ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ศูนย์พณิชยการพระนคร"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ScorpianPK (คุย | ส่วนร่วม) ลบส่วนละเมิดลิขสิทธิ์ |
||
บรรทัด 18: | บรรทัด 18: | ||
==ประวัติความเป็นมา== |
==ประวัติความเป็นมา== |
||
{{โครง-ส่วน}} |
|||
'''จากวันนั้น ถึงวันนี้ 100 ปี พณิชยการพระนคร ''' |
|||
วิทยาเขตพณิชยการพระนคร ถือกำเนิดมาจาก "โรงเรียนประถมศึกษาพิเศษภาษาอังกฤษ วัดสัมพันธวงศ์" ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2443 ซึ่งแผนการศึกษาฉบับนี้ได้กล่าวถึงอาชีวศึกษา ในสมัยนั้นเรียกอาชีวศึกษาว่า "การเรียนวิชาเฉพาะ" และ "วิชาการค้า" เป็นต้น โรงเรียนอาชีพที่เปิดสอนอยู่บ้างแล้วในปี พ.ศ. 2441 นั้น คือ "โรงเรียนฝึกหัดครู" ที่โรงเลี้ยงเด็ก เชิงสะพานยศเสภายหลังเปลี่ยนเป็น "โรงเรียนเบญจมราชูทิศ" "โรงเรียนแพทย์" "โรงเรียนกฎหมาย" และ "โรงเรียนรังวัดทำแผนที่" ส่วนโรงเรียนประถมศึกษาพิเศษภาษาอังกฤษวัดสัมพันธวงศ์ นั้น จัดหลักสูตรสอนเน้นหนักไปในทาง "ภาษาอังกฤษ" เท่านั้น ต่อมาได้เพิ่ม "วิชาเสมียนพนักงาน, วิชาค้าขาย และการบัญชี" ตามแผนการศึกษาใหม่ พ.ศ.2452 ของกระทรวงธรรมการ ซึ่งแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ประเภทคือ "โรงเรียนสามัญศึกษา" |
|||
'''โรงเรียนพณิชยการที่แท้จริงแห่งแรก ''' |
|||
กระทรวงธรรมการได้ตั้งให้พระโอวาทวรกิจเป็นผู้อำนวยการหัตถกรรมและพณิชยการ เพื่อดำเนินการสอนการศึกษาพิเศษภาษาอังกฤษวัดสัมพันธวงศ์จึงแปรสภาพเป็น "โรงเรียนพณิชยการที่แท้จริงแห่งแรก" เมื่อ พ.ศ. 2445 เรียกว่า "โรงเรียนพณิชการวัดมหาพฤฒาราม" ต่อมาในปี พ.ศ. 2453 ก็ได้เปิดโรงเรียนพณิชยการขึ้นอีกแห่งหนึ่งคือ "โรงเรียนพณิชยการวัดราชบูรณะ" |
|||
'''ได้รับคะแนนนิยมท่วมท้นจากประชาชน''' |
|||
โรงเรียนพณิชยการวัดแก้วฟ้าล่างได้เจริญรุ่งเรืองขึ้น จนถึง พ.ศ. 2472 ตึกแพพิทโยทิศคับแคบ จึงให้นักเรียนเข้าใหม่ได้ไปเรียนที่โรงเรียนวัดมหาพฤฒารามอีก แต่ในปีต่อมาเกิดขัดข้องบางประการกับเจ้าของสถานที่ จึงย้ายนักเรียนมาเรียนที่ "โรงเรียนวัดหัวลำโพง" ส่วนการเรียนชั้นสูงยังคงเรียนอยู่ที่โรงเรียนพณิชยการวัดแก้วฟ้าล่างและในปีเดียวกันนี้ได้เปิด "โรงเรียนพณิชยการวัดสามพระยา" ที่บางลำพูขึ้น การเรียนการสอนของโรงเรียนพณิชยการวัดแก้วฟ้าล่างกับโรงเรียนวัดหัวลำโพง ก็ยังคงแยกกันเรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2478 จึงได้รวมกันตามเดิมที่โรงเรียนพณิชยการวัดแก้วฟ้าล่าง |
|||
'''โรงเรียนพณิชยการ "หญิง" แห่งแรก''' |
|||
เมื่อปี พ.ศ. 2475 กระทรวงธรรมการได้ประกาศแผนการศึกษาชาติฉบับใหม่เพื่อจัดการศึกษาวิชาชีพให้เหมาะสมกับภูมิประเทศตามท้องถิ่นในปี พ.ศ. 2476 ได้จัดตั้ง "โรงเรียนพณิชยการแผนกหญิงแห่งแรก" ขึ้นที่ "โรงเรียนพณิชยการเสาวภา" |
|||
'''เร่ร่อนไร้หลักแหล่งแน่นอน''' |
|||
เนื่องจากโรงเรียนพณิชยการวัดสามพระยามีสถานที่คับแคบ และอาจารย์ใหญ่สมัยนั้นไม่ค่อยจะลงรอยกับเจ้าอาวาสวัดสามพระยา จึงได้ย้ายไปอยู่ที่วัดเทวราชกุญชร เมื่อปี พ.ศ. 2481 เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า "โรงเรียนพณิชยการวัดเทวราชกุญชร" ต่อมาอีก 3 ปี "โรงเรียนนี้ได้ย้ายไปรวมกับโรงเรียนพณิชยการวัดแก้วฟ้าล่างเมื่อปี พ.ศ. 2483 เป็นอันว่ายังคงเหลือโรงเรียนพณิชยการอยู่เพียงแห่งเดียว จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "โรงเรียนพณิชยการพระนคร" สู่... "วังสน" กรมอาชีวศึกษาเจ้าสังกัดได้ซื้อที่ดินบริเวณ "วังของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์" ถนนพิษณุโลก จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ในราคา 7 แสนบาท เป็นเนื้อที่ 6 ไร่ 3 งาน 34 ตารางวา เพื่อก่อสร้าง "โรงเรียนพณิชยการพระนครและได้วางศิลาฤกษ์โดย ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2491 |
|||
'''เริ่มขยับขยายวัง''' |
|||
ในปี พ.ศ. 2497 และ พ.ศ. 2498 ทางโรงเรียนได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 6 ไร่ 2 งาน 12 ตารางวา และได้ก่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มขึ้น ในปี พ.ศ. 2499 ทางโรงเรียนก็ได้ซื้อที่ดินอีก 2 ไร่ 72 ตารางวา ซึ่งที่ดินส่วนใหญ่ของแปลงนี้ได้มอบให้แก่ "โรงเรียนช่างตัดเสื้อพระนคร" (ปัจจุบัน คือ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์) และต่อมาในปี พ.ศ. 2510 โรงเรียนพณิชยการพระนคร ได้รับมอบที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างมีเนื้อที่ 3 ไร่ 1 งาน 81 ตารางวา จาก สำนักงานสลากกินแบ่งของรัฐบาลเพื่อปรับปรุงขยายให้เป็น "วิทยาลัย" จนปัจจุบันวิทยาเขตพณิชยการพระนครมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 17 ไร่ |
|||
'''ยกฐานะขึ้นเป็น "วิทยาลัย"''' ในปีการศึกษา 2511 กระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติให้ขยายการศึกษาถึง "ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง" (ปวส.) ต่อจาก ม.ศ. 6 (ปัจจุบันคือ "ประกาศนียบัตรวิชาชีพ" หรือ "ปวช." นั่นเอง) อีก 2 ปี และประกาศตั้งเป็น "วิทยาลัยพณิชยการพระนคร" (The Commercial Collage) ขึ้น และการดำเนินการบางประการจำเป็นต้องอาศัยโรงเรียนพณิชยการพระนครอยู่ ดังนั้นกระทรวงศึกษาธิการจึงสั่งรวมโรงเรียนพณิชยการพระนคร กับวิทยาลัยพณิชยการ เข้าเป็นสถาบันเดียวกัน และได้เรียกชื่อใหม่ว่า "วิทยาลัย พณิชยการพระนคร" (The Bangkok Commercial Collage) ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา |
|||
'''อนุสรณ์สถาน 90 ปี''' |
|||
เป็นที่น่าภาคภูมิใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ อาคาร 90 ปี ที่เป็นอนุสรณ์แห่งความสามัคคี และในโอกาสที่ พ.พ. มีอายุครบ 90 ปี เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2533 ซึ่งอาคาร 90 ปีนี้ใช้สำหรับการเรียนการสอน รวมทั้งเป็นห้องพักปฏิบัติงานของคณาจารย์ ภายใต้อาคารเปิดเป็นโรงอาหารให้แก่นักศึกษา เพื่อให้เพียงพอกับศิษย์ พ.พ. ทุกคน |
|||
'''พณิชยการพระนครในยุค 96 ปี''' |
|||
จนกระทั่งมาถึงวันนี้ ในปีที่ พณิชยการพระนครย่างเข้าสู่ปีที่ 96 กับการก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง สำเภาทองลำนี้ก็มุ่งฝ่าเกลียวคลื่นต่อไป ต่อมาได้มีการสร้างห้องพยาบาลที่ทันสมัย ห้องสโมสรอาจารย์ และปรับปรุงเรือนหมอพร เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษาค้นคว้าต่อไป การเปิดสาขาวิชาการโรงแรมโดยมีอาคารเรียน พร้อมทั้งห้องฝึกปฏิบัติงานอันสวยงามและทันสมัย การเปิดสอนระดับปริญญาตรีภาคสมทบเพื่อเปิดโอกาสให้แก่บุคคลทั่วไปที่ต้องการพัฒนาตนเองทางด้านวิชาการมากขึ้น |
|||
==คณะที่เปิดสอน== |
==คณะที่เปิดสอน== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:40, 12 พฤษภาคม 2550
ไฟล์:ตรามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร.gif | |
ประเภท | มหาวิทยาลัยรัฐ |
---|
ประวัติความเป็นมา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
คณะที่เปิดสอน
- คณะบริหารธุรกิจ
- สาขาวิชาการบัญชี
- สาขาวิชาการตลาด
- สาขาวิชาการเงิน
- สาขาวิชาการจัดการทั่วไป
- สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์
- สาขาวิชาระบบสารสนเทศฯ
- สาขาวิชาอังกฤษธุรกิจ
- คณะศิลปศาสตร์ประยุกต์
- สาขาวิชาการท่องเที่ยว
- สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล
พระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
พระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ถือเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพณิชยการพระนครตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และยังถือเป็นประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจของชาวพณิชยการพระนครและเป็นสิริมงคลยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระมหากรุณา เสด็จฯ เป็นประธานในพิธีเปิดพระอนุสาวรีย์พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
วันอาภากร
วันอาภากร ตรงกับวันที่ 19 ธันวาคม ของทุกปี ชาวพณิชยการพระนครถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นวันคล้ายวันประสูติของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์แล้ว ยังเป็นวันที่คณาจารย์ นักศึกษา เจ้าหน้าที่ รวมไปถึงศิษย์เก่าร่วมใจกันประกอบ พิธีทางศาสนา พิธีบวงสรวง เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้ให้สถานที่พักพิงและอาศัยวังนางเลิ้งก่อตั้งเป็น “พณิชยการพระนคร” จนถึงปัจจุบัน
เรือนหมอพร
เรือนหมอพร เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่องกับบพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ภายในจัดแสดงเครื่องใช้ประจำพระองค์และเครื่องมือแพทย์ และยังเป็นศูนย์วัฒนธรรมของวิทยาเขตพณิชยการพระนคร โดยที่ดินบริเวณนี้ใน อดีตเคยเป็นวังที่ประทับของ กรมหลวงชุมพรฯ เหตุที่ให้ชื่อเรือนหลังนี้ว่า “เรือนหมอพร” เพราะทางวิทยาเขตฯ เคยใช้เรือนหลังนี้เป็นเรือน พยาบาลมาก่อน ส่วนชื่อ “หมอพร” เป็นพระนาม กรมหลวงชุมพรฯ ในบทบาทที่เป็นหมอรักษาคนไข้