ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยราชภัฏ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Sirichai.nbr (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 56: บรรทัด 56:


=== กลุ่มภาคเหนือ ===
=== กลุ่มภาคเหนือ ===
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่]] (มรภ.ชม.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย]] (มรภ.ชร.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง]] (มรภ.ลป.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์]] (มรภอ.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม]] (มรภพส.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร]] (มรภ.กพ.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์]] (มรภ.พช.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์]] (มรภ.นว.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์]] (มรภ.นว.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์]] (มรภ.พช.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร]] (มรภ.กพ.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม]] (มรภ.พส.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์]] (มรภอ.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง]] (มรภ.ลป.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย]] (มรภ.ชร.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่]] (มรภ.ชม.)

=== กลุ่มภาคใต้ ===
=== กลุ่มภาคใต้ ===
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี]] (มรส.)
* [[มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี]] (มรส.)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 08:19, 1 สิงหาคม 2558

มหาวิทยาลัยราชภัฏ เป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยที่พัฒนามาจากโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ที่ตั้งอยู่ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของประเทศ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วิทยาลัยครู หลังจากนั้น ได้รับพระราชทานนาม "ราชภัฏ" จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ให้เป็นชื่อประจำสถาบัน พร้อมทั้ง พระราชทาน พระราชลัญจกรเป็นตราประจำมหาวิทยาลัย โดยในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏ มีอยู่ทั้งสิ้น 39 แห่ง ทั่วประเทศ

ประวัติ

ไฟล์:ประตูทางเข้าวิทยาลัยครูเชียงใหม่.jpg
ประตูทางเข้าวิทยาลัยครูเชียงใหม่ในอดีต (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่)

มหาวิทยาลัยราชภัฏมีพัฒนามาจาก "โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์" โดยโรงเรียนฝึกหัดอาจารย์แห่งแรกเปิดสอนเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2435 ซึ่งตั้งขึ้นบริเวณโรงเลี้ยงเด็ก ตำบลสวนมะลิ ถนนบำรุงเมือง จังหวัดพระนคร (ปัจจุบัน คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร) [1] หลังจากนั้น จึงได้ขยายไปตั้งอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเป็น "วิทยาลัยครู"[2] ในเวลาต่อมา และในปี พ.ศ. 2535 ได้รับพระราชทานชื่อเป็น "สถาบันราชภัฏ" และเมื่อปี พ.ศ. 2538 ได้มีพระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ ยกฐานะวิทยาลัยครู ให้เป็น "สถาบันราชภัฏ" อย่างเป็นทางการ โดยให้สถาบันราชภัฏเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนา ท้องถิ่น มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการวิจัย ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุง ถ่ายทอดและพัฒนาเทคโนโลยี ทะนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ผลิตครูและส่งเสริมวิทยฐานะครู[3] จากนั้นได้มีการพระราชทานชื่อเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏ" เมื่อปี พ.ศ. 2545 และในปี พ.ศ. 2547 สถาบันราชภัฏ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "มหาวิทยาลัยราชภัฏ" อย่างเป็นทางการ ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ [4] ดังเช่นปัจจุบัน

สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ

ไฟล์:ตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ.png
ตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทรสยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนาม " ราชภัฏ " และตราประจำมหาวิทยาลัย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเกียรติยศสูงสุดแก่ชาวมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วพระราชอาณาจักร โดยนาม " ราชภัฏ หมายความว่า เป็นคนของพระราชา"

ตราสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏ พิจารณาจากดวงตราพระราชลัญจกรประจำพระองค์รัชกาลปัจจุบัน เพื่อกำหนดรูปแบบสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยราชภัฏ และได้รับพระราชทานมาเป็นตราประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วพระราชอาณาจักร ซึ่งมีรายละเอียดที่สมควร นำมากล่าวถึงไว้ ณ ที่นี้คือ

  • เป็นรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้ให้กำเนิดสถาบัน
  • เป็นรูปแบบที่เป็นกลาง เกี่ยวข้องกับท้องถิ่นที่ตั้ง ธรรมชาติ และความสอดคล้องกับชื่อมหาวิทยาลัยราชภัฏที่ได้รับพระราชทาน
  • สีของตราประจำมหาวิทยาลัย มี 5 สี โดยมีความหมาย ดังนี้
  • ██ สีน้ำเงิน แทนค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้ให้กำเนิด และพระราชทานนาม “มหาวิทยาลัยราชภัฏ”
  • ██ สีเขียว แทนค่าแหล่งที่ตั้งในแหล่งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม
  • ██ สีทอง แทนค่าความเจริญรุ่งเรืองทางภูมิปัญญา
  • ██ สีส้ม แทนค่าความรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น
  • ██ สีขาว แทนค่าความคิดอันบริสุทธิ์ของนักปราชญ์แห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

รายชื่อมหาวิทยาลัยราชภัฏ

เดิมมหาวิทยาลัยราชภัฏมีทั้งหมด 41 แห่ง แต่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครพนม ได้รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ มหาวิทยาลัยนครพนม[5] และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้แปรสภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาลและเปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยสวนดุสิต [6]ดังนั้น มหาวิทยาลัยราชภัฏจึงมีทั้งหมด 39 แห่ง โดยแบ่งออกเป็นกลุ่ม[7] ดังนี้

กลุ่มรัตนโกสินทร์

กลุ่มภาคกลาง

กลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กลุ่มภาคเหนือ

กลุ่มภาคใต้

อ้างอิง