ข้ามไปเนื้อหา

บาลงดอร์

หน้าถูกถูกกึ่งป้องกัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บาลงดอร์
ถ้วยรางวัลบาลงดอร์
วันที่1956; 69 ปีที่แล้ว (1956)
ประเทศฝรั่งเศส
จัดโดยฟร็องส์ฟุตโบล
รางวัลแรก1956
ผู้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันประเทศฝรั่งเศส อุสมาน แดมเบเล
(ครั้งที่ 1)
รางวัลมากที่สุดประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ
(8 ครั้ง)
เสนอชื่อมากที่สุดประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด
(18 ครั้ง)[1]
เว็บไซต์francefootball.fr
 2024 · บาลงดอร์ · 2026 

บาลงดอร์ (ฝรั่งเศส: Ballon d'Or; แปลตรงตัว'ลูกบอลทองคำ') เป็นรางวัลที่มอบให้แก่นักฟุตบอลที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในรอบปี มอบโดยนิตยสารข่าวฝรั่งเศส ฟร็องส์ฟุตโบล ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 ระหว่างปี ค.ศ. 2010 ถึง 2015 รางวัลดังกล่าวได้ถูกรวมเข้ากับนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี (ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1991) เป็นการชั่วคราว ตามข้อตกลงกับฟีฟ่า และเป็นที่รู้จักในชื่อรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ ความร่วมมือดังกล่าวสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 2016 และรางวัลดังกล่าวเปลี่ยนกลับไปเป็นบาลงดอร์ ในขณะที่ฟีฟ่าก็เปลี่ยนกลับไปเป็นรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่าแยกต่างหาก ผู้ได้รับรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ ถือเป็นผู้ชนะที่ได้รับรางวัลจากทั้งสององค์กรร่วมกัน โดยทั่วไปแล้วบาลงดอร์ถือเป็นรางวัลบุคคลอันทรงเกียรติและทรงคุณค่าที่สุดของฟุตบอล[2] อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ได้กล่าวถึงรางวัลนี้ว่าเป็น "การประกวดความนิยม" โดยวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการลงคะแนนเสียง และการให้รางวัลเฉพาะตัวบุคคลแยกจากระบบในกีฬาประเภททีม[3][4][5][6][7][8]

ผู้ชนะ

ลิโอเนล เมสซี คว้าบาลงดอร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยทำได้ 8 ครั้ง เขายังเป็นเจ้าของสถิติการชนะติดต่อกันมากที่สุด โดยชนะสี่ครั้งระหว่างปี ค.ศ. 2009 ถึง 2012
คริสเตียโน โรนัลโด ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงบัลลงดอร์เป็นประวัติการณ์ถึง 18 ครั้ง และเป็นผู้ชนะ 5 ครั้ง
จอร์จ เวอาห์ เป็นผู้เล่นคนแรกที่ไม่ใช่ชาวยุโรปและผู้เล่นทีมชาติแอฟริกันคนแรกที่ได้รับรางวัล
เลฟ ยาชิน เป็นผู้รักษาประตูคนเดียวที่ได้รางวัล
ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ เป็นกองหลังคนเดียวที่ได้รางวัล 2 ครั้ง

หมายเหตุ: จนถึงปี ค.ศ. 2021 รางวัลบาลงดอร์จะมอบให้โดยพิจารณาจากผลงานของผู้เล่นในระหว่างปีปฏิทิน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2022 คณะกรรมการได้รับคำสั่งให้คำนึงถึงฤดูกาลที่ก่อนหน้า[9]

คำอธิบาย
     หมายถึง ผู้เล่นที่ชนะบาลงดอร์และได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี หรือ
นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ในปีเดียวกัน (ใช้ได้ในปี ค.ศ. 1991–2009 และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016)
ปี ค.ศ. อันดับ ผู้เล่น ทีม คะแนน
บาลงดอร์ (ค.ศ. 2016–ปัจจุบัน)
2016 1 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 745
2 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 316
3 ประเทศฝรั่งเศส อ็องตวน กรีแยซมาน ประเทศสเปน อัตเลติโกเดมาดริด 198
2017 1 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 946
2 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 670
3 ประเทศบราซิล เนย์มาร์[note 1] ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 361
2018 1 ประเทศโครเอเชีย ลูกา มอดริช ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 753
2 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด[note 2] ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส 476
3 ประเทศฝรั่งเศส อ็องตวน กรีแยซมาน ประเทศสเปน อัตเลติโกเดมาดริด 414
2019 1 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 686
2 ประเทศเนเธอร์แลนด์ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล 679
3 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส 476
2020 ไม่มีการมอบรางวัลเนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19[10]
2021 1 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ[note 3] ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 613
2 ประเทศโปแลนด์ รอแบร์ต แลวันดอฟสกี ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก 580
3 ประเทศอิตาลี ฌอร์ฌีญู ประเทศอังกฤษ สโมสรฟุตบอลเชลซี 460
2022 1 ประเทศฝรั่งเศส การีม แบนเซมา ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 549
2 ประเทศเซเนกัล ซาดีโย มาเน ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล 193
3 ประเทศเบลเยียม เกฟิน เดอ เบรยเนอ ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 175
2023 1st ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี[note 4] สหรัฐอเมริกา อินเตอร์ไมแอมี 462
2nd ประเทศนอร์เวย์ โอลิง โฮลัน ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 357
3rd ประเทศฝรั่งเศส กีลียาน อึมบาเป ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 270
2024 1st ประเทศสเปน โรดริ ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 1170
2nd ประเทศบราซิล วีนีซียุส ฌูนีโยร์ ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 1129
3rd ประเทศอังกฤษ จูด เบลลิงงัม ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 917
2025 1st ประเทศฝรั่งเศส อุสมาน แดมเบเล ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง รอประกาศ
2nd ประเทศสเปน ลามิน ยามัล ประเทศสเปน บาร์เซโลนา รอประกาศ
3rd ประเทศโปรตุเกส วีตีญา ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง รอประกาศ
ปี ค.ศ. นักเตะ ทีม
2025ประเทศฝรั่งเศส อุสมาน แดมเบเลประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
2024ประเทศสเปน โรดริประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี
2023ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซีสหรัฐอเมริกา อินเตอร์ไมแอมี
2022ประเทศฝรั่งเศส การีม แบนเซมาประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2021ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซีประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
2020ยกเลิกเนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19 พ.ศ. 2563[10]
2019ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซีประเทศสเปน บาร์เซโลนา
2018ประเทศโครเอเชีย ลูคา มอดริชประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2017ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโดประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2016ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโดประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2009ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซีประเทศสเปน บาร์เซโลนา
2008ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโดประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
2007ประเทศบราซิล กาก้าประเทศอิตาลี มิลาน
2006ประเทศอิตาลี ฟาบีโอ กันนาวาโรประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2005ประเทศบราซิล โรนัลดิญโญ่ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
2004ประเทศยูเครน อันดรีย์ เชฟเชนโคประเทศอิตาลี มิลาน
2003ประเทศเช็กเกีย ปาเวล เนดเวตประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
2002ประเทศบราซิล โรนัลโด้ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2001ประเทศอังกฤษ ไมเคิล โอเว่นประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล
2000ประเทศโปรตุเกส ลูอิช ฟีกูประเทศสเปน เรอัลมาดริด
1999ประเทศบราซิล ริวัลโดประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1998ประเทศฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดานประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1997ประเทศบราซิล โรนัลโดประเทศอิตาลี อินเตอร์
1996ประเทศเยอรมนี มัทธิอัส ซามเมอร์ประเทศเยอรมนี ดอร์ทมุนท์
1995ประเทศไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ประเทศอิตาลี มิลาน
1994ประเทศบัลแกเรีย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1993ประเทศอิตาลี โรแบร์โต บัจโจประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1992ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเตินประเทศอิตาลี มิลาน
1991ประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็งประเทศฝรั่งเศส มาร์แซย์
1990ประเทศเยอรมนี โลทาร์ มัทเทอุสประเทศอิตาลี อินเตอร์
1989ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเตินประเทศอิตาลี มิลาน
1988ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเตินประเทศอิตาลี มิลาน
1987ประเทศเนเธอร์แลนด์ รืด คึลลิตประเทศอิตาลี มิลาน
1986สหภาพโซเวียต ประเทศยูเครน อิกอร์ เบลานอฟประเทศยูเครน ดีนาโม เคียฟ
1985ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนีประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1984ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนีประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1983ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนีประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1982ประเทศอิตาลี เปาโล รอสซี่ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1981ประเทศเยอรมนี คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1980ประเทศเยอรมนี คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1979ประเทศอังกฤษ เควิน คีแกนประเทศเยอรมนี ฮัมบวร์ค
1978ประเทศอังกฤษ เควิน คีแกนประเทศเยอรมนี ฮัมบวร์ค
1977ประเทศเดนมาร์ก อัลลัน ซิโมนเซ่นประเทศเยอรมนี กลัทบัค
1976ประเทศเยอรมนี ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1975สหภาพโซเวียต ประเทศยูเครน โอเล็ก บลอคคิ่นประเทศยูเครน ดีนาโม เคียฟ
1974ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1973ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1972ประเทศเยอรมนี ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1971ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์
1970ประเทศเยอรมนี แกร์ด มึลเลอร์ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1969ประเทศอิตาลี จานนี่ ริเวร่าประเทศอิตาลี มิลาน
1968ไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เบสต์ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1967ประเทศฮังการี ฟลอริยัน อัลเบิร์ตประเทศฮังการี เฟเรนซ์วารอส
1966ประเทศอังกฤษ บ๊อบบี้ ชาร์ลตันประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1965ประเทศโปรตุเกส เอวแซบียูประเทศโปรตุเกส ไบฟีกา
1964ประเทศสกอตแลนด์ เดนิส ลอว์ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1963สหภาพโซเวียต ประเทศรัสเซีย เลฟ ยาชินประเทศรัสเซีย ดีนาโม มอสโก
1962ประเทศเช็กเกีย โยเซฟ มาโซปุสต์ประเทศเช็กเกีย ดุคล่า ปราก
1961ประเทศอาร์เจนตินา ประเทศอิตาลี โอมาร์ ซีโบรีประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1960ประเทศสเปน ลุยส์ ซัวเรซ มิรามอนเตสประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1959ประเทศอาร์เจนตินา ประเทศโคลอมเบีย ประเทศสเปน อัลเฟรโด ดี สเตฟาโนประเทศสเปน เรอัลมาดริด
1958ประเทศฝรั่งเศส แรมง กอปาประเทศสเปน เรอัลมาดริด
1957ประเทศอาร์เจนตินา ประเทศโคลอมเบีย ประเทศสเปน อัลเฟรโด ดี สเตฟาโนประเทศสเปน เรอัลมาดริด
1956ประเทศอังกฤษ สเตนรี่ แมทธิวประเทศอังกฤษ แบล็กพูล

แยกตามผู้เล่น

คริสเตียโน โรนัลโด และ ลิโอเนล เมสซิ คว้ารางวัลบาลงดอร์ 10 สมัยติดต่อกันระหว่างพวกเขาระหว่างปี 2008 ถึง 2017
มีแชล ปลาตีนี ได้รับรางวัลสามปีติดต่อกัน (1983–85)
โรนัลโด นาซารีอู เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้บาลงดอร์
โยฮัน ไกรฟฟ์ (ซ้าย) และ มาร์โก ฟัน บัสเติน จากเนเธอร์แลนด์ทั้งคู่ ชนะคนละ 3 ครั้ง
ผู้เล่น ชนะเลิศ ที่สอง ที่สาม
ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ[note 5] 8 (2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019, 2021, 2023) 5 (2008, 2013, 2014, 2016, 2017) 1 (2007)
ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด[note 6] 5 (2008, 2013, 2014, 2016, 2017) 6 (2007, 2009, 2011, 2012, 2015, 2018) 1 (2019)
ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี 3 (1983, 1984, 1985) 2 (1977, 1980)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ไกรฟฟ์ 3 (1971, 1973, 1974) 1 (1975)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน 3 (1988, 1989, 1992)
ประเทศเยอรมนีตะวันตก ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ 2 (1972, 1976) 2 (1974, 1975) 1 (1966)
ประเทศบราซิล โรนัลโด 2 (1997, 2002) 1 (1996) 1 (1998)
ประเทศสเปน อัลเฟรโด ดิ เอสเตฟาโน 2 (1957, 1959) 1 (1956)
ประเทศอังกฤษ เควิน คีแกน 2 (1978, 1979) 1 (1977)
ประเทศเยอรมนีตะวันตก คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ 2 (1980, 1981) 1 (1979)
ประเทศสเปน ลุยส์ ซัวเรซ มิรามอนเตส 1 (1960) 2 (1961, 1964) 1 (1965)
ประเทศโปรตุเกส เอวแซบียู 1 (1965) 2 (1962, 1966)
ประเทศอังกฤษ บ็อบบี ชาร์ลตัน 1 (1966) 2 (1967, 1968)
ประเทศฝรั่งเศส แรมง กอปา 1 (1958) 1 (1959) 2 (1956, 1957)
ประเทศเยอรมนีตะวันตก แกร์ท มึลเลอร์ 1 (1970) 1 (1972) 2 (1969, 1973)
ประเทศฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดาน 1 (1998) 1 (2000) 1 (1997)
ประเทศอิตาลี จานนี่ ริเวร่า 1 (1969) 1 (1963)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ รืด คึลลิต 1 (1987) 1 (1988)
ประเทศเยอรมนี โลทาร์ มัทเทอุส 1 (1990) 1 (1991)
ประเทศอิตาลี โรแบร์โต บัจโจ 1 (1993) 1 (1994)
ประเทศบัลแกเรีย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ 1 (1994) 1 (1992)
ประเทศยูเครน อันดรีย์ แชวแชนกอ 1 (2004) 2 (1999, 2000)
ไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เบสต์ 1 (1968) 1 (1971)
ประเทศเดนมาร์ก อัลลัน ซิโมนเซ่น 1 (1977) 1 (1983)
ประเทศบราซิล รอนัลดีนโย 1 (2005) 1 (2004)
ประเทศอังกฤษ สเตนรี่ แมทธิว 1 (1956)
ประเทศอิตาลี โอมาร์ ซิโบริ 1 (1961)
ประเทศเชโกสโลวาเกีย โยเซฟ มาโซปุสต์ 1 (1962)
สหภาพโซเวียต ประเทศรัสเซีย เลฟ ยาชิน 1 (1963)
ประเทศสกอตแลนด์ เดนิส ลอว์ 1 (1964)
ประเทศฮังการี ฟลอริยัน อัลเบิร์ต 1 (1967)
สหภาพโซเวียต ประเทศยูเครน โอเล็ก บลอคคิ่น 1 (1975)
ประเทศอิตาลี เปาโล รอสซี่ 1 (1982)
สหภาพโซเวียต ประเทศยูเครน อิกอร์ เบลานอฟ 1 (1986)
ประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง 1 (1991)
ประเทศไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ 1 (1995)
ประเทศเยอรมนี มัทธิอัส ซามเมอร์ 1 (1996)
ประเทศบราซิล รีวัลดู 1 (1999)
ประเทศโปรตุเกส ลูอิช ฟีกู 1 (2000)
ประเทศอังกฤษ ไมเคิล โอเวน 1 (2001)
ประเทศเช็กเกีย ปาเวล เนดเวต 1 (2003)
ประเทศอิตาลี ฟาบีโอ กันนาวาโร 1 (2006)
ประเทศบราซิล กาก้า 1 (2007)
ประเทศโครเอเชีย ลูกา มอดริช 1 (2018)
ประเทศฝรั่งเศส การีม แบนเซมา 1 (2022)
ประเทศสเปน โรดริ 1 (2024)
ประเทศฝรั่งเศส อุสมาน แดมเบเล 1 (2025)

แยกตามประเทศ

ผู้เล่นยูเครนสามคนได้รับรางวัลบาลงดอร์: อันดรีย์ แชวแชนกอ, โอเล็ก บลอคคิ่น, และ อิกอร์ เบลานอฟ
มาร์โก ฟัน บัสเติน (ซ้าย) และ รืด คึลลิต ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมทีมเอซี มิลาน และเนเธอร์แลนด์ คว้าแชมป์ติดต่อกันหลายปีตั้งแต่ปี 1987 ถึง 1989
ประเทศ ผู้เล่น ชนะ
 อาร์เจนตินา 1 8
 เยอรมนี 5 7
 เนเธอร์แลนด์ 3 7
 ฝรั่งเศส 5 7
 โปรตุเกส 3 7
 อิตาลี 5 5
 บราซิล 4 5
 อังกฤษ 4 5
 สเปน 3 4
 ยูเครน 3 3
 เช็กเกีย 2 2
 รัสเซีย 1 1
 บัลแกเรีย 1 1
 โครเอเชีย 1 1
 เดนมาร์ก 1 1
 ฮังการี 1 1
 ไลบีเรีย 1 1
 ไอร์แลนด์เหนือ 1 1
 สกอตแลนด์ 1 1

แยกตามสโมสร

สโมสรจำนวนรางวัลจำนวนนักเตะรายชื่อนักเตะ
ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
10
8
ประเทศอาร์เจนตินา ประเทศโคลอมเบีย ประเทศสเปน อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน (1957, 1959)
ประเทศฝรั่งเศส เรย์มงด์ โกปา (1958)
ประเทศโปรตุเกส ลูอิช ฟีกู (2000)
ประเทศบราซิล โรนัลโด (2002)
ประเทศอิตาลี ฟาบีโอ กันนาวาโร (2006)
ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด (2016, 2017)
ประเทศโครเอเชีย ลูคา มอดริช (2018)
ประเทศฝรั่งเศส การีม แบนเซมา (2022)
ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
8
6
ประเทศสเปน ลุยส์ ซัวเรซ (1960)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ (1973, 1974)
ประเทศบัลแกเรีย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ (1994)
ประเทศบราซิล รีวัลดู (1999)
ประเทศบราซิล รอนัลดีนโย (2005)
ประเทศอาร์เจนตินา เลียวเนล เมสซี (2009, 2019)
ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
8
6
ประเทศอาร์เจนตินา ประเทศอิตาลี โอมาร์ ซีโบรี (1961)
ประเทศอิตาลี เปาโล รอสซี่ (1982)
ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี (1983, 1984, 1985)
ประเทศอิตาลี โรแบร์โต บัจโจ (1993)
ประเทศฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดาน (1998)
ประเทศเช็กเกีย พาเวล เนดเวด (2003)
ประเทศอิตาลี มิลาน
8
6
ประเทศอิตาลี จานนี่ ริเวร่า (1969)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ รืด คึลลิต (1987)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน (1988, 1989, 1992)
ประเทศไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ (1995)
ประเทศยูเครน อันดรีย์ เชฟเชนโค (2004)
ประเทศบราซิล กาก้า (2007)
ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
5
3
ประเทศเยอรมนี เกิร์ด มุลเลอร์ (1970)
ประเทศเยอรมนี ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ (1972, 1976)
ประเทศเยอรมนี คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ (1980, 1981)
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
4
4
ประเทศสกอตแลนด์ เดนิส ลอว์ (1964)
ประเทศอังกฤษ บ๊อบบี้ ชาร์ลตั้น (1966)
ไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เบสต์ (1968)
ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด (2008)
ประเทศยูเครน ดีนาโม เคียฟ
2
2
ประเทศยูเครน โอเล็ก บลอคคิ่น (1975)
ประเทศยูเครน อิกอร์ เบลานอฟ (1986)
ประเทศอิตาลี อินเตอร์
2
2
ประเทศเยอรมนี โลทาร์ มัทเทอุส (1990)
ประเทศบราซิล โรนัลโด (1997)
ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
2
2
ประเทศอาร์เจนตินา เลียวเนล เมสซี (2021)
ประเทศฝรั่งเศส อุสมาน แดมเบเล (2025)
ประเทศเยอรมนี ฮัมบวร์ค
2
1
ประเทศอังกฤษ เควิน คีแกน (1978, 1979)
ประเทศอังกฤษ แบล็กพูล
1
1
ประเทศอังกฤษ สแตนลี่ย์ แมทธิวส์ (1956)
ประเทศเช็กเกีย ดุคล่า ปราก
1
1
ประเทศเช็กเกีย โยเซฟ มาโซปุสต์ (1962)
ประเทศรัสเซีย ดีนาโม มอสโก
1
1
ประเทศรัสเซีย เลฟ ยาชิน (1963)
ประเทศโปรตุเกส ไบฟีกา
1
1
ประเทศโปรตุเกส เอวแซบียู (1965)
ประเทศฮังการี เฟเรนซ์วารอส
1
1
ประเทศฮังการี ฟลอริยัน อัลเบิร์ต (1967)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์
1
1
ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ (1971)
ประเทศเยอรมนี กลัทบัค
1
1
ประเทศเดนมาร์ก อัลลัน ซิโมนเซ่น (1977)
ประเทศฝรั่งเศส มาร์แซย์
1
1
ประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง (1991)
ประเทศเยอรมนี ดอร์ทมุนท์
1
1
ประเทศเยอรมนี มัทธิอัส ซามเมอร์ (1996)
ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล
1
1
ประเทศอังกฤษ ไมเคิล โอเวน (2001)
สหรัฐอเมริกา อินเตอร์ไมแอมี
1
1
ประเทศอาร์เจนตินา เลียวเนล เมสซี (2023)
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี
1
1
ประเทศสเปน โรดริ (2024)

ดูเพิ่ม

หมายเหตุ

  1. Neymar was signed by Paris Saint-Germain from บาร์เซโลนา midway through 2017.
  2. Cristiano Ronaldo was signed by Juventus from เรอัลมาดริด midway through 2018.
  3. Messi was signed by Paris Saint-Germain from บาร์เซโลนา midway through 2021.
  4. Messi was signed by Inter Miami from Paris Saint-Germain during 2023.
  5. Messi won four FIFA Ballons d'Or (2010, 2011, 2012, 2015) and twice finished in second place (2013, 2014).[11][12]
  6. Cristiano Ronaldo won two FIFA Ballons d'Or (2013, 2014) and finished in second place three times (2011, 2012, 2015).[11][12]

อ้างอิง

  1. "Ballon d'Or: Players who have received the most nominations". 90min. 15 November 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 November 2021. สืบค้นเมื่อ 29 November 2021.
  2. "Ballon d'Or, FIFA The Best awards: what's the difference between them?". Diario AS (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2023-02-24. สืบค้นเมื่อ 2023-05-27. Created by France Football in 1956, the Ballon d’Or is generally regarded as soccer’s most prestigious award.
  3. Why the Ballon d'Or is a waste of time
  4. Why the Ballon d’Or has become a meaningless accolade
  5. Why the Ballon d’Or is stupid and quite possibly evil
  6. Weekly Why: FIFA's Ballon d'Or and the Absurdity of Glorifying Individual Awards
  7. Emmanuel Petit: Some players would take ‘stupid’ Ballon d’Or over trophies
  8. The Ballon d'Or Is Stupid, But Mohamed Salah Deserves To Win It Anyway
  9. Reidy, Paul (17 October 2022). "Ballon d'Or, FIFA The Best awards: what's the difference between them?". AS.com. สืบค้นเมื่อ 10 November 2022.
  10. 1 2 "THE BALLON D'OR® WILL NOT BE AWARDED IN 2020". L'Equipe. 20 July 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 July 2020. สืบค้นเมื่อ 20 July 2020. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Not2020" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  11. 1 2 "La liste complête des lauréats du Ballon d'or, de 1956 à nos jours". France Football. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 January 2016. สืบค้นเมื่อ 14 January 2016.
  12. 1 2 "FIFA Awards – World Player of the Year". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. 12 February 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2018. สืบค้นเมื่อ 14 January 2016.