ลุฟท์ฮันซ่า
![]() | ||||
| ||||
ก่อตั้ง | 6 มกราคม ค.ศ. 1953 | |||
---|---|---|---|---|
ท่าหลัก | ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต ท่าอากาศยานมิวนิก | |||
สะสมไมล์ | Miles & More | |||
พันธมิตรการบิน | สตาร์อัลไลแอนซ์ | |||
บริษัทลูก |
| |||
ขนาดฝูงบิน | 263 | |||
จุดหมาย | 220 | |||
บริษัทแม่ | ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป | |||
สำนักงานใหญ่ | โคโลญ ประเทศเยอรมนี ![]() | |||
จำนวนพนักงาน | 138,353 คน (ปี 2019)[1] | |||
เว็บไซต์ | www.lufthansa.com/th/en/homepage |
ลุฟท์ฮันซ่า (เยอรมัน: Lufthansa) หรือชื่อเต็มคือ บมจ.ด็อยท์เชอลุฟท์ฮันซ่า (เยอรมัน: Deutsche Lufthansa AG) เป็นสายการบินใหญ่ที่สุดของประเทศเยอรมนี และถือเป็นสายการบินใหญ่เป็นอันดับสองของยุโรปในแง่จำนวนผู้โดยสาร ชื่อลุฟท์ฮันซ่ามาจากการประสมระหว่างคำว่า ลุฟท์ ที่แปลว่า "อากาศ" กับคำว่า ฮันซ่า ที่หมายถึง "สันนิบาตการค้า" บริษัทลุฟท์ฮันซ่าเป็นหนึ่งในห้าสายการบินผู้ร่วมก่อตั้งสตาร์อัลไลแอนซ์ในปีค.ศ. 1997[2] ซึ่งเป็นเครือพันธมิตรสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นอกจากลุฟท์ฮันซ่าจะดำเนินกิจการสายการบินภายใต้แบรนด์ของตัวเองแล้ว ลุฟท์ฮันซ่ายังมีสายการบินในเครือได้แก่: ออสเตรียนแอร์ไลน์, สวิสอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์, บรัสเซลแอร์ไลน์ และยูโรวิงส์ นอกจากนี้ บริษัทลุฟท์ฮันซ่ายังมีหน่วยธุรกิจที่เกี่ยวข้องในเครือ ได้แก่ Lufthansa Technik (ฝ่ายซ่อม) และ LSG Sky Chefs (ฝ่ายครัวการบิน) หากรวมจำนวนเครื่องบินของสายการบินทั้งหมดในเครือลุฟท์ฮันซ่าแล้ว จะมีเครื่องบินกว่า 700 ลำ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่มีฝูงบินขนาดใหญ่ที่สุดในโลก[3]
ลุฟท์ฮันซ่ามีสำนักงานใหญ่ของเครือบริษัทในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ส่วนฝ่ายปฏิบัติการใหญ่การเดินอากาศมีที่ตั้งในท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต[4] ฝ่ายปฏิบัติการรองมีที่ตั้งในท่าอากาศยานมิวนิก
ประวัติ[แก้]
บมจ.ด็อยท์เชอลุฟท์ฮันซ่าถูกก่อตั้งในกรุงเบอร์ลินเมื่อค.ศ. 1926[5] และกลายเป็นสายการบินประจำชาติเยอรมันนับแต่นั้น สายการบินแห่งนี้สิ้นสภาพไปโดยปริยายพร้อมกับความพ่ายแพ้ของเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อค.ศ. 1945[6] แต่ในเวลาต่อมา รัฐบาลเยอรมนีตะวันตกมีความพยายามฟื้นฟูสายการบินแห่งชาติขึ้นมาใหม่ มีการก่อตั้งบริษัทมหาชนที่ชื่อว่า ลุฟท์ทาค (Luftag)[7] ในนครโคโลญเมื่อปีค.ศ. 1953 พนักงานและผู้บริหารส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่เคยทำงานให้กับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าที่ล้มไป[8][9] ในปีนั้น ลุฟท์ทาคสั่งซื้อเครื่องบิน Convair CV-340 และ Lockheed L-1049 อย่างละสี่เครื่องจากสหรัฐ และกำหนดท่าอากาศยานฮัมบวร์คเป็นฐานปฏิบัติการใหญ่และฐานซ่อมบำรุง[7] ทั้งนี้เนื่องจาก กรุงเบอร์ลินในขณะนั้นมีสถานะพิเศษระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันตกและสหภาพโซเวียต จึงไม่มีสายการบินใดได้รับอนุญาตให้บินเหนือน่านฟ้ากรุงเบอร์ลิน
สิงหาคม ค.ศ. 1954 ลุฟท์ทาคซื้อสิทธิ์ในชื่อและโลโก้จากผู้พิทักษ์ทรัพย์ของอดีตบมจ.ด็อยท์เชอลุฟท์ฮันซ่าด้วยเงินจำนวน 30,000 มาร์ค และกลายเป็นสายการบินประจำชาติเยอรมันนับแต่นั้น ลุฟท์ฮันซ่าเริ่มให้บริการเดินอากาศอีกครั้งในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1955 ในปีแรกให้บริการเที่ยวบินในประเทศระหว่างฮัมบวร์ค, ดึสเซิลดอร์ฟ, แฟรงก์เฟิร์ต, โคโลญ และมิวนิก เที่ยวบินระหว่างประเทศสู่ลอนดอน, ปารีส, มาดริด และนครนิวยอร์ก[10][11]
จุดหมายปลายทาง[แก้]
ข้อตกลงการทำการบินร่วม[แก้]
- อีเจียนแอร์ไลน์
- แอร์อัสตานา
- แอร์บอลติก
- แอร์แคนาดา
- แอร์ไชน่า
- แอร์โดโลมิติ
- แอร์อินเดีย
- แอร์มัลตา
- แอร์นิวซีแลนด์
- ออล นิปปอน แอร์เวย์
- เอเชียน่า แอร์ไลน์
- ออสเตรียนแอร์ไลน์
- อาเบียงกา
- บรัสเซลแอร์ไลน์
- คาเธ่ย์ แปซิฟิก
- โคปาแอร์ไลน์
- โครเอเชียแอร์ไลน์
- อียิปต์แอร์
- เอธิโอเปียนแอร์ไลน์
- เอทิฮัดแอร์เวย์
- ยูโรวิงส์
- ลาทัม แอร์ไลน์
- ล็อต โปแลนด์
- ลุกซ์แอร์
- สแกนดิเนเวียน แอร์ไลน์ ซิสเต็ม
- เชนเซ็น แอร์ไลน์
- สิงค์โปร์แอร์ไลน์
- เซาท์แอฟริกัน เอกซ์เพรส
- ซันเอกซ์เพรส
- สวิส อินเตอร์แนชันแนล แอร์ไลน์
- ตัปปูร์ตูกัล
- การบินไทย
- เตอร์กิชแอร์ไลน์
- ยูไนเต็ดแอร์ไลน์
- วิสตาร่า
ฝูงบิน[แก้]
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2564 ฝูงบินของลุฟท์ฮันซ่ามีดังนี้
เครื่องบิน | ประจำการ | คำสั่งซื้อ | ที่นั่ง | หมายเหตุ | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
F | J | W | Y | Total | Refs | ||||
แอร์บัส เอ319-100 | 14 | — | 24 | 24 | 76 | 102 | 124 | [12] | |
แอร์บัส เอ320-200 | 56 | — | — | 28 | — | 126 | 154 | [13] | |
แอร์บัส เอ320นีโอ | 30 | 54 | — | 28 | — | 138 | 164 | [14] | |
แอร์บัส เอ321-100 | 20 | — | — | 26 | — | 161 | 187 | [15] | |
แอร์บัส เอ321-200 | 43 | — | — | 26 | — | 161 | 187 | [16] | |
แอร์บัส เอ321นีโอ | 11 | 29 | — | 28 | — | 173 | 201 | [17][18] | มีการติดตั้งแคบินแบบ "แอร์บัส แอร์สเปซ" |
แอร์บัส เอ330-300 | 13 | — | — | 42 | 28 | 185 | 255 | [19] | |
แอร์บัส เอ340-300 | 17 | — | — | 42 | — | 225 | 267 | [20] | ผู้ให้บริการใหญ่ที่สุด. จะถูกทดแทนด้วย แอร์บัส เอ350-900 และ โบอิ้ง 787-9 ภายในกลางปีพ.ศ. 2565.[21] |
28 | 181 | 251 | [22] | ||||||
30 | 221 | 279 | [23] | ||||||
18 | 21 | 261 | 300 | [24] | |||||
แอร์บัส เอ340-600 | 5 | — | 8 | 44 | 32 | 213 | 297 | [25] | จะกลับมาให้บริการภายในปีพ.ศ. 2565[26] |
แอร์บัส เอ350-900 | 18 | 28 | — | 48 | 21 | 224 | 293 | [27] | เครื่องบิน 4 ลำซื้อต่อจาก ฟิลิปปินส์แอร์ไลน์[28] กำหนดส่งมอบในปี 2572 เพื่อทดแทน แอร์บัส เอ340 ทั้งหมดในฝูงบิน[29][30] |
36 | 262 | 319 | [31] | ||||||
โบอิ้ง 747-400 | 8 | — | — | 67 | 32 | 272 | 371 | [32] | โบอิ้ง 747-400 ลำแรกที่ติดตั้งเครื่องยนต์ General Electric CF6-80C2 ทั้งหมดจะปลดประจำการภายในปีพ.ศ. 2568[21][33] |
43 | 308 | 383 | [34] | ||||||
โบอิ้ง 747-8I | 19 | — | 8 | 92 | 32 | 208 | 340 | [35] | ผู้ให้บริการรายใหญ่ที่สุดของ โบอิ้ง 747-8I.[36][37] ประกอบด้วย D-ABYP, โบอิ้ง 747 ลำที่ 1,500 ของโลก[38] |
80 | 244 | 364 | [39] | ||||||
โบอิ้ง 777-9 | — | 20 | TBA | เริ่มส่งมอบในปีพ.ศ. 2566.[40] ทดแทน โบอิ้ง 747-400 และ แอร์บัส เอ340[21][33] | |||||
โบอิ้ง 787-9 | — | 25 | TBA | เริ่มกำหนดส่งมอบในปีพ.ศ. 2565 เพื่อทดแทน แอร์บัส เอ340[41] บางลำจะถูกส่งต่อให้ SWISS และ/หรือ ออสเตรียนแอร์ไลน์.[42] | |||||
Total | 263 | 156 |
อ้างอิง[แก้]
- ↑ https://investor-relations.lufthansagroup.com/fileadmin/downloads/en/financial-reports/annual-reports/LH-AR-2019-e.pdf
- ↑ "Lufthansa". Star Alliance. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 July 2014. สืบค้นเมื่อ 5 July 2014.
The airlines engaged in the passenger transportation business are Lufthansa German Airlines...
- ↑ "10 Lufthansa Facts You Should Know". Go Travel Your Way. 12 February 2016. สืบค้นเมื่อ 20 February 2017.
- ↑ "We hereby invite our shareholders to attend the 51st Annual General Meeting" (PDF). investor-relations.lufthansa.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 14 July 2011. สืบค้นเมื่อ 25 August 2009.
- ↑ "As Time Flies By". Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 19 April 2013.
- ↑ Starzmann, Maria Theresia (September 2015). "The Materiality of Forced Labor: An Archaeological Exploration of Punishment in Nazi Germany". International Journal of Historical Archaeology. 19 (3): 647–663 – โดยทาง JStor.
- ↑ 7.0 7.1 "We Call on Luftag". Flight International (5 February 1954): 165. สืบค้นเมื่อ 19 April 2013.
- ↑ Welle (www.dw.com), Deutsche. "Why Lufthansa reduces its Nazi past to a sidenote | DW | 14.03.2016". DW.COM (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
- ↑ Rieger, Tobias (2020-04-13). "Kurt Knipfer". Beamte nationalsozialistischer Reichsministerien (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 2020-12-25.
- ↑ "A German Airline Again". Flight. 15 April 1955. pp. 472–473. สืบค้นเมื่อ 9 July 2013.
- ↑ "Die Tabellen-Piloten". Der Spiegel (22/1955): 32–40. 25 May 1955. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 October 2011. สืบค้นเมื่อ 19 April 2013.
- ↑ "Lufthansa Airbus A319" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A320-200" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A320neo" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A321" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A321" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A321neo" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ Wenzel, Nick (4 May 2019). "Lufthansa adds first A321neo to its fleet". International Flight Network (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). สืบค้นเมื่อ 2019-09-05.
- ↑ "Lufthansa Airbus A330-300 (255 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A340-300 (251 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ 21.0 21.1 21.2 "Lufthansa neemt vervroegd afscheid van deel A380-, A340- en 747-vloot". 7 April 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A340-300 (267 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A340-300 (279 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A340-300 (300 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Airbus A340-600 (297 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa to Remove 5 Airbus A340-600s from Desert Storage". simpleflying.com. 25 June 2021.
- ↑ "Lufthansa Airbus A350-900 (293 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ aerotelegraph.com 12 July 2021
- ↑ "Lufthansa, Airbus' biggest airline customer, commits to up to 55 A350s | Airbus News & Events". Airbus.com. สืบค้นเมื่อ 19 September 2013.
- ↑ "Lufthansa confirms huge Airbus, Boeing jet order". Reuters.com. 19 September 2013. สืบค้นเมื่อ 19 September 2013.
- ↑ "Lufthansa Airbus A350-900 (319 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Boeing 747-400 (371 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ 33.0 33.1 "Lufthansa seeks to boost Boeing fleet size to 35% | DUBAI AIRSHOW 2017". www.dubaiairshow.aero (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2017-09-14.
- ↑ "Lufthansa Boeing 747-400 (383 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Lufthansa Boeing 747-8 (340 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "747 Model Orders and Deliveries summary" Archived 2018-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Boeing, December 2019. Retrieved January 27, 2020.
- ↑ "Which Airlines Operate The Boeing 747-8?". Simple Flying (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2019-10-10. สืบค้นเมื่อ 2020-06-16.
- ↑ Cha, Frances. "Aviation milestone as Boeing delivers 747 number 1,500". CNN (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-06-16.
- ↑ "Lufthansa Boeing 747-8 (364 ver)" (PDF). Lufthansa. สืบค้นเมื่อ 5 October 2020.
- ↑ "Boeing Cuts Firm 777X Orders By A Third". Simple Flying. 2 February 2021.
- ↑ "Lufthansa orders 40 Boeing 787-9 and Airbus A350-900 long-haul planes". Reuters. 13 March 2019.
- ↑ aerotelegraph.com (German) 6 July 2021
![]() |
บทความเกี่ยวกับบริษัท ห้างหุ้นส่วน หรือองค์กรนี้ยังเป็นโครง คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียได้โดยการเพิ่มเติมข้อมูล |