สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย
สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย | |
---|---|
กิจกรรมของบุคคลเพศเดียวกันชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ | ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่ พ.ศ. 2500[1] อายุที่รับรู้ยินยอมคือ 15 ปี[2] |
อัตลักษณ์ทางเพศ/การแสดงออก | บุคคลข้ามเพศไม่สามารถเปลี่ยนเพศในทางกฎหมาย |
รับราชการทหาร | เกย์และเลสเบียนสามารถรับราชการทหารได้อย่างเปิดเผย บุคคลข้ามเพศได้รับการยกเว้น |
ความคุ้มครองจากการถูกเลือกปฏิบัติ | มีการคุ้มครอง (แต่จะมีผลบังคับใช้ในอนาคต) |
สิทธิในครอบครัว | |
การรับรอง ความสัมพันธ์ | มีการสมรสเพศเดียวกัน เริ่ม 22 มกราคม พ.ศ. 2568[3] |
การรับบุตรบุญธรรม | มี เริ่ม 22 มกราคม พ.ศ. 2568[4] |
ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่อดกลั้นและเป็นมิตรต่อกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศมากที่สุดประเทศหนึ่งในทวีปเอเชีย[5] โดยที่กิจกรรมทางเพศของเพศเดียวกันนั้นชอบด้วยกฎหมายมาตั้งแต่ พ.ศ. 2500[1] รัฐบาลไทยยังส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติท่องเที่ยวในประเทศไทยเพราะเป็นประเทศที่ต้อนรับกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างดี[6] ทว่า การเลือกปฏิบัติและการดูถูกเหยียดหยามกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศก็ยังปรากฏอยู่กว้างขวางในสังคมไทย[7]
ปัจจุบันสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศได้มีการรับรองและคุ้มครองในทางกฎหมายเทียบเท่ากับบุคคลต่างเพศ หลังจากที่มีความพยายามจากนักวิชาการและกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อรณรงค์การออกกฎหมายคุ้มครองสิทธิดังกล่าว[8][9][10][11][12]
สถานะทางกฎหมาย
[แก้]กิจกรรมทางเพศของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นกำหนดให้เป็นความผิดมาอย่างน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2451 เนื่องจากได้มีการประกาศใช้กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127 ขึ้น โดยในมาตรา 242 บัญญัติไว้ว่า[13]
"ผู้ใดทำชำเรา ผิดธรรมดามนุษย์ ด้วยชายก็ดี หญิงก็ดี หรือทำชำเราด้วยสัตว์เดียรฉานก็ดี ท่านว่ามันมีความผิด ต้องรวางโทษจำคุกตั้งแต่สามเดือนขึ้นไปจนถึงสามปี แลให้ปรับตั้งแต่ห้าสิบบาทขึ้นไป จนถึงห้าร้อยบาท ด้วยอีกโสดหนึ่ง"
เหตุผลสำคัญในการตรากฎหมายลักษณะอาญาฯ และบัญญัติโทษดังกล่าวสืบเนื่องมาจากความพยายามของรัฐไทยที่ต้องการให้ระบบกฎหมายของไทยสอดคล้องกับธรรมเนียมปฏิบัติของมหาอำนาจยุโรปในสมัยนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหราชอาณาจักรสมัยวิคตอเรีย แต่กระนั้น จากหลักฐานก็ไม่ปรากฏว่ามีการดำเนินคดีทางศาลอันเกี่ยวเนื่องกับความผิดนี้แต่อย่างใด และตำรวจไทยเองก็มองข้ามกิจกรรมทางเพศของบุคคลเพศเดียวกัน ตราบเท่าที่เป็นกิจกรรมที่ได้รับความยินยอมจากทั้งคู่[1]
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 ได้มีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายอาญาแทนที่กฎหมายลักษณะอาญาฉบับเดิม โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2500 เป็นต้นไป[14] และไม่ปรากฏว่ามีบทบัญญัติที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับมาตรา 242 ของกฎหมายลักษณะอาญาในประมวลกฎหมายฉบับใหม่ ส่งผลให้กิจกรรมทางเพศของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศนั้นชอบด้วยกฎหมายไปโดยปริยายตั้งแต่ พ.ศ. 2500 เป็นต้นไป[1]
เมื่อวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2545 กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกหนังสือที่ สธ 0605/375 รับรองว่าบุคคลรักเพศเดียวกันมิได้ถือเป็นผู้มีความผิดปกติทางจิตหรือป่วยเป็นโรคแต่อย่างใด โดยอ้างอิงถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) และตามบัญชีจำแนกโรคระหว่างประเทศ ICD-10 ฉบับแก้ไข ครั้งที่ 1 ไทย-อังกฤษ เล่มที่ 1 (ก) ตารางการจัดกลุ่มโรค องค์การอนามัยโลก ซึ่งได้เอาลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างคนรักเพศเดียวกันออกจากกลุ่มคนที่มีความผิดปกติทางจิต[15]
ในปี พ.ศ. 2550 ได้มีการปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาอีกครึ่งหนึ่ง โดยได้เพิ่มนิยามคำว่า "กระทำชำเรา" ในมาตรา 276 ให้ครอบคลุมถึง "การใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น" ซึ่งเป็นการคุ้มครองทั้งผู้ชายและผู้หญิงจากการถูกกระทำชำเรา เพราะความในกฎหมายฉบับเดิมคุ้มครองเฉพาะผู้หญิงที่ถูกผู้ชายกระทำเท่านั้น[16]
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554 ศาลปกครองกลางพิพากษาให้กระทรวงกลาโหมเพิกถอนคำว่า "เป็นโรคจิตถาวร" ในใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกิน (สด. 43), ใบสำคัญสำหรับคนจำพวกที่ 4 (สด.5) และใบสำคัญให้รับราชการทหาร (สด.9) ของบุคคลที่ยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศ แต่มีการเสริมหน้าอก เนื่องจากคำดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมจึงแก้ข้อความในพระราชบัญญัติราชการทหาร พ.ศ. 2497 เป็น "ภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด" แทน เพื่อแสดงให้เห็นว่าบุคคลดังกล่าวไม่อาจเข้ารับราชการทหารได้ตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป[17][18]
22 สิงหาคม พ.ศ. 2562 มีความพยายามก่อตั้งคณะกรรมการธิการสามัญเรื่องคนหลากหลายทางเพศในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจะบริหารจัดการที่มีความหลากหลายทางเพศที่มีปัญหาการกดทับเชิงโครงสร้างทางสังคมไทย แต่มีเสียงสนับสนุนเพียง 101 เสียง โดยที่เหลืออีก 365 เสียงคัดค้าน[19]
กฎหมายสมรสเท่าเทียม
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
6 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ได้เกิดกระแสแฮชแท็ก #สมรสเท่าเทียม ในทวิตเตอร์ของประเทศไทยขึ้นเป็นอันดับ 6 ภายหลังสำนักงานเลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดรับความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยมีธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกล ร่วมกับคณะ เป็นผู้เสนอ สาระสำคัญประกอบด้วยการเสนอขอแก้ไขเพื่อให้บุคคลเพศเดียวกันและต่างเพศสามารถทำการหมั้นและสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีสิทธิและหน้าที่ระหว่างคู่สมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และให้มีการเปลี่ยนตำว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภริยา” เป็น “ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรส”[20] โดยได้มีผู้ลงความคิดเห็นแล้วรวมมากกว่า 50,000 คน
โดยร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียมเคยเข้าสู่สภาและได้รับหลักการวาระแรกมาเมื่อปี พ.ศ. 2565 แต่ช่วงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ล่าช้า ทำให้ไม่สามารถหยิบมาพิจารณาต่อในวาระ 2 และ 3 ได้ เพราะพ้นกำหนด 60 วัน[21] จึงต้องมีการนำร่างเข้าสภาอีกครั้ง พร้อมกับร่างกฎหมายฉบับคณะรัฐมนตรี, ฉบับอรรณว์ ชุมาพร กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 11,611 คน, และฉบับสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์[22]
27 มีนาคม พ.ศ. 2567 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาวาระที่ 2 และ 3 ที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยที่ประชุมสภามีมติเห็นด้วย 400 เสียง ไม่เห็นด้วย 10 เสียง งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนนเสียง 3 เสียง จากนั้นก็นำร่างกฎหมายให้วุฒิสภาพิจารณา โดยในวันที่ 18 มิถุนายน ณ ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นด้วย 130 เสียง ไม่เห็นด้วย 4 เสียง งดออกเสียง 18 โดยก่อนหน้านี้ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมของวุฒิสภา มีความเห็นว่าควรบังคับใช้หลังจาก 120 วัน นับจากวันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เนื่องด้วยเป็นช่วงเวลาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยได้มีเวลาเตรียมการ เช่น เตรียมทะเบียนสมรสที่จะใช้ และออกระเบียบให้สอดคล้องกับ หลักศาสนาของเจ้าหน้าที่ที่เป็นมุสลิมเพื่อง่ายต่อการปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น[23]
24 กันยายน พ.ศ. 2567 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยจะบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 120 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (22 มกราคม พ.ศ. 2568)[24]
กฎหมายคุ้มครองเพศวิถีและอัตลักษณ์ทางเพศ
[แก้]ในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2558 ก็ได้มีการประกาศพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ลงในราชกิจจานุเบกษา เพื่อคุ้มครองผู้ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ และป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ โดยมีผลใช้บังคับในอีก 180 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ที่ประเทศไทยได้ตกลงเข้าเป็นประเทศภาคีสมาชิก[25][26]
กฎหมายฉบับนี้คุ้มครอง "บุคคลที่มีการแสดงออกที่แตกต่างจากเพศโดยกำเนิด" จากการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมอันได้แก่ การแบ่งแยก กีดกัน หรือจำกัดสิทธิประโยชน์ใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม จากการกำหนดนโยบาย กฎ ระเบียบ หรือวิธีปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชนหรือบุคคลใด และเปิดโอกาสให้บุคคลผู้เสียหายมีสิทธิยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการวินิจฉัยฯ เพื่อดำเนินการระงับและป้องกันการเลือกปฏิบัติ รวมทั้งการชดเชยและเยียวยาอีกด้วย[26]
การคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
[แก้]รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 และ 2550
[แก้]รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 และ 2550 ได้บัญญัติคุ้มครองบุคคลจากการถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมในเรื่องเพศ สภาพทางกาย และสถานะของบุคคลไว้อย่างกว้างๆ (มาตรา 30) และสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้ เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ และไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน (มาตรา 28)
ร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2558
[แก้]ในกระบวนการยกร่างร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับใหม่ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้เสนอให้ใส่คำว่า เพศสภาพ ลงไปในมาตรา 34 ของร่างรัฐธรรมนูญเพื่อคุ้มครองเสรีภาพของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนะ และรวบรวมความเห็นเพื่อการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้มีความเห็นว่าควรตัดคำดังกล่าวออกไปเนื่องจาก "การกำหนดในเรื่องการเลือกปฏิบัติโดยไม่ธรรมต่อบุคคล เพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ เพศ อายุ เป็นต้นนั้น ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 สามารถตีความในเชิงคุ้มครองสิทธิได้อย่างกว้างขวางอยู่แล้ว”[27] อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่เป็นที่สรุปว่าคำดังกล่าวจะถูกใส่ไว้ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ เนื่องจากการตัดสินใจอยู่ที่สภาปฏิรูปแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี
ยิ่งไปกว่านั้น มาตรา 38 ของร่างรัฐธรรมนูญได้บัญญัติว่า "สิทธิของบุคคลในการสมรสและในครอบครัวย่อมได้รับการคุ้มครอง" ซึ่งได้เพิ่ม "สิทธิในการสมรส" ขึ้นมาจากรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2550 ที่ได้คุ้มครองสิทธิในครอบครัวเพียงอย่างเดียว[28] แต่ทว่า คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญที่มีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นประธานฯ ได้ตัดสิทธิในการสมรสออก ตามคำขอของคณะรัฐมนตรีที่เสนอให้ตัดออกเพราะกังวลว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสิทธิในการสมรสระหว่างบุคคลเพศเดียวกันที่สังคมและวัฒนธรรมไทยยังไม่เป็นไปตามการให้สิทธิไว้อย่างบางประเทศ[27][29][30]
การรับรองสถานะความสัมพันธ์
[แก้]ในปัจจุบัน การสมรสระหว่างบุคคลเพศเดียวกันในประเทศไทยนั้นไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายรองรับ และขัดต่อมาตรา 1448 และ 1458 ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งได้บัญญัติไว้ว่า "การสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์แล้ว" และ "การสมรสจะทำได้ต่อเมื่อชายหญิงยินยอมเป็นสามีภริยากัน" ตามลำดับ ยิ่งไปกว่านั้น การใช้คำของประมวลกฎหมายดังกล่าวในมาตราอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น ได้กำหนดใช้เฉพาะคำว่า "ชาย" และ "หญิง" ไว้โดยตลอด ส่งผลให้คู่ครองเพศเดียวกันยังไม่สามารถจดทะเบียนสมรสได้
เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2555 นายนที ธีระโรจนพงษ์และคู่ชีวิตได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรส ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ทางอำเภอเมืองเชียงใหม่ไม่สามารถจดทะเบียนสมรสให้ทั้งคู่ได้ เนื่องจากขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในหมวดเงื่อนไขแห่งการสมรส[31]
ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต
[แก้]อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีการรณรงค์ผลักดันร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิตของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ "ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต" เพื่อเปิดทางให้คู่ครองเพศเดียวกันทำการสมรสกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งถ้าหากมีการประกาศใช้กฎหมายฉบับนี้ จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่มีการรับรองสถานะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเพศเดียวกัน
การรณรงค์ต่างๆ ประกอบไปด้วยการจัดเสวนาหัวข้อ "ประเทศไทยจะกลายเป็นชาติแรกในเอเชีย ที่ผ่านกฎหมายจดทะเบียนคู่ชีวิตหรือไม่" (Could Thailand become the first Asian country to legalize same-sex civil unions?) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT)[32], เสวนาหัวข้อ “ทำไมต้องมี พ.ร.บ.คู่ชีวิต (ฉบับประชาชน) เพื่อการแต่งงานที่เท่าเทียมในสังคมไทย” เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร[33], เสวนาหัวข้อ “ร่างพรบ.คู่ชีวิต ฉบับภาคประชาชน ถึงไหน อย่างไร จะผ่านหรือไม่?” เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558[34] เป็นต้น
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ได้มีการจัดงาน Gender&LGBTIQs in Modern Society โดยกลุ่ม Cafe Democฯ ที่หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็ได้มีทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบจากมณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจสอบการงาน และกำชับผู้จัดงานและวิทยากรในงานเสวนาห้ามพูดประเด็นทางการเมือง นายชานันท์ ยอดหงษ์ นักศึกษาระดับปริญญาเอก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักวิชาการด้านเพศ หนึ่งในวิทยากรงานเสวนาได้โพสต์ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กว่า การที่เจ้าหน้าที่พยายามระงับการจัดงานเสวนาทางวิชาการในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการคุกคามทางวิชาการ[35]
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะรับรองความสัมพันธ์ของบุคคลเพศเดียวกันในรูปแบบคู่ชีวิต (Civil union) ไม่ใช่การสมรส (Same-sex marriage) แต่อย่างใด โดยมีสิทธิและหน้าที่ด้อยกว่าคู่สมรสตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์[36] โดยมีเนื้อหาในเบื้องต้นดังนี้[37]
- บุคคลสองคนซึ่งเป็นเพศเดียวกันแสดงความยินยอมให้ปรากฏโดยเปิดเผยต่อหน้านายทะเบียน
- บุคคลมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีสัญชาติไทย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย
- ความสัมพันธ์ระหว่างคู่ชีวิตให้นำบทบัญญัติว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างคู่สมรสมาใช้โดยอนุโลม
- คู่ชีวิตมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายเสมือนคู่สมรส เช่น สิทธิในการใช้ชื่อสกุล, สิทธิตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกันภัยหรือประกันชีวิต, สิทธิตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, สิทธิตามกฎหมายประกันสังคม, สิทธิในการลดหย่อนภาษี, สิทธิของผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และสิทธิอื่นๆ ตามกฎหมาย
- ทรัพย์สินระหว่างคู่ชีวิตให้นำบทบัญญัติว่าด้วยทรัพย์สินระหว่างสามีภริยามาใช้โดยอนุโลม
- คู่ชีวิตย่อมสิ้นสุดลงด้วยความตาย, การสมัครใจเลิกกันโดยการจดทะเบียน หรือศาลพิพากษาให้เพิกถอน
- สิทธิและหน้าที่ในการรับมรดกของคู่ชีวิตให้นำบทบัญญัติว่าด้วยมรดกมาใช้โดยอนุโลม
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ 2563 รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต พ.ศ. .... และ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. ....ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแล้ว โดยมีสาระสาระสำคัญ คือ[38]
- "คู่ชีวิต" หมายความว่า บุคคลสองคนซึ่งเป็นเพศเดียวกันโดยกำเนิด และได้จดทะเบียนคู่ชีวิตตาม พ.ร.บ. นี้
- กำหนดให้ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัว มีอำนาจ พิจารณาพิพากษาคดีตาม พ.ร.บ. นี้
- กำหนดให้การจดทะเบียนคู่ชีวิตจะทำได้ต่อเมื่อบุคคลทั้งสองฝ่ายยินยอม มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ และทั้งสองฝ่ายมีสัญชาติไทย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย
- กำหนดให้ในกรณีที่ผู้เยาว์จะจดทะเบียนคู่ชีวิต ต้องได้รับความยินยอมของบิดา มารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม ผู้ปกครอง หรือศาล รวมทั้งกำหนดให้ผู้เยาว์ย่อมบรรลุ นิติภาวะเมื่อจดทะเบียนคู่ชีวิต
- กำหนดให้คู่ชีวิตมีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหายเช่นเดียวกับสามีหรือภริยา (มาตรา 3 และ 5 (2) และมีอำนาจดำเนินคดีต่างผู้ตายต่อไปเช่นเดียวกับสามีหรือภริยา (มาตรา 29 วรรคหนึ่ง) ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
- กำหนดบทบัญญัติเกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างคู่ชีวิต โดยแบ่งเป็นสินส่วนตัว และทรัพย์สินร่วมกัน
- คู่ชีวิตสามารถรับบุตรบุญธรรมได้ รวมทั้งคู่ชีวิตฝ่ายหนึ่งจะจดทะเบียน รับผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของคู่ชีวิตอีกฝ่ายหนึ่งมาเป็นบุตรบุญธรรมของตน ด้วยก็ได้
- เมื่อคู่ชีวิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย ให้คู่ชีวิตอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิและหน้าที่ เช่นเดียวกับคู่สมรสตามบทบัญญัติใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก
- กำหนดให้นำบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยคู่สมรส (มาตรา 1606 1652 1563) ครอบครัว และบุตรบุญธรรม มาใช้บังคับแก่คู่ชีวิตด้วยโดยอนุโลม
ผลสำรวจ
[แก้]กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรได้ดำเนินการจัดทำประชาพิจารณ์ รับฟังความคิดเห็นภาคประชาชนในร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยได้ทำการสำรวจบุคคลกว่า 1,153 คนในช่วงปี พ.ศ. 2556[39] โดยมีผลสำรวจดังนี้[40]
สถานที่ทำการสำรวจ / วันที่ทำการสำรวจ |
เห็นด้วย (%) | ไม่เห็นด้วย (%) | ไม่มีความเห็น (%) |
---|---|---|---|
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556[41] |
91.77 | 3.74 | 4.49 |
วิทยาลัยเทคนิคสงขลา จังหวัดสงขลา 1 มีนาคม พ.ศ. 2556[42] |
87.68 | 6.60 | 5.72 |
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กรุงเทพฯ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556[43] |
77.56 | 11.42 | 11.02 |
อาคารรัฐสภา กรุงเทพฯ 19 เมษายน พ.ศ. 2556[44] |
71.93 | 13.38 | 14.69 |
การใช้ชีวิตของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย
[แก้]การดูถูกเหยียดหยาม
[แก้]ปัจจุบันกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศได้ถูกเสียดสีเหยียดหยามผ่านคำศัพท์และประโยคต่างๆ ทั้งในชีวิตประจำวันและทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่น[งานค้นคว้าต้นฉบับ?]
- (เพศชาย) สายเหลือง, ระเบิดถังขี้, ตุ๋ย, ถั่วดำ, โบรคแบค, ฟันดาบ, สบู่ตก, ขุดทอง, คู่ขา, เหม็นขี้, เสียบตูด, ทะลวงตูด เป็นต้น
- (เพศหญิง) นิ้วเย็น ๆ หรือจะสู้เอ็นอุ่น ๆ, เปลี่ยนทอมเป็นเธอ, รับซ่อมทอม, ตีฉิ่ง, วงดนตรีไทย, วงมโหรี, แก้ทอม, ซ่อมดี้, คืนสตรีสู่สังคมไทย เป็นต้น
ไอศกรีมวอลล์กับไอศกรีมถั่วดำ
[แก้]เมื่อปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 ในช่วงเวลาเดียวกับศาลสูงสุดสหรัฐที่ได้มีคำพิพากษาให้การสมรสเพศเดียวกันชอบด้วยกฎหมายทั่วประเทศในคดีระหว่างโอเบอร์กะเฟลกับฮ็อดจิส และเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กได้รณรงค์เฉลิมฉลองผ่านแคมเปญ Celebrate Pride โดยการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ของตนเป็นสีรุ้ง[45] ซึ่งคนไทยจำนวนมากได้เข้าร่วมโครงการนี้ ทางด้านไอศกรีมวอลล์ ประเทศไทยจึงได้เลือกใช้ภาพ "ไอศกรีมถั่วดำ" พื้นหลังสีรุ้งโพสต์ลงในหน้าหลักของตน พร้อมกับคำบรรยายภาพว่า "วอลล์สนับสนุนทุกความรักนะคร้าบ" และแฮชแท็คว่า #lovewins
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้คนไทยจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ เนื่องจากคำว่า "ถั่วดำ" เป็นคำที่เสียดสีกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ แม้ว่าภายหลังทางไอศกรีมวอลล์จะได้ลบรูปภาพดังกล่าวและแถลงการขอโทษผ่านเครือข่ายออนไลน์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย แต่คนไทยจำนวนหนึ่งก็ยังคงไม่พอใจไอศกรีมวอลล์ เนื่องจากการกระทำครั้งนี้มิใช่ครั้งแรก เพราะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทางไอศกรีมวอลล์ก็ได้เคยลงภาพ "ไอศกรีมถั่วดำ" พร้อมข้อความ "เพื่อน...ตูรักมึงนะ" และ "พี่รู้มั้ย..ชั้นมารอพี่ที่สีลมทุกวันเลยนะ"[46][47] มาก่อนหน้านี้แล้ว
ตารางสรุป
[แก้]กิจกรรมทางเพศของบุคคลเพศเดียวชอบด้วยกฎหมาย | (ตั้งแต่ พ.ศ. 2500) |
อายุที่รับรู้ยินยอมเท่ากัน | (ตั้งแต่ พ.ศ. 2540) |
กฎหมายป้องกันการเลือกปฏิบัติในสถานทำงาน | (ตั้งแต่ พ.ศ. 2558) |
กฎหมายป้องกันการเลือกปฏิบัติในการบริโภคสินค้าและบริการ | (ตั้งแต่ พ.ศ. 2558) |
กฎหมายป้องกันการเลือกปฏิบัติในด้านอื่น ๆ (รวมถึงการเลือกปฏิบัติโดยอ้อม, การสื่อสารความเกลียดชัง) | (ไม่เคยระบุ) |
กฎหมายป้องกันการเลือกปฏิบัติในการศึกษา | (ไม่เคยระบุ) |
การสมรสเพศเดียวกัน | (ตั้งแต่ 22 ม.ค. พ.ศ. 2568) |
การยอมรับสถานะคู่ชีวิตเพศเดียวกัน | (ตั้งแต่ 22 ม.ค. พ.ศ. 2568) |
การรับบุตรบุญธรรมของคู่ชีวิตเพศเดียวกัน | (ตั้งแต่ 22 ม.ค. พ.ศ. 2568) |
การรับบุตรบุญธรรมร่วมของคู่ชีวิตเพศเดียวกัน | (ตั้งแต่ 22 ม.ค. พ.ศ. 2568) |
เกย์และเลสเบียนสามารถรับราชการทหารได้โดยเปิดเผย | (ตั้งแต่ พ.ศ. 2548) |
สิทธิในการเปลี่ยนเพศในทางกฎหมาย | (รอดำเนินการ)[48] |
สิทธิในการผ่าตัดแปลงเพศ | (ไม่เคยระบุ)[49] |
ตัวเลือกเพศที่สาม | (รอดำเนินการ)[48] |
การรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมโดยคนโสดโดยไม่คำนึงถึงรสนิยมทางเพศ | (ยกเว้นผู้หญิงโสดสำหรับเด็กที่มี 'ความต้องการพิเศษ') |
การบำบัดพฤติกรรมรักร่วมเพศในผู้เยาว์ | |
ผู้เยาว์ที่มีเพศกำกวมได้รับการคุ้มครองจากขั้นตอนการผ่าตัดที่รุกราน | |
การรักร่วมเพศสามารถเปิดเผยได้ | (ตั้งแต่ พ.ศ. 2545) |
การเข้าถึงการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย (IVF) สำหรับเลสเบียน | |
การอุ้มบุญเชิงพาณิชย์สำหรับคู่รักชาย | |
ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) สามารถบริจาคเลือด |
ดูเพิ่ม
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 1.3 Assessment of sexual health needs of males who have sex with males in Laos and Thailand หมายเหตุ: ในรายงานได้ระบุว่าโทษผิดธรรมดามนุษย์ (Offences against the human order) ที่ได้มีการบัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญาฯ นั้นได้ถูกยกเลิกไปในปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) แต่ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499 ซึ่งเป็นกฎหมายแทนที่กฎหมายลักษณะอาญาฯ เริ่มมีผลบังคับใช้จริงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957) เป็นต้นไป
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๓๐
- ↑ "'Monumental step as Thai King signs same-sex marriage into law': Thailand to become first Southeast Asian nation to legalize same-sex marriage". 24 September 2024.
- ↑ "'Monumental step as Thai King signs same-sex marriage into law': Thailand to become first Southeast Asian nation to legalize same-sex marriage". 24 September 2024.
- ↑ Top gay-friendly destinations เก็บถาวร 2015-02-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Lonely Planet
- ↑ "Go Thai. Be Free". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-19. สืบค้นเมื่อ 2019-04-06.
- ↑ Rising LGBT discrimination challenges Thailand’s culture of tolerance เก็บถาวร 2014-11-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Asian Correspondent
- ↑ ‘สมรสเท่าเทียม’ ผ่านสภาฯ แล้ว โหวตฉลุย 400 ต่อ 10 เสียง ส่งไม้ต่อให้ สว.
- ↑ ผ่านฉลุย! สส. เห็นชอบร่างกฎหมาย #สมรสเท่าเทียม วาระสาม ส่งไม้ต่อให้ สว.
- ↑ วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้ว ส่งไทยเป็นชาติแรกในอาเซียนมี กม. แต่งงานบุคคลเพศเดียวกัน
- ↑ ผ่านแล้ว! สว. ชุดพิเศษ ยกมือโหวตเห็นชอบร่างกฎหมาย #สมรสเท่าเทียม วาระสาม
- ↑ ‘สมรสเท่าเทียม’ ผ่านแล้ว! คู่รักเพศเดียวกันสมรสกันได้ตามกฎหมาย เตรียมประกาศใช้ภายใน 120 วัน
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.๑๒๗
- ↑ "พระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๔๙๙" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-06. สืบค้นเมื่อ 2015-06-23.
- ↑ "การรักเพศเดียวกันกับบัญชีจำแนกโรคระหว่างประเทศ". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-06-23.
- ↑ กฎหมายข่มขืนใหม่ ทำอะไรจะผิดฐานข่มขืนบ้าง?
- ↑ "ศาลสั่งกห.ถอนคำ'โรคจิตถาวร'". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-04-10. สืบค้นเมื่อ 2021-11-22.
- ↑ ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนใบตรวจเลือกทหารกองเกิน สด.43, สด.5, และ สด.9 ของสาวประเภท 2[ลิงก์เสีย]
- ↑ "เปิดชื่อโหวตกรรมาธิการฯ หลากหลายทางเพศ ใครหนุนตั้ง-ใครคว่ำ". สนุก.คอม. 23 สิงหาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 26 สิงหาคม 2562.
{{cite news}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|access-date=
(help) - ↑ "#สมรสเท่าเทียม สู่ปมแก้ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฯ". ไทยพีบีเอส. 2020-06-07. สืบค้นเมื่อ 2020-06-07.
- ↑ "เส้นทาง 22 ปี สู่ "สมรสเท่าเทียม" อีกขั้นสู่ความเท่าเทียม". Thai PBS.
- ↑ "เส้นทาง 23 ปี กว่าจะมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อให้ 'ทุกเพศ' เท่ากัน". plus.thairath.co.th.
- ↑ ""Pride Month 2567" อัปเดต "สมรสเท่าเทียม" กฎหมายถึงขั้นไหน". Thai PBS.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศแล้ว พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม
- ↑ "พรบ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-06-26.
- ↑ 26.0 26.1 "พระราชบัญญัติ ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-04-17. สืบค้นเมื่อ 2015-06-26.
- ↑ 27.0 27.1 สรุปกม.สิทธิหลากหลายทางเพศในร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เก็บถาวร 2015-07-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ
- ↑ เทียบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 และ 2550 กับฉบับปฏิรูป สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
- ↑ ปรับร่างแก้ไข รธน.2 วันผ่าน 48 มาตรา ประชาไท
- ↑ Thai lawmakers scrap rights of LGBT to legally marry Prachathai
- ↑ ""เกย์นที" แห้ว! อำเภอปฏิเสธจดทะเบียนสมรส-เล็งฟ้องศาลปกครอง". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-08-12. สืบค้นเมื่อ 2015-06-22.
- ↑ ประชาไท เสวนาความคืบหน้า พ.ร.บ.คู่ชีวิต #1: วิรัตน์ กัลยาศิริ - อัญชนา สุวรรณานนท์
- ↑ เสวนาร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต (ฉบับประชาชน) ของเพศทางเลือก[ลิงก์เสีย]
- ↑ คอลัมน์ สร้างสุข: ร่าง พรบ.คู่ชีวิตประตูสู่ความเท่าเทียม
- ↑ ทหารคุมเข้มเสวนา Gender&LGBTIQ งานเกือบล่ม เก็บถาวร 2015-07-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน VoiceTV
- ↑ http://www.ar.or.th/ImageData/Magazine/10046/DL_10332.pdf?t=636422760773190331
- ↑ "ศูนย์สิทธิมนุษยชน: ร่างพระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. ..." (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-06-29.
- ↑ "ครม.เคาะ "ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต" เพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนได้". thansettakij.com. สืบค้นเมื่อ 2021-01-13.
- ↑ สรุปผลการประเมินผลการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อ (ร่าง) พระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ.....[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ศูนยสิทธิมนุษยชน: ร่าง พรบ. การจดทะเบียนคู่ชีวิต" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-06-29.
- ↑ "ผลการวิเคราะห์ข้อมูล แบบสำรวจความคิดเห็นต่อ (ร่าง) พระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. ..... ครั้งที่ 2 ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-06-29.
- ↑ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล แบบสำรวจความคิดเห็นต่อ (ร่าง) พระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. ..... ครั้งที่ 4 ในวันที่ 1 มีนาคม 2556 ณ จังหวัดสงขลา[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ผลการวิเคราะห์ข้อมูล แบบสำรวจความคิดเห็นต่อ (ร่าง) พระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. ..... ครั้งที่ 1 ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์2556 มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม จังหวัดกรุงเทพฯ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-06-29.
- ↑ "ผลการวิเคราะห์ข้อมูล แบบสำรวจความคิดเห็นต่อ (ร่าง) พระราชบัญญัติการจดทะเบียนคู่ชีวิต พ.ศ. ..... ครั้งที่ 5 ในวันที่ 19 เมษายน 2556 ณ รัฐสภา กรุงเทพฯ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ 2015-06-29.
- ↑ CNN Gay pride: How the world turned into a rainbow this weekend
- ↑ VoiceTV แคมเปญออนไลน์ไอศกรีมดังเหยียดเพศผ่าน 'Celebrate Pride' เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ กระหน่ำดราม่า "วอลล์" ใช้ไอศกรีมถั่วดำแสดงความยินดีแด่เพศทางเลือก
- ↑ 48.0 48.1 Boonkong, Carla; O' Connor, Pranee (20 February 2024). "Full steam ahead on LGBTQ rights in Thailand, new gender identity law ordered by the PM at cabinet". สืบค้นเมื่อ 20 February 2024.
- ↑ "Gender Change". Plastic Surgery Phuket. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2015. สืบค้นเมื่อ 6 November 2015.