คริสเตียโน โรนัลโด
![]() โรนัลโดขณะเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส ในปี ค.ศ.2018 | |||
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | กริชตียานู รูนัลดู ดุช ซังตุช อาไวรู | ||
วันเกิด | 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1985 (34 ปี) | ||
สถานที่เกิด | ฟุงชาล มาเดรา โปรตุเกส | ||
ส่วนสูง | 1.86 เมตร (6 ฟุต 1 นิ้ว)[1] | ||
ตำแหน่ง | กองหน้า | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | ยูเวนตุส | ||
หมายเลข | 7 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1993–1995 | อังดูรีญา | ||
1995–1997 | นาซียูนัล | ||
1997–2002 | สปอร์ติงลิสบอน | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2002–2003 | สปอร์ติงลิสบอน | 25 | (3) |
2003–2009 | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด | 196 | (84) |
2009–2018 | เรอัลมาดริด | 292 | (311) |
2018– | ยูเวนตุส | 31 | (21) |
ทีมชาติ‡ | |||
2001 | โปรตุเกส อายุไม่เกิน 15 ปี | 9 | (7) |
2001–2002 | โปรตุเกส อายุไม่เกิน 17 ปี | 7 | (5) |
2002–2003 | โปรตุเกส อายุไม่เกิน 21 ปี | 5 | (1) |
2003 | โปรตุเกส อายุไม่เกิน 20 ปี | 10 | (3) |
2004 | โปรตุเกส อายุไม่เกิน 23 ปี | 3 | (2) |
2003– | โปรตุเกส | 158 | (88) |
* นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้กับสโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้กับทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2019 |
กริชตียานู รูนัลดู ดุช ซังตุช อาไวรู (โปรตุเกส: Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro; เกิด 5 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1985) หรือที่รู้จักกันในชื่อ คริสเตียโน โรนัลโด เป็นนักฟุตบอลชาวโปรตุเกส ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าให้กับยูเวนตุสในเซเรียอา และเป็นกัปตันทีมชาติโปรตุเกสคนปัจจุบัน โรนัลโดเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดเป็นอันดับหกในประวัติศาสตร์ฟุตบอล หลังย้ายจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มาอยู่กับเรอัลมาดริด ด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ โรนัลโดได้รับค่าจ้างในการลงเล่นให้กับเรอัลมาดริดจำนวน 12 ล้านปอนด์ต่อปี ทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก[2]
โรนัลโดได้ลงเล่นฟุตบอลในนามทีมเยาวชนของอังดูรีญา เมื่อเขาเล่นได้อยู่สองปี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับนาซียูนัลในปี 1997 เขาได้ทำสัญญาให้กับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างสปอร์ติงลิสบอน โรนัลโดได้ถูกพิจารณาย้ายตัวไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยคนที่ซื้อเขาคือ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซื้อตัวเขามาด้วยจำนวนเงิน 12.24 ล้านปอนด์ โรนัลโดได้แชมป์เอฟเอคัพ ซึ่งเป็นเกียรติประวัติแชมป์แรกของเขาในปี 2003
โรนัลโดลงเล่นในเกมของฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส ในระดับชาตินัดแรกคือตอนเจอกับคาซัคสถาน ในเดือนสิงหาคม 2003 และหลังจากนั้นเขาได้ลงเล่นมากขึ้นรวมทั้งหมดถึงห้าทัวร์นาเมนต์ ได้แก่ ยูโร 2004, ฟุตบอลโลก 2006, ยูโร 2008, ฟุตบอลโลก 2010 และยูโร 2012 เขาทำประตูแรกในนามทีมชาติโปรตุเกสได้ในการแข่งขันยูโร 2004 ในนัดเปิดการแข่งขันที่เจอกับกรีซ เขาเป็นคนสำคัญในการนำทีมชาติโปรตุเกสเข้าไปชิงชนะเลิศในปี 2004 และหลังจากนั้นโรนัลโดได้มีบทบาทและได้ลงตำแหน่งตัวจริงมากขึ้น ในปี 2008 โรนัลโดได้เป็นกัปตันทีมครั้งแรกของทีมชาติโปรตุเกสได้นำทีมเข้าแข่งขันยูโร 2008 สามารถเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศได้ เขาสามารถยิงได้สามประตูในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ ในวันที่ 16 ตุลาคม 2012 โรนัลโดได้ลงเล่นครบ 100 นัดสำหรับทีมชาติโปรตุเกสในนัดที่เจอกับไอร์แลนด์เหนือ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในสามนักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกสเกิน 100 นัด[3] ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2012 เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของเขาได้มีคนติดตามถึง 50 ล้านคน[4]
ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 มีการจัดอันดับตำแหน่งนักเตะรูปงามแห่งยูโร 2008 จัดทำโดยแอลจี บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า คริสเตียโน โรนัลโดได้รับคะแนนโหวตครั้งนี้เป็นอันดับ 1[5] ในปี 2012 โรนัลโดได้รับรางวัลนักกีฬาไอบีเรีย-อเมริกา ประจำปี 2012 ประเภทนักฟุตบอลชาย[6]
เนื้อหา
ประวัติ
คริสเตียโน โรนัลโด เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 ที่เกาะมาเดรา ประเทศโปรตุเกส เป็นบุตรชายของนายฌูแซ ดีนิช อาไวรู (เสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2548 ขณะมีอายุ 52 ปี) กับนางมารีอา ดูโลรึช อาไวรู เป็นบุตรชายคนเล็กในพี่น้อง 4 คน ถึงแม้ตอนเกิดเขาจะคลอดก่อนกำหนดแต่ก็มีน้ำหนักสมบูรณ์ถึง 8 ปอนด์ ทวดฝ่ายมารดาของเขา อีซาแบล ดา ปีดาดึ มีพื้นเพมาจากประเทศกาบูเวร์ดี (เคปเวิร์ด)[7]
ที่มาของชื่อโรนัลโดนั้น บิดาของเขาเป็นผู้ตั้งให้ โดยได้แรงบันดาลใจจากชื่อของนายโรนัลด์ เรแกน อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบุคคลที่บิดาของโรนัลโดชื่นชอบตั้งแต่เรแกนยังเป็นนักแสดงอยู่[8]
ครอบครัวของโรนัลโดอาศัยอยู่ที่ย่านกิงตาดูฟัลเซา เขตซังตูอังตอนียูของเมืองฟุงชาล ซึ่งเป็นเขตที่มีประชากรยากจนอาศัยอยู่มาก โรนัลโดเริ่มเล่นฟุตบอลที่นี่ ซึ่งในตอนเด็กเขาจะชอบเล่นฟุตบอลมาก บริเวณตามถนน พอตอนเขาอายุ 6 ขวบ เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในทีมชุดใหญ่ของทีมอังดูรีญา (Andorinha) โดยการชักชวนของญาติเขาที่อยู่ในทีมนี้ พอถึงปี พ.ศ. 2538 โรนัลโดย้ายไปอยู่กับทีมนาซียูนัล (Nacional) โดยมีการจ่ายค่าตัวเป็นชุดฟุตบอลและลูกบอล[9]
นักฟุตบอลเยาวชน
ในช่วงที่โรนัลโดอายุ 8 ขวบ โรนัลโดได้เล่นให้กับสโมสรฟุตบอลอังดูรีญา ซึ่งพ่อของเขาเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรแห่งนี้ ในปี ค.ศ. 1995 โรนัลโดได้ทำสัญญากับสโมสรฟุตบอลท้องถิ่นคือ สโมสรฟุตบอลนาซียูนัล และได้เล่นให้กับสโมสรนี้เป็นเวลา 5 ปี แล้วได้ย้ายไปอยู่กับสปอร์ติกกลูบีดีปูร์ตูกาล (สปอร์ติงลิสบอน) ในช่วงปี ค.ศ. 1997 และได้สำเร็จการเล่นฟุตบอลเยาวชนให้กับในประเทศของตน
นักฟุตบอลอาชีพ
สปอร์ติกกลูบีดีปูร์ตูกาล
ในปี ค.ศ. 2002 โรนัลโดในวัย 17 ปีได้ย้ายมาเล่นให้กับสปอร์ติกกลูบีดีปูร์ตูกาล (สปอร์ติงลิสบอน) เนื่องจากในช่วงนั้นสโมสรฟุตบอลชื่อดังในโปรตุเกสได้เห็นความสนใจของโรนัลโดมากแต่เขาเลือกที่จะมาอยู่กับสปอร์ติงลิสบอน โดยโรนัลโดได้ลงเล่นเป็นตำแหน่งกองหน้า และได้มีโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงเยอะ โรนัลโดโชว์ฝีเท้าได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการหลบหลีกคู่ต่อสู้ การแย่งชิงบอล การยิงจากระยะไกล และการทำประตูอย่างแม่นยำ ทำให้โรนัลโดในช่วงนั้นโด่งดังไปทั่วในทวีปยุโรป และโรนัลโดมีจุดเด่นที่มีทักษะในการครองบอลและมีความคล่องตัวสูง ด้วยจุดนี้เอง ทำให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชื่อดังของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ได้สนใจที่จะนำโรนัลโดมาร่วมทีม ซึ่งการเจรจาซื้อตัวโรนัลโดก็เป็นที่สำเร็จ โดยก่อนที่โรนัลโดจะออกจากประเทศโปรตุเกส โรนัลโดเล่นให้กับสปอร์ติกกลูบีดีปูร์ตูกาล ไปแล้วทั้งสิ้น 31 นัด ทำไป 5 ประตู
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ฤดูกาล 2003–2006
โรนัลโดได้ย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยค่าตัว 12.24 ล้านปอนด์ ในฤดูกาล 2002–03 โรนัลโดใช้เวลาไม่นานนักในการปรับตัวให้เข้ากับพรีเมียร์ลีก และผลงาน 8 ประตู จากการลงสนาม 39 นัด ซึ่งรวมถึงประตูแรกในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพกับ มิลล์วอลล์ ก็ทำให้เขาได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (Sir Matt Busby Player of the Year) ประจำฤดูกาล 2003/04 โรนัลโดกับการพาทีมชาติโปรตุเกสผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในศึกยูโร 2004 ก่อนพ่ายให้กับ กรีซ 0 - 1
ในฤดูกาลที่ 2 ของโรนัลโดกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฟอร์มไม่ดีเท่ากับปีแรก หลังจากที่จบฤดูกาลด้วยการลงสนาม 50 นัด แต่ทำได้แค่ 9 ประตู และในฤดูกาล 2005–06 โรนัลโดก็เรียกฟอร์มเก่งของตัวเองมาได้อีกครั้งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ด้วยการทำ 12 ประตู จากการลงสนาม 47 นัด
โรนัลโดคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของฟิฟโปร (FIFPro Special Young Player of the Year 2005) ซึ่งเป็นรางวัลเดียวที่ให้แฟน ๆ เป็นผู้ลงคะแนนโหวตตัดสิน และในปีเดียวกันเขาก็ได้อันดับที่ 20 ในตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าด้วย
ฤดูกาล 2006–2009
ในศึกฟุตบอลโลก 2006 โรนัลโดถูกแฟนบอลอังกฤษรุมโห่ไล่หลังจากที่มีส่วนทำให้เวย์น รูนีย์ เพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ต้องถูกไล่ออกในเกมที่อังกฤษพบกับโปรตุเกส โรนัลโดถูกสื่อในอังกฤษกดดันและต่อว่า อย่างไรก็ดีโรนัลโดยังคงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด[10]
เมษายน 2007 คริสเตียโน โรนัลโด คว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมและผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปี 2007 ของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษหรือพีเอฟเอไปครอง โดยเป็นผู้เล่นรายที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้ารางวัลเกียรติยศทั้งสองมาครอบครองในเวลาเดียวกัน หลังโชว์ฟอร์มสุดยอดมาตลอดฤดูกาลนี้โดยก่อนหน้านี้ แอนดี เกรย์ เคยทำได้เมื่อปี 1977 หรือ ราว 30 ปีก่อน[11]
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ค.ศ. 2009 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยอมรับว่า ได้รับข้อเสนอการซื้อตัวจากสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริดด้วยค่าตัว 80 ล้านปอนด์ ซึ่งก็ปรากฏว่าโรนัลโดก็มีความต้องการที่จะออกจากสโมสรเช่นกัน โดยเขาได้ตกลงย้ายออกไป การซื้อตัวครั้งนี้ถือเป็นสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลก[12]
โดยผลงานของโรนัลโดได้ลงเล่นเป็นตัวจริง 299 นัด ทำประตูได้ 118 ประตู
เรอัลมาดริด
ฤดูกาล 2009–10

ในวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 2009 สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด ได้ซื้อตัวโรนัลโดมาด้วยค่าตัวถึง 80 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นสถิติการซื้อนักฟุตบอลที่แพงที่สุดในโลกจากสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในประเทศอังกฤษ เขาได้รับตำแหน่งสวมเสื้อหมายเลข 9 โดยในฤดูกาลนี้โรนัลโดทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมโดยได้ลงเล่นเป็นตังจริงทั้งหมด ถึง 35 นัด ทำประตูไปได้ 33 ประตู ซึ่งครองดาวซัลโวสูงสุดของลาลิกา ในฤดูกาลนี้ โดยโรนัลโดได้ถูกเล่นในตำแหน่งกองหน้า และบางครั้งเขาอาจจะเล่นในตำแหน่งปีกขวา โรนัลโดทำประตูแรกตั้งแต่มาอยู่กับเรอัลมาดริดคือในนัดที่เจอกับสโมสรฟุตบอลอัตเลติโกเดมาดริด โดยเรอัลมาดริดชนะไป 2-0 และในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2009 โรนัลโดได้ยิงลูกฟรีคิกระยะใก้ลถึงสองครั้งในนัดที่เจอกับเอฟซี ซูริช โดยเรอัลมาดริดชนะไป 5-2 ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม
ฤดูกาล 2010–11
พอเข้าสู่ฤดูกาลที่ 2 ของโรนัลโด เขาได้ถูกเปลี่ยนเบอร์ของเสื้อจากเบอร์ 9 เป็นเบอร์ 7 และได้เปลี่ยนผู้จัดการทีมมาเป็นโชเซ มูรีนโย ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกสที่รู้จักในตัวของโรนัลโดเป็นอย่างดี ในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2010 ในนัดที่เรอัลมาดริดเจอกับราซินเดซันตันเดร์ โดยโรนัลโดทำประตูไปได้ถึง 4 ประตู ทำให้เรอัลมาดริดชนะไป 4-0 แล้วในนัดที่เจอกับ สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา โดยเรอัลมาดริดไปเยือนที่กัมนอว์ แพ้ไป 5-0 ซึ่งโรนัลโดก็ได้มีจังหวะยิงหลายครั้ง แล้วหลังจากในนัดนั้น เรอัลมาดริดได้เปิดบ้านพบกับอัตเลติกเดบิลบาโอ โดยในนัดนั้นโรนัลโดเกือบทำแฮตทริกได้โดยเขายิงไป 5 ประตู ในช่วงเวลาต่างกันไม่เกิน 6 นาที ทำให้ชนะไป 6-1 และในช่วงปลายปี ค.ศ. 2010 เขาได้ทำเกือบทำซูเปอร์แฮตทริกเป็นครั้งแรกในตัวของเขาโดยในถ้วยโกปาเดลเรย์กับเลบันเตอูเด โดยโรนัลโดทำไป 5 ประตู และแฮตทริกของการีม แบนเซมา ทำให้เรอัลมาดริดชนะไป 8-0
ฤดูกาล 2011–12
ความสำเร็จและการพัฒนาของโรนัลโดในช่วงอยู่กับเรอัลมาดริดเริ่มดีขึ้น โดยโรนัลโดซัดประตูในฤดูกาลนี้ไป 60 ประตู (รวมทุกรายการ) และได้เล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกไปจนถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ก็แพ้ สโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก ไป 3-1 (ดวลจุดโทษ) แต่โรนัลโดก็สามารถนำทีมได้แชมป์ลาลิกา ได้เป็นครั้งที่ 32 ของสโมสร โดยในช่วงปลายฤดูกาล เรอัลมาดริดกับบาร์เซโลนาได้แข่งขันกันที่กัมนอว์ ในนัดที่ 2 ซึ่งโรนัลโดก็เป็นฮีโรโดยเขาได้ยิงประตูชัยสุดสำคัญในการนำทีมเรอัลมาดริดคว้าแชมป์ลาลิกาด้วยการชนะสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ไป 2-1 ที่กัมนอว์ และจบอันดับ 1 ของตาราง และเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของโลกที่ทำคะแนนได้ 100 คะแนน
ทีมชาติ

โรนัลโดได้ลงเล่นให้กับฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส นัดแรกที่โปรตุเกสชนะคาซัคสถาน ไป 1-0 ในวันที่ 20 สิงหาคม ค.ศ. 2003[13]
ยูโร 2004
โรนัลโดได้ถูกเรียกตัวไปไปเล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004[14] ประตูแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ของเขาคือตอนที่โปรตุเกสชนะกรีซไป 2-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม [15] และจากนั้นก็ยิงประตูต่อในนัดรอบก่อนรองชนะเลิศที่โปรตุเกสเจอกับเนเธอร์แลนด์ ซึ่งโปรตุเกสชนะไป 2-1[16] เขาได้เป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีมนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำแห่งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปของการแข่งขันแม้จะยิงได้เพียงแค่ 2 ประตู.[17]นอกจากนี้เขายังเป็นตัวแทนของทีมชาติโปรตุเกสในโอลิมปิกฤดูร้อน 2004[18][19]
ฟุตบอลโลก 2006
โรนัลโดได้เป็นรองดาวซัลโวในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ในโซนยุโรปด้วยการยิงไป 7 ประตู[17] และประตูแรกของเขาในฟุตบอลโลก คือนัดที่พบกับอิหร่าน ด้วยการยิงลูกโทษ[20] เมื่อมาถึงรอบคัดเลือกรอบสุดท้าย ได้พบกับอังกฤษในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 โรนัลโดได้พบเพื่อนร่วมทีมจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ซึ่งก็คือ เวย์น รูนีย์ และรูนีย์ได้ไปทำฟาวล์ใส่กองหลังทีมชาติโปรตุเกสซึ่งคือ รีการ์ดู การ์วัลยู สื่ออังกฤษสันนิษฐานว่าโรนัลโดมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้ตัดสินโอราซีโอ เอลีซอนโด โดยอุกอาจบ่นหลังจากที่เขาได้เห็นตรงม้านั่งสำรองของทีมชาติโปรตุเกสหลังจากการไล่รูนีย์ออก หลังการแข่งขันโรนัลโดยืนยันว่ารูนีย์เป็นเพื่อนของเขาและว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่เกี่ยวกับการไล่รูนีย์ออกจากสนาม[21] วันที่ 4 กรกฎาคม อริซอนโดได้บอกกับทางสื่อว่าการที่เขาแจกใบแดงให้รูนีย์เพราะเป็นการทำผิดของกฎฟุตบอลเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับโรนัลโดเลย[22]
หนังสือพิมพ์ของประเทศอังกฤษ ได้ประกาศข่าวร้ายของโรนัลโดเนื่องจากในข่าวบอกว่าเขาจะออกจากสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดจากเหตุใบแดงของรูนีย์[23] และเขาได้ถูกกล่าวลงในหนังสือกีฬาประจำวันของประเทศสเปนว่าเขาจะย้ายไปอยู่กับเรอัลมาดริด[24]และเมื่อเฟอร์กูสันผู้จัดการทีมได้ทราบเขาเลยส่งผู้ช่วยการ์ลุช ไกรอช เพื่อมาพูดคุยกับโรนัลโดเพื่อเปลี่ยนความคิดของเขาในการย้ายจากสโมสรเพราะเหตุการณ์ของรูนีย์[25][26] โรนัลโดตัดสินใจอยู่กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และทำสัญญาใหม่ของเขาเป็นเวลา 5 ปี ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2007[27]
โรนัลโดถูกโห่ในระหว่างการแข่งขันโปรตุเกสกับฝรั่งเศสในรอบก่อนรองชนะเลิศซึ่งโปรตุเกสได้แพ้ไป[28] และพลาดรางวัลผู้เล่นของการแข่งขันที่ดีที่สุด.[29] แม้ว่าการโหวตออนไลน์รับผลกระทบเพียงกระบวนการสรรหา กลุ่มศึกษาทางเทคนิคของฟีฟ่าได้รับรางวัลเกียรติยศของเยอรมนีไปให้ลูคัส โพดอลสกี โดยอ้างว่าพฤติกรรมของโรนัลโดเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ[30]
ประตูในนามทีมชาติ
# | วันที่ | สถานที่ | คู่แข่ง | ประตู | ผล | รายการ
|
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 12 มิถุนายน 2004 | โปร์ตู, โปรตุเกส | ![]() |
1–2 | 1–2 | ยูโร 2004 |
2 | 30 มิถุนายน 2004 | เอสตาดีอู ฌูแซ อัลวาลาดึ, ลิสบอน, โปรตุเกส | ![]() |
1–0 | 2–1 | ยูโร 2004 |
3 | 4 กันยายน 2004 | สคอนโตสเตเดียม, รีกา, ลัตเวีย | ![]() |
0–1 | 0–2 | ฟุตบอล 2006 รอบคัดเลือก |
4 | 8 กันยายน 2004 | เอสตาดีอู ดร. มากัลไยช์ เปซัว, ไลรีอา, โปรตุเกส | ![]() |
1–0 | 4–0 | ฟุตบอล 2006 รอบคัดเลือก |
5 | 13 ตุลาคม 2004 | เอสตาดีโอ ฌูแซ อัลวาลาดึ, ลิสบอน, โปรตุเกส | ![]() |
2–0 | 7–1 | ฟุตบอล 2006 รอบคัดเลือก |
6 | 13 ตุลาคม 2004 | เอสตาดีโอ ฌูแซ อัลวาลาดึ, ลิสบอน, โปรตุเกส | ![]() |
4–0 | 7–1 | ฟุตบอล 2006 รอบคัดเลือก |
7 | 17 พฤศจิกายน 2004 | ชตาเดอ โยซี บาร์เทิล, ลักเซมเบิร์ก, ลักเซมเบิร์ก | ![]() |
0–2 | 0–5 | ฟุตบอล 2006 รอบคัดเลือก |
8 | 4 มิถุนายน 2005 | อิสตาจีอูดาลูซ, ลิสบอน, โปรตุเกส | ![]() |
2–0 | 2–0 | ฟุตบอล 2006 รอบคัดเลือก |
9 | 8 มิถุนายน 2005 | เอ. เลอก็อกอารีนา, Tallinn, เอสโตเนีย | ![]() |
0–1 | 0–1 | ฟุตบอล 2006 รอบคัดเลือก |
10 | 1 มีนาคม 2006 | เอลเทอู อาเรนา, ดึสเซลดอร์ฟ, เยเรอมนี | ![]() |
0–1 | 0–3 | กระชับมิตร |
11 | 1 มีนาคม 2006 | เอลเทอู อาเรนา, ดึสเซลดอร์ฟ, เยอรมนี | ![]() |
0–3 | 0–3 | กระชับมิตร |
12 | 17 มิถุนายน 2006 | วัลด์สตาเดชัน, แฟรงก์เฟิร์ต, เยอรมนี | ![]() |
2–0 | 2–0 | ฟุตบอลโลก 2006 |
13 | 7 ตุลาคม 2006 | เอสตาดีอูดูเบซา, โปร์ตู, โปรตุเกส | ![]() |
1–0 | 3–0 | ยูโร 2008 รอบคัดเลือก |
14 | 7 ตุลาคม 2006 | เอสตาดีอูดูเบซา, โปร์ตู, โปรตุเกส | ![]() |
3–0 | 3–0 | ยูโร 2008 รอบคัดเลือก |
15 | 15 พฤศจิกายน 2006 | Estádio Cidade de Coimbra, กูอิงบรา, โปรตุเกส | ![]() |
2–0 | 3–0 | ยูโร 2008 รอบคัดเลือก |
16 | 24 March 2007 | Estádio José Alvalade, Lisbon, Portugal | ![]() |
2–0 | 4–0 | ยูโร 2008 รอบคัดเลือก |
17 | 24 March 2007 | Estádio José Alvalade, Lisbon, Portugal | ![]() |
4–0 | 4–0 | ยูโร 2008 รอบคัดเลือก |
18 | 22 August 2007 | Hanrapetakan Stadium, Yerevan, Armenia | ![]() |
1–1 | 1–1 | ยูโร 2008 รอบคัดเลือก |
19 | 8 September 2007 | Estádio da Luz, Lisbon, Portugal | ![]() |
2–1 | 2–2 | ยูโร 2008 รอบคัดเลือก |
20 | 17 October 2007 | Almaty Central Stadium, Almaty, Kazakhstan | ![]() |
0–2 | 1–2 | ยูโร 2008 รอบคัดเลือก |
21 | 11 June 2008 | Stade de Genève, Geneva, Switzerland | ![]() |
1–2 | 1–3 | ยูโร 2008 |
22 | 11 February 2009 | Estádio Algarve, Faro, Portugal | ![]() |
1–0 | 1–0 | กระชับมิตร |
23 | 21 June 2010 | Cape Town Stadium, Cape Town, South Africa | ![]() |
6–0 | 7–0 | 2010 World Cup |
24 | 8 October 2010 | Estádio do Dragão, Porto, Portugal | ![]() |
3–1 | 3–1 | Euro 2012 Qualification |
25 | 12 October 2010 | Laugardalsvöllur, Reykjavík, Iceland | ![]() |
0–1 | 1–3 | Euro 2012 Qualification |
26 | 9 February 2011 | Stade de Genève, Geneva, Switzerland | ![]() |
1–1 | 2–1 | Friendly |
27 | 10 August 2011 | Estádio Algarve, Faro, Portugal | ![]() |
2–0 | 5–0 | Friendly |
28 | 2 September 2011 | GSP Stadium, Nicosia, Cyprus | ![]() |
0–1 | 0–4 | Euro 2012 Qualification |
29 | 2 September 2011 | GSP Stadium, Nicosia, Cyprus | ![]() |
0–2 | 0–4 | Euro 2012 Qualification |
30 | 11 October 2011 | Parken Stadium, Copenhagen, Denmark | ![]() |
2–1 | 2–1 | Euro 2012 Qualification |
31 | 15 November 2011 | Estádio da Luz, Lisbon, Portugal | ![]() |
1–0 | 6–2 | Euro 2012 Qualification play-offs |
32 | 15 November 2011 | Estádio da Luz, Lisbon, Portugal | ![]() |
3–1 | 6–2 | Euro 2012 Qualification play-offs |
33 | 17 June 2012 | Metalist Stadium, Kharkiv, Ukraine | ![]() |
1–1 | 2–1 | Euro 2012 |
34 | 17 June 2012 | Metalist Stadium, Kharkiv, Ukraine | ![]() |
2–1 | 2–1 | Euro 2012 |
35 | 21 June 2012 | National Stadium, Warsaw, Warsaw, Poland | ![]() |
0–1 | 0–1 | Euro 2012 |
36 | 15 August 2012 | Estádio Algarve, Faro, Portugal | ![]() |
2–0 | 2–0 | Friendly |
37 | 7 September 2012 | Stade Josy Barthel, Luxembourg, Luxembourg | ![]() |
1–1 | 1–2 | 2014 World Cup Qualification |
งานอื่น
ด้วยความสามารถและความโด่งดัง จึงมีเอเย่นต์สนใจเขามาเป็นพรีเซนเตอร์อยู่หลายชิ้น ภาพลักษณ์ของโรนัลโดสร้างความสำเร็จให้กับการตลาดมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอเกมต่าง ๆ ไปจนโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ความหล่อเหลาของเขาก็ยังทำให้เขาได้รับการติดต่อจากนิตยสารแฟชั่นอีกด้วย นิตยสารโวกของอเมริกา นำเสนอเขาไปเป็นแบบปก และเขายังเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์รองเท้ากีฬาอย่าง ไนกี้ โดยทางไนกี้เล็งเห็นว่าโรนัลโดมีฝีเท้าที่เป็นนักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก จึงได้คุยกับโรนัลโดเพื่อผลิตรองเท้าที่เบา พัฒนารองเท้า รองเท้ารุ่น Mercurial Vapor ออกมา[31][9]
นอกเหนือจากฟุตบอล
ชีวิตส่วนตัว
พ่อของโรนัลโดเป็นผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลเล็ก ๆ ที่ชื่ออังดูรีญา และพ่อเขาขอให้กัปตันทีมที่ชื่อฟือร์เนา โซซา (Fernão de Sousa) เป็นพ่อทูนหัว ส่วนแม่ของเขามีอาชีพเป็นแม่ครัว โรนัลโดช่วยเหลือครอบครัวเป็นอย่างดี ช่วยพี่สาวคนโตเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่เกาะมาเดรา ส่วนพี่สาวอีกคน กาเตีย เป็นนักร้อง มีวงดนตรีชื่อ "Ronalda"[9]
โรนัลโดประกาศว่าเขาได้กลายเป็นพ่อคนแล้ว เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 2010 โดยประกาศในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของเขา โดยพูดว่า เขาได้ลูกชายและต้องการความเป็นส่วนตัว โดยลูกชายของเขาชื่อว่าคริสเตียโน โรนัลโดย จูเนียร์ ที่กำเนิดมาจากหญิงนิรนาม[32] โดยเขาได้รับสิทธิในการดูแลเด็กอย่างสมบูรณ์[33] ภายใต้การดูแลจากแม่ของโรนัลโดและพี่สาว[34]
นอกจากนี้แล้ว โรนัลโดยังได้รับคำชื่นชมจากอาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ นักแสดงระดับซุปเปอร์สตาร์ของฮอลลีวุด ซึ่งเป็นอดีตสุดยอดนักเพาะกายโลก 7 สมัย ว่า เป็นนักฟุตบอลที่มีรูปร่างสมบูรณ์แบบที่สุดอีกด้วย[35]
องค์การการกุศล
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ทรัพย์สิน
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
การสนับสนุน
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
แฟชัน
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สื่อ
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
สถิติอาชีพ
สโมสร
- ณ วันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 2019
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ฟุตบอลถ้วย[a] | ลีกคัพ | ยุโรป | อื่นๆ[b] | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
สปอร์ติงลิสบอน | 2002–03[36] | ปรีไมราลีกา | 25 | 3 | 3 | 2 | — | 3[c] | 0 | 0 | 0 | 31 | 5 | |
รวม | 25 | 3 | 3 | 2 | — | 3 | 0 | 0 | 0 | 31 | 5 | |||
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด[37] | 2003–04 | พรีเมียร์ลีก | 29 | 4 | 5 | 2 | 1 | 0 | 5[d] | 0 | 0 | 0 | 40 | 6 |
2004–05 | 33 | 5 | 7 | 4 | 2 | 0 | 8[d] | 0 | 0 | 0 | 50 | 9 | ||
2005–06 | 33 | 9 | 2 | 0 | 4 | 2 | 8[d] | 1 | — | 47 | 12 | |||
2006–07 | 34 | 17 | 7 | 3 | 1 | 0 | 11[d] | 3 | — | 53 | 23 | |||
2007–08 | 34 | 31 | 3 | 3 | 0 | 0 | 11[d] | 8 | 1[e] | 0 | 49 | 42 | ||
2008–09 | 33 | 18 | 2 | 1 | 4 | 2 | 12[d] | 4 | 2[f] | 1 | 53 | 26 | ||
รวม | 196 | 84 | 26 | 13 | 12 | 4 | 55 | 16 | 3 | 1 | 292 | 118 | ||
เรอัลมาดริด | 2009–10[38] | ลาลิกา | 29 | 26 | 0 | 0 | — | 6[d] | 7 | — | 35 | 33 | ||
2010–11[39] | 34 | 40 | 8 | 7 | — | 12[d] | 6 | — | 54 | 53 | ||||
2011–12[40] | 38 | 46 | 5 | 3 | — | 10[d] | 10 | 2 | 1 | 55 | 60 | |||
2012–13[41] | 34 | 34 | 7 | 7 | — | 12[d] | 12 | 2 | 2 | 55 | 55 | |||
2013–14[42] | 30 | 31 | 6 | 3 | — | 11[d] | 17 | — | 47 | 51 | ||||
2014–15[43] | 35 | 48 | 2 | 1 | — | 12[d] | 10 | 5 | 2 | 54 | 61 | |||
2015–16 | 10 | 8 | 0 | 0 | — | 4 | 5 | — | 14 | 13 | ||||
รวม | 210 | 233 | 28 | 21 | — | 67 | 67 | 9 | 5 | 314 | 326 | |||
ยูเวนตุส | 2018–19 | เซเรียอา | 31 | 21 | 2 | 0 | — | 9 | 6 | 1[g] | 1 | 43 | 28 | |
รวมทั้งหมด | 546 | 419 | 61 | 37 | 12 | 4 | 168 | 127 | 19 | 14 | 806 | 601 |
- ↑ ประกอบด้วย Taça de Portugal, เอฟเอคัพ และ โกปาเดลเรย์
- ↑ ประกอบด้วย เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ, ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก และ ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา
- ↑ ลงเล่นหนึ่งครั้งใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก, ลงเล่นสองครั้งใน ยูฟ่าคัพ
- ↑ 4.00 4.01 4.02 4.03 4.04 4.05 4.06 4.07 4.08 4.09 4.10 4.11 รวมการลงเล่นทั้งหมดใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ↑ ลงเล่นใน เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์
- ↑ รวมการลงเล่นทั้งหมดใน ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
- ↑ ลงเล่นใน ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา
ทีมชาติ

ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
โปรตุเกส | 2003 | 2 | 0 |
2004 | 16 | 7 | |
2005 | 11 | 2 | |
2006 | 14 | 6 | |
2007 | 10 | 5 | |
2008 | 8 | 1 | |
2009 | 7 | 1 | |
2010 | 11 | 3 | |
2011 | 8 | 7 | |
2012 | 13 | 5 | |
2013 | 9 | 10 | |
2014 | 9 | 5 | |
2015 | 5 | 3 | |
2016 | 13 | 13 | |
2017 | 11 | 11 | |
2018 | 7 | 6 | |
2019 | 4 | 3 | |
รวม | 158 | 88 |
เกียรติประวัติ
เกียรติประวัติกับสโมสร

- พรีเมียร์ลีก (3): 2006–07, 2007–08, 2008–09
- เอฟเอคัพ (1): 2003–04
- ลีกคัพ (2): 2005–06, 2008–09
- เอฟเอคอมมูนิตีชีลด์ (1): 2007
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (1): 2007–08
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (1): 2008
- ลาลิกา (2): 2011–12, 2016–17
- โกปาเดลเรย์ (2): 2010–11, 2013-2014
- ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา (2): 2012, 2017
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก(3): 2013-14, 2015–16, 2016–17
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก (2): 2014, 2017
- เซเรียอา (1): 2018–19
- ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา (1): 2018
เกียรติประวัติทีมชาติ
- ทีมชาติโปรตุเกส
- ฟุตบอลโลก: อันดับที่ 4 (1): 2006
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: รองชนะเลิศ (1): 2004
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป: ชนะเลิศ (1): 2016
- ยูฟ่าเนชันส์ลีก: ชนะเลิศ (1): 2018–19
เกียรติประวัติส่วนตัว
- ทีมชาติยอดเยี่ยมในศึกยูโร (2): 2004, 2012
- บราโวอะวอร์ด (1): 2004
- นักฟุตบอลดาวรุ่งในฟีฟ่าโปรประจำปี (2): 2004, 2005
- นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ (1): 2006–07
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปีของเซอร์แมตต์ บัสบี (3): 2003–04, 2006–07, 2007–08
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ (2): 2006–07, 2007–08
- นักเตะยอดเยี่ยมจากแฟนบอลของพีเอฟเอ (2): 2006–07, 2007–08
- นักเตะยอดเยี่ยมจากนักข่าวของพีเอฟเอ (2): 2006–07, 2007–08
- นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลพรีเมียร์ลีก (2): 2006–07, 2007–08
- นักเตะยอดเยี่ยมประจำปีพรีเมียร์ลีก (4): November 2006, December 2006, January 2008, March 2008
- พรีเมียร์ลีกโกลเดนบูต (1): 2007–08
- บาร์คลีส์เมริตอะวอร์ด (1): 2007–08
- ดาวซัลโวของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (1): 2007–08
- กองหน้ายอดเยี่ยมของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (1): 2007–08
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำสโมสรในยูฟ่า (1): 2007–08
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ลูกบอลสีเงิน (1): 2008
- แมนออฟเดอะแมตช์ประจำปี 2008 (1): Czech Republic vs Portugal
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของทวีปยุโรป (1): 2008
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี (1): 2008
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี (ฟีฟ่าโปร) (1): 2008
- Onze d'Or (1): 2008
- World Soccer Player of the Year (1): 2008
- PFA Premier League Team of the Year (4): 2005–06, 2006–07, 2007–08, 2008–09
- FIFA Puskás Award (1): 2009
- European Golden Shoe (2): 2007–08, 2010–11
- CNID Best Portuguese Athlete Abroad (4): 2007, 2008, 2009, 2011
- ทีมแห่งปีของยูฟ่า (6): 2003–04, 2006–07, 2007–08, 2008–09, 2009–10, 2010–11
- ฟีฟ่า ฟิฟโปร เวิลด์ (5): 2007, 2008, 2009, 2010, 2011
- แมนออฟเดอแมตช์ฟุตบอลโลกปี 2010 (3): Côte d'Ivoire vs Portugal, Portugal vs Korea DPR, Portugal vs Brazil
- ดาวซัลโวประจำลาลิกา (1): 2010–11
- ดาวซัลโวโกปาเดลเรย์ (1): 2010–11
- Trofeo Alfredo Di Stéfano (1): 2011–12
- European Sports Magazines (4): 2006–07, 2007–08, 2010–11, 2011–12
- แมนออฟเดอะแมตช์ปี 2012 (2): Portugal vs Netherlands, Czech Republic vs Portugal
- ดาวซัลโวประจำปี 2012 (1): 2012
อ้างอิง
- ↑ "Cristiano Ronaldo (CR7)". realmadrid.com. Real Madrid. สืบค้นเมื่อ 22 March 2014.
- ↑ "Ronaldo agrees six-year Real deal". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 26 June 2009. สืบค้นเมื่อ 27 June 2009.
- ↑ "Cristiano Ronaldo to become third youngest footballer in Europe to reach 100 caps". http://www.telegraph.co.uk/. สืบค้นเมื่อ 17 October 2012. External link in
|publisher=
(help) - ↑ "Ronaldo becomes first sportsman to get 50m Facebook 'likes'". http://ibnlive.in.com/. สืบค้นเมื่อ 17 October 2012. External link in
|publisher=
(help) - ↑ สาวโหวต “หนูโด้” เทพบุตรยูโร 2008
- ↑ สุดยอด!โด้คว้านักกีฬาอิเบโร่-อเมริกันแห่งปี
- ↑ "CRISTIIANO RONALDO TEM BISAVÓ CABO-VERDIANA". Liberal Online (in Portuguese). สืบค้นเมื่อ 29 June 2011.
- ↑ Duncan White. "Ronaldo holds back the tears", Telegraph.co.uk, 21 มิถุนายน พ.ศ. 2549
- ↑ 9.0 9.1 9.2 วีซีดี สารคดี Cristiano Ronaldo - The Boy Who Had A Dream ผลิตโดย ITV ในปี 2007
- ↑ MSN Football: คริสเตียโน่ โรนัลโด
- ↑ "คริสเตียโน โรนัลโด"คว้ารางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยม 07 ข่าวจากสำนักข่าวเนชั่น
- ↑ หนูโด้ไปแล้ว! ผีโอเคขาย80ล้านป.
- ↑ "Lucky rebound gives Portugal narrow win over Kazakhstan". China Daily. สืบค้นเมื่อ 25 August 2010.
- ↑ "Fans Can Get Best Out Of Ronaldo". 4thegame.com. สืบค้นเมื่อ 25 August 2010.
- ↑ Ames, Paul (14 June 2004). "Euro 2004 roundup: Greece stuns Portugal 2–1". USA Today. สืบค้นเมื่อ 25 August 2010.
- ↑ Kevin McCarra in Lisbon (1 July 2004). "Portugal have the final word". Guardian. UK. สืบค้นเมื่อ 25 August 2010.
- ↑ 17.0 17.1 "Cristiano Ronaldo's profile". 4thegame.com.
- ↑ "Ronaldo is chosen for the Olympics". CNN. 21 July 2004. สืบค้นเมื่อ 25 August 2010.
- ↑ Wallace, Sam (24 July 2004). "Ronaldo keen to play at Olympics". The Daily Telegraph. UK. สืบค้นเมื่อ 25 August 2010.
- ↑ "Portugal Vs Iran match". FIFA.com. Fédération Internationale de Football Association. 17 June 2006. สืบค้นเมื่อ 3 July 2012.
- ↑ Tim Spanton (2 July 2006). "Ronaldo: I never asked for Rooney red card". The Sun. สืบค้นเมื่อ 10 July 2006.
- ↑ "Ronaldo cleared over Rooney red card". Soccernet. 4 July 2006. สืบค้นเมื่อ 17 November 2006.
- ↑ "Ronaldo intends to leave Man Utd". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 8 July 2006. สืบค้นเมื่อ 8 July 2006.
- ↑ "Cristiano Ronaldo plans Real move". Reuters. 28 June 2006. สืบค้นเมื่อ 10 July 2006.
- ↑ "Ferguson sends Man Utd No2 Queiroz to Ronaldo meeting". TribalFootball. 11 July 2006. Archived from the original on 19 July 2006. สืบค้นเมื่อ 11 July 2006.
- ↑ "Rooney pleads with Ronaldo not to quit Man Utd". TribalFootball. 9 July 2006. Archived from the original on 21 July 2006. สืบค้นเมื่อ 11 July 2006.
- ↑ "Ronaldo signs new deal at Man Utd". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 13 April 2007. สืบค้นเมื่อ 2 January 2010.
- ↑ Chick, Alex (6 July 2006). "Scolari's fortunes take a dive". ESPNsoccernet. ESPN. สืบค้นเมื่อ 25 August 2010.
- ↑ "Supporters 'hijack' Ronaldo vote". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 6 July 2006. สืบค้นเมื่อ 10 July 2006.
- ↑ "Podolski beats Ronaldo to award". BBC Sport. British Broadcasting Corporation. 7 July 2006. สืบค้นเมื่อ 10 July 2006.
- ↑ Nike Mercurial Vapor SL, new Cristiano Ronaldo boots
- ↑ Adrian Butler (July 18, 2010). "Ronaldo's baby mama is revealed". Sunday Mirror. สืบค้นเมื่อ July 18, 2010.
- ↑ "Baby 'joy' for Cristiano Ronaldo". BBC Online. 4 July 2010. สืบค้นเมื่อ 4 July 2010.
- ↑ "Cristiano Ronaldo and Irina Shayk put on a united front after claims he has been texting glamour model Rhian Sugden". London: The Daily Mail. August 23, 2010. สืบค้นเมื่อ September 8, 2010.
- ↑ หน้า SPORT 23, 'คนเหล็ก' ซูฮกโรนัลโด้ สุดยอดนักเตะหุ่นเพอร์เฟกต์. M 2 F ฉบับที่ 494: จันทร์ที่ 14 ตุลาคม 2556
- ↑ "Cristiano Ronaldo". footballzz.co.uk. สืบค้นเมื่อ 25 December 2013.
- ↑ "Cristiano Ronaldo". StretfordEnd.co.uk. สืบค้นเมื่อ 28 December 2013.
- ↑ "Cristiano Ronaldo: Cristiano Ronaldo Dos Santos Aveiro: 2009–10". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 25 December 2013.
- ↑ "Cristiano Ronaldo: Cristiano Ronaldo Dos Santos Aveiro: 2010–11". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 25 December 2013.
- ↑ "Cristiano Ronaldo: Cristiano Ronaldo Dos Santos Aveiro: 2011–12". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 25 December 2013.
- ↑ "Cristiano Ronaldo: Cristiano Ronaldo Dos Santos Aveiro: 2012–13". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 25 December 2013.
- ↑ "Cristiano Ronaldo: Cristiano Ronaldo Dos Santos Aveiro: 2013–14". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 27 August 2014.
- ↑ "Cristiano Ronaldo". Soccerway. สืบค้นเมื่อ 15 May 2013.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อfpf.pt
- ↑ Mamrud, Roberto (29 August 2013). "Cristiano Ronaldo dos Santos Aveiro – Century of International Appearances". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. สืบค้นเมื่อ 25 December 2013.
- ↑ Ronaldo คริสเตียโน โรนัลโด เว็บไซต์ National-Football-Teams.com (อังกฤษ)
แหล่งข้อมูลอื่น
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: คริสเตียโน โรนัลโด |
ก่อนหน้า | คริสเตียโน โรนัลโด | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
เวย์น รูนีย์ | ![]() |
นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ (พ.ศ. 2550) |
![]() |
ยังดำรงตำแหน่ง |
สตีเวน เจอร์ราร์ด | ![]() |
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ (พ.ศ. 2550) |
![]() |
ยังดำรงตำแหน่ง |
กาก้า | ![]() |
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของฟิฟโปร (พ.ศ. 2551) |
![]() |
ยังดำรงตำแหน่ง |
กาก้า | ![]() |
นักฟุตบอลยอดเยี่ยมของฟีฟ่า (พ.ศ. 2551) |
![]() |
ยังดำรงตำแหน่ง |
กาก้า | ![]() |
รางวัลรองเท้าทองคำ (พ.ศ. 2551) |
![]() |
ยังดำรงตำแหน่ง |
|
|
|
|
- CS1 errors: external links
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2528
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักฟุตบอลชาวโปรตุเกส
- นักฟุตบอลต่างชาติในลีกสเปน
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2006
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2010
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2018
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลยูเวนตุส
- ผู้เล่นในพรีเมียร์ลีก
- ผู้เล่นในลาลิกา
- ผู้เล่นในเซเรียอา
- ผู้เล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008
- ผู้เล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004
- ผู้เล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012
- บุคคลจากมาเดรา
- ผู้เล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016
- นักฟุตบอลในโอลิมปิกฤดูร้อน 2004
- กองหน้าฟุตบอล
- นักฟุตบอลทีมชาติโปรตุเกส
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2014
- ปีกฟุตบอล
- ผู้เล่นสปอร์ติกกลูบีดีปูร์ตูกาล
- นักฟุตบอลต่างชาติในลีกอิตาลี