จังหวัดสิงห์บุรี
- สำหรับความหมายอื่นของ สิงห์บุรี ดูที่ สิงห์บุรี (แก้ความกำกวม)
จังหวัดสิงห์บุรี | |
---|---|
การถอดเสียงอักษรโรมัน | |
• อักษรโรมัน | Changwat Sing Buri |
จากซ้ายไปขวา บนลงล่าง:
| |
คำขวัญ: ถิ่นวีรชนคนกล้า คู่หล้าพระนอน นามกระฉ่อนช่อนแม่ลา เทศกาลกินปลาประจำปี
| |
แผนที่ประเทศไทย จังหวัดสิงห์บุรีเน้นสีแดง | |
ประเทศ | ![]() |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าราชการ | สุพจน์ ยศสิงห์คำ (ตั้งแต่ พ.ศ. 2565) |
พื้นที่[1] | |
• ทั้งหมด | 822.478 ตร.กม. (317.561 ตร.ไมล์) |
อันดับพื้นที่ | อันดับที่ 74 |
ประชากร (พ.ศ. 2564)[2] | |
• ทั้งหมด | 204,526 คน |
• ความหนาแน่น | 248.67 คน/ตร.กม. (644.1 คน/ตร.ไมล์) |
• อันดับความหนาแน่น | อันดับที่ 13 |
รหัส ISO 3166 | TH-17 |
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด | |
• ต้นไม้ | มะกล่ำตาช้าง |
• ดอกไม้ | ไม่มี |
• สัตว์น้ำ | ปลาช่อน |
ศาลากลางจังหวัด | |
• ที่ตั้ง | ภายในศูนย์ราชการจังหวัดสิงห์บุรี ถนนสิงห์บุรี-บางพาน ตำบลบางมัญ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี 16000 |
• โทรศัพท์ | 0 3650 7112 |
• โทรสาร | 0 3651 1621 |
เว็บไซต์ | http://www.singburi.go.th/ |
![]() |
สิงห์บุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย ในอดีตเคยเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยเป็นที่ตั้งของค่ายบางระจันในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
ภูมิศาสตร์[แก้]
จังหวัดสิงห์บุรีตั้งอยู่ภาคกลางของประเทศไทย ห่างจากกรุงเทพมหานคร 142 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 822.478 ตารางกิโลเมตร หรือ 514,049 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสรรพยา (จังหวัดชัยนาท) และอำเภอตาคลี (จังหวัดนครสวรรค์)
- ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอไชโย อำเภอโพธิ์ทอง และอำเภอแสวงหา (จังหวัดอ่างทอง)
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอบ้านหมี่และอำเภอท่าวุ้ง (จังหวัดลพบุรี)
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอสรรคบุรี (จังหวัดชัยนาท) และอำเภอเดิมบางนางบวช (จังหวัดสุพรรณบุรี)
ลักษณะภูมิประเทศโดยทั่วไป เป็นที่ราบลุ่มและพื้นที่ลูกคลื่นลอนตื้น ซึ่งเกิดจากการทับถมของตะกอนริมแม่น้ำเป็นอย่างมาก มีแม่น้ำสำคัญไหลผ่าน 3 สาย คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และแม่น้ำลพบุรี นอกจากนี้ยังมีลำน้ำสายอื่น ๆ คือ ลำแม่ลา ลำการ้อง ลำเชียงราก และลำโพธิ์ชัย ไม่มีพื้นที่เป็นภูเขาและป่าไม้และไม่มีแร่ธาตุที่สำคัญ
ลักษณะของภูมิอากาศโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น
- ฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 34.30-37.34 องศาเซลเซียส
- ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,047.27 มิลลิเมตรต่อปี
- ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-มกราคม อุณหภูมิเฉลี่ย ประมาณ 27-18 องศาเซลเซียส
ประวัติศาสตร์[แก้]
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงเล่าถึงเมืองสิงห์ถวายสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ไว้ในสาสน์สมเด็จว่า "...เมืองสิงห์บุรีเป็นเมืองใหญ่และเก่า มีป้อมปราการ วัง วัดมหาธาตุ และของสำคัญ คือ พระนอนจักรสีห์ ใหญ่ยาวกว่าพระนอนองค์อื่น ๆ ในเมืองไทย ทำเป็นแบบพระนอนอินเดียเหมือนเช่นที่ถ้ำคูหาภิมุข วัดคูหาภิมุข อำเภอเมืองยะลา คือ พระกรขวาศอกยื่นไปทางด้านหน้า ไม่ทำงอพระกรตั้งขึ้นรับพระเศียรแบบพระนอนไทย เมืองสิงห์เรียกชื่อต่าง ๆ ดังนี้ เมืองสิงหราชาธิราช เมืองสิงหราชา เป็นเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำจักรสีห์อันเป็นลำน้ำใหญ่ ห่างแม่น้ำเจ้าพระยา 200 เส้น เพราะแม่น้ำจักรสีห์ตื้นเขิน เมืองสิงห์จึงกลายเป็นเมืองอยู่ลับลี้..." ก็แสดงว่า สิงห์บุรีเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ มีอดีตยาวนาน จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีพบว่า มีการตั้งถิ่นฐานของชุมชนโบราณมาเป็นเวลานานหลายยุคหลายสมัย
ยุคก่อนประวัติศาสตร์[แก้]
พบร่องรอยหลักฐานมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่บ้านชีน้ำร้าย อำเภออินทร์บุรี บ้านบางวัว ตำบลไม้ดัด อำเภอบางระจัน บ้านคู ตำบลพักทัน อำเภอบางระจัน คือ ขวานหิน แวดินเผา หินดุ ชิ้นส่วนกำไลสำริด ค้นพบโดยพระเจ้าแสนภูมิ
สมัยทวารวดี[แก้]
พบหลักฐานที่เมืองโบราณบ้านคูเมือง ตำบลห้วยชัน อำเภออินทร์บุรี เป็นการตั้งถิ่นฐานแบบ "เมืองคูคลอง" มีแผนผังเกือบเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีคูน้ำ คันดินล้อมรอบ โบราณวัตถุที่ขุดพบ เช่น ภาชนะดินเผา ลูกปัด แท่นหินบด แวดินเผา ตะคัน ฯลฯ ส่วนหนึ่งจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อินทร์บุรี ปัจจุบันสถานที่ดังกล่าวเป็นสวนรุกขชาติและที่ตั้งหน่วยอนุรักษ์พันธุ์ไม้จังหวัดสิงห์บุรี
เมืองวัดพระนอนจักรสีห์ ที่ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี รูปแบบเมืองเป็นเมืองซ้อน มีเมืองชั้นในรูปค่อนข้างกลมและเมืองชั้นนอกล้อมรอบรูปสี่เหลี่ยมมน ไม่ปรากฏร่องรอยกำแพงเมือง (ที่ทำด้วยดินพูนสูง) แต่คูเมืองบางด้านยังปรากฏให้เห็น สิ่งที่พบคือ ลูกปัด แวดินเผา เศษภาชนะ ฯลฯ
แหล่งโบราณคดีบ้านคีม ที่ตำบลสระแจง อำเภอบางระจัน มีสภาพเป็นเนินดินรูปรี กว้าง 200 เมตร ยาว 500 เมตร มีคูน้ำขนาดกว้าง 5 เมตร
สมัยสุโขทัย[แก้]
มีการค้นพบเครื่องสังคโลกสมัยสุโขทัยตามวัดร้างและแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าชุมชนต่าง ๆ นั้นมีความสำคัญมากน้อยเพียงไร เพราะในช่วงที่อาณาจักรสุโขทัยรุ่งเรืองนั้นได้มีอำนาจแผ่ขยายอาณาเขตครอบคลุมในบริเวณภาคกลางและลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
สมัยอยุธยา[แก้]
ปรากฏเหตุการณ์ที่สำคัญคือ สมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ได้ตั้งเมืองสิงห์บุรีเป็นเมืองลูกหลวง และทรงตั้งเมืองอินทร์บุรีและเมืองพรหมบุรีเป็นเมืองหลานหลวง นอกจากนี้แล้ว เมืองทั้งสามยังเป็นหัวเมืองชั้นในและหัวเมืองหน้าด่านรายทางด้านทิศเหนืออีกด้วย โดยมีเมืองลพบุรีเป็นเมืองหน้าด่านหลัก แสดงให้เห็นว่า เมืองสิงห์บุรี เมืองอินทร์บุรี และเมืองพรหมบุรี มีอยู่แล้วเมื่อตั้งกรุงศรีอยุธยา ก่อนหน้านั้นเมืองทั้งสามอาจอยู่ในการปกครองของอาณาจักรสุโขทัยก็ได้ แต่ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าเมืองทั้งสามสร้างขึ้นในสมัยไหน
สมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ทรงจัดการปกครองใหม่ โดยกำหนดให้หัวเมืองชั้นในเป็นหัวเมืองจัตวา ดังนั้น เมืองอินทร์บุรี เมืองพรหมบุรี และเมืองสิงห์บุรีจึงเปลี่ยนฐานะเป็นหัวเมืองจัตวา
ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ เมื่อปี พ.ศ. 2086 เมืองสิงห์เป็นเมืองที่สมเด็จพระมหาธรรมราชาให้ทหารไปสืบข่าวเรืองศึกสงครามกับพม่า ขณะเดียวกันก็ได้ยกกองทัพไปตั้งที่เมืองอินทร์บุรี เพื่อหยั่งเชิงดูข้าศึกอีกด้วย ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา
ในปี พ.ศ. 2127 หลังจากสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพได้ไม่นาน พม่าก็ได้ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง ครั้งนี้พม่ายกกองทัพมาสองทาง คือ ทางเหนือมีพระเจ้าเชียงใหม่เป็นแม่ทัพ และทางตะวันตกมีพระยาพะสิมเป็นแม่ทัพ แต่ทัพของพระยาพะสิมถูกกองทัพกรุงศรีอยุธยาตีแตกไปก่อน โดยที่พระเจ้าเชียงใหม่ยังไม่ทราบ เมื่อกองทัพพระเจ้าเชียงใหม่ยกมาถึงเมืองชัยนาท ก็ให้แต่งทัพหน้ามาตั้งที่บางพุทรา ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (ภายหลังคือ ตัวจังหวัดสิงห์บุรี)
พ.ศ. 2308 สมัยพระเจ้าเอกทัศ ในขณะที่พม่าตั้งค่ายล้อมกรุงศรีอยุธยาอยู่ ชาวบ้านบางระจันได้รวมตัวกันต่อสู้กับพม่าที่บ้านบางระจัน เมืองสิงห์บุรี ซึ่งมีผู้นำสำคัญของชาวบ้านและปรากฏชื่อ คือ
|
|
โดยชาวบ้านบางระจันได้ต่อสู้กับพม่าและสามารถเอาชนะกองทัพพม่าได้ถึง 7 ครั้ง จนถึงครั้งที่ 8 ชาวบ้านบางระจันจึงพ่ายแพ้ในวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือน 8 ปีจอ พ.ศ. 2309 รวมเวลาที่ไทยรบกับพม่าทั้งสิ้น 5 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน 4 ปลายปีระกา พ.ศ. 2308 ถึงเดือน 8 ปีจอ พ.ศ. 2309 (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน วีรชนบ้านบางระจัน)
สมัยธนบุรี[แก้]
เมืองอินทร์บุรี เมืองพรหมบุรี เมืองสิงห์บุรี ขึ้นกับกรุงธนบุรี ในประชุมพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) กล่าวถึงสำเนาท้องตรา พ.ศ. 2316 เกณฑ์ผู้รักษาเมืองสิงห์บุรี เมืองพรหมบุรี เมืองอินทร์บุรี ยกทัพไปสกัดข้าศึกด้านตะวันออกและคุมพรรคพวกซ่องสุมกำลังยกไปขุดคูเลนพระนครกรุงธนบุรี
สมัยรัตนโกสินทร์[แก้]
มีหลักฐานที่ปรากฏคือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้จัดการปกครองมณฑลเทศาภิบาล เมืองสิงห์บุรี เมืองอินทร์บุรี และเมืองพรหมบุรีเข้าอยู่ในมณฑลกรุงเก่า (ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นมณฑลอยุธยา) และปี พ.ศ. 2439 ยุบเมืองอินทร์บุรีและเมืองพรหมบุรีเป็นอำเภออินทร์บุรีและอำเภอพรหมบุรีขึ้นกับเมืองสิงห์บุรี พร้อมกับตั้งเมืองสิงห์บุรีขึ้นใหม่ที่ตำบลบางพุทรา ส่วนเมืองสิงห์บุรีเดิมยุบเป็น "อำเภอสิงห์" และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบางระจัน
ปี พ.ศ. 2444 อำเภอเมืองสิงห์บุรีเปลี่ยนชื่อเป็น อำเภอบางพุทรา และในปี พ.ศ. 2481 ทางราชการสั่งให้เปลี่ยนชื่อที่ว่าการอำเภอที่ตั้งอยู่ในเมืองให้เป็นชื่อของจังหวัดนั้น ๆ อำเภอบางพุทราจึงได้กลับไปใช้ชื่ออำเภอเมืองสิงห์บุรีมาจนถึงปัจจุบัน
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด[แก้]
- คำขวัญประจำจังหวัด: ถิ่นวีรชนคนกล้า คู่หล้าพระนอน นามกระฉ่อนช่อนแม่ลา เทศกาลกินปลาประจำปี
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: ต้นมะกล่ำตาช้างหรือมะกล่ำต้น (Adenanthera pavonina)
- สัตว์น้ำประจำจังหวัด: ปลาช่อน (Channa striata)
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: ดอกทองอุไร (Tecoma stans (L.) Kunth)
ต้นมะกล่ำตาช้าง ต้นไม้ประจำจังหวัด
ปลาช่อน สัตว์น้ำประจำจังหวัด
การเมืองการปกครอง[แก้]
หน่วยการปกครอง[แก้]
การปกครองส่วนภูมิภาค[แก้]
การปกครองแบ่งออกเป็น 6 อำเภอ 43 ตำบล 364 หมู่บ้าน
การปกครองส่วนท้องถิ่น[แก้]
พื้นที่จังหวัดสิงห์บุรีประกอบด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 42 แห่ง แบ่งตามประเภทและอำนาจบริหารจัดการภายในท้องที่ได้เป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลเมือง 2 แห่ง เทศบาลตำบล 6 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 33 แห่ง[3]
ลำดับ | ชื่อเทศบาล | พื้นที่ (ตร.กม.) |
ตั้งเมื่อ (พ.ศ.)[# 1] |
อำเภอ | ครอบคลุมตำบล | ประชากร (คน) (ณ สิ้นปี 2555) [4] | ||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ทั้งตำบล | บางส่วน | รวม | ||||||
เทศบาลเมือง | ||||||||
1 | 7.81 |
2478 | เมืองฯ | 1 | 4 | 5 | 18,102
| |
2 | 22.80 |
2556 | บางระจัน | 14,772
| ||||
เทศบาลตำบล | ||||||||
3 (1) | เทศบาลตำบลโพสังโฆ |
2542 | ค่ายบางระจัน | - | 1 | 1 | 2,217
| |
4 (2) | เทศบาลตำบลปากบาง |
2542 | พรหมบุรี | 1 | - | 1 | 3,345
| |
5 (3) | เทศบาลตำบลบางน้ำเชี่ยว |
2542 | พรหมบุรี | 1 | - | 1 | 3,528
| |
6 (4) | เทศบาลตำบลถอนสมอ |
2542 | ท่าช้าง | 2 | - | 1 | 9,306
| |
7 (5) | 2542 | อินทร์บุรี | - | 1 | 1 | 5,247
| ||
8 (6) | 24.27 |
2552 | อินทร์บุรี | 1 | - | 1 |
- ↑ หมายถึงปีที่ได้รับการยกฐานะเป็นเทศบาลในระดับปัจจุบัน
รายชื่อผู้ว่าราชการจังหวัด[แก้]
- จมื่นสมุห์พิมาน (เจิม)
- หลวงอนุรักษ์ภูเบศร์รักษา (โดม)
- พระราชพินิจจัย (เหม) พ.ศ. 2448
- หลวงเสนานนท์ (อรุณ)
- หม่อมอมรวงษ์วิจิตร (หม่อมราชวงศ์ปฐม คเนจร) พ.ศ. 2448[5][6]
- หลวงบาทศุภกิจ
- พระทรงสุรเดช (เตน)
- หม่อมเจ้านพมาศ นวรัตน พ.ศ. 2450 - พ.ศ. 2452
- พระพรหมประสาทศิลป์ (ลี) พ.ศ. 2452 - พ.ศ. 2455
- พระพิศาลสงคราม (ผล) พ.ศ. 2455 - พ.ศ. 2458
- พระสิงห์บุรีตรีนัทยเขตร (หม่อมราชวงศ์กมล นพวงษ์) พ.ศ. 2458 - พ.ศ. 2461
- พระยาสิงห์บุรานุรักษ์ (สะอาด บูรณะสมภพ) พ.ศ. 2461 - พ.ศ. 2472
- พระประชากรบริรักษ์ พ.ศ. 2472 - พ.ศ. 2476
- พระยาประเสริฐสุนทราศรัย 18 ม.ค. 2476 - พ.ศ. 2476
- พระกำแพงพราหม พ.ศ. 2476 - พ.ศ. 2476
- หลวงอรรถวิจิตรจรรยารักษ์ มี.ค. 2476 - พ.ศ. 2478
- หลวงอรรถสิทธิสุนทร พ.ศ. 2478 - พ.ศ. 2480
- หลวงสรรคประศาสน์ 27 ม.ค. 2480 - พ.ศ. 2486
- ขุนบริรักษ์บทวลัญช์ 1 พ.ย. 2486 - 15 ส.ค. 2490
- นายเวช เพชรานนท์ 15 ส.ค. 2490 - ธ.ค. 2490
- นายสนิท วิไลจิตต์ ม.ค. 2491 - เม.ย. 2493
- ขุนบริรักษ์บทวลัญช์ 17 เม.ย. 2493 - ก.ย. 2500
- นายพุก ฤกษ์เกษม 21 ก.ย. 2500 - 27 พ.ย. 2506
- ร.ต.ท.ปิ่น สหัสโชติ 30 พ.ย. 2506 - 6 พ.ย. 2507
- นายพัฒน์ พินทุโยธิน 7 พ.ย. 2507 - 1 มี.ค. 2509
- นายเกษม จียะพันธ์ 8 มี.ค.2509 - 22 พ.ค. 2512
- นายเอี่ยม เกรียงศิริ 26 พ.ค. 2512 - 30 ก.ย. 2518
- นายบรรโลม ภุชงคกุล 14 ต.ค. 2518 - 1 ธ.ค. 2521
- นายชิต นิลพานิช 1 ธ.ค. 2521 - 1 ต.ค. 2523
- นายชำนาญ เรืองเผ่าพันธุ์ 1 ต.ค. 2523 - 30 ก.ย. 2526
- นายวิชิต แสงทอง 1 ต.ค. 2526 - 15 ม.ค. 2528
- นายจำนงค์ อยู่โพธิ์ 16 ม.ค. 2528 - 30 ก.ย. 2530
- นายชนะศักดิ์ ยุวบูรณ์ 1 ต.ค. 2530 - 30 ก.ย. 2533
- นายปรีดี ตันติพงศ์ 1 ต.ค. 2533 - 30 ก.ย. 2534
- ร.ต.สมพร กุลวานิช 1 ต.ค. 2534 - 30 ก.ย. 2535
- ร.ต.อุทัย ใจหงษ์ 1 ต.ค. 2535 - 30 ก.ย. 2538
- นายวิพัฒน์ คงมาลัย 1 ต.ค. 2538 - 30 เม.ย. 2541
- นายนิคม บูรณพันธ์ศรี 16 เม.ย. 2541 - 30 ก.ย. 2542
- นายพยูณ มีทองคำ 1 ต.ค. 2542 - 30 ก.ย. 2544
- นายนิวัตน์ สวัสดิ์แก้ว 1 ต.ค. 2544 - 30 ก.ย. 2546
- นายพระนาย สุวรรณรัฐ 1 ต.ค. 2546 - 30 ก.ย. 2547
- นางจุฑามาศ ประทีปะวณิช 1 ต.ค. 2547 - 30 ก.ย. 2549
- นายประภาศ บุญยินดี 16 ต.ค. 2549 - 19 ต.ค. 2551
- นายวิชัย ไพรสงบ 20 ต.ค. 2551 - 15 มี.ค. 2552
- นายชุมพร พลรักษ์ 16 มี.ค. 2552 - 30 ก.ย. 2552
- นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ 1ต.ค. 2552 - 30 ก.ย. 2553
- นายพิเชษฐ ไพบูลย์ศิริ 1 ต.ค. 2553 - 7 ต.ค. 2555
- นายสุรพล แสวงศักดิ์ 19 พ.ย. 2555 - 30 ก.ย. 2557
- นายชโลธร ผาโคตร 1ต.ค. 2557 - 30 ก.ย. 2558
- นายอัครเดช เจิมศิริ 1ต.ค. 2558 - 30 ก.ย. 2559
- นายพศิน โกมลวิชญ์ 1 ต.ค. 2559 - 4 เม.ย. 2560
- นายสุทธา สายวาณิชย์ 1 ต.ค. 2560 - 30 ก.ย. 2561
- นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ 1 ต.ค. 2561 - 30 ก.ย. 2564
- นายชัยชาญ สิทธิวิรัชธรรม 1 ต.ค. 2564 - 30 ก.ย. 2565
- นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ 1 ต.ค. 2565 - ปัจจุบัน
ประชากร[แก้]
ปี | ประชากร | ±% |
---|---|---|
2553 | 214,661 | — |
2554 | 213,587 | −0.5% |
2555 | 213,216 | −0.2% |
2556 | 212,690 | −0.2% |
2557 | 212,158 | −0.3% |
2558 | 211,426 | −0.3% |
2559 | 210,588 | −0.4% |
2560 | 210,088 | −0.2% |
อ้างอิง:กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย[7] |
จังหวัดสิงห์บุรีมีประชากร ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553 รวมทั้งสิ้น 214,661 คน แยกเป็นชาย 102,606 คน หญิง 112,055 คน[8] สำหรับอำเภอที่มีประชากรมากที่สุด ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี มีจำนวน 60,030 คน รองลงมาได้แก่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี จำนวน 56,657 คน และอำเภอบางระจัน จำนวน 36,894 คน สำหรับอำเภอที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดคือ อำเภอเมืองสิงห์บุรี 504.16 คนต่อตารางกิโลเมตร รองลงมาได้แก่ อำเภอท่าช้าง 456.40 คนต่อตารางกิโลเมตร และอำเภอค่ายบางระจัน 329.02 คนต่อตารางกิโลเมตร
ศาสนา[แก้]
จังหวัดสิงห์บุรีมีวัดในศาสนาพุทธ จำนวน 178 แห่ง โบสถ์คริสต์ 2 แห่ง วัดคริสต์ 1 แห่ง มัสยิด 2 แห่ง จำนวนผู้นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 98.80 จำนวนผู้นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 1.02 จำนวนผู้นับถือศาสนาคริสต์ ร้อยละ 0.18
พระอารามหลวง
- วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร (พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร) ตำบลจักรสีห์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- วัดพิกุลทอง (พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ) ตำบลพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง
- วัดโบสถ์ (พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ) ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี (ธรรมยุติกนิกาย)
สำนักปฏิบัติธรรม
- วัดอัมพวัน (สำนักปฏิบัติธรรมแห่งที่ ๑) ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี
การขนส่ง[แก้]
การคมนาคมของจังหวัดสิงห์บุรี มี 2 ทาง คือ
- ทางบก ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (บางปะอิน-พยุหะคีรี) จากกรุงเทพมหานครถึงสิงห์บุรี ระยะทาง 142 กิโลเมตร ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 309 (วังน้อย-สิงห์บุรี) ผ่านจังหวัดอ่างทอง ระยะทาง 144 กิโลเมตร และทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 311 (ลพบุรี-ชัยนาท) เชื่อมต่อทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 309 ไปยังจังหวัดชัยนาท
- ทางน้ำ ใช้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเส้นทางเดินเรือ เพื่อขนส่งผลผลิตทางการเกษตรจากกรุงเทพมหานครถึงสิงห์บุรี ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร หรือมาทางแม่น้ำน้อย แยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่อำเภอเมืองชัยนาท จังหวัดชัยนาท ผ่านอำเภอสรรคบุรี อำเภอบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน อำเภอท่าช้าง ถึงจังหวัดสิงห์บุรี
ระยะทางจากตัวเมืองไปยังอำเภอต่างๆ[แก้]
- อำเภอบางระจัน 10 กิโลเมตร
- อำเภอพรหมบุรี 15 กิโลเมตร
- อำเภอค่ายบางระจัน 18 กิโลเมตร
- อำเภออินทร์บุรี 19 กิโลเมตร
- อำเภอท่าช้าง 20 กิโลเมตร
สถานที่ท่องเที่ยว[แก้]
- วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร
- วัดอัมพวัน
- พระเจดีย์ธรรมสิงหบุราจริยานุสรณ์
- พระพรหมเทวาลัย
- อนุสาวรีย์ชาวบ้านบางระจันและวัดโพธิ์เก้าต้น
- แหล่งเตาเผาแม่น้ำน้อย
- อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์
- คูค่ายพม่า อำเภอพรหมบุรี
- เมืองโบราณบ้านคูเมือง
- พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอินทร์บุรี และหอสมุดแห่งชาติอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี
- วัดพิกุลทอง หลวงพ่อแพ เขมังกโร อำเภอท่าช้าง
- เมืองสิงห์บุรี
- ลำแม่ลา
- วัดหน้าพระธาตุ
- หนังใหญ่ วัดสว่างอารมณ์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- พระสิงห์ใหญ่ วัดม่วงชุม อำเภอบางระจัน
- วัดดาวเรือง
- โครงการฟาร์มตัวอย่างตามพระราชดำริหนองลาด
- ศาลหลักเมืองสิงห์บุรีและศาลาเก้าสิงหเกจิอาจารย์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- ศาลากลางจังหวัดสิงห์บุรีและศาลจังหวัดสิงห์บุรีหลังเก่า อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- ไกรสรราชสีห์ อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- หลวงพ่อทรัพย์ หลวงพ่อสิน วัดประโชติการาม
- พระพุทธฉาย วัดสิงห์ อำเภอพรหมบุรี
- หลวงพ่อซวง อภโย วัดชีปะขาว อำเภอพรหมบุรี
- วัดโคกงู
- วัดไทร อำเภออินทร์บุรี
- วัดพระแก้ว เจดีย์กลางทุ่ง
- ตลาดบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี
- ตลาดปากบาง อำเภอพรหมบุรี
- ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน
- ตลาดเกษตร (วันอาทิตย์ช่วงเช้า) อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- ตลาดนัดคลองถมสอง (วันเสาร์และวันอาทิตย์ช่วงเย็น) อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- ตลาดผ้า (วันจันทร์ช่วงเช้า) อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- เทศกาลกินปลาและงานกาชาดจังหวัดสิงห์บุรี (ช่วงปลายเดือน ธ.ค.) อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- แนวเขื่อนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา (เหมาะสำหรับออกกำลังกายช่วงเช้าและเย็น) อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- หลวงพ่อทองคำ วัดเสถียรวัฒนดิษฐ์ (วัดท่าควาย) อำเภอเมืองสิงห์บุรี
- โรงเจฮั้วเอียะตั้ว ศาลเจ้าแม่ทับทิม และศาลบุญเถ้ากงม่า อำเภอเมืองสิงห์บุรี
บุคคลที่มีชื่อเสียง[แก้]
- ด้านศาสนา
- พระธรรมปัญญาบดี (ถาวร ติสฺสานุกโร) – พระราชาคณะเจ้าคณะรอง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร อดีตเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
- พระธรรมมุนี (แพ เขมงฺกโร) - พระราชาคณะชั้นธรรม อดีตเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี
- พระธรรมสิงหบุราจารย์ (จรัญ ฐิตธมฺโม) – พระราชาคณะชั้นธรรม อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 3 อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
- หลวงปู่บุดดา ถาวโร – วัดกลางชูศรีเจริญสุข อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
- หลวงพ่อซวง อภโย – วัดชีปะขาว อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
- หลวงพ่อพูน สาคโร – วัดสังฆราชาวาส อำเภอเมืองสิงห์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี
- การเมืองการปกครอง
- หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช – นักปราชญ์ นักเขียน นักการเมือง นายกรัฐมนตรีไทย และศิลปินแห่งชาติ
- วงการบันเทิง
- ชาย เมืองสิงห์ – ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง นักร้อง-นักแต่งเพลงลูกทุ่ง
- ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี – ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ดนตรีไทยสากล
- ชายธง ทรงพล – นักร้องเพลงลูกทุ่ง
- นิรันดร์ บุญยรัตพันธุ์ (น้าต๋อย เซมเบ้) – นักพากษ์
- สันติสุข พรหมศิริ – นักแสดง นักพากษ์ และพิธีกร
- ภูภูมิ พงศ์ภาณุ – นักแสดง นายแบบ
- มิลิน ดอกเทียน – นักร้อง
- เจตสุภา เครือแตง – นักร้อง
- อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ – นักแสดง นางแบบ
- หนู คลองเตย – นักแสดงตลก
- ภูษิต ไล้ทอง – นักดนตรี สมาชิกวงเฉลียง
- ภาณุพรรณ จันทนะวงษ์ (เจแปน หกฉากครับจารย์) – นักแสดงและพิธีกร
- ด้านกีฬา
- ไกรสร ปั้นเจริญ – นักฟุตบอลชาวไทย หนึ่งในผู้เล่นทีมชาติไทย ชุดอะกรีแบงก์คัพ
- ด้านทั่วไป
- ชม้อย ทิพย์โส – ผู้ต้องหาคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนเมื่อปี พ.ศ. 2527
อ้างอิง[แก้]
- ↑ ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm เก็บถาวร 2016-03-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_64.pdf 2564. สืบค้น 15 มกราคม 2565.
- ↑ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. กระทรวงมหาดไทย. "สรุปข้อมูล อปท ทั่วประเทศ." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dla.go.th/work/abt/index.jsp 2556. สืบค้น 20 กันยายน 2556.
- ↑ สำนักบริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "รายงานสถิติจำนวนประชากร และบ้าน ทั่วประเทศ และรายจังหวัด ณ เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2555." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.dopa.go.th/xstat/pop55_1.html 2556. สืบค้น 1 เมษายน 2556.
- ↑ แจ้งความกระทรวงมหาดไทย
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงมหาดไทย [ให้หม่อมอมรวงษ์วิจิตรเป็นผู้ว่าราชการเมืองอ่างทอง ให้พระราชพินิจจัยเป็นผู้ว่าราชการเมืองสิงห์บุรี ให้พระมนตรีพจนกิจเป็นเลขานุการกระทรวงมหาดไทย ให้พระองค์เจ้ากัลยาณประวัติปลัดบัญชี], เล่ม 22, ตอน 39, 24 ธันวาคม พ.ศ. 2448, หน้า 951
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อข้อมูลประชากร2560
- ↑ "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2011-07-16. สืบค้นเมื่อ 2011-03-16.
ดูเพิ่ม[แก้]
- รายชื่อวัดในจังหวัดสิงห์บุรี
- รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดสิงห์บุรี
- รายชื่อสาขาของธนาคารในจังหวัดสิงห์บุรี
- รายชื่อห้างสรรพสินค้าในจังหวัดสิงห์บุรี
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: จังหวัดสิงห์บุรี |
- เว็บไซต์ทางการจังหวัดสิงห์บุรี เก็บถาวร 2006-12-05 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
พิกัดภูมิศาสตร์: 14°53′N 100°24′E / 14.89°N 100.4°E
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ จังหวัดสิงห์บุรี
- แผนที่ จาก มัลติแมป โกลบอลไกด์ หรือ กูเกิลแผนที่
- ภาพถ่ายทางอากาศ จาก เทอร์ราเซิร์ฟเวอร์
- ภาพถ่ายดาวเทียม จาก วิกิแมเปีย