ข้ามไปเนื้อหา

บาลงดอร์

หน้าถูกกึ่งป้องกัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

บาลงดอร์
ถ้วยรางวัลบาลงดอร์
วันที่1956; 69 ปีที่แล้ว (1956)
ประเทศฝรั่งเศส
จัดโดยฟร็องส์ฟุตโบล
รางวัลแรก1956
ผู้ดำรงตำแหน่งปัจจุบันประเทศสเปน โรดริ
(ครั้งที่ 1)
รางวัลมากที่สุดประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ
(8 ครั้ง)
เสนอชื่อมากที่สุดประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด
(18 ครั้ง)[1]
เว็บไซต์francefootball.fr
← 2023 · บาลงดอร์ · 2025 →

บาลงดอร์ (ฝรั่งเศส: Ballon d'Or; แปลว่า ลูกบอลทองคำ) เป็นรางวัลที่มอบให้แก่นักฟุตบอลที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดในรอบปี มอบโดยนิตยสารข่าวฝรั่งเศส ฟร็องส์ฟุตโบล ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1956 ระหว่างปี ค.ศ. 2010 ถึง 2015 รางวัลดังกล่าวได้ถูกรวมเข้ากับนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี (ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1991) เป็นการชั่วคราว ตามข้อตกลงกับฟีฟ่า และเป็นที่รู้จักในชื่อรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ ความร่วมมือดังกล่าวสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 2016 และรางวัลดังกล่าวเปลี่ยนกลับไปเป็นบาลงดอร์ ในขณะที่ฟีฟ่าก็เปลี่ยนกลับไปเป็นรางวัลนักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่าแยกต่างหาก ผู้ได้รับรางวัลฟีฟ่าบาลงดอร์ ถือเป็นผู้ชนะที่ได้รับรางวัลจากทั้งสององค์กรร่วมกัน โดยทั่วไปแล้วบาลงดอร์ถือเป็นรางวัลบุคคลอันทรงเกียรติและทรงคุณค่าที่สุดของฟุตบอล[2] อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ได้กล่าวถึงรางวัลนี้ว่าเป็น "การประกวดความนิยม" โดยวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการลงคะแนนเสียง และการให้รางวัลเฉพาะตัวบุคคลแยกจากระบบในกีฬาประเภททีม[3][4][5][6][7][8]

ผู้ชนะ

ลิโอเนล เมสซี คว้าบาลงดอร์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยทำได้ 8 ครั้ง เขายังเป็นเจ้าของสถิติการชนะติดต่อกันมากที่สุด โดยชนะสี่ครั้งระหว่างปี ค.ศ. 2009 ถึง 2012
คริสเตียโน โรนัลโด ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงบัลลงดอร์เป็นประวัติการณ์ถึง 18 ครั้ง และเป็นผู้ชนะ 5 ครั้ง
จอร์จ เวอาห์ เป็นผู้เล่นคนแรกที่ไม่ใช่ชาวยุโรปและผู้เล่นทีมชาติแอฟริกันคนแรกที่ได้รับรางวัล
เลฟ ยาชิน เป็นผู้รักษาประตูคนเดียวที่ได้รางวัล
ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ เป็นกองหลังคนเดียวที่ได้รางวัล 2 ครั้ง

หมายเหตุ: จนถึงปี ค.ศ. 2021 รางวัลบาลงดอร์จะมอบให้โดยพิจารณาจากผลงานของผู้เล่นในระหว่างปีปฏิทิน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2022 คณะกรรมการได้รับคำสั่งให้คำนึงถึงฤดูกาลที่ก่อนหน้า[9]

คำอธิบาย
  ‡   หมายถึง ผู้เล่นที่ชนะบาลงดอร์และได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี หรือ
นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่า ในปีเดียวกัน (ใช้ได้ในปี ค.ศ. 1991–2009 และตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016)
ปี ค.ศ. อันดับ ผู้เล่น ทีม คะแนน
บาลงดอร์ (ค.ศ. 2016–ปัจจุบัน)
2016 1 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 745
2 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 316
3 ประเทศฝรั่งเศส อ็องตวน กรีแยซมาน ประเทศสเปน อัตเลติโกเดมาดริด 198
2017 1 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 946
2 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 670
3 ประเทศบราซิล เนย์มาร์[note 1] ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 361
2018 1 ประเทศโครเอเชีย ลูกา มอดริช ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 753
2 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด[note 2] ประเทศอิตาลี ลยูเวนตุส 476
3 ประเทศฝรั่งเศส อ็องตวน กรีแยซมาน ประเทศสเปน อัตเลติโกเดมาดริด 414
2019 1 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา 686
2 ประเทศเนเธอร์แลนด์ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล 679
3 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส 476
2020 ไม่มีการมอบรางวัลเนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19[10]
2021 1 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ[note 3] ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง 613
2 ประเทศโปแลนด์ รอแบร์ต แลวันดอฟสกี ประเทศเยอรมนี ไบเอิร์นมิวนิก 580
3 ประเทศอิตาลี ฌอร์ฌีญู ประเทศอังกฤษ สโมสรฟุตบอลเชลซี 460
2022 1 ประเทศฝรั่งเศส การีม แบนเซมา ประเทศสเปน เรอัลมาดริด 549
2 ประเทศเซเนกัล ซาดีโย มาเน ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล 193
3 ประเทศเบลเยียม เกฟิน เดอ เบรยเนอ ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี 175
ปี ค.ศ. นักเตะ ทีม
2024 ประเทศสเปน โรดริ ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี
2023 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี สหรัฐอเมริกา อินเตอร์ไมแอมี
2022 ประเทศฝรั่งเศส การีม แบนเซมา ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2021 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
2020 ยกเลิกเนื่องจาก การระบาดทั่วของโควิด-19 พ.ศ. 2563[10]
2019 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
2018 ประเทศโครเอเชีย ลูคา มอดริช ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2017 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2016 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2009 ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซี ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
2008 ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
2007 ประเทศบราซิล กาก้า ประเทศอิตาลี มิลาน
2006 ประเทศอิตาลี ฟาบีโอ กันนาวาโร ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2005 ประเทศบราซิล โรนัลดิญโญ่ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
2004 ประเทศยูเครน อันดรีย์ เชฟเชนโค ประเทศอิตาลี มิลาน
2003 ประเทศเช็กเกีย ปาเวล เนดเวต ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
2002 ประเทศบราซิล โรนัลโด้ ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
2001 ประเทศอังกฤษ ไมเคิล โอเว่น ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล
2000 ประเทศโปรตุเกส ลูอิช ฟีกู ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
1999 ประเทศบราซิล ริวัลโด ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1998 ประเทศฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดาน ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1997 ประเทศบราซิล โรนัลโด ประเทศอิตาลี อินเตอร์
1996 ประเทศเยอรมนี มัทธิอัส ซามเมอร์ ประเทศเยอรมนี ดอร์ทมุนท์
1995 ไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ ประเทศอิตาลี มิลาน
1994 ประเทศบัลแกเรีย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1993 ประเทศอิตาลี โรแบร์โต บัจโจ ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1992 ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน ประเทศอิตาลี มิลาน
1991 ประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง ประเทศฝรั่งเศส มาร์แซย์
1990 ประเทศเยอรมนี โลทาร์ มัทเทอุส ประเทศอิตาลี อินเตอร์
1989 ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน ประเทศอิตาลี มิลาน
1988 ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน ประเทศอิตาลี มิลาน
1987 ประเทศเนเธอร์แลนด์ รืด คึลลิต ประเทศอิตาลี มิลาน
1986 สหภาพโซเวียต ประเทศยูเครน อิกอร์ เบลานอฟ ประเทศยูเครน ดีนาโม เคียฟ
1985 ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1984 ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1983 ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1982 ประเทศอิตาลี เปาโล รอสซี่ ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1981 ประเทศเยอรมนี คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1980 ประเทศเยอรมนี คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1979 ประเทศอังกฤษ เควิน คีแกน ประเทศเยอรมนี ฮัมบวร์ค
1978 ประเทศอังกฤษ เควิน คีแกน ประเทศเยอรมนี ฮัมบวร์ค
1977 ประเทศเดนมาร์ก อัลลัน ซิโมนเซ่น ประเทศเยอรมนี กลัทบัค
1976 ประเทศเยอรมนี ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1975 สหภาพโซเวียต ประเทศยูเครน โอเล็ก บลอคคิ่น ประเทศยูเครน ดีนาโม เคียฟ
1974 ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1973 ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1972 ประเทศเยอรมนี ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1971 ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์
1970 ประเทศเยอรมนี แกร์ด มึลเลอร์ ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
1969 ประเทศอิตาลี จานนี่ ริเวร่า ประเทศอิตาลี มิลาน
1968 ไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เบสต์ ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1967 ประเทศฮังการี ฟลอริยัน อัลเบิร์ต ประเทศฮังการี เฟเรนซ์วารอส
1966 ประเทศอังกฤษ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1965 ประเทศโปรตุเกส เอวแซบียู ประเทศโปรตุเกส ไบฟีกา
1964 ประเทศสกอตแลนด์ เดนิส ลอว์ ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
1963 สหภาพโซเวียต ประเทศรัสเซีย เลฟ ยาชิน ประเทศรัสเซีย ดีนาโม มอสโก
1962 ประเทศเช็กเกีย โยเซฟ มาโซปุสต์ ประเทศเช็กเกีย ดุคล่า ปราก
1961 ประเทศอาร์เจนตินา ประเทศอิตาลี โอมาร์ ซีโบรี ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
1960 ประเทศสเปน ลุยส์ ซัวเรซ มิรามอนเตส ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
1959 ประเทศอาร์เจนตินา โคลอมเบีย ประเทศสเปน อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
1958 ประเทศฝรั่งเศส แรมง กอปา ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
1957 ประเทศอาร์เจนตินา โคลอมเบีย ประเทศสเปน อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
1956 ประเทศอังกฤษ สเตนรี่ แมทธิว ประเทศอังกฤษ แบล็กพูล

แยกตามผู้เล่น

คริสเตียโน โรนัลโด และ ลิโอเนล เมสซิ คว้ารางวัลบาลงดอร์ 10 สมัยติดต่อกันระหว่างพวกเขาระหว่างปี 2008 ถึง 2017
มีแชล ปลาตีนี ได้รับรางวัลสามปีติดต่อกัน (1983–85)
โรนัลโด นาซารีอู เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ได้บาลงดอร์
โยฮัน ไกรฟฟ์ (ซ้าย) และ มาร์โก ฟัน บัสเติน จากเนเธอร์แลนด์ทั้งคู่ ชนะคนละ 3 ครั้ง
ผู้เล่น ชนะเลิศ ที่สอง ที่สาม
ประเทศอาร์เจนตินา ลิโอเนล เมสซิ[note 4] 8 (2009, 2010, 2011, 2012, 2015, 2019, 2021, 2023) 5 (2008, 2013, 2014, 2016, 2017) 1 (2007)
ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด[note 5] 5 (2008, 2013, 2014, 2016, 2017) 6 (2007, 2009, 2011, 2012, 2015, 2018) 1 (2019)
ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี 3 (1983, 1984, 1985) 2 (1977, 1980)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ไกรฟฟ์ 3 (1971, 1973, 1974) 1 (1975)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน 3 (1988, 1989, 1992)
ประเทศเยอรมนีตะวันตก ฟรันทซ์ เบ็คเคินเบาเออร์ 2 (1972, 1976) 2 (1974, 1975) 1 (1966)
ประเทศบราซิล โรนัลโด 2 (1997, 2002) 1 (1996) 1 (1998)
ประเทศสเปน อัลเฟรโด ดิ เอสเตฟาโน 2 (1957, 1959) 1 (1956)
ประเทศอังกฤษ เควิน คีแกน 2 (1978, 1979) 1 (1977)
ประเทศเยอรมนีตะวันตก คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ 2 (1980, 1981) 1 (1979)
ประเทศสเปน ลุยส์ ซัวเรซ มิรามอนเตส 1 (1960) 2 (1961, 1964) 1 (1965)
ประเทศโปรตุเกส เอวแซบียู 1 (1965) 2 (1962, 1966)
ประเทศอังกฤษ บ็อบบี ชาร์ลตัน 1 (1966) 2 (1967, 1968)
ประเทศฝรั่งเศส แรมง กอปา 1 (1958) 1 (1959) 2 (1956, 1957)
ประเทศเยอรมนีตะวันตก แกร์ท มึลเลอร์ 1 (1970) 1 (1972) 2 (1969, 1973)
ประเทศฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดาน 1 (1998) 1 (2000) 1 (1997)
ประเทศอิตาลี จานนี่ ริเวร่า 1 (1969) 1 (1963)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ รืด คึลลิต 1 (1987) 1 (1988)
ประเทศเยอรมนี โลทาร์ มัทเทอุส 1 (1990) 1 (1991)
ประเทศอิตาลี โรแบร์โต บัจโจ 1 (1993) 1 (1994)
ประเทศบัลแกเรีย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ 1 (1994) 1 (1992)
ประเทศยูเครน อันดรีย์ แชวแชนกอ 1 (2004) 2 (1999, 2000)
ไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เบสต์ 1 (1968) 1 (1971)
ประเทศเดนมาร์ก อัลลัน ซิโมนเซ่น 1 (1977) 1 (1983)
ประเทศบราซิล รอนัลดีนโย 1 (2005) 1 (2004)
ประเทศอังกฤษ สเตนรี่ แมทธิว 1 (1956)
ประเทศอิตาลี โอมาร์ ซิโบริ 1 (1961)
ประเทศเชโกสโลวาเกีย โยเซฟ มาโซปุสต์ 1 (1962)
สหภาพโซเวียต ประเทศรัสเซีย เลฟ ยาชิน 1 (1963)
ประเทศสกอตแลนด์ เดนิส ลอว์ 1 (1964)
ประเทศฮังการี ฟลอริยัน อัลเบิร์ต 1 (1967)
สหภาพโซเวียต ประเทศยูเครน โอเล็ก บลอคคิ่น 1 (1975)
ประเทศอิตาลี เปาโล รอสซี่ 1 (1982)
สหภาพโซเวียต ประเทศยูเครน อิกอร์ เบลานอฟ 1 (1986)
ประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง 1 (1991)
ไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ 1 (1995)
ประเทศเยอรมนี มัทธิอัส ซามเมอร์ 1 (1996)
ประเทศบราซิล รีวัลดู 1 (1999)
ประเทศโปรตุเกส ลูอิช ฟีกู 1 (2000)
ประเทศอังกฤษ ไมเคิล โอเวน 1 (2001)
ประเทศเช็กเกีย ปาเวล เนดเวต 1 (2003)
ประเทศอิตาลี ฟาบีโอ กันนาวาโร 1 (2006)
ประเทศบราซิล กาก้า 1 (2007)
ประเทศโครเอเชีย ลูกา มอดริช 1 (2018)
ประเทศฝรั่งเศส การีม แบนเซมา 1 (2022)
ประเทศสเปน โรดริ 1 (2024)

แยกตามประเทศ

ผู้เล่นยูเครนสามคนได้รับรางวัลบาลงดอร์: อันดรีย์ แชวแชนกอ, โอเล็ก บลอคคิ่น, และ อิกอร์ เบลานอฟ
มาร์โก ฟัน บัสเติน (ซ้าย) และ รืด คึลลิต ซึ่งทั้งสองเป็นเพื่อนร่วมทีมเอซี มิลาน และเนเธอร์แลนด์ คว้าแชมป์ติดต่อกันหลายปีตั้งแต่ปี 1987 ถึง 1989
ประเทศ ผู้เล่น ชนะ
 อาร์เจนตินา 1 8
 เยอรมนี 5 7
 เนเธอร์แลนด์ 3 7
 โปรตุเกส 3 7
 ฝรั่งเศส 4 6
 อิตาลี 5 5
 บราซิล 4 5
 อังกฤษ 4 5
 สเปน 3 4
 ยูเครน 3 3
 เช็กเกีย 2 2
 รัสเซีย 1 1
 บัลแกเรีย 1 1
ธงของประเทศโครเอเชีย โครเอเชีย 1 1
 เดนมาร์ก 1 1
 ฮังการี 1 1
ธงของประเทศไลบีเรีย ไลบีเรีย 1 1
 ไอร์แลนด์เหนือ 1 1
 สกอตแลนด์ 1 1

แยกตามสโมสร

สโมสร จำนวนรางวัล จำนวนนักเตะ รายชื่อนักเตะ
ประเทศสเปน เรอัลมาดริด
10
8
ประเทศอาร์เจนตินา โคลอมเบีย ประเทศสเปน อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน (1957, 1959)
ประเทศฝรั่งเศส แรมง กอปา (1958)
ประเทศโปรตุเกส ลูอิช ฟีกู (2000)
ประเทศบราซิล โรนัลโด (2002)
ประเทศอิตาลี ฟาบีโอ กันนาวาโร (2006)
ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด (2016, 2017)
ประเทศโครเอเชีย ลูคา มอดริช (2018)
ประเทศฝรั่งเศส การีม แบนเซมา (2022)
ประเทศสเปน บาร์เซโลนา
8
6
ประเทศสเปน ลุยส์ ซัวเรซ (1960)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ (1973, 1974)
ประเทศบัลแกเรีย ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ (1994)
ประเทศบราซิล รีวัลดู (1999)
ประเทศบราซิล รอนัลดีนโย (2005)
ประเทศอาร์เจนตินา เลียวเนล เมสซี (2009, 2019)
ประเทศอิตาลี ยูเวนตุส
8
6
ประเทศอาร์เจนตินา ประเทศอิตาลี โอมาร์ ซีโบรี (1961)
ประเทศอิตาลี เปาโล รอสซี่ (1982)
ประเทศฝรั่งเศส มีแชล ปลาตีนี (1983, 1984, 1985)
ประเทศอิตาลี โรแบร์โต บัจโจ (1993)
ประเทศฝรั่งเศส ซีเนดีน ซีดาน (1998)
ประเทศเช็กเกีย พาเวล เนดเวด (2003)
ประเทศอิตาลี มิลาน
8
6
ประเทศอิตาลี จานนี่ ริเวร่า (1969)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ รืด คึลลิต (1987)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาร์โก ฟัน บัสเติน (1988, 1989, 1992)
ไลบีเรีย จอร์จ เวอาห์ (1995)
ประเทศยูเครน อันดรีย์ เชฟเชนโค (2004)
ประเทศบราซิล กาก้า (2007)
ประเทศเยอรมนี บาเยิร์น
5
3
ประเทศเยอรมนี เกิร์ด มุลเลอร์ (1970)
ประเทศเยอรมนี ฟรันซ์ เบคเคนเบาเออร์ (1972, 1976)
ประเทศเยอรมนี คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิกเก้ (1980, 1981)
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
4
4
ประเทศสกอตแลนด์ เดนิส ลอว์ (1964)
ประเทศอังกฤษ บ๊อบบี้ ชาร์ลตั้น (1966)
ไอร์แลนด์เหนือ จอร์จ เบสต์ (1968)
ประเทศโปรตุเกส คริสเตียโน โรนัลโด (2008)
ประเทศยูเครน ดีนาโม เคียฟ
2
2
ประเทศยูเครน โอเล็ก บลอคคิ่น (1975)
ประเทศยูเครน อิกอร์ เบลานอฟ (1986)
ประเทศอิตาลี อินเตอร์
2
2
ประเทศเยอรมนี โลทาร์ มัทเทอุส (1990)
ประเทศบราซิล โรนัลโด (1997)
ประเทศเยอรมนี ฮัมบวร์ค
2
1
ประเทศอังกฤษ เควิน คีแกน (1978, 1979)
ประเทศอังกฤษ แบล็กพูล
1
1
ประเทศอังกฤษ สแตนลี่ย์ แมทธิวส์ (1956)
ประเทศเช็กเกีย ดุคล่า ปราก
1
1
ประเทศเช็กเกีย โยเซฟ มาโซปุสต์ (1962)
ประเทศรัสเซีย ดีนาโม มอสโก
1
1
ประเทศรัสเซีย เลฟ ยาชิน (1963)
ประเทศโปรตุเกส ไบฟีกา
1
1
ประเทศโปรตุเกส เอวแซบียู (1965)
ประเทศฮังการี เฟเรนซ์วารอส
1
1
ประเทศฮังการี ฟลอริยัน อัลเบิร์ต (1967)
ประเทศเนเธอร์แลนด์ อายักซ์
1
1
ประเทศเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ (1971)
ประเทศเยอรมนี กลัทบัค
1
1
ประเทศเดนมาร์ก อัลลัน ซิโมนเซ่น (1977)
ประเทศฝรั่งเศส มาร์แซย์
1
1
ประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-ปีแยร์ ปาแป็ง (1991)
ประเทศเยอรมนี ดอร์ทมุนท์
1
1
ประเทศเยอรมนี มัทธิอัส ซามเมอร์ (1996)
ประเทศอังกฤษ ลิเวอร์พูล
1
1
ประเทศอังกฤษ ไมเคิล โอเวน (2001)
ประเทศฝรั่งเศส ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง
1
1
ประเทศอาร์เจนตินา เลียวเนล เมสซี (2021)
สหรัฐอเมริกา อินเตอร์ไมแอมี
1
1
ประเทศอาร์เจนตินา เลียวเนล เมสซี (2023)
ประเทศอังกฤษ แมนเชสเตอร์ซิตี
1
1
ประเทศสเปน โรดริ (2024)

ดูเพิ่ม

หมายเหตุ

  1. Neymar was signed by Paris Saint-Germain from บาร์เซโลนา midway through 2017.
  2. Cristiano Ronaldo was signed by Juventus from เรอัลมาดริด midway through 2018.
  3. Messi was signed by Paris Saint-Germain from บาร์เซโลนา midway through 2021.
  4. Messi won four FIFA Ballons d'Or (2010, 2011, 2012, 2015) and twice finished in second place (2013, 2014).[11][12]
  5. Cristiano Ronaldo won two FIFA Ballons d'Or (2013, 2014) and finished in second place three times (2011, 2012, 2015).[11][12]

อ้างอิง

  1. "Ballon d'Or: Players who have received the most nominations". 90min. 15 November 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 November 2021. สืบค้นเมื่อ 29 November 2021.
  2. "Ballon d'Or, FIFA The Best awards: what's the difference between them?". Diario AS (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2023-02-24. สืบค้นเมื่อ 2023-05-27. Created by France Football in 1956, the Ballon d’Or is generally regarded as soccer’s most prestigious award.
  3. Why the Ballon d'Or is a waste of time
  4. Why the Ballon d’Or has become a meaningless accolade
  5. Why the Ballon d’Or is stupid and quite possibly evil
  6. Weekly Why: FIFA's Ballon d'Or and the Absurdity of Glorifying Individual Awards
  7. Emmanuel Petit: Some players would take ‘stupid’ Ballon d’Or over trophies
  8. The Ballon d'Or Is Stupid, But Mohamed Salah Deserves To Win It Anyway
  9. Reidy, Paul (17 October 2022). "Ballon d'Or, FIFA The Best awards: what's the difference between them?". AS.com. สืบค้นเมื่อ 10 November 2022.
  10. 10.0 10.1 "THE BALLON D'OR® WILL NOT BE AWARDED IN 2020". L'Equipe. 20 July 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 20 July 2020. สืบค้นเมื่อ 20 July 2020. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Not2020" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  11. 11.0 11.1 "La liste complête des lauréats du Ballon d'or, de 1956 à nos jours". France Football. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 6 January 2016. สืบค้นเมื่อ 14 January 2016.
  12. 12.0 12.1 "FIFA Awards – World Player of the Year". Rec.Sport.Soccer Statistics Foundation. 12 February 2015. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 October 2018. สืบค้นเมื่อ 14 January 2016.