ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยแม่โจ้"
ล ย้อนการแก้ไขของ 27.55.160.31 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Horus |
|||
บรรทัด 238: | บรรทัด 238: | ||
# '''[[มหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร]]''' เลขที่ 99 หมู่ที่ 5 ตำบลละแม [[อำเภอละแม]] [[จังหวัดชุมพร]] |
# '''[[มหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร]]''' เลขที่ 99 หมู่ที่ 5 ตำบลละแม [[อำเภอละแม]] [[จังหวัดชุมพร]] |
||
# '''[[มหาวิทยาลัยแม่โจ้-อุตรดิตถ์]]''' (กำลังก่อสร้าง) ตำบลผาจุก [[อำเภอเมือง]] [[จังหวัดอุตรดิตถ์]] |
# '''[[มหาวิทยาลัยแม่โจ้-อุตรดิตถ์]]''' (กำลังก่อสร้าง) ตำบลผาจุก [[อำเภอเมือง]] [[จังหวัดอุตรดิตถ์]] |
||
== การรับน้องและระบบโซตัส == |
|||
มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีการสืบทอดประเพณีในเรื่องของการรับน้องและระบบโซตัสมาตั้งแต่ในช่วงของโรงเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์ซึ่งได้มีการริเริ่มกิจกรรมดังกล่าวโดยอาจารย์ในยุคของโรงเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์ ซึ่งได้รับสืบทอดมาจากช่วงที่เป็นนักเรียนทุนด้านการเกษตรที่[[ประเทศฟิลิปปินส์]] |
|||
ปี 2554 เว็บไซต์ [http://www.cm108.com/] ได้มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับนักศึกษามหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ทำการเดินขบวนประท้วงปิดมหาวิทยาลัยเนื่องจากอธิการบดีลดเวลาการรับน้องลง โดยในเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ดังกล่าวได้มีผู้อ้างเป็นนักศึกษาและศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยแม่โจ้โพสต์ข้อความเชิงข่มขู่ต่อผู้เสนอข่าวที่เสนอเรื่องของการรับน้องของมหาวิทยาลัยแม่โจ้รวมถึงมีการขู่ฆ่าผู้นำเสนอข่าวและอธิการบดีที่ลดเวลาการรับน้องลงด้วย <ref>[http://drama-addict.com/2011/08/19/%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95/]</ref> |
|||
ปี 2558 ได้เกิดเหตุระเบิดจากการประกอบประทัดยักษ์สำหรับการรับน้องส่งผลให้นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของได้รับบาดเจ็บสาหัสจนมือซ้ายและขาซ้ายขาด<ref>[http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088389 http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088389]</ref> อย่างไรก็ตามรองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยได้ปฏิเสธในเรื่องของการใช้ระเบิดประกอบการรับน้องดังกล่าว <ref>[http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000088684 ม.แม่โจ้ยันพลุระเบิดไม่เกี่ยวรับน้อง นศ.ใหม่ 5 พันชีวิตวิ่งเฉลิมพระเกียรติคึกคัก(ชมคลิป)]</ref> |
|||
== พิธีพระราชทานปริญญาบัตร == |
== พิธีพระราชทานปริญญาบัตร == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:19, 29 พฤษภาคม 2559
ไฟล์:มหาวิทยาลัยแม่โจ้ edit.png | |
ชื่อย่อ | มมจ. / MJU |
---|---|
ประเภท | สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ |
สถาปนา | 11 พฤศจิกายน 2539 (มหาวิทยาลัย) 7 มิถุนายน 2477 (โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม) |
อธิการบดี | จำเนียร ยศราช |
นายกสภาฯ | อำนวย ยศสุข |
ที่ตั้ง | มหาวิทยาลัยแม่โจ้เชียงใหม่ ถนนเชียงใหม่-พร้าว ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ วิทยาเขตแพร่ เฉลิมพระเกียรติ ตำบลผาจุก อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ |
เว็บไซต์ | www.mju.ac.th |
ไฟล์:แม่โจ้.jpg |
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ตั้งอยู่ที่อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2477 โดยมีรากฐานจาก "โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือ" จนได้รับการเปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยแม่โจ้เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐลำดับที่ 20 ในประเทศไทย
มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีชื่อเสียงในเรื่องของการรับน้องและระบบโซตัสที่เข้มข้นรุนแรงจนเป็นที่วิพากวิจารณ์ในสังคมไทยมาจนถึงปัจจุบัน [1]
ประวัติ
ยุคโรงเรียนฝึกหัดครูกสิกรรม
มหาวิทยาลัยแม่โจ้มีการพัฒนาจาก โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือ ซึ่งได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2477[2] ตามคำบัญชาของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี รัฐมนตรีกระทรวงธรรมการในขณะนั้นเพื่อเป็นการขยายการศึกษาด้านการเกษตรไปยังส่วนภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือถือเป็นสถานศึกษาด้านการเกษตรแห่งแรกที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค โดยตั้งอยู่บนพื้นที่จำนวน 900 ไร่เศษบริเวณพื้นที่บ้านแม่โจ้ ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ควบคู่กับสถานีทดลองกสิกรรมภาคพายัพ มีพระช่วงเกษตรศิลปการเป็นอาจารย์ใหญ่คนแรกของโรงเรียน รับนักเรียนจากผู้ที่สำเร็จมัธยมปีที่ 6 หรือประกาศนียบัตรครูมูลเข้าศึกษาในหลักสูตรกำหนดเวลาเรียน 2 ปี โดยได้รับประกาศนียบัตรประโยคครูประถมกสิกรรม (ป.ป.ก.) มีนักเรียนเข้าศึกษาในปีแรกจำนวน 48 คน ซึ่งในขณะนั้นพื้นที่ของโรงเรียนเรียนมีความไม่พร้อมในการทำเกษตรกรรมเนื่องจากเป็นพื้นที่ดินทรายจึงต้องมีการปรับปรุงดินให้ใช้ในกการทำการเกษตรได้ อีกทั้งสิ่งปลูกสร้างต่างๆเช่น ห้องเรียน เรือนนอน โรงอาหารและบ้านพักครู ต้องจัดสร้างขึ้นอย่างชั่วคราวเพื่อให้ทันต่อนโยบายของกระทรวงธรรมการในการเปิดโรงเรียน ทำให้ช่วงแรกของการก่อตั้งมีความยากลำบากอย่างมาก
ต่อมาได้มีการเปลี่ยนสถานะของโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือเป็น โรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือ ในปี พ.ศ. 2479 หลังเปิดการการเรียนการสอนได้เพียง 3 รุ่น ซึ่งกระทรวงธรรมการเห็นว่าหลักสูตรประโยคครูประถมกสิกรรมที่เปิดไปมีผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนเพียงพอและมีสถานศึกษาที่ต้องใช้ครูเกษตรจำนวนน้อย จึงเปิดหลักสูตรมัธยมวิสามัญเกษตรกรรม (มก.) ขึ้นแทนโดยรับผุ้ที่สำเร็จการศึกษาขั้นมัธยมปีที่ 4 เข้าศึกษาโดยกำหนดเวลาเรียน 4 ปี มีผู้สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรจำนวน 4 รุ่น
ยุคโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ในปี พ.ศ. 2481 ได้มีการยุบรวมโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ภาคใต้ที่ตำบลคอหงส์ จังหวัดสงขลา ภาคกลางที่อำเภอบางกอกน้อย จังหวัดธนบุรี และภาคอีสานที่ตำบลโนนวัด จังหวัดนครราชสีมา แต่มิได้ยุบโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมภาคเหนือจากการผลักดันของพระช่วงเกษตรศิลปการ หลวงสุวรรณวาจกกสิกิจและหลวงอิงคศรีกสิการ ให้มีการรักษาโรงเรียนมัธยมวิสามัญเกษตรกรรมไว้ซึ่งต่อมาได้ยกฐานะเป็น วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สังกัดกระทรวงเกษตราธิการ โดยรับผู้ที่สำเร็จชั้นมัธยม 8 เข้าศึกษาในหลักสูตรอนุปริญญาทางเกษตรศาสตร์ สหกรณ์และวนศาสตร์เป็นเวลา 2 ปี โดยมีพระช่วงเกษตรศิลปการเป็นผู้อำนวยการคนแรก ซึ่งต่อมาได้เป็นรากฐานของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2482 วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ย้ายที่ตั้งจากแม่โจ้ไปยังสถานีเกษตรกลาง อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร โดยในส่วนของพื้นที่แม่โจ้นั้นได้ก่อตั้งเป็น โรงเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์ โดยรับผู้สำเร็จชั้นมัธยมปีที่ 6 เข้าศึกษาในหลักสูตร 2 ปี เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจึงสามารถเข้าศึกษาในระดับปริญญาที่วิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่บางเขนได้โดยไม่ต้องส เมื่อวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้รับการสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี พ.ศ. 2486 โรงเรียนเตรียมเกษตรศาสตร์จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ยุคสถาบันอาชีวศึกษา
ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ประสบปัญหาจากความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามดังกล่าวทำให้มีผู้สมัคเรียนจำนวนน้อยอีกทั้งยังมีการคมนาคมที่ลำบากและห่างไกลจากกรุงเทพมหานครมาก จึงมีแนวคิดที่จะยุบโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ลงในปี พ.ศ. 2488 โดยได้มีการงดการรับนักศึกษาในปี พ.ศ. 2490 - 2491 เนื่องจากขาดงบประมาณและจำนวนผู้เรียนน้อย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2491 กระทรวงเกษตราธิการได้โอนกิจการของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้กับกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยเปลี่ยนสถานะเป็นสถานศึกษาในระดับอาชีวศึกษาใช้ชื่อว่า โรงเรียนเกษตรกรรมแม่โจ้ และเริ่มเปิดสอนในปี พ.ศ. 2492 โดยรับจากผู้สำเร็จชั้นมัธยมปีที่ 6 เข้าศึกษาในหลักสูตร 3 ปี เมื่อสำเร็จแล้วจะได้รับประกาศนียบัตรอาชีวชั้นสูง แผนกเกษตรกรรม และต่อมาได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น วิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2499
ยุคมหาวิทยาลัย
ในปี พ.ศ. 2518 ได้มีการเปลี่ยนสถานะของวิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ใหม่เป็น สถาบันเทคโนโลยีการเกษตร[3] และย้ายสังกัดจากกรมอาชีวศึกษาไปสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยแทน โดยเปิดสอนในหลักสูตรเทคโนโลยีการเกษตรบัณฑิต (ทก.บ.) ซึ่งเป็นหลักสูตรแรกในระดับปริญญาตรี รวมถึงในระดับอนุปริญญา ประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงและประกาศนียบัตรบัณฑิต และได้เปลี่ยนชื่อสถาบันในปี พ.ศ. 2525 เป็น สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ เนื่องจากคำว่าแม่โจ้เป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปมากกว่า[4]
สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ได้รับการสถานปนาเป็น มหาวิทยาลัยแม่โจ้ [5] เมื่อวัน 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 เพื่อขยายขอบเขตการให้การศึกษาและเกิดความคล่องตัวทางวิชาการและการบริหารมากขึ้น โดยปัจจุบันมีการเปิดสอนในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอกโดยมีความหลากหลายในสาขาวิชานอกเหนือจากสาขาเกษตรกรรมซึ่งแม่โจ้มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะทางด้านการปฏิบัติมาตั้งแต่ในช่วงของการศึกษาด้านอาชีวศึกษา รวมถึงยังมีการจัดตั้งวิทยาเขตเพื่อขยายการศึกษาไปยังส่วนภูมิภาคต่างๆ โดยวิทยาเขตแรกคือมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติตั้งอยู่ที่อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ และมหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพรที่อำเภอละแม จังหวัดชุมพร และวิทยาเขตล่าสุดคือมหาวิทยาลัยแม่โจ้-อุตรดิตถ์ที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง
สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย
ต้นไม้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย คือ อินทนิล[6]
- อินทนิล เป็นไม้ยืนต้นที่แข็งแรง อายุยาวนาน และเจริญเติบโตได้ทุกสภาพของประเทศไทย แทน ความแข็งแกร่ง อดทน ของศิษย์แม่โจ้
- ช่ออินทนิล มีลักษณะเกาะกันเป็นกลุ่มแน่น สีสด แทน ความรัก ความสามัคคี และความกลมเกลียว
- อินทนิลเป็นต้นไม้ที่เจริญได้ดีในทุกภาคของประเทศไทย แทน ศิษย์แม่โจ้ที่มาจากทุกหนทุกแห่ง และกระจายกันออกไปเจริญเติบโตก้าวหน้าอยู่ทั่วทุกภาค
- ต้น เปลือก และใบ ของอินทนิล ใช้เป็นยาสมุนไพรได้ แทน คุณค่าของศิษย์แม่โจ ที่ได้สร้างประโยชน์ให้กับสังคม
รายนามอธิการบดี
โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมประจำภาคเหนือ/โรงเรียนเตรียมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์/วิทยาลัยเกษตรกรรมเชียงใหม่ | ||
---|---|---|
คนที่ | รายนามอาจารย์ใหญ่/ผู้อำนวยการ | วาระการดำรงตำแหน่ง |
1. | อำมาตย์โท พระช่วงเกษตรศิลปการ | 2477 - 2481 |
2. | หลวงอิงคศรีกสิการ (อินทรี จันทรสถิตย์) | รักษาการ ก.ค.-ต.ค.2479 |
3. | จรัด สุนทรศิล | รักษาการ 2481 - 2482 |
4. | ศาสตราจารย์ ดร.พนม สมิตานนท์ | ผู้อำนวยการ 2482 - 2484,2486-2495 |
5. | ประเทือง ประทีปเสน | 2484 - 2486 |
6. | ไสว ชูติวัตร | 2495 - 2497 |
สถาบันเทคโนโลยีการเกษตร | ||
คนที่ | รายนามอธิการบดี | วาระการดำรงตำแหน่ง |
7. | ศาสตราจารย์ ดร.วิภาต บุญศรี วังซ้าย | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2518 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 |
21 กรกฎาคม พ.ศ. 2522 - 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 | ||
8. | พันเอก ดร.อาทร ชนเห็นชอบ | รักษาการ 21 กรกฎาคม - 15 สิงหาคม พ.ศ. 2522 |
สถาบันเทคโนโลยีการเกษตรแม่โจ้ | ||
9. | ศาสตราจารย์ ดร.ยรรยง สิทธิชัย | 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2526 - 4 มิถุนายน พ.ศ. 2530 |
10. | ศาสตราจารย์ ดร.สุรพล สงวนศรี | 5 มิถุนายน พ.ศ. 2530 - 30 เมษายน พ.ศ. 2532 |
11. | รองศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ เที่ยงตรง | 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2532 - 30 เมษายน พ.ศ. 2536 |
1 พฤษภาคม พ.ศ. 2536 - 30 เมษายน พ.ศ. 2540 | ||
มหาวิทยาลัยแม่โจ้ | ||
1 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 | ||
12. | ศาสตราจารย์ ดร.กำพล อดุลวิทย์ | รักษาการ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 |
13. | นายสราญ เพิ่มพูล | 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 |
14. | รองศาสตราจารย์ ดร.เทพ พงษ์พานิช | 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 |
8 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 | ||
15. | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จำเนียร ยศราช | 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 - 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 |
1 เมษายน พ.ศ. 2558[7] - ปัจจุบัน |
การจัดอันดับมหาวิทยาลัย
การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อยู่ในอันดับที่ 2,098 ของโลก อันดับที่ 73 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันดับที่ 28 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[8]
หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย
สำนักงานอธิการบดี
|
หน่วยงานแบบวิสาหกิจ
|
คณะ/วิทยาลัย/สำนักมหาวิทยาลัยแม่โจ้ แบ่งการเรียนการสอน เป็น 11 คณะ 2 วิทยาลัย 2 วิทยาเขต 1 บัณฑิตวิทยาลัย 1 สำนัก ดังนี้
ศูนย์/โครงการจัดตั้ง
วิทยาเขตมหาวิทยาลัย ตั้งอยู่บนถนนเชียงใหม่-พร้าว ในพื้นที่ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยห่างจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ 10 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 12,879 ไร่ อยู่ใน 3 จังหวัด คือ
พิธีพระราชทานปริญญาบัตรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระองค์เสด็จพระราชดำเนินมาในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ครั้งแรก เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2521 และได้เสด็จพระราชดำเนินในการพิธีพระราชทานปริญญาบัตรด้วยพระองค์เองเรื่อยมา แต่ในปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่บัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตของมหาวิทยาลัยแม่โจ้เป็นประจำทุกปี ดังนั้น วันพระราชทานปริญญาบัตรของทุกปี จึงจัดให้อยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ตามอย่างคราวรับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งแรก ในคราวรับพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกนั้นจัดขึ้นที่อาคารแผ่พืชน์ ซึ่งในปี 2558 เป็นครั้งที่ 37 บัณฑิตรุ่นที่ 38 ปัจจุบันพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จัด ณ ศูนย์กีฬากาญจนาภิเษก รัชกาลที่ 9 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 19 - 20 กุมภาพันธุ์ 2558 บุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัยอ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น |