ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สถานีรถไฟธนบุรี"
Mr.BuriramCN (คุย | ส่วนร่วม) |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 42: | บรรทัด 42: | ||
}} |
}} |
||
[[ไฟล์:Rail Thonburi SPRSS.jpg|thumb|250px| |
[[ไฟล์:Rail Thonburi SPRSS.jpg|thumb|250px|สัญญาณหางปลาที่สถานี]] |
||
''ดูเพิ่มที่ [[สถานีรถไฟธนบุรี (แก้ความกำกวม)]]'' |
''ดูเพิ่มที่ [[สถานีรถไฟธนบุรี (แก้ความกำกวม)]]'' |
||
'''สถานีรถไฟธนบุรี''' หรือเดิมเรียกว่า '''สถานีรถไฟบางกอกน้อย''' ตั้งอยู่บนถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร บริเวณตลาดรถไฟ (แห่งใหม่) มีความสำคัญในฐานะเป็นสถานีต้นทางของรถไฟสายใต้ และสายตะวันตก [[สถานีรถไฟบางกอกน้อย]] เปิดเมื่อ [[19 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2446]] โดยมีสถานีต้นทางอยู่[[สถานีรถไฟบางกอกน้อย]] ปลายทางไปที่[[สถานีรถไฟเพชรบุรี]] |
'''สถานีรถไฟธนบุรี''' หรือเดิมเรียกว่า '''สถานีรถไฟบางกอกน้อย''' ตั้งอยู่บนถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร บริเวณตลาดรถไฟ (แห่งใหม่) มีความสำคัญในฐานะเป็นสถานีต้นทางของรถไฟสายใต้ และสายตะวันตก [[สถานีรถไฟบางกอกน้อย]] เปิดเมื่อ [[19 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2446]] โดยมีสถานีต้นทางอยู่[[สถานีรถไฟบางกอกน้อย]] ปลายทางไปที่[[สถานีรถไฟเพชรบุรี]]<ref>http://www.oknation.net/blog/nukpan/2010/08/01/entry-1 รถไฟสายใต้ ช่วงแรกจากบางกอกน้อยถึงเพชรบุรี</ref> |
||
== ประวัติ == |
== ประวัติ == |
||
อาคารแรกเริ่มเมื่อสร้างสถานีบางกอกน้อย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียวหลังคาทรงจั่ว มีหลังคาคลุมชานชลาสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ริมทางรถไฟ(ทางประธาน) อยู่เลยลึกเข้ามาทางด้านทิศตะวันตกของริมแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 300 เมตร ต่อมาเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้ตั้งกองบัญชาการขึ้นที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย จากนั้นไม่นาน ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ส่งเครื่องบินเข้ามาทิ้งระเบิดสถานีรถไฟบางกอกน้อยอย่างหนัก ตัวอาคารสถานีรถไฟบางกอกน้อยได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ที่ทำการรับส่งสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลังเก็บสินค้าริมคลองบางกอกน้อยถูกทิ้งระเบิดเสียหายทั้งหมด ต่อมาได้มีการก่อสร้างสถานีรถไฟบางกอกน้อยขึ้นมาใหม่ โดยรื้ออาคารสถานีเดิมออกไปพร้อมกับปรับปรุงและขยายย่านสถานีเดิม โดยสร้างเป็นอาคารอิฐสีแดง มีหอนาฬิกา ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง และตั้งชื่อสถานีนี้ใหม่ว่า '''สถานีธนบุรี''' และเปิดใช้งานอาคารหลังใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2493 |
อาคารแรกเริ่มเมื่อสร้างสถานีบางกอกน้อย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียวหลังคาทรงจั่ว มีหลังคาคลุมชานชลาสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ริมทางรถไฟ(ทางประธาน) อยู่เลยลึกเข้ามาทางด้านทิศตะวันตกของริมแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 300 เมตร ต่อมาเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้ตั้งกองบัญชาการขึ้นที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย จากนั้นไม่นาน ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ส่งเครื่องบินเข้ามาทิ้งระเบิดสถานีรถไฟบางกอกน้อยอย่างหนัก ตัวอาคารสถานีรถไฟบางกอกน้อยได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ที่ทำการรับส่งสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลังเก็บสินค้าริมคลองบางกอกน้อยถูกทิ้งระเบิดเสียหายทั้งหมด ต่อมาได้มีการก่อสร้างสถานีรถไฟบางกอกน้อยขึ้นมาใหม่ โดยรื้ออาคารสถานีเดิมออกไปพร้อมกับปรับปรุงและขยายย่านสถานีเดิม โดยสร้างเป็นอาคารอิฐสีแดง มีหอนาฬิกา ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง และตั้งชื่อสถานีนี้ใหม่ว่า '''สถานีธนบุรี''' และเปิดใช้งานอาคารหลังใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2493 |
||
บทบาทของสถานีธนบุรีในฐานะต้นทางของรถไฟสายใต้เริ่มน้อยลง เมื่อรถไฟสายใต้หลายขบวนได้เปลี่ยนต้นทาง-ปลายทางไปที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ซึ่งต่อมาในระยะหลัง ขบวนรถที่ให้บริการ ณ สถานีธนบุรีจึงมีเพียงขบวนรถธรรมดาและและขบวนรถชานเมือง รวมถึงขบวนรถรวม ในเส้นทางสายใต้ (รวมถึงเส้นทางสายกาญจนบุรีและสุพรรณบุรี) |
บทบาทของสถานีธนบุรีในฐานะต้นทางของรถไฟสายใต้เริ่มน้อยลง เมื่อรถไฟสายใต้หลายขบวนได้เปลี่ยนต้นทาง-ปลายทางไปที่[[สถานีกรุงเทพ]] (หัวลำโพง) ซึ่งต่อมาในระยะหลัง ขบวนรถที่ให้บริการ ณ สถานีธนบุรีจึงมีเพียงขบวนรถธรรมดาและและขบวนรถชานเมือง รวมถึงขบวนรถรวม ในเส้นทางสายใต้ (รวมถึงเส้นทางสายกาญจนบุรีและสุพรรณบุรี) |
||
ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลสมัยนายชวน หลีกภัย ได้มีโครงการปรับปรุงอาคารสถานีธนบุรีและพื้นที่โดยรอบ ทำให้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง การรถไฟได้สร้างสถานีรถไฟอีกแห่งหนึ่งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่รับส่งผู้โดยสารทดแทนสถานีธนบุรี ตั้งชื่อว่าสถานีบางกอกน้อย (สถานีชั้น 4) (ชื่อเดียวกับสถานีรถไฟหลวงสายใต้ในอดีต) ห่างจากสถานีธนบุรี 0.866 กิโลเมตร แต่สถานีธนบุรีนั้น ก็ยังเปิดจำหน่ายตั๋วและเปิดทำการตามปกติ แต่ผู้โดยสารต้องเดินทางมาขึ้นลงขบวนรถที่สถานีใหม่ที่สร้างขึ้น แต่โครงการดังกล่าวประสบปัญหาอย่างมากทำให้หยุดชะงักไปในที่สุด |
ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลสมัยนาย[[ชวน หลีกภัย]] ได้มีโครงการปรับปรุงอาคารสถานีธนบุรีและพื้นที่โดยรอบ ทำให้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง การรถไฟได้สร้างสถานีรถไฟอีกแห่งหนึ่งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่รับส่งผู้โดยสารทดแทนสถานีธนบุรี ตั้งชื่อว่าสถานีบางกอกน้อย (สถานีชั้น 4) (ชื่อเดียวกับสถานีรถไฟหลวงสายใต้ในอดีต) ห่างจากสถานีธนบุรี 0.866 กิโลเมตร แต่สถานีธนบุรีนั้น ก็ยังเปิดจำหน่ายตั๋วและเปิดทำการตามปกติ แต่ผู้โดยสารต้องเดินทางมาขึ้นลงขบวนรถที่สถานีใหม่ที่สร้างขึ้น แต่โครงการดังกล่าวประสบปัญหาอย่างมากทำให้หยุดชะงักไปในที่สุด |
||
ในปี พ.ศ. 2546 ในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร |
ในปี พ.ศ. 2546 ในรัฐบาลของ พ.ต.ท.[[ทักษิณ ชินวัตร]] เป็นที่น่าสนใจว่า มีชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ที่ รฟท.ได้นำขบวนรถโดยสารเข้ามาหยุดรับส่งผู้โดยสารที่อาคารสถานีธนบุรีเหมือนเดิม แต่ในที่สุด เมื่อ รฟท.ได้มอบที่ดินบริเวณสถานีธนบุรีจำนวน 33 ไร่ แก่[[คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล]] ทำให้ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2546 รฟท.จึงไม่เดินรถเข้าสถานีธนบุรีเป็นการถาวร โดยให้ใช้สถานีบางกอกน้อยที่สร้างใหม่เป็นต้นทาง-ปลายทาง |
||
สถานีธนบุรี |
สถานีธนบุรีหมดบทบาทไประยะเวลาหนึ่งหลังจากที่ รฟท.ยกที่ดิน 33 ไร่ อันเป็นที่ตั้งนั้นให้แก่[[มหาวิทยาลัยมหิดล]] ทำให้อาคารสถานีธนบุรีมิใช่ทรัพย์สินของ รฟท.อีกต่อไป ขบวนรถต่าง ๆ ที่เข้าออก ถูกเปลี่ยนต้นทาง-ปลายทาง จากธนบุรีเป็นบางกอกน้อย (เหมือนเมื่อครั้งแรกก่อตั้งทางรถไฟหลวงสายใต้) แต่ต่อมา ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2547 รฟท.ได้เปลี่ยนชื่อสถานีบางกอกน้อยที่เป็นอาคารสร้างใหม่นั้นไปใช้ชื่อว่าสถานีธนบุรี และใช้คำย่อ ธบ. พร้อมทั้งยกฐานะจากสถานีชั้น 4 ขึ้นเป็นสถานีชั้น 1 เหมือนครั้งก่อนที่จะเลิกใช้อาคารสถานีธนบุรีแห่งเดิม ทำให้บทบาทของสถานีธนบุรีกลับมาอีกครั้งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยใช้ที่ทำการใหม่คืออาคารสถานีบางกอกน้อยที่สร้างใหม่เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2542 นั้นเอง |
||
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของสถานีธนบุรี |
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของสถานีธนบุรีคือเรื่องระบบอาณัติสัญญาณ โดยสถานีธนบุรีเป็นสถานีรถไฟแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันที่ยังคงใช้สัญญาณประจำที่ชนิดหางปลา (ปัจจุบันสัญญาณหางปลายกเลิกการใช้งานแล้ว แต่ยังคงตั้งอยู่) นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีโรงรถจักรธนบุรี ซึ่งเป็นสถานีบำรุงรักษา ซ่อมแซมรถจักรดีเซลที่สำคัญแห่งหนึ่งของ[[การรถไฟแห่งประเทศไทย]] และยังเป็นที่เก็บรักษารถจักรไอน้ำที่เหลืออยู่ของการรถไฟฯ ซึ่งยังคงใช้การได้อีก 5 คัน ซึ่งได้มีการนำมาวิ่งลากจูง ขบวนรถพิเศษในโอกาสสำคัญ ๆ อยู่เป็นประจำ |
||
== ขบวนรถไฟ == |
== ขบวนรถไฟ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:50, 6 เมษายน 2564
สถานีรถไฟธนบุรี | |
---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |
ที่ตั้ง | ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร |
ประวัติ | |
เริ่มเปิดให้บริการ | 19 มิถุนายน พ.ศ. 2446 |
ดูเพิ่มที่ สถานีรถไฟธนบุรี (แก้ความกำกวม)
สถานีรถไฟธนบุรี หรือเดิมเรียกว่า สถานีรถไฟบางกอกน้อย ตั้งอยู่บนถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร บริเวณตลาดรถไฟ (แห่งใหม่) มีความสำคัญในฐานะเป็นสถานีต้นทางของรถไฟสายใต้ และสายตะวันตก สถานีรถไฟบางกอกน้อย เปิดเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2446 โดยมีสถานีต้นทางอยู่สถานีรถไฟบางกอกน้อย ปลายทางไปที่สถานีรถไฟเพชรบุรี[1]
ประวัติ
อาคารแรกเริ่มเมื่อสร้างสถานีบางกอกน้อย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นอาคารคอนกรีตชั้นเดียวหลังคาทรงจั่ว มีหลังคาคลุมชานชลาสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ตั้งอยู่ด้านทิศใต้ริมทางรถไฟ(ทางประธาน) อยู่เลยลึกเข้ามาทางด้านทิศตะวันตกของริมแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 300 เมตร ต่อมาเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้ตั้งกองบัญชาการขึ้นที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย จากนั้นไม่นาน ฝ่ายสัมพันธมิตรได้ส่งเครื่องบินเข้ามาทิ้งระเบิดสถานีรถไฟบางกอกน้อยอย่างหนัก ตัวอาคารสถานีรถไฟบางกอกน้อยได้รับความเสียหายบางส่วน แต่ที่ทำการรับส่งสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและคลังเก็บสินค้าริมคลองบางกอกน้อยถูกทิ้งระเบิดเสียหายทั้งหมด ต่อมาได้มีการก่อสร้างสถานีรถไฟบางกอกน้อยขึ้นมาใหม่ โดยรื้ออาคารสถานีเดิมออกไปพร้อมกับปรับปรุงและขยายย่านสถานีเดิม โดยสร้างเป็นอาคารอิฐสีแดง มีหอนาฬิกา ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง และตั้งชื่อสถานีนี้ใหม่ว่า สถานีธนบุรี และเปิดใช้งานอาคารหลังใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2493
บทบาทของสถานีธนบุรีในฐานะต้นทางของรถไฟสายใต้เริ่มน้อยลง เมื่อรถไฟสายใต้หลายขบวนได้เปลี่ยนต้นทาง-ปลายทางไปที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ซึ่งต่อมาในระยะหลัง ขบวนรถที่ให้บริการ ณ สถานีธนบุรีจึงมีเพียงขบวนรถธรรมดาและและขบวนรถชานเมือง รวมถึงขบวนรถรวม ในเส้นทางสายใต้ (รวมถึงเส้นทางสายกาญจนบุรีและสุพรรณบุรี)
ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลสมัยนายชวน หลีกภัย ได้มีโครงการปรับปรุงอาคารสถานีธนบุรีและพื้นที่โดยรอบ ทำให้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง การรถไฟได้สร้างสถานีรถไฟอีกแห่งหนึ่งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่รับส่งผู้โดยสารทดแทนสถานีธนบุรี ตั้งชื่อว่าสถานีบางกอกน้อย (สถานีชั้น 4) (ชื่อเดียวกับสถานีรถไฟหลวงสายใต้ในอดีต) ห่างจากสถานีธนบุรี 0.866 กิโลเมตร แต่สถานีธนบุรีนั้น ก็ยังเปิดจำหน่ายตั๋วและเปิดทำการตามปกติ แต่ผู้โดยสารต้องเดินทางมาขึ้นลงขบวนรถที่สถานีใหม่ที่สร้างขึ้น แต่โครงการดังกล่าวประสบปัญหาอย่างมากทำให้หยุดชะงักไปในที่สุด
ในปี พ.ศ. 2546 ในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่น่าสนใจว่า มีชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ที่ รฟท.ได้นำขบวนรถโดยสารเข้ามาหยุดรับส่งผู้โดยสารที่อาคารสถานีธนบุรีเหมือนเดิม แต่ในที่สุด เมื่อ รฟท.ได้มอบที่ดินบริเวณสถานีธนบุรีจำนวน 33 ไร่ แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2546 รฟท.จึงไม่เดินรถเข้าสถานีธนบุรีเป็นการถาวร โดยให้ใช้สถานีบางกอกน้อยที่สร้างใหม่เป็นต้นทาง-ปลายทาง
สถานีธนบุรีหมดบทบาทไประยะเวลาหนึ่งหลังจากที่ รฟท.ยกที่ดิน 33 ไร่ อันเป็นที่ตั้งนั้นให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้อาคารสถานีธนบุรีมิใช่ทรัพย์สินของ รฟท.อีกต่อไป ขบวนรถต่าง ๆ ที่เข้าออก ถูกเปลี่ยนต้นทาง-ปลายทาง จากธนบุรีเป็นบางกอกน้อย (เหมือนเมื่อครั้งแรกก่อตั้งทางรถไฟหลวงสายใต้) แต่ต่อมา ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2547 รฟท.ได้เปลี่ยนชื่อสถานีบางกอกน้อยที่เป็นอาคารสร้างใหม่นั้นไปใช้ชื่อว่าสถานีธนบุรี และใช้คำย่อ ธบ. พร้อมทั้งยกฐานะจากสถานีชั้น 4 ขึ้นเป็นสถานีชั้น 1 เหมือนครั้งก่อนที่จะเลิกใช้อาคารสถานีธนบุรีแห่งเดิม ทำให้บทบาทของสถานีธนบุรีกลับมาอีกครั้งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยใช้ที่ทำการใหม่คืออาคารสถานีบางกอกน้อยที่สร้างใหม่เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2542 นั้นเอง
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของสถานีธนบุรีคือเรื่องระบบอาณัติสัญญาณ โดยสถานีธนบุรีเป็นสถานีรถไฟแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันที่ยังคงใช้สัญญาณประจำที่ชนิดหางปลา (ปัจจุบันสัญญาณหางปลายกเลิกการใช้งานแล้ว แต่ยังคงตั้งอยู่) นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีโรงรถจักรธนบุรี ซึ่งเป็นสถานีบำรุงรักษา ซ่อมแซมรถจักรดีเซลที่สำคัญแห่งหนึ่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย และยังเป็นที่เก็บรักษารถจักรไอน้ำที่เหลืออยู่ของการรถไฟฯ ซึ่งยังคงใช้การได้อีก 5 คัน ซึ่งได้มีการนำมาวิ่งลากจูง ขบวนรถพิเศษในโอกาสสำคัญ ๆ อยู่เป็นประจำ
ขบวนรถไฟ
ปัจจุบัน มีขบวนรถไฟสายใต้ เข้า-ออกสถานีรถไฟธนบุรี ดังนี้
เที่ยวไป
- รถธรรมดาขบวนที่ 251 ธนบุรี - ประจวบคีรีขันธ์
- รถธรรมดาขบวนที่ 255 ธนบุรี - หลังสวน
- รถธรรมดาขบวนที่ 257 ธนบุรี - น้ำตก
- รถธรรมดาขบวนที่ 259 ธนบุรี - น้ำตก
- รถชานเมืองขบวนที่ 351 ธนบุรี - ราชบุรี
- รถชานเมืองขบวนที่ 471-473-475-477-479 ธนบุรี - ศาลายา
เที่ยวกลับ
- รถชานเมืองขบวนที่ 352 ราชบุรี - ธนบุรี
- รถธรรมดาขบวนที่ 260 น้ำตก - ธนบุรี
- รถธรรมดาขบวนที่ 252 ประจวบคีรีขันธ์ - ธนบุรี
- รถธรรมดาขบวนที่ 254 หลังสวน - ธนบุรี
- รถธรรมดาขบวนที่ 258 น้ำตก - ธนบุรี
- รถชานเมืองขบวนที่ 472-474-476-478-480 ศาลายา - ธนบุรี
ขบวนรถที่เคยให้บริการ
- รถเร็วขบวนที่ 177/178 ธนบุรี - หลังสวน - ธนบุรี ยกเลิกการเดินรถเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2558
อ้างอิง
- ↑ http://www.oknation.net/blog/nukpan/2010/08/01/entry-1 รถไฟสายใต้ ช่วงแรกจากบางกอกน้อยถึงเพชรบุรี
แหล่งข้อมูลอื่น
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ สถานีรถไฟธนบุรี
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์