ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การบินไทย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Sirinut1990 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 98: บรรทัด 98:


=== สำนักงาน ===
=== สำนักงาน ===
สำนักงานการบินไทยในกรุงเทพมหานครแห่งแรก เป็น[[ห้องแถว]]สามชั้น เลขที่ 1101 ริม[[ถนนเจริญกรุง]] ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเยื้องกับไปรษณีย์กลางบางรัก <ref>"World Airline Directory." ''Flight International''. 13 April 1961. [http://www.flightglobal.com/pdfarchive/view/1961/1961%20-%200501.html Page 509].</ref> อันเป็นศูนย์รวมธุรกิจในยุคนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ซึ่งส่วนมากเป็นนักธุรกิจและชาวต่างชาติ ต่อมาในปี [[พ.ศ. 2513]] การบินไทยเช่าอาคารเลขที่ 1043 [[ถนนพหลโยธิน]] ติดกับซอยลือชา (ซอยพหลโยธิน 3) บริเวณสนามเป้าเป็นสำนักงาน<ref>"World Airline Directory." ''Flight International''. 26 March 1970. [http://www.flightglobal.com/pdfarchive/view/1970/1970%20-%200553.html Page 503].</ref> โดยเมื่อปี [[พ.ศ. 2522]] การบินไทยจัดซื้อที่ดินริม[[ถนนวิภาวดีรังสิต]] เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และก่อสร้างอาคารหลังแรกขนาด 5 ชั้น ซึ่งเริ่มใช้ปฏิบัติงานเมื่อปี [[พ.ศ. 2523]]<ref>"World Airline Directory." ''Flight International''. 26 July 1980. [http://www.flightglobal.com/pdfarchive/view/1980/1980%20-%201978.html Page 359].</ref> หลังจากนั้นจึงมีโครงการสร้างอาคารถาวร จนกระทั่งแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี [[พ.ศ. 2532]]
สำนักงานการบินไทยในกรุงเทพมหานครแห่งแรก เป็น[[ห้องแถว]]สามชั้น เลขที่ 1101 ริม[[ถนนเจริญกรุง]] ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเยื้องกับไปรษณีย์กลางบางรัก <ref>"World Airline Directory." ''Flight International''. 13 April 1961. [http://www.flightglobal.com/pdfarchive/view/1961/1961%20-%200501.html Page 509].</ref> อันเป็นศูนย์รวมธุรกิจในยุคนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ซึ่งส่วนมากเป็นนักธุรกิจและชาวต่างชาติ ต่อมาในปี [[พ.ศ. 2513]] การบินไทยเช่าอาคารเลขที่ 1043 [[ถนนพหลโยธิน]] ติดกับซอยลือชา (ซอยพหลโยธิน 3) บริเวณสนามเป้าเป็นสำนักงาน<ref>"World Airline Directory." ''Flight International''. 26 March 1970. [http://www.flightglobal.com/pdfarchive/view/1970/1970%20-%200553.html Page 503].</ref> โดยเมื่อปี [[พ.ศ. 2522]] การบินไทยจัดซื้อที่ดินริม[[ถนนวิภาวดีรังสิต]] เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และก่อสร้างอาคารหลังแรกขนาด 5 ชั้น ซึ่งเริ่มใช้ปฏิบัติงานเมื่อปี [[พ.ศ. 2523]]<ref>"World Airline Directory." ''Flight International''. 26 July 1980. [http://www.flightglobal.com/pdfarchive/view/1980/1980%20-%201978.html Page 359].</ref> หลังจากนั้นจึงมีโครงการสร้างอาคารถาวร จนกระทั่งแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี [[พ.ศ. 2532]] อิอิ


เมื่อปี [[พ.ศ. 2506]] การบินไทยเปิดสำนักงานสาขาในต่างประเทศที่กรุง[[โคเปนเฮเกน]] [[ประเทศเดนมาร์ก]] เป็นแห่งแรก ในปี [[พ.ศ. 2553]] สำนักงานสาขาในต่างประเทศของการบินไทย มีทั้งหมด 76 สาขาใน 38 ประเทศ ครอบคลุมทั้ง 5 ทวีป ส่วนศูนย์ซ่อมเครื่องบินของการบินไทย มีอยู่สองแห่งคือ ภายในบริเวณ[[ท่าอากาศยานดอนเมือง]] กรุงเทพมหานคร และภายในบริเวณ[[ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา]] [[จังหวัดระยอง]]
เมื่อปี [[พ.ศ. 2506]] การบินไทยเปิดสำนักงานสาขาในต่างประเทศที่กรุง[[โคเปนเฮเกน]] [[ประเทศเดนมาร์ก]] เป็นแห่งแรก ในปี [[พ.ศ. 2553]] สำนักงานสาขาในต่างประเทศของการบินไทย มีทั้งหมด 76 สาขาใน 38 ประเทศ ครอบคลุมทั้ง 5 ทวีป ส่วนศูนย์ซ่อมเครื่องบินของการบินไทย มีอยู่สองแห่งคือ ภายในบริเวณ[[ท่าอากาศยานดอนเมือง]] กรุงเทพมหานคร และภายในบริเวณ[[ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา]] [[จังหวัดระยอง]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:33, 23 กันยายน 2560

การบินไทย
ไฟล์:Thaiair.jpg
IATA ICAO รหัสเรียก
TG THA THAI
ก่อตั้ง29 มีนาคม พ.ศ. 2503 (64 ปี)
ท่าหลักท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เมืองสำคัญท่าอากาศยานเชียงใหม่
ท่าอากาศยานภูเก็ต
ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่
ท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อน
สะสมไมล์รอยัลออร์คิดพลัส (ROP)
พันธมิตรการบินสตาร์อัลไลแอนซ์
ขนาดฝูงบิน78 (ไม่รวมไทยสมายล์)
จุดหมาย62
(ระหว่างประเทศ 58
ในประเทศ 5 รวมกรุงเทพฯ
จำนวนประเทศ 33
(ธันวาคม 59)รวมประเทศไทย ไม่รวม การบินไทยสมายล์
บริษัทแม่กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง[1]
สำนักงานใหญ่ไทย เลขที่ 89 ถนนวิภาวดีรังสิต,
แขวงจอมพล เขตจตุจักร,
กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย
บุคลากรหลักดร.อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม
(ประธานกรรมการบริษัท)
พลอากาศเอก ตรีทศ สนแจ้ง
(รองประธานกรรมการบริษัท)
อุษณีย์ แสงสิงแก้ว
(รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
เรืออากาศเอก มนตรี จำเรียง
(รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
ดนุช บุนนาค
(ที่ปรึกษา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
ธีรพล โชติธนาภิบาล
(รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
เรืออากาศเอก กนก ทองเผือก
(รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
เรืออากาศโท สมบุญ ลิ้มวัฒนพงศ์
(รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
อุษณีย์ แสงสิงแก้ว
(รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
นาวาอากาศตรี อัษฎาวุธ วัฒนางกูร
(รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
ณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์
(รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่)
เว็บไซต์www.thaiairways.com

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: Thai Airways International Public Company Limited; ชื่อย่อ: ไทย, THAI) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่ดำเนินธุรกิจการบินพาณิชย์ ในฐานะสายการบินแห่งชาติของประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2503[2] โดยปฏิบัติการบินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นหลัก ทั้งนี้ การบินไทยยังได้ร่วมก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรการบิน สตาร์อัลไลแอนซ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสายการบินนกแอร์ [3] และเปิดตัวสายการบินลูก ไทยสมายล์ อีกด้วย

ปัจจุบัน(ธันวาคม พ.ศ. 2559) การบินไทยบิน 58 สนามบินในต่างประเทศ ทั้งหมด 3 ทวีป 33 ประเทศทั่วโลก ไม่นับประเทศไทย จากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยฝูงบินกว่า 78 ลำ การบินไทยเป็นสายการบินลำดับต้นในเอเชีย ที่ทำการบินในเส้นทางกรุงเทพ– ลอนดอน (ท่าอากาศยานฮีทโธรว์) [4] นอกจากนี้ การบินไทยได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากองค์การอนามัยโลกว่าด้วยสุขอนามัยบนเครื่องบินอีกด้วย[5]

ประวัติ

เริ่มก่อตั้ง

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2502 รัฐบาลไทยดำเนินการให้ บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด (อังกฤษ: Thai Airways Company Limited; ชื่อย่อ: บดท.; TAC) กับ สายการบินสแกนดิเนเวียน (อังกฤษ: Scandinavian Airlines System; ชื่อย่อ: SAS) ทำสัญญาร่วมทุนระหว่างกัน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2502 จากนั้นในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2503 บริษัท การบินไทย จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นด้วยทุนประเดิม 2 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจสายการบินระหว่างประเทศ โดยมีเที่ยวบินปฐมฤกษ์ไปยังฮ่องกง เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ปีเดียวกัน

ต่อมาในวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2520 เอสเอเอสคืนหุ้นให้เดินอากาศไทย หลังจากครบระยะเวลาตามสัญญาร่วมทุน แล้วโอนให้แก่กระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ตามมติคณะรัฐมนตรี พนักงานคนแรกได้แก่ กัปตัน พร้อม ณ ถลาง อีกทั้งยังเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ของการบินไทยในปี พ.ศ. 2522 ถึง พ.ศ. 2523 อีกด้วย

พ.ศ. 2530 : ควบรวมกิจการกับเดินอากาศไทย

วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2531 เดินอากาศไทยซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินภายในประเทศ ก็รวมกิจการเข้ากับการบินไทย เพื่อให้สายการบินแห่งชาติเป็นหนึ่งเดียว ตามมติคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ จากนั้นในวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2534 การบินไทยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี และจดทะเบียนแปลงสภาพเป็นบริษัทจำกัดมหาชน เมื่อปี พ.ศ. 2537[6]

พ.ศ. 2540 : ก่อตั้งพันธมิตรการบิน และ ขยายเส้นทางบิน

วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 การบินไทย ร่วมกับสายการบินลุฟต์ฮันซา, แอร์แคนาดา, เอสเอเอส, และ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ก่อตั้งพันธมิตรการบินแห่งแรก และใหญ่ที่สุด สตาร์อัลไลแอนซ์ ขึ้น จากนั้นจึงเริ่มขยายที่หมายการบินใหม่ไปยัง เฉิงตู, ปูซาน, เชนไน, เซียะเหมิน, มิลาน, มอสโก, อิสลามาบาด, ไฮเดอราบัด และ ออสโล

ในวันที่ 29 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2545 การบินไทยเปิดเส้นทางบินใหม่กรุงเทพ แวะกรุงเอเธนส์ ไปกรุงเจนีวา

ในปี พ.ศ. 2548 การบินไทยได้เปิดเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพ – นิวยอร์ก ด้วยเครื่องบินแบบ แอร์บัส เอ 340-500 ถือเป็นเที่ยวบินตรงเส้นทางแรกสู่สหรัฐอเมริกา ต่อมาได้เปลี่ยนเที่ยวบินตรงไปยังลอสแอนเจลิสแทน แต่เนื่องด้วยเครื่องบินรุ่นนี้ใช้น้ำมันมากจึงได้ระงับไปในปี 2551 แม้จะมีผู้โดยสารจองที่นั่งกว่าร้อยละ 80 ก็ตาม

ในปี พ.ศ. 2549 การบินไทยได้ย้ายฐานการปฏิบัติการไปยังสนามบินใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกันนี้ การบินไทยได้ปรับภาพลักษณ์ของสายการบินใหม่ ตั้งแต่นำเครื่องบินรุ่นใหม่มาปฏิบัติการบิน ปรับปรุงที่นั่งรุ่นเก่าให้เป็นรุ่นใหม่ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนการให้บริการภาคพื้น และ บนเครื่องบินอีกด้วย เปิดเส้นทางใหม่ไป โจฮันเนสเบิร์ก ในวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2549

พ.ศ. 2550 : ปรับฝูงบิน และ ครบรอบ 50 ปีการบินไทย

ในปี พ.ศ. 2553 เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี การบินไทย ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ผู้อำนวยการใหญ่ ในขณะนั้น ได้ตั้งเป้าหมายในอนาคตของการบินไทย โดยสร้างแผนงานในการนำฝูงบินใหม่ มาทดแทนฝูงบินเก่า และปรับปรุงการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น โดยวางแผนซื้อเครื่องบินแบบ โบอิงค์ 787 และ แอร์บัส เอ350 รวมไปถึงการนำเครื่องบินแบบ โบอิงค์ 747 และ 777 มาปรับปรุงห้องโดยสารใหม่อีกด้วย

การบินไทย กลับมาบินสู่ลอสแอนเจลิส อีกครั้งในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 โดยแวะพักที่โซล ด้วยเครื่องบินแบบ แอร์บัส เอ 340-600 และปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย โบอิง 777-200ER สำหรับเส้นทาง กรุงเทพ – โซล – ลอสแอนเจลิส

สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดีรังสิต

พ.ศ. 2558 : ยกเลิกเครื่องบิน ยกเลิกเที่ยวบิน ครบรอบ 55 ปี การบินไทย

ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 การบินไทยและการบินไทยสมายล์มีเครื่องบินที่ทำการบินรวมกันมากถึง 102 ลำ มากที่สุดในประวัติศาสตร์
ในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2558 การบินไทยบินเที่ยวบินจากท่าอากาศยานนานาชาติโออาร์ แทมโบมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเที่ยวบิน TG991 เป็นเที่ยวบินสุดท้าย
ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 การบินไทยบินเที่ยวบินขนส่งสินค้าโดยเครื่องบิน 747-400BCF เที่ยวบินจากท่าอากาศยานนานาชาติอัมสเตอร์ดัม สคิปโฮลมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเที่ยวบิน TG899 เป็นเที่ยวบินสุดท้าย
ในวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558 การบินไทยบินเที่ยวบินขนส่งสินค้าโดยเครื่องบิน 747-400BCF เที่ยวสุดท้าย ในเที่ยวบิน TG897 แฟรงเฟิร์ต-กรุงเทพ ก่อนปลดประจำการเครื่องบินรุ่นดังกล่าวและปลดเครื่องบินแบบ A340-600 ลำสุดท้ายในวันที่ 28 มีนาคม[7]ให้บริการเที่ยวบินสุดท้ายในเที่ยวบิน TG923 แฟรงก์เฟิร์ตมากรุงเทพ
วันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558 การบินไทยบินเที่ยวบินจากท่าอากาศยานนานาชาติโดโมเดโดโวมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นเที่ยวสุดท้าย ในเที่ยวบิน TG975 และกลับมาบินอีกครั้ง ในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ใน วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2558 ในเที่ยวบิน TG949 บริการเส้นทางไปท่าอากาศยานนานาชาติมาดริดบาราคัสมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเที่ยวบินสุดท้ายก่อนยกเลิก และ บริการเที่ยวบินจากท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิสมาท่าอากาศยานนานาชาติอินช็อนมาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เที่ยวสุดท้าย ในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ในเที่ยวบิน TG693
การบินไทย เปิดโฆษณา ปลายทางคือคุณ เป็นเพลงฉลองครบรอบ 55 ปี และจัดโปรโมชั่นให้ผู้โดยสาร[8] และจัดงาน TG Online Market Fair ครั้งที่ 1[9]ในวันที่ 28-29 เมษายน 2558

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  • ข้อมูล ณ วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558 [10]
ลำดับที่ รายชื่อผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้นสามัญ สัดส่วนการถือหุ้น
1 กระทรวงการคลัง 1, 113, 931, 061 51.03%
2 กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) 165, 037, 582 7.56%
3 กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 165, 037, 582 7.56%
4 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 69, 496, 882 3.18%
5 ธนาคารออมสิน 46, 409, 885 2.13%

สำนักงาน

สำนักงานการบินไทยในกรุงเทพมหานครแห่งแรก เป็นห้องแถวสามชั้น เลขที่ 1101 ริมถนนเจริญกรุง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเยื้องกับไปรษณีย์กลางบางรัก [11] อันเป็นศูนย์รวมธุรกิจในยุคนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ซึ่งส่วนมากเป็นนักธุรกิจและชาวต่างชาติ ต่อมาในปี พ.ศ. 2513 การบินไทยเช่าอาคารเลขที่ 1043 ถนนพหลโยธิน ติดกับซอยลือชา (ซอยพหลโยธิน 3) บริเวณสนามเป้าเป็นสำนักงาน[12] โดยเมื่อปี พ.ศ. 2522 การบินไทยจัดซื้อที่ดินริมถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และก่อสร้างอาคารหลังแรกขนาด 5 ชั้น ซึ่งเริ่มใช้ปฏิบัติงานเมื่อปี พ.ศ. 2523[13] หลังจากนั้นจึงมีโครงการสร้างอาคารถาวร จนกระทั่งแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2532 อิอิ

เมื่อปี พ.ศ. 2506 การบินไทยเปิดสำนักงานสาขาในต่างประเทศที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก เป็นแห่งแรก ในปี พ.ศ. 2553 สำนักงานสาขาในต่างประเทศของการบินไทย มีทั้งหมด 76 สาขาใน 38 ประเทศ ครอบคลุมทั้ง 5 ทวีป ส่วนศูนย์ซ่อมเครื่องบินของการบินไทย มีอยู่สองแห่งคือ ภายในบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และภายในบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา จังหวัดระยอง

ผลประกอบการ

2553 2554 2555 2556 2557
รายได้ (ล้านบาท) 184,270 194,342 216,743 207,711 203,889
กำไร/ขาดทุน สุทธิ (ล้านบาท) 14,744 −10,197 6,229 −12,047 −15,612
จำนวนพนักงาน (คน) 25,884 25,848 25,412 25,323 24,952
จำนวนผู้โดยสาร (ล้านคน) 18.2 18.4 20.6 21.5 19.1
อัตราเปลี่ยนแปลงของผู้โดยสาร เพิ่มขึ้น1.3% เพิ่มขึ้น12.1% เพิ่มขึ้น4.3% ลดลง11.2%
อัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (%) 73.6 70.4 76.6 74.1 68.9
จำนวนอากาศยาน (ณ สิ้นปี) 90 89 95 100 102
อ้างอิง [14] [14] [15] [16][15] [16][15]

จุดหมายปลายทาง

ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 การบินไทยได้ให้บริการการบินไปยังท่าอากาศยานทั้งหมด 64 แห่ง 35 ประเทศ (รวมประเทศไทย) ครอบคลุม 3 ทวีปทั่วโลก

ข้อตกลงการทำการบินร่วม

การบินไทยทำข้อตกลงการทำการบินร่วม กับสายการบินต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

  • แอโรสวิตแอร์ไลน์ระหว่างประเทศยูเครน (กรุงเทพมหานคร-เคียฟ)
  • แอร์แคนาดา (SA) ระหว่างประเทศแคนาดา (แวนคูเวอร์-โตเกียว/ฮ่องกง) (โทรอนโต-แฟรงก์เฟิร์ต/ลอนดอน/ซูริก/ฮ่องกง/โตเกียว) (มอนทรีออล-แฟรงก์เฟิร์ต/ลอนดอน)
  • แอร์มาดากัสการ์ ระหว่างประเทศไทยกับเรอูว์นียง (กรุงเทพมหานคร-แซง-เดอนี เรอูว์นียง) ระหว่างประเทศมาดากัสการ์กับเรอูว์นียง (อันตานานาริโว-แซงเดอนี เรอูว์นียง)
  • ออลนิปปอนแอร์เวย์ (SA) ภายในประเทศญี่ปุ่น (โอซะกะ-ซัปโปะโระ+) (ฟุกุโอะกะ/โอซะกะ-โตเกียวฮะเนะดะ-นีงาตะ), (โตเกียวนะริตะ-ซัปโปะโระ) ระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกา (โตเกียวนะริตะ-นิวยอร์ก/วอชิงตัน/ชิคาโก/แซนแฟรนซิสโก/ลอสแอนเจลิส) ระหว่างประเทศไทยกับญี่ปุ่น (กรุงเทพ-โตเกียวฮะเนะดะ)
  • แอร์นิปปอนเน็ทเวิร์ก (SA) ภายในประเทศญี่ปุ่น (ซัปโปะโระ-โอซะกะ+) (นะโงะยะ-เซ็นได/ฟุกุโอะกะ) (โอซะกะ-โอะกินะวะ)
  • แอร์นิวซีแลนด์ (SA) ภายในประเทศนิวซีแลนด์ (ออกแลนด์-เวลลิงตัน/ไครสต์เชิร์ช) ระหว่างประเทศนิวซีแลนด์ (ออกแลนด์-บริสเบน/เมลเบิร์น/ฮ่องกง) (ไครสต์เชิร์ช-บริสเบน/ซิดนีย์/เมลเบิร์น) ระหว่างประเทศออสเตรเลีย (ซิดนีย์-เวลลิงตัน/ออกแลนด์) (เพิร์ท-ออกแลนด์+)
  • แอร์เจแปน (SA) ระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐอเมริกา (โตเกียวนะริตะ-โฮโนลูลู) ระหว่างกรุงเทพกับญี่ปุ่น (กรุงเทพ-โตเกียวนะริตะ)
  • เอเชียนาแอร์ไลน์ (SA) รหว่างประเทศเกาหลีใต้ (กรุงเทพมหานคร-โซล, ภูเก็ต-โซล) ภายในประเทศเกาหลี (ปูซาน-โซล)
  • ออสเตรียนแอร์ไลน์ (SA) ระหว่างประเทศออสเตรีย (เวียนนา-ซูริก/แฟรงก์เฟิร์ต/กรุงเทพ)
  • บางกอกแอร์เวย์ ระหว่างประเทศมัลดีฟส์ (กรุงเทพมหานคร-มาเล)
  • บีเอ็มไอ (SA) ภายในประเทศอังกฤษ (ลอนดอน-เอดิบะระ/กลาสโกว์/แมนเชสเตอร์ /เบลฟาสต์) ระหว่างประเทศอังกฤษ (ลอนดอน-ดับลิน)
  • บูลวัน (SA) ระหว่างประเทศฟินแลนด์ (เฮลซิงกิ-ซูริก/สตอกโฮล์ม/โคเปนเฮเกน) ระหว่างประเทศสวีเดน (ตุรกุ-สตอกโฮล์ม) (สตอกโฮล์ม-ตัมเปเร/วาซา)
  • ไชน่าแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศจีน (กรุงเทพมหานคร-เกาซง)
  • ไชน่าอีสเทิร์นแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศจีน (กรุงเทพมหานคร-เซี่ยงไฮ้)
  • ไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศจีน (กรุงเทพมหานคร-ปักกิ่ง)
  • อียิปต์แอร์ (SA) ระหว่างประเทศอียิปต์ (กรุงเทพมหานคร-ไคโร)
  • เอลอัล อิสราเอลแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศอิสราเอล (กรุงเทพมหานคร-เทลอาวีฟ ยาโฟ)
  • เอมิเรตส์ ระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (กรุงเทพมหานคร-ดูไบ)
  • กัลฟ์แอร์ ระหว่างประเทศบาห์เรน (กรุงเทพมหานคร-บาห์เรน)
  • เจแปนแอร์ไลน์ (OW) ภายในประเทศญี่ปุ่น (โอะกินะวะ-นะโงะยะ/โอซะกะ) (นะโงะยะ/โอซะกะ/ฟุกุโอะกะ-ซัปโปะโระ) ระหว่างประเทศญี่ปุ่น (กรุงเทพมหานคร-โอซากา)
  • เจแปนทรานสโอเชียนแอร์ (OW) ภายในประเทศญี่ปุ่น (โอะกินะวะ-โอซะกะ+)
  • ลุฟต์ฮันซา (SA) ภายในประเทศจากแฟรงก์เฟิร์ต (แฟรงก์เฟิร์ต-เบอร์ลิน/ดัสเซลดอร์ฟ/ฮัมเบิร์ก/ฮันโนเฟอร์/มิวนิก/นูเรมเบิร์ก/ชตุทท์การ์ท)
  • ระหว่างประเทศจากแฟรงก์เฟิร์ต (แฟรงก์เฟิร์ต-อัมสเตอร์ดัม/บูดาเปสต์/บรัสเซลส์/ปราก/เวียนนา/วอร์ซอ/เจนีวา/ลิสบอน/บาเซโลนา)
  • ระหว่างแฟรงก์เฟิร์ตกับอเมริกา (แฟรงก์เฟิร์ต-แอตแลนตา/ชิคาโก/แดลลัส-ฟอร์ตเวิร์ธ/ไมอามี/นิวยอร์ก/วอชิงตัน)
  • ภายในประเทศจากมิวนิก (มิวนิก-เบอร์ลิน/โคโลญ/ดัสเซลดอร์ฟ/ฮัมเบิร์ก/ฮันโนเฟอร์)
  • ระหว่างประเทศจากมิวนิก (มิวนิก-อัมสเตอร์ดัม/บรัสเซลส์/บูดาเปสต์)
  • มาเลเซียแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศมาเลเซีย (กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพมหานคร/ภูเก็ต)
  • นกแอร์ ภายในประเทศไทย (ดอนเมือง-นครพนม/บุรีรัมย์/พิษณุโลก) (เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน)
  • ปากีสถานอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศปากีสถาน (กรุงเทพมหานคร-อิสลามาบาด)
  • รอยัลบรูไนแอร์ไลน์ ระหว่างประเทศบรูไน (กรุงเทพมหานคร-บันดาร์เซอรีเบอกาวัน)
  • SAS (SA) * ระหว่างประเทศนอร์เวย์ (สตาวังเงร์-โคเปนเฮเกน) ภายในประเทศนอร์เวย์ (ออสโล-เบอร์เกน/เฮาเกซุนต์/คริสเตียนซานต์/สตาวังเงร์/ทรอนด์เฮม)
  • ระหว่างประเทศเดนมาร์ก (โคเปนเฮเกน-กอเทนเบิร์ก/ออสโล/เบอร์เกน/คริสเตียนซานต์/แฟรงก์เฟิร์ต/อัมสเตอร์ดัม/แมนเชสเตอร์/ฮัมเบิร์ก) ภายในประเทศเดนมาร์ก (โคเปนเฮเกน-ออฮุส/อัลบอร์ก)
  • ระหว่างประเทศสวีเดน (สตอกโฮล์ม-ทรอนด์เฮม/ออสโล/อัมสเตอร์ดัม/โคเปนเฮเกน/แฟรงก์เฟิร์ต/ลอนดอน/แมนเชสเตอร์) ภายในประเทศสวีเดน (สตอกโฮล์ม-กอเทนเบิร์ก/คาลมาร์/อูเมียว/ลูเลียว)
  • สเปนแอร์ (SA) ภายในประเทศสเปน (มาดริด-ปาลมาส เดอ มายอร์กา) (บิลบาโอ-มาดริด) (วาเลนเซีย-มาดริด+)
  • สวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ (SA) ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (กรุงเทพมหานคร-ซูริก)
  • เตอร์กิชแอร์ไลน์ (SA) กรุงเทพฯ-อิสตันบูล
  • ตัปปูร์ตูกัล (SA) ระหว่างประเทศโปรตุเกส (ลิสบอน-ซูริก/แฟรงก์เฟิร์ต/มาดริด)
  • ไทโรเลี่ยน แอร์เวย์ (SA) ระหว่างประเทศออสเตรีย (แฟรงก์เฟิร์ต-ซาลซ์บูร์ก) (เวียนนา-มิวนิก) ภายในประเทศออสเตรีย (เวียนนา-กราซ/อินส์บรุค/ลินซ์/ซาลซ์บูร์ก/คลาเกนฟูร์ท)
  • ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (SA) ภายในสหรัฐอเมริกา (ลอสแอนเจลิส-เดนเวอร์ /นิวยอร์ก/ ซานฟานซิสโก /วอชิงตัน/ชิคาโก) ระหว่างสหรัฐอเมริกา (ชิคาโก-ลอนดอน, โตเกียว-ชิคาโก/แซนแฟรนซิสโก)

(SA) = Star Alliance Member (OW) = One World member + = มีเฉพาะขาไปเท่านั้น

* ผู้โดยสารที่เดินทางภายในประเทศญี่ปุ่นโดยทำการบินร่วมภายใต้สายการบินไทยจะได้รับสิทธิอยู่ในประเทศญี่ปุ่นสูงสุด 21 วัน

ภาพลักษณ์ขององค์กร

การบินไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่สายการบินที่มีระเบียบการเปลี่ยนเครื่องแบบในตลอดการเดินทาง โดยพนักงานต้อนรับหญิงประจำเที่ยวบินระหว่างประเทศจะต้องเปลี่ยนเครื่องแบบจากชุดสูทสีม่วง (สำหรับแต่งกายนอกห้องโดยสาร) เป็นชุดไทยประเพณี (เห็นได้จากโฆษณาของสายการบิน) ขณะต้อนรับผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องบิน และต้องเปลี่ยนกลับเป็นชุดสูทเมื่อนำผู้โดยสารออกจากเครื่องบิน เว็บไซต์อาสค์เมนจัดอันดับ สุดยอดแอร์โฮสเตทสาวที่ฮอทที่สุด 10 สายการบินทั่วโลก โดยการบินไทยได้อันดับที่ 7 เว็บไซต์อาร์คเมนส์ ให้เหตุผลว่า พนักงานต้อนรับหญิงบนเครื่องบินดูดีในชุดเครื่องแบบโทนสีม่วง-ทอง รูปร่างหน้าตาสวยงาม การบริการระหว่างการเดินทางดี นอกจากนี้ยังยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตรและมารยาทงามอีกด้วย[17]นอกจากนี้ การบินไทยยังถูกจัดให้เป็นสายการบินที่ดีที่สุด ลำดับ 5 ของโลก[18]นอกจากนี้การบินไทยเป็นสายการบินที่คำนึงถึงสุขภาพผู้โดยสารเป็นสำคัญ โดยที่ผ่านมาการบินไทยได้นำเครื่องลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานนะฮะ[19]ท่าอากาศยานแองเคอเรจ [20]ซึ่งเป็นการลงจอดนอกแผนการบิน เนื่องจากกรณีผู้โดยสารป่วย

อย่างไรก็ตามเป็นที่ยอมรับ[21]ว่าการบินไทยมีการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจทางการเมืองโดยข้อเท็จจริงการบินไทยมีกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ 17 คน (นับถึงปี พ.ศ. 2559) [22] ในระยะเวลาตลอดที่ทำการบินตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 - พ.ศ. 2557 เมื่อเฉลี่ยแล้วกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทยอยู่ในตำแหน่งเพียง 3 ปี 5 เดือน การแทรกแซงอื่นที่ปรากฏ อาทิ การจัดซื้อเครื่องบิน การจัดเส้นทางบิน การปลดกรรมการผู้จัดการใหญ่ การโยกย้ายกรรมการบริษัท ซึ่งมักจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล

ตราสัญลักษณ์

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2503 การบินไทยเปิดตัวตราสัญลักษณ์แบบแรก เป็นภาพตุ๊กตารำไทยซึ่งออกแบบโดย หม่อมเจ้าไกรสิงห์ วุฒิไชย นักออกแบบที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ซึ่งเป็นผู้ออกเครื่องแบบพนักงานต้อนรับชุดแรกด้วย ต่อมาในปี พ.ศ. 2515 การบินไทยจัดจ้างวอลเตอร์ แลนเดอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (อังกฤษ: Walter Landor & Associates) บริษัทโฆษณาระดับโลก ให้ออกแบบตราสัญลักษณ์ใหม่[23]

จากนั้นราวปลายปี พ.ศ. 2517 คณะผู้แทนการบินไทยเดินทางไปพิจารณาเลือกแบบ ซึ่งคณะผู้ออกแบบนำเสนอกว่าสิบภาพ โดยภาพดอกบัวโดดเด่นที่สุด เนื่องจากมีสีสันกลมกลืนสดใส แต่มีผู้แทนคนหนึ่งเห็นว่า การบินไทยใช้ชื่อบริการว่าเอื้องหลวง หากใช้สัญลักษณ์ดอกบัวก็เป็นการขัดกัน จึงเสนอแนะแก่คณะผู้ออกแบบไว้[23] ซึ่งต่อมาในวันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2520 เดินอากาศไทยนำภาพดอกบัวดังกล่าว มาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ใหม่ แทนภาพช้างเอราวัณสามเศียรอยู่กลางตราอาร์ม สองข้างซ้ายขวาประกอบด้วยภาพปีกนกซ้อนทับบนปีกเครื่องบิน

โดยในปีถัดมา (พ.ศ. 2518) คณะผู้ออกแบบพยายามดัดแปลงแก้ไขจากแบบที่เลือกไว้แล้ว จึงได้แบบที่คณะผู้แทนการบินไทยเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ จึงนำมาใช้เป็นตราสัญลักษณ์ใหม่ ซึ่งคณะผู้ออกแบบอธิบายว่าเป็นภาพใบเสมา ซึ่งพบเห็นทั่วไปในประเทศไทย โดยจับวางตะแคงข้าง เพื่อต้องการสื่อถึงความเร็ว เนื่องจากนำมาใช้กับสายการบิน สำหรับสีทองมาจากแสงอร่ามของวัดวาอารามไทย สีม่วงสดมาจากกล้วยไม้ ดอกไม้สัญลักษณ์ของการบินไทย ส่วนสีชมพูมาจากดอกบัว[23]

ทั้งนี้ มักใช้ประกอบกับตัวอักษรชื่อ "ไทย" หรือ "Thai" ตามรูปแบบเดียวกับที่ประกอบอยู่ในตราสัญลักษณ์ใหม่ของเดินอากาศไทย สำหรับตราสัญลักษณ์นี้มักมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า มีความคล้ายคลึงกับลักษณะของดอกรักเสียมากกว่า ผิดแต่เพียงสีที่แท้จริงของดอกรักเป็นขาว โดยตราสัญลักษณ์ดังกล่าวใช้มาถึง 30 ปี จนกระทั่ง พ.ศ. 2548 การบินไทยจัดจ้าง ห้างหุ้นส่วนอินเตอร์แบรนด์ (อังกฤษ: Interbrand Partnership) เป็นผู้ออกแบบลวดลายภายนอกตัวเครื่องบิน พร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงสีสันภายในตราสัญลักษณ์ให้สดใสขึ้นกว่าเดิม และปรับปรุงตัวอักษรชื่อที่ประกอบอยู่กับตราสัญลักษณ์ โดยออกแบบขึ้นใหม่ และใช้อักษรอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด[23]

ไฟล์:Thaiair.jpg
ตราสัญลักษณ์ของการบินไทย (2548-ปัจจุบัน)

คำขวัญ

คำขวัญภาษาไทยของการบินไทยคือรักคุณเท่าฟ้า ปรากฏเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2521 เป็นชื่อใหม่ของวารสารภายใน ซึ่งเปลี่ยนจากเดิมคือ ข่าวการบินไทย (เริ่มเมื่อ พ.ศ. 2519) โดยวลีดังกล่าวมีที่มาจาก วิถีชีวิตของชาวไทย ดังที่พ่อแม่มักตั้งคำถามกับลูกว่า รักพ่อแม่แค่ไหน แล้วลูกก็มักตอบว่า "รักพ่อแม่เท่าฟ้า" ซึ่งสื่อความหมายถึงความรักที่กว้างใหญ่ไพศาลไปสุดขอบฟ้า จึงนำมาใช้เชิงเปรียบเทียบกับบริการของการบินไทย ทั้งนี้ คำขวัญของการบินไทยดังกล่าว เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในประเทศไทย จากผลงานเพลงชื่อเดียวกัน ของวงดนตรีเพื่อชีวิต คาราบาว ซึ่งเผยแพร่เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2528 ส่วนคำขวัญภาษาอังกฤษใช้ว่า Smooth as Silk ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า นุ่มละมุนดุจแพรไหม มีชื่อเสียงมาจากเพลงชื่อเดียวกัน ที่กระจายเสียงภายในเครื่องก่อนเริ่มเที่ยวบิน และที่นำมาใช้ประกอบรายการ การบินไทยไขจักรวาล

ฝูงบิน

ณ วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2560 การบินไทยทำการบินทั้งหมด 79 ลำ

เครื่องบิน รหัส ประจำการ สั่งซื้อ จำนวนที่นั่ง จุดหมายปลายทาง / (หมายเหตุ)
F C C Y ทั้งหมด
แอร์บัส เอ 330-343 A330
A33H
8
7
- 0
0
36
36
0 263
263
299
299

A330: กระบี่, เชียงใหม่, การาจี , โกลกาตา, เชียงใหม่-คุนหมิง , จาการ์ตา , เจนไน, เซี่ยงไฮ้-ผู่ตง, โซล-อินช็อน, ไทเป-เถาหยวน, ปูซาน-คิมแฮ, การาจี-มัสกัต , ย่างกุ้ง, อิสลามาบาด, ฮ่องกง , เวียงจันทน์, ลาฮอร์,
ช่วงพิธีฮัจญ์ :อัลมะดีนะฮ์ ,เจดดาห์
A33H: กัวลาลัมเปอร์ , โซล-อินช็อน , ดูไบ, โตเกียว-นะริตะ, ไทเป, ฟุกุโอะกะ, ย่างกุ้ง, ฮ่องกง ,เซี่ยงไฮ้-ผู่ตง, เชียงใหม่ ,กระบี่

แอร์บัส เอ 350-941 XWB A359 6 6 0 32 0 289 321 มิลาน , ดูไบ , สิงคโปร์ , โรม , แฟรงก์เฟิร์ต , ภูเก็ต , เชียงใหม่ ,ภูเก็ต-แฟรงก์เฟิร์ต TG926 ,แฟรงก์เฟิร์ต-ภูเก็ต TG927
แอร์บัส เอ 380-841 A380 6 - 12 60 0 435 507 โตเกียว-นะริตะ, ปารีส-ชาร์ล เดอ โกล, แฟรงก์เฟิร์ต, ลอนดอน-ฮีทโธรว์, โอซะกะ-คันไซ, ฮ่องกง
โบอิง 737-400 B734 1 - 12 138 150

สมุย

โบอิง 747-400 B74R
B74N
4
6
- 10
9
40
40
0 325
325
375
374

B74R: โอซะกะ-คันไซ, ฮ่องกง, ซิดนีย์, มิวนิก , โตเกียว-ฮะเนะดะ, มุมไบ
B74N: โตเกียว-ฮะเนะดะ, ภูเก็ต, ฮ่องกง, โอซะกะ-คันไซ, ซิดนีย์, มิวนิก, โซล-อินช็อน

โบอิง 777-200 B772 8 - 0 30 0 279 309 กัวลาลัมเปอร์, เชียงใหม่, กวางโจว , โซล-อินช็อน , ธากา, บังคาลอร์, มะนิลา, ฮานอย, สิงคโปร์ , นะโงะยะ , เตหะราน ,เซี่ยเหมิน

ไทเปโซล-อินช็อน , ไฮเดอราบัด, บังคาลอร์ , โคลัมโบ, โฮจิมินห์

โบอิง 777-200ER B77E 6 - 0 30 0 262 292 สิงคโปร์ , ออกแลนด์ , มอสโก ,ธากา , เดนพาซาร์ , โฮจิมินห์ซิตี้ , บังคาลอร์ , กาฎมัณฑุ , มุมไบ , เซี่ยเหมิน , มะนิลา , เมลเบิร์น , เจนไน , เดลลี ,ภูเก็ต
โบอิง 777-300 B773 6 - 0 34 0 330 364 มุมไบ, โซล-อินช็อน , เดลี, สิงคโปร์ , นะโงะยะ, ซัปโปะโระ, กวางโจว , โกลกาตา, มะนิลา, ฮ่องกงโซล-อินช็อน,
ภูเก็ต, เชียงใหม่ ,เดนพาซาร์
โบอิง 777-300ER B77B
B77W
6
8
0
0
0
0
42
42
0
0
306
306
348
348
ออสโล , เชียงใหม่, โคเปนเฮเกน, สตอกโฮล์ม-อาร์ลันดา, ภูเก็ต, สิงคโปร์ , ปักกิ่ง, ซูริก, บรัสเซลส์, กวางโจว
ลอนดอน, แฟรงก์เฟิร์ต ,โตเกียว-นะริตะ, โตเกียว-ฮะเนะดะ , เวียนนา (16 พ.ย.)
โบอิง 787-8 B788 6 0 0 24 0 240 264 บริสเบน, เพิร์ธ , เดลี , ฮานอย ,โฮจิมินห์ซิตี , นะโงะยะ ,ปักกิ่ง , จาร์กาตา
โบอิง 787-9 B789 1 1 n/a เชียงใหม่, ภูเก็ต, สิงคโปร์ , ไทเป , ออกแลนด์
รวม 79 7

การจัดหา/ปลดระวาง

ลายเครื่องบินการบินไทยแบบเก่า (ลำขวา) และลายแบบใหม่ (ลำซ้าย) ของโบอิง 777-200
ที่ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง

ณ วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 อายุเฉลี่ยของฝูงบินของการบินไทยอยู่ที่ 9.7 ปี[24]

การบินไทยปลดระวาง Boeing747-400 6 ลำ และปรับปรุงที่นั่งในชั้นทุกชั้น จำนวน 12 ลำ จะปลดระวางระหว่าง พ.ศ. 2555-2556
ปลดระวาง A300-600 15 ลำ บินครั้งสุดท้าย 31 กรกฎาคม 2557
ปลดระวาง Boeing 737-400 10 ลำ จะปลดระวางระหว่าง พ.ศ. 2558-2560
ปลดระวาง ATR72-201 2 ลำ
ปลดระว่าง A330-322 12 ลำทั้งหมดใน เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2560
จอดเครื่องรอขาย A340-500 4 ลำ จอดเครื่องรอขาย A340-600 6 ลำ บินครั้งสุดท้าย เดือนมีนาคม พ.ศ. 2558
การบินไทยปลดระวาง B747-400BCF 2 ลำในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2558

แอร์บัส เอ 380-841 ของการบินไทย

การบินไทยสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ 380จำนวน 6 ลำ ซึ่งจะส่งมอบตั้งแต่ พ.ศ. 2555-2556 เพื่อใช้ในเที่ยวบินไปแฟรงค์เฟิร์ท ปารีส และลอนดอน ซึ่งยังไม่สามารถเพิ่มความถี่ได้ จัดหาเข้าประจำการ A330-343X 15 ลำ มาครบแล้วเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
B777-300ER สั่งซื้อ 6 ลำ กำหนดมอบส่งครบทุกลำเมื่อ กันยายน พ.ศ. 2558
A350-900 ซื้อ 4 ลำ กำหนดมอบส่งครบ พ.ศ. 2559-2560
A350-900 พ.ศ. 2559-2560 เช่าซื้อ 8 ลำโดยแบ่งเป็น 6 ลำ เช่าซื้อจาก (ALAFCO) ส่งมอบ พ.ศ. 2559 และ 2 ลำ เช่าซื้อจาก (CIT) ส่งมอบ พ.ศ. 2560
B787-8 เช่าซื้อ 6 ลำ มาครบแล้วใน เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558
B787-9 เช่าซื้อ 2 ลำ พ.ศ. 2560
ในส่วนการบินไทยสมายล์ A320-200 เช่าซื้อ 16 ลำ ในปี พ.ศ. 2556-2557 ซื้อ 3 ลำ พ.ศ. 2558
[25]


คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในการเปลี่ยนแหล่งเงินทุนในการซื้อเครื่องบินแอร์บัส 330 รุ่น A330-343X ของการบินไทย จากเดิมที่เห็นชอบให้จัดหาโดยวิธีการเช่าซื้อ โดยใช้เครื่องบินเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการจัดหาเงินกู้ เปลี่ยนเป็นการซื้อเครื่องบินด้วยเงินทุนในรูปแบบอื่นเพื่อเพิ่มทางเลือกให้การบินไทยได้พิจารณาจัดหาแหล่งเงินทุนในรูปแบบอื่นที่เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะตลาดเงินและตลาดทุนเพื่อความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการดำเนินการมากยิ่งขึ้น[26]

บริการในห้องโดยสาร

การบินไทยแบ่งการให้บริการภายในห้องโดยสาร ออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่

รอยัลเฟิร์สคลาส (ชั้นหนึ่ง)

ที่นั่งชั้นหนึ่งของการบินไทยสามารถปรับเอนนอนได้ 180 องศา ประกอบไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ระบบนวดผ่อนคลาย, ไฟอ่านหนังสือ, ปลั๊กไฟส่วนตัว (VAC) 115 โวลต์, จอภาพส่วนตัวขนาด 10.4 นิ้วพร้อมระบบความบันเทิงส่วนตัวผู้โดยสาร ในชั้นรอยัลเฟิร์สคลาสนี้สามารถเลือกเมนูอาหาร จากเมนูต่าง ๆ ทั้ง 22 รายการก่อนขึ้นเครื่องได้อีกด้วย[27] ส่วนเครื่องบินแอร์บัส เอ 380-800 ที่นั่งโดยสารถูกออกแบบให้เป็นห้องพักผ่อนส่วนตัว มีความห่างระหว่างแถว 83 นิ้ว ความกว้างที่นั่ง 26.5 นิ้ว สามารถปรับเอนนอนเป็นแนวราบได้ถึง 180 องศาและติดตั้งอุปกรณ์สาระบันเทิงอย่างครบครันด้วยจอภาพ AVOD ระบบสัมผัสขนาด 23นิ้ว ติดตั้งระบบ Wi-Fi อินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารได้ทุกชนิด พร้อมปลั๊กไฟส่วนตัวสำหรับคอมพิวเตอร์วางตักไว้บริการผู้โดยสาร นอกจากนี้การบินไทยยังติดตั้งห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าของห้องน้ำปกติ โดยออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับให้ผู้โดยสารชั้นหนึ่งแต่งตัวได้อย่างสะดวกสบายด้วยเช่นกัน[28] ปัจจุบันการบินไทยติดตั้งที่นั่งชั้นรอยัลเฟิร์สคลาสในเครื่องบิน 31 ลำดังต่อไปนี้

สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ ที่นั่งชั้นหนึ่งจะขายในราคาแบบที่นั่งชั้นธุรกิจสามารถเลือกนั่งได้ด้วยโดยจะบริการเฉพาะเส้นทาง กรุงเทพ– เชียงใหม่ และภูเก็ต เท่านั้น ในเครื่องบินแบบ B74R B74N

รอยัลซิลค์ (ชั้นธุรกิจ)

เปิดตัวครั้งแรกพร้อมกับแอร์บัส A340-500 มาในลักษณะแบบเปลือกหอย มีการติดตั้งชั้นธุรกิจนี้ในเครื่องบินโบอิงB747-400, 777-300, 777-200, 777-200ER ,777-300ER ความห่างระหว่างที่นั้ง 60-62 นิ้ว และความกว้างของที่นั่ง 20-21.5 นิ้ว สามารถปรับเอนได้สูงสุดถึง 170 องศา ในทุก ๆ ที่นั่งจะมีระบบนวด.โทรทัศน์ส่วนตัวระบบสัมผัส 10.4 และ 15 นิ้ว (ในเก้าอี้แบบใหม่) สามารถปรับเอนนอนเป็นแนวราบได้ถึง 180 องศา และยังมีที่นั่งแบบใหม่ที่ถูกติดตั้งบนแอร์บัส เอ 380 และโบอิง777-300ER โดยจอ IFE มีขนาดใหญ่ถึง 17 นิ้ว และติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบคาดผ่านเอว นอกจากนี้บนเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ยังมีรอยัลซิลค์ บาร์บริการอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วย

ที่ต้อนรับผู้โดยสารระหว่างรอเครื่องชั้นธุรกิจของการบินไทย

ชั้นธุรกิจแบบเก่ายังมีในเครื่องบินแบบ B737-400 1 ลำ

อนึ่ง A330-300 รุ่นใหม่จะมีการปรับเปลี่ยนชั้นธุรกิจเป็นแบบใหม่จะมีในรุ่นแบบ A330และA33H ในเครื่องบินแบบ A330-343Eมีบริการทั้งหมด 15 ลำแบ่งเป็น A330 8 ลำ A33H 7 ลำ ให้บริการในทวีปเอเซีย

ชั้นประหยัดพรีเมียม

ชั้นประหยัดพรีเมียมการบินไทยบริการในเครื่องบินแบบ B777-300ER ในเส้นทางโคเปนเฮเกนและสต๊อกโฮม โดย นำที่นั่งชั้นธุรกิจ โซนหลัง มาขายเป็น ชั้นประหยัดพรีเมี่ยม (แถวที่นั่ง 18-22) ชั้นประหยัดพรีเมี่ยม ที่เป็นที่นั่ง ชั้นประหยัดพรีเมี่ยม จริงๆ มีให้บริการบนเครื่องบินรุ่น A340-500 เท่านั้น แต่ปัจจุบันเครื่องบินรุ่นนี้ได้ปลดระวางไปแล้ว และมีให้บริการบนเครื่องบิน a320 ที่การบินไทย นำคืน มาจาก การบินไทยสมายล์ ใน ที่นั่ง 3 แถวแรก (ถ้าเส้นทางบินในประเทศที่ทำการบินด้วย a320 ที่นั่ง 3 แถวแรกจะเป็นชั้นประหยัดทั้งลำ แต่ถ้าเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ที่นั่ง 3 แถวแรกจะเป็น ชั้นประหยัดพิเศษ)

ชั้นประหยัด

ขนาดที่นั่งในชั้นประหยัดของการบินไทย มีขนาดใหญ่ถึง 36 นิ้ว ต่างจากโดยทั่วไปที่มีขนาด 34 นิ้ว โดยแถวที่นั่งจะถูกจัดวางในรูปแบบดังต่อไปนี้

  • แบบ 3-4-3 ในเครื่องบินโบอิง B747-400 และแอร์บัส A380 (ชั้นล่าง)
  • แบบ 3-3-3 ในเครื่องบินโบอิง 787-8, 777-200, 777-200ER, 777-300, และ777-300ER
  • แบบ 2-4-2 ในเครื่องบินแอร์บัส เอ 330-343, A380 (ชั้นบน)
  • แบบ 3-3 ในเครื่องบินโบอิง 737-400

ทุกที่นั่งในชั้นประหยัดบนเครื่องบิน แอร์บัส A330-300 8 ลำ. โบอิง B777-200 , โบอิง B777-200ER, โบอิง B777-300, โบอิงB747-400 6 ลำจะถูกติดตั้งระบบมัลติมีเดีย (AVOD) หน้าจอระบบสัมผัส 9 นิ้ว ในทุกที่นั่ง แอร์บัส A33H 7 ลำ, A380-800 6 ลำ, โบอิงB747-400 6 ลำ, โบอิงB777-300ER จะถูกติดตั้งระบบมัลติมีเดีย (AVOD) ระบบปฏิบัติการ Panasonic eX2 หน้าจอระบบสัมผัส 10.6 นิ้ว และเครื่องบินแบบ โบอิงB787-8 จะถูกติดตั้งระบบมัลติมีเดีย (AVOD) ระบบปฏิบัติการ Panasonic eX3 หน้าจอระบบสัมผัส 11 นิ้ว

รอยัลออร์คิดพลัส

Boeing 747-400 สายการบินไทย กำลังทะยานขึ้น

รอยัลออร์คิดพลัส (Royal Orchid Plus หรือ ROP) เป็นรายการสะสมแต้มการบินของการบินไทย ซึ่งนับเป็นรายการแรกของประเทศไทย มีสมาชิกจากทั่วโลกมากกว่า 2 ล้านคน

ระดับสมาชิก ของรอยัลออร์คิดพลัสมี 4 ระดับชั้น ได้แก่

  • สมาชิก - สำหรับสมาชิกทั่วไป
  • ซิลเวอร์ - ต้องมีไมล์สะสมตั้งแต่ 10, 000 Q ไมล์ ใน 1 ปี หรือ 15, 000 Q ไมล์จากวันเริ่มต้นจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของปี
  • โกลด์ - ต้องมีไมล์สะสมตั้งแต่ 50, 000 Q ไมล์ ใน 1 ปี หรือ, 80, 000 Q ไมล์ จากวันที่เริ่มต้นจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของปี, หรือใช้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศตั้งแต่ 40 เที่ยวบินกับการบินไทย ภายใน 1 ปี.
  • แพลทินัม - สมาชิกภาพบัตรแพลทินัมได้สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อมอบแด่ท่านสมาชิกที่มีเอกลักษณ์ในการเดินทางที่โดดเด่น รวมถึงการเลือกเดินทางอย่างมีระดับในชั้นหนึ่ง รอยัล เฟิร์สท และชั้นธุรกิจ รอยัล ซิลค์ กับการบินไทยเสมอมา ตลอดจนเป็นผู้ที่ดำรงสถานภาพบัตรทองมายาวนาน และเป็นผู้ที่ได้รับการเรียนเชิญจากรอยัล ออร์คิด พลัส เท่านั้น


รูปแบบการสะสมไมล์ มี 3 รูปแบบ ได้แก่

  • Eligible Qualifying Mile's (EQM) ซึ่งสามารถสะสมไมล์เดินทาง เมื่อใช้บริการเที่ยวบินของสายการบินไทย, สายการบินไทยสมายล์, สายการบินในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์, สายการบิน เจ๊ท แอร์เวย์ และเที่ยวบินในสายการบิน หรือเที่ยวบินที่ร่วมเส้นทางจาก/ถึงกรุงเทพ คือสายการบินมาเลเซียน, สายการบินเอมิเรตส์, สายการบินเอลอัลของอิสราเอล และสายการบินไชนาอีสเทิร์น
  • Qualifying Mile's (Q Miles) ซึ่งสามารถสะสมไมล์เดินทาง ในชั้นบริการของสายการบินไทย และสายการบินในกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ โดยจะสะสมแต้มตามชั้นที่นั่งซึ่งผู้โดยสารใช้บริการ
  • Partner Mile เป็นการสะสมสิทธิ์จากการใช้บริการอื่น ๆ ที่เป็นแนวร่วมกับสายการบินไทย เช่นบัตรเครดิตที่ร่วมรายการโอนคะแนนสะสมไมล์, โรงแรมที่พัก หรือสินค้าบริการอื่น ๆ ที่เข้าร่วมรายการ

อุบัติการณ์และอุบัติเหตุ

ไฟล์:TG114 on fire 20010303.jpg
อุบัติเหตุกับเครื่องการบินไทย เที่ยวบินทีจี 114 เมื่อ 3 มีนาคม 2544
ไฟล์:1153039560sttops 2405.jpg
อุบัติการณ์กับเครื่องการบินไทย เที่ยวบินทีจี 943 เมื่อ 15 กรกฎาคม 2549

การบินไทยมีอุบัติการณ์มากกว่าอุบัติเหตุ ซึ่งหมายถึงการทำการบินที่ผู้โดยสารบาดเจ็บเล็กน้อยหรือไม่บาดเจ็บเลย รวมถึงการขู่ว่ามีการวางระเบิด อย่างไรก็ตาม อุบัติการณ์และอุบัติเหตุของการบินไทยค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับสายการบินอื่น ๆ ทั่วโลก

  • 30 มิถุนายน พ.ศ. 2510 - การบินไทย เที่ยวบินที่ 601 เครื่องบิน Sud Aviation SE-210 Caravelle III ทะเบียน HS-TGI ของการบินไทย บินจากซงชาน กรุงไทเป ไปยังสนามบินฮ่องกง (ไคตั๊ก) เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกขณะทำการลงจอดในขณะที่มีพายุไต้ฝุ่น เสียชีวิต 24คน บาดเจ็บหนัก 56 คน โดยมีผู้โดยสารทั้งหมด 73 คน ลูกเรือ 7 คน[29]
  • 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 - การบินไทยไม่ทราบเทื่ยวบิน เครื่องบิน Douglas DC-8 ทะเบียน HS-TGU บินจากกรุงเทพไปเนปาลเกิดอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกรันเวย์มีผู้เสียชีวิตที่ภาคพื้นดินเป็นประชาชนชาวเนปาล 1 ราย[31]

บริษัทร่วมทุน

เคาน์เตอร์เช็คอินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร

การบินไทยเคยถือหุ้นอยู่ในสายการบินนกแอร์อยู่ 49% นับเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับหนึ่ง[40] ในปี พ.ศ. 2560 นกแอร์ได้เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท การบินไทยตัดสินใจไม่ซื้อหุ้นเพิ่ม และสัดส่วนหุ้นนกแอร์ที่ถือโดยการบินไทยลดลงจากเดิม 39.2% เหลือ 21.57% (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2560)[41]

นอกจากนั้นบริษัทการบินไทยยังมีบริษัทย่อย[42]ดังต่อไปนี้

  1. บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 55
  2. บริษัท วิงสแปน เซอร์วิสเซส จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 49
  3. บริษัท ไทยไฟลท์เทรนนิ่ง จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 49
  4. บริษัท ทัวร์เอื้องหลวง จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 49
  5. บริษัท ดอนเมือง อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต โฮเต็ล จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 40
  6. บริษัท ครัวการบินภูเก็ต จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 30
  7. บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 30
  8. บริษัท โรงแรม รอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 24
  9. บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 22.59

ครัวการบินไทย

ครัวการบินไทย (อังกฤษ: THAI Catering Service) เริ่มดำเนินกิจการเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2503 โดยเช่าโรงซ่อมบำรุงรักษาเครื่องบิน และอาคารเล็กอย่างละหนึ่งหลัง ภายในบริเวณท่าอากาศยานกรุงเทพ ที่ดอนเมืองเป็นแห่งแรก เพื่อทำการผลิตและให้บริการอาหารชนิดต่าง ๆ สำหรับสายการบินไทย และสายการบินอื่นอีกมากกว่า 50 สายการบิน[43]

สำนักงานของครัวการบินไทย มีสองแห่งคือ อาคารขนาดใหญ่บนพื้นที่ 90, 000 ตารางเมตร ภายในบริเวณท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัย เพื่อผลิตอาหารสำหรับรองรับในส่วนของสายการบินไทย และคำสั่งจากลูกค้าทุกสายการบิน โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตอาหารจำนวนมากกว่า 87, 000 มื้อต่อวัน ส่วนสำนักงานอีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ภายในบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อสนับสนุนการกลับมาเปิดดำเนินการบินอีกครั้ง ตลอดจนรองรับความต้องการของเที่ยวบินภายในประเทศ รวมทั้งกิจการภาคพื้นดินอย่างการผลิตขนมอบ (Bakery) และการจัดเลี้ยงต่าง ๆ [43] โดยมีศักยภาพผลิตอาหารได้สูงสุด 49, 000 มื้อต่อวัน

ครัวการบินไทยมีผลงานที่สำคัญคือ เป็นผู้ดำเนินการผลิตและให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม แก่นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 เมื่อปี พ.ศ. 2541, เฟสปิกเกมส์ครั้งที่ 7 เมื่อปี พ.ศ. 2542 และกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อนครั้งที่ 24 เมื่อปี พ.ศ. 2550 ที่กรุงเทพมหานคร รวมถึงในงานไอฉิเอ็กซโป (Aichi Expo) เมื่อปี พ.ศ. 2548 ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย[43]

ภัตตาคารการบินไทย

ภัตตาคารการบินไทย (อังกฤษ: THAI Restaurants) เปิดให้บริการเป็นแห่งแรก ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อปี พ.ศ. 2515 และเริ่มให้บริการสาขาแรก ภายในท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2529

พัฟแอนด์พาย

ร้านขนมอบพัฟแอนด์พาย (อังกฤษ: Puff & Pie Bakery House) ก่อตั้งขึ้นราวปลายปี พ.ศ. 2538 โดยครัวการบินไทย และเริ่มเปิดทำการเป็นแห่งแรก เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 บริเวณหน้าอาคารรักคุณเท่าฟ้า ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม ตลอดจนบริหารบุคลากรและอุปกรณ์ที่มีอยู่ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เนื่องจากครัวการบินไทยต้องสูญเสียรายได้ จากการบริการอาหารบนเครื่องบิน (Uplift) เนื่องจาก บมจ.การบินไทย มีนโยบายงดให้บริการอาหาร บนเที่ยวบินที่ไม่ตรงเวลาอาหาร ดังนั้นจึงทดลองเปิดขายขนมชนิดต่าง ๆ ปรากฏว่าได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้ครัวการบินไทยมีรายได้เพิ่ม เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนด จึงเพิ่มความสำคัญอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายในการสร้างรายได้ จากกิจการพัฟแอนด์พาย ให้เป็นรายได้หลักอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากงานจัดเลี้ยง รวมถึงจากการผลิตและบริการอาหารบนเที่ยวบิน

ดังนั้น ครัวการบินไทยจึงดำเนินการขยายสาขาของร้านพัฟแอนด์พาย โดยแผนระยะแรก จะเปิดขายในพื้นที่ของ บมจ.การบินไทยก่อน เพื่อเป็นสวัสดิการของพนักงาน ทว่าต่อมาได้รับการเรียกร้องจากลูกค้าภายนอก ให้ขยายสาขาเพิ่มขึ้นในที่ต่าง ๆ เพื่อความสามารถในการให้บริการอย่างทั่วถึง ครัวการบินไทยจึงพิจารณาขยายสาขา ในสถานที่ราชการและรัฐวิสาหกิจอื่น ตลอดจนร้านพัฟแอนด์พายเฉพาะกิจ ภายในศูนย์การค้าและงานแสดงสินค้าต่าง ๆ ซึ่งได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมากและต่อเนื่อง ครัวการบินไทยจึงพิจารณาขยายตลาด โดยเปิดโครงการ Puff & Pie Whole Sales โดยให้บุคคลภายนอกที่สนใจกิจการ เข้าร่วมประกอบธุรกิจในชื่อ Puff & Pie Supreme Bakery Delight ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2550 เป็นต้นมา

สำหรับรูปแบบของร้านพัฟแอนด์พายส่วนมาก จะสร้างเป็นร้านค้าขนาดเล็ก (Kiosk) มีหลังคาผ้าใบสีขาวและเหลืองเป็นสัญลักษณ์ จำหน่ายอาหารไทย อาหารจีน และอาหารฝรั่งชนิดปรุงสำเร็จ ในชื่อผลิตภัณฑ์ซื้อกลับบ้าน (Take Home) รวมทั้งผลิตภัณฑ์เอื้องหลวง ที่ฝ่ายผลิตและบริการภาคพื้นเป็นผู้ผลิต วางจำหน่ายร่วมด้วย[44]

นิตยสารประจำเที่ยวบิน

นิตยสาร "สวัสดี"

นิตยสารประจำเที่ยวบิน (Inflight Magazine) ของการบินไทย มีชื่อว่าสวัสดี (อังกฤษ: Sawasdee) ออกเป็นฉบับปฐมฤกษ์เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2514 เนื้อหาส่วนมากนำเสนอบทความสารคดี ว่าด้วยความเป็นไทย โดยเฉพาะประเพณีและวัฒนธรรม ที่เขียนขึ้นใหม่โดยเฉพาะเป็นภาษาอังกฤษทั้งฉบับ มิได้นำบทความที่เคยตีพิมพ์ในนิตยสารอื่นมาลงซ้ำ นอกจากนั้น ยังมีภาพประกอบที่สวยงามโดดเด่นอีกด้วย

นิตยสารประจำเที่ยวบินของเดินอากาศไทย มีชื่อว่ากินรี (อังกฤษ: Kinnaree) ออกเป็นฉบับปฐมฤกษ์เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2527 เนื้อหาส่วนมากนำเสนอบทความสารคดี ว่าด้วยสารบันเทิงปกิณกะ โดยเฉพาะความเป็นไทย ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ซึ่งเขียนขึ้นใหม่โดยเฉพาะเป็นภาษาไทยทั้งฉบับ อนึ่ง ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2531 กินรีออกฉบับพิเศษ "41 ปี เดินอากาศไทย" ก่อนที่จะรวมกิจการเข้ากับการบินไทย ในวันที่ 1 เมษายนด้วย

หลังจากนั้น การบินไทยจึงเป็นเจ้าของนิตยสารทั้งสองฉบับ โดยสวัสดียังคงเป็นนิตยสารประจำเที่ยวบินระหว่างประเทศ และกินรีกลายเป็นนิตยสารประจำเที่ยวบินภายในประเทศ จนกระทั่งในเดือนเมษายน พ.ศ. 2552 มีการเปลี่ยนแปลงให้นิตยสารสวัสดี ตีพิมพ์เป็นสองภาษาควบคู่กัน โดยให้บริการทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในประเทศ ส่วนนิตยสารกินรี การบินไทยขายกิจการไปให้กับธนาคารกรุงเทพ เพื่อใช้เป็นชื่อนิตยสารสำหรับลูกค้าธนาคารที่เป็นสมาชิก

การบินไทยไขจักรวาล

การบินไทยเป็นผู้สนับสนุนให้มีรายการโทรทัศน์ ประเภทตอบปัญหาชิงรางวัลและทุนการศึกษาแก่เยาวชน ซึ่งมีชื่อว่าการบินไทยไขจักรวาล ที่จัดแข่งขันระหว่างนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาผู้แทนโรงเรียนต่าง ๆ กลุ่มละสามคน โดยแต่ละครั้งจะแข่งขันกันระหว่างสองโรงเรียน ดำเนินรายการโดย พลตรีถาวร ช่วยประสิทธิ์ (2518-2521) และหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ (2521-2548) (เวลาต่อมาจึงได้เพิ่มรัตน์มณี กังวานไกล เป็นพิธีกรดำเนินรายการร่วมไปด้วย ซึ่งบางครั้งทำหน้าที่ดำเนินรายการแทนเพียงคนเดียว) ออกอากาศทุกวันอังคาร สัปดาห์ที่ 1 และ 3 ของเดือน เวลา 17:00-17:30 น. (ต่อมาย้ายไปออกอากาศทุกวันศุกร์ สัปดาห์และเวลาออกอากาศเดียวกัน) ถ่ายทอดสดจากห้องส่งสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก เป็นระยะเวลาถึง 30 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2518-พ.ศ. 2548 ทั้งนี้ นักเรียนที่ชนะการตอบปัญหาประจำสัปดาห์ จะได้รับทุนการศึกษา ส่วนนักเรียนที่ชนะเลิศการตอบปัญหาประจำปี จะได้รับรางวัลเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับต่างประเทศ พร้อมกิจกรรมทัศนศึกษา ซึ่งการบินไทยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด

กรณีฟ้องร้องบริษัทต่างประเทศ

การบินไทยได้ฟ้องร้องบริษัทโคอิโตะ ในกรณีที่ไม่สามารถติดตั้งเก้าอี้โดยสารภายในเครื่องบินแอร์บัส เอ 330ในชั้นประหยัดทั้ง 5 ลำได้ส่งผลให้การบินไทยเสียโอกาสในการนำเครื่องบินบริการแก่ผู้โดยสาร ค่าเสียโอกาสในการบำรุงเครื่องบินและยังต้องหาบริการอื่นเพื่อดำเนินการในการติดตั้งเก้าอี้โดยสารใหม่ กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อการบินไทยว่าจ้างบริษัทโคอิโตะติดตั้งเก้าอี้ในชั้นประหยัดโดยในระยะแรกเป็นไปด้วยดีแต่เมื่อถึงต้นปีพ.ศ. 2553 บริษัทดังกล่าวไม่ได้การรับรองจากกรมการบินประเทศญี่ปุ่นเนื่องจากการที่ดังกล่าวบริษัทเปลี่ยนมาตรฐาน ส่งผลให้ 2 รายการ จาก 18 รายการ ไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัยจากประเทศญี่ปุ่น[45]เรื่องดังกล่าวนอกจากกระทบต้องเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 330ยังกระทบต่อเครื่องบินแบบโบอิง 777-300 HS-TKE[46]โดยเครื่องบินลำดังกล่าวขายที่นั่งได้น้อยลงเพราะต้องขายเฉพาะที่นั่งที่ติดตั้งจากบริษัทโคอิโตะเพียงส่วนหนึ่งก่อนที่บริษัทดังกล่าวจะถูกถอนใบอนุญาต[47]

กรณีดังกล่าวยังได้ส่งผลกระทบต่อความยากลำบากในการให้บริการบนเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 330เนื่องจากเครื่องบินมีการจ้างบริษัทที่ติดตั้งเก้าอี้แตกต่างกัน โดย 12ลำแรกHS-TEA ถึง HS-TEM รหัส A333 เป็นการออกแบบที่นั่งแบบหนึ่ง ซึ่งไม่มีจอส่วนตัวให้ผู้โดยสารใช้เครื่องยนต์ PW4000 8 ลำต่อมาตั้งแต่ HS-TEN ถึง HS-TEU A330 ก็เป็นอีกแบบหนึ่งซึ่งมีจอส่วนตัวให้ผู้โดยสาร ใช้เครื่องยนต์ Rolls Royce Trent 700 ส่วนในชุดสุดท้ายเป็นการออกแบบที่นั่งอีกแบบหนึ่งซึ่งทันสมัยมากที่สุดรหัส A33H ใช้เครื่องยนต์ Rolls Royce Trent 700 นอกจากนั้นแล้วใน 4 ลำดังกล่าวการบินไทยได้เริ่มใช้รหัสใหม่เป็น HS-TBA ซึ่งโดยปกติแล้วแอร์บัส เอ 330จะใช้รหัสเป็น HS-TE_ ทั้งนี้เพื่อกันความสับสนของนักบินและลูกเรือซึ่งใน 7 ลำดังกล่าวได้เลิกใช้การติดตั้งเก้าอี้ของบริษัทโคอิโตะในชั้นประหยัด

กรณีซื้อและเช่าเครื่องบินซึ่งผลดำเนินการขาดทุน

B777-FZB ทะเบียน N774SA

การบินไทยซื้อเครื่องบินแอร์บัส340 โดยกรรมการใหญ่ผู้จัดการใหญ่ในขณะนั้น นายกนก อภิรดี ซื้อมาโดยวางแผนบินเส้นทางกรุงเทพไปนิวยอร์ก กรุงเทพไปลอสแอนเจลิส ผลของการซื้อเครื่องบินแบบดังกล่าวคือการขาดทุนมหาศาลทั้งผลการดำเนินงานที่ขาดทุนทุกเที่ยวบินที่บินไปนิวยอร์ก [48]และต่อมาก็ขาดทุนทางบัญชี ค่าเสียโอกาส เนื่องจากการบินไทยเลือกที่จะนำเครื่องบินรุ่นดังกล่าวไปจอดไว้ที่ท่าอากาศยานดอนเมืองผลจากเรื่องนี้นำมาสู่การยึดอำนาจนาย กนก อภิรดี[49] การบินไทยนับจากการซื้อเครื่องบินเมื่อปีพ.ศ. 2548 จนถึง ปี พ.ศ. 2559 ไม่สามารถขายเครื่องบินได้เนื่องจากหากขายเครื่องบินรุ่นดังกล่าวจะต้องขายเครื่องบินแบบขาดทุนอย่างมาก จนไม่มีกรรมการผู้จัดการใหญ่คนใดกล้าขายเพราะต้องเผชิญเสียงวิจารณ์ในทางลบอย่างมากจากภายในบริษัทและภายนอกบริษัท อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกสอบสวน ในข้อหาทำให้บริษัท การบินไทย เสียหายนับว่าเป็นวิกฤตจนถึงปัจจุบันที่เครื่องบินไม่สามารถขายได้และมีค่าเสื่อมราคาลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้นแล้วในเดือน พฤษภาคม พ.ศ. 2553 ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันนท์ ได้สั่งโยกย้าย นายพฤทธิ์ บุปผาคำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เนื่องจากผลดำเนินการขาดทุนของการบินไทยคาร์โก้ โดยให้เหตุผลว่า นายพฤทธิ์ กระทำการเกินอำนาจหน้าที่ตนเอง โดยการเซ็นสัญญาเช่าเครื่องบินเพื่อขนส่งสินค้า 2 ลำกับ Southern Air ต้องเป็นหน้าที่ของบอร์ดที่จะต้องมีการพิจารณาและอนุมัติก่อน นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุมาจากการกระทำที่ผิดนโยบาย คือ เดิมการบินไทยมีเป้าหมายจะให้เช่าพื้นที่คาร์โก้ แต่กลับไปเช่าเครื่องบิน[50]ท้ายที่สุดแล้วการบินไทยเช่าพื้นที่คาร์โก้ของเครื่องบินทั้งสองลำ และผลดำเนินการขาดทุนกว่า 100 ล้านบาทจนต้องรีบคืนเครื่องบิน 1 ลำ ก่อนครบสัญญาเช่า

รางวัลที่ได้รับ

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. "Major Shareholders". ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. 10 มกราคม พ.ศ. 2550. สืบค้นเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2550. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  2. ประวัติ บมจ.การบินไทย จากเว็บไซต์การบินไทย
  3. บริษัทร่วมทุน นกแอร์ [ลิงก์เสีย]
  4. ผู้จัดการสายการบินแรกที่บินการบินไทย
  5. รางวัลยอดเยี่ยมจากองค์การอนามัยโลก
  6. ประวัติบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในเว็บไซต์การบินไทย
  7. http://airlineroute.net/2015/02/18/tg-346-mar15/
  8. http://thaiairways.com/offers/royal-orchid-plus-promotions/th/Celebration-Miles.htm
  9. http://www.thailandexhibition.com/TradeShow-2015/6273
  10. http://www.settrade.com/C04_05_stock_majorshareholder_p1.jsp?txtSymbol=THAI&selectPage=5&ssoPageId=9
  11. "World Airline Directory." Flight International. 13 April 1961. Page 509.
  12. "World Airline Directory." Flight International. 26 March 1970. Page 503.
  13. "World Airline Directory." Flight International. 26 July 1980. Page 359.
  14. 14.0 14.1 "Thai Airways International Public Company Limited : Annual Report 2011" (PDF). Thai Airways International. สืบค้นเมื่อ 17 May 2015.
  15. 15.0 15.1 15.2 "Thai Airways International Public Company Limited : Annual Report 2014". Thai Airways International. สืบค้นเมื่อ 17 May 2015.
  16. 16.0 16.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ bkpost-fy2014
  17. http://news.thaiza.com/การบินไทยผงาดอันดับ7แอร์ฯฮอตสุดของโลก/225861/
  18. Skytrax
  19. http://www.kmt.co.th/catalog.php?idp=117
  20. http://www.hflight.net/forum/v-print/m-1119538900/
  21. http://www.manager.co.th/home/viewnews.aspx?NewsID=9550000063064
  22. http://www.logisticsdigest.com/news/air-transport/item/8165-52ปีการบินไทย-\'ดีดี\'15-คน.html
  23. 23.0 23.1 23.2 23.3 สัญลักษณ์การบินไทย ในเว็บไซต์การบินไทย
  24. https://www.planespotters.net/airline/Thai-Airways-International
  25. http://www.thairath.co.th/content/eco/178999
  26. http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/204101.html
  27. http://www.thaicabincrew.com/forums/viewtopic.php?t=40347
  28. http://www.prthaiairways.com/thaiair_4p/front/airbus_a380.php?lg=th&scat=0
  29. http://aviation-safety.net/database/record.php?id=19670630-1
  30. http://www.planecrashinfo.com/1967/1967-92.htm
  31. http://aviation-safety.net/database/record.php?id=19730510-1
  32. รายละเอียดเครื่องบินตก 2535
  33. รายละเอียดเครื่องบินตก 2541
  34. รายละเอียดเครื่องบินระเบิด 2544
  35. http://avherald.com/h?article=467ab3da&opt=0
  36. Accident: Thai A333 at Bangkok on Sep 8th 2013, runway excursion on landing
  37. Accident: Thai A340 at Bangkok on Feb 26th 2015, turbulence in the airspace
  38. Accident: Thai B777 at Singapore on Apr 12th 2016, turbulence in the airspace
  39. http://avherald.com/h?article=49e5774b
  40. http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/business/20110928/411285/กรุงไทยยอมทีจีขายทิ้งหุ้นนกแอร์165ล้าน.html [ลิงก์เสีย]
  41. ""จุฬางกูร" ผงาดหุ้นใหญ่ "นกแอร์" รวม 28.93% "การบินไทย" ลดเหลือ 21.57%". ผู้จัดการออนไลน์. 30 พฤษภาคม 2560. สืบค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2560. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  42. http://thai.listedcompany.com/misc/ar/20120404-THAI-AR2011-TH.pdf
  43. 43.0 43.1 43.2 ข้อมูลเกี่ยวกับฝ่ายครัวการบินไทย จากเว็บไซต์ฝ่ายครัวการบินไทย
  44. ประวัติความเป็นมาของร้านพัฟแอนด์พาย จากเว็บไซต์พัฟแอนด์พาย
  45. http://www.komchadluek.net/detail/20100111/44131/การบินไทยเล็งฟ้องโคดิโตะผลิตเก้าอี้เร่งหารายใหม่แทน.html
  46. http://www.hflight.net/forums/topic/7621-thai-airways-tg103-cnx-bkk-ไฟล์ทนี้แอร์น่ารักอ่ะ/page__st__40
  47. http://www.thaiairways.com/thai-services/in-the-air/downloads/773.pdf
  48. http://www.forbesthailand.com/article_detail.php?article_id=300
  49. http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9480000107850
  50. http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1279280049&catid=05

แหล่งข้อมูลอื่น