บัวผุด

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บัวผุด
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขการจำแนกนี้
โดเมน: ยูแคริโอตา
อาณาจักร: พืช
เคลด: พืชมีท่อลำเลียง
เคลด: พืชดอก
เคลด: พืชใบเลี้ยงคู่แท้
เคลด: โรสิด
อันดับ: อันดับโนรา
วงศ์: วงศ์กระโถนฤๅษี
สกุล: สกุลบัวผุด
Meijer
สปีชีส์: Rafflesia kerrii
ชื่อทวินาม
Rafflesia kerrii
Meijer

บัวผุด หรือ บัวตูม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Rafflesia kerri) เป็นกาฝากชนิดหนึ่ง อาศัยอยู่บนรากของพืชเถาจำพวกสกุลเครือเขาน้ำ (Tetrastigma) ซึ่งชาวบ้านเรียกว่าย่านไก่ต้ม[1] มีลักษณะเด่นที่ดอกซึ่งเป็นดอกเดียวขึ้นจากพื้นดินมีขนาดใหญ่ มีกลิ่นเหม็นมาก กลิ่นของมันเหม็นแรงมาก พบเห็นระหว่างฤดูฝนระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม

ดอกตูมอยู่จะคล้ายกับหม้อขนาดใหญ่มีกลีบหนาจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางของดอก 70–80 เซนติเมตร ที่โคนของดอกมีกลีบนำสีน้ำตาลอมเหลืองเรียงสลับซับซ้อนกันอยู่มาก ภายในดอกจะมีแผ่นแบนคล้ายจาน ด้านบนมีปุ่มคล้ายหนามแหลมจานนี้จะซ้อนเกสรตัวผู้และรังไข่ไว้ด้านล่าง ดอกของบัวผุดใช้เวลาตั้งแต่เป็นดอกตูมจนบานถึง 9เดือน ดอกจะบานอยู่ได้เพียง 4–5 วันเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะค่อย ๆ ดำเน่าไป และขณะนี้มีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ ฉะนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวไปเดินป่าเพื่อชมดอกบัวผุดจึงควรใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะอาจจะไปเหยียบย่ำบนดอกตูมของบัวผุดได้

กระจายพันธุ์ทางภาคใต้ของไทย เช่นที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และป่าดิบในรัฐกลันตัน และเปรักในประเทศมาเลเซีย ชาวบ้านนิยมนำดอกตูมมาต้มน้ำดื่ม ช่วยให้คลอดง่าย มดลูกเข้าอู่เร็ว[2]

การค้นพบในประเทศไทย[แก้]

ดอกบัวผุดพบในบนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสก อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี และถือว่าเป็นดอกไม้ประจำจังหวัด ในต่างประเทศพบในป่าดิบตั้งแต่แหลมมลายูลงไป บัวผุดที่พบในประเทศไทยได้รับการตั้งชื่อเป็นสปีชีส์ของโลกเมื่อ พ.ศ. 2527 โดยวิลเลิม ไมเยอร์ (Willem Meijer) นักพฤกษศาสตร์ชาวดัตช์จากมหาวิทยาลัยเคนทักกี สหรัฐอเมริกา ตั้งชื่อพฤกษศาสตร์สากลเพื่อเป็นเกียรติแก่อาร์เทอร์ ฟรานซิส จอร์จ เคอร์ (Arthur Francis George Kerr) นายแพทย์และนักพฤกษศาสตร์ชาวไอริช ผู้สำรวจพันธุ์ไม้ชนิดนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2472

อ้างอิง[แก้]

  1. "มหัศจรรย์แห่งพันธุ์ไม้.....บัวผุด จากบล็อก โอเคเนชั่น oknation.net". oknation.nationtv.tv. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-11-29. สืบค้นเมื่อ 2022-04-26.
  2. ชยันต์ พิเชียรสุนทร และ วิเชียร จีรวงศ์. คู่มือเภสัชกรรมแผนไทยเล่ม 5 คณาเภสัช. พิมพ์ครั้งที่ 2. กทม. อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง. 2548. หน้า 195
  • National Park, Wildlife and Plant Conservation Department, National Park Bulletin June–July 2004 [1] (1.8 MB PDF)
  • Jamili Nais. Rafflesia of the World. ISBN 983-812-042-1. pp. 147–153

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]