิน) | พ.ศ. 2458 - 2468 | |
4. พลตรี พระยารามรณรงค์ (หม่อมหลวงชวย ฉัตรกุล) | พ.ศ. 2467 - 2471 | |
5. พลตรี พระยาเสนีย์ณรงค์ฤทธิ์ (หม่อมหลวงเล็ก สนิทวงศ์) | พ.ศ. 2471 - 2473 | |
6. พลตรี หม่อมเจ้านิลประภัศร เกษมศรี | พ.ศ. 2473 - 2475 | |
7. พันโท พระประศาสน์พิทยายุทธ (วัน ชูถิ่น) | พ.ศ. 2475 - 2476 | |
8. พันโท หลวงวิภาครัฐกิจ (ศุข เมนะรุจิ) | พ.ศ. 2476 - 2479 | |
9. พันเอก หลวงสวัสดิ์รณรงค์ (สวัสดิ์ ดาระสวัสดิ์) | พ.ศ. 2479 - 2483 | |
10. พันโท ขุนเรืองวีระยุทธ | พ.ศ. 2483 - 2489 | |
11. พลตรี หม่อมราชวงศ์เทียมพันธ์ กฤดากร ราชเสนากฤดากร | พ.ศ. 2489 - 2490 | |
12. พลตรี เดช เดชประดิยุทธ | พ.ศ. 2490 | |
13. พลตรี สวัสดิ์ สวัสดิรณชัย สวัสดิเกียรติ | พ.ศ. 2490 - 2491 | |
14. พลตรี กำปั่น กัมปนาทแสนยากร | พ.ศ. 2492 - 2495 | |
15. พลตรี ขุนเสนาทิพ | พ.ศ. 2495 - 2503 | |
16. พลตรี อ่อง โพธิกนิษฐ์ | พ.ศ. 2503 - 2506 | |
17. พลตรี บุญชัย บำรุงพงศ์ | พ.ศ. 2506 - 2507 | |
18. พลตรี สำราญ แพทยกุล | พ.ศ. 2507 - 2510 | |
19. พลตรี บุญ รังคะรัตน์ | พ.ศ. 2510 - 2515 | |
20. พลตรี ชัย สุรสิทธิ์ | พ.ศ. 2515 - 2519 | |
21. พลตรี ปิ่น ธรรมศรี | พ.ศ. 2519 | |
22. พลตรี จวน วรรณรัตน์ | พ.ศ. 2519 - 2522 | |
23. พลตรี ยุทธศักดิ์ คล่องตรวจโรค | พ.ศ. 2522 - 2524 | |
24. พลตรี วิจิตร สุขมาก | พ.ศ. 2524 - 2528 | |
25. พลตรี นิยม ศันสนาคม | พ.ศ. 2528 - 2531 | |
26. พลตรี เผด็จ วัฒนะภูติ | พ.ศ. 2531 - 2532 | |
27. พลตรี ขจร รามัญวงศ์ | พ.ศ. 2532 | |
28. พลโท สมพร เติมทองไชย | พ.ศ. 2532 - 2534 | |
29. พลโท วัฒนา สรรพานิช | พ.ศ. 2534 - 2536 | |
30. พลโท บัณฑิตย์ มลายอริศูนย์ | พ.ศ. 2536 - 2537 | |
31. พลโท อาวุธ วิภาตะพันธุ์ | พ.ศ. 2537 - 2539 | |
32. พลโท อำนวย สวนสมจิตร | พ.ศ. 2539 - 2541 | |
33. พลโท สมทัต อัตตะนันทน์ | พ.ศ. 2541 - 2543 | |
34. พลโท สมชาย อุบลเดชประชารักษ์ | พ.ศ. 2543 - 2544 | |
35. พลโท ชาตรี ศิรศรัณย์ | พ.ศ. 2544 - 2546 | |
36. พลโท พงษ์ศักดิ์ เอกบรรณสิงห์ | พ.ศ. 2546 | |
37. พลโท ทรงกิตติ จักกาบาตร์ | พ.ศ. 2546 - 2547 | |
38. พลโท สุเทพ โพธิ์สุวรรณ | พ.ศ. 2547 - 2548 | |
39. พลโท กมล แสนอิสระ | พ.ศ. 2548 - 2550 | |
40. พลโท วรวิทย์ พรรณสมัย | พ.ศ. 2550 - 2552 | |
41. พลโท ปริญญา สมสุวรรณ | พ.ศ. 2552 - 2554 | |
42. พลโท ดนัย มีชูเวท | พ.ศ. 2554 - 2555 | |
43. พลโท พอพล มณีรินทร์ | พ.ศ. 2555 - 2557 | |
44. พลโท ชาญชัย ยศสุนทร | พ.ศ. 2557 - 2558 | |
45. พลโท ถกลเกียรติ นวลยง | พ.ศ. 2558 - 2559 | |
46. พลโท สิทธิพล ชินสำราญ | พ.ศ. 2559 - ปัจจุบัน |
หมายเหตุ คำนำหน้านาม,ตำแหน่งทางการทหาร,พระนาม หรือ นาม ของผู้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเป็น คำนำหน้านาม,ตำแหน่งทางการทหาร,พระนาม หรือ นามในขณะดำรงตำแหน่งในขณะนั้น