เทศบาลเมืองพนัสนิคม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เทศบาลเมืองพนัสนิคม
ย่านการค้าเมืองพนัสนิคม
ย่านการค้าเมืองพนัสนิคม
ตราอย่างเป็นทางการของเทศบาลเมืองพนัสนิคม
ตรา
คำขวัญ: 
พระพนัสบดีคู่บ้าน จักสานคู่เมือง ลือเลื่องบุญกลางบ้าน ตำนานพระรถ-เมรี ศักดิ์ศรีเมืองสะอาด เก่งกาจการทายโจ๊ก
ทม.พนัสนิคมตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี
ทม.พนัสนิคม
ทม.พนัสนิคม
ที่ตั้งของเทศบาลเมืองพนัสนิคม
พิกัด: 13°27′04.5″N 101°10′38.5″E / 13.451250°N 101.177361°E / 13.451250; 101.177361
ประเทศ ไทย
จังหวัดชลบุรี
อำเภอพนัสนิคม
การปกครอง
 • นายกเทศมนตรีวิจัย อัมราลิขิต
พื้นที่
 • ทั้งหมด2.76 ตร.กม. (1.07 ตร.ไมล์)
ประชากร
 (2560)[1]
 • ทั้งหมด10,567 คน
 • ความหนาแน่น3,828.62 คน/ตร.กม. (9,916.1 คน/ตร.ไมล์)
รหัส อปท.04200601
ที่อยู่
สำนักงาน
เทศบาลเมืองพนัสนิคม ถนนเมืองเก่า ตำบลพนัสนิคม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี 20140
โทรศัพท์0 3846 1144 ต่อ 102
เว็บไซต์www.phanatnikhomcity.go.th
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

เทศบาลเมืองพนัสนิคม เป็นเทศบาลเมืองแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เป็นเทศบาลขนาดกลางมีเนื้อที่ครอบคลุมตำบลพนัสนิคมทั้งตำบล มีพื้นที่ 2.76 ตารางกิโลเมตร มีประชากรในปี พ.ศ. 2560 จำนวน 10,567 คน[1] อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 87 กิโลเมตร ห่างจากเมืองชลบุรี 22 กิโลเมตร ห่างจากเมืองฉะเชิงเทรา 28 กิโลเมตร

ประวัติ[แก้]

ในเมืองพนัสนิคม พบโบราณสถานเมืองเก่าสมัยทวารวดี มีอายุราว 1,500 ปี อยู่ในตำบลหน้าพระธาตุ ชาวบ้านมักเรียกพนัสนิคมว่าเมือเก่า ต่อมาเรียกสมัยหลังว่าเมืองพระรถ (ชื่อสมมุติจากรถเสนชาดกในปัญญาสชาดก เป็นที่แพร่หลายในชาวลาว) อายุอยู่ในราวหลัง พ.ศ. 1000 เมืองโบราณยุคทวารวดีที่พนัสนิคมนี้ได้ลดความสำคัญลงและในที่สุดรกร้างไปราวหลัง พ.ศ. 1500 เพราะเส้นทางคมนาคมเปลี่ยนไป แล้วมีบ้านเมืองแห่งใหม่ใกล้ทะเลเติบโตมีความสำคัญแทนที่

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชโองการสถาปนาเมืองพนัสนิคมขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2371 เป็นเมืองชั้นจัตวา สังกัดกรมท่า

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงปฏิรูปการปกครองส่วนภูมิภาค จัดระเบียบการปกครองสิ่งใหม่เป็นมณฑล เมือง อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน จึงโปรดเกล้าให้เมืองพนัสนิคมเป็นอำเภอหนึ่งของเมืองชลบุรี มณฑลปราจีน เมื่อปี พ.ศ. 2447

เทศบาลเมืองพนัสนิคมถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี 14 มีนาคม พ.ศ. 2480 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

ที่ตั้งและอาณาเขต[แก้]

  • ทิศเหนือ ติดต่อกับตำบลวัดโบสถ์ และตำบลวัดหลวง อำเภอพนัสนิคม
  • ทิศใต้ ติดต่อกับตำบลกุฏโง้ง อำเภอพนัสนิคม
  • ทิศตะวันออก ติดต่อกับตำบลนาวังหิน และตำบลบ้านช้าง อำเภอพนัสนิคม
  • ทิศตะวันตก ติดต่อกับตำบลกุฎโง้ง อำเภอพนัสนิคม

สัญลักษณ์[แก้]

ตราประจำเทศบาล[แก้]

ตราประจำเทศบาลเมืองพนัสนิคมเป็นพระรูปพระรถเสนทรงม้า เพราะท้องที่นี้เดิมเรียกว่าเมืองพระรถ อันปรากฏหลักฐานโบราณสถาน พระธาตุเจดีย์ ซากกำแพง คูเมืองโบราณ พระพุทธรูป เครื่องปั้นดินเผา รางหิน เป็นต้น ทำให้ชาวลาวอาสาปากน้ำ(ลาวนครพนม)ผู้บุกเบิกเมืองพนัสนิคมเชื่อได้ว่าเมืองร้างแห่งนี้เป็นเมืองพระรถ ตามเรื่องรถเสนชาดกในปัญญาสชาดก โดยเมืองพนัสนิคมจัดตั้งขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้กลุ่มลาวอาสาปากน้ำมาสร้างภูมิลำเนาขึ้นในพื้นที่รกร้างระหว่างเมืองชลบุรีกับเมืองฉะเชิงเทราในปี พ.ศ. 2371 และพระราชทานนามเมืองว่าพนัสนิคม (บางเอกสารเขียน พนัศนิคม) มีฐานะเป็นเมืองจัตวา ขึ้นกับกรมท่า กรุงเทพมหานคร ให้ท้าวอินทิศาล (บางเอกสารเขียน อินพิศาล) ปลัดลาว เมืองสมุทรปราการ บุตรชายคนโตของท้าวไชย (บางเอกสารเขียน ศรีวิชัย) อุปฮาดเมืองนครพนม ให้เป็นเจ้าเมืองพนัสนิคมคนแรกและพระราชทานราชทินนามและบรรดาศักดิ์ที่พระอินทอาษา (บางเอกสารเขียน อินทรอาษา, อินทราษา) มีข้อความในพระราชพงศาวดารว่า “พวกลาวอาสาปากน้ำ ตั้งขึ้นเมื่อครั้งในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสุลาลัย ภายหลังเมื่อปีชวดสัมฤทธิศก พวกลาวไม่สบาย ขอไปตั้งอยู่ที่เมืองพระรถ จึงโปรดให้ตัดเอาแขวงเมืองชลบุรี เมืองฉะเชิงเทรา มาตั้งเป็นเมืองขึ้นชื่อเมืองพนัศนิคม เจ้าเมืองชื่อพระอินทอาษา” (พระราชพงศาวดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เล่ม 2 ของ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับคุรุสภา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2504 หน้า 180) ลาวบุกเบิกเมืองพนัสนิคม เป็นลาวเมืองนครพนม ประมาณ 2 พันคน นำโดยท้าวไชย อุปฮาดเมืองนครพนม บุตรชายชองพระบรมราฃา (ท้าวกู่แก้ว) เจ้าเมืองนครพนม ไม่สมัครใจอยู่ในปกครองของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมองค์ใหม่ จึงอพยพพาสมัครพรรคพวก บุตรหลาน ท้าวเพี้ย ขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเมื่อกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2352 และโปรดเกล้าฯให้ตั้งบ้านเรือนอยู่คลองมหาวงษ์ เมืองสมุทรปราการ ยุคนั้นจึงเรียกคนกลุ่มนี้ว่าพวกลาวอาสาปากน้ำ แต่ทนสภาพแวดล้อมไม่ไหว เพราะเป็นชาวดอนน้ำจืด ถูกให้ไปอยู่เมืองลุ่มน้ำกร่อยและเค็ม เลยขอเปลี่ยนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งสภาพใกล้เคียงที่ดอน จึงได้ไปอยู่เมืองพนัสนิคม

ใน พ.ศ. 2372 พระอินทอาษา เจ้าเมืองพนัสนิคม ได้ไปเกลี้ยกล่อมครอบครัวลาวเมืองนครพนมมาอยู่ที่เมืองพนัสนิคมอีกจำนวนหนึ่ง ด้วยเหตุที่เมืองพนัสนิคมชาวเมืองพนัสนิคมมีความเชื่อว่าเดิมคือ เมืองพระรถ เทศบาลจึงกำหนดตราเป็นพระรูปพระรถเสนทรงม้า

คำขวัญ[แก้]

"พระพนัสบดีคู่บ้าน จักสานคู่เมือง ลือเลื่องบุญกลางบ้าน ตำนานพระรถ-เมรี ศักดิ์ศรีเมืองสะอาด เก่งกาจการทายโจ๊ก"

ประชากร[แก้]

เมืองพนัสนิคมมีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 12,000 คนเศษ ซึ่งประกอบไปด้วยชน 3 เชื้อชาติ คือชาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวไทยเชื้อสายลาว

ศาสนา[แก้]

หอพระพนัสบดี

ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายหินยาน และมหายาน นอกเหนือจากนั้นนับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม พนัสนิคมมี พระพนัสบดี เป็นพระคู่บ้าน คู่เมือง เป็นพระพุทธรูปแกะสลักจากหินดำปางเสด็จจากดาวดึงส์ ประทับอยู่บนหลังสัตว์รูปร่างคล้ายนก มีปากคล้ายครุฑ มีเขาคล้ายโค และมีปีกคล้ายหงส์ เป็นพระพุทธรูปสมัยทวาราวดี (พุทธศตวรรษที่ 12-16) ประดิษฐานอยู่บนวิหารตรงข้ามสำนักงานเทศบาล

การประกอบอาชีพ[แก้]

ชาวพนัสนิคมส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพาณิชยกรรม และหัตถกรรมที่สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับชาวพนัสนิคมเป็นอย่างมากคือ "การจักสาน" เครื่องจักสานพนัสนิคมเป็นผลิตผลจากการใช้ไม้ไผ่มาเป็นวัสดุในการจัดทำ สามารถสร้างสรรค์เป็นรูปทรงและขนาดต่างๆ ใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เช่น กระเป๋า ตะกร้า ฝาชี เครื่องประดับตกแต่งต่างๆ ฯลฯ

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "รายงานสถิติจำนวนประชากรและบ้าน ประจำปี พ.ศ. 2560 ท้องถิ่นเทศบาลเมืองพนัสนิคม". ระบบสถิติทางการทะเบียน กรมการปกครอง. สืบค้นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]