ประเทศมอนเตเนโกร
มอนเตเนโกร Црна Гора (มอนเตเนโกร) | |
---|---|
คำขวัญ: ไม่มี | |
เพลงชาติ: Oj, svijetla majska zoro ภาษามอนเตเนโกร: Ој, свијетла мајска зоро "โอ้ รุ่งสางอันสว่างไสวแห่งเดือนพฤษภาคม" | |
![]() | |
เมืองหลวง และ ใหญ่สุด | พอดกอรีตซา |
ภาษาราชการ | ภาษามอนเตเนโกร1 |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา สาธารณรัฐรัฐธรรมนูญ |
• ประธานาธิบดี | มิโล ดูกาโนวิช |
• นายกรัฐมนตรี | ดุชกอ มาร์กอวิช |
เอกราช การสลายตัวของเซอร์เบียและมอนเตเนโกร | |
• ประกาศ | 3 มิถุนายน พ.ศ. 2549 |
พื้นที่ | |
• รวม | 13,812 ตารางกิโลเมตร (5,333 ตารางไมล์) (157) |
1.5 | |
ประชากร | |
• 2546 ประมาณ | 620,145 (164) |
• สำมะโนประชากร 2546 | 620,145 |
44.9 ต่อตารางกิโลเมตร (116.3 ต่อตารางไมล์) (126) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2562 (ประมาณ) |
• รวม | $ 12.310 พันล้าน |
• ต่อหัว | $ 19,734 (74th) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2562 (ประมาณ) |
• รวม | $ 5.607 พันล้าน (GDP_nominal_per_capita = $ 8,988) |
จีนี (2557) | 31.9[1] ข้อผิดพลาด: ค่าจีนีไม่ถูกต้อง |
HDI (2559) | ![]() ข้อผิดพลาด: ค่า HDI ไม่ถูกต้อง · 48th |
สกุลเงิน | ยูโร2 (EUR) |
เขตเวลา | UTC+1 (CET) |
• ฤดูร้อน (DST) | UTC+2 (CEST) |
รหัสโทรศัพท์ | 381 |
โดเมนบนสุด | .me |
มอนเตเนโกร (อังกฤษ: Montenegro (วิธีใช้·ข้อมูล) ออกเสียง: /ˌmɒntɨˈneɪɡroʊ/; มอนเตเนโกร:
Црна Гора (วิธีใช้·ข้อมูล) มีความหมายว่า "ภูเขาสีดำ") เป็นประเทศเอกราชซึ่งตั้งอยู่ในยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ มีอาณาเขตจรดทะเลเอเดรียติกและโครเอเชียทางทิศตะวันตก จรดบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาทางทิศเหนือ จรดเซอร์เบียทางทิศตะวันออก และจรดแอลเบเนียทางทิศใต้ มีพอดกอรีตซาเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
ในอดีต มอนเตเนโกรมีสถานะเป็นสาธารณรัฐในสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย และต่อมาได้เป็นส่วนหนึ่งในสหภาพการเมืองของเซอร์เบีย-มอนเตเนโกร หลังจากมีการลงประชามติเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 มอนเตเนโกรก็ได้ประกาศเอกราชในวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มอนเตเนโกรได้รับการกำหนดให้เป็น "รัฐประชาธิปไตย สวัสดิการ และสิ่งแวดล้อม"
ประวัติศาสตร์[แก้]
ประวัติศาสตร์ระยะแรกของชนเผ่ามอนเตเนโกรเริ่มปรากฏชัดเจนในคริสต์ศตวรรษที่ 10 ในฐานะเป็นรัฐกึ่งอิสระชื่อว่า ดูเคลีย (Duklija) ต่อมาจึงมีการสถาปนาระบอบกษัตริย์ขึ้น ซึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 7 ได้ทรงมีประกาศรับรองความเป็นอิสระของดูเคลีย และยอมรับพระเจ้ามีไฮโลแห่งดูเคลียอย่างเป็นทางการ เมื่อปี ค.ศ. 1077
ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 มอนเตเนโกรได้ถูกจักรวรรดิออตโตมันเข้ายึดครอง แต่ด้วยเหตุที่ว่าเป็นรัฐชายแดนทางตะวันตกของคาบสมุทรบอลข่าน อำนาจและอิทธิพลของจักรวรรดิจึงแผ่ขยายเข้าไปได้ไม่มากนัก กษัตริย์ของมอนเตเนโกรตั้งแต่ปลางยุคกลางจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 จึงมีอำนาจปกครองประเทศด้วยความอิสระพอควร
ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 กษัตริย์มอนเตเนโกร โดยพระเจ้านิโคลัสที่ 1 แห่งราชวงศ์นีเยกอช ทรงพยายามปลดแอกประเทศจากการอยู่ใต้อำนาจการปกครองของจักรวรรดิออตโตมันหลายครั้ง ซึ่งในที่สุดแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2421 (ค.ศ. 1878) รัสเซียซึ่งได้ทำสงครามกับจักรวรรดิออตโตมันได้รับชัยชนะและส่งผลให้มีการตกลงสนธิสัญญาซานสเตฟาโน ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้รัสเซียมีอิทธิพลมากขึ้นในกลุ่มรัฐบอลข่าน อังกฤษและออสเตรีย-ฮังการีจึงคัดค้านและนำไปสู่การประชุมใหญ่แห่งเบอร์ลิน เพื่อทบทวนสนธิสัญญาซานสเตฟาโนและจัดทำสนธิสัญญาเบอร์ลินขึ้นแทน ซึ่งสนธิสัญญฉบับนี้ส่งผลให้มอนเตเนโกรได้รับดินแดนเพิ่มเติมพร้อมเป็นเอกราชจากออตโตมัน
ความผันผวนทางการเมืองในคาบสมุทรบอลข่าน และกระแสชาตินิยมจากการเคลื่อนไหวของขบวนการอุดมการณ์รวมกลุ่มสลาฟ (Pan-Slavism) ได้นำไปสู่การเกิดสงครามบอลข่านสองครั้ง ระหว่างปี ค.ศ. 1912-1913 สงครามบอลข่านครั้งแรกเป็นสงครามระหว่างสันนิบาตบอลข่านซึ่งประกอบด้วยประเทศกรีซ บัลแกเรีย เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร กับจักรวรรดิออตโตมันซึ่งผลที่ออกมาคือชัยชนะของสันนิบาต ส่งผลให้ทางออตโตมันต้องสูญเสียดินแดนในยุโรปเกือบทั้งหมด พร้อมยอมให้มีการจัดตั้งประเทศแอลเบเนียขึ้น แต่เนื่องด้วยความไม่พอใจของเซอร์เบียและมอนเตเนโกรเพราะต้องการผนวกดินแดนชายฝั่งของแอบเบเนียเพื่อเป็นทางออกทะเล และความไม่พอใจของบัลแกเรียที่ได้เห็นว่าเซอร์เบียได้รับผลประโยชน์มากกว่า บัลแกเรียจึงเปิดฉากสงครามบอลข่านครั้งที่ 2 ขึ้นในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1913 แต่ผลออกมาคือการพ่ายแพ้ของบัลแกเรีย ส่งผลให้เซอร์เบียและมอนเตเนโกรได้รับดินแดนเพิ่มเติมอีกประมาณหนึ่งเท่าของพื้นที่เดิมของประเทศ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 มอนเตเนโกรได้เข้าสนับสนุนฝ่ายสัมพันธมิตรในการทำสงครามกับฝ่ายมหาอำนาจกลาง แต่ด้วยกองกำลังที่เล็กเพียงประมาณ 5 พันคน กองกำลังมอนเตเนโกรจึงประสบความพ่ายแพ้ต่อกองทัพออสเตรีย-ฮังการี
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1918) มอนเตเนโกรได้ตัดสินใจรวมประเทศเข้ากับราชอาณาจักรเซอร์เบีย ซึ่งในขณะนั้นเป็นแกนนำสำคัญในการรวมชนเชื้อสายสลาฟใต้เข้าด้วยกันหลังสงครามยุติและสถาปนา "ราชอาณาจักรแห่งชาวเซิร์บ โครแอต และสโลวีน" ขึ้น โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งยูโกสลาเวีย แห่งราชวงส์คาราจอร์เจวิชเป็นประมุขแห่งรัฐ แต่ต่อมาในปี ค.ศ. 1924 พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ทรงประกาศยุบสภาและปกครองด้วยระบอบเผด็จการ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "ยูโกสลาเวีย" แต่ด้วยความไม่พอใจของชนชาติต่าง ๆ ในการปกครองแบบเผด็จการของพระองค์ พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 จึงถูกลอบปลงพระชนม์โดยพวกโครแอตชาตินิยมในขณะที่เสด็จฯเยือน ประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ. 1934 เจ้าชายปีเตอร์ที่ 2 พระราชโอรสวัย 11 ชันษาจึงเสด็จขึ้นครองบัลลังก์แทน
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ยูโกสลาเวียถูกนานาประเทศเข้ายึดครอง ยอซีป บรอซ (Josip Broz) หรือตีโต (Tito) ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ยูโกสลาเวียจึงได้ก่อตั้งกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติเพื่อปลดปล่อยประเทศออกจากการยึดครอง ซึ่งในที่สุดก็สามารถปลดแอกตนเองออกมาได้ ส่วนตีโตนั้นได้รับการสนับสนุนให้เป็นผู้นำประเทศ ซึ่งเขาก็ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเป็นระบอบสังคมนิยมแบบสหภาพโซเวียตวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) และเปลี่ยนชื่อประเทศใหม่เป็น “สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย” ซึ่งประกอบด้วย 6 รัฐ กล่าวคือ สโลวีเนีย โครเอเชีย เซอร์เบีย บอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา มอนเตเนโกร และมาซิโดเนีย และอีก 2 จังหวัดปกครองตนเอง คือ คอซอวอและวอยวอดีนา และถึงแม้ว่ามอนเตเนโกรจะรวมตัวอยู่กับยูโกสลาเวียซึ่งมีการปกครองในระบอบสังคมนิยม แต่มอนเตเนโกรก็มีอำนาจการปกครองภายในอย่างสมบูรณ์
การล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปตะวันออกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 (ค.ศ. 1989) ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชของรัฐต่าง ๆ ที่รวมตัวกันอยู่ในยูโกสลาเวีย รัฐโครเอเชีย สโลวีเนีย มาซิโดเนีย และบอสเนีย-เฮอร์เซโกวีนา ได้ประกาศแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อปี พ.ศ. 2534 (ค.ศ. 1991) แต่เซอร์เบียและมอนเตเนโกรกลับรวมตัวกันอยู่ดังเดิม พร้อมกับเปลี่ยนระบบการปกครองเป็นประชาธิปไตยแบบรัฐสภา เปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสลาเวีย" และมีนายสลอบอดัน มีโลเชวิช (Slobodan Milosevic) เป็นประธานาธิบดีคนแรก ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) ได้มีการเปลี่ยนชื่อประเทศอีกครั้งเป็นเซอร์เบียและมอนเตเนโกร แต่ละรัฐมีอำนาจปกครองตนเองสูงสุด มีเพียงการทหารและการต่างประเทศที่รวมกันเป็นหลัก
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ได้มีการลงประชามติเพื่อแยกตัวเป็นเอกราชจากเซอร์เบีย โดยร้อยละ 55.4 ซึ่งเกินเกณฑ์ขั้นต่ำ (ร้อยละ 55) ที่สหภาพยุโรปกำหนดที่จะให้การรับรอง และด้วยเหตุนี้มอนเตเนโกรจึงประกาศแยกตัวเพื่อมาเป็นประเทศใหม่อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปีเดียวกัน ปัจจุบันมอนเตเนโกรได้รับการรับรองจากนานาประเทศและเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติลำดับที่ 192 และองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ หลายองค์การแล้ว [2]
การเมือง[แก้]
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]
มอนเตเนโกรแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 21 เมือง (opština)
ภูมิศาสตร์[แก้]
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เศรษฐกิจ[แก้]
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ประชากร[แก้]
- เชื้อชาติ มอนเตเนโกร 43.16% เซิร์บ 31.99% บอสเนีย 7.77% แอลเบเนีย 5.03% เชื้อชาติต่าง ๆ ที่เป็นชาวมุสลิม 3.97% โครแอต 1.1% ยิปซี (โรมา) อียิปต์ อิชคาลี 0.46%
- ศาสนา ศาสนาคริสต์นิกายออร์ทอดอกซ์ 74% ศาสนาอิสลาม 17.74%
วัฒนธรรม[แก้]
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง[แก้]
- สุจิตรา วุฒิเสถียร. สารานุกรมประเทศในทวีปยุโรป ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, 2550.
- ↑ "Montenegro". World Bank.
- ↑ http://www.mfa.go.th/web/479.php?id=281 กระทรวงการต่างประเทศ
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
ลำดับเหตุการณ์ของยูโกสลาเวีย
| |||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
Pre-1918 | 1918–1929 | 1929–1945 | 1941–1945 | 1945–1946 | 1946–1963 | 1963–1992 | 1991/1992–2003 | 2003–2006 | 2006–2008 | 2008– | |
สโลวีเนีย | ดูเพิ่มที่ ราชอาณาจักรแดลเมเชีย
1815–1918 |
ดูเพื่มที่ Banat, Bačka and Baranja 1918–1919 Italian province of Zadar
1920–1947 |
เป็นส่วนหนึ่งของa ฟาสซิสต์อิตาลี และ นาซีเยอรมนี |
สหพันธรัฐประชาธิปไตยยูโกสลาเวีย 1945–1946 สหพันธ์สาธารณรัฐประชาชนยูโกสลาเวีย 1946–1963 สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย 1963–1992 การปกครองโดย สาธารณรัฐสังคมนิยมสโลวีเนีย (1945–1991) สาธารณรัฐสังคมนิยมโครเอเชีย (1945–1991) สาธารณรัฐสังคมนิยมบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (1945–1992) สาธารณรัฐสังคมนิยมเซอร์เบีย (1945–1992) (รวมกับ จังหวัดสังคมนิยมอิสระวอยวอดีนา และ จังหวัดสังคมนิยมอิสระคอซอวอ) สาธารณรัฐสังคมนิยมมอนเตเนโกร (1945–1992)
สาธารณรัฐสังคมนิยมมาซิโดเนีย (1945–1991) ดูเพื่มที่ ดินแดนเสรีตรีเยสเต (1947–1954) j |
![]() สงครามสิบวัน | ||||||
แดลเมเชีย | รัฐหุ่นเชิด ของ นาซีเยอรมนี
ส่วนหนึ่งของ ฟาสซิสต์อิตาลี. Međimurje และ Baranja เป็นส่วนหนึ่งของ ฮังการี. |
![]() สงครามประกาศเอกราชโครเอเชีย | |||||||||
Slavonia | |||||||||||
โครเอเชีย | |||||||||||
บอสเนีย | ![]() สงครามบอสเนีย ประกอบกับ สหพันธรัฐบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา (1995–ปัจจุบัน), สาธารณรัฐเซิร์ปสกา (1995–ปัจจุบัน) และ Brčko District (2000–ปัจจุบัน). | ||||||||||
เฮอร์เซโกวีนา | |||||||||||
วอยวอดีนา | ส่วนหนึ่งของ Délvidék ภูมิภาคใน ฮังการี | Autonomous Banatd (part of the German
Territory of the Military Commander in Serbia) |
สหพันธ์สาธารณรัฐยูโกสวาเวีย | รัฐสหภาพเซอร์เบียและมอนเตเนโกร | ![]() |
![]() Includes the autonomous province of Vojvodina
| |||||
เซอร์เบีย | ราชอาณาจักรเซอร์เบีย 1882–1918 |
Territory of the Military Commander in Serbia 1941–1944 e | |||||||||
Kosovo | ส่วนหนึ่งของ ราชอาณาจักรเซอร์เบีย 1912–1918 |
Mostly annexed by Albania 1941–1944 along with western Macedonia and south-eastern Montenegro
|
![]() | ||||||||
Metohija | ราชอาณาจักรมอนเตเนโกร 1910–1918 Metohija ปกครองโดย ออสเตรีย-ฮังการี 1915–1918
| ||||||||||
มอนเตเนโกร | รัฐในอารักษามอนเตเนโกรf 1941–1944 |
![]() | |||||||||
นอร์ทมาซิโดเนีย | ส่วนหนึ่งของ ราชอาณาจักรเซอร์เบีย 1912–1918 |
ผนวกเป็นส่วนหนึ่งของ ราชอาณาจักรบัลแกเรีย 1941–1944 |
![]() | ||||||||
|
|