รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก สถานีพุทธมณฑล สาย 4)
รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล
ข้อมูลทั่วไป
ชื่ออื่นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน, รถไฟฟ้ารอบเมืองกรุงเทพฯ
สถานะเปิดให้บริการ
เจ้าของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ที่ตั้งกรุงเทพมหานคร
ปลายทาง
จำนวนสถานี42 (ทั้งหมด)
38 (เปิดให้บริการ)
4 (โครงการ)
การดำเนินงาน
รูปแบบระบบขนส่งมวลชนเร็ว
ระบบรถไฟฟ้ามหานคร
ผู้ดำเนินงานบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (สัญญาสัมปทานโครงการ หมด พ.ศ. 2593)[1]
ศูนย์ซ่อมบำรุงศูนย์ซ่อมบำรุงใหญ่ห้วยขวาง
ศูนย์ซ่อมบำรุงย่อยเพชรเกษม
ขบวนรถซีเมนส์ โมดูลาร์ เมโทร (EMU-IBL)
จำนวน 57 ตู้ (19 ขบวน) : ขบวนละ 3 ตู้
ซีเมนส์ บีแอลอี (EMU-BLE)
จำนวน 105 ตู้ (35 ขบวน) : ขบวนละ 3 ตู้
ผู้โดยสารต่อวัน400,000 คน (พ.ศ. 2562)[2]
431,000 คน (สิงหาคม พ.ศ. 2566)[3]
ประวัติ
ปีที่เริ่มพ.ศ. 2539
เปิดเมื่อ3 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 (19 ปีก่อน)
ส่วนต่อขยายล่าสุด23 ธันวาคม พ.ศ. 2562 (4 ปีก่อน) (สถานีสิรินธร - สถานีจรัญฯ 13 - สถานีท่าพระ)
ข้อมูลทางเทคนิค
ระยะทาง48 km (30 mi)
จำนวนทางวิ่ง2
ลักษณะทางวิ่งทางยกระดับ
ทางใต้ดิน
รางกว้าง1,435 mm (4 ft 8 12 in) สแตนดาร์ดเกจ
ระบบจ่ายไฟ750 V DC รางที่สาม
ความเร็ว80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (50 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อาณัติสัญญาณซีเมนส์ เทรนการ์ด แอลซีบี 700เอ็ม
แผนที่เส้นทาง

ท่าพระ
จรัญฯ 13
ไฟฉาย
บางขุนนนท์
บางยี่ขัน
สิรินธร
บางพลัด
บางอ้อ
บางโพ
เตาปูน
บางซื่อ
กรุงเทพอภิวัฒน์
กำแพงเพชร
สวนจตุจักร
พหลโยธิน
ลาดพร้าว
รัชดาภิเษก
สุทธิสาร
ห้วยขวาง
ศูนย์วัฒนธรรม
แห่งประเทศไทย
ศูนย์ซ่อมบำรุงพระราม 9
พระราม 9
เพชรบุรี
สุขุมวิท
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
คลองเตย
ลุมพินี
สีลม
สามย่าน
หัวลำโพง
วัดมังกร
สามยอด
สนามไชย
แม่น้ำเจ้าพระยา
อิสรภาพ
ท่าพระ
บางไผ่
บางหว้า
เพชรเกษม 48
ศูนย์ซ่อมบำรุงเพชรเกษม
ภาษีเจริญ
บางแค
หลักสอง
พุทธมณฑล สาย 2
ทวีวัฒนา
พุทธมณฑล สาย 3
พุทธมณฑล สาย 4

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (ท่าพระ-บางซื่อ-หัวลำโพง-หลักสอง-พุทธมณฑล สาย 4) (อังกฤษ: Metropolitan Rapid Transit Chaleom Ratchamongkon Line) หรือ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน (อังกฤษ: MRT Blue Line) ซึ่งเรียกตามสีที่กำหนดในแผนแม่บทโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประชาชนนิยมเรียกว่า "รถไฟฟ้าใต้ดิน" เนื่องมาจากช่วงเริ่มแรกให้บริการรถไฟฟ้าเส้นนี้ เส้นทางเป็นระบบใต้ดินแห่งแรกของประเทศไทย ดำเนินการโดย บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) โดยได้รับสัมปทานจาก การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2539[4][5] และหลังจากที่เกิดความล่าช้าขึ้นหลายครั้ง ในที่สุดได้เปิดให้สาธารณชนทดลองใช้งานในวงจำกัดเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2547 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 3 กรกฎาคม ปีเดียวกัน[6] โดยในระยะแรก เส้นทางช่วง หัวลำโพง-ศูนย์ฯ สิริกิติ์-บางซื่อ จะเป็นเส้นทางยกระดับเกือบทั้งหมดโดยรัฐเป็นผู้ลงทุน แต่ภายหลังใหัเอกชนลงทุนและเปลี่ยนเป็นใต้ดินทั้งหมด โดยรัฐบาลมีมติเมื่อ 12 กันยายน พ.ศ. 2538 ให้ก่อสร้างใต้ดิน รัฐเป็นผู้ลงทุนโยธา ส่วนเอกชนเป็นผู้ดำเนินระบบรถไฟฟ้าและกิจการ[7]

ปัจจุบันมีระยะทางรวม 48 กิโลเมตร เส้นทางเริ่มต้นจากสถานีหลักสอง ผ่านสถานีท่าพระ, สถานีหัวลำโพง สถานีบางซื่อ และวิ่งกลับมาสิ้นสุดที่สถานีท่าพระอีกครั้ง รวม 38 สถานี สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ที่สถานีบางหว้า, สถานีสีลม, สถานีสุขุมวิท, สถานีพหลโยธิน และสถานีสวนจตุจักร เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม ที่สถานีเตาปูน เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่สถานีเพชรบุรี และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงเข้มและรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อนได้ที่ สถานีบางซื่อ

นาม เฉลิมรัชมงคล เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชทานเพื่อเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงินในช่วงแรก คือช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ มีความหมายว่า "งานเฉลิมความเป็นมงคลแห่งความเป็นพระราชา"[8] ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ใช้นาม "เฉลิมรัชมงคล" สำหรับเส้นทางส่วนต่อขยายทั้งสองช่วง ได้แก่ ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง และช่วงบางซื่อ-ท่าพระอีกด้วย[9]

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล มีโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายทั้งเส้นทางใต้ดินและยกระดับ จากปลายทางด้านทิศเหนือที่สถานีเตาปูน ไปยังถนนจรัญสนิทวงศ์ และแยกท่าพระ และจากปลายทางด้านทิศใต้ สถานีหัวลำโพง ไปยังท่าพระและบางแค ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางเชื่อมต่อกันที่สถานีท่าพระ ก่อให้เกิดเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าวงแหวน โดยโครงการได้มีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงบางซื่อ - เตาปูน เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ช่วงหัวลำโพง - หลักสอง เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2562 และช่วงเตาปูน - ท่าพระ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2563 และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563[10]

ภาพรวม[แก้]

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล เป็นระบบรถไฟฟ้าที่มีโครงสร้างทั้งทางยกระดับเหนือพื้นดินและเป็นอุโมงค์ใต้ดินเป็นสายแรกของประเทศไทย ดำเนินการโดย บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในอดิต ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับสัมปทานโครงการในการร่วมทุนและดำเนินการเชิงพาณิชย์ หรือ PPP-Net Cost ภายในกรอบระยะเวลา 27 ปี จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และได้รับการต่ออายุสัญญาเพิ่มเติมใน พ.ศ. 2560 ออกไปอีก 33 ปี รวมเป็น 60 ปี มีแนวเส้นทางเป็นแนววงกลมภายในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครชั้นใน เริ่มต้นเส้นทางจากบริเวณหน้าห้างเดอะมอลล์บางแค ตามแนวถนนเพชรเกษม วิ่งผ่านแยกท่าพระ แล้วลดระดับลงเป็นเส้นทางใต้ดิน ลอดแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่ฝั่งพระนครภายในอาณาบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์เข้าสู่พื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ผ่านสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง), จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สวนลุมพินี, ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สวนจตุจักร และสถานีกลางบางซื่อ แนวเส้นทางจะยกระดับกลับเป็นเส้นทางลอยฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยากลับสู่ฝั่งธนบุรี และกลับมาสิ้นสุดเส้นทางทั้งหมดที่แยกท่าพระ รวมระยะทางประมาณ 47.8 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่เน้นการขนส่งผู้โดยสารระหว่างสายด้วยการเดินรถเป็นวงกลมรอบ ๆ กรุงเทพมหานครชั้นใน

พื้นที่เส้นทางผ่าน[แก้]

แขวง/ตำบล เขต/อำเภอ จังหวัด
อ้อมน้อย กระทุ่มแบน สมุทรสาคร
หนองค้างพลู หนองแขม กรุงเทพมหานคร
บางแคเหนือ บางแค
บางหว้า / ปากคลองภาษีเจริญ ภาษีเจริญ
วัดท่าพระ / วัดอรุณ บางกอกใหญ่
พระบรมมหาราชวัง / วังบูรพาภิรมย์ พระนคร
สัมพันธวงศ์ สัมพันธวงศ์
รองเมือง / ปทุมวัน / ลุมพินี ปทุมวัน
สี่พระยา / สีลม บางรัก
ทุ่งมหาเมฆ สาทร
คลองเตย คลองเตย
คลองเตยเหนือ วัฒนา
มักกะสัน ราชเทวี
บางกะปิ / ห้วยขวาง / สามเสนนอก ห้วยขวาง
ดินแดง / รัชดาภิเษก ดินแดง
จอมพล / จตุจักร จตุจักร
บางซื่อ บางซื่อ
บางอ้อ / บางยี่ขัน บางพลัด
ศิริราช / บางขุนศรี / บ้านช่างหล่อ บางกอกน้อย

แนวเส้นทาง[แก้]

แนวเส้นทางประกอบไปด้วยเส้นทางยกระดับและเส้นทางใต้ดิน มีจุดเริ่มต้นจากสถานีหลักสอง ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางแค มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกตามแนวถนนเพชรเกษม เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลมที่สถานีบางหว้า จากนั้นเข้าสู่ชานชาลาล่างของสถานีท่าพระซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางภายในสายทางเดียวกัน จากนั้นลดระดับลงเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน เข้าสู่สถานีอิสรภาพแล้วลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ความลึก 38 เมตรจากผิวดิน เข้าสู่สถานีสนามไชย เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรมที่สถานีสามยอด จากนั้นมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ตามแนวถนนเจริญกรุง เข้าสู่ถนนพระรามที่ 4 ที่สถานีหัวลำโพง เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลมอีกครั้งที่สถานีสีลม และมุ่งหน้าต่อจนถึงบริเวณย่านบ่อนไก่ - ตลาดคลองเตย แนวเส้นทางจะเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางเหนือตามแนวถนนรัชดาภิเษก เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท ที่สถานีสุขุมวิท เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และทางรถไฟสายตะวันออกที่สถานีเพชรบุรี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือจนถึงบริเวณสี่แยกรัชดา-ลาดพร้าว เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่สถานีลาดพร้าว จากนั้นแนวเส้นทางจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนลาดพร้าว มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือเข้าถนนพหลโยธิน เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท ที่สถานีพหลโยธิน แล้วลอดใต้ถนนวิภาวดีรังสิต เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิทอีกครั้งที่สถานีหมอชิต เลี้ยวขวาเข้าสู่ศูนย์คมนาคมพหลโยธินตามแนวถนนกำแพงเพชร และยกระดับกลับไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรมที่สถานีเตาปูน จากนั้นยกระดับข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่พื้นที่ฝั่งธนบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนจรัญสนิทวงศ์ และมาสิ้นสุดที่ชานชาลาบนของสถานีท่าพระ รวมระยะทาง 47.8 กิโลเมตร

แผนที่เส้นทาง
แผนที่

รายชื่อสถานี[แก้]

ชื่อและสีของสถานี รหัสสถานี จุดเปลี่ยนเส้นทาง วันที่เปิดให้บริการ
ท่าพระ (จรัญสนิทวงศ์) BL01 ช่วงหัวลำโพง - หลักสอง
สายสีเทา สถานีท่าพระ (โครงการ)
23 ธันวาคม พ.ศ. 2562
จรัญฯ 13 BL02
ไฟฉาย BL03
บางขุนนนท์ BL04 สายสีส้ม สถานีบางขุนนนท์ (โครงการ)
สายสีแดงอ่อน สถานีจรัญสนิทวงศ์ (โครงการ)
บางยี่ขัน BL05
สิรินธร BL06 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562
บางพลัด BL07
บางอ้อ BL08
สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
บางโพ BL09  เรือด่วนเจ้าพระยา  ท่าบางโพ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2562
เตาปูน BL10 สายสีม่วง (สถานีร่วม) 11 สิงหาคม พ.ศ. 2560
บางซื่อ BL11 สายสีแดงอ่อน สายสีแดงเข้ม สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สายซิตี้ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (กำลังก่อสร้าง)
3 กรกฎาคม พ.ศ. 2547
กำแพงเพชร BL12
สวนจตุจักร BL13 สายสุขุมวิท สถานีหมอชิต
พหลโยธิน BL14 สายสุขุมวิท สถานีห้าแยกลาดพร้าว
ลาดพร้าว BL15 สายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว
รัชดาภิเษก BL16
สุทธิสาร BL17
ห้วยขวาง BL18
ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย BL19 สายสีส้ม (สถานีร่วม) (กำลังก่อสร้าง)
พระราม 9 BL20
เพชรบุรี BL21 สายซิตี้ สถานีมักกะสัน
สายสีแดงอ่อน สถานีมักกะสัน (โครงการ)
 เรือโดยสารคลองแสนแสบ  ท่าอโศก
สายสีฟ้า สถานีมักกะสัน (โครงการ)
สุขุมวิท BL22 สายสุขุมวิท สถานีอโศก
ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ BL23 สายสีเทา สถานีพระราม 4 (โครงการ)
คลองเตย BL24 สายสีเทา สถานีคลองเตย (โครงการ)
สายสีแดงอ่อน สถานีคลองเตย (โครงการ)
ลุมพินี BL25 สายสีเทา สถานีลุมพินี (โครงการ)
สายสีฟ้า สถานีลุมพินี (โครงการ)
สีลม BL26 สายสีลม สถานีศาลาแดง
สามย่าน BL27
หัวลำโพง BL28 สายสีแดงเข้ม สถานีหัวลำโพง (โครงการ)
วัดมังกร BL29 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
สามยอด BL30 สายสีม่วง (สถานีร่วม) (กำลังก่อสร้าง)
สนามไชย BL31  เรือด่วนเจ้าพระยา  ท่าราชินี
อุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา
อิสรภาพ BL32 สายสีทอง สถานีอิสรภาพ (โครงการ) 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2562
ท่าพระ (เพชรเกษม) BL01 ช่วงเตาปูน - ท่าพระ
สายสีเทา สถานีท่าพระ (โครงการ)
บางไผ่ BL33 24 สิงหาคม พ.ศ. 2562
บางหว้า BL34 สายสีลม สถานีบางหว้า
เพชรเกษม 48 BL35 21 กันยายน พ.ศ. 2562
ภาษีเจริญ BL36
บางแค BL37
หลักสอง BL38

การเชื่อมต่อ[แก้]

รถไฟฟ้ามหานคร[แก้]

สถานีเตาปูน เป็นสถานีเชื่อมต่อระหว่างสายเฉลิมรัชมงคล กับสายฉลองรัชธรรม

ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังเส้นทางอื่น ๆ ในระบบรถไฟฟ้ามหานครได้ที่สถานีดังต่อไปนี้

รหัสสถานี สถานีรถไฟฟ้ามหานคร สถานีรถไฟฟ้ามหานคร หมายเหตุ
จุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีที่เปิดให้บริการแล้ว[11]
BL10 สถานีเตาปูน สายสีม่วง: สถานีเตาปูน เชื่อมต่อโดยตรง
BL15 สถานีลาดพร้าว สายสีเหลือง: สถานีลาดพร้าว เชื่อมต่อโดยตรงผ่านทางออกที่ 3 ของสายสีเหลือง และระหว่างอาคารจอดรถจากลิฟต์ชั้นร้านค้าของสถานี หรือลิฟต์จากภายในกูร์เมต์ มาร์เก็ต ขึ้นมายังทางเชื่อมสถานีชั้น 4
จุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีในอนาคต [12]
BL04 สถานีบางขุนนนท์ สายสีส้ม: สถานีบางขุนนนท์ เชื่อมต่อโดยตรง
BL19 สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สายสีส้ม: สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เชื่อมต่อโดยตรง
BL30 สถานีสามยอด สายสีม่วง: สถานีสามยอด เชื่อมต่อโดยตรง

รถไฟฟ้าบีทีเอส[แก้]

ทางเข้า-ออกที่ 2 ของ สถานีสีลม สามารถเชื่อมต่อกับสถานีศาลาแดง ได้ด้วยสะพานลอย

ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังรถไฟฟ้าบีทีเอส ได้ที่สถานีดังต่อไปนี้

รหัสสถานี สถานีรถไฟฟ้ามหานคร สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมายเหตุ
จุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีที่เปิดให้บริการแล้ว [13]
BL13 สถานีสวนจตุจักร สายสุขุมวิท : สถานีหมอชิต เชื่อมต่อโดยตรง
BL14 สถานีพหลโยธิน สายสุขุมวิท : สถานีห้าแยกลาดพร้าว เชื่อมต่อด้วยสะพานยกระดับจากตัวสถานีระยะทางประมาณ 350 เมตร
BL22 สถานีสุขุมวิท สายสุขุมวิท : สถานีอโศก เชื่อมต่อด้วยอาคารเชื่อม
BL26 สถานีสีลม สายสีลม : สถานีศาลาแดง เชื่อมต่อด้วยสะพานยกระดับจากตัวสถานีระยะทางประมาณ 150 เมตร
BL34 สถานีบางหว้า สายสีลม : สถานีบางหว้า เชื่อมต่อโดยตรง

รถไฟฟ้าชานเมืองและรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยาน[แก้]

ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังรถไฟฟ้าชานเมืองหรือรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานได้ที่สถานีดังต่อไปนี้

เส้นทางสายรองนอกระบบรถไฟฟ้ามหานคร[แก้]

ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังเส้นทางรถไฟฟ้าสายรองนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในระบบรถไฟฟ้ามหานครได้ที่สถานีดังต่อไปนี้

เส้นทางการคมนาคมทางน้ำ[แก้]

ผู้โดยสารสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังเรือโดยสารต่าง ๆ ได้ที่สถานีดังต่อไปนี้

แผนที่แสดงการเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนอื่น[แก้]

ทางเดินเข้าอาคารข้างเคียง[แก้]

ในบางสถานี ผู้โดยสารสามารถเดินเข้าสู่อาคารข้างเคียงผ่านทางเชื่อมได้ดังนี้ (ตัวเอน หมายถึงกำลังก่อสร้าง)

รูปแบบของโครงการ[แก้]

ทางเข้าสถานีห้วยขวาง
  • เป็นระบบรถไฟฟ้าขนาดหนัก (heavy rail transit)
  • ทางวิ่ง ช่วงใต้ดิน 22 สถานี เป็นอุโมงค์คู่วางตามแนวราบ และตามแนวดิ่ง เส้นผ่าศูนย์กลางภายในอุโมงค์ 5.7 เมตร ความลึกของอุโมงค์ 15-30 เมตรจากระดับพื้นดิน ทางเดินฉุกเฉินกว้าง 0.6 เมตร สูง 2.0 เมตร และช่วงลอดข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (สนามไชย-อิสรภาพ) มีความลึก 30 เมตรจากผิวน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา และ 7 เมตรจากใต้ท้องน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา และช่วงยกระดับ 20 สถานี ยกระดับที่ความสูง 12 เมตรตลอดทั้งโครงการ มีกำแพงกันเสียงและตาข่ายกันสิ่งรบกวนในบางช่วง ยกเว้นช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (บางโพ-บางอ้อ) และช่วงข้ามทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี มีความสูง 24 เมตร และข้ามทางรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง (ตลิ่งชัน-ธนบุรี) มีความสูง 17 เมตร และช่วงข้ามทางรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม กับช่วงเข้าชานชาลาสถานีท่าพระชั้นบน มีความสูงประมาณ 19 เมตร
  • ขนาดราง 1.435 เมตร (European standard guage) โดยมีรางที่ 3 ขนานไปกับรางวิ่งสำหรับจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับตัวรถ
  • ตัวรถเป็นรถปรับอากาศขนาดกว้าง 3.2 เมตร ยาว 20-24 เมตร สูงประมาณ 3.7 เมตร ความจุ 320 คนต่อคัน ต่อพวงได้ 3-6 คันต่อขบวน ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง 750 โวลท์ ป้อนระบบขับเคลื่อนรถ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 50,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง
  • ใช้ระบบอาณัติสัญญาณเดินรถด้วยระบบอัตโนมัติจากศูนย์ควบคุมการเดินรถ และใช้ระบบเก็บค่าโดยสารอัตโนมัติ
ประตูบริเวณชานชาลา กั้นระหว่างชานชาลาและรถไฟฟ้า

ศูนย์ซ่อมบำรุงและศูนย์ควบคุมการเดินรถ[แก้]

โครงการมีศูนย์ซ่อมบำรุงทั้งหมดสองแห่ง ได้แก่ศูนย์ซ่อมบำรุงใหญ่ห้วยขวาง-พระราม 9 ในพื้นที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ถนนพระรามที่ 9 (สำนักบริหารโครงการรถไฟฟ้า สาขา 1 (สีน้ำเงิน) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นพื้นที่ร่วมกับโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม รองรับการซ่อมบำรุงโครงการในฝั่งพระนคร และมีศูนย์ซ่อมบำรุงย่อยเพชรเกษม-กัลปพฤกษ์ ถนนกัลปพฤกษ์ รองรับการซ่อมบำรุงโครงการในฝั่งธนบุรี ระบบเดินรถทั้งระบบมีศูนย์ควบคุมการเดินรถกลางอยู่ที่ศูนย์ซ่อมบำรุงใหญ่ห้วยขวาง-พระราม 9

สิ่งอำนวยความสะดวก[แก้]

มีจุดจอดรถประจำสถานีที่สถานีใต้ดิน 7 สถานี มีจุดจอดรถที่ใช้ร่วมกับรถไฟฟ้าบีทีเอสซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมธนารักษ์ 1 แห่ง จุดจอดรถบริเวณใต้ด่านอโศก 1 ของทางพิเศษศรีรัชซึ่งเป็นพื้นที่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 1 แห่ง จุดจอดรถที่อาคารผู้โดยสารสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมืองของรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ 1 แห่ง จุดจอดรถที่อาคารผู้โดยสารสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ของรถไฟฟ้าสายสีแดง 1 แห่ง และมีอาคารจอดแล้วจร (park and ride) 5 แห่ง ได้แก่ อาคารจอดรถสถานีลาดพร้าว อาคารจอดรถสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย อาคารจอดรถภายในโครงการแอชตัน อโศก สถานีสุขุมวิท (ให้บริการเฉพาะการจอดรถรายเดือน) และอาคารจอดรถสถานีหลักสอง 2 อาคาร

สถานี[แก้]

มีทั้งหมด 42 สถานี เป็นสถานีใต้ดิน 22 สถานี สถานียกระดับ 20 สถานี โดยนับสถานีเชื่อมต่อคือสถานีท่าพระเป็นสถานีเดียว

รูปแบบสถานี

สถานีโดยทั่วไปมีความยาวประมาณ 150 เมตร ยกเว้นสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยที่มีความยาวพิเศษถึง 358 เมตร เนื่องจากเป็นสถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสถานีชุมทางสำหรับนำรถออกจากระบบขึ้นสู่ศูนย์ซ่อมบำรุง สถานีออกแบบให้รองรับรถไฟฟ้าได้สูงสุด 6 ตู้ต่อสถานี มีประตูชานชาลา (platform screen door) ความสูงแบบ Half-Height และ Full-Height ในทุกสถานี สถานีและทางวิ่งใต้ดินออกแบบให้มีความคงทนแข็งแรงรองรับต่อการทรุดตัวของผิวดิน และรองรับต่อแรงสั่นสะเทือนหากเกิดเหตุแผ่นดินไหวโดยไม่เกิดความเสียหายต่อโครงสร้าง ทางเข้าสถานีถูกออกแบบให้มีความสูงจากผิวดินประมาณ 1 เมตรเพื่อรองรับต่อเหตุการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยวัดจากสถิติความสูงที่สูงที่สุดของเหตุการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานคร ส่วนสถานียกระดับออกแบบให้หลบเลี่ยงสาธารณูปโภคใต้ดินและบนดิน และรักษาสภาพผิวจราจรบนถนนมากที่สุด สถานีโดยรวมมีเสายึดสถานีอยู่บริเวณเกาะกลางถนน ยกเว้นสถานีที่ต้องคร่อมอุโมงค์ใต้ดิน จะใช้วิธีการตั้งเสายึดสถานีจากทางเท้าแทน

ขบวนรถโดยสาร[แก้]

ปัจจุบันรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล มีการใช้ขบวนรถอยู่ถึง 2 รุ่น ได้แก่ ขบวนรถซีเมนส์ โมดูลาร์เมโทร และ ซีเมนส์ อินสไปโร

รถไฟฟ้า Siemens Modular Metro (EMU-IBL)

ซีเมนส์ โมดูลาร์ เมโทร (EMU-IBL)[แก้]

ภายในรถไฟฟ้า Siemens รุ่น Modular Metro (EMU-IBL)

สถานะ : ขบวนรถให้บริการตั้งแต่หมายเลข 1 ถึง 19

  • หมายเลขประจำขบวน หมายเลข 1 ถึง 19
  • ความยาว 3 ตู้ต่อ 1 ขบวน
  • จำนวน 19 ขบวน

เป็นรถไฟฟ้าขนาดใหญ่ (Heavy Rail) ขนาดกว้าง 3.2 เมตร ยาว 19.23 เมตร และสูงประมาณ 3.8 เมตร ใช้ล้อเหล็กวิ่งบนรางเหล็ก ตัวรถมีระบบปรับอากาศ สามารถจุผู้โดยสารได้ 320 คนต่อคัน สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากกว่า 40,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทางไป-กลับ ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง 750 โวลต์ ป้อนระบบขับเคลื่อนรถ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับขับเคลื่อนตัวรถ ความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีจำนวนขบวนรถไฟฟ้าทั้งสิ้น 19 ขบวน ซึ่งขบวนหมายเลข 1 ถูกส่งมาประเทศไทยโดยเครื่องบิน

ในปลาย พ.ศ. 2563 รถไฟฟ้ารุ่นนี้ ได้เริ่มทยอยนำมาปรับปรุง (Refurbished) ใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และความสะดวก ของผู้โดยสารภายในขบวนรถ โดยมีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) และ จอแสดงสถานะขบวนรถ (LCD-DRM) โดยเริ่มที่ขบวนหมายเลข 4 (EMU-VN4) เป็นขบวนแรก

ซีเมนส์ บีแอลอี (EMU-BLE)[แก้]

ภายในรถไฟฟ้า Siemens รุ่น Inspiro (EMU-BLE)
รถไฟฟ้า Siemens Inspiro (EMU-BLE)

หมายเลขประจำขบวน หมายเลข 20 ถึง 54

  • ความยาว 3 ตู้ต่อ 1 ขบวน
  • จำนวน 35 ขบวน

รถไฟฟ้ารุ่นบีแอลอี ผลิตโดยซีเมนส์เช่นกัน มีทั้งหมด 35 ขบวน โดยจัดส่งรถไฟฟ้าขบวนแรกในวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2562[14] จัดส่งอีก 9 ขบวนในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562 และอีก 6 ขบวนในเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 ส่งมอบทั้งหมดภายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563[15]

ระบบในการเดินรถ[แก้]

ในการเดินรถไฟฟ้าได้นำระบบอาณัติสัญญาณ Trainguard LZB700M เป็นระบบ Fixed Block ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการควบคุมการเดินรถโดยอัตโนมัติ เพื่อให้การบริการมีประสิทธิภาพ, สะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุด แบ่งเป็น 3 ระบบย่อย คือ

  1. "ระบบควบคุมการเดินรถอัตโนมัติ" เรียกว่า ATO (Automatic Train Operation) เป็นระบบที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานต่างๆ ของขบวนรถไฟฟ้า เช่น การขับเคลื่อนรถไฟฟ้า, การควบคุมความเร็วของรถไฟฟ้า, การควบคุมการห้ามล้อ, การจอดรถไฟฟ้า และการรายงานสถานะของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในตัวรถไฟฟ้าไปยังศูนย์ควบคุม
  2. "ระบบป้องกันอัตโนมัติ" เรียกว่า ATP (Automatic Train Protection) เป็นระบบที่คอยควบคุมไม่ให้รถไฟฟ้าใช้ความเร็วเกินกำหนด ควบคุมความเร็วรถให้อยู่ในพิกัดความเร็วที่สัมพันธ์กับระยะห่างระหว่างรถไฟฟ้าข้างหน้า หากเกิดเหตุผิดปกติ ระบบ ATP จะสั่งการห้ามล้ออัตโนมัติ นอกจากนี้ยังควบคุมการเคลื่อนตัวของรถไฟฟ้าจากสถานีรถไฟฟ้า โดยหากประตูรถไฟฟ้าและประตูกั้นชานชาลายังปิดไม่เรียบร้อย ระบบ ATP จะไม่อนุญาตให้รถไฟฟ้าเคลื่อนตัวออกจากสถานี ต่างจากระบบ ATO ตรงที่มีความอิสระต่างกัน กรณีที่ระบบ ATO ขัดข้อง ต้องใช้คนควบคุมการเดินรถ ระบบ ATP จะยังคอยควบคุมการเดินรถต่อไป
    Dynamic Route Map ของรถไฟฟ้า EMU-BLE
  3. "ระบบกำกับการเดินรถอัตโนมัติ" เรียกว่า ATS (Automatic Train Supervision) เป็นระบบที่คอยควบคุมการเดินรถไฟฟ้าทั้งระบบให้เป็นไปตามตารางการเดินรถ โดยจะส่งข้อมูลต่าง ๆ เช่น ความเร็วของรถไฟฟ้าแต่ละขบวน ติดตามและแสดงตำแหน่งของรถไฟฟ้าทุกขบวนที่อยู่ในระบบ และจัดเตรียมขั้นตอนต่าง ๆ ในการควบคุมการเดินรถ เมื่อระบบการเดินรถมีเหตุขัดข้อง

อุบัติเหตุ[แก้]

วันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2548 หลังจากเปิดบริการได้ 7 เดือน เกิดอุบัติเหตุที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สาเหตุเกิดจากรถไฟฟ้าขบวนหนึ่งได้เคลื่อนขึ้นไปที่ศูนย์ซ่อมบำรุงบนระดับพื้นดิน (ศูนย์ช่อมบำรุงอยู่ระหว่างสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยและสถานีพระราม 9) แต่เกิดปัญหารถไฟฟ้าขัดข้องที่บริเวณทางโค้ง (เป็นบริเวณจุดสับราง) ก่อนถึงด้านบน ทางศูนย์ฯ จึงได้ส่งรถไฟฟ้าอีกขบวนหนึ่งมาช่วยลากรถ แต่เนื่องจากรถไฟฟ้าที่เสียนั้นอยู่บริเวณจุดสับราง จึงไม่สามารถทำการลากรถได้ ทางศูนย์ฯ จึงได้สั่งให้พนักงานขับรถปล่อยเบรกลมออกเพื่อให้รถเคลื่อนที่ออกจากบริเวณจุดสับราง แต่ปรากฏว่าตัวรถเกิดไหลย้อนกลับลงไปในสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในขณะเดียวกันมีรถไฟฟ้าอีกขบวนหนึ่งกำลังจอดรับผู้โดยสารอยู่ในสถานีฝั่งมุ่งหน้าไปสถานีพระราม 9 ระบบอัตโนมัติได้ปิดประตูรถไฟฟ้าเพื่อเตรียมออกสู่สถานีพระราม 9 แต่รถกลับไม่สามารถออกจากสถานีได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ในเวลาไม่กี่นาทีรถไฟฟ้าที่มีผู้โดยสารจึงถูกรถไฟฟ้าที่ไหลมาจากด้านบนชนประสานงา ทำให้มีผู้โดยสารรวมถึงพนักงานประจำสถานีบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต และขบวนรถได้รับความเสียหายทั้ง 2 ขบวน หลังจากเหตุการณ์นั้นทาง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้ออกประกาศหยุดบริการเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อนำขบวนรถที่ชนกันกลับไปซ่อมแซมที่โรงงานบริษัทซีเมนส์และฟื้นฟูสภาพชานชาลาของสถานี พร้อมรับผิดชอบความเสียหายให้กับผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ

ส่วนต่อขยาย[แก้]

ส่วนต่อขยายด้านใต้ (หลักสอง-พุทธมณฑลสาย 4)[แก้]

รายชื่อสถานี[แก้]

รหัส ชื่อสถานี ระยะห่างจาก
สถานีก่อนหน้า
(กิโลเมตร)
โครงสร้าง หมายเหตุ จุดเปลี่ยนเส้นทาง กำหนดเปิดให้บริการ
หลักสอง–พุทธมณฑล สาย 4
BL39 พุทธมณฑล สาย 2 (Phutthamonthon Sai 2) ยกระดับ ระงับแผนชั่วคราวรอประเมินจำนวนผู้โดยสาร
BL40 ทวีวัฒนา (Thawi Watthana)
BL41 หนองแขม (Nong Khaem)
BL42 พุทธมณฑล สาย 4 (Phutthamonthon sai 4)

บริการ[แก้]

การให้บริการปกติ[แก้]

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล เปิดให้บริการเดินรถในแต่ละสถานีไม่เท่ากัน โดยเริ่มเดินรถขบวนแรกในเวลา 05.34 น. จากสถานีหลักสอง และสถานีท่าพระจากชานชาลาที่ 3-4 โดยความถี่การเดินรถจะขึ้นอยู่กับเวลา และความหนาแน่นของผู้โดยสาร แต่เวลาปิดให้บริการจะเร็วกว่าเวลาปิดทำการปกติของระบบ กล่าวคือเมื่อรถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายออกจากสถานีสถานีรถไฟฟ้าจะปิดทำการทันที โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 23.08-00.24 น. จากสถานีหลักสองไปสถานีท่าพระ (ชานชาลาที่ 3-4) และเวลา 23.11-00.27 น. จากสถานีท่าพระ (ชานชาลา 3-4) ไปสถานีหลักสอง ตัวอย่างเช่น สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีรถขบวนสุดท้ายมุ่งหน้าไปสถานีท่าพระในเวลา 23.48 น. แต่มีรถขบวนสุดท้ายมุ่งหน้าไปสถานีหลักสองในเวลา 23.50 น. ฉะนั้นเวลา 23.50 น. จะเป็นเวลาปิดทำการของสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

อนึ่ง เนื่องจากรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม ให้บริการขบวนสุดท้ายตั้งแต่เวลา 23.00 น. จากสถานีคลองบางไผ่ และให้บริการขบวนสุดท้ายจากสถานีเตาปูนในเวลา 23.24 น. ช่วงเวลาตั้งแต่ 22.22-23.19 น. รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล จะมีประกาศข้อความพิเศษว่า "รถไฟฟ้าขบวนนี้เป็นรถไฟฟ้าเชื่อมต่อสายสีม่วงขบวนสุดท้าย ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางไปยังสายสีม่วง กรุณาโดยสารไปกับรถขบวนนี้" และเมื่อรถเชื่อมต่อสายสีม่วงขบวนสุดท้ายออกจากสถานี สถานีจะติดป้ายประกาศแจ้งผู้โดยสารว่า "รถไฟฟ้าเชื่อมต่อสายสีม่วงขบวนสุดท้าย ออกจากสถานีเรียบร้อยแล้ว"

อัตราค่าโดยสาร[แก้]

ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จัดเก็บค่าโดยสารของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ด้วยการคิดตามระยะทางเดินทางที่สั้นที่สุดจากสถานีต้นทางไปยังสถานีปลายทาง และไม่สนใจว่าผู้โดยสารเลือกเดินทางอย่างไร โดยที่ผู้โดยสารมีระยะเวลาอยู่ภายในระบบไม่เกิน 180 นาที หากเกินจากเวลาที่กำหนด จะต้องชำระค่าปรับเป็นอัตราค่าโดยสารสูงสุดที่บริษัทฯ เรียกเก็บในขณะนั้น (43 บาท) อนึ่งอัตราค่าโดยสารที่ประกาศเรียกเก็บมีอายุ 2 ปีนับจากวันที่ 3 กรกฎาคม ของปีที่มีประกาศปรับอัตราค่าโดยสารเป็นลายลักษณ์อักษรจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม ในอีก 2 ปีถัดมา ปัจจุบันตามรอบปรับค่าโดยสารตั้งแต่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 (เริ่มใช้จริง 1 มกราคม พ.ศ. 2566) ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ เรียกเก็บอัตราค่าโดยสารดังต่อไปนี้

อัตราค่าโดยสารแบบเงินสด
  1. อัตราค่าโดยสารสำหรับเหรียญโดยสาร
    • บุคคลทั่วไป เริ่มต้น 17 บาทสูงสุด 43 บาท กรณีเดินทางในสาย และ 70 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
    • เด็ก เริ่มต้น 9 บาท สูงสุด 21 บาท กรณีเดินทางในสาย และ 35 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
    • ผู้สูงอายุ เริ่มต้น 9 บาท สูงสุด 21 บาท กรณีเดินทางในสาย และ 35 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
  2. อัตราค่าโดยสารสำหรับบัตร M, MRT Plus+ และบัตรแรบบิท
    • บุคคลทั่วไป เริ่มต้น 17 บาทสูงสุด 43 บาท กรณีเดินทางในสาย และ 70 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
    • นักเรียน นักศึกษา เริ่มต้น 14 บาท สูงสุด 38 บาทกรณีเดินทางในสาย และ 63 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
    • เด็ก เริ่มต้น 9 บาท สูงสุด 21 บาทกรณีเดินทางในสาย และ 35 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
    • ผู้สูงอายุ เริ่มต้น 9 บาท สูงสุด 21 บาท กรณีเดินทางในสาย และ 35 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด กรณีเดินทางข้ามไปสายสีเหลือง ต้องชำระค่าโดยสารเพิ่มสูงสุด 23 บาทด้วยบัตรแรบบิทประเภทผู้สูงอายุ
    • อัตราค่าโดยสารพิเศษ ใช้จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
  3. อัตราค่าโดยสารสำหรับบัตรแมงมุม
    • บุคคลทั่วไป เริ่มต้น 17 บาทสูงสุด 43 บาท กรณีเดินทางในสาย และ 70 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
    • นักเรียน นักศึกษา เริ่มต้น 14 บาท สูงสุด 38 บาทกรณีเดินทางในสาย และ 63 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
    • ผู้สูงอายุ เริ่มต้น 9 บาท สูงสุด 21 บาทกรณีเดินทางในสาย และ 35 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
    • บัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ เริ่มต้น 17 บาทสูงสุด 42 บาท กรณีเดินทางในสาย และ 70 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย (เฉพาะสายฉลองรัชธรรม) โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด และในบัตรมีงบค่าโดยสารในบัตรให้เดือนละ 500 บาท
    • ผู้โดยสารต้องเปิดใช้งานบัตรแมงมุมมาจากสายฉลองรัชธรรมก่อนนำมาใช้เดินทางในสายเฉลิมรัชมงคล
  4. อัตราค่าโดยสารสำหรับบัตรเดบิต/บัตรเครดิต วีซ่า และมาสเตอร์การ์ด ที่ออกโดยธนาคารในประเทศไทย
    • บุคคลทั่วไป เริ่มต้น 17 บาทสูงสุด 43 บาท กรณีเดินทางในสาย และ 74 บาท กรณีเดินทางข้ามสาย โดยคิดจากระยะทางที่สั้นที่สุด
    • บัตรที่สามารถใช้งานได้จะต้องรองรับวีซ่า เพย์เวฟ หรือมาสเตอร์การ์ด เพย์พาสแล้ว
    • บัตรเดบิตที่สามารถใช้งานได้ในปัจจุบัน (พฤษภาคม พ.ศ. 2566) ได้เฉพาะบัตรเดบิตที่ออกโดย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารยูโอบี (ประเทศไทย)
  5. เงื่อนไขการใช้บัตรนักเรียน นักศึกษา
    • ผู้ที่มีสิทธิ์ใช้บัตรนักเรียน นักศึกษา จะต้องมีอายุไม่เกิน 23 ปี และ/หรือไม่เกินวันเกิดอายุครบ 23 ปี ในสังกัดสถาบันการศึกษา ขอสงวนสิทธิ์ให้ใช้ร่วมกับบัตรนักเรียน/นักศึกษาและบัตรประชาชน หรือบัตรอื่นที่แสดงอายุได้ กรณีที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานดังกล่าวเมื่อได้รับการร้องขอจากเจ้าหน้าที่ หรือใช้บัตรโดยสารผิดประเภทบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้โดยสารในอัตราไม่เกิน 20 เท่าของอัตราค่าโดยสารสูงสุดที่ บริษัทเรียกเก็บ ณ เวลานั้นๆ
อัตราค่าโดยสารแบบเที่ยวเดินทาง
  1. เที่ยวเดินทาง BL Adult Pass (เดินทางในสายเฉลิมรัชมงคลอย่างเดียว)
    • 15 เที่ยว 450 บาท เฉลี่ย 30 บาท/เที่ยว
    • 25 เที่ยว 700 บาท เฉลี่ย 28 บาท/เที่ยว
    • 40 เที่ยว 1,040 บาท เฉลี่ย 26 บาท/เที่ยว
    • 50 เที่ยว 1,250 บาท เฉลี่ย 25 บาท/เที่ยว
  2. เที่ยวเดินทาง ML Adult Pass (เดินทางข้ามสายเฉลิมรัชมงคลกับสายฉลองรัชธรรม)
    • 15 เที่ยว 810 บาท เฉลี่ย 54 บาท/เที่ยว
    • 25 เที่ยว 1,300 บาท เฉลี่ย 52 บาท/เที่ยว
    • 40 เที่ยว 2,000 บาท เฉลี่ย 50 บาท/เที่ยว
    • 50 เที่ยว 2,250 บาท เฉลี่ย 45 บาท/เที่ยว
  3. เงื่อนไขการใช้เที่ยวเดินทาง
    • เที่ยวเดินทางสามารถใช้งานได้เฉพาะบัตร M และบัตร MRT Plus+ ประเภทบุคคลธรรมดาเท่านั้น บัตรแมงมุม รวมถึงบัตรแบบเติมเงินประเภทนักเรียน-นักศึกษา, ผู้สูงอายุ และบัตรเด็กไม่สามารถนำมาใช้ซื้อเที่ยวเดินทางได้
    • เที่ยวเดินทางมีอายุ 45 วัน นับจากวันที่ซื้อเที่ยวเดินทาง และมีอายุ 30 วัน นับจากวันที่ใช้งานครั้งแรก
    • กรณีใช้เที่ยวเดินทาง BL Adult Pass เดินทางข้ามสายไปสายฉลองรัชธรรม ผู้โดยสารจะต้องชำระค่าโดยสารในสายฉลองรัชธรรมเพิ่มตั้งแต่สถานีเตาปูนจนถึงสถานีปลายทางเต็มจำนวนโดยไม่มีส่วนลดค่าแรกเข้า
หมายเหตุ
  • การเดินทางข้ามสาย หมายถึง การเดินทางระหว่างรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง โดยที่
    • ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางข้ามสาย ระหว่างสายสีน้ำเงิน กับสายสีม่วง สามารถใช้เหรียญหรือบัตรโดยสารในการเดินทางได้ โดยไม่ต้องออกจากระบบระหว่างการเปลี่ยนสายรถไฟฟ้าสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานีร่วม
    • ผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางข้ามสาย ระหว่างสายสีน้ำเงิน กับสายสีเหลือง ต้องใช้บัตรเดบิต/บัตรเครดิต วีซ่า และมาสเตอร์การ์ดใบเดียวกัน แตะออกจากระบบที่สถานีลาดพร้าว และต้องแตะกลับเข้าระบบภายในระยะเวลา 30 นาที ทั้งนี้ผู้โดยสารต้องชำระค่าโดยสารเต็มอัตราทั้งสองระบบ แต่ระบบของ รฟม. จะคืนค่าแรกเข้าของสายที่สองให้ภายใน 3 วันทำการ
  • ระยะทางที่สั้นที่สุด หมายถึง การคิดค่าโดยสารจากสถานีต้นทางไปยังสถานีปลายทางผ่านเส้นทางที่สั้นที่สุด โดยตัดจุดกึ่งกลางระบบภายในเส้นวงกลมที่สถานีสุทธิสาร ตัวอย่างเช่น จากสถานีหลักสอง - สถานีจรัญฯ 13 จะคิดค่าโดยสารจากสถานีหลักสองขึ้นมาจนถึงสถานีท่าพระ แล้วลัดไปคิดค่าโดยสารฝั่งจรัญสนิทวงศ์ทันที แม้ผู้โดยสารเลือกเดินทางอ้อมเส้นทางก็ตาม

สิทธิประโยชน์เพิ่มเติม[แก้]

  1. สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี และ/หรือ ไม่เกินวันเกิดอายุครบ 14 ปี และมีช่วงความสูงไม่เกิน 90 ซม. ได้รับการยกเว้นค่าโดยสาร
  2. ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และ/หรือตั้งแต่วันเกิดอายุครบ 60 ปี จะได้รับสิทธิลดหย่อนค่าโดยสารเช่นเดียวกับผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 ถึง 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
  3. สำหรับประชาชนทุกคนในโอกาสวันสำคัญทางราชการ เช่นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2554 ฯลฯ สามารถโดยสารรถไฟฟ้าได้โดยได้รับการยกเว้นค่าโดยสาร ตามเวลาที่ประกาศกำหนด
  4. สำหรับประชาชนทุกคนในพิธีการสำคัญระดับประเทศ เช่น พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฯลฯ สามารถโดยสารรถไฟฟ้าได้โดยได้รับการยกเว้นค่าโดยสาร ตามเวลาที่ประกาศกำหนด
  5. สำหรับประชาชนที่เป็นบิดาหรือมารดาในวันพ่อแห่งชาติ และ วันแม่แห่งชาติ
  6. ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปได้รับการยกเว้นค่าโดยสารช่วงวันสงกรานต์ 13-15 เมษายน

มาตรการความปลอดภัยและเวลาเร่งด่วน[แก้]

ข้อกำหนด ออกตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ว่าด้วยความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน การรักษาความสงบเรียบร้อยความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในเขตระบบรถไฟฟ้า พ.ศ. 2547[17] รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคลด้วยปรากฏว่ามีการโดยสารที่แออัดในเวลาเช้าทางรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคลจึงประกาศข้อกำหนดดังต่อไปนี้

  1. ผู้โดยสารทุกคนมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ณ สถานีจตุจักร เฉพาะผู้เดินทางไปยังปลายทางสถานีบางซื่อ ในเวลา 6.50-9.15 ในบางขบวนผู้โดยสารกรุณาให้ความร่วมมือลงจากรถ ณ สถานีดังกล่าว และผู้โดยสารที่จะเดินทางไปปลายทางหัวลำโพงจากสถานีบางซื่อ, กำแพงเพชร และสถานีจตุจักร จะต้องรอรถโดยสารประมาณ 7 นาที
  2. เฉพาะชานชาลาชั้นบนของสถานีท่าพระ และสถานีหลักสอง จะไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารเข้าไปในตัวรถโดยสารโดยเด็ดขาด จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
  3. อาศัยอำนาจตาม กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ว่าด้วยความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน การรักษาความสงบเรียบร้อยความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในเขตระบบรถไฟฟ้า พ.ศ. 2547 มาตรา 3 ที่กำหนดไว้คนโดยสารหรือบุคคลอื่นในเขตระบบรถไฟฟ้ามีหน้าที่ปฏิบัติตามเครื่องหมาย, ประกาศ, ป้าย หรือสัญญาณอื่นใด ตลอดจนคำแนะนำและคำตักเตือนของพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นการบังคับตามข้อกำหนดนี้
  4. ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดซึ่งออกตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ว่าด้วยความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน การรักษาความสงบเรียบร้อยความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในเขตระบบรถไฟฟ้า พ.ศ. 2547 มาตรา 3 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับทั้งนี้อาศัยอำนาจตาม มาตรา 62 มาตรา 77 พรบ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 บัญญัติให้สามารถกระทำได้[18]

ข้อกำหนดต่าง ๆ มีเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้โดยสารอาทิเช่นมีการวิจัยว่าผู้โดยสารตั้งแต่สถานีจตุจักรไปยังสถานีหัวลำโพงมีจำนวนในช่วงเช้าจึงจำเป็นต้องให้ผู้โดยสารในสถานีต้นสาย เสียสละเวลาเล็กน้อย เพื่อลดความหนาแน่นในขบวนรถไฟในช่วงเช้าและจะได้มีความปลอดภัยในทรัพย์สินมากขึ้นเนื่องจากมักมีการปล้นทรัพย์โดยอาศัยความหนาแน่นของจำนวนผู้โดยสารซึ่งเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่ามีโอกาสเกิดได้มากกว่ากรณีที่ผู้โดยสารเบาบาง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องให้ผู้โดยสารออกนอกตัวรถเนื่องจากรถจะทำการกลับไปยังสถานีเดิม จึงต้องทำการตรวจรถโดยสารแต่ไม่ตรวจผู้โดยสาร และเชิญผู้โดยสารออกนอกรถด้วยวาจาสุภาพ อย่างไรก็ตามหากผู้โดยสารไม่ให้ความร่วมมืออาจมีความผิดฐานขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2,000 บาท และผู้โดยสารมีสิทธิฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการด้วยวาจาไม่สุภาพ, ข่มขู่, ทำร้าย หรือคุกคามได้ เฉพาะข้อหนึ่งของประกาศมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป

การสนับสนุนภาครัฐ[แก้]

คนพิการขึ้นรถไฟฟ้าฟรี[แก้]

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล เป็นเพียงรถไฟฟ้าสายเดียวที่สนับสนุนโยบายภาครัฐในการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ถือบัตรผู้พิการ โดยไม่คิดค่าโดยสารกับผู้ถือบัตรผู้พิการที่ออกโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งนี้ผู้โดยสารจะต้องแจ้งความประสงค์ในการใช้บริการผ่านระบบโทรศัพท์ภายในบริเวณทางเข้าสถานี หรือผ่านศูนย์ข้อมูลผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อให้พนักงานในสถานีส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นมารับผู้โดยสาร จากนั้นผู้โดยสารจะต้องแจ้งสถานีปลายทางที่จะเดินทาง เพื่อประสานงานในการรับส่งผู้โดยสาร ณ สถานีปลายทางต่อไป หากแต่ผู้โดยสารประสงค์ที่จะเปลี่ยนสถานีกลางคัน ก็พึงทำได้โดยแจ้งพนักงานขับรถไฟฟ้าผ่านระบบอินเตอร์คอมภายในขบวนรถไฟฟ้า

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ ขึ้นรถไฟฟ้าฟรี[แก้]

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล สนับสนุนนโยบายลดค่าครองชีพของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ โดยสามารถโดยสารรถไฟฟ้ามหานครได้ฟรีโดยมีงบค่าโดยสารภายในบัตร 500 บาทต่อเดือน ผู้ที่ถือบัตรเวอร์ชัน 2.5 (มีตราสัญลักษณ์แมงมุมที่ด้านหลังบัตร) สามารถนำบัตรดังกล่าวไปเปิดใช้งานได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสารของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล หรือสายฉลองรัชธรรม เพียงครั้งเดียว ก็สามารถนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐฯ ใบนั้นไปแตะเข้าสู่ระบบได้ทันที ทั้งนี้วงเงินดังกล่าวสามารถติดลบได้เหมือนกับบัตรแมงมุมทั่วไป และจะหักออกจากงบ 500 บาท เมื่อถึงวันตัดรอบบัญชี แต่สำหรับผู้ถือบัตรเวอร์ชัน 3.0 และ 4.0 (มีตราสัญลักษณ์พร้อมท์การ์ดที่ด้านหลังบัตร) สามารถนำบัตรดังกล่าวไปออกเหรียญโดยสารเที่ยวเดียวได้ที่ห้องจำหน่ายบัตรโดยสาร หากใช้บริการเกินวงเงิน เจ้าหน้าที่จะออกเหรียญโดยสารมูลค่าต่ำสุด (16 บาท) ให้ใช้เดินทาง และต้องชำระส่วนต่างที่สถานีปลายทางก่อนออกจากระบบ

การช่วยเหลือคนที่มีความต้องการพิเศษ[แก้]

พนักงานของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล รวมถึงพนักงานรักษาความปลอดภัยมีความเต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้มีความพิการ อาทิการจูงผู้พิการทางสายตาไปยังสถานี การให้บริการติดตามผู้โดยสารที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษโดยให้พนักงานเดินทางไปด้วย เช่นผู้โดยสารที่เดินทางครั้งแรก ฯลฯ เพียงท่านแจ้งให้พนักงานสถานีทราบเท่านั้น

การรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน[แก้]

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคลในทุกสถานีมีบริการเพื่อการรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนดังต่อไปนี้

  1. บริการปุ่มหยุดฉุกเฉินบันไดเลื่อน
  2. บริการปุ่มแจ้งเหตุไฟไหม้
  3. บริการโทรศัพท์แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย
  4. บริการทางออกฉุกเฉินในสถานี
  5. บริการแจ้งเหตุกับตำรวจผ่านตู้รับเรื่องร้องเรียน
  6. บริการคันโยกฉุกเฉินภายในรถไฟฟ้าเพื่อเปิดประตูรถกรณีฉุกเฉิน
  7. บริการอุปกรณ์ดับเพลิง
  8. บริการกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

หมายเหตุ:

  • ผู้โดยสารที่ใช้บริการตาม ข้อ 1-5 โดยไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉินระวางโทษปรับ 1,000 บาท
  • ผู้โดยสารที่ใช้บริการตาม 6-7 โดยไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉินหรือใช้ตามสถานการณ์ฉุกเฉินแต่ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้อุปกรณ์ ระวางโทษปรับ 1,000 บาท และ จำคุก 1 เดือน
  • ผู้โดยสารที่ใช้บริการตามข้อ 1-7 หากมีผู้ใดฟ้องร้องในความผิดอื่นใดระวางโทษตามประมวลกฎหมายอาญา
  • หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นห้ามใช้ลิฟต์โดยเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนข้อบังคับนี้จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ระวางโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท
  • อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 374 หากมีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นผู้ใดเห็นผู้อื่นตกอยู่ในภยันตรายแห่งชีวิต ซึ่งตนอาจช่วยได้โดยไม่ควรกลัวอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น ระวางโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท
  • อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 372 ห้ามผู้ใดทะเลาะกันอย่างอื้ออึงเสียในทางสาธารณะ หรือสาธารณสถาน หรือกระทำการอื่นใดให้สูญเสียความสงบเรียบร้อย หากฝ่าฝืน มีโทษปรับ 500 บาท
  • อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 หากการกระทำนั้น เป็นการดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท
  • อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 370 ถ้าการกระทำอันเป็นการทะเลาะกัน หรือจงใจก่อให้เกิดเสียงอื่นใดนั้นส่งผลให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ปรับ 100 บาท
  • อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 373 ห้ามผู้ใดที่ควบคุมบุคคลวิกลจริต ปล่อยปละละเลยให้บุคคลวิกลจริตออกเที่ยวตามลำพัง หากฝ่าฝืน มีโทษปรับ 500 บาท
  • ผู้โดยสารที่ ถูกประทุษร้าย ถูกโจรโจรกรรม ถูกกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล สามารถขอใช้บริการตรวจกล้องวงจรปิดได้

พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554[แก้]

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล จัดบริการสารคดี พระราชอารมณ์ขัน ให้แก่ผู้โดยสารชมฟรี ทุกขบวนรถ และสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ด้วยการติดสติ๊กเกอร์ ตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ที่บริเวณกระจกกั้นชานชาลาทุกสถานี

การรักษาความสะอาด[แก้]

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล อยู่ภายใต้กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ว่าด้วยความปลอดภัยในชีวิตร่างกายและทรัพย์สิน การรักษาความสงบเรียบร้อยความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในเขตระบบรถไฟฟ้า พ.ศ. 2547 หากผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท และพระราชบัญญัติ รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535[19] ซึ่งหากมีผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 2,000 บาท

ทั้งนี้อาจมีข้อบังคับอื่น ๆ เช่น ห้ามนำอาหารที่มีกลิ่นแรงเข้าภายในสถานีรถไฟฟ้า ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในพื้นที่ชำระเงินแล้ว, ห้ามดื่มสุราภายในสถานี, ห้ามทิ้งสิ่งปฏิกูล, ห้ามถ่มน้ำลาย, น้ำมูก, เสมหะ, อาเจียน, ปัสสาวะ และคายหมากฝรั่งภายในสถานีบริเวณสถานีอย่างเด็ดขาดหากฝ่าฝืน จะมีโทษ ตามกฎกระทรวง และพรบ.ความสะอาด จำคุก 1 เดือน ปรับ 3,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การสูบบุหรี่ภายในสถานีถือว่ามีความผิด มีโทษปรับ 2,000 บาท และหากทิ้งบุหรี่ภายในสถานีจะมีโทษปรับเพิ่ม 2,000 บาท อาศัยอำนาจตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 19 พ.ศ. 2553 [20] และพระราชบัญญัติ รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535

พันธมิตรธุรกิจ[แก้]

รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ร่วมกับสหพัฒนพิบูล จัดรายการ ให้ผู้โดยสารได้มีโอกาสรับประทานมาม่าฟรีตลอดทั้งปี โดยเริ่มครั้งแรกเมื่อ ปี พ.ศ. 2553 และยังคงมีจัดปีละครั้งนอกจากนั้นยังมีพันธมิตรธุรกิจลดราคาค่าโดยสารโดยมีเงื่อนไขเช่นเติมเงินทุก 300 บาท ฯลฯ หรือลดราคาให้ลูกค้าที่ใช้บริการกับพันธมิตรธุรกิจของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

การตรวจค้นกระเป๋า[แก้]

อาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543 มาตรา 63 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญามีหน้าที่รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในเขตระบบไฟฟ้าตามกฎกระทรวงหรือตามที่ผู้ว่าการมอบหมาย และให้มีอำนาจดังต่อไปนี้ 1.ค้นหรือจับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งหน้าตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อส่งให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย[21] พนักงานเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล จึงมีอำนาจตามกฎหมายดังกล่าว ทั้งนี้อาศัยอำนาจตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 93 การตรวจค้นสิ่งของในความครอบครองของบุคคลในที่สาธารณะจะกระทำไม่ได้เลย เว้นแต่เจ้าพนักงานปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้นเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลนั้นมีสิ่งของในความครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรือซึ่งได้มาโดยการกระทำความผิดหรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด[22]
เจ้าหน้าที่ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาจึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 93 ตรวจค้นบุคคลที่เครื่องตรวจจับโลหะชนิดเดินผ่าน[23]่ ส่งสัญญาณเนื่องจากเจ้าหน้าที่มีความเห็นวา มีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลนั้นมีสิ่งของในความครอบครองเพื่อจะใช้ในการกระทำความผิด หรือซึ่งได้มาโดยการกระทำความผิดหรือซึ่งมีไว้เป็นความผิด[24]

บริการอื่น ๆ[แก้]

ศูนย์การค้าเมโทรมอลล์ที่สถานีพหลโยธิน
อาคารที่จอดรถบริเวณสถานีลาดพร้าว ใกล้แยกรัชดา-ลาดพร้าว
  • ที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร มีพื้นที่จอดรถสำหรับการจอดรถรายวันให้ในบริเวณสถานีรัชดาภิเษก สถานีห้วยขวาง สถานีพระราม 9 สถานีเพชรบุรี สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานีสามย่าน และสถานีอิสรภาพ นอกเหนือจากนั้นจำเป็นจะต้องใช้ที่จอดรถของอาคารข้างเคียง และยังมีพื้นที่พิเศษซึ่งเตรียมไว้สำหรับการจอดรถเป็นจำนวนมาก ได้แก่ สถานีบางซื่อ บริเวณชั้นใต้ดินของอาคารสถานีกลางบางซื่อ สามารถจอดได้ 1,100 คัน สถานีสวนจตุจักร บริเวณขนส่งหมอชิตเดิม หรือด้านหน้าศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าบีทีเอส สามารถจอดได้ถึง 1,250 คัน และสถานีเพชรบุรี ที่บริเวณใต้ทางพิเศษศรีรัช (ด่านอโศก 1) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย สามารถจอดได้ 300 คัน และพื้นที่ภายในสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานกรุงเทพมหานคร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถจอดได้ประมาณ 500 คัน
  • อาคารจอดแล้วจร รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล มีบริการอาคารจอดรถและจุดจอดรถจักรยานยนต์ 3 แห่ง ได้แก่ อาคารจอดรถ 9 ชั้นบริเวณสถานีลาดพร้าว อาคารจอดรถ 3 ชั้นบริเวณสถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และอาคารจอดแล้วจร 1-2 บริเวณสถานีหลักสอง ซึ่งบริการทั้งแบบรายวันและรายเดือน[25] ทั้งนี้ผู้ที่ใช้บริการจะได้รับบัตร MRT Plus "Park n' Ride" ซึ่งเป็นบัตรสำหรับจอดรถและบัตรโดยสารรถไฟฟ้าในตัว หากทำบัตรสูญหายจะมีโทษปรับ 500 บาทไม่เว้นทุกกรณี พร้อมทั้งต้องแสดงหลักฐานเป็นเจ้าของรถมาแสดง ผู้โดยสารสามารถใช้บัตร MRT Plus "Park n' Ride" ในการเดินทางภายในระบบรถไฟฟ้ามหานคร ทั้งสายเฉลิมรัชมงคล และสายฉลองรัชธรรมได้โดยไม่ต้องออกบัตรโดยสารใหม่ โดยมีวงเงินการเดินทางต่อครั้งไม่เกิน 500 บาท และผู้โดยสารจะต้องแตะบัตรที่สถานีปลายทางเพื่อบันทึกการใช้งาน จากนั้นผู้โดยสารจะต้องนำบัตรมาคืน พร้อมชำระค่าโดยสาร ค่าจอดรถและรับรถคืนภายในเวลาที่กำหนด กล่าวคือเฉพาะเวลา 05.00-01.00 น. เท่านั้น แต่หากลืมแตะบัตรจะคิดในราคาเท่ากับผู้ไม่ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล คือ 50 บาทต่อชั่วโมง การจอดรถนานเกินช่วงเวลาดังกล่าวจะมีอัตราโทษปรับตามเกณฑ์ที่กำหนดในขณะนั้น ๆ ปัจจุบันคือผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ปรับ 300 บาท หากไม่ใช้บริการปรับ 1,000 บาท เนื่องจากไม่รับฝากรถเพียงแค่รับฝากเฉพาะผู้ใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล เท่านั้น
  • ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มีบริการศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและซื้อสินค้าที่สถานีกำแพงเพชร เปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น
  • ศูนย์การค้า มีบริการศูนย์การค้าเมโทรมอลล์ที่ สถานีคลองเตย, สถานีสุขุมวิท, สถานีพระราม 9, สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย, สถานีพหลโยธิน และสถานีสวนจตุจักร ซึ่งรวมทั้งร้านค้าบริการ และร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภายในสถานี และมีบริการซูเปอร์มาร์เก็ต กูร์เมต์ มาร์เก็ต ที่สถานีลาดพร้าว และสถานีเพชรบุรี ซึ่งให้บริการซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหาร อย่างไรก็ตามไม่อนุญาตให้นำเข้าในบริเวณชั้นจำหน่ายตั๋วโดยสาร
  • ตู้ถอนเงิน มีบริการตู้ถอนเงินในทุกสถานีจากหลากหลายธนาคาร
  • โทรศัพท์ ในอดีตมีบริการโทรศัพท์และตู้ทำธุรกรรมทางการเงินจาก ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้บริการแต่ปัจจุบันได้ยกเลิกทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับ เอไอเอส, ดีแทค และ ทรูมูฟ เอช ในการวางโครงข่ายโทรศัพท์มือถือทั้ง 3G และ 4G ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. ครม.ไฟเขียวให้เอกชนเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายรูปแบบ PPP net cost
  2. "ผู้โดยสารเฮ! รถไฟฟ้า MRT เตรียมนำ 'ตั๋วเที่ยว' กลับมาขายใหม่". The Bangkok Insight. 18 กรกฎาคม 2562.
  3. "ปริมาณผู้โดยสาร ประจำเดือนสิงหาคม". Facebook กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม. 20 กันยายน 2566.
  4. ประวัติ รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล
  5. ก่อสร้าง รถไฟฟ้ามหานคร สายสีน้ำเงิน[ลิงก์เสีย]
  6. สยามรัฐรายวัน (18 ตุลาคม 2560). "รายงานพิเศษ | น้ำพระทัยฯ ทรงเปี่ยมล้นหลั่งคนกรุง เสด็จทรงเปิด "รถไฟฟ้า" แก้ปัญหาจราจร". siamrath.co.th. สืบค้นเมื่อ 30 มิถุนายน 2562. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  7. "เอกชนเป็นผู้ดำเนินระบบรถไฟฟ้าและกิจการ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2021-08-07. สืบค้นเมื่อ 2021-08-07.
  8. "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อโครงการรถไฟฟ้ามหานคร" เก็บถาวร 2008-09-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย.
  9. พระราชทานชื่อ “เฉลิมรัชมงคล” รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย
  10. ไทยรัฐ (13 พฤศจิกายน 2563). ""ในหลวง-พระราชินี" ทรงเปิด ส่วนขยายสายสีน้ำเงิน 14 พ.ย. สถานีสนามไชย-หลักสอง". thairath.co.th. สืบค้นเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2563. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  11. เว็บไซต์ MRTA เก็บถาวร 2021-12-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน แผนที่บริเวณสถานีของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล
  12. จุดเชื่อมต่อสายสีส้มในอนาคต[ลิงก์เสีย]
  13. เว็บไซต์ MRTA เก็บถาวร 2021-12-24 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน แผนที่บริเวณสถานีของรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล
  14. รถไฟฟ้าขบวนใหม่ขบวนแรกเดินทางถึงท่าเรือแหลมฉบังแล้ว, MRT Bangkok Metro
  15. เปิด Timeline รถไฟฟ้าขบวนแรกถึงไทยเมษายนนี้, การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
  16. ขึ้นฟรีรถไฟฟ้า ‘หัวลำโพง-บางแค’ ก.ค.นี้ ลุ้นสร้างต่อ ‘พุทธมณฑล’
  17. เริ่มต้นวันใหม่อย่างไร ทำอะไรดีที่สุด และเมื่อไหร่
  18. "พรบ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-07. สืบค้นเมื่อ 2011-04-29.
  19. พระราชบัญญัติ รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535
  20. พรบ.ความสะอาด จำคุก 1 เดือน ปรับ 3,000 บาท
  21. "พรบ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ.2543". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-07. สืบค้นเมื่อ 2011-04-29.
  22. การมีอยู่ของตัวเราเอง
  23. อุ่นใจนั่ง “รถไฟฟ้า MRT” เที่ยวปีใหม่
  24. กฎหมายฮาเฮ : ตรวจกระเป๋าก่อนลงรถไฟใต้ดิน
  25. "รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-01. สืบค้นเมื่อ 2018-08-17.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]