การระบาดทั่วของโควิด-19 เรียงตามประเทศและดินแดน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
แผนที่การระบาดของโคโรนาไวรัส พ.ศ. 2562–2563 (ณ วันที่ 15 มีนาคม):
  ประเทศที่ยืนยันผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 1,000,000 คนขึ้นไป
  ประเทศที่ยืนยันผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 100,000– 999,999 คน
  ประเทศที่ยืนยันผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 10,000–99,999 คน
  ประเทศที่ยืนยันผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 1,000–9,999 คน
  ประเทศที่ยืนยันผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 100–999 คน
  ประเทศที่ยืนยันผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 1–99 คน
  ไม่มีผู้ติดเชื้อยืนยันหรือไม่มีข้อมูล

บทความนี้แสดงประเทศและดินแดนที่ได้รับผลกระทบและมีการตอบสนองต่อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) อันเนื่องมาจากการระบาดทั่วของโคโรนาไวรัส พ.ศ. 2562–2563 ซึ่งปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในอู่ฮั่น ประเทศจีน ทั้งนี้อาจไม่รวมถึงการตอบสนองและมาตรการสำคัญ

การระบาดตามประเทศและดินแดน[แก้]

ประเทศและดินแดน[A] ผู้ป่วย[B] เสียชีวิต[C] อ้างอิง
252 765,222,168 6,921,601 [2]
สหรัฐ[D][E][F][G] 103,266,404 1,124,063 [4][5]
สาธารณรัฐประชาชนจีน[H][I][J][K] 99,248,443 120,961 [6]
อินเดีย 44,952,996 531,564 [7]
ฝรั่งเศส[L][M] 38,930,489 162,868 [8][9]
เยอรมนี[N] 38,403,667 173,044 [10][11]
บราซิล 37,449,418 701,494 [12][13]
ญี่ปุ่น 33,720,739 74,542 [14]
เกาหลีใต้ 31,176,660 34,487 [15][16]
อิตาลี[O] 25,788,387 189,738 [19][20]
สหราชอาณาจักร[P][Q] 24,581,706 224,106 [22]
รัสเซีย[R][S] 22,858,855 398,366 [26]
ตุรกี 17,004,677 101,419 [27]
สเปน[T][U] 13,825,052 120,715 [28]
เวียดนาม 11,561,848 43,191 [29]
ออสเตรเลีย[V][W] 11,210,651 20,119 [31]
อาร์เจนตินา 10,044,957 130,472 [32][33]
ไต้หวัน 9,970,937 17,672 [34]
เนเธอร์แลนด์[X][Y][Z] 8,610,372 22,992 [36][37]
อิหร่าน[AA] 7,607,744 146,058 [38][39]
เม็กซิโก 7,587,447 333,908 [40]
อินโดนีเซีย 6,776,984 161,327 [41]
โปแลนด์ 6,513,979 119,555 [5][42]
โคลอมเบีย 6,364,636 142,713 [43]
ออสเตรีย 6,065,711 22,372 [44]
กรีซ 6,018,544 36,754 [45]
โปรตุเกส 5,581,619 26,575 [46][47]
ยูเครน[AB][AC] 5,529,459 112,128 [48][49]
ชิลี[AD][AE][AF][AG] 5,283,908 61,384 [50]
มาเลเซีย 5,071,840 37,020 [51]
อิสราเอล[AH] 4,822,313 12,493 [52]
เบลเยียม[AI] 4,793,425 34,237 [53][54]
ไทย 4,732,301 33,957 [55][56]
แคนาดา 4,659,971 52,121 [57][58]
เช็กเกีย 4,640,354 42,767 [59]
เปรู 4,501,130 220,122 [60][61]
  สวิสเซอร์แลนด์[AJ] 4,402,432 13,995 [62][63]
เกาหลีเหนือ 4,304,380 80 [64]
ฟิลิปปินส์ 4,092,158 66,444 [65][66]
แอฟริกาใต้ 4,072,533 102,595 [67][68]
เดนมาร์ก[AK][AL] 3,411,909 8,556 [70][71]
โรมาเนีย 3,393,902 68,089 [72][73]
ฮ่องกง 2,876,106 13,466 [74]
สวีเดน[AM] 2,706,122 24,070 [75]
เซอร์เบีย[AN] 2,534,886 18,021 [76]
อิรัก 2,465,545 25,375 [77]
สิงคโปร์ 2,368,597 1,722 [78][79]
นิวซีแลนด์ 2,251,440 2,736 [80]
ฮังการี 2,201,355 48,762 [81]
บังกลาเทศ 2,038,250 29,446 [82][83]
สโลวาเกีย 1,866,470 21,167 [84]
จอร์เจีย[AO] 1,840,187 17,059 [85]
จอร์แดน 1,746,997 14,122 [86]
ไอร์แลนด์ 1,710,302 8,849 [87][88]
ปากีสถาน 1,580,631 30,656 [89]
คาซัคสถาน 1,502,667 19,072 [90][91]
นอร์เวย์[AP][AQ][AR] 1,483,222 5,435 [93]
ฟินแลนด์[AS][AT] 1,473,603 9,308 [96]
สโลวีเนีย 1,343,485 9,304 [97][98]
ลิทัวเนีย 1,318,513 9,668 [99]
บัลแกเรีย 1,304,393 38,328 [100][101]
โมร็อกโก[AU] 1,273,463 16,297 [102]
โครเอเชีย 1,272,886 18,180 [103]
กัวเตมาลา 1,248,171 20,189 [104]
เลบานอน 1,236,702 10,900 [105]
คอสตาริกา 1,228,659 9,351 [106]
โบลิเวีย 1,197,239 22,377 [107]
ตูนิเซีย 1,152,612 29,387 [108]
ปวยร์โตรีโก 1,116,823 5,891 [109][110]
คิวบา[AV] 1,113,088 8,530 [111]
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1,062,321 2,349 [112]
เอกวาดอร์ 1,061,100 36,019 [113][114]
อุรุกวัย 1,037,893 7,625 [115]
ปานามา 1,036,733 8,621 [116][117]
มองโกเลีย 1,007,970 2,136 [118]
  เนปาล 1,003,004 12,030 [119][120]
เบลารุส 994,037 7,118 [121][122]
ลัตเวีย 977,667 6,346 [5][123]
ซาอุดีอาระเบีย 840,337 9,643 [124]
อาเซอร์ไบจาน 831,386 10,242 [125]
ปารากวัย 735,759 19,880 [126]
ปาเลสไตน์ 703,228 5,708 [127]
บาห์เรน 696,614 1,536 [128]
ศรีลังกา 672,177 16,843 [129]
คูเวต 665,741 2,570 [130]
สาธารณรัฐโดมินิกัน 661,045 4,384 [131][132]
ไซปรัส[AW] 658,450 1,354 [133]
พม่า 635,102 19,492 [134]
มอลโดวา[AX] 620,253 12,112 [135]
เอสโตเนีย 618,173 3,001 [136]
เวเนซุเอลา 552,578 5,856 [137]
อียิปต์[AY] 515,970 24,826 [138]
ลิเบีย 507,250 6,437 [139][140]
กาตาร์ 506,323 690 [141]
เอธิโอเปีย 500,837 7,574 [142]
ฮอนดูรัส 472,533 11,112 [143][144]
อาร์มีเนีย 449,062 8,747 [145]
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา 402,848 16,337 [146]
โอมาน 399,449 4,628 [147]
มาซิโดเนียเหนือ 348,142 9,673 [148][149]
แซมเบีย 343,910 4,058 [150][151]
เคนยา 343,060 5,688 [152]
แอลเบเนีย 334,090 3,604 [153]
บอตสวานา 329,852 2,796 [154][155]
ลักเซมเบิร์ก 319,959 1,232 [156]
มอริเชียส 301,096 1,046 [157]
มอนเตเนโกร 289,292 2,808 [158]
บรูไน 288,051 157 [159][160]
คอซอวอ 273,852 3,206 [161]
แอลจีเรีย 271,719 6,881 [162][163]
ไนจีเรีย 266,675 3,155 [164]
ซิมบับเว 264,685 5,686 [165][166]
อุซเบกิสถาน 253,009 1,637 [167]
โมซัมบิก 233,417 2,243 [168]
ลาว 218,077 671 [169]
อัฟกานิสถาน 214,880 7,892 [170]
ไอซ์แลนด์ 209,191 260 [171]
คีร์กีซสถาน 206,888 2,991 [172]
เอลซัลวาดอร์ 201,785 4,230 [173]
ตรินิแดดและโตเบโก 191,350 4,387 [174][175]
มัลดีฟส์ 186,435 313 [176][177]
กานา 171,653 1,462 [178]
นามิเบีย 171,222 4,090 [179]
ยูกันดา 170,602 3,632 [180][181]
จาเมกา 154,786 3,536 [182][183]
กัมพูชา 138,733 3,056 [184]
รวันดา 133,194 1,468 [185][186]
แคเมอรูน 124,983 1,971 [187][188]
มอลตา 118,524 835 [189]
บาร์เบโดส 107,466 588 [190]
แองโกลา 105,384 1,934 [191]
สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก  96,212 1,464 [192]
เซเนกัล 88,997 1,971 [193]
มาลาวี 88,638 2,686 [194]
โกตดิวัวร์ 88,325 834 [195]
ซูรินาม 82,495 1,404 [196]
นิวแคลิโดเนีย 80,058 314 [197]
เฟรนช์พอลินีเชีย 78,488 649 [198]
เอสวาตีนี 74,627 1,425 [199]
กายอานา 73,162 1,298 [200]
เบลีซ 70,782 688 [201]
ฟีจี 68,918 883 [202][203]
มาดากัสการ์ 68,236 1,424 [204]
เจอร์ซีย์[AZ] 66,391 161 [205]
ซูดาน 63,993 5,046 [206][207]
มอริเตเนีย 63,617 997 [208][209]
กาบูเวร์ดี 63,473 413 [210]
ภูฏาน 62,666 21 [211]
ซีเรีย[BA] 57,423 3,163 [212]
บุรุนดี 53,740 15 [213]
กวม 51,179 413 [4][214]
เซเชลส์ 50,937 172 [215]
ทรานส์นีสเตรีย[BB] 49,186 1,192 [216]
กาบอง 48,981 306 [217]
อันดอร์รา 47,974 159 [218]
ปาปัวนิวกินี 46,842 670 [219]
กือราเซา 45,798 301 [220]
อารูบา 44,114 287 [221]
แทนซาเนีย 42,973 846 [222][223]
โตโก 39,487 290 [224]
สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์[BC] 38,851 2,927 [225]
กินี 38,462 467 [226][227]
บาฮามาส 38,084 844 [228][229]
ไอล์ออฟแมน[AZ] 38,008 116 [230]
เกิร์นซีย์[AZ] 35,326 67 [231]
หมู่เกาะแฟโร 34,658 28 [232][71]
เลโซโท 34,490 706 [233]
เฮติ 34,228 860 [234]
มาลี 33,144 743 [235]
หมู่เกาะเคย์แมน 31,472 37 [236]
เซนต์ลูเชีย 30,052 409 [237][238]
เบนิน 28,014 163 [239]
โซมาเลีย[BD] 27,334 1,361 [240]
สหพันธรัฐไมโครนีเซีย 26,080 64 [241]
สาธารณรัฐคองโก 25,192 389 [242][243]
หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ 24,919 130 [244]
หมู่เกาะโซโลมอน 24,575 153 [245][246]
ซานมารีโน 24,132 125 [247]
ติมอร์-เลสเต 23,428 138 [248]
บูร์กินาฟาโซ 22,056 396 [249][250]
ลิกเตนสไตน์ 21,464 87 [251]
ยิบรอลตาร์ 20,550 113 [252]
เกรเนดา 19,693 238 [253][254]
เบอร์มิวดา 18,860 165 [255]
ซูดานใต้ 18,368 138 [256][257]
ทาจิกิสถาน 17,786 125 [258][259]
อิเควทอเรียลกินี 17,130 183 [260]
ตองงา 16,814 12 [261]
โมนาโก 16,749 67 [262]
ซามัว 16,737 31 [263]
สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ 16,081 17 [264][265]
โดมินิกา 15,760 74 [266]
นิการากัว 15,697 245 [5][267]
จิบูตี 15,690 189 [268]
สาธารณรัฐแอฟริกากลาง 15,367 113 [269]
อับคาเซีย 15,292 230 [270]
หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา 13,839 41 [271]
แกมเบีย 12,626 372 [272]
วานูอาตู 12,016 14 [273]
กรีนแลนด์ 11,971 21 [274][71]
เยเมน 11,945 2,159 [275]
ซินต์มาร์เติน 11,030 92 [276]
เอริเทรีย 10,189 103 [277]
เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ 9,611 124 [278]
ไนเจอร์ 9,513 315 [279]
กินี-บิสเซา 9,350 176 [280]
คอโมโรส 9,109 160 [281]
แอนติกาและบาร์บูดา 9,106 146 [282]
อเมริกันซามัว 8,329 34 [283]
ไลบีเรีย 8,090 294 [284]
ชาด 7,820 194 [285]
เซียร์ราลีโอน 7,762 125 [286][287]
หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน 7,305 64 [288]
นอร์เทิร์นไซปรัส 7,139 33 [289]
หมู่เกาะคุก 7,062 2 [290][291]
เซนต์คิตส์และเนวิส 6,598 46 [292]
หมู่เกาะเติกส์และเคคอส 6,565 38 [293][294]
เซาตูเมและปรินซีปี 6,562 80 [295]
ปาเลา 5,999 9 [296]
นาอูรู 5,393 1
คิริบาส 5,025 24 [297][298]
สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์[BC] 4,723 437 [299]
โซมาลีแลนด์ 4,608 311 [300][301]
แองกวิลลา 3,904 12 [302]
มาเก๊า 3,514 121 [303]
วาลิสและฟูตูนา 3,427 7 [304][305]
แซงปีแยร์และมีเกอลง 3,426 2 [306]
เซาท์ออสซีเชีย[BE] 3,339 60+ [270]
ตูวาลู 2,779
สาธารณรัฐอาร์ทซัค 2,751 31 [270]
เซนต์เฮเลนา อัสเซนชัน และตริสตันดากูนยา 2,166 [307][308]
หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ 1,923 [309]
โบแนเรอ 1,586 17 [310]
มอนต์เซอร์รัต 1,403 8 [311]
นีอูเอ 747
สาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวี[BF] 732 42 [312]
แอนตาร์กติกา 58 0 [313]
นครรัฐวาติกัน 26 0 [314]
ซินต์เอิสตาซียึส 20 0 [315]
ซาบา 7 0 [316]
บริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรี 5 0 [317][318]
โตเกเลา 5 0
หมู่เกาะพิตแคร์น 4
อ่าวกวนตานาโม 2 0 [319]
พาหนะระหว่างประเทศ 
เรือยูเอสเอส ทีโอดอร์รูสเวลต์[BG] 1,102 1 [320][321]
เรือชาร์ลเดอโกล[BH] 1,081 0 [322]
เรือไดมอนด์พรินเซส[BI] 712 14 [323][324]
เรือคอสตาแอตแลนติกา 148 0 [325][326]
เรือเกร็กมอร์ติเมอร์[BJ] 128 1 [327][328]
เรือเอ็มเอส ซานดัม[BK] 13 4 [330][331]
เรือคอรัลพรินเซส[BL] 12 3 [332]
เรือซีดรีมวัน[BM] 9 0 [333][334]
เรือฮาเอ็นเอลเอ็มเอส ดลแฟง[BN] 8 0 [335][336]
ณ วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
 หมายเหตุ 
  1. ประเทศ ดินแดน รวมถึงเขตอำนาจรัฐเหนือเรือที่ชักธงของตน การโอนสิทธิในที่ดินระหว่างประเทศ ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าพบผู้ติดเชื้อ แต่ละกรณีอาจมีความแตกต่างทางด้านสัญชาติ ในบางประเทศอาจครอบคลุมถึงหลายพื้นที่ตามที่ระบุไว้
  2. รายงานเฉพาะจำนวนผู้ป่วยยืนยันแล้ว จำนวนผู้ป่วยจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน แต่ไม่สามารถยืนยันจำนวนดังกล่าวได้[1] เกณฑ์การรายงานและความสามารถในการทดสอบนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
  3. ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดอาจไม่จำเป็นต้องเพิ่มขึ้น เนื่องจากความถี่ของการอัปเดตข้อมูลในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน
  4. รวมกรณีบนเรือสำราญ แกรนด์พรินเซส ซึ่งเทียบท่าที่รัฐแคลิฟอร์เนีย และไม่รวมกรณีจาก ดินแดนโพ้นทะเลของสหรัฐ
  5. ไม่ใช่ทุกรัฐหรือดินแดนโพ้นทะเลที่รายงานข้อมูลผู้รักษาหาย
  6. กรณีผู้ป่วยรวมถึงกรณีจากการวินิจฉัยทางคลินิก ผู้รักษาหายและเสียชีวิต รวมถึงการเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้น และผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวจากการกักกัน เป็นไปตามวิธีปฏิบัติของ CDC[3]
  7. กรณีของเรือยูเอสเอส ทีโอดอร์ รูสเวลต์ ปัจจุบันเทียบท่าอยู่ที่กวม รายงานแยกจากกรณีของประเทศ แต่รวมอยู่ในรายงานของกองทัพเรือสหรัฐ
  8. รวมกรณีที่มีการวินิจฉัยทางคลินิกและกรณีเสียชีวิต ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นมาในจังหวัดต่าง ๆ ของมณฑลหูเป่ย์ และไม่รวมกรณีในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง, มาเก๊า และไต้หวัน
  9. ไม่รวม 1,268 กรณีไม่แสดงอาการซึ่งอยู่ภายใต้การสังเกตอาการโดยแพทย์ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน
  10. กรณีไม่แสดงอาการไม่ถูกรายงานก่อนวันที่ 31 มีนาคม
  11. ไม่รวมกรณีผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ 448 ราย ภายใต้การดูแลของแพทย์ ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2563
  12. การทดสอบการติดเชื้อสงวนไว้สำหรับผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงที่มีอาการรุนแรงเท่านั้น รวมกรณีในจังหวัดโพ้นทะเลคือ เฟรนช์เกียนา, กัวเดอลุป, มาร์ตีนิก, มายอต, เรอูนียง, แซ็ง-บาร์เตเลมี และ แซ็ง-มาแต็ง และไม่รวมอาณานิคมโพ้นทะเลคือ เฟรนช์พอลินีเชีย, นิวแคลิโดเนีย, แซ็งปีแยร์และมีเกอลง
  13. จำนวนผู้รักษาหายรวมเฉพาะผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันและจำนวนผู้เสียชีวิตรวมทั้งจากโรงพยาบาลและจากสถานพักฟื้น (ESMS: établissements sociaux et médico-sociaux)
  14. หน่วยงานของรัฐต่าง ๆ ไม่ได้รายงานจำนวนผู้รักษาหายครบทุกรัฐ
  15. ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 มีการวินิจฉัยผลการติดเชื้อเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงเท่านั้น[17][18]
  16. ไม่รวมกรณีจากดินแดนโพ้นทะเลของบริเตน และ เขตสังกัดของพระมหากษัตริย์ ภายใต้อธิปไตยของสหราชอาณาจักร
  17. ตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม รัฐบาลสหราชอาณาจักรไม่ได้เผยแพร่จำนวนผู้รักษาหาย ข้อมูลของวันที่ 22 มีนาคม รายงานผู้รักษาหาย 135 ราย[21]
  18. รวมกรณีในดินแดน ไครเมีย และ เซวัสโตปอล ซึ่งถูกรัสเซียผนวกในปี 2557 แต่นานาชาติยังคงรับรองเป็นดินแดนของยูเครน
  19. ไม่รวมกรณีบนเรือสำราญ ไดมอนด์พรินเซส ซึ่งถูกแบ่งแยกเป็น "กรณีบนยานพาหนะระหว่างประเทศ" กรณีเสียชีวิตหนึ่งรายบนเรือนั้นไม่ได้ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการโดยรัฐบาลรัสเซีย[23][24][25]
  20. ไม่รวมกรณีผู้ป่วยยืนยัน จากการตรวจแอนติบอดีในซีรัม
  21. รวมกรณีจากดินแดนปกครองตนเอง เซวตา และ เมลียา
  22. ไม่รวมกรณีบนเรือสำราญ ไดมอนด์พรินเซส ซึ่งถูกแบ่งแยกเป็น "กรณีบนยานพาหนะระหว่างประเทศ" ผู้ติดเชื้อจำนวน 10 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมถึงผู้เสียชีวิต 1 ราย บันทึกไว้โดยรัฐบาลออสเตรเลีย
  23. รวมกรณีบนเรือสำราญเอ็มวี อาร์ตาเนีย ซึ่งมีรายงานผู้ป่วยโดยหน่วยงานของรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย[30]
  24. แยกรายงานกรณีจากกลุ่มประเทศองค์ประกอบของเนเธอร์แลนด์คือ อารูบา, กือราเซา และ ซินต์มาร์เติน
  25. แยกรายงานกรณีของเขตเทศบาลพิเศษคือ ซาบา, ซินต์เอิสตาซียึส และ โบแนเรอ
  26. รัฐบาลของเนเธอร์แลนด์ (RIVM) ซึ่งรับผิดชอบประเทศองค์ประกอบด้วย ไม่สรุปจำนวนผู้รักษาหาย[35]
  27. เนื่องจากภาวะขาดแคลน การทดสอบการติดเชื้อถูกจำกัดเฉพาะในกรณีที่มีอาการรุนแรง จำนวนกรณีรวมถึงที่มีการวินิจฉัยทางคลินิกและการเสียชีวิตตั้งแต่ 9 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา
  28. ไม่รวมกรณีในดินแดน ไครเมีย และ เซวัสโตปอล ซึ่งถูกรัสเซียผนวกในปี 2557 โดยนานาชาติยังรับรองเป็นดินแดนของยูเครน
  29. ไม่รวมกรณีของสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์
  30. รวมถึงดินแดนเขตพิเศษของเกาะอีสเตอร์
  31. วันที่ 29 เมษายน 2563 รัฐบาลชิลีเริ่มแจ้งจำนวนผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการแยกจากจำนวนผู้ป่วยที่ยืนยันอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน กรณีผู้ป่วยยืนยันทั้งหมด (ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่) จะรวมอยู่ในรายงานอย่างเป็นทางการ
  32. กระทรวงสาธารณสุขชิลี พิจารณารายงานจำนวนผู้รักษาหายจากผู้ป่วยยืนยันที่ติดเชื้อมาแล้ว 14 วันไม่ว่าผู้นั้นจะยังมีอาการป่วยหรือยังมีผลทดสอบเป็นบวกต่อไวรัส โดยหักออกเฉพาะจำนวนผู้เสียชีวิตเท่านั้น
  33. จำนวนผู้เสียชีวิต รายงานเฉพาะกรณีที่มีผลตรวจเชื้อไวรัสเป็นบวกเท่านั้น
  34. รวมกรณีจากดินแดนที่เป็นข้อโต้แย้ง ที่ราบสูงโกลัน และไม่รวมกรณีจากรัฐปาเลสไตน์
  35. จำนวนผู้เสียชีวิตยังรวมถึงกรณีผู้ป่วยที่ไม่ได้ทดสอบหาเชื้อ และกรณีในบ้านพักคนชราที่สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจาก COVID-19
  36. แม้ว่าจะพบผู้ป่วยที่ให้ผลการตรวจเป็นบวกอีกจำนวนมากในสวิสเซอร์แลนด์ แต่ตัวเลขที่รายงานในที่นี้เป็นเพียงเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วเท่านั้น
  37. แยกกรณีจากหมู่เกาะแฟโร และ กรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเขตการปกครองตนเองของเดนมาร์ก
  38. ระหว่างวันที่ 12 มีนาคม 2563 ถึง 1 เมษายน เกณฑ์สำหรับการเข้าตรวจสอบผลติดเชื้อ มีเพียงผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและบุคลากรทางสาธารณสุขเท่านั้นที่สามารถเข้ารับการตรวจสอบได้ ช่วงเวลาก่อนหน้าและหลังจากนั้น การตรวจสอบเชื้อเป็นโดยทั่วไปรวมทั้งผู้มีอาการน้อยและผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย[69]
  39. การทดสอบกรณีที่สงสัยว่าติดเชื้อ ถูกระงับชั่วคราวทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2563 เพื่อเน้นความพยายามเพิ่มขึ้น ไปที่ผู้ที่มีความเสี่ยงจากการเจ็บป่วยที่รุนแรง และภาวะแทรกซ้อน
  40. ไม่รวมกรณีในคอซอวอ ซึ่งเป็นดินแดนข้อพิพาทระหว่างกัน
  41. ไม่รวมกรณีผู้ป่วยในดินแดน อับคาเซีย และ เซาท์ออสซีเชีย ซึ่งมีสถานะเป็นรัฐที่มีการรับรองอย่างจำกัด
  42. ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2563 การตรวจสอบผลติดเชื้อของผู้ที่มีอาการปกติถูกยกเลิก และสงวนไว้สำหรับบุคลากรทางสาธารณสุขและผู้ป่วยเฉียบพลันในกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น
  43. กระทรวงสาธารณสุขแห่งนอร์เวย์ ระบุว่ามีผู้ติดเชื้อในนอร์เวย์มากกว่าตัวเลขที่รายงาน สันนิษฐานว่าตัวเลขที่ไม่ได้แสดงจะสูงกว่าเนื่องจากการจำกัดการทดสอบ อย่างไรก็ตาม จำนวนการทดสอบทั้งหมดต่อประชากร 1 คน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 ค่อนข้างสูง[92]
  44. ประมาณการจำนวนผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคมจากแพทย์เวชปฏิบัติ 40% มีผู้ป่วย 20,200 รายตามหลักเกณฑ์ "corona code" R991, จำนวนในตารางรวมทั้งกรณีตรวจสอบพบเชื้อและกรณีตามเกณฑ์วินิจฉัย corona code ของสถาบันการสาธารณสุขนอร์เวย์ (FHI)
  45. รวมกรณีจากหมู่เกาะโอลันด์ ซึ่งเป็นเขตการปกครองตนเองของฟินแลนด์[94]
  46. จำนวนผู้หายป่วยเป็นค่าประมาณตามรายงานกรณีผู้ป่วยที่ได้รับอย่างน้อยสองสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่มีข้อมูลการติดตามอื่น ๆ เกี่ยวกับโรคนี้ ยังไม่ทราบจำนวนผู้หายป่วยที่แน่ชัด เนื่องจากมีผู้ป่วยเพียงเล็กน้อยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล[95]
  47. รวมกรณีดินแดนที่มีข้อพิพาทเวสเทิร์นสะฮารา ในส่วนที่ควบคุมโดยโมร็อกโก และไม่รวมดินแดนในส่วนของรัฐโดยพฤฒินัยสาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวี
  48. รวมกรณีบนเรือ เอ็มเอส แบรมาร์
  49. รวมกรณีในแอโครเทียรีและดิเคเลีย และไม่รวมกรณีในนอร์เทิร์นไซปรัส
  50. นับรวมกรณีที่รายงานโดยดินแดนปกครองตนเองทรานส์นีสเตรียที่เป็นข้อพิพาทซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐมอลโดวา ในขณะที่กรณีที่รายงานโดยสาธารณรัฐมอลเดเวียพรีดเนสโตรวี ไม่รวมอยู่ด้วย
  51. รวมกรณีของเรือสำราญในแม่น้ำไนล์ ริเวอร์ อะนูเคต ที่เมืองลักซอร์
  52. 52.0 52.1 52.2 เป็นดินแดนปกครองตนเอง เขตสังกัดของพระมหากษัตริย์ ภายใต้อธิปไตยของสหราชอาณาจักร
  53. ไม่รวมกรณีจากดินแดนที่มีข้อพิพาท ที่ราบสูงโกลัน
  54. ยกเว้นกรณีที่รายงานโดยดินแดนปกครองตนเองทรานส์นีสเตรีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐมอลโดวา
  55. 55.0 55.1 กรณีของดินแดนที่ไม่ได้รับการรับรอง สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ และ สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ ไม่ถูกนับรวมกับจำนวนของแคว้นโดเนตสค์และลูฮันสค์ของยูเครน
  56. ไม่รวมจำนวนของรัฐโดยพฤตินัย โซมาลีแลนด์
  57. กรณีผู้ป่วยในรัฐที่ไม่ได้รับการรับรองเซาท์ออสซีเชีย ไม่ถูกนับรวมกับกรณีของจอร์เจีย
  58. กรณีผู้ป่วยในรัฐโดยพฤฒินัย สาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวี ไม่ถูกนับรวมกับกรณีของโมร็อกโก
  59. แม้เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ทีโอดอร์รูสเวลต์ จะเทียบท่าอยู่ที่กวม แต่ได้แยกการรายงานกรณีผู้ติดเชื้อ
  60. เรือบรรทุกเครื่องบิน ชาร์ลเดอโกล ของกองทัพเรือฝรั่งเศส ได้แยกการรายงานกรณีผู้ติดเชื้อ
  61. กรณีเรือสัญชาติอังกฤษ ไดมอนด์พรินเซส ได้ถูกกักกันอยู่ในน่านน้ำญี่ปุ่น และดูแลจัดการผู้โดยสารอยู่ภายในเรือโดยรัฐบาลญี่ปุ่น กรณีนี้จึงไม่รวมอยู่ในการนับจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างเป็นทางการของรัฐบาลญี่ปุ่น หรือสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลก แบ่งแยกกรณีเป็น "กรณีบนยานพาหนะระหว่างประเทศ"
  62. แม้เรือ'เกร็กมอร์ติเมอร์ จะเทียบท่าอยู่ที่ประเทศอุรุกวัย แต่ได้แยกการรายงานกรณีผู้ติดเชื้อ
  63. กรณีเรือเอ็มเอส ซานดัม จอดอยู่ในน่านน้ำนอกชายฝั่งชิลีหลังถูกปฏิเสธการเข้าเทียบท่าตั้งแต่ 14 มีนาคม เรือเอ็มเอส รอตเทอร์ดัม มาสมทบกับเรือเอ็มเอส ซานดัม เพื่อให้การช่วยเหลือในวันที่ 26 มีนาคม ทั้งสองลำแสดงความประสงค์ที่จะผ่านคลองปานามา แต่ถูกปฏิเสธไม่มีท่าเรือที่แยกเฉพาะใดให้เทียบท่า[329] จำนวนกรณีบนเรือทั้งสองไม่นับรวมกับกรณีของชาติใด ๆ
  64. กรณีพบผลตรวจเชื้อผู้โดยสารบนเรือ คอรัลพรินเซส เป็นบวก ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2563 แต่ไม่มีท่าเรือที่แยกเฉพาะใดให้เทียบท่า จำนวนกรณีบนเรือไม่นับรวมกับกรณีของชาติใด ๆ
  65. จำนวนกรณีบนเรือ ซีดรีมวัน ปัจจุบันไม่ถูกนับรวมกับกรณีของชาติใด ๆ
  66. กรณีทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรือดำน้ำ ดลแฟง (HMLMS Dolfijn) ถูกรายงานขณะที่เรืออยู่ในน่านน้ำระหว่างสกอตแลนด์และเนเธอร์แลนด์ ไม่ชัดเจนว่า สถาบันสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเนเธอร์แลนด์ (RIVM) รวมกรณีเหล่านี้ในการนับรวมในรายงานหรือไม่ และเนื่องจาก RIVM ไม่ได้รายงานจำนวนผู้รักษาหาย สำหรับกองทัพเนื่องจากความกังวลใน ความมั่นคงในการปฏิบัติการ จึงสันนิษฐานว่าไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับจำนวนผู้รักษาหาย

มีผู้ป่วยยืนยันแล้ว[แก้]

แผนที่ภาพเคลื่อนไหวการแพร่ของผู้ป่วย 2019-nCoV ยืนยันแล้วตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563

ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2564 ประเทศไมโครนีเซีย พบผู้ติดเชื้อ 1 รายนับเป็นประเทศล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) [337]

ในวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2564 ที่สนามบินเซนต์เฮเลนา พบผู้ติดเชื้อ 1 รายส่งผลให้เซนต์เฮเลนาเป็นดินแดนล่าสุดที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2)[338]โดยผู้ป่วยเดินทางด้วยเที่ยวบิน สายการบินเช่าเหมาลำ เดินทางจากท่าอากาศยานลอนดอนสแตนสเต็ด

ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 สัดส่วนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเป็นดังนี้ ทวีปยุโรป 30.06% ทวีปอเมริกาเหนือ 23.93% ทวีปเอเชีย 22.27% ทวีปอเมริกาใต้ 19.57% ทวีปแอฟริกา 3.71% ทวีปออสเตรเลีย 0.46%

ยุโรป[แก้]

ผู้ป่วยรายแรก ๆ ของทวีปยุโรปมีรายงานจากในประเทศฝรั่งเศสและในประเทศเยอรมนี​รวมถึงประเทศอื่น ๆ โดยเป็นผู้ป่วยเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น จนวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ได้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ขึ้นในประเทศอิตาลี ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณตอนเหนือของมิลาน จากนั้นมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการแพร่กระจายของโรคไปทั่วทั้งทวีปยุโรป โดยหลังจากที่ประเทศมอนเตเนโกรได้รายงานการพบผู้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ทำให้มีผู้ป่วยอยู่ในทุกประเทศเอกราชของทวีปยุโรป​

ต่อเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2563 ได้มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อในไอล์ออฟแมนซึ่งเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร และพบการติดเชื้อในดินแดน​ที่ยังมีปัญหาข้อพิพาทเรื่องอำนาจอธิปไตยของตนเองอย่าง​ทรานส์นีสเตรีย[339]​นอกจากนี้ยังพบการติดเชื้อในดินแดนปกครองตนเองอย่างหมู่เกาะโอลันด์​ทำให้การติดเชื้อพบในทุกประเทศเอกราชและของทวีปยุโรป ปัจจุบันองค์การอนามัยโลก​ได้ประกาศให้ทวีปยุโรปเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของไวรัสหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นในประเทศจีน[340][341] [342][343][344][345]ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2563 วาเลรี ฌิสการ์ แด็สแต็ง อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส ถึงแก่อสัญกรรมจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ณ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 พบผู้ติดเชื้อแต่ไม่พบผู้เสียชีวิตที่ สฟาลบาร์​ และ นครรัฐวาติกัน พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดได้แก่ หมู่เกาะแฟโร เสียชีวิต 28 ราย และ หมู่เกาะโอลันด์​ เสียชีวิต 9 ราย พื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อได้แก่ ยานไมเอน ​ไม่พบผู้ติดเชื้อ

ณ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 เมื่อเรียงตามจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในแต่ละประเทศ​ 30 อันดับแรกของโลก พบว่า​ 13 ประเทศอยู่ในทวีปยุโรปคิดเป็น​อัตราร้อยละ 43.33 % โดยจำนวนประเทศ​ 30 อันดับแรกของโลกมีผู้เสียชีวิตมากกว่า​ 37,869 รายของแต่ละประเทศ​ และเมื่อเรียงตามจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุด 12 อันดับแรกของโลก พบว่าอยู่ในทวีปยุโรป 6 ประเทศ หรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 50.00 % ศูนย์​กลางการแพร่ระบาดของทวีปยุโรป​อยู่ที่ สหราชอาณาจักร ประเทศฝรั่งเศส ประเทศอิตาลี ประเทศเยอรมนี ประเทศรัสเซีย ประเทศสเปน

ณ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ผู้เสียชีวิตในทวีปยุโรปจำนวนสูงสุด 13 อันดับแรก​ (นับเฉพาะทวีปยุโรป) ​ได้แก่ ​ประเทศรัสเซีย​ 401,834 ราย สหราชอาณาจักร 232,112 ราย​ ประเทศอิตาลี 195,752 ราย​ ประเทศเยอรมนี ​181,588 ราย ประเทศฝรั่งเศส 167,642 ราย ประเทศสเปน 121,760 ราย ประเทศโปแลนด์ 120,439 ราย ประเทศยูเครน 112,418 ราย ประเทศโรมาเนีย​ 68,806 ราย ประเทศฮังการี 48,976 ราย ประเทศเช็กเกีย 43,474 ราย ประเทศบัลแกเรีย 38,722 ราย ประเทศกรีซ 37,869 ราย ทั้ง 13 ประเทศยังจัดว่าเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิต ติด 30 อันดับแรกของโลก (มากกว่า 37,868 รายขึ้นไป)

ณ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลามาตรฐานกรีนิช 01.04 น. ผู้ติดเชื้อในทวีปยุโรป 252,978,735 ราย และเสียชีวิตรวม​ 2,096,045 ราย จำนวนผู้เสียชีวิตในทวีปยุโรปวันและเวลาดังกล่าว คิดเป็น 30.06 % ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก

ดินแดนอาณานิคม​[แก้]

วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 บีบีซีรายงานว่าที่ เกิร์นซีย์​ มีผู้​เสียชีวิต ​23 ราย[346] ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2566 หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน​ (หมู่เกาะในทวีปอเมริกาเหนือ) มีผู้เสียชีวิต 64 ราย ส่วน หมู่เกาะเคย์แมน​ มีผู้เสียชีวิต 37 ราย ไอล์ออฟแมน​ มีผู้​เสียชีวิต​ 116 ราย หมู่เกาะแชนเนล​ มีผู้เสียชีวิต 228 ราย เรอูนียง​ มีผู้​เสียชีวิต ​921 ราย หมู่เกาะเติกส์และเคคอส มีผู้เสียชีวิต 39 ราย แซ็งปีแยร์และมีเกอลง ​ผู้เสียชีวิต 2 ราย แองกวิลลา มีผู้เสียชีวิต 12 ราย

รัสเซีย[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศรัสเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 23,851,450 ราย เป็นอันดับ 10 ของโลก และเสียชีวิต 401,834 ราย เป็นอันดับที่ 4 ของโลก

รัสเซียเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุดโดยมีผู้เสียชีวิตที่เขตปกครองตนเองชูคอตคา 4 ราย

ทวีปอเมริกาเหนือ[แก้]

ณ วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565 สหรัฐอเมริกาประเทศเม็กซิโก และ ประเทศแคนาดา​ เป็นศูนย์กลาง​การแพร่ระบาดของทวีปอเมริกาเหนือ

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ทวีปอเมริกาเหนือมีจำนวน​ 4 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิต​ในแต่ละประเทศมากกว่า 20000 ราย​ ได้แก่ สหรัฐอเมริกาประเทศเม็กซิโก ประเทศแคนาดาประเทศกัวเตมาลา จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งทวีปอเมริกาเหนือคิดเป็น 23.93 % ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก

ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส[แก้]

พบผู้ป่วยทั้งหมดจำนวน 4 คน โดยมีการยืนยันผู้ป่วยครั้งแรกจำนวน 2 คนเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2563 ในเกาะเซนต์มาร์ติน ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส โดยตัวผู้ป่วยได้เดินทางมาจากฝรั่งเศสผ่านดินแดนซินต์มาร์เตินของเนเธอร์แลนด์ และแซ็ง-บาร์เตเลมี ซึ่งบุตรชายของผู้ป่วยได้เกิดการติดเชื้อขึ้น ทั้งคู่เดินทางกลับไปยังเกาะเซนต์มาร์ตินและถูกตรวจพบที่ท่าอากาศยาน และได้ถูกส่งตัวต่อไปกักโรคที่โรงพยาบาลบนเกาะ[347] ขณะที่ในกัวเดอลุป มีรายงานผู้ป่วยจำนวนหนึ่งคน[348]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 เกาะเซนต์มาร์ติน มีผู้เสียชีวิต 63 ราย กัวเดอลุป มีผู้เสียชีวิต 1,021 ราย แซ็ง-บาร์เตเลมี มีผู้เสียชีวิต 6 ราย

คอสตาริกา[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศคอสตาริกา มีผู้เสียชีวิต 9,428 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 1,238,883 ราย

กัวเตมาลา[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศกัวเตมาลา มีผู้เสียชีวิต 20,274 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 1,283,130 ราย

เม็กซิโก[แก้]

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ประเทศเม็กซิโกมีการยืนยันผู้ป่วยครั้งแรกจำนวน 3 คน เป็นชายอายุ 35 ปี และ 59 ปีในเม็กซิโกซิตี และชายอายุ 41 ปีในรัฐซีนาโลอา ซึ่งทั้งสามมีผลการทดสอบเป็นบวกและได้ถูกกักโรคไว้ที่โรงพยาบาลและโรงแรม ตามลำดับ สองคนแรก ทั้งคู่ได้เดินทางไปยังเมืองเบอร์กาโม ประเทศอิตาลี และพำนักอยู่เป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์[349][350][351][352] วันที่ 29 กุมภาพันธ์ มีการพบผู้ป่วยรายที่สี่ เป็นหญิงอายุ 20 ปี ซึ่งได้มีการเดินทางไปยังประเทศอิตาลีมา[353] วันที่ 1 มีนาคม มีการพบผู้ป่วยรายที่ 5 เป็นนักศึกษาในรัฐเชียปัส ซึ่งเพิ่งได้เดินทางกลับมาจากประเทศอิตาลี[354]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิต 334,958 ราย และ มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 7,702,809 ราย

แคนาดา[แก้]

ณ วันที่ 4 มีนาคม มีรายงานผู้ป่วยโคโรนาไวรัสในประเทศแคนาดา 33 คน โดยแบ่งเป็นพบในบริติชโคลัมเบีย 8 คน รัฐออนแทรีโอ 24 คน และรัฐควิเบก 1 คน[355] ผู้ป่วยทุกคนมีประวัติการเดินทางไปยังประเทศที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก และรักษาหายแล้วจำนวน 8 คน (แบ่งเป็นบริติชโคลัมเบีย 5 คน และรัฐออนแทรีโอ 3 คน)[356]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 แคนาดามีผู้เสียชีวิต 57,711 ราย พบผู้ติดเชื้อ 4,910,081 ราย

สหรัฐ[แก้]

วันที่ 21 มกราคม 2563 สหรัฐรายงานพบผู้ป่วยรายแรก เป็นชายอายุ 35 ปีที่อาศัยอยู่ในเทศมณฑลสโนโฮมิช รัฐวอชิงตัน ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากอู่ฮั่นที่ท่าอากาศยานนานาชาติซีแอตเทิล–ทาโคมา ในวันที่ 15 มกราคม

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563 มีการพบผู้ป่วย 66 คน[357] และมีผู้หายป่วยจำนวน 7 คน วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐรายงานพบผู้ป่วยใน รัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งอาจเป็นกรณีแรกของการติดต่อกันภายในประเทศ[344] วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ทางการรัฐวอชิงตันแถลงยืนยันว่าพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากโรคโคโรนาไวรัสในสหรัฐ[358]

วันที่ 2 มีนาคม 2563 เทศมณฑลคิง รัฐวอชิงตัน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมีรายงานพบผู้ป่วยยืนยัน 14 คน และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 5 คน[359] ศูนย์อนามัยออรีกอนยังได้รายงานว่าพบผู้อาจติดเชื้อใหม่จำนวนสามรายในรัฐด้วย ซึ่งเป็นชายในเทศมณฑลอูมาทิลลา ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในวัลลาวัลลา รัฐวอชิงตัน[360]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 1,193,694 ราย และมีจำนวนผู้​ติดเชื้อ 110,757,619 ราย

สาธารณรัฐโดมินิกัน[แก้]

วันที่ 1 มีนาคม มีรายงานพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสรายแรกในประเทศโดมินิกัน และภูมิภาคแคริบเบียน เป็นชายอายุ 62 ปีจากประเทศอิตาลี ซึ่งเดินทางเข้าประเทศในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และเกิดอาการป่วยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผู้ป่วยผู้นี้ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลทหารรามอนลารา[361]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 4,384 ราย มีผู้ติดเชื้อ 673,268 ราย

ฮอนดูรัส[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศฮอนดูรัส​ มีผู้เสียชีวิต ​11,165 ราย มีผู้ติดเชื้อ 474,590 ราย

อาร์กติก[แก้]

วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ศูนย์กลาง​การแพร่ระบาดในพื้นที่วงกลมอาร์กติก ได้แก่แคว้นมูร์มันสค์ (Murmansk Oblast) ​มีผู้เสียชีวิตแล้ว 728 ราย เทศบาลทรุมเซอ และ ​เทศมณฑลฟินมาร์ก ประเทศนอร์เวย์​ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต รัฐอะแลสกา เฉพาะพื้นที่ใน วงกลมอาร์กติก ได้แก่ เขตนอร์ทสโลป (North Slope Borough)​​ เสียชีวิต 17 ราย และ เขตนอร์ทเวสต์ อาร์กติก​ (Northwest Arctic Borough)​ เสียชีวิต 20 ราย รวมเสียชีวิต 765 ราย

ดินแดนในอาร์กติก​ที่อยู่ในวงกลมอาร์กติก มีรายงานว่าพบผู้ป่วยที่โรงงานแก๊สธรรมชาติเหลว ในหมู่บ้านเบโลคาเมนกา (Belokamenka) ในเมือง มูร์มันสค์ ในประเทศรัสเซีย ราว 200 ราย[362][363]

ทวีปอเมริกาใต้[แก้]

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565 ศูนย์​กลางการแพร่ระบาดของทวีปอเมริกาใต้ อยู่ที่ ประเทศบราซิล ประเทศโคลอมเบีย และ ประเทศอาร์เจนตินา​ ทวีปอเมริกาใต้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า​ 100000 ราย ทั้งหมด​ ​4 ประเทศ​ พื้นที่ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อในทวีปคือ เกาะเซาท์จอร์เจียและหมู่เกาะเซาท์แซนด์วิช

พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด​ ณ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ​​ได้แก่ที่ ประเทศบราซิล 708,999 ราย อันดับที่ 2 ของโลก รองลงมาได้แก่ ประเทศเปรู 222,161 ราย อันดับที่ 7 ของโลก ​ประเทศโคลอมเบีย​ 143,125 ราย​ อันดับที่ 13 ของโลก ประเทศอาร์เจนตินา​ 130,685 ราย อันดับที่ 14 ของโลก ประเทศชิลี​ 64,497 ราย อันดับที่​ 23 ของโลก จำนวนผู้เสียชีวิตคิดเป็น 19.57 % จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก

พบผู้ติดเชื้อ 1,930 ราย แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตที่ หมู่เกาะฟอล์กแลนด์

ประเทศชิลี[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ​ ​​ทั้งประเทศมีผู้ติดเชื้อ 5,338,562 ราย เสียชีวิต 64,497 ราย ประเทศชิลีเป็นประเทศที่พบผู้เสียชีวิตใกล้แอนตาร์กติกา​มากที่สุดโดยพบที่ แคว้นมากายาเนสและลาอันตาร์ตีกาชีเลนา​ มีผู้เสียชีวิต 767 ราย[364]

ประเทศบราซิล[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ​​จำนวน​ผู้​ติดเชื้อ​ 38,264,864 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 708,999 ราย​

ประเทศเปรู[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 จำนวน​ผู้​ติดเชื้อ​ 4,536,733 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 222,161 ราย​

ประเทศโคลอมเบีย[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567จำนวน​ผู้​ติดเชื้อ​ 6,389,995 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 143,125 ราย

ประเทศอาร์เจนตินา[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567จำนวน​ผู้​ติดเชื้อ​ 10,080,046 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 130,685 ราย​

ทวีปแอนตาร์กติกา[แก้]

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อ 36 รายในฐานวิจัยนายพลเบอร์นาร์โด โอ’ฮิกกินส์ เกลเม่ ซึ่งเป็น 1 ใน 13 ฐานวิจัยของชิลีที่ตั้งอยู่ในดินแดนแอนตาร์กติกาของชิลี

ในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2565 รอสส์ดีเพนเดนซี รายงานผู้ติดเชื้อและหายป่วย 125[365]รายดินแดนแอนตาร์กติกาของชิลี รายงานผู้ติดเชื้อ 58 รายและหายป่วย[366][367]

เอเชีย[แก้]

ตั้งแต่ วันที่ 5 ตุลาคม 2565 ศูนย์กลางการแพร่ระบาดของทวีปเอเซีย อยู่ที่ ​ประเทศอินเดีย ประเทศอิหร่าน

ใน วันที่ 24 ธันวาคม 2565 พื้นที่ที่ไม่ประสงค์จะรายงานผู้ติดเชื้อได้แก่ ประเทศเติร์กเมนิสถานเกาะคริสต์มาส หมู่เกาะโคโคส (คีลิง)

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567​ จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 1,552,683 ราย คิดเป็น 22.27 % จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก

กัมพูชา[แก้]

แผนที่การแพร่ระบาดในประเทศกัมพูชา
(ณ วันที่ 22 มีนาคม 2563):
  พบผู้ป่วยยืนยันแล้ว
  พบผู้ต้องสงสัย

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ กัมพูชายืนยันพบผู้ป่วยครั้งแรกในเมืองพระสีหนุ เป็นชายชาวจีนอายุ 60 ปี เดินทางไปยังเมืองนี้จากนครอู่ฮั่นพร้อมครอบครัว[368] โดยคนในครอบครัวของเขาถูกกักไว้ พวกเขาไม่มีการแสดงอาการของไวรัส ขณะที่ชายคนดังกล่าวถูกแยกไว้เพื่อรักษาที่โรงพยาบาลส่งต่อพระสีหนุ (Preah Sihanouk Referral Hospital)[369] มีรายงานว่าอาการของเขาคงที่แล้ว[370][371]ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ​​มีผู้ติดเชื้อ 139,071 ราย มีผู้เสียชีวิต​ 3,056 ราย

กาตาร์[แก้]

กระทรวงสาธารณสุขแห่งกาตาร์ รายงานว่าพบผู้ป่วยไวรัสรายแรกในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ผู้ป่วยเป็นชาวกาตาร์ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศอิหร่าน[372][373][374]ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้ติดเชื้อ​ 514,524 ราย ผู้เสียชีวิต 690 ราย

เกาหลีใต้[แก้]

ประเทศเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมดในวันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 จำนวน​ 34,571,873 ราย และผู้เสียชีวิตรวม 35,934 ราย เป็นการระบาดที่ใหญ่ที่สุดนอกประเทศจีน[375] ผู้ป่วยรายแรกของการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 ในประเทศเกาหลีใต้ ได้รับการประกาศเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2563[376] วันที่ 19 กุมภาพันธ์ จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีก 20 คน และวันที่ 20 เพิ่มขึ้นอีก 53 คน ทำให้มีผู้ป่วยรวมขณะนั้นที่ 104 คน ตามการรายงานของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งเกาหลีใต้ (KCDC) ผู้ป่วยรายใหม่ส่วนมากมาจาก "ผู้ป่วยรายที่ 31" ซึ่งเข้าร่วมชุมนุมที่โบสถ์ชินช็อนจีในแดกู[377]

เกาหลีเหนือ[แก้]

ประเทศเกาหลีเหนือมีผู้ป่วยในวันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ​​จำนวน​ 4,772,813 ราย และเสียชีวิต 74 ราย

คูเวต[แก้]

ประเทศคูเวตในปัจจุบันเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในโลกอาหรับ และมีจำนวนผู้ป่วยเป็นรองเพียงประเทศอิหร่านในเอเชียตะวันตก โดยมีผู้ป่วยในประเทศถูกพบแล้วในวันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 จำนวน 666,756ราย[378]เสียชีวิต 2,570 ราย

จอร์เจีย[แก้]

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ประเทศจอร์เจีย​ยืนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของประเทศ เป็นชายอายุ 50 ปี ซึ่งเดินทางมาจากประเทศอิหร่าน โดยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยายาลโรคติดเชื้อในทบิลีซี ซึ่งผู้ป่วยรายนี้กลับเข้าสู่จอร์เจียทางพรมแดนประเทศอาร์เซอร์ไบจานโดยรถแท็กซี[379][380][381][382]

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ มีการยืนยันว่าผู้หญิงชาวจอร์เจียอายุ 31 ปีที่เพิ่งเดินทางไปประเทศอิตาลีมามีผลการทดสอบเป็นบวก และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยายาลโรคติดเชื้อในทบิลีซี[382] นอกจากนั้นยังมีผู้ถูกกักกันอยู่ณโรงพยาบาลทบิลิซีอีก 29 คน โดยที่ อามิรัน กัมเกรลิเซ รัฐมนตรีอนามัยระบุว่าพวกเขาเป็นบุคคลที่ "มีความเป็นไปได้สูง" ที่อาจมีไวรัสอยู่[383]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 17,132 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 1,855,289 ราย

จอร์แดน[แก้]

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ประเทศจอร์แดนริเริ่มการห้ามบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศจีน ประเทศเกาหลีใต้ และประเทศอิหร่านเข้าสู่ราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว[384] ประเทศจอร์แดนได้ทำการคัดกรองทุกคนที่เดินทางเข้าสู่ประเทศผ่านทางท่าอากาศยาน โดยมีการตรวจสอบทรวงอกและลำคอตลอดจนอุณหภูมิร่างกาย ส่วนชาวจอร์แดนที่มีผลทดสอบเป็นบวกจะถูกกักโรคไว้เป็นเวลา 2 สัปดาห์[385]

วันที่ 2 มีนาคม นายกรัฐมนตรีจอร์แดนแถลงว่าพบผู้ป่วยโคโรนาไวรัสรายแรกในประเทศ[386][387] เป็นชาวจอร์แดนที่เดินทางกลับมาจากประเทศอิตาลี เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่จะเริ่มใช้มาตรการกักโรคชาวจอร์แดนที่เดินทางกลับมาจากประเทศอิตาลี[386][388]ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567​ มีผู้เสียชีวิต 14,122 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 1,746,997 ราย

จีนแผ่นดินใหญ่[แก้]

​​ ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 5,272 ราย จำนวน​ผู้ติดเชื้อ 503,302 ราย ก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนดำเนินการปิดเมืองอู่ฮั่นเนื่องด้วยการระบาดทั่วของโควิด-19

ซาอุดีอาระเบีย[แก้]

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ประเทศซาอุดีอาระเบียประกาศระงับการเข้าประเทศเป็นการชั่วคราวสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์ในเมกกะ หรือผู้ที่ต้องการเดินทางไปเข้าชมมัสยิดอันนะบะวี รวมถึงนักท่องเที่ยว ต่อมากฎนี้ได้ขยายไปครอบคลุมนักท่องเที่ยวที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่[389]

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งซาอุดีอาระเบีย ประกาศระงับการเข้าสู่ประเทศของพลเมืองในประเทศสมาชิกสภาความร่วมมืออ่าว (GCC) ยังเมกกะและมะดีนะหฺเป็นการชั่วคราว โดยพลเมืองของประเทศกลุ่ม GCC ที่พำนักอยู่ในประเทศซาอุดีอาระเบียนานเกิน 14 วันติดต่อกัน และไม่ปรากฏอาการใด ๆ อันแสดงถึงโรคโควิด-19 นั้นจะอยู่นอกเหนือกฎดังกล่าว[389]

วันที่ 2 มีนาคม ทางการซาอุดีอาระเบียยืนยันว่าพบผู้ป่วยเป็นรายแรก เป็นชาวซาอุดีอาระเบียที่เดินทางกลับมาจากประเทศอิหร่านผ่านทางประเทศบาห์เรน[390]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ผู้เสียชีวิต 9,646 ราย และมี​ผู้​ติดเชื้อ​ 841,469 ราย

ซีเรีย[แก้]

ประเทศซีเรีย ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567​ มีผู้เสียชีวิต 3,165 ราย และมี​ผู้​ติดเชื้อ​ 57,743 ราย

ญี่ปุ่น[แก้]

ประเทศญี่ปุ่นยืนยันผู้ป่วยรายแรกเป็นชาวจีนอายุ 30 ปี ซึ่งเคยมีการเดินทางไปยังอู่ฮั่นมาก่อน มีอาการเมื่อวันที่ 3 มกราคม และกลับเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 6 มกราคม

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต ​74,694 ราย​ และมีผู้​ติดเชื้อ​ 33,803,572 ราย

ที่ประเทศญี่ปุ่นมีผู้เสียชีวิตอีก 14 ราย บนไดมอนด์พรินเซส (เรือ)โดยเป็นชาวญี่ปุ่น 9 รายจาก 14 ราย แต่มีผู้เสียชีวิตที่ประเทศญี่ปุ่นเพียง 13 ราย เนื่องจากอีกชาวออสเตรเลียหนึ่งราย เสียชีวิตในโรงพยาบาลที่ประเทศออสเตรเลีย[391]

ไต้หวัน[แก้]

ประเทศไต้หวันพบผู้ป่วยรายแรกในวันที่ 21 มกราคม[392]​ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต​รวม 19,005 ราย และผู้ติดเชื้อ 10,241,523 ราย

ตุรกี[แก้]

ประเทศตุรกีเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ผู้ป่วยติดเชื้อโควิดไวรัสโคโรนารายแรก เป็นผู้หญิงชาวจีนอุย อายุ 32 ปี ที่เดินทางมาจากอู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งมีผลตรวลหา SARS-CoV-2 เป็นบวก ทำให้ชาวตุรกีถูกกักโรค โดยถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลในอิสตันบูล

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศตุรกีมีผู้เสียชีวิต 102,174 ราย และ มีจำนวนผู้​ติดเชื้อ 17,232,066​ ราย

ไทย[แก้]

วันที่ 13 มกราคม ประเทศไทยพบผู้ป่วยรายแรก ซึ่งเป็นการพบผู้ป่วยนอกประเทศจีนเป็นครั้งแรก[393][394][395] วันที่ 1 มีนาคม มีรายงานผู้เสียชีวิตเป็นรายแรก[396]ในวันที่ 6 เมษายน เที่ยวบินจากจาการ์ตาที่ทำการบินลงที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ นำผู้ติดเชื้อเข้าสู่จังหวัดจำนวน 18 ราย ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตรวม 34,539 ราย ผู้ติดเชื้อ 4,764,382 ราย

ทาจิกิสถาน[แก้]

ประเทศทาจิกิสถาน ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2563 พบติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา เป็นผู้ชายชาวประเทศทาจิกิสถานสามคนกลับมาจากประเทศอินเดีย มีผู้ป่วย 15 ราย วันที่ 2 พฤษภาคม พบผู้เสียชีวิตรายแรก

ต่อมาวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 ประเทศทาจิกิสถานได้ประกาศปิดพรมแดนที่ติดกันอัฟกานิสถาน ​ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 125 ราย​ ผู้ติดเชื้อ 17,786 ราย

เนปาล[แก้]

แผนที่การแพร่ระบาดในประเทศเนปาล
(ณ วันที่ 26 มกราคม 2563):
  พบผู้ป่วยยืนยันแล้ว
  พบผู้ต้องสงสัย

นักศึกษาชาวเนปาลซึ่งเดินทางกลับมาจากนครอู่ฮั่นและถูกกักโรคอยู่ในกาฐมาณฑุ[397] กลายเป็นผู้ป่วยรายแรกของประเทศเนปาลและภูมิภาคเอเชียใต้ในวันที่ 24 มกราคม หลังจากตัวอย่างถูกส่งไปยังศูนย์ร่วมองค์การอนามัยโลกในฮ่องกง[398][399] และถูกเลิกกักตัวหลังจากที่อาการดีขึ้น[400]ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 รายงานผู้เสียชีวิต ​12,031 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 1,003,450 ราย

บาห์เรน[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้ติดเชื้อ 729,549 ราย และเสียชีวิต 1,574 ราย

บังคลาเทศ​[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศบังคลาเทศ​มีผู้เสียชีวิต ​29,479 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 2,046,599 ราย

เยเมน[แก้]

ประเทศเยเมน ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 2,159 ราย และมีผู้ติดเชื้อ 11,945 ราย

พม่า[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567​ ประเทศพม่า มีผู้ติดเชื้อ 641,614 ราย และเสียชีวิต 19,495 ราย

ปากีสถาน[แก้]

แผนที่การแพร่ระบาดในประเทศปากีสถาน
(ณ วันที่ 9 เมษายน 2563):
  พบผู้ป่วยยืนยันแล้ว
  พบผู้ต้องสงสัย

รัฐบาลปากีสถานเริ่มใช้มาตรการคัดกรองผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานในอิสลามาบาด การาจี ลาฮอร์ และเปศวาร์ เพื่อป้องกันการเข้าสู่ประเทศของไวรัสโคโรนา[401] นอกจากนี้ปากีสถานอินเตอร์เนชันแนลแอร์ไลน์ยังประกาศใช้มาตรการคัดกรองผู้โดยสารก่อนเดินทางขึ้นเครื่องในเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่งด้วย[402] วันที่ 27 มกราคม สภานิติบัญญัติกิลกิต-บัลติสตันประกาศหน่วงเวลาการเปิดด่านแนวเขตแดนจีน–ปากีสถานที่ช่องผ่านแดนคุนเยรับในเดือนกุมภาพันธ์[403] และยังประกาศปิดพรมแดนปากีสถาน–อิหร่านด้วย[404]

วันที่ 1 มีนาคม มีรายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มเติมในการาจีและอิสลามาบาด ทำให้จำนวนผู้ป่วยของประเทศเพิ่มเป็นสี่ราย[405] ส่วนผู้ป่วยรายแรกและรายที่สองมีประวัติการเดินทางไปยังประเทศอิหร่าน ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเชื้อว่าเขาติดเชื้อ[406]

วันที่ 3 มีนาคม ทางการปากีสถานยืนยันพบผู้ป่วยรายที่ห้า ในแคว้นสินธ์ ผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับจากการแสวงบุญที่ประเทศอิหร่านจำนวน 960 ราย ถูกกักโรคในทันที[407]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 30,664 ราย มีผู้ติดเชื้อ 1,581,936 ราย

ฟิลิปปินส์[แก้]

ผู้ป่วยรายแรกของประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับการยืนยันในวันที่ 30 มกราคม[408] วันที่ 5 กุมภาพันธ์ กรมอนามัย (DOH) ได้มีการยืนยันผู้ป่วยรายที่สาม[409]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 66,864 ราย ผู้ติดเชื้อ 4,140,383 ราย

มองโกเลีย[แก้]

ประเทศมองโกเลีย ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ​มีผู้ติดเชื้อ 1,011,431 ราย เสียชีวิต 2,284 ราย

มาเลเซีย[แก้]

ชาวจีนแปดคนถูกกักตัวอยู่ที่โรงแรมในรัฐยะโฮร์ เมื่อวันที่ 24 มกราคม หลังจากที่มีการติดต่อกับผู้ป่วยในประเทศสิงคโปร์[410] แม้จะมีรายงานในตอนแรกว่าผลการทบสอบให้ผลเป็นลบ[411] แต่ต่อมาในวันที่ 25 มกราคม มีการยืนยันว่าทั้งสามคนติดเชื้อ และถูกส่งตัวไปกักไว้ที่โรงพยาบาลสุไหงบูโลห์ในรัฐเซอลาโงร์[412][413]

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ ผู้ป่วยรายที่สิบห้าซึ่งเป็นชาวจีนได้หายป่วยอย่างสมบูรณ์ นับเป็นผู้ป่วยที่หายป่วยเป็นรายที่แปดของประเทศมาเลเซีย[414] ต่อมาก็มีรายงานว่าชาวมาเลเซียอีกคนที่ติดเชื้อก็หายดีเป็นรายที่ 9[415]​ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ​มีผู้ติดเชื้อ 5,265,367 ราย และ มีผู้เสียชีวิต 37,335 ราย

เลบานอน[แก้]

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ประเทศเลบานอนยีนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรก เป็นหญิงอายุ 45 ปีที่เดินทางมาจากกอม ประเทศอิหร่าน ซึ่งมีผลตรวจหา SARS-CoV-2 เป็นบวก โดยถูกส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลในเบรุต[416]​ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้ติดเชื้อ 1,243,838 ราย และเสียชีวิต ​10,952 ราย

เวียดนาม[แก้]

ผู้ป่วยยืนยันสองรายแรกเข้าโรงพยาบาลในวันที่ 22 มกราคม และรับการรักษาที่โรงพยาบาลโช่เซย ในนครโฮจิมินห์ กรณีแรกเป็นชาวจีนที่เดินทางจากนครอู่ฮั่นไปฮานอย เพื่อเยื่ยมลูกชายที่อาศัยอยู่ในเวียดนาม และรายที่สองคือลูกชายของเชื่อว่าติดโรคจากผู้เป็นพ่อ[417] หลังจากที่ยืนยันแล้ว รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สั่งให้เปิดใช้งานศูนย์ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดฉุกเฉิน[418]

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ บิดาของผู้ป่วยดังกล่าวมีผลการทดสอบเป็นบวก และกลายเป็นผู้ป่วยรายที่สิบหก[419] วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พวกเขาทั้งหมดได้หายป่วย[420]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้ติดเชื้อ 11,624,114 ราย เสียชีวิต 43,206 ราย

ศรีลังกา[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ผู้เสียชีวิต 16,893 ราย มีผู้ติดเชื้อ 672,743 ราย

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[แก้]

ผู้ป่วยรายแรกของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับการยืนยันในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2563 พรัอมกับครบครัว ของ ชาวอู่ฮั่น[421][422]​ เป็นผู้หญิงชราชาวจีน อายุ 72 ปี และ ลูกชาย อายุ 34 ปี ที่กรณีแรกเป็นชาวจีนเดินทางมาจากนครอู่ฮั่นไปนครดูไบ ซึ่งมีผลตวรจหา SASR-Cov-2 ถูกกักโรค โดยถูกส่งตัวไปเข้าโรงพยาบาลในดูไบ

ณ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 หลังจากชาวเอมิเรตส์ได้ติดเชื้อโรคโควิด-19 เพื่อลูกสาวที่อาศัยอยู่ที่ดูไบ และรายที่สามคือลูกสาวของเชื้อว่าติดโรคกับแม่

วันที่ 2 มืนาคม พ.ศ. 2563 กรุงอาบูดาบียีนยันพบผู้ป่วยโควิด-19 เป็นผู้ชายชาวรัสเซีย อายุ 38 ปี และผู้หญิงชาวรัสเซีย อายุ 36 ปี กรณีแรกเป็นชาวรัสเซียเดินทางจากกรุงมอสโกไปอาบูดาบี ชาวรัสเซียสองคนถูกกักตัวอยู่ที่โรงแรมในอาบูดาบี ต่อมา วันที่ 25 มืนาคม รัฐบาลเอมิเรตส์ได้โอกาศปัญหากับ อาบูดาบีและดูไบ จากปิดชั่วคราว เช่า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ โรงภาพยนตร์ และทั้งหมด ยกเว้น โรงพยาบาล และร้านขายยา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ประกาศปิดพรมแดนที่ตัดกับประเทศซาอุดีอาระเบีย

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้ติดเชื้อ 1,067,030 ราย เสียชีวิต 2,349 ราย

สิงคโปร์[แก้]

ผู้ป่วยรายแรกในประเทศสิงคโปร์ได้รับการยืนยันในวันที่ 23 มกราคม[423] ต่อมามีการรายงานพบผู้ป่วยในท้องถิ่นเป็นรายแรกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ร้านย่งไทฮั่ง (Yong Thai Hang) เป็นร้านค้าที่ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวจีนได้รับการระบุเป็นสถานที่ที่เกิดการติดเชื้อ เนื่องจากมีผู้หญิงจำนวนสี่คนที่ไม่เคยเดินทางไปยังประเทศจีนเกิดติดเชื้อไวรัสขึ้น[424]

วันที่ 4 มีนาคม มีผู้ป่วยในประเทศรวม 112 คน[425]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้ติดเชื้อ 2,977,715 ราย จำนวนผู้เสียชีวิต 1,933 ราย

อัฟกานิสถาน[แก้]

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 มีพลเมืองในเฮรัตอย่างน้อยสามคน ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับมาจากกอม ถูกต้องสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 ตัวอย่างเลือดถูกส่งไปยังคาบูลเพื่อทดสอบเพิ่มเติม[426] ภายหลังอัฟกานิสถานได้ประกาศปิดพรมแดนที่ติดกับอิหร่าน

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ มีการยืนยันผู้ป่วยรายแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในสามคนจากเฮรัตดังกล่าว โดยเป็นชายอายุ 35 ปีซึ่งมีผลการทดสอบ SARS-CoV-2 เป็นบวก[427]ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต​ ​7,980 ราย ผู้ติดเชื้อ 230,930 ราย

อาเซอร์ไบจาน[แก้]

ประเทศอาเซอร์ไบจานมีการยืนยันผู้ป่วยรายแรกในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จากรัสเซีย ซึ่งเคยเพิ่งเดินทางมาจากประเทศอิหร่าน[428] และยังมีการพบผู้ป่วยเพิ่มเติมอีกสองรายในประเทศ ทั้งหมดถูกกักโรค ต่อมาอาเซอร์ไบจานได้ประกาศปิดชายแดนที่ติดกับประเทศอิหร่าน[429]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต ​10,379 ราย ผู้ติดเชื้อ 834,305 ราย

คาซัคสถาน[แก้]

ประเทศคาซัคสถานยีนยันพบผู้ป่วยโคโรนาไวรัสรายในวันที่ 13 มีนาคม จากจีน ซึ่งเคยเพิ่งเดินทางมาจากประเทศตุรกี และยังมีการพบผู้ป่วยเพิ่มอีกสองรายในประเทศ ทั้งหมดถูกกักโรค ต่อมาคาซัคสถานได้ประกาศปิดพรมแดนที่ติดกับประเทศรัสเซีย ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศคาซัคสถาน ​มีผู้​ติดเชื้อ​ 1,411,831 ราย ​และ ผู้​เสียชีวิต ​13,848 ราย

อาร์มีเนีย[แก้]

ประเทศอาร์มีเนียยืนยันพบผู้ป่วยโคโรนาไวรัสรายแรกในช่วงปลายของวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 1 มีนาคม เป็นชาวอาร์มีเนียอายุ 29 ปีที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศอิหร่านและมีรายงานยืนยันผลทดสอบเป็นบวก ภริยาของบุคคลนี้ได้ถูกนำไปทดสอบเช่นกัน โดยผลออกมาเป็นลบ นายกรัฐมนตรีนิกอล ปาชินยันแถลงว่าผู้ป่วยนั้น "มีอาการดีขึ้นแล้ว" นอกจากนี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยประมาณ 30 คนถูกนำไปทดสอบและจะถูกกักโรค ซึ่งก่อนหน้านี้อาร์มีเนียได้ประกาศปิดพรมแดนที่ติดกับประเทศอิหร่านไปแล้ว[430]​ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ​มีผู้เสียชีวิต 8,776 ราย และมี​ผู้ติดเชื้อ 451,426 ราย

อินเดีย[แก้]

แผนที่การแพร่ระบาดในประเทศอินเดีย
(ณ วันที่ 9 เมษายน 2563):
  พบผู้ป่วยยืนยันแล้ว
  พบผู้ต้องสงสัย

รัฐบาลอินเดียออกคำแนะนำการเดินทางแก่ประชาชน โดยเฉพาะกับนครอู่ฮั่น ซึ่งมีนักศึกษาแพทย์ชาวอินเดียกำลังศึกษาอยู่ประมาณ 500 คน[431]

ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศจีนเข้าสู่ท่าอากาศยานหลักเจ็ดแห่งของประเทศอินเดีย ต้องเดินผ่านเครื่องตรวจจับความร้อน[432][433]

วันที่ 24 มกราคม มีรายงานผู้ต้องสงสัยจำนวนสองราย ซึ่งกำลังเข้ารับการรักษาอยู่ในมุมไบ[434]

ณ​ วันที่​ 24 กันยายน พ.ศ. 2565 รัฐชัมมูและกัศมีร์ เสียชีวิต 4785 ราย

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 จำนวนผู้เสียชีวิตในอินเดียมากถึง 533,442 ราย มีผู้ติดเชื้อ 45,024,548 ราย เฉพาะ หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ มีผู้เสียชีวิต 78 ราย

อินโดนีเซีย[แก้]

ประเทศอินโดนีเซียได้ทำการติดตั้งเครื่องตรวจอุณหภูมิที่เกตและท่าเรือโดยกระทรวงอนามัย และยังมีการจัดเตรียมห้องกักโรคที่โรงพยาบาลกว่า 100 แห่ง

อินโดนีเซียประกาศห้ามทุกเที่ยวบินที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้า รวมถึงออกจากประเทศ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป และยังยกเลิกการให้ฟรีวีซ่าและวีซ่าเมื่อมาถึงกับบุคคลสัญชาติจีนด้วย และยังห้ามผู้ที่อยู่หรือพำนักในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่เป็นเวลาอย่างน้อย 14 วันเข้าหรือผ่านประเทศอินโดนีเซีย[435]

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ชาวอินโดนีเซียจำนวน 9 คนที่เดินทางไปบนเรือไดมอนด์พรินเซสมีผลการทดสอบการติดเชื้อเป็นบวก ขณะที่รัฐบาลอินโดนีเซียเตรียมส่งลูกเรือที่เหลือ 68 คนจาก 188 คนจากเรือเวิลด์ดรีม ไปยังเกาะเซอบารูเคกิล ซึ่งเป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ในบรรดาหมู่เกาะนับพัน[436][437][438]

วันที 2 มีนาคม ทางการอินโดนีเซียได้ยืนยันติดเชื้อว่าพบผู้ป่วย ชาวอินโดนีเซียที่เดินทางกลับมาจากประเทศจีน

วันที่ 4 ตุลาคม ที่ หมู่เกาะมาลูกู พบผู้เสียชีวิต 115 ราย[439]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศอินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตรวม 161,954 ราย ผู้ติดเชื้อ 6,825,402 ราย

อิรัก[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567​​ ประเทศอิรัก มี ผู้ติดเชื้อรวม 2,465,545 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 25,375 ราย[440]

อิหร่าน[แก้]

ประเทศอิหร่านเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโลกในทวีปเอเซีย ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 เจอผู้ติดเชื้อรายแรกที่เมืองกอม (Qom City)

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 พบผู้ติดเชื้อ 7,625,812 ราย ประเทศอิหร่าน มีผู้เสียชีวิต 146,767 ราย

โอมาน[แก้]

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ มีการยืนยันผู้ป่วยโคโรนาไวรัสสองรายแรก เป็นหญิงชาวโอมานสองคนที่กลับมาจากประเทศอิหร่าน[441][442]ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิตรวม 4,628 ราย ผู้ติดเชื้อ 399,449 ราย

อิสราเอล[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567​​ ประเทศอิสราเอล มีผู้เสียชีวิต 12,707 ราย ติดเชื้อ 4,841,772 ราย

ฮ่องกง[แก้]

วันที่ 26 พฤษภาคม​ ศูนย์ปกป้องอนามัยฮ่องกงพบผู้ป่วยรวม 1,206 คน ในฮ่องกง และผู้เสียชีวิต 7 คน[443][444][445]​​​​​ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ฮ่องกง มีผู้เสียชีวิต 14,434 ราย ติดเชื้อ 2,926,348 ราย

โอเชียเนีย[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีจำนวน ​6 ประเทศที่พบว่ามีผู้เสียชีวิตเกิน 300 ได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศฟิจิ ประเทศปาปัวนิวกินี เฟรนช์พอลินีเชียนิวแคลิโดเนีย ในจำนวนนี้มี 2 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตเกิน 5000 รายได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย และ ประเทศนิวซีแลนด์ พื้นที่ไม่มีผู้เสียชีวิตได้แก่ ประเทศนีวเว ประเทศตูวาลู โตเกเลา

ทั้งทวีปมีรายงานผู้ติดเชื้อรวม 14,739,350 ราย เสียชีวิตรวม 32,319 ราย เฉพาะจำนวนผู้สียชีวิตคิดเป็น 0.46 % จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก

ประเทศออสเตรเลีย[แก้]

แผนที่การแพร่ระบาดในประเทศออสเตรเลีย
(ณ วันที่ 9 เมษายน​ 2563):
  มีรายงานยืนยันผู้ป่วย

วันที่ 25 มกราคม มีการยืนยันผู้ป่วยรายแรก เป็นชายอายุราว 50 ปี ซึ่งเดินทางจากเมืองกว่างโจวมายังเมลเบิร์นในวันที่ 19 มกราคม ผ่านสายการบินไชนาเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ CZ321 เขาเข้ารับการรักษาตัวที่ศูนย์การแพทย์โมนาชในเมลเบิร์น[446][447] จากนั้นมีการประกาศว่ามีผู้ป่วยอีกสามรายที่มีผลการทดสอบเป็นบวกในรัฐนิวเซาท์เวลส์[448][449] ต่อมามีการเฝ้าสังเกตอาการอีกหกราย และมีการยืนยันว่าจะเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลหลังจากเพิ่งเดินทางกลับมาจากนครอู่ฮั่น จากในหกราย มีผู้ต้องสงสัยถึงสองรายที่มีโอกาสติดเชื้อไวรัส ส่วนที่เหลืออีกสี่รายอาจถูกสงสัยว่าติดเชื้อไวรัส[450]

หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ออสเตรเลีย ระบุว่าเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางชีวภาพ จะเริ่มคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงในสามสัปดาห์โดยเที่ยวบินจากอู่ฮั่นถึงซิดนีย์ ในวันที่ 23 มกราคม ผู้โดยสารจะได้รับแผ่นพับข้อมูล และข้อให้แสดงตัวหากมีไข้หรือต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อโรค[451] รัฐแทสเมเนีย มีผู้เสียชีวิต 13 ราย

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิตรวม​ 23,988 ราย ผู้ติดเชื้อ 11,748,817 ราย

ประเทศนิวซีแลนด์[แก้]

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พบผู้ป่วยรายแรกกลับมาจากประเทศอิหร่าน[452] วันที่ 25 มีนาคม ประเทศนิวซีแลนด์ พบผู้ติดเชื้อ 205 ราย รักษาหายแล้ว 22 ราย ส่งผลให้นายกรัฐมนตรีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน[453] 29 มีนาคม พบผู้เสียชีวิตรายแรก[454]ณณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567​ ประเทศนิวซีแลนด์​มีผู้เสียชีวิต 5,427 ราย ​ผู้ติดเชื้อ 2,569,056 ราย หมู่เกาะแชทัมเกาะสจวร์ต​ ไม่พบผู้เสียชีวิต

ประเทศฟิจิ[แก้]

ประเทศฟิจิ​ ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 พบผู้ติดเชื้อ 69,117 ราย เสียชีวิต 885 ราย

ประเทศปาปัวนิวกินี[แก้]

ประเทศปาปัวนิวกินี ​ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 พบผู้ติดเชื้อ 46,864 ราย เสียชีวิต 670 ราย

เฟรนช์พอลินีเชีย[แก้]

เฟรนช์พอลินีเชีย ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 พบผู้ติดเชื้อ 79,254 ราย เสียชีวิต 650 ราย

แอฟริกา[แก้]

ในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2563 นายกรัฐมนตรีประเทศเอสวาตีนี ถึงแก่อสัญกรรมจากการติดเชื้อโควิด 19

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตพบทั้ง 58 ดินแดนทั้งทวีปแอฟริกา จำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 20000 ราย มีจำนวน 3 ประเทศ และจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 16,300 ราย มีทั้งหมด 4 ประเทศ

ที่ เซนต์เฮเลนา ไม่มีผู้เสียชีวิต สัดส่วนผู้เสียชีวิตคิดเป็น 3.71 % จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก

ศูนย์กลางการแพร่ระบาดอยู่ที่ ประเทศแอฟริกาใต้ ประเทศอียิปต์ และ ประเทศตูนิเซีย

พื้นที่ไม่พบผู้เสียชีวิตได้แก่ เซนต์เฮเลนา

ประเทศแอฟริกาใต้[แก้]

ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นประเทศพบผู้ป่วยรายแรก 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ​มีผู้เสียชีวิต 102,595 ผู้ติดเชื้อ 4,076,463 ราย

ประเทศอียิปต์​[แก้]

แผนที่การแพร่ระบาดในประเทศอียิปต์
(ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563):
  มีรายงานยืนยันผู้ป่วย
  มีการรายงานผู้ต้องสงสัย

ประเทศอียิปต์วันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 อียิปต์ได้ยืนยันติดเชื้อผู้ป่วย มีผู้ชายชาวจีนอายุ 30 ปี ใด้เดินทางมาจาก ประเทศจีน ต้องหา ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เป็นบวก ทำไห้ชาวอียิปต์ถูกติดเชิ้อโควิด-19 ต้องสั่งไปเข้าโรงพยาบาลในไคโร

วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 สายการบิน อียิปต์แอร์ ถูกยกเลิกเที่ยวบินแล้ว ต่อมา วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2563 ท่าอากาศยานนานาชาติไคโรได้ปิดทำการ อียิปต์ได้ประกาศปิดแดนทะเลประเทศซาอุดีอาระเบีย

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567​ มีผู้เสียชีวิต 24,613 ผู้ติดเชื้อ 516,023 ราย

ประเทศโมร็อกโก[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 16,301 ผู้ติดเชื้อ 1,278,512 ราย

ประเทศตูนิเซีย[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิต 29,423 ราย ผู้ติดเชื้อ 1,153,361 ราย

ประเทศเอธิโอเปีย[แก้]

ณ​ วันที่​ 26 มกราคม พ.ศ. 2567 ประเทศเอธิโอเปีย ผู้เสียชีวิต 7,574 ผู้ติดเชื้อ 501,117 ราย

เส้นเวลาของการยืนยันผู้ป่วยกรณีแรกเรียงตามประเทศและดินแดน[แก้]

ผู้ป่วยกรณีแรกเรียงตามประเทศและดินแดน
วันที่ ประเทศหรือดินแดน
1 ธันวาคม 62 จีน (แผ่นดินใหญ่)
13 มกราคม 63 ไทย
16 มกราคม 63 ญี่ปุ่น
20 มกราคม 63 เกาหลีใต้ สหรัฐ
21 มกราคม 63 ไต้หวัน[a]
22 มกราคม 63 ฮ่องกง[b] มาเก๊า[b]
23 มกราคม 63 สิงคโปร์ เวียดนาม
24 มกราคม 63 ฝรั่งเศส เนปาล
25 มกราคม 63 ออสเตรเลีย แคนาดา มาเลเซีย
27 มกราคม 63 กัมพูชา เยอรมนี ศรีลังกา
29 มกราคม 63 ฟินแลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
30 มกราคม 63 อินเดีย อิตาลี ฟิลิปปินส์
31 มกราคม 63 รัสเซีย สเปน สวีเดน สหราชอาณาจักร
4 กุมภาพันธ์ 63 เบลเยียม
14 กุมภาพันธ์ 63 อียิปต์
19 กุมภาพันธ์ 63 อิหร่าน
21 กุมภาพันธ์ 63 อิสราเอล เลบานอน
24 กุมภาพันธ์ 63 อัฟกานิสถาน บาห์เรน อิรัก คูเวต โอมาน
25 กุมภาพันธ์ 63 แอลจีเรีย ออสเตรีย บราซิล โครเอเชีย สวิตเซอร์แลนด์
26 กุมภาพันธ์ 63 จอร์เจีย กรีซ นอร์ทมาซิโดเนีย นอร์เวย์ ปากีสถาน โรมาเนีย
27 กุมภาพันธ์ 63 เดนมาร์ก เอสโตเนีย เนเธอร์แลนด์ ไนจีเรีย ซานมารีโน
28 กุมภาพันธ์ 63 อาเซอร์ไบจาน เบลารุส ไอซ์แลนด์ ลิทัวเนีย เม็กซิโก โมนาโก นิวซีแลนด์ เวลส์[c]
29 กุมภาพันธ์ 63 เอกวาดอร์ ไอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก กาตาร์
1 มีนาคม 63 อาร์เมเนีย เช็กเกีย สาธารณรัฐโดมินิกัน แซ็ง-บาร์เตเลมี[d] แซ็ง-มาร์แต็ง[d] สกอตแลนด์[c]
2 มีนาคม 63 อันดอร์รา อินโดนีเซีย จอร์แดน ลัตเวีย โมร็อกโก โปรตุเกส ซาอุดีอาระเบีย เซเนกัล ตูนิเซีย
3 มีนาคม 63 อาร์เจนตินา ชิลี ยิบรอลตาร์[e] ลิกเตนสไตน์ ยูเครน
4 มีนาคม 63 หมู่เกาะแฟโร[f] เฟรนช์เกียนา[g] ฮังการี โปแลนด์ สโลวีเนีย
5 มีนาคม 63 บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา มาร์ตีนิก[g] ปาเลสไตน์ แอฟริกาใต้
6 มีนาคม 63 ภูฏาน แคเมอรูน โคลอมเบีย คอสตาริกา เปรู เซอร์เบีย สโลวาเกีย โตโก นครรัฐวาติกัน
7 มีนาคม 63 มัลดีฟส์ มอลตา มอลโดวา ปารากวัย
8 มีนาคม 63 แอลเบเนีย บังกลาเทศ บัลแกเรีย
9 มีนาคม 63 บรูไน ไซปรัส เกิร์นซีย์[h] ปานามา
10 มีนาคม โบลิเวีย บูร์กินาฟาโซ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก จาเมกา เจอร์ซีย์[h] เมลียา[i] มองโกเลีย นอร์เทิร์นไซปรัส[a] ตุรกี
11 มีนาคม 63 คิวบา เฟรนช์พอลินีเชีย[d] กายอานา ฮอนดูรัส โกตดิวัวร์ เรอูนียง[g]
12 มีนาคม 63 เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ตรินิแดดและโตเบโก
13 มีนาคม 63 แอนติกาและบาร์บูดา อารูบา[j] หมู่เกาะเคย์แมน[e] เซวตา[i] กือราเซา[j] เอธิโอเปีย กาบอง กานา กัวเดอลุป[g] กัวเตมาลา กินี คาซัคสถาน เคนยา คอซอวอ[a] ปวยร์โตรีโก[k] เซนต์ลูเซีย ซูดาน ซูรินาม หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐ[k] อุรุกวัย เวเนซุเอลา
14 มีนาคม 63 สาธารณรัฐแอฟริกากลาง สาธารณรัฐคองโก อิเควทอเรียลกินี เอสวาตีนี มอริเตเนีย มายอต[g] นามิเบีย รวันดา เซเชลส์
15 มีนาคม 63 แอโครเทียรีและดิเคเลีย[e] บาฮามาส กวม[k] อุซเบกิสถาน
16 มีนาคม 63 เบนิน กรีนแลนด์[f] ไลบีเรีย โซมาเลีย แทนซาเนีย
17 มีนาคม 63 บาร์เบโดส แกมเบีย มอนเตเนโกร ซินต์มาร์เติน[j]
18 มีนาคม 63 เบอร์มิวดา[e] จิบูตี เอลซัลวาดอร์ คีร์กีซสถาน มอริเชียส มอนต์เซอร์รัต[e] นิวแคลิโดเนีย[l] นิการากัว แซมเบีย
19 มีนาคม 63 แองโกลา ชาด ฟิจิ เฮติ ไอล์ออฟแมน[h] ไนเจอร์
20 มีนาคม 63 กาบูเวร์ดี ติมอร์-เลสเต มาดากัสการ์ ปาปัวนิวกินี ยูกันดา ซิมบับเว
21 มีนาคม 63 หมู่เกาะโอลันด์[m] สาธารณรัฐไครเมีย[n] เอริเทรีย ทรานส์นีสเตรีย[o]
22 มีนาคม 63 โดมินิกา เกรเนดา โมซัมบิก ซีเรีย
23 มีนาคม 63 เบลีซ พม่า หมู่เกาะเติกส์และเคคอส[e]
24 มีนาคม 63 เกาะอีสเตอร์[p] อ่าวกวนตานาโม ลาว ลิเบีย
25 มีนาคม 63 หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน[e] กินี-บิสเซา มาลี เซนต์คิตส์และเนวิส
26 มีนาคม 63 แองกวิลลา[e]
28 มีนาคม 63 หมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา[k]
30 มีนาคม 63 บอตสวานา
31 มีนาคม 63 บุรุนดี สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์[q] สาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์[q] เซียร์ราลีโอน ซินต์เอิสตาซียึส[r] โซมาลีแลนด์[s]
2 เมษายน 63 มาลาวี
3 เมษายน 63 หมู่เกาะฟอล์กแลนด์[e][n]
4 เมษายน 63 เวสเทิร์นสะฮารา[n][t]
5 เมษายน 63 แซงปีแยร์และมีเกอลง[d] เซาท์ซูดาน
6 เมษายน 63 เซาตูเมและปรินซีปี
7 เมษายน 63 อับคาเซีย[a] นากอร์โน-คาราบัค[o]
10 เมษายน 63 เยเมน
11 เมษายน 63 ซาบา[r]
16 เมษายน 63 โบแนเรอ[r]
30 เมษายน 63 คอโมโรส ทาจิกิสถาน
6 พฤษภาคม 63 เซาท์ออสซีเชีย[a]
13 พฤษภาคม 63 เลโซโท
25 กรกฎาคม 63 สาธารณรัฐประชาธิปไตยอาหรับซาห์ราวี[a][n]
3 ตุลาคม 63 หมู่เกาะโซโลมอน
16 ตุลาคม 63 วาลิสและฟูตูนา[d]
28 ตุลาคม 63 หมู่เกาะมาร์แชลล์
พฤศจิกายน 63 บริติชอินเดียนโอเชียนเทร์ริทอรี
6 พฤศจิกายน 63 อเมริกันซามัว [k]
11 พฤศจิกายน 63 วานูอาตู
18 พฤศจิกายน 63 ซามัว
21 ธันวาคม 63 แอนตาร์กติกา
8 มกราคม 64 ไมโครนีเซีย
18 พฤษภาคม 64 คิริบาส
31 พฤษภาคม 64 ปาเลา
6 ตุลาคม 64 สฟาลบาร์
29 ตุลาคม 64 ตองงา
 หมายเหตุ 
  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 1.4 1.5 ไม่ได้เป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ และได้รับการรับรองอย่างจำกัดโดยรัฐสมาชิก UN บางรัฐ
  2. 2.0 2.1 เขตบริหารพิเศษของประเทศจีน
  3. 3.0 3.1 ประเทศของสหราชอาณาจักร
  4. 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 อาณานิคมโพ้นทะเลของประเทศฝรั่งเศส
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 5.6 5.7 5.8 ดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร
  6. 6.0 6.1 ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก
  7. 7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 จังหวัดโพ้นทะเลของฝรั่งเศส
  8. 8.0 8.1 8.2 เขตสังกัดของพระมหากษัตริย์ของสหราชอาณาจักร
  9. 9.0 9.1 นครปกครองตนเองของสเปน
  10. 10.0 10.1 10.2 ประเทศของราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์
  11. 11.0 11.1 11.2 11.3 11.4 ดินแดนของสหรัฐ
  12. อาณานิคมพิเศษของประเทศฝรั่งเศส
  13. ดินแดนปกครองตนเองของฟินแลนด์
  14. 14.0 14.1 14.2 14.3 ดินแดนที่เป็นข้อพิพาท
  15. 15.0 15.1 ไม่ได้เป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ และได้รับการรับรองอย่างจำกัดเฉพาะรัฐอื่นที่ไม่ได้เป็นสมาชิก UN
  16. ดินแดนพิเศษของชิลี
  17. 17.0 17.1 หนึ่งในสองรัฐจัดตั้งที่สถาปนาโดยกลุ่มกบฏที่รัสเซียหนุนหลัง ได้รับการรับรองระหว่างรัฐทั้งสองและเซาท์ออสซีเชียเท่านั้น
  18. 18.0 18.1 18.2 เทศบาลพิเศษของเนเธอร์แลนด์
  19. ไม่ได้เป็นสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ และไม่ได้รับการรับรองจากรัฐใด
  20. กรณีผู้ป่วยได้รับการยืนยันในภูมิภาค Laâyoune-Sakia El Hamra ในส่วนที่ควบคุมโดยโมร็อกโก

ประเทศที่พบผู้ต้องสงสัย[แก้]

เอเชีย[แก้]

ประเทศเกาหลีเหนือ[แก้]

แผนที่การแพร่ระบาดในประเทศเกาหลีเหนือ
(ณ วันที่ 31 มกราคม 2563):
  มีรายงานยืนยันผู้ป่วย
  มีการรายงานผู้ต้องสงสัย

ประเทศเติร์กเมนิสถาน[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. Lau, Hien; Khosrawipour, Veria; Kocbach, Piotr; และคณะ (March 2020). "Internationally lost COVID-19 cases". Journal of Microbiology, Immunology, and Infection [Wei Mian Yu Gan Ran Zia Zhi]. 53 (3): 454–458. doi:10.1016/j.jmii.2020.03.013. PMC 7102572. PMID 32205091.
  2. • “Situation reports”. WHO. • “Coronavirus COVID-19 Global Cases by Johns Hopkins CSSE”. Johns Hopkins University. • “Coronavirus Update (Live)”. worldometer.info.
  3. "Cases in U.S." CDC. 7 May 2020.
  4. 4.0 4.1 "COVID-19/Coronavirus Real Time Updates With Credible Sources in US and Canada | 1Point3Acres". coronavirus.1point3acres.com.
  5. 5.0 5.1 5.2 5.3 "Coronavirus COVID-19 Global Cases by the Center for Systems Science and Engineering (CSSE) at Johns Hopkins University (JHU)". ArcGIS. Johns Hopkins CSSE. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  6. 截至9月21日24时新型冠状病毒肺炎疫情最新情况 (ภาษาChinese (China)). National Health Commission. 22 September 2020. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  7. "Home – Ministry of Health and Family Welfare – GOI". mohfw.gov.in (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  8. "info coronavirus covid-19". Gouvernement.fr (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  9. "COVID-19 : bilan et chiffres clés en France". www.santepubliquefrance.fr (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  10. "Corona-Karte Deutschland: COVID-19 live in allen Landkreisen und Bundesländern". Tagesspiegel (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  11. "Wie sich das Coronavirus in Ihrer Region ausbreitet" [How the coronavirus affects your region] (ภาษาเยอรมัน). Zeit Online. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  12. "Painel Coronavírus" (ภาษาโปรตุเกส). Ministry of Health (Brazil). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  13. "Brasil passa de 137 mil mortes por Covid-19; média móvel é de 748 na última semana". G1 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). 21 September 2020. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  14. 新型コロナウイルス感染症の現在の状況と厚生労働省の対応について(令和2年9月22日版). Ministry of Health, Labour and Welfare (Japan) (ภาษาญี่ปุ่น). 22 September 2020. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  15. "Coronavirus Disease-19, Republic of Korea". ncov.mohw.go.kr (ภาษาอังกฤษ). Ministry of health and welfare. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  16. 보도자료 [Press releases] (ภาษาเกาหลี). 질병관리본부 (KCDC).
  17. "Italy blasts virus panic as it eyes new testing criteria". AP NEWS. February 27, 2020.
  18. Perrone, Alessio (March 14, 2020). "How Italy became the ground zero of Europe's coronavirus crisis" – โดยทาง www.wired.co.uk.
  19. "COVID-19 ITALIA" [COVID-19 ITALY]. opendatadpc.maps.arcgis.com (ภาษาอิตาลี). Protezione Civile. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  20. "Ministero della Salute – Nuovo coronavirus". www.salute.gov.it (ภาษาอิตาลี). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  21. "Historic data". Public Health England. สืบค้นเมื่อ 4 April 2020.
  22. "Coronavirus (COVID-19) in the UK". coronavirus.data.gov.uk. Public Health England. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  23. "First death from coronavirus registered in Moscow". TASS. 19 March 2020. สืบค้นเมื่อ 19 March 2020.
  24. "О подтвержденных случаях новой коронавирусной инфекции COVID-2019 в России". Rospotrebnadzor. 19 March 2020. สืบค้นเมื่อ 19 March 2020.
  25. "Оперштаб заявил об отсутствии в России летальных исходов от коронавируса". RBC (ภาษารัสเซีย). 19 March 2020. สืบค้นเมื่อ 19 March 2020.
  26. Оперативные данные. По состоянию на 22 сентября 10:30. Стопкоронавирус.рф (ภาษารัสเซีย). 22 September 2020. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  27. "T.C Sağlık Bakanlığı Türkiye Genel Koronavirüs Tablosu". covid19.saglik.gov.tr. 22 September 2020.
  28. "La pandemia del coronavirus, en datos, mapas y gráficos". RTVE (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  29. "TRANG TIN VỀ DỊCH BỆNH VIÊM ĐƯỜNG HÔ HẤP CẤP COVID-19" (ภาษาเวียดนาม). BỘ Y TẾ (Ministry of Health). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  30. McGowan, Mark (2020-05-06). "WA COVID-19 update for Wednesday 6 May 2020". @MarkMcGowanMP (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-05-06.
  31. "Coronavirus (COVID-19) current situation and case numbers". Australian Government Department of Health. 15 August 2020. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  32. "Información epidemiológica" (ภาษาสเปน). Ministerio de Salud. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  33. "REPORTE DIARIO MATUTINO NRO 371 SITUACIÓN DE COVID-19 EN ARGENTINA" (PDF) (ภาษาสเปน). Ministerio de Salud. 16 September 2020. สืบค้นเมื่อ 16 September 2020.
  34. "首頁-衛生福利部疾病管制署" (ภาษาจีนกลางสำเนียงไต้หวัน). Taiwan Centres for Disease Control. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  35. "Coronavirus in the Netherlands: the questions you want answered". Dutch News. 2020-03-12.
  36. "Actuele informatie over het nieuwe coronavirus (COVID-19)" (ภาษาดัตช์). RIVM. 21 September 2020. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  37. "Statistieken over het Coronavirus en COVID-19". allecijfers.nl. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  38. "اخبار کرونا ویروس" [Corona virus news]. Ministry of Health and Medical Education.
  39. "COVID-19 kills 178 more Iranians over past 24 hours". IRNA (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  40. "Covid-19 Mexico" (ภาษาสเปน). Instituciones del Gobierno de México. 18 September 2020. สืบค้นเมื่อ 19 September 2020.
  41. "Peta Sebaran" (ภาษาอินโดนีเซีย). COVID-19 Response Acceleration Task Force. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  42. Ministerstwo Zdrowia [@MZ_GOV_PL] (22 September 2020). "W ciągu doby wykonano ponad 22,5 tys. testów na #koronawirus" (ทวีต) (ภาษาโปแลนด์) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  43. "CORONAVIRUS (COVID-19)". covid19.minsalud.gov.co. 21 September 2020. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  44. "Bundesministerium für Inneres: Aktuelle Zahlen zum Corona-Virus" (ภาษาเยอรมัน). Innenministerium. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  45. "covid19 Ελλάδα". Υπουργείο Υγείας (ภาษากรีก). 11 August 2020.
  46. "Ponto de Situação Atual em Portugal" (ภาษาโปรตุเกส). Direção-Geral da Saúde. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  47. "Já se encontra disponível o relatório de situação de hoje, 22 de setembro" (ภาษาโปรตุเกส). Direção-Geral da Saúde. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  48. "Оперативна інформація про поширення коронавірусної інфекції 2019-nCoV" [Operational information on the spread of coronavirus infection 2019-nCoV] (ภาษายูเครน). Ministry of Healthcare (Ukraine). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  49. "МОЗ повідомляє". Ministry of Healthcare (Ukraine). 19 September 2020. สืบค้นเมื่อ 19 September 2020 – โดยทาง Facebook.
  50. "Casos confirmados COVID-19". Gobierno de Chile (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  51. "Covid-19 (Latest Updates)". Ministry of Health of Malaysia. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  52. "נגיף הקורונה בישראל - תמונת מצב כללית" [Corona virus in Israel]. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  53. "Coronavirus COVID-19". info-coronavirus.be (ภาษาดัตช์). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  54. "COVID-19 - Epidemiologische situatie". Sciensano (ภาษาดัตช์). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  55. "โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)". ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.
  56. "COVID-19 Outbreak". Bangkok Post. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  57. "Tracking every case of COVID-19 in Canada". CTV News. 21 September 2020. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  58. "Maladie à coronavirus (COVID-19) : Mise à jour sur l'éclosion" (ภาษาฝรั่งเศส - แคนาดา). Gouvernement du Canada. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  59. "COVID-19 | Onemocnění aktuálně od MZČR" (ภาษาเช็ก). en:Ministry of Health (Czech Republic). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  60. Ministry of Health (Peru) (21 September 2020). "Sala Situactional COVID-19 Perú" (ภาษาสเปน).
  61. "Minsa: Casos confirmados por coronavirus Covid-19 ascienden a 772 896 en el Perú (Comunicado N°247)". gob.pe (ภาษาสเปน - ละตินอเมริกา). 21 September 2020. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  62. "Current situation in Switzerland". Federal Office of Public Health. สืบค้นเมื่อ 23 September 2020.
  63. "Cas d'infection au Sars-CoV-2 en Suisse". Tribune de Genève (ภาษาฝรั่งเศส - สวิส). สืบค้นเมื่อ 23 September 2020.
  64. 전국적인 전염병전파 및 치료상황 통보 [Nationwide spread of infectious diseases and notification of treatment status]. kcna.kp. 9 June 2022.
  65. "COVID-19 CASE BULLETIN". Department of Health (Philippines). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  66. "COVID-19 Tracker". Department of Health (Philippines). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  67. "COVID-19 Statistics in South Africa". sacoronavirus.co.za (ภาษาอังกฤษ). 21 September 2020. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  68. Dr Zweli Mkhize [@DrZweliMkhize] (16 September 2020). "As of today, the total number of confirmed #COVID19 cases is 653 444, the total number of deaths is 15 705 and the total number of recoveries is 584 195" (ทวีต) (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 16 September 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  69. name. "Epidemiologiske overvågningsrapporter om COVID-19". www.ssi.dk (ภาษาเดนมาร์ก). สืบค้นเมื่อ 2020-03-21.
  70. "Tal og overvågning af COVID-19" (ภาษาเดนมาร์ก). Sundhedsstyrelsen (Danish Health Authority). 14 August 2020. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  71. 71.0 71.1 71.2 "Overvågning af COVID-19" (ภาษาเดนมาร์ก). Statens Serum Institut (State Serum Institute). 14 August 2020. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  72. "Comunicate de presă". Ministry of Internal Affairs (ภาษาโรมาเนีย). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  73. "Comunicate de presă". Ministry of Health (ภาษาโรมาเนีย). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  74. "Coronavirus Disease (COVID-19) in HK". Hong Kong: Department of Health. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  75. "Antal fall av covid-19 i Sverige - data uppdateras 11:30 och siffrorna är tillgängliga 14:00". Public Health Agency of Sweden – Official statistics at arcgis (ภาษาสวีเดน). สืบค้นเมื่อ 18 September 2020. Data updated daily at 11:30 [CEST]
  76. "COVID-19". covid19.rs. Ministry of Health (Serbia). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  77. "The daily epidemiological situation of registered infections of the emerging coronavirus in Iraq" (ภาษาอังกฤษ). Ministry of Health of Iraq. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020 – โดยทาง Facebook.
  78. "Updates on COVID-19 (Coronavirus Disease 2019) Local Situation". Ministry of Health (Singapore). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  79. "COVID-19 (Coronavirus Disease 2019)". Ministry of Health (Singapore). 21 September 2020.
  80. "COVID-19 – current cases". Ministry of Health (New Zealand). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  81. "Tájékoztató oldal a koronavírusról Aktualis". koronavirus.gov.hu. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  82. "করোনা ভাইরাস ইনফো ২০১৯". corona.gov.bd. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  83. "কোভিড-১৯ ট্র্যাকার | বাংলাদেশ কম্পিউটার কাউন্সিল (বিসিসি)" [COVID-19 Tracker]. covid19tracker.gov.bd. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  84. "Coronavirus in Slovakia". korona.gov.sk (ภาษาอังกฤษ). National Health Information Center. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  85. კორონავირუსის საქართველოში გავრცელების პრევენცია [Prevention of Coronavirus spread in Georgia] (ภาษาจอร์เจีย). Government of Georgia. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  86. "فيروس كورونا المستجد (كوفيد-١٩)". corona.moh.gov.jo. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  87. "Latest updates on COVID-19 (Coronavirus)". Department of Health (Ireland). 15 August 2020.
  88. "200 more cases of Covid-19 'deeply concerning', says Glynn". RTÉ News and Current Affairs. 15 August 2020.
  89. "COVID-19 Health Advisory Platform by Ministry of National Health Services Regulations and Coordination". covid.gov.pk. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  90. Ситуация с коронавирусом официально. coronavirus2020.kz (ภาษารัสเซีย). Kazinform. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  91. "Қазақстан Республикасы Денсаулық сақтау министрлігі" (ภาษาคาซัค). Kazakhstan Ministry of Healthcare. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  92. "Total COVID-19 tests performed per million people". Our World in Data.
  93. Nilsen AS, Skjetne OL, Sfrintzeris Y, Røset HH, Hunshamar C, Fraser S, Løkkevik O. "Live: Corona-viruset sprer seg i Norge og verden". VG Nett. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  94. "Åland Islands confirms first coronavirus cases, recommends quarantine for visitors from Finland". Yle. 22 March 2020. สืบค้นเมื่อ 22 March 2020.
  95. Särkkä H (2020-04-01). "HUS:n ylilääkäri: Suomessa satoja koronasta parantuneita – vanhimmat yli 80-vuotiaita". Ilta-Sanomat (ภาษาฟินแลนด์). สืบค้นเมื่อ 2020-04-17.
  96. "Varmistetut koronatapaukset Suomessa (COVID-19)". experience.arcgis.com (ภาษาฟินแลนด์). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  97. "Statistični pregled koronavirusa v Sloveniji". www.rtvslo.si. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  98. "Coronavirus disease COVID-19". Ministry of Health. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  99. "Relevant information about Coronavirus (COVID-19)". Government of the Republic of Lithuania. 15 August 2020. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  100. "14069 са общо доказаните у нас случаи на COVID-19 според Националната информационна система" (ภาษาบัลแกเรีย). Ministry of Health (Bulgaria). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  101. "COVID-19 in Bulgaria". สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  102. "Covid-19: 3,426 Recoveries in 24 Hours, A Record [ⴰⴼⵉⵔⵓⵙ "ⴽⵓⵕⵓⵏⴰ" : ⵜⵜⵓⵣⵎⵎⴻⵎⵏ 1.376 ⵓⵎⴷⵢⴰ ⴰⵎⴰⵢⵏⵓ ⴳ 24 ⵜⵙⵔⴰⴳⵜ ⵉⵣⵔⵉⵏ, ⴷ 3.426 ⵓⵎⴷⵢⴰ ⵏ ⵜⵊⵊⵉⵜ]". Maghreb Arabe Press. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  103. "Službena stranica Vlade". Croatian Institute of Public Health. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  104. "Coronavirus" (ภาษาสเปน). Ministerio de Salud Pública (Guatemala). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  105. "الجمهورية اللبنانية – وزارة اﻹعلام – الموقع الرسمي لمتابعة أخبار فيروس الكورونا في لبنان" (ภาษาอาหรับ). Lebanese Ministry of Information. สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
  106. "Situacion Nacional Covid-19" (ภาษาสเปน). Ministerio de Salud (Costa Rica). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  107. "Datos Oficiales". Bolivia Segura (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  108. "Ministère de la santé وزارة الصحة" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  109. "RESULTADO DE PRUEBAS PARA COVID-19 EN PUERTO RICO" (ภาษาสเปน). Departamento de Salud de Puerto Rico. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  110. "Puerto Rico COVID-19" (ภาษาสเปน). Departamento de Salud. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  111. "Infecciones por coronavirus – COVID-19". temas.sld.cu (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  112. "UAE CORONAVIRUS (COVID-19) UPDATES". UAE's national emergency crisis and disaster management authority. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  113. "Las cifras del COVID-19 en Ecuador" (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  114. "Actualización de casos de coronavirus en Ecuador". Ministerio de Salud Pública. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  115. "Visualizador de casos coronavirus COVID-19 en Uruguay". Sistema Nacional de Emergencias (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  116. Ministerio de Salud de Panama [@MINSAPma] (21 September 2020). "Compartimos la actualización de datos sobre #COVID19 en nuestro país" (ทวีต) (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  117. "Casos de Coronavirus COVID-19 en Panamá". Ministerio de Salud de la República de Panamá (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  118. А.Амбасэлмаа: Дөрвөн хүний шинжилгээнд коронавирус илэрч, нийт батлагдсан тохиолдол 297 боллоо. ikon.mn (ภาษามองโกเลีย). 13 August 2020. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  119. "COVID-19 Dashboard" (ภาษาอังกฤษ). Ministry of Health and Population (Nepal). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  120. "नेपाल कोभिड-१९ ड्यासबोर्ड [Nepal COVID19 Monitor]". สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  121. В Беларуси 224 новых случая коронавируса в сутки и пять смертей. tut.by (ภาษารัสเซีย). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  122. "У Беларусі — 76 104 выпадкі захворвання на COVID-19. Выздаравелі 73 386 чалавек" [There are 76,104 cases of COVID-19 in Belarus. 73,386 people recovered]. Звязда (ภาษาเบลารุส). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  123. "Sākumlapa | Covid-19". covid19.gov.lv (ภาษาลัตเวีย). 11 August 2020.
  124. "COVID 19 Dashboard: Saudi Arabia" (ภาษาอาหรับ). وزارة الصحة - مركز القيادة والتحكم لكوفيد ١٩ - مركز العمليات الوطني للطوارئ الصحية [Ministry of Health (Saudi Arabia)]. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  125. "Azərbaycanda cari vəziyyət" (ภาษาอาเซอร์ไบจาน). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  126. "CONTADOR OFICIAL COVID-19 EN PARAGUAY" (ภาษาสเปน). Ministry of Public Health and Social Welfare (Paraguay). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  127. "فايروس كورونا (COVID-19) في فلسطين" [Corona Virus (COVID-19) in Palestine]. corona.ps (ภาษาอาหรับ). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  128. "Covid-19 Updates". Ministry of Health (Bahrain). 20 September 2020. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  129. "COVID-19 National epidemiological report – Sri Lanka". වසංගත රෝග විද්‍යා ඒකකය,සෞඛ්‍ය අමාත්‍යංශය (Epidemiology Unit, Ministry of Health). สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
  130. "COVID 19 Updates .::. Home". corona.e.gov.kw. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  131. "COVID-19 Numbers". Dominican Today (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  132. "Publicaciones Oficiales". Ministerio de Salud Pública (Dominican Republic) (ภาษาสเปน). 20 April 2020. สืบค้นเมื่อ 20 September 2020.
  133. "Coronavirus: 25 new cases, one death announced on Tuesday". Cyprus Mail (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 11 August 2020. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  134. "Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) Surveillance Dashboard (Myanmar)". doph.maps.arcgis.com. ကျန်းမာရေးနှင့်အားကစားဝန်ကြီးဌာန [Ministry of Health and Sports]. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  135. "COVID-19 în Republica Moldova: situaţia la zi". gismoldova.maps.arcgis.com (ภาษามอลโดวา). สืบค้นเมื่อ 24 September 2020.
  136. "Information about Coronavirus disease COVID-19". Estonian Health Board. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  137. "Estadísticas Venezuela". MPPS COVID Patria (ภาษาสเปน). 20 September 2020. สืบค้นเมื่อ 20 September 2020.
  138. وزيرة الصحة تتابع مستجدات فيروس كورونا وتوجه بتذليل أي تحديات لسير العمل بالمستشفيات (ภาษาอาหรับ). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020 – โดยทาง Facebook.
  139. "البوابة الجغرافية لمراقبة انتشار فيروس كورونا في ليبيا". ncdc.org.ly (ภาษาอาหรับ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  140. "الوضع الوبائي المحلي ليوم الجمعة السبت 11 أغسطس 2020م" (ภาษาอาหรับ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  141. "Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)". Ministry of Public Health Qatar. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  142. "የኢትዮጵያ የተቀናጀ የኮቪድ-19 መቆጣጠሪያ ስርዓት". covid19.et. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  143. Secretaría de Salud [@saludhn] (21 September 2020). "COMUNICADO No.197 del Sistema Nacional de Gestión de Riesgos (SINAGER)" (ทวีต) (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 22 September 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  144. "DATOS ESTADÍSTICOS COVID-19" (ภาษาสเปน). Secretaria de Salud de Honduras. 21 September 2020. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  145. "Հաստատված դեպքերն ըստ օրերի – NCDC Armenia". สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  146. "COVID-19 in Bosnia and Herzegovina". Ministry of Civil Affairs of Bosnia and Herzegovina. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  147. "Covid-19 cases in Oman". Ministry of Health. สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  148. "Последни информации за КОВИД-19 и мерките за спречување на ширењето на Владата" [Latest information on COVID-19 and measures for prevention of spreading issued by the Government] (ภาษามาซิโดเนีย). Ministry of health (North Macedonia). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  149. "Real-time Coronavirus condition in North Macedonia". gdi.net (ภาษามาซิโดเนีย). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  150. @ZMPublicHealth (11 August 2020). "COVID19 update" (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  151. "Ministry of Health Zambia" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  152. @MOH_Kenya (14 August 2020). "COVID-19 UPDATE" (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  153. "Coronavirus Albania | Statistika" (ภาษาแอลเบเนีย). Agjencia Kombëtare e Shoqerisë së Informacionit. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  154. "COVID 19 CASE REPORT". Botswana Government. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  155. "COVID-19 Botswana Dashboard". covid19portal.gov.bw. Botswana Government. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  156. "Coronavirus: COVID-19". Government of Luxembourg. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  157. "Covid19 | Coronavirus Mauritius". covid19 (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 4 August 2020.
  158. "Virus korona COVID 19". Government of Montenegro. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  159. "Ministry of Health – pressreleaseCOVID-19". www.moh.tgov.bn. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  160. "COVID-19 Hub". The Scoop. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  161. "COVID19 - Kosova" (ภาษาแอลเบเนีย). Ministry of Health (Kosovo). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  162. "COVID-19 : Carte épidémiologique" (ภาษาฝรั่งเศส). Ministry of Health, Population, and Hospital Reform (Algeria). สืบค้นเมื่อ 23 September 2020.
  163. "Algeria COVID-19 Tracker". dz-covid19.com. สืบค้นเมื่อ 23 September 2020.
  164. "NCDC Covid-19 Page". Nigeria Centre for Disease Control. สืบค้นเมื่อ 22 September 2020.
  165. "Zimbabwe COVID-19 Cases". covid19zw.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 8 August 2020.
  166. @MoHCCZim (11 August 2020). "COVID-19 Update: As at 11 August 2020, Zimbabwe had 4 818 confirmed cases, including 1 544 recoveries and 104 deaths" (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  167. "инфекцияси (COVID-19) тўғрисида нимани билиш керак" (ภาษาอุซเบก). สืบค้นเมื่อ 21 September 2020.
  168. "Início". COVID 19 - Fica Atento (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  169. ຄະນະສະເພາະກິດເພື່ອປ້ອງກັນ, ຄວບຄຸມ ແລະ ແກ້ໄຂການລະບາດ: ຂອງພະຍາດອັກເສບປອດ ຈາກເຊື້ອຈຸລະໂລກສາຍພັນໃຫມ່ (COVID-19) (ภาษาลาว). สืบค้นเมื่อ 9 June 2020.
  170. "Afghanistan Covid-19 Cases". Ministry of Public Health (Afghanistan). 15 August 2020.
  171. "COVID-19 á Íslandi – Tölfræði". www.covid.is (ภาษาไอซ์แลนด์). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  172. Информации (ภาษารัสเซีย). Ministry of Health (Kyrgyz Republic). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  173. "SITUACIÓN NACIONAL". Ministry of Health (El Salvador) (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  174. "COVID-19 (Novel Coronavirus)". สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  175. "ArcGIS Dashboards". uwi.maps.arcgis.com. สืบค้นเมื่อ 2020-08-15.
  176. "Health Protection Agency Maldives - COVID-19 Statistics Dashboard". สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  177. "ކޮވިޑް-19 ކަވަރޭޖް. ދިވެހިރާއްޖެ ސިއްހީ ކުއްލި ނުރައްކަލުގެ ހާލަތުގައި" [Covid-19 Outbreak in Maldives]. Avas.
  178. "COVID-19 Updates". ghanahealthservice.org. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  179. "Ministry of Health and Social Services-Namibia" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-08-15 – โดยทาง Facebook.
  180. "MoH Uganda: COVID-19 Information Portal". covid19.gou.go.ug. Ministry of Health. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  181. "Ministry of Health Uganda". 11 August 2020. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  182. "COVID-19". Ministry of Health & Wellness, Jamaica. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  183. Christopher Tufton [@christufton] (14 August 2020). "COVID-19 UPDATE" (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  184. ចំនួនករណីឆ្លងជំងឺកូវីដសរុប [Total number of cases of COVID-19] (ภาษาเขมร). Ministry of Health of Cambodia. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  185. "Coronavirus Disease COVID-19". Rwanda Biomedical Centre. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  186. @RwandaHealth (12 August 2020). "Ministry of Health | Rwanda" (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  187. "STATISTIQUES COVID-19". covid19.minsante.cm (ภาษาฝรั่งเศส). 24 July 2020. สืบค้นเมื่อ 7 August 2020.
  188. "Point Statistiques Covid 19". Journal du Cameroun (ภาษาฝรั่งเศส). 7 August 2020. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  189. "COVID-19 Malta - Data Dashboard". deputyprimeminister.gov.mt (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  190. "COVID-19 Update: One-Year-Old Tests Positive". Barbados GIS. 12 August 2020.
  191. "Covid-19: Cinquenta e seis positivos, dois mortos e seis recuperados". angop.ao (ภาษาโปรตุเกสแบบยุโรป). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  192. "Situation Épidémiologique en RDC" (ภาษาฝรั่งเศส). Ministère de la Santé. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  193. "Coronavirus : Riposte à l'épidémie : Tableau Récapitulatif des dons"" (ภาษาฝรั่งเศส). Ministry of Health and Social Action (Senegal). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  194. "Covid 19 National Information Dashboard". Ministry of Health and Population, Malawi. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  195. "Ministère de la Santé et de l'Hygiène Publique" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  196. "COVID-19". COVID SURINAME (ภาษาดัตช์). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  197. "Info coronavirus Covid-19". gouv.nc (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 8 August 2020.
  198. "Coronavirus Covid-19". service-public.pf. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  199. Eswatini Government [@EswatiniGovern1] (11 August 2020). "Ministerial Statement: Minister of Health Lizzie Nkosi's #COVID19 update" (ทวีต) (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  200. "Ministry of Public Health – Home". www.health.gov.gy. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  201. "Office of Director of Health Services" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  202. "COVID-19 UPDATES". Ministry of Health and Medical Services (Fiji). สืบค้นเมื่อ 31 July 2020.
  203. "Fiji records its first COVID-19 related death". Fijian Broadcasting Corporation (ภาษาอังกฤษ). 31 July 2020. สืบค้นเมื่อ 31 July 2020.
  204. "Situation Covid-19" (ภาษาอังกฤษ). Ministry of Public Health (Madagascar). 15 August 2020. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  205. "Coronavirus (COVID-19) cases" (ภาษาอังกฤษ). States of Jersey. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  206. "وزارة الصحَّة الإتحاديَّة" [Federal Ministry of Health] (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 9 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  207. The official page of the Federal Ministry of Health, Sudan [@FMOH_SUDAN] (15 August 2020). "التقرير الوبائي ليوم الخميس 13 أغسطس 2020" (ทวีต) (ภาษาอาหรับ) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  208. "Status 11 August 2020" (ภาษาอาหรับ). Ministry of Health. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  209. "النشرة اليومية حول حصيلة كورونا فيريس". Ministère de la santé (ภาษาอาหรับ). สืบค้นเมื่อ 16 August 2020.
  210. "COVID 19 — Corona Vírus". covid19.cv. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  211. "COVID-19 IN BHUTAN". བརྡ་དོན་དང་བརྒྱུད་འབྲེལ་ལྷན་ཁག། དཔལ་ལྡན་འབྲུག་གཞུང། [Ministry of Information and Communications, Royal Government of Bhutan]. สืบค้นเมื่อ 5 September 2020.
  212. "Health Ministry: 30 new Coronavirus cases registered, 2 patients pass away". Syrian Arab News Agency. 13 August 2020. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  213. Burundi Government [@BurundiGov] (9 August 2020). "Burundi, 7 août 2020 : Mise à jour de la situation épidémiologique de la COVIDー19 avant et pendant la campagne de dépistage de masse" (ทวีต) (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 9 August 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  214. "JIC RELEASE NO. 265 - Cumulative Results: Twenty-five Test Positive for COVID-19; Profiles of Confirmed Cases; Updated DPHSS Medical Triage Phone Numbers". ghs.guam.gov. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  215. Laurence, Daniel (8 August 2020). "Seychelles back down to only 1 active COVID-19 case; testing capacity ramping up". Seychelles News Agency. สืบค้นเมื่อ 8 August 2020.
  216. Коронавирус: официальная информация по Приднестровью [Coronavirus: official information on Transnistria]. สืบค้นเมื่อ 29 May 2021.
  217. "Situations Épidémiologique au Gabon". Comité de Pilotage du Plan de Veille (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  218. "Actualitat coronavirus". www.govern.ad. Govern d'Andorra. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  219. "Official Covid-19 website". covid19.info.gov.pg. 10 August 2020. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  220. "COVID-19 Update: 33rd case reported". Curacao Chronicle. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  221. "Casonan di Corona Virus na Aruba pa 15 di Augustus 2020". Aruba Covid-19 (ภาษาปาเปียเมนโต). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  222. "Covid-19: Tanzania updates will resume after improvements at national laboratory". THECITIZEN (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 8 May 2020.
  223. "Zanzibar confirms 29 new cases, plus 11 recoveries". ippmedia.com (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 8 May 2020.
  224. "Coronavirus au Togo" (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  225. Новости | МИНИСТЕРСТВО ЗДРАВООХРАНЕНИЯ ДОНЕЦКОЙ НАРОДНОЙ РЕСПУБЛИКИ. mzdnr.ru (ภาษารัสเซีย). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  226. Agence Nationale de Sécurité Sanitaire [@anss_guinee] (11 August 2020). "COVID-19 Decompte des cas" (ทวีต) (ภาษาฝรั่งเศส) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  227. "Situation du coronavirus en Guinée" (ภาษาฝรั่งเศส). Agence Nationale de Sécurité Sanitaire. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  228. "COVID-19 Bahamas Dashboard". Ministry of Health (Bahamas). สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  229. "The Bahamas Ministry of Health" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  230. "Latest updates". Isle of Man Government. สืบค้นเมื่อ 5 June 2020.
  231. Public Health Services. "COVID-19 Coronavirus – Testing results". www.gov.gg (ภาษาอังกฤษ). St Peter Port. สืบค้นเมื่อ 4 June 2020.
  232. "Corona í Føroyum". Corona í Føroyum (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  233. "COVID-19 Statistics Lesotho". Ministry of Health Lesotho/Nacosec. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  234. "Visualisez en temps réel l'évolution du Coronavirus en Haïti". coronahaiti.org (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  235. "COMMUNIQUES DU MINISTERE DE LA SANTE ET DES AFFAIRES SOCIALES SUR LE SUIVI DES ACTIONS DE PREVENTION ET DE RIPOSTE FACE A LA MALADIE A CORONAVIRUS". www.sante.gov.ml (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  236. "Coronavirus (COVID-19)". Cayman Islands Government. 27 July 2020.
  237. SAINT LUCIA'S COVID-19 DASHBOARD, Ministry of Health and Wellness, 30 July 2020, สืบค้นเมื่อ 11 August 2020
  238. "BREAKING NEWS: Saint Lucia records 19th COVID-19 case" (Press release). Saint Lucia News Online. 4 June 2020. สืบค้นเมื่อ 3 July 2020.
  239. "Coronavirus (Covid-19)". Gouvernement de la République du Bénin (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  240. "COVID-19 DASHBOARD, Somalia". moh.gov.so (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 6 August 2020.
  241. "MV Chief Mailo Returns to FSM After More Than One Year Abroad; One Isolated But Confirmed Case of COVID-19 on Board, Citizens Encouraged To Keep Distance From the Vessel & Quarantine Sites Until Further Notice". gov.fm. 2021-01-08. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 January 2021. สืบค้นเมื่อ 2021-01-09.
  242. "Situation épidémiologique au 9 août 2020" (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  243. "MINISTERE DE LA SANTE, DE LA POPULATION, DE LA PROMOTION DE LA FEMME ET DE L'INTEGRATION DE LA FEMME AU DEVELOPPEMENT". www.sante.gouv.cg. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  244. "COVID-19". USVI Department of Health. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  245. "Solomon Islands: WHO Coronavirus Disease (COVID-19) Dashboard". covid19.who.int. สืบค้นเมื่อ 2020-11-27.
  246. "BREAKING: Four More Positive COVID-19 Case". SolomonTimes.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-10-27.
  247. "Nuovo caso di Covid-19 a San Marino: subito identificato e isolato". www.iss.sm. สืบค้นเมื่อ 10 July 2020.
  248. "COVID-19: Timor-Leste rejects kazu foun, dahuluk dezde loron 15 Maiu" (ภาษาเตตุม). สืบค้นเมื่อ 4 August 2020.
  249. "Ministère de la Santé - Burkina Faso" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 4 June 2020 – โดยทาง Facebook.
  250. "TABLEAU DE BORD COVID-19" (ภาษาฝรั่งเศส). Ministry of Health (Burkina Faso). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  251. "Ministerium für Gesellschaft" (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  252. @GibraltarGov (12 August 2020). "Coronavirus information 12 August" (ทวีต). สืบค้นเมื่อ 13 August 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  253. "GIS - Government Information Service of Grenada". สืบค้นเมื่อ 18 June 2020 – โดยทาง Facebook.
  254. "Covid-19 update 15 may 2020". NOW Grenada. 30 July 2020. สืบค้นเมื่อ 30 July 2020.
  255. "Novel Coronavirus (COVID-19)". www.gov.bm (ภาษาอังกฤษ). 11 August 2020. สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  256. @SouthSudanGov (8 June 2020). "South Sudan now has a cumulative total of 194 cases with 2 recoveries" (ทวีต) (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 8 June 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  257. "Coronavirus disease (COVID-2019) situation reports". who.int (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  258. "COVID-19. Дар Тоҷикистон шумораи гирифторони коронавируси нав ба 7912 нафар расид". Khovar. 12 August 2020.
  259. "КОРОНАВИРУС". 12 August 2020.
  260. "Covid 19 de Guinea Ecuatorial". AhoraEG (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 31 July 2020.
  261. Dreaver, Barbara (29 October 2021). "Tonga's Cabinet to meet after first Covid case arrives from NZ". 1 News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 October 2021. สืบค้นเมื่อ 29 October 2021.
  262. "CORONAVIRUS – Cinq nouveaux cas positifs supplémentaires". 11 August 2020.
  263. "Samoa records first positive Covid test result". Stuff. 27 November 2020. สืบค้นเมื่อ 7 December 2020.
  264. "Marshall Islands: WHO Coronavirus Disease (COVID-19) Dashboard". covid19.who.int (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-11-27.
  265. "Marshall Islands repatriation group has three Covid cases". RNZ. 19 November 2020. สืบค้นเมื่อ 19 November 2020.
  266. "Updates - Government of the Commonwealth of Dominica". dominica.gov.dm. สืบค้นเมื่อ 2 June 2020.
  267. "Minsa reporta 4,115 casos de Covid-19 y 128 muertes en Nicaragua". La Prensa (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  268. "Ministere de la Santé de Djibouti". สืบค้นเมื่อ 12 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  269. MSP Centrafrique [@MSPCentrafrique] (11 August 2020). "Communiqué de presse" (ทวีต) (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  270. 270.0 270.1 270.2 "Coronavirus live updates | Ban on entering and exiting Tbilisi lifted". OC Media (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 15 August 2020. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  271. "Commonwealth Healthcare Corporation". chcc.gov.mp. สืบค้นเมื่อ 8 August 2020.
  272. "COVID19 – MINISTRY OF HEALTH" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  273. "Vanuatu PM declares Covid contained". RNZ. 1 December 2020. สืบค้นเมื่อ 1 December 2020.
  274. "Coronavirus-ip nutaap siaruarnera malinnaaffigiuk" (ภาษาเดนมาร์ก).
  275. @YSNECCOVID19 (12 August 2020). "آخر إحصائيات انتشار فيروس #كورونا في #اليمن #معا_لمواجهة_كورونا" (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  276. "Coronavirus Disease Update August 13th 2020". Government of Sint Maarten. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  277. "Announcement from the Ministry of Health". www.shabait.com. สืบค้นเมื่อ 7 August 2020.
  278. "St Vincent and the Grenadines Coronavirus (COVID-19) Report". Official website of the Government of Saint Vincent and the Grenadines. 10 August 2020. สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  279. "Évolution du Coronavirus au Niger en temps réel – Coronavirus, Covid19" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  280. "INÍCIO". INFOCOVID-19 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  281. "Stop Covid-19 Comores". Stop Coronavirus.km (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 12 August 2020.
  282. "No New Cases Of Covid-19". สืบค้นเมื่อ 4 August 2020.
  283. "Covid-19 positive sailor in American Samoa port". Radio New Zealand. 21 December 2020. สืบค้นเมื่อ 17 January 2020.
  284. "National Public Health Institute of Liberia-NPHIL". สืบค้นเมื่อ 12 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  285. "Ministère de la Santé Publique du Tchad" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 10 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  286. "The Ministry of Information and Communication - Sierra Leone" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  287. "COVID-19 UPDATES". covid19.mic.gov.sl (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  288. "BVI Reports No Active Cases Of COVID-19". 5 August 2020. สืบค้นเมื่อ 5 August 2020.
  289. "KKTC Sağlık Bakanlığı". saglik.gov.ct.tr (ภาษาตุรกี). สืบค้นเมื่อ 11 August 2020.
  290. "Cook Islands: WHO Coronavirus Disease (COVID-19) Dashboard With Vaccination Data". World Health Organisation (ภาษาอังกฤษ). covid19.who.int. 3 December 2021. สืบค้นเมื่อ 6 December 2021.
  291. "COVID-19 - Te Marae Ira Cook Islands Ministry of Health". Cook Islands Ministry of Health. สืบค้นเมื่อ 6 December 2021.
  292. "GOVERNMENT OF ST. KITTS AND NEVIS – COVID – 19 UPDATES". สืบค้นเมื่อ 10 August 2020.
  293. "TCI COVID-19 DASHBOARD 14 August 2020". TCI Health. สืบค้นเมื่อ 15 August 2020 – โดยทาง Facebook.
  294. "TCI COVID-19 Dashboard". Ministry of Health, Agriculture, Sports and Human Services.
  295. "Situação Actual em São Tomé e Príncipe". สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  296. "Coronavirus Update (Live)". worldometer.info.
  297. Radio Kiribati. "Kiribati crew confirmed with Covid-19". www.facebook.com. สืบค้นเมื่อ 2021-05-21.
  298. Radio Kiribati. "Kiribati confirms second Covid-19 case". Facebook.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-05-21.
  299. Информация о новой коронавирусной инфекции COVID19 » Министерство здравоохранения Луганской Народной Республики (ภาษารัสเซีย). สืบค้นเมื่อ 6 August 2020.
  300. "COVID-19 DASHBOARD, Somalia". moh.gov.so (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  301. Maxamed, Khadar (5 July 2020). "Somaliland oo diiwaangelisay Kiisas Cusub oo Xannuunka Covid-19" (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). Wargeyska Dawan. สืบค้นเมื่อ 5 July 2020.
  302. "Results Negative for COVID-19 in Sudden Death Investigation; All Three Confirmed Cases Now". COVID-19: The Anguillian Response. สืบค้นเมื่อ 27 April 2020.
  303. "Special webpage against Epidemics". www.ssm.gov.mo. สืบค้นเมื่อ 14 August 2020.
  304. "Wallis and Futuna: WHO Coronavirus Disease (COVID-19) Dashboard". covid19.who.int (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-11-27.
  305. "Second Covid-19 case in Wallis and Futuna". RNZ (ภาษาอังกฤษ). 2020-11-15. สืบค้นเมื่อ 2020-11-15.
  306. "Saint-Pierre et Miquelon : un "porteur sain", premier cas avéré de Covid-19". www.cnews.fr (ภาษาฝรั่งเศส). สืบค้นเมื่อ 5 April 2020.
  307. "COVID-19 Response Level Escalated to Level 2 RED – Ascension Island Government". สืบค้นเมื่อ 2021-03-15.
  308. "Arriving Passenger Tests Positive for COVID-19". St Helena Government (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2021-03-26. สืบค้นเมื่อ 2021-03-31.
  309. "COVID-19 Public update 30 April 2020". Falkland Islands Government. สืบค้นเมื่อ 1 May 2020.
  310. "Gezaghebber waarschuwt voor veslapping in corona preventie". Bonaire.nu (ภาษาดัตช์). สืบค้นเมื่อ 15 August 2020.
  311. "Covid-19 - Government of Montserrat". Government of Montserrat. สืบค้นเมื่อ 8 August 2020.
  312. "وزارة الصحة العمومية تؤكد استقرار في حالات الإصابة اليومية بفيروس كورونا". Sahara Press Service (ภาษาอาหรับ). สืบค้นเมื่อ 2020-09-07.
  313. "Reportan brote de coronavirus en base chilena en la Antártida". infobae (ภาษาสเปนแบบยุโรป). 2020-12-21. สืบค้นเมื่อ 2020-12-21.
  314. "Dichiarazione del Direttore della Sala Stampa della Santa Sede, Matteo Bruni, 06.06.2020". Officialthe Holy See website. สืบค้นเมื่อ 7 June 2020.
  315. "Coronavirus Update (COVID-19) Sint Eustatius May 5th 2020". The Government of Sint Eustatius. สืบค้นเมื่อ 6 May 2020 – โดยทาง Facebook.
  316. "August 12, Covid-19 update". Saba News. สืบค้นเมื่อ 13 August 2020.
  317. "In the Studio with Capt. Blizzard". www.facebook.com (ภาษาอังกฤษ). AFN Diego Garcia. สืบค้นเมื่อ 2021-05-19.
  318. "In the Studio with Capt. Blizzard". www.facebook.com (ภาษาอังกฤษ). AFN Diego Garcia. สืบค้นเมื่อ 2021-05-19.
  319. Affairs, This story was written by Naval Station Guantanamo Bay, Cuba Public. "Naval Station Guantanamo Bay Announces Positive COVID-19 Case". www.navy.mil (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-03.
  320. "U.S. Navy COVID-19 Updates". Navy Live (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 12 April 2020. สืบค้นเมื่อ 29 April 2020.
  321. "USS Theodore Roosevelt resumes operations more than two months after COVID-19 outbreak began". The San Diego Union-Tribun (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 4 June 2020.
  322. "Florence Parly s'exprime devant les députés de la commission de la Défense nationale et des forces armées". defense.gouv.fr. 17 April 2020.
  323. 国内感染者1万6395人 死者773人(クルーズ船除く)新型コロナ. nhk.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น). 20 May 2020.
  324. "How lax rules, missed warnings led to Japan's second coronavirus cruise-ship hot spot". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 7 May 2020. สืบค้นเมื่อ 9 May 2020.
  325. @ngs_ken_iryou (25 April 2020). 令和2年4月25日(土)18時現在、長崎県内の新型コロナウイルス感染症状況 (ทวีต) – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  326. "Virus-hit Italian cruise ship leaves Nagasaki". The Japan Times. 31 May 2020.
  327. "Nearly 130, Including Australians, On Antarctic Cruise Ship Have Coronavirus". 10daily (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 8 April 2020.
  328. "El Sinae confirmó décimo fallecido y 528 casos positivos". radiouruguay.uy.
  329. "Statement Regarding Zaandam | Holland America Blog" (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-01.
  330. "Deal is done: Cruise ship with sick passengers and sister ship will be allowed to dock in Florida". NBC News (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2 April 2020.
  331. "Indonesian crew member of virus-hit Zaandam cruise ship dies in Florida". South China Morning Post (ภาษาอังกฤษ). 10 April 2020. สืบค้นเมื่อ 11 April 2020.
  332. "Passengers on the Coral Princess are still trying to get home". CNN Travel. 8 April 2020. สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
  333. "Seven COVID-19 Cases On SeaDream 1". Barbados Government Information Service. 14 November 2020. สืบค้นเมื่อ 14 November 2020.
  334. Hunter, Marnie; Oppmann, Patrick (17 November 2020). "SeaDream cancels remaining 2020 cruises following Covid outbreak". CNN. Cable News Network. สืบค้นเมื่อ 19 November 2020.
  335. "Zr.Ms. Dolfijn breekt reis af vanwege corona - Nieuwsbericht - Defensie.nl". www.defensie.nl (ภาษาดัตช์). 30 March 2020.
  336. "Bemanning onderzeeboot Dolfijn na corona-besmetting weer uit isolatie". Noordhollands Dagblad (ภาษาเฟลมิช). สืบค้นเมื่อ 19 June 2020.
  337. coronavirus micronesia
  338. Arriving Passenger Tests Positive for COVID-19
  339. "AccentTv Another 14 cases of coronavirus have been confirmed in Moldova. Total number reached 80". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 April 2020. สืบค้นเมื่อ 25 March 2020.
  340. Rourke (earlier), Sarah Marsh (now) Ben Quinn Lucy Campbell Alison; Marsh, Sarah; Mason, Rowena; Campbell, Lucy (2020-03-03). "Coronavirus: Iran to mobilise 300,000 soldiers and volunteers as 23 MPs infected - latest news". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2020-03-03.
  341. Tondo, Lorenzo; Giuffrida, Angela (2020-03-03). "Italy's large elderly population bearing brunt of coronavirus". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2020-03-03.
  342. "Coronavirus COVID-19 Global Cases by the Center for Systems Science and Engineering (CSSE) at Johns Hopkins University".
  343. "Coronavirus Update (Live) - Worldometer". www.worldometers.info.
  344. 344.0 344.1 "In U.S. and Germany, Community Transmission Is Now Suspected". 26 February 2020 – โดยทาง NYTimes.com.
  345. "Italy Cases Surge". bloomberg.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-03-01.
  346. Covid: Bailiwick of Guernsey cases drop by 500 in a week
  347. "St. Martin News Network - State of Affairs on St. Maarten regarding the COVID-19". www.smn-news.com.
  348. "Coronavirus : premiers cas confirmés en Outre-mer, à St-Martin et St-Barth". LaProvence.com (ภาษาฝรั่งเศส). 2020-03-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-03-01.
  349. "Mexico Confirms Its First 2 Coronavirus Cases". CBS Los Angeles. 2020-02-28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-28.
  350. Foundation, Thomson Reuters. "Mexico confirms first coronavirus cases in two men returned from Italy". news.trust.org. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-28.
  351. México, Gobierno de (2020-02-28). "La @SSalud_mx confirmó dos casos de coronavirus en México, el primero en la capital y el segundo en Sinaloa. Se trata de pacientes de bajo riesgo que están siendo atendidos. Invitamos a la población a seguir informada y tomar medidas de prevención". @GobiernoMX (ภาษาสเปน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-28.
  352. "Van 3 casos confirmados de coronavirus en México". El Financiero (ภาษาสเปน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-29.
  353. "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 February 2020. สืบค้นเมื่อ 29 February 2020.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  354. "Confirman caso de coronavirus en Chiapas". ABC Noticias (ภาษาสเปน). 1 March 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 March 2020. สืบค้นเมื่อ 1 March 2020.
  355. Canada, Public Health Agency of (2020-02-29). "Coronavirus disease (COVID-19): Outbreak update". aem. สืบค้นเมื่อ 2020-03-01.
  356. "First COVID-19 case in Canada now cleared of the virus: health officials | Globalnews.ca". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2020. สืบค้นเมื่อ 24 February 2020.
  357. "Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)". Centers for Disease Control and Prevention. 22 February 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 22 February 2020. สืบค้นเมื่อ 22 February 2020.
  358. "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 February 2020. สืบค้นเมื่อ 29 February 2020.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  359. News, A. B. C. "Washington county declares state of emergency as coronavirus death toll rises". ABC News. {{cite web}}: |last= มีชื่อเรียกทั่วไป (help)
  360. Authority, OR Health (2 March 2020). "Today we're announcing the third presumptive case of #COVID19 in #Oregon. The case is an Oregon adult from Umatilla County who is hospitalized in Walla Walla, Washington. @UCoHealth @WADeptHealth #coronaviruspic.twitter.com/XHtyqPKNzJ".
  361. "Dominican Republic confirms the first case of coronavirus | Elnacional.com.do". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 March 2020. สืบค้นเมื่อ 1 March 2020.
  362. 200 Construction Workers Infected with COVID-19 at Murmansk Site
  363. ติดโควิดเกินหมื่นต่อวัน! เจาะ 'รัสเซีย' ทำไมเชื้อกระจายทั่วประเทศคุมไม่อยู่?
  364. Chile Coronavirus cases map tracker
  365. Information From NSF on coronavirus
  366. COVID-19 AND THE AAP: INFORMATION FOR EXPEDITIONERS
  367. Covid-19 scuppers Australian Antarctic research trip
  368. "Cambodia confirms first case of coronavirus: Health minister". CNA.asia. Channel NewsAsia. 27 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-27. สืบค้นเมื่อ 27 January 2020.
  369. "Cambodia Confirms First Coronavirus Case". Voice of America. สืบค้นเมื่อ 2020-01-28.
  370. "Coronavirus confirmed in Cambodia". Khmer Times-US. 2020-01-27. สืบค้นเมื่อ 2020-01-28.
  371. 谭欣雨. "Cambodia confirms first case of novel coronavirus: health minister - Chinadaily.com.cn". www.chinadaily.com.cn. สืบค้นเมื่อ 2020-01-28.
  372. https://mobile.twitter.com/QatarNewsAgency/status/1233713028551626752
  373. "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 February 2020. สืบค้นเมื่อ 29 February 2020.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  374. "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 February 2020. สืบค้นเมื่อ 29 February 2020.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  375. https://www.nytimes.com/2020/02/26/world/asia/coronavirus-news.html
  376. "신종 코로나바이러스 한국인 첫환자 확인". MK (ภาษาเกาหลี). 서진우. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 January 2020. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  377. Shin, Hyonhee; Cha, Sangmi (20 February 2020). "'Like a zombie apocalypse': Residents on edge as coronavirus cases surge in South Korea". Thomson Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 February 2020. สืบค้นเมื่อ 20 February 2020.
  378. https://www.aa.com.tr/en/health/kuwait-confirms-new-coronavirus-cases-takes-toll-to-56/1751412
  379. "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2020. สืบค้นเมื่อ 26 February 2020.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  380. "First Case of Coronavirus Reported in Georgia". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 February 2020. สืบค้นเมื่อ 26 February 2020.
  381. "Georgia Confirms First Case of Coronavirus". Civil.ge. 2020-02-26. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-27.
  382. 382.0 382.1 "Georgia reports second case of coronavirus". Agenda.ge. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-28.
  383. Post, The Jakarta. "Belarus, Azerbaijan report first coronavirus cases". The Jakarta Post (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-28.
  384. "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2 March 2020.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  385. "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 24 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2 March 2020.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  386. 386.0 386.1 http://petra.gov.jo/Include/InnerPage.jsp?ID=129088&lang=ar&name=news
  387. https://mobile.twitter.com/PrimeMinistry/status/1234464053604605952
  388. https://mobile.twitter.com/PrimeMinistry/status/1234464744171622402
  389. 389.0 389.1 "Saudi Arabia temporarily suspends entry of GCC citizens to Mecca and Medina: foreign ministry". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2020-02-28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-29.
  390. "Archived copy". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2 March 2020.{{cite web}}: CS1 maint: archived copy as title (ลิงก์)
  391. ผู้ป่วยโควิด-19 ตายรายแรกในออสเตรเลีย หลังอพยพจากเรือไดมอนด์ ปริ๊นเซส
  392. Chen, Wei-ting; Kao, Evelyn (21 February 2020). "WUHAN VIRUS/Taiwan confirms 1st Wuhan coronavirus case (update)". Central News Agency. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 February 2020. สืบค้นเมื่อ 26 February 2020.
  393. Schnirring, Lisa (14 January 2020). "Report: Thailand's coronavirus patient didn't visit outbreak market". CIDRAP. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 14 January 2020. สืบค้นเมื่อ 15 January 2020.
  394. "Novel coronavirus (02): Thailand ex China (HU) WHO. Archive Number: 20200113.6886644". International Society for Infectious Diseases. สืบค้นเมื่อ 14 January 2020 – โดยทาง Pro-MED-mail.
  395. Cheung, Elizabeth (13 January 2020). "Thailand confirms first case of Wuhan virus outside China". South China Morning Post. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 January 2020. สืบค้นเมื่อ 13 January 2020.
  396. "ด่วน พบชายอายุ 35 ปี ผู้ป่วย "โควิด-19" เสียชีวิตรายแรกในไทย". www.thairath.co.th. 2020-03-01. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-03-01.
  397. "Corona virus infection suspected in capital". The Himalayan Times. 18 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 January 2020. สืบค้นเมื่อ 22 January 2020.
  398. Republica. "First case of coronavirus confirmed in Nepal : MoHP". My Republica. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  399. "Nepal Reports South Asia's First Confirmed Case Of Deadly Coronavirus". NDTV.com. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  400. "Nepal confirms first case of new coronavirus infection". Xinhuanet.com. Xinhua News Agency. 25 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-25. สืบค้นเมื่อ 25 January 2020.
  401. "Pakistan on high alert amid coronavirus outbreak in China". Gulf News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2020. สืบค้นเมื่อ 26 January 2020.
  402. Bhatti, Haseeb (23 January 2020). "Pakistan exercises caution as more cases of China's coronavirus surface in other countries". Dawn. Pakistan. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 January 2020. สืบค้นเมื่อ 26 January 2020.
  403. Junaidi, Ikram; Nagri, Jamil (27 January 2020). "Coronavirus fear: GB seeks delay in opening of border crossing". Dawn. Pakistan. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 January 2020. สืบค้นเมื่อ 27 January 2020.
  404. "Turkey and Pakistan close borders with Iran over coronavirus deaths | Coronavirus outbreak | The Guardian". amp.theguardian.com.
  405. "Number of confirmed cases of COVID-19 reaches 4 in Pakistan". The Nation. 1 March 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 March 2020.
  406. "Number of confirmed cases of COVID-19 reaches 4 in Pakistan". The Nation. 1 March 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 March 2020.
  407. Klasra, Kaswar (2020-03-04). "Coronavirus: Pakistan quarantines pilgrims returning from Iran". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 2020-03-05.
  408. "Philippines confirms first case of new coronavirus". ABS-CBN News. 30 January 2020. สืบค้นเมื่อ 30 January 2020.
  409. "DOH confirms 3rd 2019-nCoV ARD Case iN PH". Department of Health (Philippines). 5 February 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 February 2020. สืบค้นเมื่อ 5 February 2020.
  410. Ivan Loh (24 January 2020). "Wuhan virus: Eight in isolation in JB after coming into contact with Singapore victim". The Star. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  411. "Eight Chinese tourists show no coronavirus symptoms in Johor Baru". Bernama. The Malay Mail. 24 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-17. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  412. "[Breaking] 3 coronavirus cases confirmed in Johor Baru". New Straits Times. 25 January 2020. สืบค้นเมื่อ 25 January 2020.
  413. "First coronavirus cases in Malaysia: 3 Chinese nationals confirmed infected, quarantined in Sungai Buloh Hospital". The Borneo Post. 25 January 2020. สืบค้นเมื่อ 26 January 2020.
  414. Tee, Kenneth (16 February 2020). "DPM: One more cured of Covid-19, no new infection today". The Malay Mail. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 February 2020. สืบค้นเมื่อ 16 February 2020.
  415. Povera, Adib (17 February 2020). "First Malaysian tested positive for Covid-19 recovers and discharged". New Straits Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 February 2020. สืบค้นเมื่อ 17 February 2020.
  416. "Lebanon confirms first coronavirus case as death toll hits 4 in Iran". Arab News. 21 February 2020. สืบค้นเมื่อ 21 February 2020.
  417. "Hai người viêm phổi Vũ Hán cách ly tại Bệnh viện Chợ Rẫy" (ภาษาเวียดนาม). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 January 2020. สืบค้นเมื่อ 23 January 2020.
  418. "Yêu cầu kích hoạt ngay trung tâm phòng chống dịch khẩn cấp bệnh viêm phổi do virus corona". Người Lao Động (ภาษาเวียดนาม). 24 January 2020. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  419. Nga, Lê (13 February 2020). "Ca thứ 16 tại Việt Nam dương tính nCoV" [The 16th case in Vietnam was positive for nCoV]. VnExpress (ภาษาเวียดนาม). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 February 2020. สืบค้นเมื่อ 13 February 2020.
  420. "TRANG CHỦ – Bộ Y tế – Trang tin về dịch bệnh viêm đường hô hấp cấp COVID-19". ncov.moh.gov.vn. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 13 February 2020. สืบค้นเมื่อ 22 February 2020.
  421. Hammond, Ashley; Chaudhary, Suchitra Bajpai; Hilotin, Jay (10 February 2020). "Watch: How the first coronavirus case in UAE was cured". Gulf News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 February 2020. สืบค้นเมื่อ 11 February 2020.
  422. Nandkeolyar, Karishma (29 January 2020). "Coronavirus in UAE: Four of a family infected". Gulf News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 January 2020. สืบค้นเมื่อ 29 January 2020.
  423. Abdullah, Zhaki (23 January 2020). "Singapore confirms first case of Wuhan virus". CNA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-23. สืบค้นเมื่อ 23 January 2020.
  424. Chang, Ai-Lien; Khalik, Salma (4 February 2020). "Coronavirus: S'pore reports first cases of local transmission; 4 out of 6 new cases did not travel to China". The Straits Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 4 February 2020. สืบค้นเมื่อ 4 February 2020.
  425. https://www.straitstimes.com/singapore/health/5-new-covid-19-cases-in-spore-including-4-linked-to-a-new-cluster-a-private-dinner
  426. "3 Suspected Cases of Coronavirus Reported in Afghanistan". TOLOnews. สืบค้นเมื่อ 23 February 2020.
  427. "Afghanistan confirms first coronavirus case in province bordering Iran". Reuters. 24 February 2020.
  428. "Azerbaijan reports first case of coronavirus - Ifax". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2020-02-28. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-28.
  429. "COVID-19 cases jump in Iran as Italy toll rises: Live updates". AlJazeera (ภาษาอังกฤษ). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-03-01.
  430. "Armenia confirms the first case of coronavirus". Public Radio of Armenia. 1 March 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 March 2020. สืบค้นเมื่อ 1 March 2020.
  431. Yan, Sophia; Wallen, Joe (21 January 2020). "China confirms human-to-human spread of deadly new virus as WHO mulls declaring global health emergency". Telegraph. สืบค้นเมื่อ 21 January 2020.
  432. "India To Screen Chinese Travelers For Wuhan Mystery Virus At Mumbai Airport". News Nation. 18 January 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 January 2020. สืบค้นเมื่อ 21 January 2020.
  433. Sinha, Saurabh. "Coronavirus: Thermal screening of flyers from China, Hong Kong at 7 airports". The Times of India. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 January 2020. สืบค้นเมื่อ 21 January 2020.
  434. "Coronavirus: Two under watch in Mumbai, special ward set up". India Today. Mumbai: Press Trust of India. สืบค้นเมื่อ 24 January 2020.
  435. Da Costa, Agustinus Beo; Suroyo, Gayatri; Davies, Ed; Cushing, Christopher; Kerry, Frances (2 February 2020). "Indonesia bars entry to visitors from China amid evacuation protest". Reuters. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 16 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2 February 2020.
  436. Made Yoni (2020-02-29). "Indonesia Repatriating Citizens Who Worked on Coronavirus-Stricken Cruise Ships". Voice of America. สืบค้นเมื่อ 2020-03-05.
  437. Marchio Irfan Gorbiano; Budi Sutrisno (2020-02-24). "Number of Indonesians with coronavirus on Diamond Princess rises to nine". The Jakarta Post. สืบค้นเมื่อ 2020-03-05.
  438. "WNI Kena Corona di Kapal Diamond Princess Kini Jadi 9 orang" [Indonesian Citizens Affected by Corona on the Diamond Princess Ship are now 9 people]. CNBC Indonesia (ภาษาอินโดนีเซีย). 24 February 2020. สืบค้นเมื่อ 24 February 2020.
  439. "EcoNusa Covid-19 Response Assistance in Maluku Island". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-05-11. สืบค้นเมื่อ 2021-05-11.
  440. Zehra Nur Duz (2020-03-04). "Iraq reports second death from coronavirus". aa.com.tr. สืบค้นเมื่อ 2020-03-05.
  441. "Ministry of Health registered first two Novel #Coronavirus (COVID-2019) cases for Omani women coming from #Iran". Ministry of Health (Oman) (retrieved from Twitter). 24 February 2020. สืบค้นเมื่อ 24 February 2020.
  442. "Coronavirus: Iraq, Oman confirm first cases, halt flights to Iran". The Straits Times. 24 February 2020. สืบค้นเมื่อ 24 February 2020.
  443. Cheung, Elizabeth; Zhang, Karen; Lum, Alvin (26 February 2020). "Coronavirus: four more confirmed cases in Hong Kong including Diamond Princess cruise passenger, 16, who is city's youngest Covid-19 patient". South China Morning Post. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 26 February 2020. สืบค้นเมื่อ 26 February 2020.
  444. Lum, Alvin; Low, Zoe (24 February 2020). "Coronavirus: five more confirmed cases in Hong Kong including two evacuees from Diamond Princess cruise ship and pair from Buddhist hall". South China Morning Post. สืบค้นเมื่อ 24 February 2020.
  445. Cheung, Elizabeth; Lum, Alvin (19 February 2020). "Coronavirus: confirmed Hong Kong cases now 65 as mother-in-law of infected engineer becomes one of three more struck down in virus outbreak". South China Morning Post. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 February 2020. สืบค้นเมื่อ 24 February 2020.
  446. Daoud, Elizabeth (25 January 2020). "First Australian coronavirus case confirmed in Victoria". 7 News.
  447. "First Aussie case of coronavirus confirmed in Victoria". NewsComAu. 24 January 2020. สืบค้นเมื่อ 25 January 2020.
  448. Doherty, Ben (25 January 2020). "Coronavirus: three cases in NSW and one in Victoria as infection reaches Australia". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 25 January 2020.
  449. Cunningham, Melissa; McCauley, Dana (25 January 2020). "Coronavirus spreads across Australia amid scramble to find more cases". Sydney Morning Herald. สืบค้นเมื่อ 25 January 2020.
  450. Drevikovsky, Janek; Chung, Laura (25 January 2020). "Two probable coronavirus cases in NSW". Sydney Morning Herald. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 January 2020. สืบค้นเมื่อ 25 January 2020.
  451. "Australia to screen some flights from China, warns coronavirus difficult to stop". CNA. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 January 2020. สืบค้นเมื่อ 21 January 2020.
  452. 'นิวซีแลนด์' พบผู้ป่วยรายแรก เพิ่งกลับจากอิหร่าน
  453. ‘นิวซีแลนด์’ ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังเที่ยงคืนวันนี้
  454. นิวซีแลนด์พบผู้เสียชีวิตจาก'โควิด-19'รายแรก