ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาณาจักรสุโขทัย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
...
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 157: บรรทัด 157:
ส่วนด้านศาสนา ได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนา[[นิกายเถรวาท]]แบบ[[ลังกาวงศ์]]จาก[[นครศรีธรรมราช]] ในวันพระ จะมี[[ภิกษุ]]เทศนาสั่งสอน ณ [[ลานธรรม]]ใน[[สวนตาล]] โดยใช้[[พระแท่นมนังคศิลาอาสน์]] เป็น[[อาสนะสงฆ์]] ในการบรรยายธรรมให้ประชาชนฟัง ยังผลให้ประชาชนในยุคนี้นิยมปฏิบัติตนอยู่ใน[[ศีลธรรม]] มีการถือ[[ศีล]] โอย[[ทาน]]กันเป็นปกติวิสัย ทำให้สังคมโดยรวมมีความสงบสุขร่มเย็น
ส่วนด้านศาสนา ได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนา[[นิกายเถรวาท]]แบบ[[ลังกาวงศ์]]จาก[[นครศรีธรรมราช]] ในวันพระ จะมี[[ภิกษุ]]เทศนาสั่งสอน ณ [[ลานธรรม]]ใน[[สวนตาล]] โดยใช้[[พระแท่นมนังคศิลาอาสน์]] เป็น[[อาสนะสงฆ์]] ในการบรรยายธรรมให้ประชาชนฟัง ยังผลให้ประชาชนในยุคนี้นิยมปฏิบัติตนอยู่ใน[[ศีลธรรม]] มีการถือ[[ศีล]] โอย[[ทาน]]กันเป็นปกติวิสัย ทำให้สังคมโดยรวมมีความสงบสุขร่มเย็น


=== อาหาร กระเพราหมูกรอบ ===
=== ด้านการปกครองของอาณาจักรสุโขทัย ===
อาณาจักรสุโขทัยปกครองด้วยระบอบ[[สมบูรณาญาสิทธิราชย์]] ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ระยะ

# '''แบบราชาธิปไตย''' ในระยะแรกสุโขทัยมีการปกครองแบบพ่อปกครองลูก พระมหากษัตริย์เรียกว่า "พ่อขุน" ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อที่จะต้องดูแลคุ้มครองลูก ในสมัย[[พ่อขุนรามคำแหงมหาราช]] โปรดให้สร้างกระดิ่งแขวนไว้ที่หน้าประตูพระราชวัง เมื่อประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนก็ให้ไปสั่นกระดิ่งร้องเรียน พระองค์ก็จะเสด็จมารับเรื่องราวร้องทุกข์ และโปรดให้สร้างพระแท่นมนังคศิลาอาสน์ได้กลางดงตาล ในวันพระจะนิมนต์พระสงฆ์มาเทศน์สั่งสอนประชาชน หากเป็นวันธรรมดาพระองค์จะเสด็จออกให้ประชาชนเข้าเฝ้าและตัดสินคดีความด้วยพระองค์เอง การปกครองแบบนี้ปรากฏในสมัยกรุงสุโขทัยตอนต้น
#'''แบบ[[ธรรมราชา]]''' กษัตริย์ผู้ทรงธรรม ในสมัยของ[[พระมหาธรรมราชาที่ ๑]] มีกำลังทหารที่ไม่เข้มแข็ง ประกอบกับอาณาจักรอยุธยาที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ได้แผ่อิทธิพลมากขึ้น พระองค์ทรงเกรงภัยอันตรายจะบังเกิดแก่อาณาจักรสุโขทัย หากใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียว พระองค์จึงทรงนำหลักธรรมมาใช้ในการปกครอง โดยพระองค์ทรงเป็น แบบอย่างในด้านการปฏิบัติธรรม ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา นอกจากนั้นพระมหาธรรมราชาที่ ๑ ทรงพระราชนิพนธ์วรรณกรรมเรื่อง [[ไตรภูมิพระร่วง]] ที่ปรากฏแนวคิดแบบธรรมราชาไว้ด้วย การปกครองแบบนี้ใช้ในสมัยกรุงสุโขทัยตอนปลาย ตั้งแต่พระมหาธรรมราชาที่ 1 - 4

ด้านการปกครองส่วนย่อยสามารถแยกกล่าวเป็น 2 แนว ดังนี้

* '''ในแนวราบ''' จัดการปกครองแบบพ่อปกครองลูก กล่าวคือผู้ปกครองจะมีความใกล้ชิดกับประชาชน ให้ความเป็นกันเองและ[[ความยุติธรรม]]กับประชาชนเป็นอย่างมาก เมื่อประชาชนเกิดความเดือดร้อนไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถร้องเรียนกับพ่อขุนโดยตรงได้ โดยไปสั่นกระดิ่งที่แขวนไว้ที่หน้าประตูที่ประทับ ดังข้อความในศิลาจารึกปรากฏว่า "…ในปาก[[ประตู]]มี[[กระดิ่ง]]อันหนึ่งไว้ให้ ไพร่ฟ้าหน้าใส…" นั่นคือเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถมาสั่นกระดิ่งเพื่อแจ้งข้อร้องเรียนได้

* '''ในแนวดิ่ง''' ได้มีการจัดระบบการปกครองขึ้นเป็น 4 ชนชั้น คือ
** '''พ่อขุน''' เป็นชนชั้นผู้ปกครอง อาจเรียกชื่ออย่างอื่น เช่น [[เจ้าเมือง]] [[พระมหาธรรมราชา]] หากมีโอรสก็จะเรียก "[[ลูกเจ้า]]"
** '''[[ลูกขุน]]''' เป็น[[ข้าราชบริพาร]] ข้าราชการที่มีตำแหน่งหน้าที่ช่วงปกครอง[[เมืองหลวง]] [[หัวเมืองใหญ่น้อย]] และภายใน[[ราชสำนัก]] เป็นกลุ่มคนที่ใกล้ชิดและได้รับการไว้วางใจจากเจ้าเมืองให้ปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ไพร่ฟ้า
** '''[[ไพร่]]'''หรือ[[สามัญชน]] ได้แก่ราษฎรทั่วไปที่อยู่ใน[[ราชอาณาจักร]] ([[ไพร่ฟ้า]])
** '''[[ทาส]]''' ได้แก่ชนชั้นที่ไม่มีอิสระในการดำรงชีวิตอย่างสามัญชนหรือไพร่ (อย่างไรก็ตามประเด็นทาสนี้ยังคงถกเถียงกันอยู่ว่ามีหรือไม่){{อ้างอิง}}

== รายพระนามและรายนามผู้ปกครอง ==
== รายพระนามและรายนามผู้ปกครอง ==
=== รัฐอิสระ ===
=== รัฐอิสระ ===

รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:28, 10 พฤศจิกายน 2562

อาณาจักรสุโขทัย

พ.ศ. 1792พ.ศ. 1981
ตราแผ่นดินของสุโขทัย
ตราแผ่นดิน
แผนที่อาณาจักรสุโขทัยช่วงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช (สีนํ้าเงินเข้ม)
แผนที่อาณาจักรสุโขทัยช่วงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช (สีนํ้าเงินเข้ม)
เมืองหลวงสุโขทัย
พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ส่วนหนึ่ง
ภาษาทั่วไปภาษาไทย
การปกครองสมบูรณาญาสิทธิราชย์แบบศักดินา
กษัตริย์ 
• ผู้ก่อตั้ง
พ่อขุนศรีอินทราทิตย์
ประวัติศาสตร์ 
• สถาปนา
พ.ศ. 1792
พ.ศ. 1981
• ถูกผนวกเข้ากับกรุงศรีอยุธยาแล้วสิ้นสุดลง
พ.ศ. 1981
ก่อนหน้า
ถัดไป
อาณาจักรละโว้
อาณาจักรอยุธยา
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ ไทย
 พม่า
ลาวลาว

อาณาจักรสุโขทัย (สุกโขทัย ตามจารึก)[1] เป็นรัฐในอดีตรัฐหนึ่ง ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำยม สถาปนาขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18 ในฐานะสถานีการค้าของรัฐละโว้ หลังจากนั้นราวปี 1800 พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง ได้ร่วมกันกระทำการยึดอำนาจจากขอมสบาดโขลญลำพง ซึ่งทำการเป็นผลสำเร็จและได้สถาปนาเอกราชให้รัฐสุโขทัยเป็นอาณาจักรสุโขทัย และมีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับและเพิ่มถึงขีดสุดในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ก่อนจะค่อย ๆ ตกต่ำ และประสบปัญหาทั้งจากปัญหาภายนอกและภายใน จนต่อมาถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาไปในที่สุด

ที่ตั้งและอาณาเขต

อาณาจักรสุโขทัย ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าผ่านคาบสมุทรระหว่างอ่าวเมาะตะมะ และที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงตอนกลาง มีอาณาเขตดังนี้[2]

  1. ทิศเหนือ มีเมืองแพล (ปัจจุบันคือแพร่) เป็นเมืองปลายแดนด้านเหนือสุด
  2. ทิศใต้ มีเมืองพระบาง (ปัจจุบันคือนครสวรรค์) เป็นเมืองปลายแดนด้านใต้
  3. ทิศตะวันตก มีเมืองฉอด (ปัจจุบันคือแม่สอด) เป็นเมืองชายแดนที่จะติดต่อเข้าไปยังอาณาจักรมอญ
  4. ทิศตะวันออก มีเมืองสะค้าใกล้แม่น้ำโขงในเขตภาคอีสานตอนเหนือ

การแทรกแซงจากอยุธยา

หลังจากพ่อขุนรามคำแหงแล้ว เมืองต่างๆเริ่มอ่อนแอลงเมือง ส่งผลให้ในรัชกาลพญาเลอไท และรัชกาลพญาไสลือไท ต้องส่งกองทัพไปปราบหลายครั้งแต่มักไม่เป็นผลสำเร็จ และการปรากฏตัวขึ้นของอาณาจักรอยุธยาทางตอนใต้ซึ่งกระทบกระเทือนเสถียรภาพของสุโขทัยจนในท้ายที่สุดก็ถูกแทรกแทรงจากอยุธยา จนมีฐานะเป็นหัวเมืองของอยุธยาไปในที่สุด โดยมี พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) เป็นผู้ปกครองสุโขทัยในฐานะรัฐอิสระพระองค์สุดท้าย โดยขณะนั้น ด้วยการแทรกแซงของอยุธยา รัฐสุโขทัยจึงถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ

  • เมืองสรวงสองแคว (พิษณุโลก) อันเป็นเมืองเอก มีพระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) เป็นผู้ปกครอง
  • เมืองสุโขทัย เมืองรอง มี พระยาราม เป็นผู้ปกครองเมือง
  • เมืองเชลียง (ศรีสัชนาลัย) มี พระยาเชลียง เป็นผู้ปกครองเมือง
  • เมืองชากังราว (กำแพงเพชร) มี พระยาแสนสอยดาว เป็นผู้ปกครองเมือง

หลังสิ้นรัชกาลพระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) พระยายุทธิษฐิระซึ่งเดิมทีอยู่ศรีสัชนาลัย ได้เข้ามาครองเมืองสองแคว (พิษณุโลก) และเมื่อแรกที่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เสด็จขึ้นผ่านพิภพ เป็นพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยา ปรากฏว่าขณะนั้น พระยายุทธิษฐิระ เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ ที่ได้เพียงตำแหน่งพระยาสองแคว เนื่องด้วย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงเคยดำริไว้สมัยทรงพระเยาว์ว่า หากได้ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ จะชุบเลี้ยงพระยายุทธิษฐิระให้ได้เป็นพระร่วงเจ้าสุโขทัย พ.ศ. 2011 พระยายุทธิษฐิระจึงเอาใจออกห่างจากสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ไปขึ้นกับ พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนาในขณะนั้น เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เกิดการเฉลิมพระนามกษัตริย์ล้านนา จากพระยา เป็น พระเจ้า เพื่อให้เสมอศักดิ์ด้วยกรุงศรีอยุธยา พระนามพระยาติโลกราช จึงได้รับการเฉลิมเป็นพระเจ้าติโลกราช

หลังจากที่พระยายุทธิษฐิระ นำสุโขทัยออกจากอยุธยาไปขึ้นกับล้านนา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถจึงเสด็จจากกรุงศรีอยุธยา กลับมาพำนัก ณ เมืองสรลวงสองแคว พร้อมทั้งสร้างกำแพงและค่ายคู ประตู หอรบ แล้วจึงสถาปนาขึ้นเป็นเมือง พระพิษณุโลกสองแคว เป็นราชธานีฝ่ายเหนือของอาณาจักรแทนสุโขทัย ในเวลาเจ็ดปีให้หลัง สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถจึงทรงตีเอาสุโขทัยคืนได้ แต่เหตุการณ์ทางเมืองเหนือยังไม่เข้าสู่ภาวะที่น่าไว้วางใจ จึงทรงตัดสินพระทัยพำนักยังนครพระพิษณุโลกสองแควต่อจนสิ้นรัชกาล ส่วนทางอยุธยานั้น ทรงได้สถาปนาสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระราชโอรส เป็นพระมหาอุปราช ดูแลอยุธยาและหัวเมืองฝ่ายใต้

ด้วยความที่เป็นคนละประเทศมาก่อน และมีสงครามอยู่ด้วยกัน ชาวบ้านระหว่างสุโขทัยและอยุธยา จึงมิได้ปรองดองเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จึงต้องแยกปกครอง โดยพระมหากษัตริย์อยุธยา จะทรงสถาปนาพระราชโอรส หรือพระอนุชา หรือพระญาติ อันมีเชื้อสายสุโขทัย ปกครองพิษณุโลกในฐานะราชธานีฝ่ายเหนือ และควบคุมหัวเมืองเหนือทั้งหมด

การสิ้นสุด

พ.ศ. 2127 หลังจากชนะศึกที่แม่น้ำสะโตงแล้ว พระนเรศวรโปรดให้เทครัวหัวเมืองเหนือทั้งปวง (เมืองพระพิษณุโลกสองแคว เมืองสุโขทัย เมืองพิชัย เมืองสวรรคโลก เมืองกำแพงเพชร เมืองพิจิตร และเมืองพระบาง)[3] ลงมาไว้ที่อยุธยา เพื่อเตรียมรับศึกใหญ่ พิษณุโลกและหัวเมืองเหนือทั้งหมดจึงกลายเป็นเมืองร้าง หลังจากเทครัวไปเมืองใต้ จึงสิ้นสุดการแบ่งแยกระหว่างชาวเมืองเหนือ กับชาวเมืองใต้ และถือเป็นการสิ้นสุดของรัฐสุโขทัยโดยสมบูรณ์ เพราะหลังจากนี้ 8 ปี พิษณุโลกได้ถูกฟื้นฟูอีกครั้ง แต่ถือเป็นเมืองเอกในราชอาณาจักร มิใช่ราชธานีฝ่ายเหนือ

ในด้านวิชาการ มีนักวิชาการหลายท่านได้เสนอเพิ่มว่า เหตุการณ์อีกประการ อันทำให้ต้องเทครัวเมืองเหนือทั้งปวงโดยเฉพาะพิษณุโลกนั้น อยู่ที่เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ บนรอยเลื่อนวังเจ้า ในราวพุทธศักราช 2127 แผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลให้ตัวเมืองพิษณุโลกราพณาสูญ แม้แต่แม่น้ำแควน้อย ก็เปลี่ยนเส้นทางไม่ผ่านเมืองพิษณุโลก แต่ไปบรรจบกับแม่น้ำโพ (ปัจจุบันคือแม่น้ำน่าน) ที่เหนือเมืองพิษณุโลกขึ้นไป และยังส่งผลให้พระศรีรัตนมหาธาตุพิษณุโลก หักพังทลายในลักษณะที่บูรณะคืนได้ยาก ในการฟื้นฟูจึงกลายเป็นการสร้างพระปรางค์แบบอยุธยาครอบทับลงไปแทน ทั้งหมด

ความเจริญรุ่งเรือง

ด้านเศรษฐกิจ

สภาพเศรษฐกิจสมัยสุโขทัยเป็นระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ดังข้อความปรากฏในหลักศิลาจารึกหลักที่ 1 "…ใครจักใคร่ค้าช้างค้า ใครจักใคร่ค้าม้าค้า ใครจักใคร่ค้าเงินค้า ทองค้า " และ "...เมืองสุโขทัยนี้ดี ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว..." ประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรรมด้วยระบบการเกษตรแบบพึ่งพาธรรมชาติ เช่นสังคมไทยส่วนใหญ่ในชนบทปัจจุบัน และส่งออกเครื่องถ้วยชามสังคโลก

ด้านสังคม

การใช้ชีวิตของผู้คนในสมัยสุโขทัยมีความอิสระเสรี มีเสรีภาพอย่างมากเนื่องจากผู้ปกครองรัฐให้อิสระแก่ไพร่ฟ้า และปกครองแบบพ่อกับลูก ดังปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกว่า "…ด้วยเสียงพาทย์ เสียงพิณ เสียงเลื่อน เสียงขับ ใครจักมักเล่น เล่น ใครจักมักหัว หัว ใครจักมักเลื่อน เลื่อน…"

ด้านความเชื่อและศาสนา สังคมยุคสุโขทัยประชาชนมีความเชื่อทั้งเรื่องวิญญาณนิยม (Animism) ไสยศาสตร์ ศาสนาพราหมณ์ฮินดู และพุทธศาสนา ดังปรากฏหลักฐานในศิลาจารึกหลักที่ 1 ด้านที่ 5 ว่า "…เบื้องหัวนอนเมืองสุโขทัยนี้มีกุฎิวิหารปู่ครูอยู่ มีสรีดพงส์ มีป่าพร้าว ป่าลาง ป่าม่วง ป่าขาม มีน้ำโคก มีพระขระพุงผี เทพยาดาในเขาอันนั้นเป็นใหญ่กว่าทุกผีในเมืองนี้ ขุนผู้ใดถือเมืองสุโขทัยนี้แล้ว ไหว้ดีพลีถูก เมืองนี้เที่ยว เมืองนี้ดี ผิไหว้บ่ดี พลีบ่ถูก ผีในเขาอันนั้นบ่คุ้มบ่เกรง เมืองนี้หาย…"

ส่วนด้านศาสนา ได้รับอิทธิพลจากพุทธศาสนานิกายเถรวาทแบบลังกาวงศ์จากนครศรีธรรมราช ในวันพระ จะมีภิกษุเทศนาสั่งสอน ณ ลานธรรมในสวนตาล โดยใช้พระแท่นมนังคศิลาอาสน์ เป็นอาสนะสงฆ์ ในการบรรยายธรรมให้ประชาชนฟัง ยังผลให้ประชาชนในยุคนี้นิยมปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรม มีการถือศีล โอยทานกันเป็นปกติวิสัย ทำให้สังคมโดยรวมมีความสงบสุขร่มเย็น

อาหาร กระเพราหมูกรอบ

รายพระนามและรายนามผู้ปกครอง

รัฐอิสระ

ลำดับ พระนาม/นาม ตำแหน่ง ราชวงศ์ ช่วงเวลา
- พระยาพาลีราช เจ้าเมืองสุโขทัย - พ.ศ. 1043[4] -
ไม่ทราบปี
- ตำนานกล่าวว่า พ.ศ. 1043 พระยาพาลีราชแห่งอาณาจักรละโว้เป็นผู้ก่อตั้งเมืองสุโขทัย[5]
- พระยาอภัย[6] เจ้าเมืองสุโขทัย - ไม่ทราบปี
- พระอรุณกุมาร[7] เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย - ไม่ทราบปี
- พระยาพสุจราช[8] เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย - ไม่ทราบปี
- พระยาธรรมไตรโลก[9] เจ้าเมืองศรีสัชนาลัย - ไม่ทราบปี
- พระยาศรีจันทราธิบดี[10] พระร่วงเจ้าสุโขทัย (อดีตภิกษุ) พ.ศ. 1502[11] - ไม่ทราบปี
1 พ่อขุนศรีนาวนำถุม พระร่วงเจ้าสุโขทัย นำถม ไม่ทราบปี - พ.ศ. 1724
2 ขอมสบาดโขลญลำพง พระร่วงเจ้าสุโขทัย - ไม่ทราบปี - พ.ศ. 1780
3 พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1780 - ประมาณ พ.ศ. 1801
4 พ่อขุนบานเมือง พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง ประมาณ พ.ศ. 1801 - พ.ศ. 1822
5 พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1822 - 1842
6 พญาไสสงคราม พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1842
7 พญาเลอไท พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1842 - 1866
8 พญางั่วนำถุม พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1866 - 1890
9 พระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไท) พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1890 - 1913
10 พระมหาธรรมราชาที่ 2 (ลือไท) พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1913 - 1921

รัฐบรรณาการอาณาจักรอยุธยา

ลำดับ พระนาม/นาม ตำแหน่ง ราชวงศ์ ช่วงเวลา
10 พระมหาธรรมราชาที่ 2 (ลือไท) พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1921 - 1931
11 พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไท) พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1931 - 1962
12 พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 1962 - 1981
13 พระราเมศวร พระร่วงเจ้าสุโขทัย สุพรรณภูมิ พ.ศ. 1981 - 1991
- ว่าง - - พ.ศ. 1991 - 2011

รัฐบรรณาการอาณาจักรล้านนา

ลำดับ พระนาม/นาม ตำแหน่ง ราชวงศ์ ช่วงเวลา
14 พระยายุทธิษฐิระ พระร่วงเจ้าสุโขทัย พระร่วง พ.ศ. 2011 - 2017

สำหรับรัชกาลต่อจากนี้ ดูเพิ่มที่ พระพิษณุโลกสองแคว

[12] [13]

ราชวงศ์สุพรรณภูมิ
ราชวงศ์สุโขทัย

ลำดับพระร่วงเจ้า พระมหาธรรมราชา ผู้ครองเมืองสุโขทัยและเมืองพิษณุโลกสองแคว


ระเบียงภาพ

อ้างอิงและหมายเหตุ

  1. http://www.sac.or.th/databases/inscriptions/inscribe_image_detail.php?id=178
  2. http://www.sac.or.th/Subdetail/article/2549/January/article6.html
  3. พิเศษ เจียจันทร์พงษ์. พระมหาธรรมราชากษัตราธิราช. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มติชน, พ.ศ. 2546. 184 หน้า. หน้า 57. ISBN 974-322-818-7
  4. ศักราชอาจคลาดเคลื่อน เพราะพงศาวดารเหนือ ได้ระบุถึงพระนามผู้ปกครองที่สืบต่อมา จนถึงพ่อขุนศรีนาวนำถม อีกทั้งไม่ปรากฏพระนามพระยาพาลีราชตามหลักฐานอื่น ว่าเป็นผู้ปกครองอาณาจักรละโว้ในปีดังกล่าว
  5. ประวัติศาสตร์สมัยสุโขทัย -- dwhistorythai.wordpress.com
  6. ปรากฏพระนามในพงศาวดารเหนือ
  7. ปรากฏพระนามในพงศาวดารเหนือ
  8. ปรากฏพระนามในพงศาวดารเหนือ
  9. ปรากฏพระนามในพงศาวดารเหนือ
  10. ปรากฏพระนามและปีครองราชย์ ในพงศาวดารเหนือ
  11. ปรากฏปีครองราชย์ในพงศาวดารเหนือ แต่ศักราชอาจจะคลาดเคลื่อน เพราะระบุว่า หลังสิ้นรัชกาลนี้แล้ว พ่อขุนศรีนาวนำถุมได้เป็นผู้ปกครองต่อ
  12. พญางั่วนำถุม มาจากสายราชวงศ์นำถม (ผาเมือง) ทางราชนิกูล ทางประวัติศาสตร์ยังถือว่าท่านเป็น "ราชวงศ์พระร่วง"
  13. พระยายุทธิษฐิระ ครองศรีสัชนาลัย ซึ่งขณะนั้นมีฐานะเป็นเมืองสำคัญเหนือกว่าพิษณุโลก
  14. ราชการสงครามในสมัยสมเด็จพระนเรศวร หอมรดกไทย กองทัพบก


ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น