ข้ามไปเนื้อหา

ที่ราบสูงโกลัน

พิกัด: 33°00′N 35°45′E / 33.000°N 35.750°E / 33.000; 35.750
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ที่ราบสูงโกลัน

هَضْبَة الجَوْلَان
רָמַת הַגּוֹלָן
ที่ตั้งของที่ราบสูงโกลัน
ที่ตั้งของที่ราบสูงโกลัน
พิกัด: 33°00′N 35°45′E / 33.000°N 35.750°E / 33.000; 35.750
สถานภาพนานาชาติถือเป็นพื้นที่ของซีเรียที่ถูกอิสราเอลยึดครอง[1][2][a][b]
พื้นที่
 • ทั้งหมด1,800 ตร.กม. (700 ตร.ไมล์)
 • ยึดครองโดยอิสราเอล1,200 ตร.กม. (500 ตร.ไมล์)
 • ควบคุมโดยซีเรีย (รวมเขต UNDOF โดยนิตินัย 235 km2 (91 sq mi))600 ตร.กม. (200 ตร.ไมล์)
ความสูงจุดสูงสุด2,814 เมตร (9,232 ฟุต)
ความสูงจุดต่ำสุด−212 เมตร (−696 ฟุต)
ประชากร
ในเขตยึดครองโดยอิสราเอล[5][6][7][8]
 • ทั้งหมด40,000–50,000+ คน คน
 • อาหรับ (เกือบทั้งหมดเป็นดรูซ)20,000–25,700 คน
 • ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวอิสราเอลป. 25,000 คน
เขตเวลาUTC+2
 • ฤดูร้อน (เวลาออมแสง)UTC+3

ที่ราบสูงโกลัน (อาหรับ: هَضْبَةُ الْجَوْلَانِ, อักษรโรมัน: Haḍbatu l-Jawlān หรือ مُرْتَفَعَاتُ الْجَوْلَانِ, Murtafaʻātu l-Jawlān; ฮีบรู: רמת הגולן, Ramat HaGolan, ออกเสียง) เป็นภูมิภาคในลิแวนต์ที่มีเนื้อที่ราว 1,800 ตารางกิโลเมตร (690 ตารางไมล์) ความหมายของที่ราบสูงโกลันแตกต่างไปตามสาขาวิชา ในทางธรณีวิทยาและชีวภูมิศาสตร์ ที่ราบสูงโกลันหมายถึงที่ราบสูงหินบะซอลต์ที่มีอาณาบริเวณแม่น้ำยาร์มุกทางใต้ ทะเลกาลิลีและหุบเขาฮูลาทางตะวันตก เทือกเขาแอนติเลบานอนและภูเขาเฮอร์มอนทางเหนือ และ Ruqqad ทางตะวันออก ขณะที่ในทางภูมิรัฐศาสตร์จะหมายถึงพื้นที่ของซีเรียที่ถูกอิสราเอลยึดครองในสงครามหกวันเมื่อปี ค.ศ. 1967 และปกครองโดยอิสราเอลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981

หลักฐานแรกสุดที่ชี้ว่ามนุษย์ตั้งถิ่นฐานในที่ราบสูงโกลันอยู่ในช่วงปลายยุคหิน[9] ในยุคเหล็ก ที่ราบสูงแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเกชูร์ตามพระคัมภีร์ ซึ่งภายหลังถูกผนวกเข้ากับอารัม-ดามัสกัส[10][11] หลังการปกครองของอัสซีเรีย, บาบิโลเนีย และเปอร์เซีย ภูมิภาคนี้จึงตกอยู่ภายใต้การควบคุมของอะเล็กซานเดอร์มหาราชเมื่อ 332 ปีก่อน ค.ศ.[12][13] ต่อมา อาณาจักรอิตูเรียและราชวงศ์ฮัสโมเนียนเข้าคอรบครองโกลันชั่วครู่ จากนั้นจักรวรรดิโรมันเข้าควบคุมพื้นที่นี้ ในตอนแรกผ่านราชวงศ์เฮโรดแล้วเข้าควบคุมโดยตรง[14][15][16] หลังจากนั้นอาณาจักรฆอสซานิดที่เป็นพันธมิตรกับไบแซนไทน์ปกครองพื้นที่นี้ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 3 จนกระทั่งรัฐเคาะลีฟะฮ์อัรรอชิดูนเข้าผนวกในช่วงการพิชิตลิแวนต์ของมุสลิมในคริสต์ศตวรรษที่ 7 รัฐเคาะลีฟะฮ์อุมัยยะฮ์, รัฐเคาะลีฟะฮ์อับบาซียะฮ์, รัฐเคาะลีฟะฮ์ฟาฏิมียะฮ์ และรัฐสุลต่านมัมลูกเข้าควบคุมพื้นที่นี้ตามลำดับ จนกระทั่งจักรวรรดิออตโตมันเข้าพิชิตในคริสต์ศตวรรษที่ 16[17] โดยเป็นส่วนหนึ่งของซีเรียวีลาเยตในซีเรียของออตโตมัน[18] หลังจากนั้นจึงกลายเป้นส่วนหนึ่งของซีเรียภายใต้อาณัติของฝรั่งเศสและรัฐดามากัส[19] เมื่อยุบเลิกอาณัติใน ค.ศ. 1946 พื้นที่นี้จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐอาหรับซีเรียที่กินพื้นที่ประมาณ 1,800 km2 (690 sq mi)

นับตั้งแต่สงครามหกวันเมื่อ ค.ศ. 1967 พื้นที่ทางตะวันตกสองในสามของที่ราบสูงโกลันถูกยึดและปกครองโดยอิสราเอล[1][2] ขณะที่พื้นที่ทางตะวันออกอยู่ใต้การปกครองของซีเรีย ซีเรียปฏิเสธที่จะเจรจากับอิสราเอลตามข้อมติคาร์ทูมหลังสงคราม[20] ใน ค.ศ. 1974 มีการจัดตั้งพื้นที่กันชนที่ดูแลโดยกองกำลังสังเกตการณ์การถอนกำลังแห่งสหประชาชาติ (UNDOF) ระหว่างอิสราเอล–ซีเรีย[21] ด้านอิสราเอลปกครองส่วนที่ยึดได้ด้วยกำลังทหารจนกระทั่งมีการผ่านกฎหมายปกครองในปี ค.ศ. 1981 ซึ่งบางฝ่ายมองว่าเป็นการผนวกดินแดน[22] ฝ่ายคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประณามการผ่านกฎหมายนี้ โดยกล่าวว่า "การตัดสินใจของอิสราเอลในการบังคับใช้กฎหมาย เขตอำนาจ และการจัดการการปกครองที่ราบสูงโกลันที่ยึดครองจากซีเรียถือเป็นโมฆะ และไม่มีผลทางกฎหมายระหว่างประเทศ"[23] คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังเน้นย้ำถึง "การถือครองดินแดนด้วยสงครามเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้" ตามข้อมติที่ 242 ซึ่งอิสราเอลก็อ้างสิทธิ์ในการถือครองที่ราบสูงนี้ตามข้อมติเดียวกันที่เรียกร้องให้มี "เขตแดนที่ปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับ ปลอดจากภัยคุกคามและกำลังทหาร"[24] เมื่อเกิดสงครามกลางเมืองซีเรียในปี ค.ศ. 2011 การปกครองที่ราบสูงโกลันของซีเรียแตกออกเป็นฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้าน และกลายเป็นสมรภูมิรบของทั้งสองฝ่ายจนในปี ค.ศ. 2018 ฝ่ายรัฐบาลก็มีชัยและควบคุมฝั่งตะวันออกไว้ได้[25]

ในปี ค.ศ. 2019 ดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศยอมรับที่ราบสูงโกลันเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอล ทำให้สหรัฐกลายเป็นชาติแรกที่ยอมรับอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงนี้[26] ด้านสหภาพยุโรปประกาศไม่ยอมรับอำนาจอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงโกลัน[27] ขณะที่อังตอนียู กูแตรึช เลขาธิการสหประชาชาติกล่าวว่า "สถานภาพของที่ราบสูงโกลันนั้นไม่เปลี่ยนแปลง"[28]

หมายเหตุ

[แก้]
  1. ดูสถานะของที่ราบสูงโกลัน
  2. สหรัฐรับรองความเป็นอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงโกลันในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2019 ถือเป็นชาติแรกที่ให้การรับรองโกลันเป็นดินแดนของอิสราเอล ส่วนนานาชาติถือเป็นดินแดนซีเรียที่อิสราเอลยึดครอง[3][4]

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ occupiedSyrian
  2. 2.0 2.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ korman_condemned
  3. Trump signs decree recognizing Israeli sovereignty over Golan Heights, Reuters, 25 March 2019
  4. Lee, Matthew; Riechmann, Deb (2019-03-25). "Trump signs declaration reversing US policy on Golan Heights". AP NEWS. สืบค้นเมื่อ 2019-03-27.
  5. "Israel approves plan to double settler population in Golan Heights". France 24. 26 December 2021.
  6. "Israel to send 250,000 settlers to occupied Golan". www.aa.com.tr.
  7. Statistical Abstract of Israel 2018, 2.17 เก็บถาวร 20 พฤศจิกายน 2019 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Israel Central Bureau of Statistics.
  8. Golan Heights profile เก็บถาวร 17 มิถุนายน 2019 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน 25 March 2019 BBC
  9. Tina Shepardson. Stones and Stories: Reconstructing the Christianization of the Golan, เก็บถาวร 15 เมษายน 2001 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Biblisches Forum, 1999.
  10. Kochavi, Moshe (1989). "The Land of Geshur Project: Regional Archaeology of the Southern Golan (1987–1988 Seasons)". Israel Exploration Journal. 39 (1/2): 3. ISSN 0021-2059. JSTOR 27926133.
  11. Michael Avi-Yonah (1979). The Holy Land – from the Persian to the Arab Conquests (536 B.C. to A.D. 640) A Historical Geography, Grand Rapids, Michigan, p. 170 ISBN 978-0-8010-0010-2
  12. HaReuveni, Immanuel (1999). Lexicon of the Land of Israel (in Hebrew). Miskal – Yedioth Ahronoth Books and Chemed Books. pp. 662–663 ISBN 978-965-448-413-8.
  13. Vitto, Fanny, Ancient Synagogue at Rehov, Israel Antiquities Authority, Jerusalem 1974
  14. Gevirtz, Gila (2008). Jewish History: The Big Picture (ภาษาอังกฤษ). Behrman House, Inc. p. 25. ISBN 978-0-87441-838-5.
  15. Avraham Negev; Shimon Gibson (2005). Archaeological Encyclopedia of the Holy Land (Paperback ed.). Continuum. p. 249. ISBN 978-0-8264-8571-7.
  16. Syon, Danny (2014). Gamla III: The Shmarya Gutmann Excavations, 1976–1989. Finds and Studies[ลิงก์เสีย] (PDF). Vol. 1. Jerusalem: Israel Antiquities Authority Reports, No. 56. ISBN 978-965-406-503-0. p. 4 "Scholarly consensus holds that the Golan became populated by Jews following the conquests of Jannaeus in c. 80 BCE and as a direct result of these conquests."
  17. Butcher, Kevin (2003). Roman Syria and the Near East (ภาษาอังกฤษ). Getty Publications. ISBN 978-0-89236-715-3.
  18. Michael J. Cohen (1989). The Origins and Evolution of the Arab-Zionist Conflict. University of California Press. p. 21. ISBN 978-0-520-90914-4.
  19. The French Mandate in Syria, 1925–26, New York: Editorial Information Service of the Foreign Policy Association, 1925, สืบค้นเมื่อ 16 November 2020
  20. "This Week in History: The Arab League Three No's". The Jerusalem Post. สืบค้นเมื่อ 4 December 2017.
  21. "Agreement on Disengagement between Israeli and Syrian Force". Report of the Secretary-General concerning the Agreement on Disengagement between Israeli and Syrian Forces. United Nations. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 April 2012. สืบค้นเมื่อ 29 November 2011.
  22. Rabinowitz, Dan (28 March 2012). "17: Identity, the State and Borderline Disorder". ใน Thomas M. Wilson and Hastings Donnan (บ.ก.). A Companion to Border Studies. John Wiley & Sons. pp. 307–308. ISBN 978-1-118-25525-4.
  23. UN Security Council Resolution 497
  24. Y.Z Blum "Secure Boundaries and Middle East Peace in the Light of International Law and Practice" (1971) pages 24–46
  25. AP and TOI staff (2018-07-31). "Syria boots IS from Golan Heights, retaking full control of frontier with Israel". www.timesofisrael.com (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2019-03-25.
  26. Trump, Donald J. (2019-03-25). "Proclamation on Recognizing the Golan Heights as Part of the State of Israel". The White House (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-04-29. สืบค้นเมื่อ 2019-03-25.
  27. Stone, Jon (March 28, 2019). "EU member states unanimously reject Israel's sovereignty over Golan Heights, defying Trump and Netanyahu". The Independent. สืบค้นเมื่อ November 1, 2020.
  28. "U.N. chief clear that Golan status has not changed: spokesman". March 25, 2019 – โดยทาง www.reuters.com.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]