นครลำพูน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เมืองลำพูนไชยประเทศราช

นครลำพูน
พ.ศ. 2270–พ.ศ. 2442
  อาณาเขตนครลำพูน
สถานะนครรัฐเอกราชโดยพฤตินัย (2270-2300)

ประเทศราชของราชวงศ์โก้นบอง (2300[1]-2318)

ประเทศราชของอาณาจักรธนบุรีและรัตนโกสินทร์ (2318-2442)
เมืองหลวงนครลำพูน
ภาษาทั่วไปคำเมือง
ศาสนา
ศาสนาพุทธ (เถรวาท)
การปกครองราชาธิปไตย
เจ้าผู้ครองนคร 
• ก่อน พ.ศ. 2308/2309-2309
พระเมืองไชย
• พ.ศ. 2318-2320
พระยาอัยวงศ์
• พ.ศ. 2349–2486
ราชวงศ์ทิพย์จักร
ประวัติศาสตร์ 
• พม่าสิ้นอิทธิพลจากดินแดนล้านนาตอนล่าง
พ.ศ. 2270
• พระเมืองไชยก่อกบฏต่อพม่า
พ.ศ. 2308/2309
• สวามิภักดิ์ต่อสยาม
พ.ศ. 2318
• ฟื้นฟูนครลำพูน
พ.ศ. 2349
• พงศาวดารสยามรับรองสถานะประเทศราช[2]
พ.ศ. 2357
พ.ศ. 2442
สกุลเงินรูปี[3]
ก่อนหน้า
ถัดไป
แคว้นเชียงใหม่
มณฑลลาวเฉียง
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ

นครลำพูน เป็นประเทศราชของราชวงศ์โก้นบองโดยแยกตัวออกมาจากการปกครองของเชียงใหม่ ภายหลังตกเป็นประเทศราชของอาณาจักรธนบุรีและรัตนโกสินทร์ และได้รับนาม เมืองลำพูนไชยประเทศราช[4]

ประวัติศาสตร์[แก้]

การก่อตัวของรัฐ[แก้]

ในปี พ.ศ. 2270/2271 (จ.ศ. 1089) กบฏตนบุญเทพสิงห์โค่นล้มผู้ปกครองพม่าที่เมืองเชียงใหม่ ทำให้เกิดสภาวะสุญญากาศทางการเมืองในดินแดนล้านนาตอนล่าง แม้ว่าพม่าพยายามที่จะย้ายศูนย์กลางการปกครองไปยังเชียงแสน[5] แต่หัวเมืองล้านนาตอนล่างต่างแยกตัวเป็นอิสระและปกครองตนเองในลักษณะเดียวกับชุมนุมต่างๆหลังเสียกรุงครั้งที่ 2[6] นครลำพูนเป็นหนึ่งในนครอิสระที่ถูกบันทึกจากการทำสงครามกับนครข้างเคียง เช่น ลำปางในปี พ.ศ. 2272/2273 (จ.ศ. 1091)[7] เชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2280/2281 (จ.ศ. 1099)[8] เชียงแสนในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2301[5] และป่าซางในปี พ.ศ. 2305/2306 (จ.ศ. 1124)[8] อีกทั้งยังมีความแตกแยกภายในนครลำพูนเองดังที่แม่ทัพนครลำพูนยกทัพขึ้นไปกำจัดแม่ทัพอีกคนหนึ่งที่เมืองเชียงแสนหลังเดือนมกราคม พ.ศ. 2303[5][6]

ในปี พ.ศ. 2300 อาณาจักรพม่ารวมเป็นหนึ่งได้อีกครั้งภายใต้ราชวงศ์โก้นบอง ทำให้นครต่างๆในดินแดนล้านนาต่างส่งบรรณาการมาสวามิภักดิ์[1] ต่อมาในปี พ.ศ. 2306 กองทัพพม่าเข้ายึดครองเมืองเชียงใหม่ที่ยังคงตั้งตัวเป็นอิสระอยู่ พร้อมทั้งปราบปรามหัวเมืองอื่นๆในล้านนา แม้นครลำพูนจะตกอยู่ภายใต้การปกครองของพม่าอีกครั้ง แต่ผู้ปกครองพม่าไม่สามารถควบคุมเมืองต่างๆได้อย่างสมบูรณ์[6] ทำให้พระเมืองไชยแห่งนครลำพูนเป็นผู้นำให้กับเมืองเชียงใหม่ นครลำปาง นครแพร่ และนครน่านในการก่อกบฏต่อพม่า จนกระทั่งถูกปราบลงในปี พ.ศ. 2309[9] ความขัดแย้งระหว่างผู้ปกครองพม่าและผู้ปกครองท้องถิ่นยังคงดำเนินต่อไป เป็นเหตุให้นครลำปางและนครลำพูนสวามิภักดิ์ต่ออาณาจักรธนบุรีในปี พ.ศ. 2318 ในระหว่างสงครามเชียงใหม่ พ.ศ. 2317

นครลำพูนระหว่างสงครามพม่า-สยาม[แก้]

เหตุการณ์เกี่ยวกับนครลำพูนหลังจากเข้าเป็นประเทศราชของอาณาจักรธนบุรีถูกบันทึกไว้แตกต่างกันระหว่างพงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย[10]ซึ่งจัดทำขึ้นโดยฝ่ายสยามและพระราชพงษาวดาร กรุงรัตนโกสินทร รัชกาลที่ ๒ ใช้เป็นแหล่งอ้างอิง[11] และตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่[8]ซึ่งจัดทำขึ้นโดยฝ่ายเชียงใหม่และลำปาง[12]

เนื้อหาในพงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย[แก้]

ในปี พ.ศ. 2318 คราวสงครามอะแซหวุ่นกี้ กองทัพพม่าเข้าโจมตีเวียงป่าซาง พระยาวิเชียรปราการและพระยาอัยวงศ์เจ้าเมืองลำพูนตัดสินใจทิ้งเมืองเชียงใหม่และลำพูนลงมาอาศัยอยู่ตามเมืองต่างๆ พระยาวิเชียรปราการและพระยาอัยวงศ์ถึงแก่กรรมที่เมืองสวรรคโลก เมืองลำพูนจึงกลายเป็นเมืองร้าง จนกระทั่งปี พ.ศ. 2357 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ เลื่อนพระยากาวิละขึ้นเป็นพระเจ้าเชียงใหม่ ตั้งพระยาคำฟั่นเปนพระยาลำพูนไชย แล้วจึงโปรดเกล้าฯ ยกเมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย ขึ้นเป็นเมืองประเทศราชแต่นั้นมา

เนื้อหาในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่[แก้]

ในปี พ.ศ. 2318 กองทัพพม่าเข้าโจมตีเมืองเชียงใหม่ พระยาวิเชียรปราการและพระยากาวิละเจ้าเมืองลำปางตัดสินใจทิ้งเมืองเชียงใหม่และลำปางลงมาอยู่เมืองสวรรคโลก ต่อมา พ.ศ. 2322/2323 (จ.ศ. 1141) พระยาวิเชียรปราการกลับขึ้นมาตั้งอยู่เมืองลำพูน ต่อมาไม่นานกองทัพเชียงแสนและเชียงรายตีเมืองลำพูนแตก ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2331 พระราชโอวาทของเจ้าฟ้าหลวงชายแก้วระบุว่าเมืองลำพูนได้กลายเป็นเมืองร้าง เมืองลำพูนถูกกองทัพพม่ายึดครองอีกครั้งในสงครามเชียงใหม่ พ.ศ. 2340 ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ เลื่อนพระยากาวิละขึ้นเป็นพระเจ้าเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2345 และโปรดเกล้าฯ ตั้งพระยาคำฟั่นเป็นเจ้าเมืองลำพูนในปี พ.ศ. 2348 พระยาคำฟั่นนำบริวารจากเมืองเชียงใหม่และลำปางออกมาตั้งเมืองลำพูนในปี พ.ศ. 2349 และนครลำพูนได้ส่งกองทัพเข้าร่วมกับพระเจ้ากาวิละในการขยายอำนาจไปยังเมืองเชียงรุ่งและเมืองอื่นๆในสิบสองปันนา ระหว่าง ปี พ.ศ. 2350-2356

ข้อสนับสนุนและข้อโต้แย้ง[แก้]

พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชยให้รายละเอียดที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการถึงแก่กรรมของพระยาวิเชียรปราการและการตั้งพระยากาวิละเป็นพระเจ้าเชียงใหม่ ในขณะที่ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่บันทึกเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างละเอียดมากกว่า และบันทึกวันเดือนปีที่ตั้งพระเจ้าเชียงใหม่ได้ตรงกันกับสำเนาจารึกพระสุพรรณบัตรที่เก็บรักษาไว้ในหอหลวง[13] อย่างไรก็ตาม หลักฐานทั้งสองชิ้นบันทึกเหตุการณ์พระยาวิเชียรปราการทิ้งเมืองเชียงใหม่ไว้คลาดเคลื่อนไปจากพงศาวดารของสยามและพม่าซึ่งระบุว่าเกิดขึ้นระหว่างสงครามเชียงใหม่ พ.ศ. 2320[14]

นครลำพูนในฐานะประเทศราชของสยาม[แก้]

รายพระนามและรายนามผู้ปกครอง[แก้]

ในฐานะรัฐอิสระและประเทศราชของพม่าและธนบุรี[แก้]

รายนาม เริ่ม สิ้นสุด หมายเหตุ
ไม่ปรากฏนาม ไม่ปรากฏ เมษายน พ.ศ. 2305

(เดือน 7 ลง 7 ค่ำ)[8]

อาจเป็นคนเดียวกับเจ้าเมืองลำพูนที่ให้ท้าวมหายศโจมตีนครลำปางในปี พ.ศ. 2272/2273 (จ.ศ. 1091)
พระเมืองไชย ก่อน พ.ศ. 2308/2309

(จ.ศ. 1127)

ธันวาคม พ.ศ. 2309

(เดือน 3 เพ็ญ)

ก่อกบฏต่อพม่า จ.ศ. 1127-1128 ต่อมาหลบหนีไปจีน
เชกคายแดง ไม่ปรากฏ 3 มกราคม พ.ศ. 2318 สยามรับรู้ในฐานะพระยาลำพูน[15]
ทัพหลวงสยามมาถึงนครลำพูนในสงครามเชียงใหม่ พ.ศ. 2317 เชกคายแดงสวามิภักดิ์ต่อสยามและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระยาอัยวงศ์[15] หรือ พระยาไวยวงศา[16]
พระยาอัยวงศ์ 3 มกราคม พ.ศ. 2318 มกราคม พ.ศ. 2320[10] ได้รับการแต่งตั้งในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2318, ถึงแก่กรรม ณ เมืองสวรรคโลก[10]
พระยาอัยวงศ์ทิ้งนครลำพูนในสงครามเชียงใหม่ พ.ศ. 2320[10]
พระยาวิเชียรปราการ พ.ศ. 2322/2323

(จ.ศ. 1141)

พ.ศ. 2322/2323

(จ.ศ. 1141)

ปกครองเมืองโดยพฤตินัย[8]
พ.ศ. 2322/2323 (จ.ศ. 1141) นครลำพูนถูกกองทัพเมืองเชียงแสนตีแตก[8]
มกราคม พ.ศ. 2331 เจ้าฟ้าหลวงชายแก้วทรงระบุว่าเมืองลำพูนเป็นเมืองร้าง[8]
ต้นปี พ.ศ. 2341 กองทัพพม่ายึดครองนครลำพูนในสงครามเชียงใหม่ พ.ศ. 2340 แต่กองทัพสยามสามารถยึดคืนมาได้
พ.ศ. 2345 กองทัพพม่ายึดครองนครลำพูนในสงครามเชียงใหม่ พ.ศ. 2345 แต่กองทัพสยามสามารถยึดคืนมาได้
นครลำพูนถูกทิ้งร้างจนถึงเมษายน พ.ศ. 2349 (เดือน 7 ออก 8 ค่ำเม็งวัน 5)[8]

พระยาคำฟั่นทรงได้รับการสถาปนาให้เป็นพระยาลำพูนไชย ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2348 (เดือนยี่ แรม 8 ค่ำ วัน 5) ที่กรุงเทพฯ[8]

ในฐานะประเทศราชของรัตนโกสินทร์[แก้]

การปกครอง[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 Harvey, Godfrey Eric (1925). History of Burma: from the Earliest Times to 10 March, 1824: The Beginning of the English Conquest. United Kingdom: Longmans, Green and Company. p. 241. สืบค้นเมื่อ 10 April 2024.
  2. "ไฟล์:พงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒ - ๒๔๕๙.pdf - วิกิซอร์ซ" (PDF). commons.wikimedia.org. pp. 173–176.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  3. "ทำไม "รูปีอินเดีย" จึงนิยมใช้ในล้านนา และเป็นเงินสกุลสำคัญของเศรษฐกิจ". ศิลปวัฒนธรรม. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
  4. "จารึกทำเนียบหัวเมืองและผู้ครองเมือง ทิศเหนือ (เมืองหวด เมืองตื่นด่าน เมืองลำพูน เมืองยอง)". ฐานข้อมูลจารึกแห่งประเทศไทย. 12 March 2023. สืบค้นเมื่อ 12 April 2024.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  5. 5.0 5.1 5.2 อ๋องสกุล, สรัสวดี (2003). เอียวศรีวงศ์, นิธิ (บ.ก.). พื้นเมืองเชียงแสน. กรุงเทพฯ: อมรินทร์. pp. 170, 231–232. ISBN 9742726612.
  6. 6.0 6.1 6.2 อินปาต๊ะ, บริพัตร (2017). การฟื้นฟูรัฐน่านในสมัยราชวงศ์หลวงติ๋น พ.ศ. 2329-2442 (วิทยานิพนธ์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. pp. 21, 27, 30. สืบค้นเมื่อ 11 April 2024.
  7. ชิวารักษ์, พริษฐ์ (13 August 2023). "ล้านนาปฏิวัติ: การต่อสู้ของตนบุญในประวัติศาสตร์ล้านนา (ตอนสอง)". The101.world. สืบค้นเมื่อ 11 April 2024.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  8. 8.0 8.1 8.2 8.3 8.4 8.5 8.6 8.7 8.8 Minister, Office of the Prime, English: Fundamental History of the City of Chiang Mai (PDF), pp. 84–85, 95–96, 101–102, 106, 118, 123–125, สืบค้นเมื่อ 11 April 2024
  9. "ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 10/ราชวงษปกรณ์/ภาคที่ 2 - วิกิซอร์ซ". th.wikisource.org. สืบค้นเมื่อ 14 April 2024.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  10. 10.0 10.1 10.2 10.3 พระยาศรีสิงหเทพ. "ประชุมพงศาวดาร/ภาคที่ 3/เรื่องที่ 3 - วิกิซอร์ซ". th.wikisource.org. สืบค้นเมื่อ 14 April 2024.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  11. Rajanubhab, Damrong, English: Royal Chronicle of the Kingdom of Rattanakosin: Second Reign (PDF), p. 173, สืบค้นเมื่อ 2024-04-14
  12. สุขคตะ, เพ็ญสุภา (30 June 2023). "ตระหนัก 'ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่' (2) การสร้างความชอบธรรม ให้แก่พระเจ้ากาวิละ". มติชนสุดสัปดาห์. สืบค้นเมื่อ 14 April 2024.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  13. Minister, Office of the Prime, English: Regarding the Royal Investiture of Vassal Lords in the Kingdom of Rattanakosin During the Reign of Rama I (PDF), pp. 15–16, สืบค้นเมื่อ 2024-04-14
  14. Wachirayan Royal Library, English: History Regarding Our Wars with the Burmese during Krung Thon and Krung Thep (PDF), pp. 155–157, สืบค้นเมื่อ 2024-04-14
  15. 15.0 15.1 Fine Arts Department, English: Collection of Historical Archives (PDF), p. 47, สืบค้นเมื่อ 2024-04-14
  16. Royal Society of Thailand, English: A Collection of Chronicles (PDF), p. 78, สืบค้นเมื่อ 2024-04-14