จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จังหวัดสุราษฎร์ธานี | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Surat Thani |
จากซ้ายไปขวา บนลงล่าง : วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร, วัดทุ่งหลวง,
อุทยานธรรมเขานาในหลวง, อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง, อุทยานแห่งชาติเขาสก, เกาะนางยวน, หินตาหินยาย, ทัศนียภาพอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีจากเขาท่าเพชร | |
คำขวัญ: เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ | |
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานีเน้นสีแดง | |
ประเทศ | ไทย |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | ว่าง (ตั้งแต่ พ.ศ. 2567) |
พื้นที่[1] | |
• ทั้งหมด | 12,891.469 ตร.กม. (4,977.424 ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 6 |
ประชากร (พ.ศ. 2566) | |
• ทั้งหมด | 1,075,788 คน |
• อันดับ | อันดับที่ 19 |
• ความหนาแน่น | 83.44 คน/ตร.กม. (216.1 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 59 |
รหัส ISO 3166 | TH-84 |
ชื่อไทยอื่น ๆ | สุราษฎร์ฯ เมืองคนดี เมืองร้อยเกาะ บ้านดอน |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | เคี่ยม |
• ดอกไม้ | บัวผุด |
• สัตว์น้ำ | ปลาตะพัดเขียว |
ศาลากลางจังหวัด | |
• ที่ตั้ง | ภายในศูนย์ราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถนนดอนนก ตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84000 |
• โทรศัพท์ | 0 7727 2926 |
• โทรสาร | 0 7728 2175 |
เว็บไซต์ | http://www.suratthani.go.th |
สุราษฎร์ธานี มักจะเรียกกันด้วยชื่อสั้น ๆ ว่า สุราษฎร์ฯ ใช้อักษรย่อ สฎ เป็นจังหวัดในภาคใต้ตอนบน มีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และเป็นอันดับ 6 ของประเทศไทย และมีประชากรหนาแน่นอันดับ 59 ของประเทศ นับเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีหลักฐานทั้งประวัติศาสตร์และโบราณคดีเก่าแก่[2] และยังมีแหล่งท่องเที่ยวและอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง มีจังหวัดที่อยู่ติดกันได้แก่ ชุมพร นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา และระนอง
จังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของภาคใต้ โดยมีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลายทั้งที่ราบสูง ภูมิประเทศแบบภูเขา รวมทั้งที่ราบชายฝั่ง มีพื้นที่ครอบคลุมถึงในบริเวณอ่าวไทย ทั้งบริเวณที่เป็นทะเลและเป็นเกาะ เกาะในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กมากถึง 98 เกาะ นับว่ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศ รองมาจากจังหวัดพังงาที่มี 155 เกาะ และจังหวัดกระบี่ ที่มี 154 เกาะ[3] เกาะขนาดใหญ่เป็นที่รู้จักเช่น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และหมู่เกาะอ่างทอง เนื่องจากทำเลที่ตั้งจึงได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดบริเวณทะเลอันดามันบ้างเป็นครั้งคราวเนื่องจากจะมีแนวเทือกเขาตะนาวศรี เทือกเขาภูเก็ต และเทือกเขานครศรีธรรมราช [4] แถบบริเวณจังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแนวช่วยลดอิทธิพลของลมมรสุมดังกล่าว ในทางกลับกันพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจะได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นส่วนใหญ่ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือปกติจะมีแหล่งกำเนิดบริเวณทะเลจีนใต้และอ่าวไทย ทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีช่วงฤดูฝนกินระยะเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนมกราคม
ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ โดยประกอบอาชีพทางด้านการเกษตรเป็นหลัก โดยใช้พื้นที่ในการทำการเกษตรประมาณร้อยละ 45 ของพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังประกอบอาชีพทางด้านปศุสัตว์ ประมง อุตสาหกรรม รวมทั้งมีการทำเหมืองแร่ด้วย
ประวัติศาสตร์
[แก้]จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นที่ตั้งของเมืองเก่า เป็นศูนย์กลางของเมืองศรีวิชัย มีหลักฐานแสดงถึงการตั้งรกรากและเส้นทางสายไหมในอดีต พื้นที่อำเภอไชยาเจริญขึ้นจนเป็นอาณาจักรศรีวิชัยในช่วงหลังพุทธศตวรรษที่ 13 โดยมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็นเครื่องยืนยันความรุ่งเรืองในอดีต ภายหลังยังเชื่อว่า เมื่ออาณาจักรตามพรลิงก์หรือเมืองนครศรีธรรมราชมีความรุ่งเรืองมากขึ้นนั้น เมืองไชยาก็เป็นหนึ่งในเมืองสิบสองนักษัตรของเมืองนครศรีธรรมราชด้วย ชื่อว่า "เมืองบันไทยสมอ"[5]
นอกจากนี้ในยุคใกล้เคียงกันนั้นยังพบความเจริญของเมืองที่เกิดขึ้นในบริเวณลุ่มแม่น้ำตาปี ได้แก่ เมืองเวียงสระ เมืองคีรีรัฐนิคม และเมืองท่าทอง โดยเชื่อว่าพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ผู้ครองเมืองนครศรีธรรมราชนั้นอพยพย้ายเมืองมาจากเมืองเวียงสระ เนื่องจากเป็นเมืองที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล รวมทั้งเกิดโรคภัยระบาด[6] และเมื่อเมืองนครศรีธรรมราชเจริญรุ่งเรืองนั้น ได้ยกเมืองไชยา และเมืองท่าทอง เป็นเมืองสิบสองนักษัตรของตนด้วย
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งอู่เรื่อพระที่นั่งและเรือรบเพื่อใช้ในราชการที่อ่าวบ้านดอน ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงให้ย้ายที่ตั้งเมืองท่าทองมายังอ่าวบ้านดอน พร้อมทั้งยกฐานะให้เป็นเมืองจัตวา ขึ้นตรงต่อกรุงเทพมหานคร และพระราชทานชื่อว่า "เมืองกาญจนดิษฐ์"[5] โดยแต่งตั้งให้พระยากาญจนดิษฐ์บดีเป็นเจ้าเมืองดูแลการปกครอง
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้เมืองเมืองกาญจนดิษฐ์ เมืองคีรีรัฐนิคม และเมืองไชยารวมตัวเป็นจังหวัดไชยา ขึ้นตรงต่อมณฑลชุมพร เมื่อเมืองขยายใหญ่ขึ้น จึงมีการปรับเปลี่ยนการปกครองและขยายเมืองออกไป มีการแยกเมืองกาญจนดิษฐ์เป็นอำเภอกาญจนดิษฐ์และอำเภอบ้านดอน กระทั่งสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการย้ายอำเภอเมืองมาที่อำเภอบ้านดอนและโอนชื่อมาเป็นชื่ออำเภอไชยา และให้ชื่อเมืองเก่าว่า "อำเภอพุมเรียง" ทว่าประชาชนยังติดเรียกชื่อเมืองเก่าว่า "อำเภอไชยา" ทั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่โปรดปรานชื่อบ้านดอน จึงพระราชทานนามอำเภอบ้านดอนว่า "สุราษฎร์ธานี" และยังคงชื่ออำเภอพุมเรียงว่าอำเภอไชยาเช่นเดิม รวมถึงเปลี่ยนชื่อจังหวัดเป็นจังหวัดสุราษฎร์ธานี[7] และพระราชทานนามแม่น้ำตาปี ให้ในคราวเดียวกันนั้นเอง ซึ่งเป็นการตั้งชื่อตามแบบเมืองและแม่น้ำในประเทศอินเดียที่มีแม่น้ำตาปตีไหลลงสู่ทะเลออกผ่านปากอ่าวที่เมืองสุรัต[5]
ภูมิศาสตร์
[แก้]ที่ตั้งและอาณาเขต
[แก้]จังหวัดสุราษฎร์ธานีตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของภาคใต้ โดยมีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของประเทศ และอันดับ 1 ของภาคใต้[8] โดยมีจังหวัดที่มีอาณาเขตติดกัน ดังนี้
- ด้านเหนือ ติดกับจังหวัดระนอง จังหวัดชุมพร และอ่าวไทย
- ด้านใต้ ติดกับจังหวัดกระบี่และจังหวัดนครศรีธรรมราช
- ด้านตะวันออก ติดกับจังหวัดนครศรีธรรมราชและอ่าวไทย
- ด้านตะวันตก ติดกับจังหวัดพังงา
โดยทะเลฝั่งอ่าวไทยนั้นมีชายฝั่งยาวประมาณ 156 กิโลเมตร โดยมีเกาะที่อยู่ภายใต้เขตการปกครองของจังหวัด ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และหมู่เกาะอ่างทอง ซึ่งมีเกาะน้อยใหญ่อีกมากมาย จึงได้ชื่อว่าเมืองร้อยเกาะ เช่น เกาะนางยวน เกาะวัวตาหลับ เกาะแม่เกาะ
ภูมิประเทศและภูมิอากาศ
[แก้]จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีพื้นที่กว้างใหญ่ และมีสภาพภูมิประเทศที่หลากหลาย ได้แก่ ภูมิประเทศแบบที่ราบชายฝั่งทะเล ที่ราบสูง รวมทั้งภูมิประเทศแบบภูเขาซึ่งกินพื้นที่ของจังหวัดถึงร้อยละ 40 ของพื้นที่ทั้งหมด [9] โดยมีทิวเขาภูเก็ตทอดตัวในแนวเหนือ-ใต้ของจังหวัด และมีลุ่มน้ำที่สำคัญ คือ ลุ่มน้ำตาปี ไชยา ท่าทอง เป็นต้น ด้านตะวันออกเป็นฝั่งทะเลอ่าวไทย และมีเกาะน้อยใหญ่ที่มีประชากรอาศัย ส่วนด้านตะวันตกมีลักษณะเป็นภูเขาสูง มีแม่น้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำตาปี แม่น้ำคีรีรัฐหรือแม่นํ้าพุมดวง เนื่องจากทำเลที่ตั้งรวมถึงภูมิประเทศ จังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดมาจากมหาสมุทรอินเดีย รวมทั้งมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่านอ่าวไทย ดังนั้น จึงทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีช่วงฤดูฝนยาวนานมาก โดยกินระยะเวลาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนมกราคม โดยจังหวัดสุราษฏร์ธานีมีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 21.16 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 34.51 องศาเซลเซียส [10] และปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 129.59 มิลลิเมตร [11]
การปกครอง
[แก้]การปกครองส่วนภูมิภาค
[แก้]จังหวัดสุราษฎร์ธานีแบ่งการปกครองส่วนภูมิภาคออกเป็น 19 อำเภอ 131 ตำบล 1,074 หมู่บ้าน มีรายชื่ออำเภอดังนี้
การปกครองส่วนท้องถิ่น
[แก้]จังหวัดสุราษฎร์ธานีแบ่งการปกครองส่วนท้องถิ่นออกเป็น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัด 2 เทศบาลนคร 3 เทศบาลเมือง 35 เทศบาลตำบล และ 97 องค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีรายชื่อเทศบาลดังนี้
อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอดอนสัก |
อำเภอเกาะสมุย อำเภอเกาะพะงัน อำเภอไชยา |
อำเภอท่าชนะ อำเภอคีรีรัฐนิคม อำเภอบ้านตาขุน อำเภอพนม อำเภอท่าฉาง |
อำเภอบ้านนาสาร อำเภอบ้านนาเดิม อำเภอเคียนซา |
อำเภอเวียงสระ อำเภอพระแสง อำเภอพุนพิน |
รายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี
[แก้]ลำดับ | ชื่อ | เข้ารับตำแหน่ง | สิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง |
---|---|---|---|
1 | พระยาวรฤทธิ์ฤๅไชย (คออยู่ตี๋ ณ ระนอง) | พ.ศ. 2449 (ร.ศ. 125) | พ.ศ. 2458 |
2 | พระสุราษฎร์ธานีศรีเกษตรนิคม (สวาสดิ์ ภัทรนาวิก) | พ.ศ. 2458 | พ.ศ. 2459 |
3 | พระยาพิศาลสารเกษตร (พร พิมพสุต) | พ.ศ. 2459 | พ.ศ. 2461 |
4 | พระยาวิชิตภักดีศรีสุราษฎร์ธานินทร์ (รอด สาริมาน) | พ.ศ. 2461 | พ.ศ. 2463 |
5 | พระยาศรีมหาเกษตร (ชวน สมุทรานนท์) | พ.ศ. 2463 | พ.ศ. 2469 |
6 | พระยาสุราษฎร์ธานีศรีเกษตรนิคม (เต่า ศตะกูรมะ) | พ.ศ. 2469 | พ.ศ. 2477 |
7 | พระบริบูรณ์วุฒิราษฎร์ (ชุบ ศรลัมภ์) | พ.ศ. 2477 | พ.ศ. 2481 |
8 | หลวงสฤษฎ์สาราลักษณ์ (เปรม ลางคุลเสน) | พ.ศ. 2481 | พ.ศ. 2484 |
9 | หลวงอรรถกัลยาณวินิจ (เอื้อน ยุกตะนันทน์) | พ.ศ. 2485 | พ.ศ. 2485 |
10 | นายชลอ จารุจินดา | พ.ศ. 2485 | พ.ศ. 2486 |
11 | หลวงเกษมประศาสน์ (บุญหยด เกษมประศาสน์) | พ.ศ. 2486 | พ.ศ. 2487 |
12 | ขุนสำราญราษฎร์บริรักษ์ (จุ้ย ตัณฑโสภา) | พ.ศ. 2487 | พ.ศ. 2487 |
13 | นายแม้น อรจันทร์ | พ.ศ. 2487 | พ.ศ. 2487 |
14 | ขุนรัฐวุฒิวิจารณ์ (สุวงศ์ วัฏฏสิงห์) | พ.ศ. 2489 | พ.ศ. 2492 |
15 | นายเลื่อน ไขแสง | พ.ศ. 2492 | พ.ศ. 2496 |
16 | ขุนอักษรสารสิทธิ์ (พินิต อักษรสารสิทธิ์) | พ.ศ. 2496 | พ.ศ. 2497 |
17 | นายจันทร์ สมบูรณ์กุล | พ.ศ. 2497 | พ.ศ. 2501 |
18 | นายฉลอง รมิตานนท์ | พ.ศ. 2501 | พ.ศ. 2503 |
19 | นายประพันธ์ ณ พัทลุง | พ.ศ. 2503 | พ.ศ. 2509 |
20 | นายพร บุญยะประสพ | พ.ศ. 2509 | พ.ศ. 2511 |
21 | นายคล้าย จิตพิทักษ์ | พ.ศ. 2511 | พ.ศ. 2515 |
22 | นายอรุณ นาถะเดชะ | พ.ศ. 2515 | พ.ศ. 2517 |
23 | นายอนันต์ สงวนนาม | พ.ศ. 2517 | พ.ศ. 2519 |
24 | นายชลิต พิมลศิริ | พ.ศ. 2519 | พ.ศ. 2521 |
25 | นายกาจ รักษ์มณี | พ.ศ. 2521 | พ.ศ. 2522 |
26 | นายสนอง รอดโพธิ์ทอง | พ.ศ. 2522 | พ.ศ. 2524 |
27 | นายไสว ศิริมงคล | พ.ศ. 2524 | พ.ศ. 2526 |
28 | นายนิพนธ์ บุญญภัทโร | พ.ศ. 2526 | พ.ศ. 2530 |
29 | นายวิโรจน์ ราชรักษ์ | พ.ศ. 2530 | พ.ศ. 2532 |
30 | นายดำริ วัฒนสิงหะ | พ.ศ. 2532 | พ.ศ. 2533 |
31 | นายอนุ สงวนนาม | พ.ศ. 2533 | พ.ศ. 2535 |
32 | นายประพัฒน์พงษ์ บำเพ็ญสิทธิ์ | พ.ศ. 2535 | พ.ศ. 2537 |
33 | นายประยูร พรหมพันธุ์ | พ.ศ. 2537 | พ.ศ. 2539 |
34 | นายปรีชา รักษ์คิด | พ.ศ. 2539 | พ.ศ. 2540 |
35 | นายนิเวศน์ สมสกุล | พ.ศ. 2540 | พ.ศ. 2541 |
36 | นายภุชงค์ รุ่งโรจน์ | พ.ศ. 2541 | พ.ศ. 2543 |
37 | นายชาญชัย สุนทรมัฏฐ์ | พ.ศ. 2543 | พ.ศ. 2544 |
38 | นายยงยุทธ ตะโกพร | พ.ศ. 2544 | พ.ศ. 2545 |
39 | หม่อมหลวงประทีป จรูญโรจน์ | พ.ศ. 2545 | พ.ศ. 2546 |
40 | นายธีระ โรจนพรพันธุ์ | พ.ศ. 2546 | พ.ศ. 2547 |
41 | นายวิจิตร วิชัยสาร | พ.ศ. 2547 | พ.ศ. 2549 |
42 | ดร.นิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว | พ.ศ. 2549 | พ.ศ. 2550 |
43 | นายวินัย บัวประดิษฐ์ | พ.ศ. 2550 | พ.ศ. 2551 |
44 | นายประชา เตรัตน์ | พ.ศ. 2551 | พ.ศ. 2552 |
45 | นายดำริห์ บุญจริง | พ.ศ. 2552 | พ.ศ. 2553 |
46 | นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล | พ.ศ. 2553 | พ.ศ. 2555 |
47 | นายเชิดศักดิ์ ชูศรี | พ.ศ. 2555 | พ.ศ. 2555 |
48 | นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ | พ.ศ. 2555 | พ.ศ. 2558 |
49 | นายวงศศิริ พรหมชนะ | พ.ศ. 2558 | พ.ศ. 2559 |
50 | นายอวยชัย อินทร์นาค | พ.ศ. 2559 | พ.ศ. 2560 |
51 | นายวิชวุทย์ จินโต | พ.ศ. 2560 | พ.ศ. 2566 |
52 | นายเจษฎา จิตรัตน์ | พ.ศ. 2566 | พ.ศ. 2567 |
เศรษฐกิจ
[แก้]เกษตรกรรม
[แก้]ประชากรในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีรายได้ต่อหัวเฉลี่ย 162,329 บาท ต่อปี โดยส่วนมากจะประกอบอาชีพทางการเกษตร เช่น ทำนา ทำสวน ทำไร่ โดยใช้ที่ดินเพื่อทำการเพาะปลูกประมาณ 45% ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว เงาะ ทุเรียน และกาแฟ[12] นอกจากนั้น ยังมีการเลี้ยงปศุสัตว์และการทำประมง โดยปศุสัตว์ที่นิยมเลี้ยงกันมาก เช่น โค กระบือ สุกร ไก่ แพะ โดยปศุสัตว์ที่มีมูลค่าผลผลิตมากที่สุด คือ โค สุกร ไก่ กระบือ และเป็ดตามลำดับ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานแสดงจำนวนครัวเรือนที่ประกอบอาชีพทางการเกษตร แยกตามอาชีพทางการเกษตร
อุตสาหกรรม
[แก้]อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะเป็นอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจากผลผลิตทางเกษตรกรรม เช่น อุตสาหกรรมปลาป่น อาหารทะเลแช่แข็ง อาหารทะเลกระป๋อง น้ำมันปาล์มดิบ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยางพารา ซึ่งในจังหวัดมีจำนวนโรงงานอุตสาหกรรมประมาณ 730 โรงงาน ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีมากที่สุด[12] นอกจากนี้ ยังมีการให้สัมปทานเหมืองแร่ โดยแร่ที่สำคัญในจังหวัด ได้แก่ ยิปซัม โดโลไมต์ แอนไฮโครต์ หินปูน ดินขาว และบอลเคลย์[12] สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานีไม่ได้รวมอยู่ในบริเวณศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่จะตั้งอยู่บริเวณถนนตลาดใหม่ ระหว่างซอย 7 และซอย 9 ในตำบลตลาดถัดไปจากที่ว่าการอำเภอเมืองฯ เพียงเล็กน้อย
การคมนาคม
[แก้]สถานีขนส่งหลักที่สำคัญ
[แก้]ท่าอากาศยาน
[แก้]สถานีรถไฟ
[แก้]สถานีรถโดยสารประจำทาง
[แก้]- สถานีขนส่งสุราษฎร์ธานี
- ตลาดเกษตร 1
- ตลาดเกษตร 2
ท่าเทียบเรือ
[แก้]
|
|
การศึกษา
[แก้]สถาบันอุดมศึกษา
[แก้]สถาบันอาชีวศึกษา
[แก้]
|
|
โรงเรียน
[แก้]ธนาคาร
[แก้]ในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีธนาคารทั้งหมด 18 ธนาคาร และมีจำนวนสาขาของธนาคารทั้งหมด 192 สาขา ได้แก่
|
|
โรงพยาบาล
[แก้]โรงพยาบาลศูนย์
[แก้]- โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
โรงพยาบาลทั่วไป
[แก้]
|
|
|
สถานที่ท่องเที่ยว
[แก้]- อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
- อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพงัน
- อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น
- อุทยานแห่งชาติคลองพนม (ภูตาจอ)
- อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง
- อุทยานแห่งชาติเขาสก
- น้ำตกดาดฟ้า
- น้ำตกวิภาวดี (คลองพาย)
- น้ำตกวิภาวดี (บ้านใน)
- น้ำตกคลองน้ำเฒ่า
- น้ำตกคลองคันเบ็ด
- น้ำตก357 (ธารทิพย์)
- น้ำตกยวนสาว
- น้ำตกเหมืองทวด
- น้ำตกหน้าเมือง 1
- น้ำตกหน้าเมือง 2
- น้ำตกขุนศรี
- น้ำตกหินลาด
- น้ำตกแพงน้อย
- น้ำตกธารประเวศ
- น้ำตกธารประพาศ
- น้ำตกธารเสด็จ
- น้ำตกวังเสาธง
- น้ำตกเขาใหญ่
- น้ำตกเพชรพนมวัฒน์
- น้ำตกธารทอง
- น้ำตกคลองโหยน
- น้ำตกหัวโค้งบางสวรรค์
- น้ำตกถ้ำผาแดง
- ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด
- อ่างน้ำผุดบางสวรรค์
- บ่อน้ำพุร้อนท่าสะท้อน
- เขื่อนรัชประภา
- ถ้ำขมิ้น
- ถ้ำปะการัง
- ถ้ำประกายเพชร
- ถ้ำน้ำทะลุ
- เนินทรายเหมืองแกะ
- หาดคันธุลี
- หาดสวนสน
- หาดสำเร็จ
- หาดนิยม
- หาดนายอำเภอ
- หาดพุมเรียง
- หาดแหลมโพธิ์
- หาดนางกำ
- หาดละไม
- หาดเฉวง
- หาดทองสน
- หาดบ่อผุด
- หาดหน้าทอน
- หาดลิปะน้อย
- หาดแม่น้ำ
- หาดบางรักษ์
- หาดท้องยาง
- หาดท้องศาลา
- หาดศรีธนู
- หาดยาว
- หาดสน
- หาดสลัด
- หาดแม่หาด
- หาดโฉลกหลำ
- หาดขอม
- หาดขวด
- หาดท้องนายปาน
- หาดธารเสด็จ
- หาดยาง
- หาดริ้นนอก
- หาดริ้นใน
- หาดเทียน
- หาดวัวตาหลับ
- หาดม่าหลี
- หาดทรายรี
- หาดทรายนวล
- หาดทรายแดง
- อ่าวโตนด
- อ่าวหินวง
- อ่าวจุลเจือ
- ทะเลใน
- จุดชมวิวจอห์น-สุวรรณ
- จุดชมวิวผาจันทร์จรัส
- จุดชมวิวทะเลใน
- จุดชมวิวไกรสร
- จุดชมวิวเขา ต.เต่า
- จุดชมวิวเนินโนรา
- จุดชมวิวเขื่อนรัชประภา
- หินตา หินยาย
- แหลมโพธิ์
- แหลมซุย
- แหลมทวด
- แหลมสอ
- แหลมดิน
- แหลมโจรคล่ำ
- แหลมใหญ่
- วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
- ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- พระธาตุศรีสุราษฎร์
- วัดทุ่งหลวง
- อุทยานธรรมเขานาในหลวง
- วัดเจดีย์แหลมสอ
- วัดปลายแหลม
- วัดธารน้ำไหล สวนโมขพลาราม
- วัดทุ่งเซียด
- วัดสำเร็จ
- วัดพระใหญ่
- วัดเขาศรีวิชัย
- วัดเขาพระอานนท์
- วัดเขาพระนิ่ม
- วัดสมหวัง
- เมืองโบราณเวียงสระ
- วัดรัตนาราม
- วัดหลง
- วัดถ้ำสิงขร
- วัดถ้ำเขาคูหา
- วัดถ้ำหอมธรรมราม
- สำนักสงฆ์ถ้ำวังบาดาล
- พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยาพุนพิน
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา
- พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองท่าทอง
- เกาะสมุย
- เกาะเต่า
- เกาะพงัน
- เกาะแรด
- เกาะแม่เกาะ
- เกาะพลวย
- เกาะมัดสุม
- เกาะนางยวน
- เกาะหัวเสร็จ
- เกาะวัวตาหลับ
- เกาะแตน
บุคคลที่มีชื่อเสียง
[แก้]- คมสัน นันทจิต
- จีรนันทน์ เศวตนันทน์
- ใจบัว ฮิดดิง
- ไชยวัฒน์ วรรณานนท์
- ชัชชัย สุขขาวดี
- ชุมพล กาญจนะ
- วชิราภรณ์ กาญจนะ
- นนธวรรณทัศ บรามาซ
- นาตยา จันทร์รุ่ง
- ภาณุ สุวรรณโณ
- มิลลิ (แร็ปเปอร์)
- ศิวกร เลิศชูโชติ
- ศุ บุญเลี้ยง
- สีเทา เพ็ชรเจริญ
- โสภา สถาพร
- อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม
- พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ
- บัญญัติ บรรทัดฐาน
- สุเทพ เทือกสุบรรณ
- เชน เทือกสุบรรณ
- ธานี เทือกสุบรรณ
- ธีรภัทร พริ้งศุลกะ
- สินิตย์ เลิศไกร
- สมชาติ ประดิษฐพร
- ภิญญา ช่วยปลอด
- นิภา พริ้งศุลกะ
- บิว กัลยาณี
- เจี๊ยบ เบญจพร
- วิลาวรรณ นวลพุ่ม
- พงค์พิพัฒน์ คงนาค
- กิตติศักดิ์ ไชยชนะ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm เก็บถาวร 2016-03-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- ↑ "พัฒนาการทางประวัติศาสตร์: จังหวัดสุราษฎร์ธานี, หอมรดกไทย". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-09-27. สืบค้นเมื่อ 2007-08-11.
- ↑ "แฟนพันธุ์แท้ 25 เมษายน 2557 - เกาะทะเลไทย". แฟนพันธุ์แท้. 25 April 2014. สืบค้นเมื่อ 29 April 2014.
- ↑ โครงสร้างเศรษฐกิจภาคใต้โดยธนาคารแห่งประเทศไทย หน้า 1[ลิงก์เสีย]
- ↑ 5.0 5.1 5.2 ระบบสารสนเทศจังหวัดสุราษฎร์ธานี เก็บถาวร 2011-11-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน เรียกดู "ประวัติความเป็นมา"
- ↑ ฐานข้อมูลท้องถิ่น, เมืองโบราณ เก็บถาวร 2007-09-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานี
- ↑ ประวัติศาสตร์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- ↑ ประวัติความเป็นมา ที่ตั้งและอาณาเขต ลักษณะภูมิประเทศ การเดินทาง
- ↑ "ภูมิประเทศจังหวัดสุราษฏร์ธานี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-14. สืบค้นเมื่อ 2007-05-05.
- ↑ "ข้อมูลอุณหภูมิในรอบปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-19. สืบค้นเมื่อ 2007-05-05.
- ↑ "ข้อมูลปริมาณน้ำฝนในรอบปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-19. สืบค้นเมื่อ 2007-05-05.
- ↑ 12.0 12.1 12.2 ฐานข้อมูลท้องถิ่น, สภาพเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา เก็บถาวร 2008-10-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานี
ดูเพิ่ม
[แก้]แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของจังหวัด
- องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี
- กองบิน 7 ฐานบินรบหลักของชาวปักษ์ใต้ เก็บถาวร 2007-07-17 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- 10 สถานที่ท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี เก็บถาวร 2019-10-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- โรงแรมในสุราษฎร์ธานี
9°08′N 99°20′E / 9.14°N 99.33°E
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแผนที่
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย