ข้ามไปเนื้อหา

แอร์ไชนา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แอร์ไชนา
中国国际航空公司
IATA ICAO รหัสเรียก
CA CCA AIR CHINA
ก่อตั้ง1 กรกฎาคม 1988; 37 ปีก่อน (1988-07-01)
ท่าหลัก
ท่ารอง
เมืองสำคัญ
สะสมไมล์ฟีนิกซ์ไมล์ส
พันธมิตรการบินสตาร์อัลไลแอนซ์
บริษัทลูก
ขนาดฝูงบิน505
จุดหมาย210[2]
บริษัทแม่
การซื้อขาย
สำนักงานใหญ่เขตอุตสาหกรรมสนามบินปักกิ่งเทียนจู่ เขตชุ่นอี้ ปักกิ่ง ประเทศจีน
บุคลากรหลัก
รายได้เพิ่มขึ้น CN¥166.70 พันล้าน (2024)[3]
รายได้จากการดำเนินงาน
เพิ่มขึ้น CN¥−1.60 พันล้าน (2024)[3]
รายได้สุทธิ
เพิ่มขึ้น CN¥2.22 พันล้าน (2024)[3]
สินทรัพย์เพิ่มขึ้น CN¥345.75 พันล้าน (2024)[3]
ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น CN¥45.13 พันล้าน (2024)[3]
พนักงาน
65,000 (2023)
เว็บไซต์airchina.com
แอร์ไชนา จำกัด
อักษรจีนตัวย่อ中国国际航空股份公司
อักษรจีนตัวเต็ม中國國際航空股份公司
ความหมายตามตัวอักษรบริษัท สายการบินระหว่างประเทศจีน จำกัดโดยหุ้น
ชื่อภาษาจีนอื่น ๆ
อักษรจีนตัวย่อ中国国际航空公司
อักษรจีนตัวเต็ม中國國際航空公司
ความหมายตามตัวอักษรบริษัทสายการบินระหว่างประเทศจีน
แอร์ไชนา
อักษรจีนตัวย่อ国航
อักษรจีนตัวเต็ม國航
ความหมายตามตัวอักษรสายการบินแห่งชาติ

แอร์ไชนา (จีน: 中国国际航空公司, Zhōngguó guójì hángkōng gōngsī) เป็นสายการบินหลักและเป็นสายการบินประจำชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เขตชุ่นอี้ ปักกิ่ง สายการบินให้บริการเที่ยวบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ทั่วประเทศจีนและทั่วโลก

สายการบินนี้ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1988 หลังซีเอเอซี สายการบินแห่งชาติเดิมของจีนถูกแบ่งออกเป็นหกสายการบิน และหนึ่งในนั้นคือแอร์ไชนา ซึ่งต่อมาได้รวมกิจการกับสายการบินอื่น ๆ อีกหลายแห่งที่แยกตัวออกมาด้วยกัน ปัจจุบัน แอร์ไชนาเป็นหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในจีน และมีไชนาแนชนัลเอวิเอชันโฮลดิง ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจถือหุ้นอยู่ 53.46%

ท่าอากาศยานหลักของแอร์ไชนานั้นอยู่ที่ปักกิ่งและเฉิงตู ใน ค.ศ. 2017 สายการบินนี้ได้ให้บริการขนส่งผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศจำนวน 102 ล้านคน โดยมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 81%[4] สายการบินนี้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสตาร์อัลไลแอนซ์ใน ค.ศ. 2007

ประวัติศาสตร์

[แก้]

ช่วงต้น

[แก้]
โบอิง 747เอสพี ของแอร์ไชนาที่ท่าอากาศยานซือริชใน ค.ศ. 1992

แอร์ไชนาก่อตั้งและเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1988 ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดสินใจของรัฐบาลจีนในช่วงปลาย ค.ศ. 1987 ที่จะแยกแผนกปฏิบัติการของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน (ซีเอเอซี) ออกเป็นหกสายการบิน ได้แก่ แอร์ไชนา, ไชนาอีสเทิร์นแอร์ไลน์ ไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ ไชนานอร์เทิร์นแอร์ไลน์ ไชนาเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ และไชนานอร์ทเวสต์แอร์ไลน์[5][6] โดยแอร์ไชนาได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบหลักในเที่ยวบินระหว่างทวีปและเข้าดูแลอากาศยาน (โบอิง 707, 747 และ 767) และเส้นทางบินระยะไกลของซีเอเอซี

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2001 สายการบินทั้งหกแห่งที่แยกตัวออกมาจากซีเอเอซีได้ตกลงร่วมกันในแผนควบรวมกิจการ[7] โดยแอร์ไชนาได้เข้าซื้อกิจการของไชนาเซาท์เวสต์แอร์ไลน์ ก่อนการซื้อกิจการนี้ แอร์ไชนาเป็นสายการบินภายในประเทศขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของจีน การควบรวมกิจการครั้งนี้ทำให้เกิดกลุ่มบริษัทที่มีสินทรัพย์รวมกัน 5.6 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 8.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีฝูงบินรวม 118 ลำ[8] ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2002 แอร์ไชนาได้รวมกิจการกับไชนาเนชันแนลเอวิเอชันโฮลดิงและไชนาเซาท์เวสต์แอร์ไลน์[9]

วันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2004 แอร์ไชนาได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและลอนดอนอย่างประสบความสำเร็จ ใน ค.ศ. 2006 แอร์ไชนาได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อเข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร สตาร์อัลไลแอนซ์ และกลายเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2007 ร่วมกับเซี่ยงไฮ้แอร์ไลน์

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 แอร์ไชนาได้เข้าซื้อหุ้นของแอร์มาเก๊าซึ่งเป็นบริษัทสาขาที่ประสบปัญหาเป็นจำนวน 19.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 51% เป็น 81%[10] หนึ่งเดือนต่อมา แอร์ไชนาได้ใช้เงิน 6.3 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (813 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในคาเธ่ย์แปซิฟิคจาก 17.5% เป็น 30% ซึ่งเป็นการขยายการดำเนินงานในฮ่องกง[11]

พัฒนาการตั้งแต่ ค.ศ. 2010

[แก้]

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2010 แอร์ไชนาดำเนินการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในเชินเจิ้นแอร์ไลน์จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้แอร์ไชนามีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นในปักกิ่ง เฉิงตู และเซี่ยงไฮ้ รวมถึงมีเครือข่ายภายในประเทศที่สมดุลมากขึ้น[12]

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 2010 แอร์ไชนาได้รับรางวัลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสูงสุดของสเปน "Plaque for Tourist Merit" นับเป็นสายการบินต่างชาติรายแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งมอบให้แก่องค์กรและบุคคลที่มีส่วนช่วยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของสเปน[13]

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 2010 แอร์ไชนากลายเป็นสายการบินจีนแห่งแรกที่ให้บริการตั๋วโดยสารแบบรวมเที่ยวบินภายในประเทศและบริการรถโดยสารรับส่งไปยังเมืองใกล้เคียง โดยเที่ยวบินรวมรถโดยสารชุดแรกเชื่อมต่อเทียนจินกับเที่ยวบินภายในประเทศที่เดินทางผ่านปักกิ่ง[14]

แอร์ไชนาเริ่มให้บริการอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ฟรีบนเครื่องบินเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011 ทำให้เป็นสายการบินจีนรายแรกที่ให้บริการนี้[15] อย่างไรก็ดี ไม่อนุญาตให้ใช้บริการดังกล่าวบนสมาร์ตโฟน แต่สามารถใช้ได้เฉพาะบนแท็บเล็ตและแล็ปท็อปเท่านั้น[16]

ใน ค.ศ. 2012 หลังจากแรงกดดันจาก PETA (People for the Ethical Treatment of Animals) แอร์ไชนาประกาศว่าจะไม่ขนส่งลิงไปยังห้องทดลองอีกต่อไป ซึ่ง PETA ได้แสดงความยินดีกับการประกาศของสายการบินนี้[17]

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2013 ในวาระครบรอบ 25 ปีของบริษัท แอร์ไชนาได้ทดสอบแลนไร้สายบนเที่ยวบินได้สำเร็จ นับเป็นเที่ยวบินแรกในจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมให้บริการ[18]

ในช่วงต้น ค.ศ. 2015 มีการประกาศว่าสายการบินได้เลือกเครื่องบินโบอิง 737 เน็กซต์เจเนอเรชัน และ 737 แมกซ์ จำนวน 60 ลำสำหรับโครงการปรับปรุงฝูงบิน ซึ่งข้อตกลงนี้มีมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ตามราคาตลาดปัจจุบัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปในขั้นสุดท้าย[19]

กิจการองค์กร

[แก้]
สำนักงานใหญ่แอร์ไชนา
เครื่องแบบปัจจุบันของแอร์ไชนา (2003–ปัจจุบัน) ออกแบบโดยโอลิเวียร์ ลาปิดัส

แอร์ไชนา จำกัด ได้รับการจดทะเบียนใน ค.ศ. 2003 และหุ้นของบริษัทเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและลอนดอนเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2004 เดิมทีบริษัทนี้มีชื่อว่าแอร์ไชนาอินเตอร์เนชันแนล ซึ่งก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 2002 โดยรวมกิจการกับไชนาเซาท์เวสต์แอร์ไลน์และบริการขนส่งทางอากาศของบรรษัทการบินแห่งชาติจีน จึงทำให้เกิดเป็นบริษัทใหม่ขึ้น[20]

อาคารสำนักงานใหญ่แอร์ไชนา (国航总部大楼; 國航總部大樓; Guó Háng Zǒngbù Dàlóu) ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมท่าอากาศยานเทียนจู๋ (天竺空港工业区; 天竺空港工業區; Tiānzhú Kōng Gǎng Gōngyèqū) โซน A ในเขตชุ่นอี้ ปักกิ่ง[20][21][22] ส่วนสำนักงานจดทะเบียนของบริษัทตั้งอยู่ที่ชั้น 9 ของอาคารบลูสกายแมนชัน (蓝天大厦; 藍天大廈; Lántiān Dàshà) ซึ่งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมท่าอากาศยานเทียนจู๋ โซน A เช่นกัน[23]

แอร์ไชนามีฐานการบินหลักที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง โดยให้บริการด้วยเครื่องบินพิสัยไกลในเส้นทางบินไปยังทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ แอฟริกา และออสเตรเลีย ฝูงบินของสายการบินประกอบด้วยเครื่องบินหลากหลายรุ่นจากทั้งโบอิงและแอร์บัส ได้แก่โบอิง 737, 747, 777 และ 787 รวมถึงแอร์บัส เอ319, เอ320, เอ321, เอ330 และเอ350 แอร์ไชนายังมีฐานการบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูชวงหลิว ที่ซึ่งให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเป็นหลัก รวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติช่างไห่ผู่ตง ซึ่งให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศหลายแห่ง[ต้องการอ้างอิง]

โครงสร้างกรรมสิทธิ์

[แก้]
[24] ผู้ถือหุ้น สัดส่วนการถือหุ้น (%)
1 บรรษัทการบินแห่งประเทศจีน 40.53
2 คาเธ่ย์แปซิฟิค 16.26
3 บริษัทหักบัญชีหลักทรัพย์ฮ่องกง 10.43
4 บรรษัทการบินแห่งประเทศจีน 9.61
5 บริษัทหลักทรัพย์ไชนาไฟแนนซ์คอร์ปอเรชัน 1.92
6 กลุ่มบริษัทเชื้อเพลิงการบินแห่งประเทศจีน 1.47
7 บริษัทหักบัญชีหลักทรัพย์ฮ่องกง 0.97
8 กองทุนปรับโครงสร้างรัฐวิสาหกิจจีน 0.41
9 กองทุนบำนาญขั้นพื้นฐานจีน 0.36
10 กองทุนพันธบัตรอันฮฺวาของธนาคารไชนาเมอร์แชนต์ส 0.31

อัตลักษณ์องค์กร

[แก้]

ตราสัญลักษณ์ของแอร์ไชนาประกอบด้วยลวดลาย เฟิ่งหฺวาง ที่ออกแบบโดยหาน เหม่ย์หลิน ศิลปินชื่อดัง[25] ซึ่งลวดลายฟีนิกซ์นี้ยังเป็นการพลิกแพลงทางศิลปะของคำว่า "VIP" ส่วนชื่อสายการบินในภาษาจีนนั้นเขียนด้วยลายพู่กันจีนของอดีตผู้นำประเทศ เติ้ง เสี่ยวผิง และยังมีชื่อภาษาอังกฤษว่า "AIR CHINA" อยู่ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันแอร์ไชนาเป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรสายการบินสตาร์อัลไลแอนซ์

ลวดลายอากาศยานของแอร์ไชนา
โบอิง 747-200 ในลวดลายดั้งเดิม หลังจากแยกตัวอกกจากซีเอเอซีแอร์ไลน์
โบอิง 767-200อีอาร์ในลวดลายรุ่นที่สอง ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มใช้สัญลักษณ์รูปฟีนิกซ์
โบอิง 777-300อีอาร์ในลวดลายปัจจุบันที่ใช้กับเครื่องบินของโบอิง โดยโลโกฟีนิกซ์ถูกขยายใหญ่ขึ้นและปรับให้ตรง
แอร์บัส เอ350-900 ในลวดลายปัจจุบันที่ใช้กับเครื่องบินแอร์บัส โดยชื่อภาษาจีนมีขนาดเล็กกว่าที่ใช้บนเครื่องบินโบอิง
แอร์บัส เอ330-300 ในลวดลายปัจจุบันสำหรับเส้นทางบินไปไต้หวัน โดยธงชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนถูกนำออกเนื่องจากประเด็นไต้หวัน

จุดหมายปลายทาง

[แก้]
ประเทศที่แอร์ไชนาให้บริการ
  จีนแผ่นดินใหญ่
  ปลายทาง
  ตามฤดูกาล
  ในอนาคต
  ยกเลิกแล้ว

เครือข่ายเส้นทางบินของแอร์ไชนาขยายจากศูนย์กลางที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่งและท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูเทียนฝู่ ครอบคลุมทั่วทั้งเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันตก และอเมริกาเหนือ[26] นอกจากนี้ยังมีเส้นทางไปยังปลายทางสำคัญหลายแห่งในเอเชีย ออสเตรเลีย และยุโรปจากเซี่ยงไฮ้ รวมถึงเที่ยวบินระหว่างประเทศบางส่วนที่ออกจากเฉิงตู ฉงชิ่ง ต้าเหลียน หางโจว คุนหมิงและเชินเจิ้น ทำให้เป็นหนึ่งในไม่กี่สายการบินทั่วโลกที่บินไปยังทวีปที่มีผู้คนอาศัยอยู่ทั้งหกทวีป

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2006 แอร์ไชนาเริ่มให้บริการเที่ยวบินแรกไปยังอเมริกาใต้ที่เซาเปาลู-กวารูลโญส (โดยแวะพักที่มาดริด-บาราฆัส) ซึ่งเป็นเที่ยวบินตรงที่ยาวที่สุดของสายการบินนี้[27] เริ่มต้นด้วยโบอิง 767-300ER แต่เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น จึงมีการปรับเปลี่ยนเครื่องบินให้ทันสมัยขึ้นเป็นแอร์บัส A330-200 และต่อมาเป็นโบอิง 787-9

เที่ยวบินปกติระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวันเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 ด้วยสถานะทางการเมืองของไต้หวัน เครื่องบินแอร์ไชนาทุกลำที่ให้บริการในเส้นทางไปและกลับจากไต้หวันจึงต้องทำการปกปิดธงชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนบนตัวเครื่องบิน[ต้องการอ้างอิง]

แอร์ไชนานำแอร์บัส A330-300 ลำใหม่มาใช้ในเที่ยวบินระยะไกล โดยเริ่มให้บริการไปยังดึสเซิลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ในช่วงฤดูร้อน ค.ศ. 2011 เครื่องบินเหล่านี้มีมาตรฐานห้องโดยสารสองชั้นแบบเดียวกับแอร์บัส A330-200 ยกเว้นในชั้นประหยัดที่ไม่มีระบบความบันเทิงติดตั้งไว้ที่เบาะนั่ง (ยกเว้นสองแถวแรกที่มีพื้นที่วางขาเพิ่มขึ้น) ดึสเซิลดอร์ฟจึงกลายเป็นปลายทางที่สามในเยอรมนีของเครือข่ายแอร์ไชนา นอกจากนี้ สายการบินยังได้เปิดตัวเส้นทางใหม่ ปักกิ่ง-มิลาน-มัลเพนซา ในวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 2011 ซึ่งเป็นเส้นทางเสริมจากบริการเดิมที่มีอยู่ระหว่างเซี่ยงไฮ้และมิลาน

การส่งมอบโบอิง 777-300ER ใหม่จำนวน 19 ลำของสายการบินได้เริ่มขึ้นในช่วงกลาง ค.ศ. 2011 โดยเครื่องบินเหล่านี้จะกลายเป็น "แกนหลักของปฏิบัติการบินระยะไกลในอนาคต" โบอิง 777-300ER ใหม่เข้ามาแทนที่โบอิง 747-400 ในเส้นทางไปสหรัฐ เช่น ลอสแอนเจลิส นิวยอร์ก และซานฟรานซิสโก แต่คาดว่าจะเริ่มให้บริการครั้งแรกในเที่ยวบินไปยังปารีสตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ. 2012 และจะเข้ามาแทนที่เที่ยวบินส่วนใหญ่ที่ให้บริการด้วย 747 เมื่อมีจำนวนเครื่องบินในฝูงบินเพียงพอ[28] แอร์ไชนายังขยายการดำเนินงานในอินเดียด้วยเส้นทางปักกิ่ง-มุมไบในเดือนกันยายน ค.ศ. 2011 ขณะที่เส้นทางนิวเดลีที่มีอยู่เดิมได้ปรับเปลี่ยนเป็น A330[29] สายการบินยังเปิดบริการเที่ยวบินไปยังมุมไบจากเฉิงตูในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2012[30] และเริ่มใช้โบอิง 777-300ER ในหนึ่งในสองเที่ยวบินประจำวันของเส้นทางปักกิ่ง-ลอสแอนเจลิสเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012[31] ตั้งแต่ปลาย ค.ศ. 2012 ถึงต้น ค.ศ. 2013 สายการบินได้เปลี่ยนโบอิง 747-400 ที่ให้บริการในเส้นทางนิวยอร์กและซานฟรานซิสโกเป็นโบอิง 777-300ER[32] ด้วยการเพิ่มโบอิง 777-300ER ในเส้นทางสหรัฐ แอร์ไชนาได้เพิ่มความถี่ในเส้นทางปักกิ่ง-นิวยอร์กจาก 7 เป็น 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยเพิ่มเที่ยวบินใหม่สองเที่ยว (CA989/990)[33] เมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 2014 สายการบินได้เปิดให้บริการเส้นทางไปฮาวายด้วยเที่ยวบินจากปักกิ่งไปโฮโนลูลู ซึ่งเป็นเที่ยวบินตรงเที่ยวแรกระหว่างสองเมืองนี้[34] และยังได้เพิ่มความถี่บริการในเส้นทางปักกิ่ง-ฮิวสตันอินเตอร์คอนติเนนทัลจากสี่ครั้งต่อสัปดาห์เป็นทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ค.ศ. 2014[35] ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ.2014 แอร์ไชนาได้เปิดตัวบริการเที่ยวบินตรงใหม่จากปักกิ่งไปวอชิงตัน-ดัลเลส โดยใช้โบอิง 777-300ER[36] และตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2015 แอร์ไชนายังเปิดตัวเที่ยวบินสามครั้งต่อสัปดาห์ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติมอนทรีออล พีเอร์ เอลเลียต ทรูโดโดยเป็นเที่ยวบินร่วมกับแอร์แคนาดา[37] เที่ยวบินมอนทรีออลนี้ขยายต่อไปยังอาบานาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม ค.ศ. 2015

แอร์ไชนาเริ่มให้บริการเที่ยวบินตรงไปยังโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2015[38]

ข้อตกลงการบินร่วม

[แก้]

แอร์ไชนามีข้อตกลงการบินร่วมกับสายการบินดังต่อไปนี้:[39]

ข้อตกลงการขนส่งต่อเนื่อง

[แก้]

แอร์ไชนามีข้อตกลงการขนส่งต่อเนื่องกับสายการบินดังต่อไปนี้:

ฝูงบิน

[แก้]

ฝูงบินปัจจุบัน

[แก้]
แอร์บัส เอ320-200 ของแอร์ไชนา
แอร์บัส เอ330-200 ของแอร์ไชนา
แอร์บัส เอ350-900 ของแอร์ไชนา
โบอิง 737-800 ของแอร์ไชนา
โบอิง 747-400 ของแอร์ไชนา
โบอิง 777-300อีอาร์ ของแอร์ไชนา
โบอิง 787-9 ของแอร์ไชนา
โคแม็ก ซี909 ของแอร์ไชนา

ณ เดือนกันยายน ค.ศ. 2025 แอร์ไชนามีเครื่องบินประจำการในฝูงบินดังต่อไปนี้ :[56][57][58]

ฝูงบินของแอร์ไชนา
เครื่องบิน ประจำการ คำสั่งซื้อ ผู้โดยสาร หมายเหตุ
F J Y+ Y รวม
แอร์บัส เอ319-100 24 8 120 128
แอร์บัส เอ319นีโอ 2 8 8 120 128
แอร์บัส เอ320-200 38 8 150 158
แอร์บัส เอ320นีโอ 53 8 150 158
แอร์บัส เอ321-200 61 16 161 177
12 173 185
แอร์บัส เอ321นีโอ 31 49 12 182 194
186 198
แอร์บัส เอ330-200 15 30 207 237
18 247 265
12 271 283
แอร์บัส เอ330-300 28 30 16 255 301
36 20 311
แอร์บัส เอ350-900 30 32 24 256 312[59] ติดตั้งที่นั่งชั้นธุรกิจสองแบบ[60]
โบอิง 737-700 16 8 120 128
โบอิง 737-800 87 8 159 167
168 176
12 147 159
โบอิง 737 แมกซ์ 8 30 1 8 168 176
โบอิง 747-400 2 10 42 292 344 To be retired.
โบอิง 747-8ไอ 7 12 54 66 233 365[61] B-2479 และ B-2481 ใช้สำหรับการขนส่งแบบวีไอพี
โบอิง 777-300อีอาร์ 28 8 42 261 311
36 356 392[62]
โบอิง 787-9 14 30 34 229 293[63]
โคแม็ก ซี909 35 90 90 [64]
โคแม็ก ซี919-100อีอาร์ 5 100 8 150 158 ส่งมอบจนถึงปี 2031[65][66][67]
ฝูงบินแอร์ไชนาบิซิเนสเจ็ต
โบอิง บีบีเจ1 1 วีไอพี ดำเนินการโดยปักกิ่งแอร์ไลน์
โบอิง บีบีเจ2 3 วีไอพี
ดาโซ ฟอลคอน 7เอ็กซ์ 1 วีไอพี
รวม 511 159

แอร์ไชนามีอายุฝูงบินเฉลี่ย 9.9 ปี

ฝูงบินในอดีต

[แก้]
แอร์บัส เอ340-300 ของแอร์ไชนา
โบอิง 757-200 ของแอร์ไชนา
โบอิง 767-300อีอาร์ของแอร์ไชนา
ซีอาน วาย-7 ของแอร์ไชนา

แอร์ไชนาเคยให้บริการเครื่องบินดังต่อไปนี้:

ฝูงบินปลดประจำการแอร์ไชนา
เครื่องบิน จำนวน เริ่มประจำการ ปลดประจำการ หมายเหตุ
แอร์บัส เอ340-300 6 1997 2014
บริติชแอโรสเปซ 146-100 4 1988 2008
โบอิง 707-320 6 1988 1993
โบอิง 737-200 4 1988 1995 จำหน่ายให้แอร์เกรตวอลล์
โบอิง 737-300 44 1988 2014
โบอิง 737-600 6 2003 2009
โบอิง 747-200เอ็ม 3 1988 2000 แปลงเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าและโอนไปยังแอร์ไชนาคาร์โก
โบอิง 747-400เอ็ม 4 1989 2013
3 แปลงเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าและโอนไปยังแอร์ไชนาคาร์โก
โบอิง 747เอสพี 4 1988 2000
โบอิง 757-200 9 2003 2013[68] แปลงเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าและโอนไปยังเอสเอฟแอร์ไลน์
4 แปลงเป็นเครื่องบินขนส่งสินค้าและโอนไปยังแอร์ไชนาคาร์โก
โบอิง 767-200อีอาร์ 5 1988 2009
1 2002 ตกในเที่ยวบินที่ 129
โบอิง 767-300 4 1993 2012
โบอิง 767-300อีอาร์ 5 2003 2012
โบอิง 777-200 10 1998 2018
กัลฟ์สตรีม 4 1 ไม่ทราบ ไม่ทราบ ใช้สำหรับเที่ยวบิน VIP
ฮอว์เกอร์ ซิดเดลีย์ ไทรเดนต์ 3 1988 1991
เลียร์เจ็ต 45 1 2004 2007 ใช้สำหรับเที่ยวบินวีไอพี
ล็อกฮีด L-100 เฮอร์คิวลีส ไม่ทราบ ไม่ทราบ ไม่ทราบ
ซีอาน วาย-7 3 1988 1996

แอร์ไชนาคาร์โก

[แก้]

แอร์ไชนาคาร์โก เป็นบริษัทในเครือของแอร์ไชนา ที่เน้นการขนส่งสินค้าทางอากาศและไม่มีบริการขนส่งผู้โดยสาร โดยให้บริการเส้นทางการบินครอบคลุมทั่วทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ด้วยฝูงบินที่ประกอบด้วยแอร์บัส เอ330-200/พี2เอฟ, โบอิง 747-400เอฟ และโบอิง 777เอฟ

บริการ

[แก้]

ระดับชั้นโดยสาร

[แก้]
ฟอร์บิดเดนพาวิลเลียน (Forbidden Pavilion)
ฟอร์บิดเดนพาวิลเลียนบนโบอิง 747-400

ฟอร์บิดเดนพาวิลเลียน เป็นชื่อชั้นหนึ่งของแอร์ไชนา ให้บริการในโบอิง 747-400, โบอิง 747-8 และโบอิง 777-300อีอาร์บางลำ[69][70]

สำหรับฟอร์บิดเดนพาวิลเลียนบนบินโบอิง 777-300อีอาร์และ 747-8 ถือเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงรุ่นล่าสุดของแอร์ไชนา ประกอบด้วยชุดที่นั่ง Zodiac Aerospace Venus ที่มีระยะห่างระหว่างแถว 82–83 นิ้ว และความกว้างที่นั่ง 23 นิ้ว ที่นั่งยังมีหน้าจอ AVOD ขนาด 23 นิ้ว พร้อมปลั๊ก Universal AC และช่องเสียบ USB-A ให้ใช้งาน[71][72]

ส่วนฟอร์บิดเดนพาวิลเลียนบนโบอิง 747-400 มีระยะห่างระหว่างที่นั่ง 80 นิ้ว (203 เซนติเมตร) ที่นั่งสามารถหมุนได้ มีปลั๊กไฟ และปรับเอนเป็นเตียงนอนราบได้สมบูรณ์แบบ ชั้นหนึ่งบน 747-400 เป็นหนึ่งในสองชั้นโดยสารที่มีหน้าจอ AVOD และชื่อฟอร์บิดเดนพาวิลเลียนมาจากตำแหน่งที่ตั้งของที่นั่งในห้องโดยสาร

แคปิตอลพาวิลเลียน (Capital Pavilion)

แคปิตอลพาวิลเลียน เป็นชื่อชั้นธุรกิจของแอร์ไชนา มีให้บริการในเครื่องบินของแอร์ไชนาทุกรุ่น ยกเว้นโคแม็ก ซี909-700[69]

สำหรับฝูงบินลำตัวแคบของแอร์ไชนา ที่นั่งชั้นธุรกิจจะเป็นเก้าอี้แบบปรับเอนได้จัดเรียงแบบ 2-2[69]

แคปิตอลพาวิลเลียนบนโบอิง 777-300อีอาร์ ใช้ที่นั่งแบบเดียวกับโบอิง 747-8 และ 787

บนโบอิง 777-300อีอาร์จะใช้ที่นั่งแบบเดียวกับโบอิง 747-8 และ 787 โดยจะตั้งอยู่ส่วนหน้าของห้องโดยสาร จัดเรียงแบบ 2-2-2 ที่นั่งเป็นแบบ Collins Parallel Diamond สามารถปรับเป็นเตียงนอนราบได้ยาว 6 ฟุต 4 นิ้ว ที่นั่งมีความกว้าง 21 นิ้ว และมีหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 15-16 นิ้ว พร้อมปลั๊ก Universal AC และช่องเสียบ USB-A[72][73] สำหรับโบอิง 747 ที่นั่งชั้นนี้จะอยู่บริเวณส่วนหัวของเครื่องบินและชั้นบน พร้อมจิตรกรรมฝาผนังพระราชวังฤดูร้อนซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีในจีน สำหรับโบอิง 747-400 ที่นั่งจะเอนได้บางส่วน มีหน้าจอระบบสัมผัสและรีโมตควบคุมที่พนักพิงหลังเก้าอี้ โดยจัดเรียงแบบ 2-2-2 ที่ด้านหลัง และ 2-2 ที่ด้านหน้าและชั้นบน ที่นั่งเหล่านี้มีหน้าจอ AVOD ติดตั้งอยู่ด้านหลัง

แคปิตอลพาวิลเลียนบนแอร์บัส เอ330 จะอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ ส่วนหน้าของห้องโดยสาร สำหรับเอ330 รุ่นใหม่ ที่นั่งจะเป็นแบบ Zodiac Aura Lite ซึ่งเป็นเก้าอี้รูปทรงสี่เหลี่ยม จัดเรียงแบบ 2-2-2 โดยมีไฟอ่านหนังสือ 2 ดวงอยู่ระหว่างที่นั่งและมีหน้าจอติดตั้งอยู่ด้านหลัง ที่นั่งเหล่านี้สามารถปรับเอนได้เต็มที่และแปลงเป็นเตียงนอนราบได้ยาว 6 ฟุต 4 นิ้ว ระยะห่างระหว่างแถว 79 นิ้ว และความกว้างที่นั่ง 21 นิ้ว พร้อมหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 15 นิ้ว รวมถึงปลั๊ก Universal AC และช่องเสียบ USB-A[74] สำหรับเอ330 รุ่นเก่า หน้าจอจะมีขนาดเล็กกว่าและไม่มีพื้นที่เก็บของระหว่างหน้าจอ และปรับเอนได้ 165 องศา[74]

แคปิตอลพาวิลเลียนบนแอร์บัส เอ350 มีผลิตภัณฑ์ที่ล่าสุดของแอร์ไชนา สำหรับเอ 350 รุ่นเก่า ที่นั่งจะเป็นแบบ Collins Aerospace Super-Diamond ที่จัดเรียงแบบ reverse herringbone (ก้างปลาหันไปด้านหลัง) ใน 8 แถว จัดเรียงแบบ 1-2-1 ที่ส่วนหน้าของห้องโดยสาร ที่นั่งสามารถปรับเป็นเตียงนอนราบได้ และมีเข็มขัดนิรภัยแบบคาดไหล่ ไม่มีช่องเก็บของเหนือศีรษะตรงกลาง ทำให้ห้องโดยสารดูกว้างขวางขึ้น ทุกที่นั่งสามารถเข้าออกทางเดินได้สะดวก และมีหน้าจอ HD IFE ขนาด 18 นิ้ว[75] สำหรับเอ 350 รุ่นใหม่กว่า ห้องโดยสารจะเป็นแบบ Recaro CL6720 จัดเรียงแบบ 1-2-1 ที่นั่งสามารถปรับเป็นเตียงนอนราบได้ยาว 6 ฟุต 4 นิ้ว และมีความกว้าง 21 นิ้ว แต่ละที่นั่งมีหน้าจอ HD ระบบสัมผัสขนาด 18 นิ้ว พร้อมปลั๊ก Universal AC และช่องเสียบ USB-A[76]

พรีเมียมอีโคโนมี (Premium Economy)
แอร์ไชนา พรีเมียมอีโคโนมี บนแอร์บัส เอ350-900

พรีเมียมอีโคโนมี มีให้บริการบนเครื่องบินทุกรุ่นของแอร์ไชนา ได้แก่ แอร์บัส เอ330-300, แอร์บัส เอ350-900, โบอิง 747-8 และโบอิง 787-9[69] โดยในเอ 350-900 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของสายการบิน มีที่นั่งชั้นพรีเมียมอีโคโนมีที่สามารถปรับเอนได้มากขึ้น มีระยะระหว่างที่นั่ง 38.5–39 นิ้ว และความกว้างที่นั่ง 18.5 นิ้ว จัดเรียงแบบ 2-4-2 สำหรับพรีเมียมอีโคโนมีบนเอ 330-300, 747-8 และ 787-9 จะมีระยะระหว่างที่นั่ง 36–38 นิ้ว และความกว้างที่นั่ง 17.1–18 นิ้ว ในเอ 330 รุ่นเก่า ที่นั่งเหล่านี้ยังมีหน้าจอ AVOD และที่รองศีรษะ ซึ่งชั้นประหยัดทั่วไปจะไม่มี[74][69]

ชั้นประหยัด (Economy Class)
ห้องโดยสารชั้นประหยัดบนแอร์บัส เอ350-900

เครื่องบินทุกรุ่นของแอร์ไชนามีชั้นประหยัดให้บริการ ระบบความบันเทิงบนเครื่องบิน (IFE) พร้อมฟังก์ชัน AVOD มีให้บริการบนโบอิง 777-300อีอาร์, โบอิง 787-9, แอร์บัส เอ350-900, โบอิง 747 และแอร์บัส เอ330 ที่เป็นรุ่นใหม่กว่า โดยมีขนาดหน้าจอและระบบที่แตกต่างกันไปจากพานาโซนิคและเทลีส ส่วนปลั๊ก Universal AC และช่องเสียบ USB นั้นมีให้บริการแตกต่างกันไปตามแต่ละรุ่นของเครื่องบิน ที่นั่งในชั้นประหยัดส่วนใหญ่มีระยะระหว่างที่นั่งอยู่ที่ 31 นิ้ว และมีความกว้าง 17–18 นิ้ว ขึ้นอยู่กับรุ่นเครื่องบิน สำหรับแอร์บัส เอ330 ชั้นประหยัดจะจัดเรียงแบบ 2-4-2 ขณะที่แอร์บัส เอ350 และโบอิง 787 จะจัดเรียงแบบ 3-3-3 ส่วนโบอิง 747 และ 777 จะจัดเรียงแบบ 3-4-3 สำหรับเครื่องบินลำตัวแคบทุกรุ่นจะจัดเรียงแบบ 3-3 ยกเว้นโคแม็ก เออาร์เจ21 ที่จัดเรียงแบบ 3-2[69][74]

ฟินิกซ์ไมล์ส

[แก้]

ฟีนิกซ์ไมล์ส (จีน: 凤凰知音; พินอิน: feng huang zhī yīn, แปลตรงตัว "พันธมิตรฟินิกซ์") เป็นโปรแกรมสะสมไมล์สำหรับลูกค้าเดินทางบ่อยของแอร์ไชนาและสายการบินในเครือ ได้แก่ แอร์ไชนาอินเนอร์มองโกเลีย, แอร์มาเก๊า, ปักกิ่งแอร์ไลน์, ต้าเหลียนแอร์ไลน์, คุนหมิงแอร์ไลน์, ชานตงแอร์ไลน์ และเชินเจิ้นแอร์ไลน์ นี่คือโปรแกรมสะสมไมล์แรกที่เปิดตัวในจีนแผ่นดินใหญ่ ถูกออกแบบมาเพื่อมอบรางวัลแก่ลูกค้าที่เดินทางบ่อยทั้งในและต่างประเทศกับแอร์ไชนาและสายการบินพันธมิตร[77]

อุบัติการณ์และอุบัติเหตุ

[แก้]

ดูเพิ่ม

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Air China 2017 Annual Report". Air China. 2011.
  2. "Air China on ch-aviation". ch-aviation (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 พฤศจิกายน 2023.
  3. 1 2 3 4 5 "Annual Report 2024" (PDF). Air China Limited. 27 มีนาคม 2025. สืบค้นเมื่อ 14 มิถุนายน 2025.
  4. "Air China Annual Report 2017" (PDF). สืบค้นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2018.
  5. CAAC becomes Air China Australian Aviation issue 46 September 1988 page 15
  6. "Directory: World Airlines". Flight International. 27 มีนาคม 2007. p. 55.
  7. Ng, Eric, "Air China Set to Announce Lead Bank for Listing," South China Morning Post, Bus. Sec., 16 July 2001, p. 4.
  8. Holland, Tom, "China Break-In," Far Eastern Economic Review, 25 October 2001, p. 41.
  9. "Air China plans to buy 15 new planes". Seattle Post-Intelligencer. Associated Press. 30 ตุลาคม 2002. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 ตุลาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2011.
  10. Air China increases stake in Air Macau to almost 81% เก็บถาวร 13 ธันวาคม 2009 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Air Transport Intelligence news, 12.07.2010
  11. Air China to Raise Cathay Pacific Stake to 30% (Update2) เก็บถาวร 2012-11-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Bloomberg News 17 August 2009
  12. Air China acquires majority stake in Shenzhen Airlines เก็บถาวร 25 เมษายน 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, Air Transport Intelligence news, 22/03/10
  13. Air China Received Top Tourism Award TN Global Travel Industry News, 3 Dec 2010
  14. "air china launches flight shuttle bus combined ticket for domestic routes". Antara News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 เมษายน 2016. สืบค้นเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2015.
  15. Chen, Andrea (17 เมษายน 2014). "Broadband browsing at 32,000 feet: Air China introduces new fast internet service". South China Morning Post. South China Morning Post Publishers Limited. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2016.
  16. "Air China starts free Wi-Fi service on flights, but not for mobile phones". Skift (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 4 กรกฎาคม 2013. สืบค้นเมื่อ 24 พฤษภาคม 2019.
  17. Wadman, Meredith. "Air China won't fly research primates". Nature. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 เมษายน 2015. สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2015.
  18. 国内航班首试空中上网服务_中国经济网――国家经济门户 (ภาษาChinese (China)). China Economic Net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 มิถุนายน 2016. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2016.
  19. "Air China". Airliner World: 17. มีนาคม 2015.
  20. 1 2 "Corporate Social Responsibility Report 2010." (Archive) Air China. p. 7. Retrieved on 12 October 2012. "Headquarter location No. 30, Tianzhu Road, Tianzhu Airport Industrial Zone, Beijing, China"
  21. "Membership เก็บถาวร 29 กันยายน 2012 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน." (Archive) IATA. Retrieved on 12 October 2012. "Air China Limited West 6th Floor Air China HQ Building No 30 Tianzhu Road Tianzhu Airport Economic Development Zone Beijing China (People's Republic of) 100621"
  22. 联系我们 (ภาษาChinese (China)). Air China. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 ตุลาคม 2012. สืบค้นเมื่อ 12 ตุลาคม 2012. 北京市顺义区天竺空港经济开发区天柱路30号国航总部大楼E410房间
  23. "Interim Report 2012." (Archive) Air China. Retrieved on 12 October 2012. "The registered office of the Company is located at 9th Floor, Blue Sky Mansion, 28 Tianzhu Road, Zone A, Tianzhu Airport Industrial Zone, Shunyi District, Beijing 101312, the PRC."
  24. "中国国航(601111)主要股东_新浪财经_新浪网". vip.stock.finance.sina.com.cn. สืบค้นเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2024.
  25. "王泽民:四十一年的坚守与热爱". CAAC. 5 กันยายน 2019. สืบค้นเมื่อ 15 มิถุนายน 2025.
  26. "Hainan Airlines set to establish Chengdu base". ch-aviation. 22 มกราคม 2017. สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม 2017.
  27. "History of Air China". SeatMaestro (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 27 พฤษภาคม 2019.
  28. "Air China Expands With Second Daily Nonstop Flight From Los Angeles to Beijing". PR Newswire. 12 มกราคม 2011. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2013.
  29. "Air China expands India operations". Business Standard India. Business-standard.com. 1 กรกฎาคม 2011. สืบค้นเมื่อ 17 ตุลาคม 2011.
  30. [ลิงก์เสีย]
  31. [ลิงก์เสีย]
  32. Christine Boynton (19 มกราคม 2012). "Air China begins replacing 747s with 777s on US routes". ATWOnline. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2013.
  33. "New York to Beijing routes increased from one flight to two flights per day". 4 เมษายน 2013.
  34. "Air China commences new route". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2014. สืบค้นเมื่อ 23 มกราคม 2014.
  35. Houston Airport System (14 มกราคม 2014). "Air China Expands Nonstop Houston-Beijing Service To Daily" (Press release). สืบค้นเมื่อ 24 เมษายน 2015.
  36. "Air China to Commence Beijing-Washington Nonstop Service". Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 24 เมษายน 2015.
  37. "Air China to Launch Beijing-Montreal Flights in Cooperation with Air Canada". newswire.ca. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 พฤษภาคม 2015. สืบค้นเมื่อ 28 พฤษภาคม 2015.
  38. "Air China puts direct route to SA on hold". News24. 29 พฤษภาคม 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 พฤษภาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 9 เมษายน 2019.
  39. "Profile on Air China". CAPA. Centre for Aviation. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 ตุลาคม 2016. สืบค้นเมื่อ 29 ตุลาคม 2016.
  40. "Air New Zealand Expands Air China Domestic China Codeshare From Sep 2023".
  41. "Air China Expands Austrian Codeshare From late-June 2024".
  42. "Cathay Pacific Enhances Air China Codeshare in Xinjiang From Sep 2025".
  43. "Integrated Air – Rail Service". Air China.
  44. "G54019 Flight Status China Express Airlines: Chongqing to Lanzhou".
  45. "Air China resumes Egyptair codeshare from early-June 2024". aeroroutes.com. 26 มิถุนายน 2024.
  46. "Air China and Kunming Airlines begins codeshare partnership".
  47. "Air China Begins LATAM Domestic Brasil Codeshare in late-July 2025".
  48. "Lufthansa Expands Air China Domestic Codeshare in April 2025".
  49. "Air China / MIAT Mongolian Airlines Launches Codeshare Service in Jan 2025".
  50. "Shenzhen Airlines Expands Air China Barcelona Codeshare From Aug 2025".
  51. "CA 196 Air China from Taipei to Shanghai".
  52. "Emirates and Air China ink Memorandum of Understanding to explore enhanced partnership".
  53. "Interline baggage allowance and rules". Flydubai.
  54. "Our Partners". Kuwait Airways.
  55. "INTERLINE AND CODESHARE TRAVEL". Pakistan International Airlines.
  56. Air China - Aircraft Information Airchina.com Retrieved 2016-11-23
  57. "Air China Fleet in Planelogger.com". Planelogger.com. สืบค้นเมื่อ 28 มิถุนายน 2020.
  58. "Orders and Deliveries | Airbus". www.airbus.com (ภาษาอังกฤษ). 3 เมษายน 2024. สืบค้นเมื่อ 6 กุมภาพันธ์ 2025.
  59. "Air China to take first A350 in early August". atwonline.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2018.
  60. "Archived copy". New York Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 กรกฎาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2019.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  61. Shih, Kai-Chin (30 กันยายน 2014). "Air China Boeing 747-8I Interior Information". talkairlines. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 เมษายน 2019. สืบค้นเมื่อ 30 กันยายน 2014.
  62. "Air China begins 2-class 777 service from Dec 2016". routesonline.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2016. สืบค้นเมื่อ 1 ตุลาคม 2016.
  63. "Air China Files Preliminary Boeing 787-9 Operational Routes in S16". 2016. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2016.
  64. Liu, Jim (28 พฤษภาคม 2025). "Air China Schedules C909 International Debut in July 2025". AeroRoutes (ภาษาอังกฤษแบบแคนาดา). สืบค้นเมื่อ 29 พฤษภาคม 2025.
  65. "国航、南航今同时接收首架中国国产C919 各订100架". Lianhe Zaobao (ภาษาจีนตัวย่อ). สืบค้นเมื่อ 28 สิงหาคม 2024.
  66. "Air China orders 100 C919s with extended range". ch-aviation. สืบค้นเมื่อ 28 เมษายน 2024.
  67. "Air China Orders 100 Extended-Range Comac C919s | Aviation Week Network". aviationweek.com. สืบค้นเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2025.
  68. Zhang, Vanessa (17 ธันวาคม 2013). "Air China Southwest Bids Farewell to Last Boeing Aircraft, Entering All-Airbus Age". China Aviation Daily. สืบค้นเมื่อ 19 มิถุนายน 2025.
  69. 1 2 3 4 5 6 "Aircraft Information". Air China. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  70. "Forbidden Pavilion, Capital Pavilion". Air China. สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2025.
  71. "Air China Boeing 747-8". aeroLOPA. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  72. 1 2 "Air China Boeing 777-300ER". aeroLOPA. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  73. "Air China Boeing 787-9". aeroLOPA. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  74. 1 2 3 4 "Air China". aeroLOPA. สืบค้นเมื่อ 19 มกราคม 2025.
  75. "Air China Airbus A350-900". aeroLOPA. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  76. "Air China Airbus A350-900". aeroLOPA. สืบค้นเมื่อ 10 มกราคม 2025.
  77. "PhoenixMiles". สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2024.
  78. The Evil Queen (15 เมษายน 2002). "Chinese jet hits foggy mountain - World News". TVNZ. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2013.
  79. "ASN Aircraft accident Boeing 767-2J6ER B-2552 Pusan-Kimhae Airport (PUS)". Aviation-safety.net. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2013.
  80. "Air China plane catches fire as crew prepare to board passengers". independent.co.uk (ภาษาอังกฤษ). 27 สิงหาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 12 เมษายน 2024.
  81. Simon Hradecky. "Accident: Air China A333 at Beijing on Aug 27th 2019, aircraft on fire at the gate". avherald.com (ภาษาอังกฤษ). The Aviation Herald. สืบค้นเมื่อ 12 เมษายน 2024.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]