อรรถกร ศิริลัทธยากร
อรรถกร ศิริลัทธยากร | |
---|---|
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา เขต 2 | |
เริ่มดำรงตำแหน่ง 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 (0 ปี 347 วัน) | |
ก่อนหน้า | ชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ |
คะแนนเสียง | 42,777 (38.14%) |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 7 สิงหาคม พ.ศ. 2527 อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา |
พรรคการเมือง | พลังประชารัฐ (2564-2567) ชาติพัฒนากล้า (2567-ปัจจุบัน) |
อรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นนักการเมืองชาวไทย ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา เขต 2 สังกัดพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นบุตรชายของ อิทธิ ศิริลัทธยากร[1] อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
ประวัติ[แก้]
อรรถกร ศิริลัทธยากร เกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2527 ที่ตำบลพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นบุตรของ อิทธิ ศิริลัทธยากร กับสุพัฒตรา ศิริลัทธยากร จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้าน Communication Arts จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และปริญญาโท Marketing Management จาก MIDDLESEX UNIVERSITY ประเทศอังกฤษ
การทำงาน[แก้]
อรรถกร ศิริลัทธยากร ประกอบธุรกิจส่วนตัว ต่อมาในปี 2554 ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 57 สังกัดพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 และได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สมัยแรก ต่อมาย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 18 โดยการสนับสนุนของบิดา[1] และได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง
อรรถกร มีบทบาทเป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล)[2] และเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี หลายปีงบประมาณด้วยกัน[3][4] นอกจากนั้นเขายังเป็นผู้อภิปรายประเด็นเกี่ยวกับการแต่งกายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย[5]
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 เขาได้รับเลือกเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ[6] และเขาเป็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ
ต่อมาในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 ทางพรรคพลังประชารัฐมีมติขับ นาย อรรถกร ศิริลัทธยากร ออกจากพรรคและได้ย้ายเข้าสู่ พรรคชาติพัฒนากล้า และได้รับเลือกให้เป็นรองหัวหน้าพรรค
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2566 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[7]
- พ.ศ. 2563 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[8]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ 1.0 1.1 "สุชาติ" ฮึด ยึดแปดริ้วอีอีซี
- ↑ วิปรบ.มีจุดยืนรักและเทิดทูนสถาบัน วอนทุกฝ่ายใช้ความจริงใจ-เหตุผลร่วมกัน เตือนไม่มีใครได้ 100% ถอยคนละก้าว หาจุดยืนร่วมกัน
- ↑ กมธ.พิจารณางบฯปี63 ผ่านแล้ว3กระทรวง
- ↑ เปิดชื่อ 72 กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ 65 พบ ‘เรืองไกร’ โผล่โควต้า พลังประชารัฐ
- ↑ สรุปเหตุการณ์เดือด! พลังประชารัฐ ซัด อนาคตใหม่ ไม่ใส่เนคไท ไม่ให้เกียรติสภา!
- ↑ เปิดรายชื่อ กก.บห. พรรคพลังประชารัฐชุดใหม่ 22 คน
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี ๒๕๖๖, เล่ม ๑๔๐ ตอนพิเศษ ๔ ข หน้า ๔, ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๘, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2527
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- บุคคลจากอำเภอพนมสารคาม
- นักธุรกิจชาวไทย
- นักการเมืองไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดฉะเชิงเทรา
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยแบบบัญชีรายชื่อ
- พรรคเพื่อไทย
- พรรคพลังประชารัฐ
- บุคคลจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.