เหรียญลูกเสือสดุดี
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
| เหรียญลูกเสือสดุดี | |
|---|---|
| มอบโดย พระมหากษัตริย์ไทย | |
| ประเภท | เหรียญราชอิสริยาภรณ์ประเภทบำเหน็จในราชการ |
| วันสถาปนา | 13 มกราคม พ.ศ. 2490 |
| ประเทศ | |
| ภาษิต | เสียชีพอย่าเสียสัตย์ |
| จำนวนสำรับ | ไม่จำกัดจำนวน |
| ผู้สมควรได้รับ | ผู้กำกับลูกเสือ เจ้าหน้าที่ลูกเสือ ผู้ตรวจการลูกเสือ กรรมการลูกเสือที่ได้เสียสละตนเพื่อพัฒนากิจการลูกเสือไทย |
| สถานะ | ยังพระราชทานอยู่ |
| ผู้สถาปนา | คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร |
| ประธาน | พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว |
| สถิติการมอบ | |
| รายแรก | พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร 20 มิถุนายน พ.ศ. 2496 |
| รายล่าสุด | 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 |
| ลำดับเกียรติ | |
| สูงกว่า | เหรียญลูกเสือสรรเสริญ |
| รองมา | เหรียญลูกเสือยั่งยืน |
เหรียญลูกเสือสดุดี มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า "The Boy Scout Citation Medal" เป็นเหรียญสำหรับพระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบในราชการ สร้างขึ้นตามพระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ. 2507 เช่นเดียวกันกับเหรียญลูกเสือสรรเสริญ ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์รามกีรติ ลูกเสือสดุดีพิเศษ ขึ้นอีกชั้นหนึ่งในพระราชบัญญัติลูกเสือ
ลักษณะ
[แก้]เหรียญลูกเสือสดุดี เป็นเหรียญเงิน ลักษณะกลมรี มีขนาดกว้าง 2.5 เซนติเมตร ยาว 3.2 เซนติเมตร ด้านหน้า มีตราหน้าเสือประกอบวชิระ ริมขอบส่วนบนมีอักษรว่า "ลูกเสือ" และส่วนล่าง มีอักษรว่า "เสียชีพอย่าเสียสัตย์" ตราหน้าเสือประกอบวชิระ และตัวอักษรให้ทำเป็นลายดุน ด้านหลัง เป็นพื้นเกลี้ยงจารึกนามของผู้ซึ่งได้รับพระราชทาน และวันที่พระราชทาน ขอบส่วนบนมีห่วงห้อย แพรแถบขนาดกว้าง 2.4 เซนติเมตร มีริ้วสีเหลืองกว้าง 1.2 เซนติเมตร อยู่กลาง ริมทั้งสองข้างมีริ้วสีดำกว้าง 6 มิลลิเมตร
เหรียญนี้ใช้ห้อยกับแพรแถบ ประดับที่อกเสื้อเหนือปกกระเป๋าเบื้องซ้าย โดยการพระราชทานจะพระราชทานให้เป็นกรรมสิทธิ์ เมื่อผู้รับพระราชทานวายชนม์ ให้ทายาทโดยธรรมรักษาไว้เป็นที่ระลึก
การพระราชทาน
[แก้]สำหรับพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ผู้ตรวจการลูกเสือ กรรมการลูกเสือ เจ้าหน้าที่ลูกเสือ และบุคคลอื่น บรรดา ที่มีอุปการคุณต่อการลูกเสือถึงขนาด หรือที่ได้อุทิศกำลังกาย หรือ กำลังความคิด ในการประกอบกิจให้บังเกิดคุณประโยชน์แก่การลูกเสือ ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติลูกเสือ พ.ศ. 2551[1] ดังนี้
| แพรแถบย่อ | ||
|---|---|---|
เหรียญลูกเสือสดุดีชั้นที่ 1
[แก้]พระราชทานแก่ผู้ที่มีอุปการคุณต่อการลูกเสือถึงขนาด หรือผุ้ที่ได้อุทิศกำลังกาย กำลังความคิด ในการประกอบกิจการให้บังเกิดคุณประโยชน์แก่การลูกเสืออย่างยิ่ง ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติกำหนด
เหรียญลูกเสือสดุดีชั้นที่ 2
[แก้]พระราชทานแก่ผู้ที่มีอุปการคุณต่อการลูกเสือ ดังต่อไปนี้
- บริจาคเงินหรือทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ ครั้งเดียว หรือหลายครั้งรวมกัน เป็นจำนวนเงินไม่น้อยกว่าที่คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติกำหนด
- ช่วยเหลือเป็นอย่างดีในการฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ระดับที่ 1 วิชาผู้กำกับลูกเสือขั้นความรู้เบื้องต้น หรือขั้นความรู้ชั้นสูง โดยอยู่ประจำตลอดการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 50 ครั้ง หรือระดับที่ 2 การให้การฝึกอบรมแก่ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือโดยอยู่ประจำตลอดการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง
- ช่วยเหลือกิจการลูกเสือด้านอื่น ๆ จนเกิดผลดีแก่การลูกเสือติดต่อกันมาไม่น้อยกว่า 5 ปี และปีหนึ่ง ๆ ไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง
- ช่วยเหลือและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคณะลูกเสือไทย กับคณะลูกเสือต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง
เหรียญลูกเสือสดุดีชั้นที่ 3
[แก้]พระราชทานแก่ผู้ที่มีอุปการคุณต่อการลูกเสือดังต่อไปนี้
- บริจาคเงินหรือทรัพย์สิ่งของต่าง ๆ ครั้งเดียวหรือหลายครั้ง รวมกันเป็นจำนวนเงิน ไม่น้อยกว่า ที่คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติกำหนด
- ช่วยเหลือเป็นอย่างดีในการฝึกอบรมผู้บังคับบัญชาลูกเสือระดับที่ 1 วิชาผู้กำกับลูกเสือขั้นความรู้เบื้องต้น หรือขั้นความรู้ขั้นสูง โดยอยู่ประจำตลอดการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 25 ครั้ง หรือระดับที่ 2 การให้การฝึกอบรมแก่ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือโดยอยู่ประจำตลอดการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 10 ครั้ง
- ช่วยเหลือเป็นอย่างดี ในการฝึกอบรมวิชานายหมู่ลูกเสือ หรือวิชาลูกเสือประเภทต่าง ๆ โดยอยู่ประจำตลอดการฝึกอบรม ครั้งละ 3 วัน ไม่น้อยกว่า 50 ครั้ง
- ช่วยเหลือกิจการลูกเสือด้านอื่น ๆ จนเกิดผลดีแก่การลูกเสือติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี และปีหนึ่ง ๆ ไม่น้อยกว่า 5 ครั้ง
- ช่วยเหลือ และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคณะลูกเสือไทย กับคณะลูกเสือต่างประเทศเป็นอย่างดี
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2018-05-17. สืบค้นเมื่อ 2018-07-10.


