ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์)"
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 31: | บรรทัด 31: | ||
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) เป็นโอรสใน[[พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์]] กับหม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ศศิสมิต)<ref>http://web.schq.mi.th/~afed/today/jun/jun.html</ref> พระบิดาเรียกท่านว่า "กลาง"<ref>ข้าราชการในกรมรถไฟ และกองทางกรมโยธาเทศบาล, ''ประวัตินายพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (ม.ร.ว. สท้าน สนิทวงศ์) '', พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาส 29 มีนาคม พ.ศ. 2484</ref> |
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) เป็นโอรสใน[[พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์]] กับหม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ศศิสมิต)<ref>http://web.schq.mi.th/~afed/today/jun/jun.html</ref> พระบิดาเรียกท่านว่า "กลาง"<ref>ข้าราชการในกรมรถไฟ และกองทางกรมโยธาเทศบาล, ''ประวัตินายพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (ม.ร.ว. สท้าน สนิทวงศ์) '', พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาส 29 มีนาคม พ.ศ. 2484</ref> |
||
หม่อมราชวงศ์สท้าน ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไปศึกษาวิชาทหารบกที่[[ประเทศเดนมาร์ก]] เมื่อ [[พ.ศ. 2425]] เป็นเวลา 11 ปี เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ อายุ 27 ปี และเข้ารับราชการจนได้เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น [[หม่อมราชินิกุล]]มีนามว่าร้อยเอก ''หม่อมชาติเดชอุดม'' ถือศักดินา 800<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2442/035/502_3.PDF พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนยศ], เล่ม ๑๖, ตอน ๓๕, ๒๖ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๘, หน้า ๕๐๒</ref> จากนั้นในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 24 พฤศจิกายน หม่อมชาติเดชอุดมได้รับพระราชทานยศทางทหารเป็น พันตรี<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2442/035/503.PDF พระราชทานสัญญาบัตรทหาร] </ref> ต่อมาในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2444 ได้เลื่อนยศทางทหารเป็น พันโท<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2444/002/25.PDF พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก] </ref>กระทั่งวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2446 ได้เลื่อนยศทางทหารเป็น พันเอก<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2446/008/118_2.PDF พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก] </ref>ได้จัดตั้งโรงเรียนเสนาธิการทหาร<ref name="ลิ้นชักภาพเก่า">{{อ้างหนังสือ|ผู้แต่ง=[[เอนก นาวิกมูล]]|ชื่อหนังสือ=ลิ้นชักภาพเก่า ประมวลภาพ จากคอลัมน์เปิดกรุภาพเก่าในนิตยสารแพรวรายปักษ์ และคอลัมน์ลิ้นชักภาพเก่าในวิทยาจารย์|URL= |จังหวัด=กรุงเทพ|พิมพ์ที่=สำนักพิมพ์วิญญูชน|ปี= พ.ศ. 2550|ISBN=978-974-94365-2-3|หน้า=หน้าที่|จำนวนหน้า=392}}</ref> ต่อมาได้เลื่อนเป็น ''พระยาวงษานุประพัทธ์'' และในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2452 โปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดี[[กระทรวงเกษตราธิการ]]<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2452/A/94.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ] </ref> โดยก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2452 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พลโท หม่อมชาติเดชอุดม มารับตำแหน่งรองเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ <ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2452/D/191.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งรองเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ] </ref> |
หม่อมราชวงศ์สท้าน ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไปศึกษาวิชาทหารบกที่[[ประเทศเดนมาร์ก]] เมื่อ [[พ.ศ. 2425]] เป็นเวลา 11 ปี เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ อายุ 27 ปี และเข้ารับราชการจนได้เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น [[หม่อมราชินิกุล]]มีนามว่าร้อยเอก ''หม่อมชาติเดชอุดม'' ถือศักดินา 800<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2442/035/502_3.PDF พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนยศ], เล่ม ๑๖, ตอน ๓๕, ๒๖ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๘, หน้า ๕๐๒</ref> จากนั้นในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 24 พฤศจิกายน หม่อมชาติเดชอุดมได้รับพระราชทานยศทางทหารเป็น พันตรี<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2442/035/503.PDF พระราชทานสัญญาบัตรทหาร] </ref> ต่อมาในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2444 ได้เลื่อนยศทางทหารเป็น พันโท<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2444/002/25.PDF พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก] </ref>กระทั่งวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2446 ได้เลื่อนยศทางทหารเป็น พันเอก<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2446/008/118_2.PDF พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก] </ref>และได้จัดตั้งโรงเรียนเสนาธิการทหาร<ref name="ลิ้นชักภาพเก่า">{{อ้างหนังสือ|ผู้แต่ง=[[เอนก นาวิกมูล]]|ชื่อหนังสือ=ลิ้นชักภาพเก่า ประมวลภาพ จากคอลัมน์เปิดกรุภาพเก่าในนิตยสารแพรวรายปักษ์ และคอลัมน์ลิ้นชักภาพเก่าในวิทยาจารย์|URL= |จังหวัด=กรุงเทพ|พิมพ์ที่=สำนักพิมพ์วิญญูชน|ปี= พ.ศ. 2550|ISBN=978-974-94365-2-3|หน้า=หน้าที่|จำนวนหน้า=392}}</ref> ต่อมาได้เลื่อนเป็น ''พระยาวงษานุประพัทธ์'' และในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2452 โปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดี[[กระทรวงเกษตราธิการ]]<ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2452/A/94.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ] </ref> โดยก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2452 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พลโท หม่อมชาติเดชอุดม มารับตำแหน่งรองเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ <ref> [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2452/D/191.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งรองเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ] </ref> |
||
ปี พ.ศ. 2454 [[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]โปรดให้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยา มีสมญาจารึกในสุพรรณบัฏว่า ''เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ รัตนพลเทพ สรรพพลเสพเสนาบดี โรปนวิธีบำรุง ผดุงธัญพืชผลาหาร พานิชการพัฒนกร สโมสรสกลยุทธศาสตร์ มหาอมาตย์ศักดิอดุลย์ พิรุณเทพมุรธาธร สรรพกิจจานุสรสวัสดิ์ วิบุลยปริวัตรเกษตราธิบดี สุนมนตรีพงษ์สนิท เมตจิตรอาชวาธยาไศรย รัตนไตรยสรณธาดา อภัยพิริยบรากรมพาหุ'' ดำรงศักดินา 10,000<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2454/D/1718.PDF ประกาศ เลื่อน แลตั้งกรม แลตั้งเจ้าพระยา], เล่ม ๒๘, ตอน ๐ ง, ๑๑ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๓๐, หน้า ๕๐๒</ref> ต่อมาดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ ([[กระทรวงคมนาคม]]ในปัจจุบัน) |
ปี พ.ศ. 2454 [[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]]โปรดให้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยา มีสมญาจารึกในสุพรรณบัฏว่า ''เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ รัตนพลเทพ สรรพพลเสพเสนาบดี โรปนวิธีบำรุง ผดุงธัญพืชผลาหาร พานิชการพัฒนกร สโมสรสกลยุทธศาสตร์ มหาอมาตย์ศักดิอดุลย์ พิรุณเทพมุรธาธร สรรพกิจจานุสรสวัสดิ์ วิบุลยปริวัตรเกษตราธิบดี สุนมนตรีพงษ์สนิท เมตจิตรอาชวาธยาไศรย รัตนไตรยสรณธาดา อภัยพิริยบรากรมพาหุ'' ดำรงศักดินา 10,000<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2454/D/1718.PDF ประกาศ เลื่อน แลตั้งกรม แลตั้งเจ้าพระยา], เล่ม ๒๘, ตอน ๐ ง, ๑๑ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๓๐, หน้า ๕๐๒</ref> ต่อมาดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ ([[กระทรวงคมนาคม]]ในปัจจุบัน) |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:34, 2 พฤษภาคม 2563
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) | |
---|---|
{{{alt}}} เจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ เมื่อ พ.ศ. 2453 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 24 มิถุนายน พ.ศ. 2409 หม่อมราชวงศ์กลาง สนิทวงศ์ |
อสัญกรรม | 20 ตุลาคม พ.ศ. 2483 (74 ปี) |
บิดา | พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ |
มารดา | หม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา |
คู่สมรส | ท่านผู้หญิงตาด วงษานุประพัทธ์ หม่อมบาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา หม่อมอุบะ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา |
บุตร-ธิดา | 14 คน |
มหาอำมาตย์เอก พลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (นามเดิม:หม่อมราชวงศ์สท้าน หรือ หม่อมราชวงศ์กลาง) (24 มิถุนายน พ.ศ. 2409 [1] - 20 ตุลาคม พ.ศ. 2483) อดีตเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ (พ.ศ. 2452 – 2455) และกระทรวงคมนาคม ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว องคมนตรีในสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมาตุลา (น้าชาย) ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร พระอัยกา (ตา) ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเป็นพระปัยกา (ทวด) ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเคยเป็นข้าหลวงใหญ่ปักปันเขตแดนบริเวณตอนเหนือของสยามกับหลวงพระบางในแคว้นอินโดจีนของฝรั่งเศส ระหว่าง พ.ศ. 2447 - พ.ศ. 2450 [2]
ประวัติ
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) เป็นโอรสในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ กับหม่อมเขียน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (ศศิสมิต)[3] พระบิดาเรียกท่านว่า "กลาง"[4]
หม่อมราชวงศ์สท้าน ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไปศึกษาวิชาทหารบกที่ประเทศเดนมาร์ก เมื่อ พ.ศ. 2425 เป็นเวลา 11 ปี เดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ อายุ 27 ปี และเข้ารับราชการจนได้เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยทหารบก เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2442 ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น หม่อมราชินิกุลมีนามว่าร้อยเอก หม่อมชาติเดชอุดม ถือศักดินา 800[5] จากนั้นในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 24 พฤศจิกายน หม่อมชาติเดชอุดมได้รับพระราชทานยศทางทหารเป็น พันตรี[6] ต่อมาในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2444 ได้เลื่อนยศทางทหารเป็น พันโท[7]กระทั่งวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2446 ได้เลื่อนยศทางทหารเป็น พันเอก[8]และได้จัดตั้งโรงเรียนเสนาธิการทหาร[2] ต่อมาได้เลื่อนเป็น พระยาวงษานุประพัทธ์ และในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2452 โปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ[9] โดยก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2452 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พลโท หม่อมชาติเดชอุดม มารับตำแหน่งรองเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ [10]
ปี พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นเจ้าพระยา มีสมญาจารึกในสุพรรณบัฏว่า เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ รัตนพลเทพ สรรพพลเสพเสนาบดี โรปนวิธีบำรุง ผดุงธัญพืชผลาหาร พานิชการพัฒนกร สโมสรสกลยุทธศาสตร์ มหาอมาตย์ศักดิอดุลย์ พิรุณเทพมุรธาธร สรรพกิจจานุสรสวัสดิ์ วิบุลยปริวัตรเกษตราธิบดี สุนมนตรีพงษ์สนิท เมตจิตรอาชวาธยาไศรย รัตนไตรยสรณธาดา อภัยพิริยบรากรมพาหุ ดำรงศักดินา 10,000[11] ต่อมาดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ (กระทรวงคมนาคมในปัจจุบัน)
ต่อมาภายหลังการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้รวมกระทรวงเกษตราธิการกับกระทรวงพาณิชย์และคมนาคมเป็นกระทรวงเดียวกัน เรียกว่ากระทรวงเกษตรพาณิชยการ แล้วให้เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์เป็นเสนาบดี[12]
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์และท้าววนิดาพิจาริณี (บาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) เป็นผู้เลี้ยงดูสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในระหว่าง พ.ศ. 2475 - พ.ศ. 2477 เมื่อหม่อมหลวงบัว กิติยากร ต้องติดตามหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ไปปฏิบัติราชการ ตำแหน่งเลขานุการเอก ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา [13]
เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนสายปัญญา โดยเมื่อพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์ สิ้นพระชนม์ ท่านเป็นต้นคิดในหมู่ทายาท ให้นำวังของพระบิดา มาก่อตั้งเป็นสถานศึกษาสำหรับสตรี โดยได้รับพระราชทานนามโรงเรียนจาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2459
เจ้าพระยาวงศานุประพัทธ์ ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2483 ด้วยไข้มาลาเรีย เบาหวาน และโรคหัวใจ[14] สิริอายุ 74 ปี
บุตร-ธิดา
- ท่านผู้หญิงตาด วงศานุประพัทธ์
ท่านผู้หญิงตาด วงศานุประพัทธ์ (ตาด สิงหเสนี) เป็นธิดาพระยาณรงค์เรืองฤทธิ์ (เอม สิงหเสนี) กับคุณหญิงขลิบ ณรงค์เรืองฤทธิ์ (ธิดาเจ้าพระยาคทาธรธรนินทร์ (เยีย อภัยวงศ์))[15] มีบุตร-ธิดา 6 คน คือ
- หลวงจรูญสนิทวงศ์ (หม่อมหลวงจรูญ สนิทวงศ์) สมรสกับ หม่อมหลวงรวง สนิทวงศ์ และหม่อมหลวงฟ่อน สนิทวงศ์ ธิดาหม่อมราชวงศ์สุวพันธุ์ สนิทวงศ์ มีธิดารวม 3 คน ดังนี้
- ท่านผู้หญิงอรุณ กิติยากร ณ อยุธยา ภริยาหม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร
- อรอำไพ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- ทิพย์วาณี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- หลวงจรัญสนิทวงศ์ (หม่อมหลวงจรัญ สนิทวงศ์)
- หลวงเดชสหกรณ์ (หม่อมหลวงเดช สนิทวงศ์) สมรสกับท่านผู้หญิงประยงค์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา มีบุตรธิดา 4 คน ดังนี้
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ คุณวรุณยุพา สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- พิสิษฐ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- มนูเสรี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- เกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- หม่อมหลวงอุดม สนิทวงศ์
- หม่อมหลวงแส สนิทวงศ์ เสกสมรสกับ หม่อมเจ้าเสริมสวาสดิ์ กฤดากร พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์) มีโอรสธิดา ดังนี้
- หม่อมราชวงศ์ยงสวาสดิ์ กฤดากร
- ศาสตราจารย์ นายแพทย์หม่อมหลวงเกษตร สนิทวงศ์
ท้าววนิดาพิจาริณี (หม่อมบาง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) มีบุตรธิดา 3 คน ดังนี้
- หม่อมหลวงบัว สนิทวงศ์ เสกสมรสกับพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ) มีบุตรธิดา 4 คนดังนี้
- พลโท นายแพทย์ หม่อมหลวงจินดา สนิทวงศ์ สมรสกับท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (หงสนันทน์) มีบุตรธิดา 3 คนดังนี้
- พลอากาศเอก จารึก สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- คุณหญิงบุษยา ไกรฤกษ์
- พันตรี ภาดร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
- หม่อมหลวงมณีรัตน์ บุนนาค (หม่อมหลวงมณีรัตน์ สนิทวงศ์) สมรสกับนายสุรเทิน บุนนาค มีบุตรธิดา ดังนี้
- พลตรีกรีเมศร์ บุนนาค
- พันโทสุรธัช บุนนาค
- อุบะ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
นามเดิม อุบะ เศวตะทัต บุตรี ขุนญาณอักษรนิติ(ผล) เศวตะทัต กับ หวั่น (บุญธร)เศวตะทัต มีบุตรธิดา 2 คน คือ
- หม่อมหลวงกมล สนิทวงศ์
- หม่อมหลวงสารภี สนิทวงศ์ (ท่านผู้หญิงหม่อมหลวงสารภี มิ่งเมือง)
- บุตร-ธิดา ที่เกิดกับภรรยาอื่นๆ ได้แก่ [15]
- หม่อมหลวงชื่น สนิทวงศ์
- หม่อมหลวงทัยเกษม สนิทวงศ์
- หม่อมหลวงสงบ (จู๊ด) สนิทวงศ์ (เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก)
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
ธรรมเนียมยศของ เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ | |
---|---|
การเรียน | ใต้เท้ากรุณาเจ้า |
การแทนตน | เกล้ากระหม่อม/ข้าพเจ้า |
การขานรับ | ขอรับ/พระเจ้าค่ะ |
- พ.ศ. 2454 : เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นปฐมจุลจอมเกล้า[16]
- พ.ศ. 2457 : เครื่องราชอิสริยาภรณ์รัตนวราภรณ์ [17]
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย
- พ.ศ. 2462 : เหรียญดุษฎีมาลา เข็มราชการแผ่นดิน[18]
อ้างอิง
- ↑ หนังสือ "ประวัตินายพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (ม.ร.ว. สท้าน สนิทวงศ์)" โดยข้าราชการในกรมรถไฟ และกองทางกรมโยธาเทศบาล พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ระบุว่าเกิด 21 มิถุนายน พ.ศ. 2409
- ↑ 2.0 2.1 เอนก นาวิกมูล. ลิ้นชักภาพเก่า ประมวลภาพ จากคอลัมน์เปิดกรุภาพเก่าในนิตยสารแพรวรายปักษ์ และคอลัมน์ลิ้นชักภาพเก่าในวิทยาจารย์. กรุงเทพ : สำนักพิมพ์วิญญูชน, พ.ศ. 2550. 392 หน้า. หน้า หน้าที่. ISBN 978-974-94365-2-3
- ↑ http://web.schq.mi.th/~afed/today/jun/jun.html
- ↑ ข้าราชการในกรมรถไฟ และกองทางกรมโยธาเทศบาล, ประวัตินายพลเอก เจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (ม.ร.ว. สท้าน สนิทวงศ์) , พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาส 29 มีนาคม พ.ศ. 2484
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนยศ, เล่ม ๑๖, ตอน ๓๕, ๒๖ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๑๘, หน้า ๕๐๒
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรทหาร
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก
- ↑ พระราชทานสัญญาบัตรทหารบก
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ
- ↑ พระบรมราชโองการ ประกาศตั้งรองเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศ เลื่อน แลตั้งกรม แลตั้งเจ้าพระยา, เล่ม ๒๘, ตอน ๐ ง, ๑๑ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๓๐, หน้า ๕๐๒
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ ผลัดเปลี่ยนเสนาบดี ปลัดทูลฉลองกระทรวงต่าง ๆ และรวมกระทรวง, เล่ม ๔๙, ตอน ๐ ก, ๒๙ มิถุนายน ๒๔๗๕, หน้า ๑๘๑
- ↑ http://www.sf.ac.th/honour/honour.htm
- ↑ http://thainews.prd.go.th/rachinephp/queen4.html
- ↑ 15.0 15.1 อรวรรณ ทรัพย์พลอย. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท ปราชญ์ผู้เป็นกำลังของแผ่นดิน. กรุงเทพฯ : สร้างสรรค์บุ๊คส์, 2552. 352 หน้า. ISBN 978-974-341-578-4
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๒๘, ตอน ๐ ง, ๑๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๔, หน้า ๑๗๘๓
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานตรารัตนวราภรณ์, เล่ม ๓๑, ตอน ๐ ง, ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๗, หน้า ๓๕๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา, เล่ม ๓๖, ตอน ๐, ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๒, หน้า ๓๓๑๘
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2409
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2483
- หม่อมราชวงศ์
- บรรดาศักดิ์ชั้นเจ้าพระยา
- หม่อมราชนิกุล
- ทหารบกชาวไทย
- ราชสกุลสนิทวงศ์
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไทย
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมไทย
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ร.ว.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.จ. (ฝ่ายหน้า)
- ผู้ได้รับเหรียญ ร.ด.ม.(ผ)
- บทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์