การระบาดทั่วของโควิด-19 ในประเทศซาอุดีอาระเบีย
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
การระบาดทั่วของไวรัสโคโรนาในซาอุดีอาระเบีย พ.ศ. 2563 | |
---|---|
จำนวนผู้ติดเชื้อเรียงตามภูมิภาคในประเทศซาอุดีอาระเบีย ณ วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 | |
โรค | โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 |
สายพันธุ์ไวรัส | โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) |
สถานที่ | ประเทศซาอุดีอาระเบีย |
การระบาดครั้งแรก | อู่ฮั่น ประเทศจีน |
ผู้ป่วยต้นปัญหา | เมืองคาติป |
วันแรกมาถึง | 2 มีนาคม พ.ศ. 2563 (4 ปี 8 เดือน 1 วัน) |
ผู้ป่วยยืนยันสะสม | 354,527 คน[1] |
หาย | 341,956 คน[1] |
เสียชีวิต | 5,729 คน[1] |
moh |
การระบาดทั่วของโควิด-19 โดยได้รับการยืนยันว่าเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563
ภูมิหลัง
[แก้]เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2563 องค์การอนามัยโลก (WHO) ยืนยันว่าโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยทางเดินหายใจในกลุ่มคนในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ซึ่งรายงานต่อองค์การอนามัยโลกในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562[2][3]
อัตราป่วยตายของผู้ป่วยสำหรับโควิด-19 นั้นต่ำกว่าโรคซาร์ส พ.ศ. 2546 มาก[4][5] แต่การแพร่เชื้อมีความหมายมากกว่า ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีนัยสำคัญ[4][6]
เส้นเวลา
[แก้]มีนาคม
[แก้]- เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2563 ทางการประเทศซาอุดีอาระเบียได้ออกมายืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรก จากที่ผู้ติดเชื้อมาจากประเทศอิหร่านก่อนผ่านทางประเทศบาห์เรน และกลับมายังประเทศซาอุดีอาระเบีย[12]
- วันที่ 4 มีนาคม ทางการซาอุดีอาระเบียได้แถลงการณ์ว่าพบผู้ติดเชื้อเป็นรายที่สอง ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ติดเชื้อรายแรก โดยเขาได้มาเจอกันที่สะพานข้ามแดนของประเทศบาห์เรน โดยเขาไม่บอกว่าเขามาจากประเทศอิหร่าน[13]
- วันที่ 5 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียได้ประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย; สองรายกลับจากการท่องเที่ยวประเทศอิหร่านผ่านทางประเทศคูเวต และหนึ่งรายเป็นเพื่อนของสองกรณีแรก[14]
- วันที่ 7 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียได้ประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย โดยทั้งสองเป็นผู้หญิง รายแรกมาจากประเทศอิหร่านผ่านทางประเทศบาห์เรน และอีกรายมาจากเมืองนาจาฟ ประเทศอิรัก ผ่านทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยทั้งคู่ปกปิดข้อมูล ทำให้พวกเธอสามารถเข้ามายังประเทศได้[15]
- วันที่ 8 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียได้ประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 4 ราย สามในสี่รายติดเชื้อมาจากกรณีก่อนหน้าที่ผู้ติดเชื้อนั้นมาจากประเทศอิหร่าน และอีกรายติดเชื้อมาจากประเทศอิหร่านผ่านทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[16]
- วันที่ 9 มีนาคม ทางการซาอุฯ ประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย โดยเป็นชาวซาอุ ชาวบาห์เรนสองราย และชาวอเมริกัน ทั้งหมดถูกกันตัวที่เมืองคาติป และเมืองรียาด[17]
- วันที่ 10 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียได้ประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 5 ราย รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 20 ราย[18]
- วันที่ 11 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อ 1 ราย เป็นชาวอียิปต์[19] ในวันเดียวกัน ทางกระทรวงได้ประกาศเพิ่มว่าพบผู้ติดเชื่อเพิ่มอีก 24 ราย โดย 21 ราย เป็นชาวอียิปต์ผู้คลุกคลีกับผู้ที่มีผลเลือดตรวจออกมาพบว่าเป็นบวก ฉะนั้น ทำให้มีผู้ติดเชื้อรวมภายในประเทศทั้งหมด 45 ราย[20]
- วันที่ 12 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 17 ราย จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมติดเชื้อทั้งราชอาณาจักรทั้งหมด 62 ราย[21]
- วันที่ 13 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 24 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบียรวม 86 ราย[22]
- วันที่ 14 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 17 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบียรวม 103 ราย[23]
- วันที่ 15 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบีย 118 ราย[24]
- วันที่ 16 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 15 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบีย 133 ราย[25]
- วันที่ 17 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 38 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบีย 171 ราย[26]
- วันที่ 18 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 67 ราย หกรายเป็นเด็ก รวมติดเชื้อทั้งราชอาณาจักรรวมทั้งหมด 238 ราย[27]
- วันที่ 19 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 36 ราย กระทรวงได้แถลงต่อว่ามีผู้ติดเชื้อในราชอาณาจักรรวมทั้งหมด 274 ราย[28] มีผู้ติดเชื้อหายทั้งหมด 8 รายจากสองกรณี โดยไม่มีรายงานพบผู้ที่เสียชีวิต
- วันที่ 20 มีนาคม ทางการรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 70 รายจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุขราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียแถลงว่าจากการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 70 รายจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิท-19) ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อสะสมภายในประเทศซาอุดีอาระเบียรวม 344 ราย[29] โดยช่วงค่ำ กระทรวงแถลงพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 11 ราย โดยทั้งหมดมาจากประเทศ: โมร็อกโก, อินเดีย, จอร์แดน, ฟิลิปปินส์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสวิตเซอร์แลนด์ โดยทั้ง 11 รายถูกกักตัวจากท่าอากาศยานมายังโรงพยาบาล โดยทั้งหมดถูกกักตัวที่เมืองริยาด[30]
- วันที่ 21 มีนาคม ทางการซาอุดีอาระเบียแถลงว่าจากการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 48 รายจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รวมที่พบทั้งหมด 392 ราย[31] โดยกระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียได้จดทะเบียนหมายเลขฉุกเฉิน 937 สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูล หรือสงสัยว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 เพื่อความสบายใจ
- วันที่ 22 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 119 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบีย 511 ราย
- วันที่ 23 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 51 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบีย 562 ราย
- วันที่ 24 มีนาคม กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 205 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบีย 767 ราย และมีการรายงานว่าชายชาวอัฟกานิสถานอายุ 51 ปี อาศัยอยู่ในเมืองมะดีนะฮ์, ประเทศซาอุดีอาระเบีย เสียชีวิตลงเนื่องด้วยสาเหตุโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายแรกของประเทศ โดยชาวอัฟกาฯ รายนี้เสียชีวิตในวันที่ 23 มีนาคม[32][33]
เมษายน
[แก้]- เมื่อวันที่ 1 เมษายน มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งหมด 157 รายตามที่กระทรวงได้รายงานไว้ รวมทั้งหมด 1,720 ราย[34]
- วันที่ 8 เมษายน เดอะนิวยอร์กไทมส์ รายงายว่าสมาชิกราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย 150 รายพบผลการทดลองเป็นบวก หลานของกษัตริย์ทรงติดเชื้อและกำลังเข้ารับการรักษาตัวจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019[35]
- วันที่ 9 เมษายน กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 355 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบีย 3,287 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รักษาหายแล้ว 35 รายตามรายงาน
- วันที่ 10 เมษายน กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 364 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบีย 3,651 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รักษาหายแล้ว 19 รายตามรายงาน
- วันที่ 11 เมษายน กระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียประกาศพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 382 ราย รวมติดเชื้อในประเทศซาอุดีอาระเบียิ 4,033 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย รักษาหายแล้ว 35 รายตามรายงานของกระทรวง[36]
- วันที่ 20 เมษายน ยอดผู้ติดเชื้อทะลุ 10,000 ราย รัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุขซาอุดีอาระเบีย ได้ให้เหตุผลการก้าวกระโดดของยอดผู้ติดเชื้อในราชอาณาจักรว่า "เป็นเพราะการที่เรามีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพเพียงพอที่สามารถตรวจหาเชื้อได้"[37]
- วันที่ 28 เมษายน มีผู้ติดเชื้อเกิน 20,000 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 17,141 ราย[38]
- วันที่ 30 เมษายน มีผู้ติดเชื้อเกิน 22,000 รายโดยมีผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 1,351 ราย สำหรับกรณีเป็นชาวซาอุฯ คิดเป็นร้อยละ 17 และเป็นชาวต่างชาติคิดเป็นร้อยละ 83[39]
พฤษภาคม
[แก้]- เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม มีผู้ติดเชื้อโรคเกินกว่า 24,000 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มรายใหม่ 1,344 ราย รวมติดเชื้อทั้งหมด 24,097 ราย[40]
- วันที่ 4 พฤษภาคม มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 22,656 ราย แบ่งเป็นพลเมืองชาวซาอุฯ ร้อยละ 18[41]
- วันที่ 5 พฤษภาคม มีผู้ติดเชื้อเกินกว่า 30,000 ราย[42]
- วันที่ 9 พฤษภาคม มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 37,136 ราย และมีผู้ที่รักษาหายเกินกว่า 10,000 ราย[43]
- วันที่ 28 พฤษภาคม มีผู้ติดเชื้อรวมกว่า 80,000 ราย และประเทศซาอุดีอาระเบียเริ่มมาตรการผ่อนปรนทุกเมืองในประเทศ ยกเว้น เมกกะ ภายในวันที่ 21 มิถุนายน[44][45]
มิถุนายน
[แก้]- เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน มีผู้ติดเชื้อรวมกว่า 90,000 ราย นับเป็นร้อยละของผู้รักษาหาย ร้อยละ 74 ซึ่งมีผู้รักษาหายรวมทั้งหมด 68,159 ราย[46]
- วันที่ 7 มิถุนายน มีผู้ติดเชื้อรวมกว่า 100,000 ราย รักษาหาย 72,817 ราย และผู้เสียชีวิต 712 ราย[47]
ผลสืบเนื่อง
[แก้]พื้นที่ศาสนา
[แก้]เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563 ทางการประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้ออกมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยวและ/หรือนักแสวงบุญในการอุมเราะห์ที่นครเมกกะ หรือการเยี่ยมชมมัสยิดอันนะบะวีที่เมืองมะดีนะฮ์ มาตราการนี้ยังรวบถึงการควบคุมผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวหรือแสวงบุญในประเทศเสี่ยงต่อการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ SARS-CoV-2[48]
วันที่ 5 มีนาคม ทางการซาอุดีอาระเบียเพิ่มขั้นตอนในการควบคุมเชื้อไวรัสโดยการประกาศการเฝ้าระวังในมัสยิดใหญ่แห่งนครเมกกะ และมัสยิดอันนะบะวี ซึ่งรวมถึงการปิดมัสยิดในช่วงเวลาชั่วคราว เพื่อพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อไวรัส[49]
วันที่ 9 มีนาคม ทางการซาอุดีอาระเบียได้กระทำระงับการละหมาดและละหมาดประจำวันศุกร์ ทั้งในและนอกกำแพงมัสยิดใหญ่สองที่ที่นครเมกกะ และเมืองมะดีนะฮ์ เพื่อหยุดยั้งกับระงับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่[50]
การระงับจากพื้นที่เสี่ยง
[แก้]เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นักเรียนซาอุดีอาระเบียสิบรายมาจากเมืองอู่ฮั่น ได้ถูกกักกันตัวก่อนที่จะนำไปตรวจหาไวรัส ผลออกมาเป็นลบ จากการตรวจหาเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โดยมีการประกาศผลในวันต่อมา [51] อย่างไรก็ตาม กลุ่มนักเรียนซาอุฯ ถูกกักกันตัวเป็นเวลาสองสัปดาห์ ก่อนที่จะส่งตัวกลับบ้านกันทุกคนอย่างปลอดภัย[52]
คมนาคม
[แก้]เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ทางการซาอุดีอาระเบียประการระงับการเดินทางไปยังประเทศจีน[53]
ประเทศซาอุดีอาระเบียระงับเที่ยวบินการเดินทางจากประเทศไปยังประเทศจีน อย่างเป็นทางการเมื่อวันทื่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563
วันที่ 20 มีนาคม กระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบียแถลงการณ์ระงับการให้บริการขนส่งมวลชนทุกแขนง อาทิ ท่าอากาศยาน รถโดยสารสาธารณะ และรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เป็นต้น โดยจะเริ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2563 [54]
การคัดกรอง
[แก้]เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียแถลงการณ์ให้ยับยั้งประชาชนในเครือของคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) ในการเข้ามายังในประเทศ ประชาชนในเครือคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับในประเทศซาอุดีอาระเบียจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน จนกว่าจะไม่ตรวจพบโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ เพื่อความปลอดภัยของประชาชน[48]
พื้นที่ควบคุม
[แก้]เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ทางการซาอุดีอาระเบียได้ระงับการคมนาคมเข้าสู่เมืองกาติปทั้งภายในเมืองและภายนอกเมืองทางชายฝั่งตะวันออกเป็นการชั่วคราว มีการรายงานว่ามีการนำแท่งซีเมนต์มากีดขวางเส้นทางหลักในการเข้าสู่เมืองกาติป กระทรวงมหาดไทยซาอุฯ ประกาศว่าพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดไวรัส[55]
มาตรการอื่น ๆ
[แก้]เมื่อวันที่ 7 มีนาคม กระทรวงการกีฬาซาอุดีอาระเบียให้การเล่นทุกชนิดกีฬาเล่นในที่ปิด[56][57] โดยกระทรวงยังมีประกาศเลื่อนการแข่งขันโอลิมปิกซาอุดีอาระเบีย 2020 เดิมจะจัดแข่งขันในเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ถึง 1 เมษายน จนกว่าจะมีการจัดหาวันการแข่งขันใหม่ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง[58][59] วันที่ 14 มีนาคม กระทรวงให้การแข่งขันทุกการแข่งขันระงับหรือยับยั้งไว้ก่อน และสั่งให้ปิดสนามกีฬา ศูนย์กีฬา และโรงยิมกีฬา ทั้งหมดลง[60]
วันที่ 8 มีนาคม กระทรวงศึกษาธิการซาอุดีอาระเบีย ได้ดำเนินการระงับโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในประเทศซาอุดีอาระเบียในวันจันทร์ เพื่อควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การระงับในครั้งนี้ รวมถึง โรงเรียนเอกชน โรงเรียนรัฐบาล และสถาบันวิชาชีพ[61]
วันที่ 4 มีนาคม กระทรวงกิจการเทศบาลและการชนบทซาอุดีอาระเบีย แถลงการณ์ระงับการเข้าถึงห้างสรรพสินค้า และสวนสนุก รวมถึงจะมีการเข้าไปพ่นน้ำยาฆ่าไวรัสทุกร้านอาหาร และยังระงับการประกอบพิธีกรรม อัมมีคนหมู่มากมารวมกัน เพื่อความปลอดภัย[62]
สถิติ
[แก้]แผนภูมิ
[แก้]อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 "Coronavirus: Saudi cases jump 327 to 2,932 total, 631 recoveries". english.alarabiya.net. April 8, 2020.
- ↑ Elsevier. "Novel Coronavirus Information Center". Elsevier Connect. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 January 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020.
- ↑ Reynolds, Matt (4 March 2020). "What is coronavirus and how close is it to becoming a pandemic?". Wired UK. ISSN 1357-0978. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 March 2020. สืบค้นเมื่อ 5 March 2020.
- ↑ 4.0 4.1 "Crunching the numbers for coronavirus". Imperial News. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 19 March 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020.
- ↑ "High consequence infectious diseases (HCID); Guidance and information about high consequence infectious diseases and their management in England". GOV.UK (ภาษาอังกฤษ). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 March 2020. สืบค้นเมื่อ 17 March 2020.
- ↑ "World Federation Of Societies of Anaesthesiologists – Coronavirus". www.wfsahq.org. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 12 March 2020. สืบค้นเมื่อ 15 March 2020.
- ↑ "Saudi Arabia detects 24 cases of coronavirus, total rises to 86". Al Arabiya. 2019-03-13.
- ↑ "Saudi Arabia announces 17 new cases of coronavirus". Arab News. 2019-03-14.
- ↑ "Ministry of Health Reports 15 New Cases of Coronavirus". Saudi Press Agency. สืบค้นเมื่อ 2020-03-15.
- ↑ "Ministry of Health Reports 15 New Cases of COVID-19". Saudi Press Agency. สืบค้นเมื่อ 2020-03-16.
- ↑ "Ministry of Health Reports 38 New Cases of COVID-19". Saudi Press Agency. สืบค้นเมื่อ 2020-03-17.
- ↑ "Saudi Arabia announces first case of coronavirus". 2020-03-02. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 March 2020. สืบค้นเมื่อ 2 March 2020.
- ↑ "Saudi Arabia detects second coronavirus case". Arab News. 2020-03-04.
- ↑ "Saudi Arabia announces three more cases of coronavirus". Arab News. 2020-03-05.
- ↑ "Saudi Arabia announces 2 new cases of coronavirus coming from Iran, Iraq". Arab News. 2020-03-07.
- ↑ "Saudi Arabia announces 4 new coronavirus cases". Arab News. 2020-03-08.
- ↑ "Saudi Arabia discovers 4 more virus cases, suspends travel to 9 countries". Arab News. 2020-03-09.
- ↑ "Saudi health ministry announces five new coronavirus cases". Arab News (ภาษาอังกฤษ). 2020-03-10. สืบค้นเมื่อ 2020-03-10.
- ↑ "SSaudi Arabia reports new coronavirus case in Egyptian traveler, total up to 21". alarabiya (ภาษาอังกฤษ). 2020-03-11. สืบค้นเมื่อ 2020-03-11.
- ↑ "Saudi Arabia announces 24 new cases of coronavirus". Arab News. 2019-03-12.
- ↑ "17 new cases of coronavirus bring total in Saudi Arabia to 62". Arab News. 2019-03-12.
- ↑ "Saudi Arabia detects 24 cases of coronavirus, total rises to 86". Al Arabiya. 2019-03-13.
- ↑ "Saudi Arabia announces 17 new cases of coronavirus". Arab News. 2019-03-14.
- ↑ "Ministry of Health Reports 15 New Cases of Coronavirus The official Saudi Press Agency". www.spa.gov.sa. สืบค้นเมื่อ 2020-03-15.
- ↑ "Ministry of Health Reports 15 New Cases of COVID-19 The official Saudi Press Agency". www.spa.gov.sa. สืบค้นเมื่อ 2020-03-16.
- ↑ "Ministry of Health Reports 38 New Cases of COVID-19 the official Saudi Press Agency". www.spa.gov.sa. สืบค้นเมื่อ 2020-03-17.
- ↑ "Ministry of Health Reports 67 New Cases of COVID-19 the official Saudi Press Agency".
- ↑ "Saudi Arabia's Health Ministry announced 36 new cases of coronavirus". 2020-03-19.
- ↑ https://english.alarabiya.net/en/News/gulf/2020/03/20/Saudi-Arabia-confirms-70-new-coronavirus-cases-total-at-344.html
- ↑ https://www.spa.gov.sa/viewfullstory.php?lang=en&newsid=2049792
- ↑ https://www.arabnews.com/node/1644576/saudi-arabia
- ↑ "Afghan National Dies of COVID-19 in Saudi Arabia". TOLOnews (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-03-24.
- ↑ "Coronavirus: Saudi Arabia reports first death, 205 new cases of COVID-19". gulfnews.com (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-03-24.
- ↑ says, Ahmad (2020-04-01). "Saudi Arabia announced new 157 Coronavirus cases – Total 1,720". Riyadh Xpress (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2020-04-08.
- ↑ "Live Updates: Elite Saudi Hospital Braces for a Wave of Royal Patients". The New York Times. 8 April 2020. สืบค้นเมื่อ 8 April 2020.
- ↑ "Saudi Arabia Coronavirus: 4,462 Cases and 59 Deaths - Worldometer". www.worldometers.info (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2020-04-12.
- ↑ Al-Khudair, Deema (20 April 2020). "COVID-19 cases in Saudi Arabia surpass 10,000". arabnews.com.
- ↑ Abueish, Tamara (28 April 2020). "Coronavirus: Cases in Saudi Arabia surpass 20,000 after 1,266 new cases reported". alarabiya.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 April 2020.
- ↑ Serrieh, Joanne (30 April 2020). "Coronavirus: Saudi Arabia confirms 1,351 new cases, total now 22,753". alarabiya.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-04-30. สืบค้นเมื่อ 2020-05-01.
- ↑ Serrieh, Joanne (1 May 2020). "Coronavirus: Saudi Arabia total cases over 24,000, steady increase of 1,344 new cases". alarabiya.net.
- ↑ Abueish, Tamara (4 May 2020). "Coronavirus: Saudi Arabia's death toll rises to 191 as total cases climb to 28,656". alarabiya.net.
- ↑ "Saudi corona cases go past 30,000-mark; 955 new recoveries recorded". saudigazette.com.sa. 5 May 2020.
- ↑ Nafie, Muhammd (9 May 2020). "Coronavirus: Saudi Arabia reports 1,704 new cases, 10 deaths". alarabiya.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2020. สืบค้นเมื่อ 9 May 2020.
- ↑ Serrieh, Joanne (28 May 2020). "Coronavirus: Saudi Arabia records 3,531 recoveries, 1,644 new cases". alarabiya.net.
- ↑ Khalid, Tuqa (28 May 2020). "Coronavirus: Saudi Arabia sets guidelines for malls, industrial sector, as it reopens". alarabiya.net.
- ↑ Serrieh, Joanne (3 June 2020). "Coronavirus: Saudi Arabia records 2,171 new cases as total surpasses 90,000". alarabiya.net.
- ↑ Hilton, Tommy (7 June 2020). "Coronavirus: Saudi Arabia now has over 100,000 COVID-19 cases". alarabiya.net.
- ↑ 48.0 48.1 "Saudi Arabia temporarily suspends entry of GCC citizens to Mecca and Medina: foreign ministry". Reuters (ภาษาอังกฤษ). 2020-02-28. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 February 2020. สืบค้นเมื่อ 2020-02-29.
- ↑ "Saudi Arabia closes Grand Mosque, Prophet's Mosque between night and morning prayers". Arab News. 5 March 2020. สืบค้นเมื่อ 6 March 2020.
- ↑ https://www.aljazeera.com/news/2020/03/saudi-arabia-bans-prayers-holy-mosques-coronavirus-fears-200320063001931.html
- ↑ https://www.spa.gov.sa/viewstory.php?lang=en&newsid=2029780
- ↑ https://www.spa.gov.sa/viewstory.php?lang=en&newsid=2035314
- ↑ Passports Announces Suspension of Travel to China
- ↑ https://www.arabnews.com/node/1644101/saudi-arabia
- ↑ "Saudi locks down Qatif as coronavirus surges in the Gulf". Al Jazeera. 8 March 2020. สืบค้นเมื่อ 8 March 2020.
- ↑ "وزارة الرياضة تُقرر تعليق الحضور الجماهيري في جميع المنافسات الرياضية في كافة الألعاب اعتباراً من يوم غدٍ السبت" (ภาษาอาหรับ).
- ↑ "Saudi Ministry of Sport suspends public attendance at events from Saturday". 2020-03-06.
- ↑ "اللجنة المنظمة تقرر تأجيل #دورة_الألعاب_السعودية حتى إشعار آخر".
- ↑ "اللجنة المنظمة تعلن تأجيل دورة الألعاب السعودية" (ภาษาอาหรับ). 2020-03-08.
- ↑ "تعليق النشاط الرياضي بالمملكة وإغلاق الصالات والمراكز الرياضية الخاصة".
- ↑ "SSaudi Arabia to close schools from Monday over coronavirus". Arab News. 8 March 2020. สืบค้นเมื่อ 8 March 2020.
- ↑ "البلديات" توجّه بإغلاق أماكن الألعاب والأنشطة الترفيهية في المجمّعات التجارية، وتعقيم وتهوية أماكن تقديم الأطعمة والمشروبات [“Municipalities” directed to close places for games and recreational activities in commercial complexes, and to sterilize and ventilate places where food and drinks are served]. وزارة الشؤون البلدية والقروية والإسكان (ภาษาอาหรับ).