เฉาก๊วย
เฉาก๊วยหั่นเป็นชิ้นประมาณ 1 ซม | |
มื้อ | ขนม |
---|---|
ภูมิภาค | เอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ |
อุณหภูมิเสิร์ฟ | แช่เย็นหรือร้อน |
เฉาก๊วย | |||||||||||||||||||
ชื่อภาษาจีน | |||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวเต็ม | 涼粉 | ||||||||||||||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 凉粉 | ||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||
ชื่อภาษาจีนอื่น ๆ | |||||||||||||||||||
ภาษาจีน | 仙草 | ||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||
ชื่อภาษาจีนอื่น ๆ (2) | |||||||||||||||||||
ภาษาจีน | 草粿 | ||||||||||||||||||
| |||||||||||||||||||
ชื่อภาษาเวียดนาม | |||||||||||||||||||
ภาษาเวียดนาม | thạch sương sáo | ||||||||||||||||||
ชื่อภาษาไทย | |||||||||||||||||||
อักษรไทย | เฉาก๊วย | ||||||||||||||||||
อักษรโรมัน | chaokuai | ||||||||||||||||||
ชื่อMalay & Indonesian | |||||||||||||||||||
Malay & Indonesian | cincau | ||||||||||||||||||
ชื่อTagalog | |||||||||||||||||||
Tagalog | gulaman |
เฉาก๊วย (จีน: 草餜, 草粿) เป็นของหวานที่มีส่วนประกอบหลักมาจากพืชชนิดหนึ่งในตระกูลเดียวกับใบสะระแหน่ เป็นอาหารหวานชนิดหนึ่ง ซึ่งแพร่หลายในประเทศจีน จนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่เป็นทั้งในของหวาน และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สำหรับในประเทศไทยนั้น ถือว่าเป็นอาหารหวานระดับพื้นบ้าน เนื่องจากมีการจำหน่ายทั่วไปในชุมชนเมืองทั่วประเทศ เฉาก๊วยมีฤทธิ์เย็น แก้ร้อนใน กระหายน้ำ[1] ส่วนมากมักจะใส่ลงในเครื่องดื่ม ที่หวาน เช่น น้ำกระเจี๊ยบ น้ำแดง เป็นต้น
กรรมวิธี
[แก้]เฉาก๊วย เป็นผลผลิตต่อเนื่องจากการแปรรูปต้นเฉาก๊วย ซึ่งเป็นพืชในวงศ์ Lamiaceae (วงศ์มิ้นท์) วงศ์เดียวกับ สะระแหน่ กะเพรา โหระพา แมงลัก และ ยี่หร่า
วิธีทำเฉาก๊วยอย่างง่าย ๆ คือ นำต้นเฉาก๊วยแห้งมาต้ม จนยางไม้และเพกทินละลายออกมาได้น้ำสีน้ำตาลดำ เรียกว่า ชาเฉาก๊วย จากนั้นก็กรองเอาแต่น้ำ แล้วนำไปผสมกับแป้งพืช เพื่อให้เฉาก๊วยคงตัวเป็นเจลลี่ ซึ่งส่วนประกอบนั้น แต่ละเจ้าจะมีสูตรของตนเอง วิธีที่เป็นต้นตำรับโบราณนั้น นิยมผสมกับแป้งท้าวยายม่อม และแป้งมันสำปะหลัง อัตราส่วนตามความเหมาะสม โดยแป้งมันจะทำให้เนื้อเฉาก๊วยนิ่ม (ใส่มากจะเหลว) ส่วนแป้งท้าวยายม่อมจะให้เนื้อเฉาก๊วยคงรูปได้นาน อาจปรับปรุงโดยใส่แป้งข้าวเจ้าเพื่อให้แข็งตัวขึ้น หรือเพิ่มแป้งข้าวเหนียวให้มีความหนุบหนับ หรือใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ก็ได้ ปัจจุบัน มีผู้ค้าบางรายใส่สีผสมอาหารให้สีดำเข้มบ้าง ใส่วุ้น-เจลาติน เพื่อประหยัดต้นทุนก็มี
การรับประทานเฉาก๊วยแต่เดิมชาวจีนจะกินกับน้ำตาลทรายแดง โดยเอามาคลุกกับน้ำตาลให้เข้ากัน คนไทยนำมาดัดแปลงโดยหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ในน้ำเชื่อมและน้ำแข็ง กินกับข้าวโพด ลูกชิด หรือลูกตาลเชื่อมก็ได้[2]
ที่มาของคำว่าเฉาก๊วย
[แก้]มาจากคำว่า เฉาก๊วย ในภาษาแต้จิ๋ว (草餜) แต่มักนิยมเขียนคำว่า 粿 มากกว่า (草粿) หมายถึงขนมหญ้า เพราะทำมาจากหญ้าเฉาก๊วย ระวังสับสนกับต้นเฉากว่อในจีนซึ่งใช้ตัวเขียนเดียวกัน
สรรพคุณ
[แก้]เช่นเดียวกับพืชอื่น ๆ ในวงศ์มิ้นท์ เฉาก๊วยมีสรรพคุณแก้ร้อนในกระหายน้ำ แต่เนื่องจากมีระดับของน้ำมันหอมระเหย และสารออกฤทธิ์ ในระดับที่ต่ำกว่าตระกูลกะเพราเป็นอย่างมาก จึงส่งผลให้เฉาก๊วยไม่มีฤทธิ์ขับลม หรือบรรเทาปวด เหมือนดังที่มีในพืชตระกูลกะเพรา-โหระพา
อ้างอิง
[แก้]- ↑ มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์, (ดับกระหาย ชื่นใจ ด้วยเฉาก๊วยสุขภาพ) http://www.thaiheartfound.org/category/details/food/218 เก็บถาวร 2019-11-01 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, published date: 2017-10-05, accessed date: 2019-11-01
- ↑ กระป๋อง. เฉาก๊วย... ไม่เฉาเหมือนชื่อ. แม่บ้านทันสมัย. 7 (87) : 53 - 58 มีนาคม 2535