ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยแม่โจ้"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 291: | บรรทัด 291: | ||
ปี 2558 ได้เกิดเหตุระเบิดจากการประกอบประทัดยักษ์สำหรับการรับน้องส่งผลให้นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของได้รับบาดเจ็บสาหัสจนมือซ้ายและขาซ้ายขาด<ref>[http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088389 http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088389]</ref> อย่างไรก็ตามรองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยได้ปฏิเสธในเรื่องของการใช้ระเบิดประกอบการรับน้องดังกล่าว <ref>[http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088684 ม.แม่โจ้ยันพลุระเบิดไม่เกี่ยวรับน้อง นศ.ใหม่ 5 พันชีวิตวิ่งเฉลิมพระเกียรติคึกคัก(ชมคลิป)]</ref> |
ปี 2558 ได้เกิดเหตุระเบิดจากการประกอบประทัดยักษ์สำหรับการรับน้องส่งผลให้นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของได้รับบาดเจ็บสาหัสจนมือซ้ายและขาซ้ายขาด<ref>[http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088389 http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088389]</ref> อย่างไรก็ตามรองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยได้ปฏิเสธในเรื่องของการใช้ระเบิดประกอบการรับน้องดังกล่าว <ref>[http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088684 ม.แม่โจ้ยันพลุระเบิดไม่เกี่ยวรับน้อง นศ.ใหม่ 5 พันชีวิตวิ่งเฉลิมพระเกียรติคึกคัก(ชมคลิป)]</ref> |
||
ปี 2560 เพจเฟซบุ๊ก ANTI SOTUS ได้เผยแพร่ภาพจากเฟซบุ๊กของนักศึกษารุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยซึ่งได้ตำนินักศึกษารุ่นน้องที่สวมรองเท้าแตะพร้อมกับเสื้อมหาวิทยาลัยขณะที่เดินในห้างสรรพสินค้าพร้อมกับญาติและแอบถ่ายภาพของนักศึกษารุ่นน้องลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว<ref>[http://www.thairath.co.th/content/1001015 ดราม่า! รุ่นพี่แชะภาพประจานรุ่นน้อง ใส่เครื่องแบบลากรองเท้าแตะเดินห้าง]</ref><ref>[https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_437113 รุ่นพี่ ม.ดัง เชียงใหม่ ใส่เสื้อมหาลัยฯ สวมแตะ เดินห้างกับพ่อแม่ ด่าประจาน]</ref> ซึ่งญาติของนักศึกษารุ่นน้องได้แจ้งความต่อนักศึกษารุ่นพี่ดังกล่าว<ref>[https://www.dailynews.co.th/regional/584691 จ่อแจ้งความ!รุ่นพี่หัวร้อน โพสต์ประจานรุ่นน้อง'คีบแตะ']</ref> |
|||
== บุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัย == |
== บุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัย == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:54, 14 กันยายน 2560
ไฟล์:มหาวิทยาลัยแม่โจ้ edit.png | |
ชื่อย่อ | มมจ. / MJU |
---|---|
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ |
สถาปนา | 11 พฤศจิกายน 2539 (มหาวิทยาลัย) 7 มิถุนายน 2477 (โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม) |
อธิการบดี | จำเนียร ยศราช |
อธิการบดี | จำเนียร ยศราช |
นายกสภาฯ | อำนวย ยศสุข |
ที่ตั้ง | มหาวิทยาลัยแม่โจ้เชียงใหม่ ถนนเชียงใหม่-พร้าว ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ วิทยาเขตแพร่ เฉลิมพระเกียรติ ตำบลผาจุก อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ |
เว็บไซต์ | www.mju.ac.th |
ไฟล์:แม่โจ้.jpg |
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ตั้งอยู่ที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2477 โดยมีรากฐานจาก "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือ" จนได้รับการเปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐลำดับที่ 20 ในประเทศไทย
มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีชื่อเสียงในเรื่องของการรับน้องและระบบโซตัสที่เข้มข้นรุนแรงจนเป็นที่วิพากวิจารณ์ในสังคมไทยมาจนถึงปัจจุบัน[1]
ประวัติ
โรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรม
มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีการพัฒนาจาก โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือ ซึ่งได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2477[2] ตามคำบัญชาของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี รัฐมนตรีกระทรวงธรรมการในขณะนั้นเพื่อเป็นการขยายการศึกษาด้านการเกษตรไปยังส่วนภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือถือเป็นสถานศึกษาด้านการเกษตรแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค โดยตั้งอยู่บนพื้นที่จำนวน 900 ไร่เศษบริเวณพื้นที่บ้านแม่โจ้ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ควบคู่กับสถานีทดลองกสิกรรมภาคพายัพ มีพระช่วงเกษตรศิลปการเป็นอาจารย์ใหญ่คนแรกของโรงเรียน รับนักเรียนจากผู้ที่สำเร็จมัธยมปีที่ 6 หรือประกาศนียบัตรครูมูลเข้าศึกษาในหลักสูตรกำหนดเวลาเรียน 2 ปี โดยได้รับประกาศนียบัตรประโยคครูประถมกสิกรรม (ป.ป.ก.) มีนักเรียนเข้าศึกษาในปีแรกจำนวน 48 คน ซึ่งในขณะนั้นพื้นที่ของโรงเรียนเรียนมีความไม่พร้อมในการทำเกษตรกรรมเนื่องจากเป็นพื้นที่ดินทรายจึงต้องมีการปรับปรุงดินให้ใช้ในกการทำการเกษตรได้ อีกทั้งสิ่งปลูกสร้างต่างๆเช่น ห้องเรียน เรือนนอน โรงอาหารและบ้านพักครู ต้องจัดสร้างขึ้นอย่างชั่วคราวเพื่อให้ทันต่อนโยบายของกระทรวงธรรมการในการเปิดโรงเรียน ทำให้ช่วงแรกของการก่อตั้งมีความยากลำบากอย่างมาก
ต่อมาได้มีการเปลี่ยนสถานะของโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือเป็น โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือ ในปี พ.ศ. 2479 หลังเปิดการการเรียนการสอนได้เพียง 3 รุ่น ซึ่งกระทรวงธรรมการเห็นว่าหลักสูตรประโยคครูประถมกสิกรรมที่เปิดไปมีผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนเพียงพอและมีสถานศึกษาที่ต้องใช้ครูเกษตรจำนวนน้อย จึงเปิดหลักสูตรมัธยมวิสามัญเกษตรกรรม (มก.) ขึ้นแทนโดยรับผุ้ที่สำเร็จการศึกษาขั้นมัธยมปีที่ 4 เข้าศึกษาโดยกำหนดเวลาเรียน 4 ปี มีผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรจำนวน 4 รุ่น
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ในปี พ.ศ. 2481 ไดมีการยุบรวมโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ภาคใต้ที่ตำบลคอหงส์ จังหวัดสงขลา ภาคกลางที่อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี และภาคอีสานที่ตำบลโนนวัด จังหวัดนครราชสีมา แต่มิได้ยุบโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือจากการผลักดันของพระช่วงเกษตรศิลปการ หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจและหลวงอิงคศรีกสิการ ให้มีการรักษาโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมไว้ซึ่งต่อมาได้ยกฐานะเป็น วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สังกัดกระทรวงเกษตราธิการ โดยรับผู้ที่สำเร็จชั้นมัธยม 8 เข้าศึกษาในหลักสูตรอนุปริญญาทางเกษตรศาสตร์ สหกรณ์และวนศาสตร์เป็นเวลา 2 ปี โดยมีพระช่วงเกษตรศิลปการเป็นผู้อำนวยการคนแรก ซึ่งต่อมาได้เป็นรากฐานของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2482 วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ย้ายที่ตั้งจากแม่โจ้ไปยังสถานีเกษตรกลาง อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร โดยในส่วนของพื้นที่แม่โจ้นั้นได้ก่อตั้งเป็น โรงเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์ โดยรับผู้สำเร็จชั้นมัธยมปีที่ 6 เข้าศึกษาในหลักสูตร 2 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจึงสามารถเข้าศึกษาในระดับปริญญาที่วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่บางเขนได้โดยไม่ต้องส เมื่อวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี พ.ศ. 2486 โรงเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สถาบันอาชีวศึกษา
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ประสบปัญหาจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามดังกล่าวทำให้มีผู้สมัคเรียนจำนวนน้อยอีกทั้งยังมีการคมนาคมที่ลำบากและห่างไกลจากกรุงเทพมหานครมาก จึงมีแนวคิดที่จะยุบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ลงในปี พ.ศ. 2488 โดยได้มีการงดการรับนักศึกษาในปี พ.ศ. 2490 - 2491 เนื่องจากขาดงบประมาณและจำนวนผู้เรียนน้อย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2491 กระทรวงเกษตราธิการได้โอนกิจการของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้กับกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยเปลี่ยนสถานะเป็นสถานศึกษาในระดับอาชีวศึกษาใช้ชื่อว่า โรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ และเริ่มเปิดสอนในปี พ.ศ. 2492 โดยรับจากผู้สำเร็จชั้นมัธยมปีที่ 6 เข้าศึกษาในหลักสูตร 3 ปี เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับประกาศนียบัตรอาชีวชั้นสูง แผนกเกษตรกรรม และต่อมาได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น วิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2499
มหาวิทยาลัย
ในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการเปลี่ยนสถานะของวิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ใหม่เป็น สถาบันเทคโนโลยีการเกษตร[3] และย้ายสังกัดจากกรมอาชีวศึกษาไปสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยแทน โดยเปิดสอนในหลักสูตรเทคโนโลยีการเกษตรบัณฑิต (ทก.บ.) ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกในระดับปริญญาตรี รวมถึงในระดับอนุปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงและประกาศนียบัตรบัณฑิต และได้เปลี่ยนชื่อสถาบันในปี พ.ศ. 2525 เป็น สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ เนื่องจากคำว่าแม่โจ้เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปมากกว่า[4]
สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ได้รับการสถานปนาเป็น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ [5] เมื่อวัน 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 เพื่อขยายขอบเขตการให้การศึกษาและเกิดความคล่องตัวทางวิชาการและการบริหารมากขึ้น โดยปัจจุบันมีการเปิดสอนในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอกโดยมีความหลากหลายในสาขาวิชานอกเหนือจากสาขาเกษตรกรรมซึ่งแม่โจ้มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะทางด้านการปฏิบัติมาตั้งแต่ในช่วงของการศึกษาด้านอาชีวศึกษา รวมถึงยังมีการจัดตั้งวิทยาเขตเพื่อขยายการศึกษาไปยังส่วนภูมิภาคต่างๆ โดยวิทยาเขตแรกคือมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติตั้งอยู่ที่อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพรที่อำเภอละแม จังหวัดชุมพร และวิทยาเขตล่าสุดคือมหาวิทยาลัยแม่โจ้-อุตรดิตถ์ที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยม่โจ้ พ.ศ. 2539 เปลี่ยนสถานะจากมหาวิทยาลัยของรัฐเป็น มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ภายในการกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการ โดยไม่สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พ.ศ. 2560 ซึ่งประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2560 และมีผลบังคับใช้ 30 วันนับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปคือให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
ต้นไม้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย คือ อินทนิล[6]
- อินทนิล เป็นไม้ยืนต้นที่แข็งแรง อายุยาวนาน และเจริญเติบโตได้ทุกสภาพของประเทศไทย แทน ความแข็งแกร่ง อดทน ของศิษย์แม่โจ้
ดอกอินทนิล - ช่ออินทนิล มีลักษณะเกาะกันเป็นกลุ่มแน่น สีสด แทน ความรัก ความสามัคคี และความกลมเกลียว
- อินทนิลเป็นต้นไม้ที่เจริญได้ดีในทุกภาคของประเทศไทย แทน ศิษย์แม่โจ้ที่มาจากทุกหนทุกแห่ง และกระจายกันออกไปเจริญเติบโตก้าวหน้าอยู่ทั่วทุกภาค
- ต้น เปลือก และใบ ของอินทนิล ใช้เป็นยาสมุนไพรได้ แทน คุณค่าของศิษย์แม่โจ ที่ได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคม
รายนามอธิการบดี
โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือ/โรงเรียนเตรียมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์/วิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ | ||
---|---|---|
คนที่ | รายนามอาจารย์ใหญ่/ผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
1. | อำมาตย์โท พระช่วงเกษตรศิลปการ | 2477 - 2481 |
2. | หลวงอิงคศรีกสิการ (อินทรี จันทรสถิตย์) | รักษาการ ก.ค.-ต.ค.2479 |
3. | จรัด สุนทรศิล | รักษาการ 2481 - 2482 |
4. | ศาสตราจารย์ ดร.พนม สมิตานนท์ | ผู้อำนวยการ 2482 - 2484,2486-2495 |
5. | ประเทือง ประทีปเสน | 2484 - 2486 |
6. | ไสว ชูติวัตร | 2495 - 2497 |
สถาบันเทคโนโลยีการเกษตร | ||
คนที่ | รายนามอธิการบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง |
7. | ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2518 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 |
21 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 | ||
8. | พันเอก ดร.อาทร ชนเห็นชอบ | รักษาการ 21 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2522 |
สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ | ||
9. | ศาสตราจารย์ ดร.ยรรยง สิทธิชัย | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 - 4 มิถุนายน พ.ศ. 2530 |
10. | ศาสตราจารย์ ดร.สุรพล สงวนศรี | 5 มิถุนายน พ.ศ. 2530 - 30 เมษายน พ.ศ. 2532 |
11. | รองศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ เที่ยงตรง | 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2532 - 30 เมษายน พ.ศ. 2536 |
1 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 - 30 เมษายน พ.ศ. 2540 | ||
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ | ||
1 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 | ||
12. | ศาสตราจารย์ ดร.กำพล อดุลวิทย์ | รักษาการ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 |
13. | นายสราญ เพิ่มพูล | 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 |
14. | รองศาสตราจารย์ ดร.เทพ พงษ์พานิช | 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 |
8 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 | ||
15. | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จำเนียร ยศราช | 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 |
1 เมษายน พ.ศ. 2558[7] - ปัจจุบัน |
การจัดอันดับมหาวิทยาลัย
การจัดอันดับโดย Webometrics
การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อยู่ในอันดับที่ 2,166 ของโลก อันดับที่ 59 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับที่ 22 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[8]
การจัดอันดับโดย UI Green Metric World University Ranking เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวที่จัดโดยมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสนับสนุนการเป็นมหาวิทยาลัยยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวอันดับ 10 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 124 ของโลก[9]
การจัดอันดับโดย 4 International Colleges & Universities การจัดอันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยโดยระบบ 4 International Colleges & Universities (4icu.org) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ มีสำนักงานอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ดำเนินการจัดอันดับความนิยมเว็บไซต์ ของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศและทั่วโลกมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2005 โดยรายงาน ผลปีละ 2 ครั้ง คือ เดือนมกราคมและเดือนกรกฎาคม มีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดอันดับความนิยมของมหาวิทยาลัย และวิทยาลัยนานาชาติ บนพื้นฐานของความนิยมในการเข้าติดตามชมเว็บไซต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จะเป็น เว็บไซต์ที่ช่วยให้นักศึกษานานาชาติได้เข้าใจเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยนานาชาติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่เว็บไซต์ที่มีข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน และมีการ Update ข้อมูลข่าวสารที่สม่าเสมอจะถูกนำมาใช้ในการ พิจารณาจัดอันดับอีกด้วย ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2559 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อยู่ในอันดับที่ 2,532 ของโลก อันดับที่ 23 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย [10]
หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย
สำนักงานอธิการบดี
|
หน่วยงานแบบวิสาหกิจ
|
คณะ/วิทยาลัย/สำนักมหาวิทยาลัยแม่โจ้ แบ่งการเรียนการสอน เป็น 11 คณะ 2 วิทยาลัย 2 วิทยาเขต 1 บัณฑิตวิทยาลัย 3 สำนัก ดังนี้
ศูนย์/โครงการจัดตั้ง
วิทยาเขตมหาวิทยาลัย ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-พร้าว ในพื้นที่ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยห่างจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ 10 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 12,879 ไร่ อยู่ใน 3 จังหวัด คือ
ภาพถ่ายภายในมหาวิทยาลัย
พิธีพระราชทานปริญญาบัตรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2521 และได้เสด็จพระราชดำเนินในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เองเรื่อยมา แต่ในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีการรับน้องและระบบโซตัสปี 2554 เว็บไซต์ www.cm108.com ได้มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ทำการเดินขบวนประท้วงปิดมหาวิทยาลัยเนื่องจากอธิการบดีลดเวลาการรับน้องลง โดยในเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ดังกล่าวได้มีผู้อ้างเป็นนักศึกษาและศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยแม่โจ้โพสต์ข้อความเชิงข่มขู่ต่อผู้เสนอข่าวที่เสนอเรื่องของการรับน้องของมหาวิทยาลัยแม่โจ้รวมถึงมีการขู่ฆ่าผู้นำเสนอข่าวและอธิการบดีที่ลดเวลาการรับน้องลงด้วย [11] ปี 2558 ได้เกิดเหตุระเบิดจากการประกอบประทัดยักษ์สำหรับการรับน้องส่งผลให้นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของได้รับบาดเจ็บสาหัสจนมือซ้ายและขาซ้ายขาด[12] อย่างไรก็ตามรองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยได้ปฏิเสธในเรื่องของการใช้ระเบิดประกอบการรับน้องดังกล่าว [13]
บุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัยอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |