ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยเชียงใหม่"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 126: | บรรทัด 126: | ||
*[[คณะศึกษาศาสตร์]]<sup>[http://www.edu.cmu.ac.th/ เว็บ]</sup> |
*[[คณะศึกษาศาสตร์]]<sup>[http://www.edu.cmu.ac.th/ เว็บ]</sup> |
||
*[[คณะมนุษยศาสตร์]]<sup>[http://www.human.cmu.ac.th/ เว็บ]</sup> |
*[[คณะมนุษยศาสตร์]]<sup>[http://www.human.cmu.ac.th/ เว็บ]</sup> |
||
*[[คณะสังคมศาสตร์]]<sup>[http://www.soc.cmu.ac.th/ เว็บ]</sup> |
*[[คณะสังคมศาสตร์〉〉คณะรัฐศาสตร์และรัฐประสานศาสตร์]]<sup>[http://www.soc.cmu.ac.th/ เว็บ]</sup> |
||
*[http://www.dent.cmu.ac.th/ คณะทันตแพทยศาสตร์] |
*[http://www.dent.cmu.ac.th/ คณะทันตแพทยศาสตร์] |
||
*[http://www.agri.cmu.ac.th/ คณะเกษตรศาสตร์] |
*[http://www.agri.cmu.ac.th/ คณะเกษตรศาสตร์] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:20, 20 มกราคม 2549
Chiangmai | |
คติพจน์ | "อตฺตานํ ทมยนฺติ ปณฺฑิตา" (บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกฝนตนเอง) |
---|---|
ประเภท | รัฐบาล |
สถาปนา | พ.ศ. 2508 |
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาคแห่งแรกของประเทศไทย โดยใช้ชื่อตามจังหวัดเป็นแห่งแรก เป็นศูนย์กลางการศึกษาของภาคเหนือ ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ประวัติ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยที่ตั้งขึ้นในส่วนภูมิภาค และเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกที่เรียกชื่อตามชื่อเมือง ปัจจุบันมหาวิทยาลัยนี้ตั้งอยู่เชิงดอยสุเทพ อำเภอเมือง เชียงใหม่ ขนาบด้วยถนนห้วยแก้ว และถนนสุเทพ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 4 ก.ม. และมีเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่เศษ เปิดทำการสอน เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.2507
ปี พ.ศ.2484 รัฐบาลมีนโยบายที่จะจัดตั้งมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาคขึ้นแต่เกิดสงครามโลก ครั้งที่ 2 การดำเนินงานจึงชะงักลง ต่อมาในปี พ.ศ.2501 รัฐบาลชุดจอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาว่า " จะดำเนินการพัฒนาการศึกษาในส่วนภูมิภาค ตลอดถึงการศึกษาชั้นสูง " พ.ศ.2502 ได้มีการประชุมโครงการพัฒนาการศึกษาในส่วนภูมิภาค ภาคการศึกษา 8 ณ จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ม.ล.ปิ่น มาลากุล) เป็นประธาน ที่ประชุมมีความเห็นว่า " น่าจะจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ " พ.ศ.2503 รัฐบาลชุด จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้ลงมติอนุมัติให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรียกชื่อมหาวิทยาลัยนี้ว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
- เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการพัฒนาภาคเหนือ ทั้งด้านการศึกษาและวิชาชีพ
- ต้องการให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์มีคณะ/ภาควิชา ต่าง ๆ เปิดสอนครบถ้วนตามหลักสากล
- นอกจากจะเป็นสถาบันสำหรับการศึกษา และวิจัยแล้ว เหตุผลอีกอย่างหนึ่งคือ ต้องการสร้างความรอบรู้และสร้างนิสัยให้แก่นักศึกษาด้วย
มหาวิทยาลัยเชียงเปิดทำการสอนเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2507 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นองค์ประธาน ในพิธีเปิดมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2508 ในระยะเริ่มต้นได้เปิดดำเนินการสอนเพียง 3 คณะ ที่เป็นรากฐานของทุกสาขาวิชาคือ คณะมนุษยศาสตร์คณะสังคมศาสตร์ และคณะวิทยาศาสตร์ต่อมาในปี พ.ศ. 2508 ได้รับโอนกิจการคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลนครเชียงใหม่จากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มาเป็นคณะแพทยศาสตร์สังกัดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในปีเดียวกันนี้เอง ได้เริ่มจัดตั้งคณะเกษตรศาสตร์ขึ้นอีกคณะหนึ่ง ในปีการศึกษา 2511 ได้จัดตั้งคณะศึกษาศาสตร์ และในปีการศึกษา 2513 ได้จัดตั้งคณะใหม่อีก คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2515 จึง ได้จัดตั้งเพิ่มขึ้นอีก 3 คณะคือ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ปัจจุบันนี้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีคณะทั้งหมดด้วยกัน 17 คณะ โดยในปี พ.ศ. 2518 ได้จัดตั้งคณะเทคนิคการแพทย์เพิ่มขึ้นและตั้งบัณฑิตวิทยาลัยเมื่อปี พ.ศ. 2519 เพื่อเป็นหน่วยประสานงานด้านการเรียนการสอนและมาตรฐานหลักสูตรขั้นบัณฑิตศึกษามีฐานะเทียบเท่าคณะหนึ่งแต่การดำเนินงานด้าน การสอนและการวิจัยซึ่งกระทำโดยคณาจารย์ของคณะ และได้มีการจัดตั้งคณะวิจิตรศิลป์ขึ้น ในปี พ.ศ. 2525 เปิดรับนักศึกษาตั้งแต่ ปีการศึกษา 2526 ในปี 2536 ได้จัดตั้งคณะเพิ่มขึ้นอีก 3 คณะ คือ คณะเศรษฐศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ และคณะอุตสาหกรรมเกษตร และในปี พ.ศ. 2538 ได้จัดตั้งคณะเพิ่มอีก 1 คณะคือคณะสัตวแพทยศาสตร์ และในปี พ.ศ. 2543 ได้มีการจัดตั้งคณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ ขึ้นเป็นคณะที่ 17
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงเป็นมหาวิทยาลัยที่สมบูรณ์แบบ คือเปิดสอนวิชาการและวิชาชีพชั้นสูงทุกสาขาวิชา ตามหลักของ UNESCO ดังที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้แต่เดิมมา
พื้นที่ในมหาวิทยาลัย
พื้นที่ในความดูแลของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวม 8,502 ไร่ พื้นที่บางส่วนเป็นที่ดินของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เอง ซึ่งมีการซื้อหรือเวนคืนในช่วงการจัดตั้งมหาวิทยาลัย บางส่วนหน่วยงานราชการอื่น โดยเฉพาะกรมป่าไม้ อนุญาตให้ใช้ประโยชน์ได้ และมีบางส่วนได้รับจากผู้มีจิตศรัทธา พื้นที่เหล่านี้กระจายอยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ดังนี้
- บริเวณเชิงดอยและสวนดอก 1,812 ไร่
- บริเวณสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมการเกษตรแม่เหียะ 1,293 ไร่
- บริเวณสถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมการเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน 550 ไร่
- บริเวณสถานีวิจัยการเกษตรที่สูงดอยป่าเกี๊ยะ 30 ไร่
- บริเวณสถานีวิจัยการเกษตรที่สูงหนองหอย 50 ไร
- บริเวณค่ายสำรวจคณะวิศวกรรมศาสตร์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ่ 17 ไร
- พื้นที่บริจาคให้แก่คณะแพทยศาสตร์ 12 ไร่
- พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ แม่ธิ-แม่ตีบ-แม่สาร ตำบลศรีบัวบาน อ.เมือง จ.ลำพูน 4,726 ไร่
- ที่ราชพัสดุ ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 12 ไร
นโยบาย
ปณิธาน
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐและเจตนารมณ์ของประชาชนในภาคเหนือ ให้เป็นศูนย์กลางทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง เพื่ออำนวยประโยชน์แก่ท้องถิ่นและประเทศชาติโดยส่วนรวม มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นแหล่งสะสม ค้นคว้า วิจัย และถ่ายทอดความรู้ ตามหลักแห่งเสรีภาพทางวิชาการ โดยยึดมั่นในสัจธรรมและคุณธรรม เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ การประยุกต์ เผยแพร่ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม บัณฑิตแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พึงฝักใฝ่ในการฝึกตนเป็นผู้รู้จริง คิดเป็น ปฏิบัติได้ สามารถครองตน และครองงาน ด้วยมโนธรรม และจิตสำนึกต่อ...
วิสัยทัศน์
“ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่มุ่งเน้นการวิจัย การผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ มีความเป็นเลิศทางวิชาการ มีระบบการบริหารจัดการที่ดี และจัดหาทรัพยากรเพื่อการพัฒนา และการพึ่งพาตนเองได้ ”
พันธกิจ
- จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาและวิชาชีพชั้นสูง โดยมุ่งเน้นความเป็นเลิศทางวิชาการและคุณภาพตามมาตรฐานสากล
- ผลิตผลงานวิจัยทั้งระดับพื้นฐานและประยุกต์ในสาขาต่าง ๆ เพื่อสามารถนำไปแก้ไขปัญหาและพัฒนาสังคมของประเทศ
- ให้บริการวิชาการแก่สังคมเพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศและท้องถิ่นภาคเหนือ
- ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเพื่อรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นและสภาพแวดล้อม
- ปรับเปลี่ยนการบริหารและจัดการในทุก ๆ ด้านเพื่อรองรับความเป็นอิสระในการบริหารจัดการหรือการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
- มุ่งหารายได้ให้เพียงพอกับการพัฒนามหาวิทยาลัยโดยรวม
- ผสานประโยชน์ระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ ธุรกิจเอกชน องค์กรศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และชุมชมท้องถิ่นได้อย่างกลมลืนและเหมาะสม
เพลงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เพลงประจำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่งโดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ ขับร้องโดยนักร้องวงสุนทราภรณ์ และบันทึกเสียงจำหน่ายทั่วไป มีเพลงเด่นๆ ดังนี้
- เชียงใหม่เมืองงาม
- ม.ช.แซมบ้า
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (เพลงหลักประจำมหาวิทยาลัย)
- ม.ช.ถิ่นสวรรค์
- อ่างแก้ว
- สวรรค์ ม.ช.
- ราตรีอ่างแก้ว
- เอื้องขวัญ
- ม.ช.เกรียงไกร
- มาร์ช ม.ช. (เพลงมาร์ชมหาวิทยาลัย)
- อ่างแก้วขวัญใจ
- ลาแล้วเวียงขวัญ (เพลงลา)
- รำวง ม.ช. รักเรียน
- ลาภูพิงค์ (เพลงลา)
บุคคลสำคัญจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ศิษย์เก่า
- ฯพณฯ จาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรี
- นิกร จำนง นักการเมือง
- ฯพณฯ ยงยุทธ ติยะไพรัช รัฐมนตรีทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
- สุรอรรถ ทองนิรมล (รัฐศาสตร์ รหัส 08) รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
- สุเทพ เทือกสุบรรณ
- อภิรักษ์ โกษะโยธิน (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
อาจารย์
- ยอดเยี่ยม เทพธรานนท์ อาจารย์พิเศษคณะสถาปัตยกรรม
- ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด ศาสตราจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติสาขาเศรษฐศาสตร์
ปริญญากิตติมศักดิ์
ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ปริญญาที่มอบให้บุคคลไม่ได้เข้าศึกษาแต่ได้ทำผลงานดีเด่นให้แก่มหาวิทยาลัยหรือประเทศ
- สนธิ ลิ้มทองกุล สาขาประวัติศาสตร์
- อานันท์ ปันยารชุน (รัฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์) นายกรัฐมนตรีไทย
คณะวิชา
- คณะเภสัชศาสตร์
- คณะแพทยศาสตร์
- คณะพยาบาลศาสตร์
- คณะเทคนิคการแพทย์
- คณะวิทยาศาสตร์
- คณะวิศวกรรมศาสตร์เว็บ
- คณะเกษตรอุตสาหกรรม
- คณะบริหารธุรกิจ
- คณะเศรษฐศาสตร์
- คณะศึกษาศาสตร์เว็บ
- คณะมนุษยศาสตร์เว็บ
- คณะสังคมศาสตร์〉〉คณะรัฐศาสตร์และรัฐประสานศาสตร์เว็บ
- คณะทันตแพทยศาสตร์
- คณะเกษตรศาสตร์
- คณะวิจิตรศิลป์เว็บ
- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
ลิงก์ภายนอก
ศูนย์และสถาบันวิจัย
ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวภาพด้านพืช - ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวภาพระดับโมเลกุล - ศูนย์วิจัยนิวตรอนและเทคโนโลยีรังสี - ศูนย์วิจัยพลังงานและเทคโนโลยีที่เหมาะสม - ศูนย์วิจัยวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว - ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีและวัสดุ - ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีเซรามิกส์ - ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัตถุดิบยา เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ - ศูนย์วิจัยอิเล็คทรอนิกส์ประยุกต์และคอมพิวเตอร์ - ศูนย์วิจัยความหลากหลายทางชีวภาพและชีววิทยาชาติพันธุ์ - ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยเฉพาะทาง -